สนทนา...วิชชาธรรมกาย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สมถะ, 19 สิงหาคม 2011.

  1. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    จริงจริงท่าน อยากจะบอกว่า อะไรคือ จุดหมาย ประโยชน์ตนที่ควรทำให้ถึงนะครับ................อยากทำที่สุดแห่งทุกข์.....หรือ อยากได้โน่นนี่ ก็คง อยู่ที่ข้อแรก คือ เจตนา ที่เราต้องการนะครับ......................
     
  2. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
  3. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
  4. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
  5. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    สงสัยครับ การเพ่งองค์พระใสปิ๊ง~~~~เนี่ย จัดอยู่ในกรรมฐานหมวดไหน
     
  6. เชอะกราว

    เชอะกราว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    หมวดวิปัสสนึกงยครับ
     
  7. เชอะกราว

    เชอะกราว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    ก็จัดอยู่ในหมวดของวิปัสสนึกงัยครับ
     
  8. เชอะกราว

    เชอะกราว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    เออผมสงสัยจังว่าการทำสมาธิทำไม่ต้องกำนดลมที่ท้องด้วย
    หรื่อกำหนดไอ้ที่เป็นดวงใสๆในท้องด้วย ช้วยตอบด้วยธรรมกาย
     
  9. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    ลองฝึกดูก่อนท่าน อย่างน้อยเอาไปลองทำที่บ้านก็ยังดี
     
  10. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    ก็อยากจะฝึกล่ะนะ แต่สงสัยว่า วิธีนี้มันได้ผลจริงเหรอ
     
  11. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    เพราะหนทางปฏิบัติอันนี้มันค่อนข้างขัดต่อหลักการ

    การเข้าถึงอริยะมรรคได้ก็ต้องทำกิจในอริยสัจ๔

    คือเข้าไปรู้"ความจริงของสภาวะธรรม"

    แต่เท่าที่ดูแล้วกรรมฐานแบบนี้มันมีอารมณ์เป็นบัญญัญติ ไม่ใช่ปรมัตถ์

    จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติแบบนี้แลวจะรู้ทุกข์
     
  12. เชอะกราว

    เชอะกราว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    แล้ววิธีปฎิบัติละ
     
  13. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    ถึงท่านจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ แต่ความสนใจ อย่างน้อยก็พอให้ท่านอาจมีโอกาสได้ความรู้ติดตัวกลับไปศึกษานะครับ
    โดยพื้นฐานเรานึกให้เห็นแก้วใส แต่ไม่ได้นึกที่ตาเนื้อ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมถะกรรมฐาน อโลกกสิน แล้วเมื่อจิตมันเป็นขึ้นมา ดวงใสก็กลายเป็นอำนาจจิตขึ้นมา เมื่อถูกจุด ถูกที่ของมันแล้ว ก็เข้าหลักวิชชาน่ะครับ อันนี้เป็นพื้นฐาน
    ถ้าท่านเชื่อว่ากสินมีจริงแล้ว นี่ก็เป็นทางปฏิบัติอีกวิธีหนึ่งที่พัฒนาใจให้สว่างใส พร้อมใช้งานเพื่อให้มีกำลังทำวิปัสนาต่อไป
     
  14. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อนุโมทนาครับ สำหรับผู้รู้จริงครับ ทุกวิชชานั้นสอนให้จิตหยุดนิ่ง

    เมื่อจิตตั้งมั่น หาได้มีสิ่งใดแตกต่างกัน เพราะทุกวิชชาเป็นไปเพื่อการหลุดพ้นครับ
     
  15. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    แบบนี้เหรอครับ แล้วทำไมสมัยก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ สมัยนั้นมีคนที่ปฏิบัติสมถะกรรมฐานมากมาย ได้ฌาณขั้นสูงก็เยอะ แต่ทำไมไม่คนหลุดพ้นเลย
     
  16. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    กสินน่ะมีจริงครับ มี๑๐อย่าง แต่อาโลกกสินวิธีทำต้องเรื่อมจากการเพ่งไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่อยู่ๆมานึกเอาเลย
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผู้ปฎิบัติเหล่านั้น มีสมาธิเฉพาะที่ได้ปฎิบัติครับ ครั้นมิได้ปฎิบัติ ความเคยชินที่มีในตน

    ก็ยังคงแสดงออกมาเช่นเดิม ความเคยชินที่ผมกล่าว คือ อาสวะ ครับ

    นี่คือเหตุที่ไม่สามารถหลุดพ้นได้ ด้วยติดข้องความเคยชินครับ
     
  18. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เพ่งเพื่อให้เกิดนิมิต การตรึกนึก ก็เพื่อให้เกิดนิมิตครับ

    เหตุนั้นแตกต่าง แต่ผลนั้นมิได้แตกต่างครับ

    ให้มองที่จิตครับ จะหลุดพ้นหรือไม่ ก็ด้วยจิตครับ
     
  19. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    วิปัสสนาไม่ได้สอนให้จิตหยุดนิ่งนะครับ นั่นเป็นเรื่องของสมถะไป
    วิปัสสนาคือ ปัญญาที่เข้าไปรู้ความจริงของนามรูป ตามความเป็นจริง

    ความจริงจิตเรามันไม่หยุดนิ่ง ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาก็ไม่ได้ไปกำหนดให้จิตหยุดนิ่งเพราะมันกำหนดไม่ได้(จิตเป็นอนัตตา) เพียงใช้ปัญญาเข้าไปรู้เท่านั้นเอง(รู้ทุกข์) เมื่อรู้จิต หรือรู้รูปนามแล้ว พิจารณาต่อไปก็จะรู้ต้นเหตุ(รู้สมุหทัย)
     
  20. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    งั้นเราไปก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ เพราะเราเองก็ต้องออกมาทำกิจอย่างอื่นอีก ไม่ได้เข้าอยู่ตลอดเวลา ออกมาอาสวะก็ยังมีอยู่ แล้วเวลาเราออกมาทำวิปัสสนาอาสวะไม่กำเริบเหรอครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...