วีรบุรุษแห่งอุตรดิตถ์ "พระยาพิชัยดาบหัก" เรื่องเท็จ-จริง-เติม?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 ธันวาคม 2009.

  1. cmaiya

    cmaiya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอกราบคาระวะท่่านพระยาพิชัยดาบหักและเจ้าพระยาพิชัยราชาพี่น้องชาวอุตรดิตย์และชาวไทยจีนด้วยความเคารพ
    ณวันเสาร์เดือนยี่ขึ้นสี่ค่ำปีจออัฐศก ขณะเมื่อกรุงเทพ มหานครยังมิได้เสียนั้น พระเจ้าอยู่หัวอันมีอภินิหารนับในเนื้อ หน่อพุทธางกูรเจ้า ตรัสทราบพระญาณว่า กรุงศรีอยุธยาจะ เป็นอันตราย แต่เหตุที่อธิบดีเมืองและราษฎรมิเป็นธรรม จึงอุตสาหะด้วยกำลังกรุณาแก่สมณพราหมณาจารย์และบวรพุทธ ศาสนาจะเสื่อมศูนย์ จงชุมนุมพรรคพวกพลทหารจีนไทยประมาณ พันหนึ่ง สรรพด้วยเครื่องศาสตราวุธประกอบด้วยทหารผู้ใหญ่นั้น พระเชียงเงิน พรหมเสนา ขุนอภัยภักดี หลวงพิชัยอาสา หมื่น ราชเสน่หา หลวงราชเสน่หา ยกออกไปตั้ง ณวัดพิชัย อันเป็น มงคลสถาน
    ครั้นรุ่งขึ้น ณ วันจันทร์ เดือนยี่ขึ้นสิบสามค่ำ ให้ยกพลทหาร เข้าไปในป่าหยุดประทับที่สำนักหนองจึงสั่งให้พลทหารตั้งปืนใหญ่ตับใหญ่ตับน้อยดาไว้ ต่างค่าย แล้วให้คนหาบสะเบียง ครอบครัวไปก่อน แต่พระองค์กับทหาร ประมาณร้อยเศษ คอยรับพะม่า ครั้นเพลาบ่ายโมงเศศ พะม่ายก กองทัพมาถึง จึงเสด็จนำหน้าทหารด้วยหลวงชำนาญไพรสณฑ์ พระเชียงเงิน นายบุญมี นายทองดีทหาร นายแสงทหาร ออกไป รับล่อพะม่านอกปืนใหญ่น้อยซึ่งดาไว้ประมาณหกเส้นเจ็ดเส้น พะม่า ยกทัพเรียงเรียบมาจำเพาะในพงแขม ครั้นเข้ามาใกล้ได้ทีแล้ว จึงให้ยิงปืนเป็นอันหนึ่งอันเดียว ถูกพะม่าล้มตายเป็นอันมาก
    ครั้นณวันฯเพลาประมาณทุ่มเศษ อ้ายเหล่าร้ายยกพลให้ ทหารลอบเข้ามาตั้งค่ายล้อมได้ สองด้านแล้ว โห่ร้องยิงปืนใหญ่ น้อยระดมเข้ามา จึงตรัสให้ดับแสงเพลิงเสีย จัดทหารประจำ หนักที่สั่งบกันไว้แล้ว เสด็จกับด้วยทหารจีนทหารไทย ทหารจีน ทหารไทยถือปืนคาบศิลา หลวงชำนาญไพรสณฑ์ นายทองดีทหาร หลวงพล หลวงเชียงเงินท้ายน้ำ หลวงพรหมเสนา นายบุญมี นายแสงทหาร นายศรีสงคราม นายนากทหาร พะทำมะรงอิ่ม ทหาร จีน หลวงพิพิธ หลวงพิชัย ขุนจ่าเมืองเสือร้าย หมื่นท่อง หลวงพรหม ถือดาพง้าว เสด็จออกเที่ยวตรวจตรารอบค่ายดูท่าทาง ข้าศึกจะเข้ามาแห่งใดตำบลใด และอ้ายเหล้าร้ายชื่อขุนจ่าเมือง ด้วงกับทหารประมาณสามสิบคน ล้อมใต้ตะพานวัดเนินเข้ามา ใกล้ค่ายหลวงประมาณห้าวาหกวา จึงสั่งให้วางปืนพร้อมกัน ถูกขุนจ่าเมืองด้วงกับทหารทั้งปวงซึ่งเดิรตามกันนั้นตกตะพานลง พร้อมกันตายเป็นอันมาก จึงตรัสให้ทหารจีนเข้าตะลุมบอน ฟันแทงข้าศึก หักค่ายอ้ายเหล่าร้ายล้มตายแตกหนีไป หมู่ ทหารไล่ติดตามไปทางประมาณ ๕๐ เส้น ๖๐ เส้น จึงให้ลั่น ฆ้องชัยสัญญษ เรียกพลทหารเข้าค่ายให้พร้อม และหมู่ทหาร ทั้งปวงเข้าในค่ายจุดเพลิงเผาขึ้นแห่งหนึ่ง เก็บเอาเครื่องศาสตราวุธ ธั้ญญาหารครอบครัวเป็นอันมาก ตรัสให้ ยับยั้งอยู่บำรุงทแกล้วทหารให้มีกำลัง ณ เมืองระยองนั้นช้านาน ประมาณ ๗ วัน ๘ วัน
    ครั้นณวันเดือนสี่แรมสิบสี่ค่ำศก ...พระยาพิชัย(หลวงพิชัยเลืื่อนตำแหน่ง)และนายบุญมีไป ถึงปากน้ำพุทธะมาศ จึงนำเอาศุภอักษร และฉลองพระองค์ อย่างฝรั่งขึ้นไปพระราชทาน และเจรจาตามศุภอักษรนั้น พระยา ราชาเศรษฐีก็มีความยินดี ว่าฤดูนี้จะเข้าไปขัดด้วยลมจะมิทัน ต่อ เดือนแปดเดือนเาเดือนสิบ จึงจะยกพลทหารเข้าไปช่วยราชการ ครั้นณวันอาทิตย์เดือนห้าแรมสิบสี่ค่ำศก. ได้ศุกอักษรตอบ และ เครื่องราชบรรณาการมาถึงปากน้ำระยองณวัน... นายบุญมีจึงนำ เอาองไดเรืองทหารจีน เครื่องราชบรรณษการขึ้นทูลถวายณค่าย ท่าประดู่
    ครั้นถึงณเดือนสิบเอ็ดปีกุนนพศกนั้น จึงเสด็จยาตราพล ทัพเรือร้อยลำเศษ พลทหารประมาณห้าพันยกจากเมืองจันทบุรี มาทางทะเลได้ทราบข่าวว่า พระยาอนุราฐเจ้าเมืองชลบุรี กับหลวง พล ขุนอินเชียง มิได้ละพยสอันร้าย กลับกระทำโจรกรรมออกตีชิง สำเภาและเรือลูกค้าวาณิชเหมือนแต่ก่อน มิได้ตั้งอยู่ในธรรโมวาท ซี่งมีพระประสาทสั่งสอนนั้น จึงให้หยุดทัพเรือเข้าประทับณเมือง ชลบุรี แล้วให้หาพระยาอนุราฐลงมาเข้าเฝ้าณเรือพระที่นั่ง ตรัสถามก็ รับเป็นาตย์ จึงสั่งให้ขุนนางนายทหารไทยจีนจับพระยาอนุราฐประหาร ชีวิตเสีย และพระยาอนุราฐคงกระพันในตัว แทงฟันหาเข้าไม่ เพราะด้วยสะดือเป็นทองแดง จังให้พันธนาการแล้วเอาลงถ่วงน้ำ เสียในทะเลก็ถึงแก่กรรม แล้วให้จับหลวงพลและขุนอิลเชียง ซึ่ง ร่วมคิดกระทำโจรกรรมด้วยกันนั้นประหารชีวิตเสีย จึงตั้งผู้มีความ ชอบเป็นเจ้าเมืองกรมการขึ้นใหม่ให้อยู่รักษาเมืองขลบุรีแล้วก็เสด็จ ยกพลทัพเรือเข้ามาทางปากน้ำเมืองสมุทรปราการ ถึงเมืองธนบุรี
    ฝ่ายเจ้าทองอินซึ่งพะม่าตั้งไว้ให้รักษาเมืองธนบุรีนั้น ก็พา พวกพลออกต่อรบประมาณครู่หนึ่งก็แตกพ่าย พลข้าหลวงจับตัว ได้ก็ฆ่าเสีย และกรมการทั้งนั้นก็หนีไปในเพลากลางคืน ขึ้นไป ณ ค่ายโพธิ์สามต้นแจ้งความแก่สุกี้พระนายกอง สุกี้พระนายกอง จึงจัดพลทหารไทยมอญให้ม่องญาเป็นนายทัพ ยกทัพเรือมาตั้งรับ อยู่ณพะเนียด ในกลางคืนวันนั้นเรือรบพระยากระลาโหม ซึ่ง บรรทุกกระสุนดินดำมานั้นล่มลง จึงให้ลงพระอาชญาเฆี่ยนพระยา กระลาโหม และขุนนางฝ่ายทหารอีกหลายคน แล้วตรัสสั่งให้ เร่งรีบยกทัพเรือขึ้นไปณกรุงในเพลากลางคืน และม่องญานายทัพ โพธิ์สามต้นนั้นรู้ข่าวว่าทัพหลวงยกขึ้นมาถึงกรุงเทพฯแล้ว ก็ เกรงกลัวพระเดชานุภาพมิได้ตั้งอยู่สู้รบก็ถอยหนีไป ณ ค่ายโพธิ์ สามต้น ครั้นรุ่งเช้าเป็นวันเดือนสิบสองข้างขึ้นเพลาสามโมงเศษ ให้พลทหารยกเข้าตีค่ายโพธิ์สามต้นฟากตะวันออกแตก จึงตรัสสั่ง ให้ทำบันไดจะพาดเข้าปีนค่ายใหญ่ฟากตะวันตก ซึ่งมีกำแพงที่ พระนายกองอยู่นั้น ให้ กองพระยาพิพิธ พระยาพิชัย ทัพจีนเป็น กองหน้ายกเข้าตั้งค่ายประชิดณวัดกลาง ห่างค่ายใหญ่ประมาณเจ็ด เส้นแปดเส้น ครั้นรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง จึงดำรัสให้ทัพจีน กองหน้ายกเข้า ตีค่ายพระนายกอง พระนายกองคุมพลทหารออกต่อรบ รบกันตั้ง แต่เช้าจนเพลาเทีค่ยง พวกพระนายกองพ่ายหนีเข้าค่าย ทัพจีนไล่ ติดตามเข้าไปในค่าย พระนายกองสู้รบอยู่จนตัวตายในค่ายนั้น พวกพลทัพจีนไล่ฟันพลทหารพระนายกองล้มตายในค่ายนั้นเป็นอัน
    ขอกราบคาระวะ ท่านพิชัยดาบหัก(จ้อย=ทองดี) เมืองพิชัย ท่านหลวงพิชัย (เจ้าพระยาพิชัยราชา) รวมทั้งกองกำลังอาสาชาวไทย= จีน ขุนพลผู้กล้าทุกผู้ทุกนามที่อาสามากอบกู้บ้านเมืองให้กับพวกเราทุกคนและนอกจากนี้ทั้งสองท่านยังเป็นด่านหน้าในป้องกันทัพจากพม่าในแดนหน้าบ้านใกล้เรือนเคียงร่วมฝ่าฟัน ขออุทิศให้ดวงจิตวิญญาณทั้งสอง อยุ่ในภพที่ดงาม ชาติหน้าฉันใดเกิดมาขอให้พบแต่วามสงบร่มเย้นตราบชั่วกาลปรศาล
    ถึงแม้จะไม่มีอนุเสารีย์ให้เคารพ แต่วีรกรรมของทุกท่านจะสถิตย์ใใจนิรัมทร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กันยายน 2011
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,670
    ค่าพลัง:
    +51,947
    *** พระยาพิชัยดาบหัก ****

    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    -
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85 KB
      เปิดดู:
      645
  3. ton_cavalry

    ton_cavalry สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +1
    วิภา จิรภาไพศาล คุณกำลังสบประมาทท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหักอยู่นะคับ ผมเกิดและโตในจังอุตรดิตถ์มา ท่านพ่อเป็นที่เคารพสักการะต่อคนอุตรดิตถ์ คุณมาตั้งกระทู้แบบนี้ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมอะ ที่จิงคุณไม่น่าคิดที่จะทำหัวข้อนี้เลยด้วยซ้ำนะคับ ขอให้พิจารณาด้วยนะคับ ผมเเละลูกหลานท่านพ่อไม่พอใจนะที่คุณมาตั้งหัวข้อแบบนี้ อย่าทำอะไรที่ทำให้คุณเดือดร้อนเลยคับ
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,670
    ค่าพลัง:
    +51,947
    คือ ผู้มีสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. piak_piak

    piak_piak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +6,484
    หลวงปู่ใหญ่ไปมาไร้ร่องลอย เหนือกาลเวลาว่างั้น สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2011
  6. cmaiya

    cmaiya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ศึกกอบกู้เอกราชและปลดปล่อยที่ค่ายโพธิ์สามต้น
    กองกำลังเจ้าตาก ซึ่งตั้งอยู่ ณ จันทบุรี ทราบว่าเสียแก่พะม่าแล้ว สมณ พราหมณาจารย์ และราชตระกูลสุริยวงศา เสนาอำมาตย์ปรชขา ราษฎรถึงซึ่งพินาศฉิบหาย พะม่ากวาดเอาไปเป็นอันมาก ที่เหลือ อยู่ก็ได้รับความทุกข์ลำบากอดอาหารล้มตาย และฆ่าฟันกันทุกแห่ง ทุกตำบล เพราะหาพระเจ้าแผ่นดินมิได้ พะม่าตั้งพระนายกอง ไว้รั้งกรุงเทพมหานคร บรรดาหัวเมืองทั้งหวงก็คิดกำเริบก่อเกิด อหังการ ตั้งตัวเป็นเจ้าขึ้นเป็นหลายเมือง แผ่นดินแบ่งออก เป็นหลายส่วน เกิดจลาจลรบพุ่งกันเป็นหลายพวก และสมณ พราหมณาไพร่ฟ้าประชากร ได้ความเดือดร้อนหาที่พึ่งมิได้ ทรง พระดำริจะปราบยุคเข็ญซึ่งเป็นจลาจลให้สงบราบคาบ และจะก่อ กู้กรุงเทพมหานครให้คืนคงเป็นราชธานี มีพระราชอาณาเขตต์ ปกแผ่ไปเป็นแผ่นดินเดียว ทั่วจังหวัดแว่นแคว้นแดนสยามประเทศ เหมือนดังเก่า จึงดำรัสสั่งนายทัพนายกองทั้งปวง ให้ตรวจ เตรียมเรือรบครบด้วยพลโยธาสรรพาวุธปืนใหญ่น้อย และเรือ ลำเลียงสะเบียงอาหารให้พร้อมเสร็จ
    ครั้นถึงณเดือนสิบเอ็ดปีกุนนพศกนั้น จึงเสด็จยาตราพล ทัพเรือร้อยลำเศษ พลทหารประมาณห้าพันยกจากเมืองจันทบุรี ยกพลทัพเรือเข้ามาทางปากน้ำเมืองสมุทรปราการ ถึงเมืองธนบุรี ฝ่ายเจ้าทองอินซึ่งพะม่าตั้งไว้ให้รักษาเมืองธนบุรีนั้น ก็พา พวกพลออกต่อรบประมาณครู่หนึ่งก็แตกพ่าย พลข้าหลวงจับตัว ได้ก็ฆ่าเสีย และกรมการทั้งนั้นก็หนีไปในเพลากลางคืน ขึ้นไป ณ ค่ายโพธิ์สามต้นแจ้งความแก่สุกี้พระนายกอง สุกี้พระนายกอง จึงจัดพลทหารไทยมอญให้ม่องญาเป็นนายทัพ ยกทัพเรือมาตั้งรับ อยู่ณพะเนียด ในกลางคืนวันนั้นเรือรบพระยากระลาโหม ซึ่ง บรรทุกกระสุนดินดำมานั้นล่มลง จึงให้ลงพระอาชญาเฆี่ยนพระยา กระลาโหม และขุนนางฝ่ายทหารอีกหลายคน แล้วตรัสสั่งให้ เร่งรีบยกทัพเรือขึ้นไปณกรุงในเพลากลางคืน และม่องญานายทัพ โพธิ์สามต้นนั้นรู้ข่าวว่าทัพหลวงยกขึ้นมาถึงกรุงเทพฯแล้ว ก็ เกรงกลัวพระเดชานุภาพมิได้ตั้งอยู่สู้รบก็ถอยหนีไป ณ ค่ายโพธิ์ สามต้น
    ครั้นรุ่งเช้าเป็นวันเดือนสิบสองข้างขึ้นเพลาสามโมงเศษ ให้พลทหารยกเข้าตีค่ายโพธิ์สามต้นฟากตะวันออกแตก จึงตรัสสั่ง ให้ทำบันไดจะพาดเข้าปีน
    ค่ายใหญ่ฟากตะวันตก ซึ่งมีกำแพงที่ พระนายกองอยู่นั้น ให้กองพระยาพิพิธ พระยาพิชัย (หลวงพิชัยอาสาหรือหลวงพิชัยราชา) ทัพจีนเป็น กองหน้ายกเข้าตั้งค่ายประชิดณวัดกลาง ห่างค่ายใหญ่ประมาณเจ็ด เส้นแปดเส้น
    ครั้นรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง จึงดำรัสให้ทัพจีนกองหน้ายกเข้า ตีค่ายพระนายกอง พระนายกองคุมพลทหารออกต่อรบ รบกันตั้ง แต่เช้าจนเพลาเทีค่ยง พวกพระนายกองพ่ายหนีเข้าค่าย ทัพจีนไล่ ติดตามเข้าไปในค่าย พระนายกองสู้รบอยู่จนตัวตายในค่ายนั้น พวกพลทัพจีน ไล่ฟันพลทหารพระนายกองล้มตายในค่ายนั้นเป็นอัน มากที่เหลืออยู่ก็แตกหนีไปจากค่าย แต่ม่องญานั้นพาพรรคพวก ทหารของตัวหนีขึ้นไปณเมืองนครราชสีมาไปเข้าด้วยพระยาวรวงศา ธิราช ซึ่งตั้งอยู่ด่านจ่อหอนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2011
  7. cmaiya

    cmaiya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    พระยาพิชัยดาบหัก และเจ้าพระยาพิชัยราชา คู่พิชัยแดนเหนือ

    ขอกราบคาระวะ คุณงามความดี และวีรกรรมที่เสียสละอบกู้บ้านเมืองแด่ พระยาพิชัยดาบหัก และเจ้าพระพิชัยราชาและกองกำลังขุนพล ไทยจีนทุกผู้ทุกนาย ที่เสียเลือดเน้อเพื่อแผ่นดิน

    ทองดีทหาร(ไทย) 2310 เป็น หมื่นจไววรนาถ เป็น พระยาศรีราชเดโช ผู้สำเร็จราชการเมืองพิชัย (ในปี 2313)
    หลวงพิชัยอาสา(จีน) 2310 เป็น พระยาพิชัย เป็นพระยาพิชัยราชา เป็น เจ้าพระยาพิชัยราชา เจ้าพระยาสวรรคโลก ในปี 2313

    ทั้งสองพิชัยยืนหยัดทรนง พิชัยดาบหักหนึ่งถือควงดาบเหล็กน้ำพี้มรดกอันเกียงไกร
    อีกหนึ่งพิชัยราชาควงง้าวสง่างามประดุจเทพกวนอู
    คู่พิชัยคู่ทรนง พิชัยดาบหัก พิชัยราชา ปกป้องแผ่นดินให้ลูกหลานไทย

    สองพิชัยร่วมรบดุจพญาสิงห์ไล่ล่าศัตรู ทั้งสองยอมตายถวายหัวเพื่อไม่ต้องรบกับพวกเดียวกันเอง สองพิชัยต่างเหล่าแต่ใจรวมเป้นหนึ่ง
    เด็ดเดี่ยวหมายมั่นเพื่อไทยทั้งผอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กันยายน 2011
  8. aunza

    aunza สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมมีเรื่องอยากจะบอกว่า คนบางคนไม่รู้เรื่องจริงก้พูดได้ คนที่เค้าสืบสายเลือดแท้ๆเค้ายังไม่พูดออกมาเลย เค้าสำนึกบุญคุณและละลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษของเค้าอยู่เสมอ ส่วนพวกที่ชอบเอาหลักฐานนู้นหลักฐานนี้มาอ้าง แล้วบอกว่านี้คือ ความจริง เท่าที่ผม อ่านมานั้นบางส่วนไม่เป้นความจริงเลย เรื่องที่พวกคุณพูดๆกันมานั้นมันเป้นแค่ผิวเผินแร้วมาบอกว่าเป็นความลับเป็นเรื่องในอดีตนำมาเปิดเผย ผมบอกได้เลยว่าเรื่องจริงๆของพระยาพิชัยดาบหักนั้นความจริงทั้งหมด คนในตระกูลทราบทุกคนและรู้สึกไม่พอใจมากที่มีคนมาแอบกล่าวอ้างเรื่องที่ไม่จริงเกี่ยวกับบรรพบุรุษ แต่ก็ไม่คิดที่จะเปิดเผยให้ทุกคนรู้ถ้าพวกคุณศรัทธาและเคารพพระยาพิชัยดาบหักจริงขอให้จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะผมเห้นหลายเว็ปหลายกระทู้มามายที่มาเถียงกันแต่ก็ไม่มีใครรู้ความจริงแน่นอน

    ณัฐชนน วิชัยขัทคะ สืบสายเลือดโดยตรงตระกูลพระยาพิชัยดาบหัก ''วิชัยขัทคะ''
     
  9. cmaiya

    cmaiya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    จุลศักราช ๑๑๓๒ จะยกกองทัพไปปราบคนอาสัตย์อาธรรมฝ่ายเหนือ ด้วยอ้ายเหล่าร้ายนั้นยกลงมาลาดตระเวน ตีเอาข้าวปลาอาหารเผาบ้านเรือนเสียหลายตำบล ไพร่บ้านพลเมือง ได้ความแค้นเคืองขัดสนนัก เหตุฉะนั้นจึงให้เจ้าพระยาพิชัยราชาถือ พล ๕๐๐๐ ยกไปทางตะวันตก พระยายมราชถือพล ๕๐๐๐ เข้ากันเป็นคน ๑๐๐๐๐ สรรพด้วยเครื่องสรรพาวุธทั้งปวง ครั้นลุศักราช ๑๑๓๒ ปีขาลโทศก (พ.ศ. ๒๓๑๓ ) วันเสาร์ เดือน ๘ แรม ๑๔ ค่ำ เพลาโมงเช้าเศษ เป็นมหาพิชัยฤกษ์ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จจากเมืองธนบุรี ไปโดยทางชลมารค ทรงนาวาพระที่นั่งพร้อมด้วยหมู่พลพยุหโยธา เสนาข้าทหารทั้งปวงประมาณ ๑๒๐๐๐ ครั้งนั้นข้าวแพงเกวียนละ ๓ ชั่ง ด้วยเดชะพระบารมีบรมโพธิสมภาร กำปั่นข้าวสารมาแต่ทิศใต้ ก็ได้เกณฑ์ให้กองทัพเหลือเฟือ แล้วได้ทรง พระบริจาคทานแก่สมณะชีพราหมณ์ยาจกวณิพก แลครอบครัวบุตรภรรยาข้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งปวงแล้ว แขกเมืองตรังกานูแล แขกเมืองยักกตรา เอาปืนคาบศิลาเข้ามาถวาย ๒๒๐๐กระบอก ขณะเมื่อเสด็จพระดำเนินขึ้นไปนั้น ประทับแรมณเมืองนครสวรรค์ ๒ เวนแล้วยกขึ้นไปชาละวัน ประทับแรมเวนหนึ่ง รุ่งขึ้นณวันเสาร์ เดือน ๙ แรม ๒ ค่ำ ยกไปประทับร้อนปากน้ำพิงเพลาประมาณยามหนึ่งเข้าตีเมืองพิษณุโลกได้ หลวงโกษายังคิดมิชอบ (๑) หนีออกจากเมืองขึ้นไปตั้งค่ายรับอยู่ ณตำบลโทก แล้วเลิกหนีไป (๑) ตั้งอยู่ทางทิศอิสานของจังหวัดพิษณุโลก ๕ ๓๔ ครั้นณวันเสาร์ เดือน ๙ แรม ๔ ค่ำ เสด็จเข้าไปนมัสการพระ ชินราช, พระชินศรี, พระศรีสากยมุนี ก็ทรงพระโสมนัสปรีดา ปราโมทเลื่อมใสศรัทธา เปลื้องพระภูษาจากพระองค์ทรงพระชินราชเจ้าเสร็จ แรมท่าทัพบกฝ่ายตะวันออกอยู่ ๙ เวน พอพระยายมราชขึ้นไปเถิง จึงพระราชทานข้าวปลาอาหาร แลน้ำสุราพัดให้พร้อมแล้ว สั่งให้ทัพบกยกเร่งรีบขึ้นไปติดเมืองสวางคบุรี แล้วตรัสว่าเราจะยก ทัพเรือขึ้นไปบัดนี้ น้ำยังน้อยนักตลิ่งยังสูงอยู่ อ้ายเหล่าร้ายจะได้ ท่วงทีลอบยิงเอา แต่ไม่ช้าดอก พอทัพบกข้ามแม่น้ำน้อยเสียได้ ๓ วัน น้ำก็เกิดมากขึ้น เดชะพระบารมีบรมโพธิสมภาร ครั้นเถิง ๓ วัน น้ำก็เกิดมากขึ้น เสมอตลิ่งบ้างล้นตลิ่งบ้างประดุจตรัสไว้นั้น จำเดิมแต่ นั้นกองทัพบกทัพเรือทั้งปวง ได้แจ้งเหตุแล้วก็ยกมือขึ้นกราบถวายบังคมเอาพระเดชเดชานุภาพปกเกล้า มีน้ำใจมิได้ย่อท้อต่อการณรงค์องอาจที่จะรบสู้หมู่ปัจจามิตร์ข้าศึก ด้วยเห็นพระบารมีเป็นแท้ วันอาทิตย์ เดือน ๙ แรม ๗ ค่ำ เพลา ๒ โมงเช้า ยกทัพหลวง จากเมืองพิษณุโลกโดยทางชลมารค ประทับรอนแรมไปได้ ๓ เวน พบผู้ถือหนังสือบอกกองหน้า ใจความว่าได้เมืองฝางแล้ว แต่อ้าย เรือนซึ่งคิดมิชอบนั้นหนีไป ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงยังติดตามอยู่ ก็ เสด็จรีบไปทั้งกลางวันกลางคืน เถิงตำหนักค่ายหาดสูง ให้นายทัพ นายกองเกณฑ์กันไปติดตามอ้ายเรือนฝางแลนางพญาช้างเผือกจงได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กันยายน 2011
  10. cmaiya

    cmaiya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    วันศุกร์ เดือน ๑๑ แรม ๑๐ ค่ำ 2313 เสด็จพระราชดำเนินไปยังเมืองสวางคบุรี สมโภชพระธาตุ ๓ เวนแล้ว ให้บุรณะปฏิสังขรณ์พระอารามแลพระบรมธาตุให้บริบูรณ์ดังเก่า จึงเสด็จพระราชดำเนินไปสมโภชพระณย้าง ๓ เวน แล้วเสด็จไปสมโภชพระบรมธาตุเมืองสวรรคโลก ครั้นณวันศุกร เดือน ๑๑ แรมค่ำหนึ่ง สมโภชพระเมืองพิษณุโลก ๓ เวนแล้ว ข้าหลวงซึ่งมีความชอบในการสงคราม ให้รั้งเมืองครองเมืองตามฐานานุกรมลำดับ
    (๑) เจ้าพระยาพิชัยราชาเป็นเจ้าพระยาสวรรคโลก (หลวงพิชัยอาสา พระยาพิชัย พระพิชัยราชา เจ้าพระยาพิชัยราชา)
    (๒) พระยายมราชเป็นเจ้าพระยาสุรศรี รั้งเมืองพิษณุโลก
    (๓) พระยาศรีราชเดโชรั้งเมืองพิชัย ( ทองดีทหาร จมื่นจไววรนาถ พระยาศีรราชเดโช หรือ พระยาพิชัยดาบหัก)
    (๔) พระท้ายน้ำรั้งเมืองสุโขทัย
    (๕) เจ้าพระยาอนุรักษ์ภูธรรั้งเมืองนครสวรรค์
    (๖) พระยาอภัยรณฤทธิ์ไปเป็นพระยายมราช ให้ว่าที่สมุหนายกด้วย แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับลงมา ยังกรุงธนบุรี ณวัน ๓ ค่ำ ลุศักราช ๑๑๓๒ ปีขาลโทศก ( พ.ศ. ๒๓๑๓ ) จะยกทัพหลวงขึ้นไปตี เมืองเชียงใหม่ เหตุพะม่าเหล่าร้ายเมืองเชียงใหม่ ยกกองทัพลงมามีประวัติพงศาวดารอยู่ในหนังสือศิลปากร
    ตั้งค่ายล้อมเมืองสวรรคโลกไว้ ได้ยุทธนาการรบกันสามารถ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาให้มีตราขึ้นไปเถิง เมืองพิษณุโลก, เมืองสุโขทัย, เมืองพิชัย ให้ยกไปช่วยรบ พะม่าก็แตก เลิกหนีไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กันยายน 2011
  11. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    วางใจให้เย็นก่อนใครจะมีความเห็นอย่างไรก็ชั่งเขาเถิด เขานักวิชาการเขาก็ว่ากันไป เรานักวิชาเกินก็ดูกันไป ไม่เห็นตอนน้ำท่วมกรุงเทพเหรอนั่นแหละผลงานนักวิชาการหลายท่านสำแดงเดช เราไม่เชื่อถือก็ไม่ต้องไปสนใจ ถือเสียว่าเขาก็ทำตามหน้าที่ของเขาไป ดูตอนที่เขาบอกว่าท้าวสุรนารีไม่มีตัวตนสิ เขายังทำเป็นรายงานได้เลย แต่โดยส่วนตัวเราเชื่อวีรกรรมและความรักชาติไทยของพวกท่านทั้งหลายไม่ว่าชายหญิงทุกท่านโดยไม่มีข้อกังขา ไม่อย่างนั้นคงไม่มีประเทศไทยไว้ให้อยู่เช่นทุกวันนี้หรอก
     
  12. CopperOxide

    CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289
    "ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เครื่องมือสร้างความเกลียดชัง
    แต่เป็นเครื่องมือในการขจัดความขัดแย้ง"

    นักวิชาการบางคน กำลังคิดว่า การยึดต่อหลักฐานใหม่ คือ การกำจัดม่านบังตาทางประวัติศาสตร์ ปากบอกว่า ประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือนแต่ไม่ยอมรับว่าตนเองก็บิดเบือนประวัติศาสตร์เช่นกัน

    มีสองสำนักพิมพ์สองแห่งที่กำลังสร้างการบิดเบือนบนความไม่ชัดเจนของประวัติศาสตร์ เพื่อเหตุผลจากผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง

    สำนักพิมพ์มติชน และ มูลนิธิโตโยต้า

    โดยมีวัตถุประสงค์สามอย่าง
    หนึ่ง โจมตีสถาบัน
    สอง อวยประเทศเพื่อนบ้าน(ที่ทำตัวเป็นโจร)-ลดความภาคภูมิใจในชาติไทย
    สาม ล้างสมองปัญญาชน

    ประเทศนี้
    ประชาชนยากจนถูกซื้อด้วยเงิน
    ปัญญาชนถูกล้างสมองด้วยความเชื่อแนวคิดผิดๆ
    คนร่ำรวยถูกซื้อใจด้วยความโลภผลประโยชน์อำนาจ
    เยาวชนถูกกล่อมด้วยค่านิยมแบบลัทธิสุขนิยม-ทุนนิยม
     
  13. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,222
    ค่าพลัง:
    +293
    แล้วเรื่องราวหลังจากดาบหักแล้วไปไหนต่อท่านเสียชีวิตอย่างไร
    ข้อมูลนี้ไม่สามารถศึกษาได้ "เพราะที่นี่ประเทศไทย"
     
  14. CopperOxide

    CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289
    ประวัติศาสตร์ไม่ได้บอกให้เราจดจำเพียงแค่ คราบเลือดและรอยน้ำตา
    เพราะมีประวัติศาสตร์ไงละครับ จึงทำให้มีเรามีตัวตนยืนบนผืนแผ่นดินนี้

    การชำระประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ทำเป็นปกติอยู่แล้วเมื่อนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เจอหลักฐานชิ้นใหม่
    แต่ที่เป็นปัญหาคือการที่มีคนเจตนาร้ายนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว พอคนพวกนี้มีโอกาสออกหนังสือตีพิมพ์บทความสู่สาธารณชน ก็เขียนในส่วนที่ตัวเองคิดเชื่อถือ หลักฐานตรงไหนที่จะมางัดง้างความเชื่อของตนก็ทำให้เบาบางไร้น้ำหนัก
    คนที่อ่านถ้าไม่ไตร่ตรองก็จะหลงลมไปกับเขา นักวิจารณ์วรรณกรรมคนหนึ่งเคยบอกไว้ว่า การอ่านหนังสือคือการสนทนากับหนังสือ
    ต้องรู้จักถกเถียง ค้นคว้าเพิ่มเติมทั้งในส่วนที่ตัวเองเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

    วินาทีที่แล้วก็คือประวัติศาสตร์ของวินาทีปัจจุบัน

    เรายืนอยู่บนเข็มนาฬิกาของปัจจุบัน ความคิด-ขนบธรรมเนียมประเพณี-สภาพแวดล้อม เมื่อสองร้อยกว่าปีที่แล้วนั้นไม่เหมือนปัจจุบันนี้ การคิดแทนคนสมัยก่อนโน้นอยู่บนฐานความน่าจะเป็น เพราะฉะนั้นผมเห็นว่า ประโยชน์ของการศึกษาประวัติศาสตร์ในฐานะประชาชนทั่วไปคือการไม่ทำผิดซ้ำสอง ไม่ใช่จ้องจะเอาข้อมูลมาประหัตประหารกัน

    "ความขุ่นแค้นแน่นหนักดังหินผา ความรักเมตตาบางเบาราวขนนก" เลือกเอาละกันครับว่าสิ่งใดน่าจะพกพานำติดตัว

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2012
  15. sakmalai

    sakmalai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ข้อความนี้บาดใจนักแล... กับความพยายามของคนบางกลุ่มที่ใช้ประวัติศาตร์เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ส่วนตน... ราวกับว่าได้ขายตัว ขายชีวิตให้กับเหล่ามาร... หาได้คำนึงว่าสิ่งเหล่านี้... จะกลับมาทำร้ายจิตวิญญาณของ "คนไท" ได้อย่างเลือดเย็น...

    ขอกราบ วีรชนผู้กล้า ทุกผู้ทุกนาม...ที่ได้เสียสละอย่างใหญ่หลวง เพื่อแผ่นดินนี้ คงอยู่ตลอดไป

    ขอบคุณ คุณสนิมทองแดง... ที่กระตุ้นต่อมคิด ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ใด
     
  16. TAWAT2008

    TAWAT2008 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +13
    เพราะคนไทยมีความคิดแตกแยกเสมอบ้านเมืองเราทุกวันนี้จึงวุ่นวาย รบกันเอง ฆ่ากันเอง โกงกินบ้านเมืองตัวเองไม่สนใจว่าชาติบ้านเมืองจะเป็นเช่นไรขอแค่ตัวกูร่ำรวยก็พอ นี่นะหรือชีวิตคนไทยมิอายบรรพบุรุษของไทยสมัยโบราณบ้างหรือที่ใช้เลือดเนื้อตัวเองปกป้องผืนแผ่นดินนี้เอาไว้ให้เรา
    ขอกราบ วีรชนผู้กล้า........และทุกผู้ทุกนามที่เคยรู้จักเคยได้ยินชื่อ หรือ ผู้ที่มิเคยรู้จักและมิเคยได้ยินชื่อ ที่ได้เสียสละอย่างใหญ่หลวง เพื่อผืนแผ่นดินนี้ คงอยู่ตลอดไป
     
  17. songkyunkwan

    songkyunkwan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอถามหน่อยนะครับ


    คนที่ไปรบที่เขมร ก่อนจะเกิดกบฎพระยาสรรค์
    แล้วไปด้วยกันกับเจ้าพระยามหากษัตริย์ (ร.1)
    นั่น ใครหรือครับ?


    รู้สึกยิ่งค้นหาข้อมูล ข้อมูลยิ่งตอแหลน่ะ
     
  18. songkyunkwan

    songkyunkwan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +7
    Ok ได้ละ

    .............................


    สมเด็จพระมหาอุปราช เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์


    เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นพระมหาอุปราชแห่งกรุงธนบุรี
    [แก้] พระราชประวัติ

    เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ มีพระนามเดิมว่า จุ้ย ประสูติใน สมเด็จพระอัครมเหสี กรมหลวงบาทบริจา (สอน) ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระอนุชาหนึ่งพระองค์ คือ สมเด็จเจ้าฟ้าน้อย <SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>
    เจ้าฟ้าจุ้ยทรงมีพระปรีชาสามารถในการรบ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงโปรดเกล้าสถาปนาเป็น สมเด็จพระมหาอุปราช และโปรดให้เสด็จไปตีเมืองกัมพูชา พร้อมกับสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก <SUP id=cite_ref-1 class=reference>[2]</SUP> โดยทรงมีพระราชดำริว่า เมื่อตีเขมรได้ ก็ให้สมเด็จเจ้าพระยาฯ ทำพิธีสถาปนา กรมขุนอินทรพิทักษ์ ขึ้นเป็นเจ้าครองนครกัมพูชา
    เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2325 ขณะกรมขุนอินทรพิทักษ์ และพระยากำแหงสงคราม (บุญคง) ตั้งทัพอยู่ที่เมืองพุทไธเพชร (บันทายเพชร ราชธานีของกัมพูชา) สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเจ้าพระยาสุรสีห์ ได้ยกทัพกลับกรุงธนบุรี และปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดิน พร้อมกับสำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบรมวงศานุวงศ์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินที่เป็นชาย <SUP id=cite_ref-.E0.B8.A3.E0.B8.B2.E0.B8.81.E0.B8.90.E0.B8.B2.E0.B8.99.E0.B9.84.E0.B8.97.E0.B8.A2_2-0 class=reference>[3]</SUP> ได้ส่งทหารตามจับกุมตัวกรมขุนอินทรพิทักษ์ พร้อมด้วยพระยากำแหงสงคราม และทหารองครักษ์จำนวน 5 คน ได้ในป่าตำบลเขาน้อย สระบุรี <SUP id=cite_ref-.E0.B8.A3.E0.B8.B2.E0.B8.81.E0.B8.90.E0.B8.B2.E0.B8.99.E0.B9.84.E0.B8.97.E0.B8.A2_2-1 class=reference>[3]</SUP>
    สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ตรัสถามกรมขุนอินทรพิทักษ์ ว่าทรงยินดีที่จะไว้พระชนม์ให้ แต่กรมขุนอินทรพิทักษ์ ทรงยืนยันที่ขอตายตามสมเด็จพระเจ้าตากสิน สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จึงโปรดเกล้าฯ ให้นำตัวเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ ไปสำเร็จโทษ พร้อมกับพระยากำแหงสงคราม <SUP id=cite_ref-.E0.B8.A3.E0.B8.B2.E0.B8.81.E0.B8.90.E0.B8.B2.E0.B8.99.E0.B9.84.E0.B8.97.E0.B8.A2_2-2 class=reference>[3]</SUP> และพระอนุชา คือสมเด็จเจ้าฟ้าชายน้อย เมื่อวันเสาร์ เดือน 6 แรม 8 ค่ำ พ.ศ. 2325 <SUP id=cite_ref-3 class=reference>[4]</SUP>
     
  19. songkyunkwan

    songkyunkwan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +7
    ข้อมูลมีแค่ว่า "เจ้าฟ้าจุ้ยทรงมีพระปรีชาสามารถในการรบ"
    แต่ทำไม รายละเอียดในการทำศึกต่างๆ ก่อนหน้านี้ ไม่มีเลย
    หายหมด (จริงๆ น่าจะร่วมรบกับท่านสำคัญอื่นๆ เหมือนกัน)


    สงสัยโดนจัดการเกลี้ยง หลังประหาร ...
     
  20. BARW

    BARW สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +2
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=W87zfUTc434"]เกิดอยู่เมืองไทย - พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ - YouTube[/ame]
     

แชร์หน้านี้

Loading...