เราสามารถเป็นพระโพธิสัตว์ได้หรือไม่

เราสามารถเป็นพระโพธิสัตว์ได้หรือไม่

คำตอบ คือ

ได้ครับ เพียงแค่คุณเห็นสุนัขข้างถนนหิวโซ คุณยื่นอาหารให้ด้วยจิตเมตตา เห็นคนถูกรังแก คุณเข้าช่วยเหลือ ฯลฯ นั่นคือ จิตแห่งโพธิสัตว์ในตัวคุณบังเกิดขึ้นแล้ว เมื่อสะสมมากเข้า จิตของคุณจะอยากช่วยเหลือชีวิตอื่นๆมากขึ้น...มากขึ้น ตอนนี้คุณเป็นพระโพธิสัตว์แล้วครับ แต่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ที่บุญบารมียังอ่อนอยู่

เมื่อใดจิตคุณเข้มแข็งจนตั้งปณิธานจะช่วยสรรพชีวิตให้พ้นทุกข์ หรือ จนตั้งจิตปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ...นั่นคือ ก้าวแรกสู่เส้นทางพระโพธิสัตว์ (เป็นอนิตยโพธิสัตว์)

จากจุดนี้มีแนวทางปฏิบัตินับไม่ถ้วน คุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ ทั้งหมด แต่คุณต้องหาแก่น หรือหลักของมันให้ได้ ครูบาอาจารย์และผู้ที่เดินบนเส้นทางเหล่านี่มาก่อนได้ทิ้งแนวทางไว้ให้ แต่อย่ายึดติดในสิ่งเหล่านั้นเกินไป เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นแค่นั่งร้านที่ใช้ในการก่อสร้าง หรือเป็นแค่พาหนะสู่จุดหมายเท่านั้น

จิตที่ตระหนักรู้แก่นหรือหลักเหล่านั้นต่างหาก คือ ของจริง.....จุดเริ่มแรกของนิตยโพธิสัตว์

และเมื่อได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า....นั่นคือ การประกาศรับรองความแน่แท้ในการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ

 

ศึกษาใน โพธิสัตตวจรรยาวตาร แนวทางแห่งการดำเนินชีวิตของพระโพธิสัตต ของท่านศานติเทวะ แปลไทยโดยรศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ จะเข้าใจได้มากกว่าที่อื่นๆ อ่านแล้วน้ำ้ตาไหล ด้วยความนับถือเลื่อมใสในความเมตตาของเหล่าโพธิสัตว์ที่มีต่อสัตว์ทั้งปวง

 

เราเห็นแล้วจึงมาเตือน เกรงว่าท่านจะเห็นผิด

สำหรับคำถามของท่านที่ว่าคนธรรมดา อยากเป็นพระโพธิสัตว์ได้หรือไม่นั้น

จากพระตรัยปิฎก เห็นทีอย่าว่าแต่คนเดินดิน แม้สัตว์เดรัจฉาน

ก็ยังสามารถเป็นพระโพธิสัตว์ได้

ดูอย่างพระพุทธเจ้าของเราในกาลนี้

ท่านก็ได้ตรัสถึงอดีตชาติของท่าน ว่าท่านเคยเกิดเป็นสัตว์ต่างๆ มาก่อน

เช่น ลิง เป็นต้น เราขอให้ท่านได้หาหนังสือ พระเจ้า 500 ชาติมาศึกษาก่อน


ส่วนข้อที่เราเห็นแล้วคิดว่า อาจจะเป็นมิจฉาฐิทิได้ ถึงแม้จะเป็นความปรารถนาดี

คือ "หากสัตว์โลกยังมีความทุกข์ยากอยู่เราจะไม่ไปพบนิพพาน"

แม้แต่พระพุทธเจ้าของเราซึ่งเป็นปัญญาธิกะพระพุทธเจ้า

ยังตรัสว่า ยังมีบุคคลที่ท่านไม่อาจสั่งสอนได้ เปรียบได้ดังบัวใต้โคลนตม

ซึ่งก็ต้องปล่อยให้พวกเขาเป็นอาหารแก่เต่า และปลาไป

เนื่องด้วยเราไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขา จากความเห็นผิดของพวกเขาเอง

 

ประพฤติ ฝึกฝน อบรม ให้ธรรมะสัญญาแก่กล้าเข้าไว้ ทำดีก็ต้องได้ดีตามกฏ

 

ไม่รู้ว่าตนเองมีศักยภาพในการตอบแค่ไหน แต่เห็นประโยค "หากสัตว์โลกยังมีความทุกข์ยากอยู่เราจะไม่ไปพบนิพพาน" แล้วก็ซาบซึ้งใจเหมือนกันจ้า

คนที่จะกล่าวประโยคนี้ได้ เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้แม้ถูกทั้งจักรวาลขัดขวาง เป็นคนที่เห็นรอยยิ้มของโจรหรือสัตว์นรกดุจดั่งรอยยิ้มของตนเอง เป็นคนที่ยินดีกลายเป็นกบฏ โจร ขอทาน โสเภณี เปรต อสูร มาร สัตว์เดียรัจฉาน เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนที่ยินดีโง่และผิดหวังในความรักตลอดจนล้มเหลวในการงานครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อแลกกับความสุขของผู้อื่น และที่สำคัญ...เป็นคนที่ไม่สนใจจะเป็น "พระพุทธเจ้า" หรือ "พระอรหันต์"

แต่ยิ่งประสบกับเคราะห์กรรมและมรสุมชีวิตเขาผู้นั้นก็ยิ่งอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยเมตตา ยิ่งถูกล่อลวงฉ้อฉลเขาผู้นั้นก็ยิ่งสุขุมลึกซึ้ง ยิ่งถูกรุมล้อมด้วยภยันอันตรายเขาผู้นั้นก็ยิ่งสงบกล้าหาญ ยิ่งเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโคลนตมแห่งกิเลสและอุปทานเขาผู้นั้นก็ยิ่งบารมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาได้รับขนานนามว่า "มหาโพธิสัตว์" และ "ยูไล" ผู้ไม่ประสงค์จะนิพพานหากสรรพสัตว์ในขอบเขตที่ตนสนใจยังไม่สิ้นทุกข์ตามรูปแบบที่ตนได้ตั้งปณิธานไว้จ้า


หากเรามีน้ำใจเยี่ยงนี้ แม้ไม่อยากเป็นพระพุทธเจ้า ไม่รู้เรื่องบารมี 30 ทัศ แต่เราก็จะดำเนินไปทางพุทธภูมิเองตามธรรมชาติ และย่อมได้เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อถึงเวลาอันสมควร ส่วนจะเข้าสู่นิพพานช้าเร็วเพียงใดก็อยู่ที่ปณิธานตามธรรมชาติจากก้นบึ้งของหัวใจเราเอง

เราพึงพิจารณาลงไปในก้นบึ้งของหัวใจเราเองเถิดว่าแท้จริงแล้ว
เราต้องการอะไร ?
เรายอมเสียทรัพย์ เสียความรัก เสียเกียรติ เสียชีวิตได้เมื่อใด ?
และเราจะไม่มีวันยอมแพ้ได้เพื่อใคร ?

 

ผมก็ว่าอย่างคุณนั้นแหละ หลายท่านบอกว่าคนต้องการเป็นโพธิสัตว์ ก็ต้องเป็นพระพุทธเจ้า แต่ผมไม่ต้องการอย่างนั้นเลย ขอแค่้ได้ช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากก็พอแล้ว

 

บำเพ็ญคุณธรรมเยอะ ๆ ให้ธรรมมะสัญญาแก่กล้าเข้าไว้ ชาตินี้มีโอกาสศึกษาธรรมมะเยอะ ๆ ก็ศึกษาเอาไว้ให้มาก ๆ เป็นต้นทุนจ๊ะ

ขอให้โชคดีและได้ดังตั้งใจนะครับ