เทวดามีโอกาศสร้างบุญมั้ยครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ฮาทณัฐพล, 18 กันยายน 2011.

  1. ฮาทณัฐพล

    ฮาทณัฐพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +253
    พอคนตายนึกถึงกรรมดีได้ไปเกิดเป็นเทวดาแล้วพอหมดบุญต้องลงมาชดใช้ในนรกแล้วตอนเป็นเทวดาเขาทำบุญต่ออายุไรงี้ได้มั้ยครับ
    แล้วทำด้วยวิธีใดครับขอบคุณครับ:cool:
     
  2. ขอนไม้แห้ง

    ขอนไม้แห้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +1,618
    เทวดามีโอกาสครับแต่น้อยองค์จะรู้สึกตัว เหมือนคนกำลังมีความสุข อยู่ในคลับในบาร์
    ใครบ้างจะคิดสร้างความดี ขนาดคนเราแท้ๆ รู้ว่าชีวิตไม่ได้ยั่งยืนอะไร ยังไม่คิดสร้างความดีอะไร


    สมัยหนึ่งพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราท่านประทับอยู่ ณ ปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ภายใต้ต้นปาริกชาติในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทรงแสดงพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์แก่เทพยดาทั้งหลายอันมีพระนางสิริมหามายาพระพุทธมารดาเป็นประธาน เพื่อให้เกิดการบรรลุมรรคผลนิพพาน ในกาลนั้นมีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อว่า สุปติฏฐิตเทพบุตร เป็นผู้มีอานุภาพเกรียงไกรได้เสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาช้านานแล้ว เทพบุตรองค์ถึงกาลที่จะต้องไปเสวยผลกรรมในนรกเป็นเวลาหนึ่งแสนปี จากนั้นก็จะต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอีกเจ็ดจำพวก จำพวกละ ๕๐๐ ชาติ แต่มีเทพบุตรอีกองค์หนึ่งชื่อว่า อากาศจรณี ซึ่งเป็นสหายเก่ากับสุปติฏฐิตเทพบุตร ซึ่งทั้งสองเคยร่วมรักษาศีลภาวนาภายในอุโบสถเดียวกันในชาติปางก่อน เมื่ออากาศจรณีเทพบุตรทราบว่าสหายของตนจะต้องจุติจากสวรรค์ลงสู่นรกโดยกำหนดรู้ด้วยเหตุ ๕ ประการคือ ๑.ดอกไม้ทิพย์เหี่ยวแห้งโรยรา ๒.ร่างกายเศร้าหมองไม่ผ่องใส ๓.ทิพยภูษาเศร้าหมองไม่ผ่องใส ๔.อาสนะแข็งกระด้าง และ ๕.ผ้าผ่อนเร่าร้อนกระวนกระวาย

    เมื่อทราบด้วยเหตุเช่นนี้แล้วจึงมีความห่วงใยในสหายเก่า อากาศจรณีเทพบุตรจึงนำความไปแจ้งให้สหายทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะบังเกิดขึ้น สุปติฏฐิตเทพบุตรเมื่อทราบข่าวแล้วก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง จึงปรึกษากันว่า
    ”เราจะต้องตกนรกในอีก ๗ วันข้างหน้านี้เพราะบาปกรรมที่เราทำขึ้น เราจะทำอย่างไรดี”
    อากาศจรณีเทพบุตรจึงแนะนำว่าเราควรจะไปเข้าเฝ้าจอมอมรินทร์เทพ ขณะนี้พระองค์ทรงประทับอยู่บนดาวดึงส์ สุปติฏฐิตเทพบุตรได้ทราบเช่นนั้นแล้วจึงรีบไปเฝ้าจอมอมรินทร์เทพ ครั้นถวายบังคมเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็กราบทูลถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นแก่ตนให้ทรงทราบ จอมอมรินทร์เทพจึงตรัสว่า

    ”อันความตาย แม้ผู้เป็นใหญ่ในสรวงสวรรค์ก็ไม่อาจห้ามได้ ทั้งมนุษย์และเทพยดาก็ย่อมต้องตายด้วยกันทั้งนั้น ต่างกันเพียงแต่ช้าหรือเร็ว ทางเดียวที่มีอยู่คือท่านต้องไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อขอคำแนะนำในเรื่องนี้”

    เมี่อได้ฟังเช่นนั้นแล้วสุปติฏฐิตเทพบุตรก็จัดแจงเครื่องสักการบูชาเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ ครั้นถวายอภิวาทแล้วก็กราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ จอมอมรินทร์ทรงกราบทูลขอให้พระพุทธองค์ทรงแสดงถึงบุรพกรรมของสุปติฏฐิตเทพบุตร พระพุทธองค์จึงตรัสว่า

    ” เมื่อครั้นสุปติฏฐิตเทพบุตรเกิดเป็นมนุษย์เป็นผู้มีความประมาทชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มีจิตใจแข็งกระด้างไม่นับถือมารดาบิดา ไม่เลื่อมใสเคารพพระสมณะ บริภาษด่าทอพระภิกษุสงฆ์ที่ไปมาหาสู่ เมื่อเห็นก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น ไม่ลุกขึ้นนิมนต์ให้นั่งบนอาสนะ ด้วยผลกรรมเหล่านี้จึงทำให้สุปติฏฐิตเทพบุตรจักต้องไปเสวยผลกรรมในนรกเป็นเวลา ๑๐๐,๐๐๐ ปี ครั้นพ้นจากนรกแล้วยังต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก ๗ จำพวก คือ แร้ง รุ้ง เต่า หมู สุนัข เป็นคนหูหนวก และตาบอด อีกอย่างละ ๕๐๐ ชาติ ขอมหาบพิตรจงทราบด้วยประการฉะนี้”
    เมื่อจอมอมรินทร์เทพได้ทราบเช่นนั้นก็เกิดความสงสารสุปติฏฐิตเทพบุตรเป็นอย่างยิ่ง จึงทูลถามพระพุทธองค์ว่า

    ”ข้าแด่พระศาสดา อันการกระทำของสุปติฏฐิตเทพบุตรนั้นก็นับว่าอุกฤษฏ์อยู่ ขอพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาเพื่อช่วยชีวิตของสุปติฏฐิตเทพบุตรไว้มิให้ต้องตายภายใน ๗ วันนี้ด้วยเถิด”

    พระพุทธองค์จึงทรงแสดงอุณหิสสะวิชะยะคาถา อันมีใจความดังนี้

    อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อะนุตตะโร
    สัพพะสัตตะหิตัตถายะ ตัง ตวัง คัณหาหิ เทวะเต
    ดูก่อนเทวดา , ธรรมะอันประเสริฐซึ่งเป็นอุณหิสสวิชัย หรือเป็นผ้าประเจียดนั้น
    มีอยู่ในโลกนี้ คือประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งปวง ท่านจงถือเอาซึ่งธรรมะนั้นเถิ

    ปะริวัชเช ราชะทัณเฑ อะมะมุสเสหิ ปาวะเก
    พยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละมะระเณนะ วา
    ก็จะพ้นจากราชทัณฑ์พึงพ้น จากราชทัณฑ์พึงพ้นจากการเบียดเบียนของมนุษย์ พ้นจากไฟ
    พ้นจากเสือ พ้นจากนาค พ้นจากยาพิษ พ้นจากภูต พ้นจากความตาย อันไม่ประกอบด้วยกาล

    สัพพัสมา มะระณา มุตโต ฐะเปตวา กาละมาริตัง
    จะเป็นผู้พ้นจากความตายทั้งปวง เว้นแต่ความตายตามกาล หรือสมควรแก่กาล

    ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
    ด้วยอานุภาพแห่งธรรมะนั้นนั่นแหละ เทวดา จงเป็นผู้มีความสุขทุกเมื่อ

    สุทธะสีลัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร
    ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
    ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง ธาระณัง วาจะนัง คะรุง
    ปะเรสัง เทสะนัง สุตตะวา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ
    เพราะได้ฟังธรรมแล้ว เขียนไว้ คิดไว้ บูชาอยู่ ทรงจำไว้ บอกกล่าว
    แก่กันและกันและมีความเคารพหนักแน่นในธรรมนั้น แล้วอายุของเขาย่อมเจริญดั่งนี้

    เมื่อจบพระธรรมเทศนาแล้ว เทวดาทั้งหลายอันมีองค์อมรินทราธิราชเป็นประธาน ต่างซาบซึ้งในในพระสัทธรรมบรรลุธรรมพิเศษคือ มรรคผลเป็นอันมาก ส่วนสุปติฏจิตเทพบุตรก็มีใจน้อมนับถือในพระพุทธเจ้า เลื่อมใสในธรรมของพระองค์ และจะมีอายุยืนยาวสืบต่อไปจนถึงสมัยที่พระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไปลงมาตรัสรู้ จึงจะมาจุติลงสู่โลกมนุษย์และจะได้เป็นพระอรหันต์ ด้วยอานิสงส์แห่งการฟังอุณหิสสะวิชะยะคาถา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2011
  3. noawarat

    noawarat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +38
    ยังมีข้อสงสัยอยู่ข้อหนึ่ง แล้วผลกรรมที่ท่านเทวดาองค์นี้ได้กระทำนั้นท่านไม่ต้องรับกรรมหรือค่ะ แล้วจากคำสอนขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้าที่ว่า กรรมใดใครก่อกรรมนั้นตกเป็นของผู้นั้นอย่างแน่นอน ไม่ใช่ไม่เชื่อนะค่ะ แต่สงสัย โดยส่วนตัวแล้วดิฉันยังยึด พระพุทธ พระธรรมคำสั่งสอน พระสงฆ์ เป็นสรณะอย่างไม่มีอื่นใดเข้ามาแทรกแซงได้ ขอผู้รุู้ช่วยแจงรายละเอียดอีกนิดได้ไหมค่ะ
     
  4. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    หมดบุญเมื่อไหล่ก็ต้องลงครับหรือถ้าฉลาดก็เจริญสติมากๆ เป็นพระอริยเจ้าปิดกลั้น(อบายภูมิ) ก็ไม่ต้องลงนรก
     
  5. ขอนไม้แห้ง

    ขอนไม้แห้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อานุภาพแห่งธรรม คือรักษาศิล 5 ศิล 8 มีพรหมวิหารธรรม
    เจริญสติปัฎฐาน 4
     
  6. ฮาทณัฐพล

    ฮาทณัฐพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +253
    ขอบคุณครับแล้วถ้าทำบุญกับพระสงฆ์ในยุคสมัยนี้ได้มั้ยครับ
     
  7. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เท่าที่อ่านมานะครับ คนที่ตายแล้วบุญเยอะก็ตรงไปสวรรค์เลย ส่วนคนที่บุญ
    กับบาปมากก็ต้องเลือกว่าใช้บุญก่อนหรือใช้กรรมก่อน ส่วนที่นึกถึงบุญไม่ได้
    เลยก็ลงนรกประมาณนี้ครับ ส่วนการทำบุญของเทวดาก็เช่นการอนุโมทนาบุญ
    การฟังธรรม
     
  8. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ปัจจุบัน เทวดาอยากสั่งสมบุญก็ไปมนัสการพระจุฬามณี อายุทิพย์ก็จะยืนยาวมากขึ้น
     
  9. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ท่าน สุปติฏฐิตเทพบุตร พอฟังพระพุทธเจ้าเทศน์จบ ท่านสุปติฏฐิตเทพบุตรก็ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน(ในพระไตรปิฎกกล้าวไว้แบบนี้) ซึ่งปิดอบายภูมิทั้ง ๔ คือไม่ต้องไปเกิดในทุคติภูมิทั้ง ๔ นะครับ
    แต่เศษกรรมยังมีอยู่ ท่าน
    สุปติฏฐิตเทพบุตรจะได้เสวยกรรมในชาติที่เกิดในยุคของพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป(ผลกรรมจะเป็นอย่างไร ผมเองก็ไม่อาจรู้ได้) นะครับ
     
  10. noawarat

    noawarat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอคุณมากสำหรับรายละเอียดที่พี่ๆได้ชี้แจงอธิบาย ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ (สงสัยมานานแล้วค่ะ)
     
  11. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    ผมขออนุโมทนาสาธุ ในบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งปวงด้วยครับ
     
  12. Scorpius

    Scorpius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +647
    เทวดามีโอกาศสร้างบุญแน่นอนครับ

    ยกตัวอย่างได้หลายเรื่องในพระไตรปิฏก ที่เราจะพบว่า มีหลายครั้งหลายครา ที่เทวดาแปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อใส่บาตรพระที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ (อันเป็นบุญใหญ่) เป็นเหตุให้กำลังบุญเพิ่มมากขึ้น แต่ขออภัยที่จำแหล่งอ้างอิงไม่ได้แล้ว เพียงแตจำเรื่องคร่าวๆได้เพียงเท่านี้

    นอกจากนั้น ยังมีการฟังธรรมตามกาล ยกตัวอย่างเช่น ในสมัยพุทธกาลที่ำพระพุทธองค์ทรงเสด็จขึ้นไปโปรดพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ครานั้น องค์พระสิริมหามายาเทวบุตรพุทธมารดา ได้ฟังธรรมจนดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาปัตติผลในที่สุด ประกอบด้วยนัย ๑ พันบริบูรณ์ ส่วนเทพนอกนั้นอีกจำนวนมาก ก็ได้บรรลุมรรคผลตามสมควรแก่อุปนิสัยแห่งตน

    ส่วนการรับผลกรรมของเทวดา ทางกายคิดว่าไม่มี เพราะมีสภาพเป็นทิพย์ มีหน้าที่เสวยสุขเพียงอย่างเดียว ส่วนทางใจยังคงมีอยู่ เนื่องจากเมื่อศึกษาดูแล้ว การจุติลงจากภูมิเทวดามีหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้น คือ การอิจฉาตาร้อนจนจุติลงจากภูมิเทวดา ซึ่งเป็นเหตุที่เกิดทางใจ

    และหากยังไม่บรรลุพระโสดาบันเพียงใด ยังมีโอกาสลงอบายภูมิได้เสมอครับ.
     
  13. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    ขออนุโมทน สาธุ
    ในบุญกุศลทุกอย่างด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  14. ฮาทณัฐพล

    ฮาทณัฐพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +253
    ขอบคุณทุกคนคับผม:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...