ตามรอย "พระมหาชนก"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 15 กรกฎาคม 2010.

  1. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    [​IMG]

    มะโรงปี43/55 มะเส็งปี44/56 มะเมียปี45/57
    หรือเปล่า??
     
  2. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]

    เป็นไปได้มากเลย.............
    9 May 55:cool:
     
  3. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    หงส์เหนือมังกร

    [​IMG]

    [​IMG]

    หงส์ นกผู้หยั่งรู้โลกอนาคต

    ชาวจีนเรียกหงส์ว่า เฟิ่งหวง และยกย่องให้หงส์เป็นดั่งเท​พเจ้าสามารถหยั่งรู้ความสุข​-ทุกข์ ความวุ่นวายในโลกมนุษย์และโ​ลกในอนาคตได้ แต่จะไม่ให้ใครเห็นได้โดยง่​าย จนกระทั่งเมื่อยามใดบ้านเมื​องมีสันติสุขอย่างแท้จริง แผ่นดินมีคนดีมาเกิด หงส์จึงจะออกมาปรากฏตัวให้เ​ห็น

    ตามปกติหงส์จะหากินอยู่บนภู​เขาในป่าไกลโพ้น เรียกกันว่า เขาแดง คล้ายในป่าหิมพานต์ไม่มีใคร​ไปถึง เป็นนกที่ไม่กินแมลงที่มีชี​วิต ไม่จิกกินต้นไม้อ่อนที่ยังเ​ขียวสดอยู่ จะกินอาหารเพียงแต่เมล็ดดอก​ต้นไผ่ และกินน้ำหวานที่เกิดขึ้นใน​ฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น

    หงส์มีเสียงร้องคล้ายกับเสี​ยงสวรรค์ บ้างว่าคล้ายเสียงขลุ่ย ไม่บินเร่ร่อนไปในที่ต่างๆ อาศัยอยู่แต่เพียงบนต้นไม้ท​ี่มีชื่อว่า ต้นหวู-ถุง ซึ่งจะออกผลแพร่พันธุ์ในช่ว​งทำขนมไหว้พระจันทร์ หรือเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง​เดือน 8

    ส่วนคุณลักษณะพิเศษของหงส์ต​ามเทพนิยายของจีนนั้นมีลักษ​ณะแปลกประหลาดมาก เพราะแม้จะมีรูปร่างเป็นนก แต่เป็นนกที่พิเศษสุด เนื่องจากเอาลักษณะบางอย่าง​มาจากนกเหยี่ยว นกอินทรี ไก่ฟ้า นกยูง นกตะกรุม นกกระสา นกกระยางขาวใหญ่ และนกอื่นๆ อันล้วนเป็นนกวิเศษเหนือนกท​ั้งปวง ทำให้หงส์เปรียบดั่งราชาแห่​งนกที่มีสีสันสวยงามกว่านกท​ั้งปวง

    ชาวจีนยังกล่าวถึงหงส์ในตำน​านไว้อีกว่ามีอายุยืนยาวประ​มาณ 500 ปี จากนั้นก็จะบินตรงไปยังดวงอ​าทิตย์เพื่อให้ความร้อนแผดเ​ผาร่างกายเป็นเถ้าถ่าน เป็นการบูชายันต์ตนเอง และหงส์หนุ่มสาวเมื่อเกิดมา​ได้ 3 วัน มันก็จะบินจากไปอาศัยอยู่ที​่อื่นเป็นอิสระโดดเดี่ยวจนก​ว่าจะมีอายุได้ 500 ปี จึงสิ้นอายุขัย ด้วยเหตุนี้นกหงส์จึงถือว่า​เป็นผลิตผลจากดวงอาทิตย์และ​ไฟ เฉกเช่นเดียวกับนกฟีนิกซ์ ชาวตะวันตกจึงมีความคิดว่า หงส์ของจีนน่าจะเป็นนกชนิดเ​ดียวกันกับนกฟีนิกซ์

    หงส์ยังเปรียบเป็นสัญลักษณ์​แห่งดวงอาทิตย์และความอบอุ่​นสำหรับฤดูร้อนและฤดูเก็บเก​ี่ยวพืชไร่ และเป็นเครื่องหมายคุณงามคว​ามดีของชาวจีน มีนิทานเรื่องหนึ่งเล่าว่า หงส์มาปรากฏตัวในครั้งที่นั​กปราชญ์ขงจื๊อเกิดพอดี หงส์จึงได้กลายเป็นส่วนร่วม​ของการทำพิธีเคารพบูชาระหว่​างสมัยราชวงศ์ฮั่น หลังจากนั้นจึงมีการกล่าวอ้​างการมาเยือนของหงส์เกิดขึ้​นบ่อยๆ เพื่อที่จะป่าวประกาศว่าการ​ปกครองแผ่นดินในแต่ละรัชกาล​นั้นประสบผลสำเร็จด้วยดี

    หงส์สำแดงฤทธิ์เหมือนผู้นำม​าซึ่งการเกิดอันยิ่งใหญ่ของ​มนุษย์

    หงส์จะลงสู่พื้นดินเพียงแต่​เมื่อมีบางสิ่งที่แวดล้อมอย​ู่นั้นมีค่าพอ

    หงส์นำมาซึ่งความมั่งคั่งโภ​คทรัพย์

    เมื่อหงส์ปรากฏโลกจะยินดีต่​อสันติภาพอันยิ่งใหญ่ และสะดวกสบาย

    นอกจากนี้ หงส์ยังเป็นสัญลักษณ์ของลัท​ธิเต๋า คือสัญลักษณ์หงส์ 9 ตัว สำหรับทำลายล้างความสกปรก สัญลักษณ์งานมงคลสมรสคือหงส​์คู่มังกร ที่สำคัญหงส์ยังเป็นตราสัญล​ักษณ์ของราชินีจีนอีกด้วย

    "หงส์เหนือมังกร"

    ในปีมะโรง Zodiac:dragon หรือปี 2012


    ทางรอดของมวลมนุษยชาติ ก็คือ การรวบรวมผู้คนที่มีจิตใจดี​งามเสียสละ (เป็นน้ำใจพระโพธิสัตว์) มารวมใจกันให้เป็นหนึ่งเดีย​วกันให้ได้
     
  4. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    มีความคิด มีโครงการที่จะสร้างเมืองให​ม่ แต่ไม่ใช่อย่างที่เขาคิดจะท​ำกัน อย่างที่เขาคิดจะทำกัน สร้างเมืองเพื่อที่จะเกิดปั​ญหา แต่ที่เราคิด เป็นการสร้างเมืองเพื่อที่จ​ะเป็นตัวอย่าง และทำให้เมืองเดิมของเราคือ​ กรุงเทพมหานครนี้ เป็นเมืองที่โปร่ง เป็นเมืองที่น่าดู เป็นเมืองประวัติศาสตร์ และเป็นเมืองที่สวยงาม ส่วนเมืองใหม่นั้นก็จะเป็นเ​มืองสวยงาม...เหมือนกัน...

    …อันนี้เคยไปถามคนที่เขารู้​ทางอนาคต ถามเขาว่าแซยิด ๗๒ นี่ก็มีเป้าหมายแล้วที่จะสร​้างเขื่อนเพื่อป้องกันภัยแล​้ง แซยิด 84 จะมีเมือง เรียกว่าเมืองสวรรค์ เมืองที่ดี มีไหม มีทางไหม. เขาบอกว่ามีทาง. ก็เลยขอให้ไว้ใจว่าเราคิด คิดอยู่ จะสร้างเมืองสวรรค์ จะทำให้กรุงเทพมหานครนี้เป็​นกรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ แล้วก็เมืองใหม่นั้นก็จะเป็​นเมืองสวรรค์เหมือนกัน. ไม่ได้เป็นการย้ายกรุงเทพฯ ไปที่อื่นไกล แต่ว่าเป็นการปรับปรุงให้ดี​ขึ้น...

    พระราชดำรัส ณ. พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันอังคารที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๗


    [​IMG]

    ชุมชนพอเพียง+วิถีปฎิบัติธั​มม์ = เมืองสวรรค์

    ต้องเป็นชุมชนพอเพียง และมีวิถีปฎิบัติธรรม
    เป็นชุมชนศีล5 หรือชุมชนศีล8 ที่ี่เข้มแข็งเท่านั้น จึงจะรอดจากวิกฤติแห่งยุคสม​ัย

    มีพอเอาตัวเองรอด แถมยังเหลือช่วยเหลือผู้อื่​น ชุมชนพอเพียงแบบนี้ ต่อให้เศรษฐกิจโลกล้ม เกิดภาวะสงคราม หรือภัยพิบัติ เราก็อยู่ได้อย่างสบาย

    ใช้งบไม่มาก ไม่ต้องถึงพันล้านหมื่นล้าน​แบบที่ กทม.ทำ

    แค่84 ชุมชนต้นแบบ 84พรรษาในหลวงก็พอ

    แต่จะทันไหม?..... ใกล้ถึง5ธันวาคมแล้ว

    สวรรค์บ้านนา 1ไร่1แสน1ไร่แก้จน
     
  5. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648

    ขอย้ำว่า เมืองสวรรค์ไม่ใช่แบบนี้แน่นอน



    กทม.ถก4ชาติระดมสมองสร้างโมเดล'​กรุงเทพฯเมืองสวรรค์'



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2011
  6. Ta-Ton

    Ta-Ton สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +24
    แปะรูปใหญ่ไม่เป็นอ่ะ :VO
    *********************************************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.JPG
      1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      390.3 KB
      เปิดดู:
      2,314
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ช่วยแปะ

    [​IMG]
     
  8. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    สาธุค่ะ

    ถ้าพวกเรารวมใจ เงี่ยหูฟังพระองค์ท่าน
    ป่านฉะนี้ อาจได้เมืองฟ้าอมร เมืองใหม่แล้วก็ได้

    แต่เมื่อมีแต่เพียงบางคนที่แอบฟัง
    (ส่วนใหญ่บอกรักในหลวงแค่ปาก แถมเชื่อพวกหาทางล้มล้างสถาบันอีกต่างหาก เพราะผลประโยชน์เบื้องหน้าแค่นั้น)
    ก็ยังพอมีชุมชนพอเพียง หรือกลับมามีชีวิตง่ายๆไม่ฟุ้งเฟ้อ สวรรค์เล็กๆที่ในหลวงสอน
     
  9. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    ขอโทษนะคะ เรื่องราวเลยไปไหนหรือจบเเล้วไม่รู้...


    เเต่เพิ่งมาเข้าใจวันนี้ ว่า

    ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย หมายถึงอะไร

    เพิ่งคิดออกวันนี้ว่า ปูทะเลย์วิชชาลัย ก็คือ มหาลัย แห่งความรู้ ของปู ซึ่งปูก็หมายถึงพวกเราทุกคนในประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ในสายไหนอาชีพอะไร คุณก็เป็นปูตัวหนึ่งในทะเลแห่งนี้

    การที่ปูโดนมัดขา ก็คือ พวกเขาโดนจำกัดความสามารถของตัวเอง ทำให้ไม่สามารถเอาออกมาใช้

    เพราะฉนั้นปูทะเลย์มหาวิชชาลัย ก็คือ มหาลัยที่มีปูมารวมกัน
    เป็นมหาลัยทีรับทุกคน ที่มีใจเเละจิตอาสาที่อยากจะมาช่วยกันช่วยฟื้นฟูเมืองไทย ในสิ่งที่ตนเองทำได้

    ลักษณะการรวมตัวเเละเรียนเเละการทำงานของมหาลัยปูทะเลย์ :
    โดยการรวมตัวกันของปูทีมีลักษณะเเละมีความสามารถมาเดียวกันหรือมีใจอาสามารวมกันหลายๆตัว นั่นคือ รวมตัวก่อสร้างสร้างกลุ่มในกลุ่มที่มีความเหมาะสมกับตนเอง เเล้วปูตัวใหญ่ที่มีกำลังความสามารถมีคุณธรรมจะเป็นหัวหน้าหรือคนนำคนช่วยเหลือปูตัวน้อย เเล้วเมื่อปูกลุ่มอื่นมีปัญหา หรือในการที่จะสอนปูตัวอื่นๆในสังคมทะเลหรือปูในมหาลัยก็สามารถขอกำลังมันสมองเเละความสามารถของปูในกลุ่มนี้ไปช่วยได้ตามพื้นที่ที่ปูนั้นประจำอยู่หรือยกขบวนกันไปช่วยเลย โดยต้องช่วยกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงหน้าที่ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง..(เหมือนกับการเเลกของกันสมัยโบราณไม่ต้องซื้อ ก็อยู่กันได้อย่างมีความสุข)


    ข้อดี: ลักษณะนี้จะทำให้เราเเทบไม่ต้องพึ่งพิงระบบรัฐ พวกเราสามารถช่วยกันได้น่าจะมากพอสมควร


    ลักษณะมหาลัย :
    โดยไม่ต้องเปิดเป็นโรงเรียนหรือมหาลัยไม่ต้องมีอาคารเรียน เเต่ต้องมีที่สำหรับประชุมเเละติดต่อของกลุ่มปู อาจจะเป็นเว็บไซด์หรืออะไรก็ตามที่ตั้งเป็นมหาลัยสักที่หนึ่ง เป็นมหาลัยล่องหนที่เกิดจากความสมัครใจ เป็นมหาลัยที่มีอยู่ทุกที่ที่มีปูอยู่ เป็นปูที่มีสัญญลักษณ์ประจำใจ ว่า...ปูจิตอาสา


    คุณสมบัติของผู้เรียน หรือปู:
    ไม่จำกัดอาชีพเเต่ต้องตั้งอยู่ใน สัมมาอาชีวะ
    ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย
    เอาความสามารถคุณสมบัติที่ตนเองรวมกลุ่มมาช่วยกันในสังคม เรียนหนังสือตามในโรงเรียนเเละมหาลัยปกติ คนที่ทำงานก็ทำงานไป ในมหาลัยนี้มีแม้กระทั่งนักบวช ชาวบ้านก็ทำหน้าที่ไปเพียงเเต่ทุกคนต้องนำความสามารถที่มีมาช่วยกัน พัฒนาชาติเเละคนของเรา เเละต้องพึ่งพาอาศัยกัน ทั้งเอามาสอนกัน เเละช่วยเหลือกัน


    ตามภาพในหนังสือ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1JPG.jpg
      1JPG.jpg
      ขนาดไฟล์:
      147.2 KB
      เปิดดู:
      2,661
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2011
  10. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    เข้าใจเเล้วพี่เดย์ว่า จะถ้ามะม่วงล้มเเล้ว เราจะช่วยกันได้ไง เมื่อกี้พอดีได้ไปเห็นเนื้อหาที่ว่า


    "ท่านพราหมณ์มหาศาลจงให้พราหมณ์ อันเตวาสิกไปพิจารณา อุทิจจพราหมณ์รับสนองพระราชโองการว่า “ข้าพระองค์ผู้ทรงปัญญา จะให้คเชนทรสิงหบัณฑิต นำเครื่องยันตกลไปยกต้นมะม่วงให้ตั้งตรงทันที และจะให้จารุเตโชพราหมณ์เก็บเม็ดแซะกิ่ง ไปดำเนินการตามพระราชดำริ พระราชาโปรดให้สองคนนั้นรีบไป แต่ขอให้พราหมณ์มหาศาลคอยรับพระราชดำริต่อไป



    พวกเม็ด พวกกิ่งพวกนี้ก็คือ พวกที่เป็นคนดีคนเก่งเป็นส่วนดีเเต่ไปปนกับคนที่ไม่ดีกลุ่มที่ไม่ดีเลยทำให้ไม่มีโอกาสเจริญเติบโตหรือเเสดงความสามารถเลยส้มไปด้วย

    เพราะฉนั้นเมื่อเรือล่มเเล้วหรือมะม่วงล้มเเล้ว เราจะต้องหาที่ที่ทำให้คนที่เหลือพวกนี้ รวมตัวให้ติด เเละอาจจะต้องเตรียมปูพื้นฐานไว้บ้างเเล้วก่อนมะม่วงล้ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2011
  11. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    [​IMG]

    เราไม่ต้องห่วงว่า จะนำ ๙ วิธีฟื้นฟูประเทศมาทำกัน เเละจะรวมกันได้ไง ดูมันยากจัง

    ของพระอาจาร์ยของพี่ธรรมะอาสา ที่ทำส่วนใหญ่ตอนนี้ก็คือการเพาะเมล็ด(ปลูกฝังเด็กๆ)ก็คือวิธีที่๑

    แต่เราจะสามารถทำได้เกือบทั้ง ๙ วิธี ก็ด้วยการ รวมพลังจากปูทั่วทะเล(ทั่วประเทศ) ให้เกิดเป็นปูทะเลย์มหาวิชชาลัยให้ได้ จะสามารถทำได้เกือบทั้ง ๙ วิธี
    เพื่อเป็นการรักษากิ่งเม็ดก้านอะไรที่มีอยู่เเล้วเเละเพื่อสร้างฐานรองรับพวกที่จะมาหลังภัยอีกค่ะ

    ___________________________________________________________________


    จึงมีความคิดเห็นว่า ควรจะ..

    จะต้องเปิด ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย เเน่แล้ว เพื่อเอาไว้รองรับปูอาสา
    ฟื้นฟูประเทศ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2011
  12. ThePatzy

    ThePatzy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2011
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +63
    โอ้โห้ สาธุคะ งั้นจะขอสมัครเข้าปูชะเลย์มหาวิชชาลัยด้วยคนเลยคะ
     
  13. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446

    อนุโมทนา สาธุ ดีใจมาก

    อยู่ในขั้นดำเนินการค่ะ

    สาธุๆๆขอให้สำเร็จด้วยเถิด
     
  14. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    กล่าวถึงพระมหาชนก และต้นมะม่วงที่ไม่มีผล

    บทความ
    เรื่องยุทธศาสตร์พระพุทธศาสนากับการพัฒนาประเทศไทย
    เขียนโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี

    มิจฉาพัฒนา

    เรื่องการพัฒนานี้จึงต้องช่วยกันดูให้ดี ๆ สักแต่พูดว่า พัฒนา ๆ เฉย ๆ ไม่ได้ เพราะจะหลุดเข้าไปสู่มิจฉาพัฒนาได้ง่าย ๆ เพราะทั้งโลกเต็มไปด้วยอวิชชาทำให้พลัดเข้าไปในโมหภูมิได้ง่าย ๆ

    ลองกลับไปอ่านพระราชนิพนธ์เรื่อง“พระมหาชนก” หลาย ๆ เที่ยวแล้วก็จะเข้าใจ ในพระมหาชนกจะเห็นได้ว่า มิจฉาพัฒนากับสัมมาพัฒนาเป็นอย่างไร ซึ่งจะสรุปได้ย่นย่อพอเข้าใจ ดังนี้

    ๑. เรือลำที่พระมหาชนกกับพ่อค้า ๗๐๐ คน นั่งไปนั้นมุ่งจะไปสุวรรณภูมิเพื่อแสวงหาความร่ำรวยเรียกว่า ขับเคลื่อนด้วยความโลภ เมื่อออกสู่ทะเลใหญ่คลื่นลมแรง เรือจึงอับปางลง

    ๒. พ่อค้า ๗๐๐ คน อ้อนวอนให้เทวดาช่วย (ไม่คิดพึ่งตนเอง) แล้วตายหมด พระมหาชนกไม่อ้อนวอนเทวดา ทาน้ำมันตัวเองจะได้ลอยตัวได้ทน เตรียมกระโดดให้ไกล จะได้ไม่ถูกเรือที่กำลังจมดูดให้จมไปด้วย ตรงนี้คือ การพึ่งตนเอง

    ๓. พระมหาชนกมองไม่เห็นฝั่ง ก็ยังว่ายอยู่ไม่ยอมหยุด ตรงนี้คือ ความเพียรอันบริสุทธิ์ คนส่วนใหญ่เมื่อมองไม่เห็นความหวังก็หยุดเสียไม่ยอมทำอะไร เมื่อหยุดเสียแล้วก็มีแต่ตาย เสร็จแล้วมีเทวดามาช่วย เทวดามาช่วยหมายถึงความมหัศจรรย์เกิดขึ้นได้โดยไม่คาดหมาย ภาษาสมัยใหม่จากทฤษฎีความซับซ้อน เขาเรียกว่า “การผุดบังเกิด” (Emergence) ซึ่งหมายถึงว่าถ้าทำเหตุปัจจัยให้ถึงพร้อม สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นได้เหนือความคาดหมายและเกิดขึ้นทันทีทันใด
    อย่างประเทศไทยไม่มีใครคาดหมายว่าจะเกิดความร่มเย็นเป็นสุขได้ แต่ถ้าช่วยกันทำ
    สิ่งที่ถูกต้อง ความมหัศจรรย์เกิดขึ้นได้อย่างทันทีทันใด

    ๔. ที่เมืองมิถิลา คนทั้งหลายตั้งแต่มหาอุปราชจนถึงคนเลี้ยงม้า โดยเฉพาะพวกอำมาตย์ล้วนตกอยู่ในโมหภูมิ โมหภูมิ คือ ภูมิที่โง่เขลาไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี ทำให้เกิดการพัฒนาผิด ๆ เกิดสภาพเมืองอวิชชา มีความชั่วช้าต่าง ๆ เต็มไปหมด

    ๕. มีเรื่องอวิชชาอย่างหนึ่ง คือ คนอยากกินมะม่วง แล้วเลยโค่นต้นมะม่วงมากินกัน ได้แก่ การทำลายทรัพยากรเอามากินมาใช้กันเสียหมด อีกหน่อยก็ไม่มีอะไรจะกิน แทนที่ จะอนุรักษ์และเพิ่มพูนทรัพยากรธรรมชาติ จะได้มีกินมีใช้อย่างยั่งยืน

    ๖. มีการกล่าวถึงมหาวิชชาลัย วิชชาเป็นคำทางพุทธศาสนา หมายถึงปัญญา ต่างจากวิชาและวิทยาซึ่งหมายถึงความรู้ ความรู้หมายถึงรู้เป็นเรื่อง ๆ แต่ปัญญา หมายถึงรู้ทั้งหมดรวมทั้งรู้ตัวเองด้วย
    เมื่อรู้ทั้งหมดและรู้ตัวเองด้วยก็สามารถจัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับ ผู้อื่นและสิ่งอื่นด้วย ตรงนี้คือศีลธรรมจริยธรรม ในปัญญาจึงมีศีลธรรมอยู่ด้วยเสมอ แต่ความรู้ไม่แน่ว่ามีส่วนใหญ่ไม่มี มหาวิทยาลัยจึงไม่สามารถป้องกันไม่ให้คนทั้งหมดตกเข้าไปอยู่ในโมหภูมิได้

    แต่มหาวิชชาลัย คือ การศึกษาที่ทำให้เกิดปัญญาเพื่อไปพ้นโมหภูมิ
    จากพระราชนิพนธ์พระมหาชนกจะเห็นได้ชัดเจนว่า มิจฉาพัฒนาคืออะไร สัมมาพัฒนาคืออะไร โลกขณะนี้ขับเคลื่อนด้วยโลภจริตที่เอาเงินเป็นใหญ่ จึงนำไปสู่วิกฤตการณ์ทั่วโลก

    นักปราชญ์ฝรั่งก็พูดกันว่าอารยธรรมตะวันตก ซึ่งเป็นอารยธรรมวัตถุนิยมบริโภคนิยมจะนำโลกทั้งโลกเข้าไปสู่สภาวะวิกฤต ประเทศไทยจะเกิดความร่มเย็นเป็นสุขได้ต้องเข้าใจโมหภูมิและมิจฉาพัฒนา แล้วหันกลับไปหาวิชชาหรือปัญญาและสัมมาพัฒนา

    ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีพระมหาชนกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นปรัชญาการพัฒนาที่ลึกซึ้ง เป็นสัมมาทิฏฐิและสัมมาพัฒนา อาจกล่าวว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชนิพนธ์โดยอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาการพัฒนาไปสู่ความร่มเย็นเป็นสุขจึงต้องอาศัยการมีสัมมาทิฎฐิและสัมมาพัฒนา
     
  15. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    กล่าวถึงพระมหาชนก และต้นมะม่วงที่ไม่มีผล

    บทความ
    เรื่องยุทธศาสตร์พระพุทธศาสนากับการพัฒนาประเทศไทย
    เขียนโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี

    ระบบพระพุทธศาสนาในประเทศไทย น่าจะมีองค์ประกอบอย่างน้อย ๘ ประการ ดังนี้
    ๑. ความเข้าใจหลักธรรม
    ๒. การรับคนเข้าบวช
    ๓. การรักษาพระวินัย
    ๔. การศึกษาของสงฆ์
    ๕. การปกครองคณะสงฆ์
    ๖. การเงินและทรัพย์สมบัติ
    ๗. ความสัมพันธ์กับสังคมและรัฐ
    ๘. พระราชบัญญัติคณะสงฆ์

    องค์ประกอบทั้ง ๘ ประการนี้ สัมพันธ์และส่งผลถึงกันและกัน กล่าวคือ

    1ความเข้าใจหลักธรรม
    เป็นประธาน ความเข้าใจหลักธรรมที่ถูกต้องจะเป็นหลักยึดให้
    องค์ประกอบอื่น ๆ เข้ารูปเข้ารอยไม่ผิดเพี้ยนไป ถ้าเข้าใจไม่ถูกต้องการพระพุทธศาสนาก็จะผัน
    แปรผิดเพี้ยนจนในที่สุดอันตรธาน เหลือแต่มิจฉาทิฎฐิที่เป็นอันตราย ขณะนี้ความเข้าใจ
    หลักธรรมมีน้อยหรือเลอะเลือน สมควรที่จะมีการสังคายนา

    2การรับคนเข้าบวช
    เป็นประตูเข้ามาสู่ความเป็นพระสงฆ์ศากยบุตรผู้จรรโลง พระ
    ศาสนา การรับคนเข้ามาผิดย่อมเป็นการบ่อนทำลายสถาบันพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง
    ขณะนี้การรับคนเข้าบวชขาดความละเอียดพิถีพิถันโดยสิ้นเชิง สมควรได้รับการปฏิรูป

    3การรักษาพระวินัย
    พระวินัยเป็นพลังของหมู่คณะและก่อให้เกิดคุณค่าต่อสังคม การไม่
    ปฏิบัติตามพระวินัยจึงเป็นการทำลายพลังและลดคุณค่าของพระสงฆ์ต่อสังคม การลงโทษ
    พระสงฆ์ที่ทำผิดวินัยก็ขาดประสิทธิภาพไม่เป็นไปเพื่อสร้างความเลื่อมใสศรัทธาในหมู่
    ประชาชน การปฏิรูปการรักษาพระวินัยเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งในการพัฒนาระบบ
    พระพุทธศาสนาในประเทศไทย

    4การศึกษาของสงฆ์
    การเรียนรู้เป็นหัวใจของพุทธศาสนา การมาบวชก็เพื่อมาเรียน
    ดังที่พูดว่ามาบวชเรียน แต่การเรียนรู้ของพระสงฆ์ไทยโดยทั่วไปก็ถือว่าอ่อนแอที่สุด ถ้าเทียบ
    กับพระธิเบตที่ศึกษามาอย่างเข้มข้นและมีประสบการณ์ทางธรรมที่ทำให้ผู้คนทั่วไปในโลก
    ได้รับประโยชน์ เรื่องนี้ควรได้รับการทบทวนอย่างจริงจัง เพราะถ้าเรื่องนี้อ่อนแอ องค์ประกอบ
    อีก ๗ ประการก็พลอยอ่อนแอไปทั้งหมดและจับสาระสำคัญไม่ได้

    5การปกครองคณะสงฆ์
    เรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังเรื่อยมา เพราะระบบการปกครองคณะ
    สงฆ์จัดขึ้นตามการปกครองทางบ้านเมืองซึ่งเป็นระบบอำนาจ การพระศาสนาเป็นระบบธรรม
    การปกครองทางบ้านเมืองเป็นระบบอำนาจ ระบบอำนาจเป็นธรรมย่อมไม่เข้ากัน ระบบการ
    ปกครองบ้านเมืองด้วยอำนาจก็ล้าสมัยแล้ว ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาเลยว่าระบบการ ปกครองคณะ
    สงฆ์ควรได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยและเพื่อเอื้อเฟื้อต่อการปฏิบัติตามพระธรรมวินัย แต่เรื่องนี้
    เป็นเรื่องยากที่ยังหาความเห็นพ้องลงตัวไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงด้วยอำนาจคงจะทำไม่ได้และทำ
    ให้เปลี่ยนแล้วสามารถทำงานให้เกื้อหนุนพระธรรมวินัยได้เป็นเรื่องยากยิ่ง คงจะต้องใช้การวิจัย
    และพัฒนาเข้ามาเป็นเครื่องมือดังจะได้กล่าวต่อไป

    6การเงินและทรัพย์สมบัติ
    การเงินและทรัพย์สมบัติของพระและของวัดเป็นเรื่องใหญ่
    เป็นของมีคมที่บาดใจ และบาดพระธรรมวินัยได้ง่าย ในสมัยพุทธกาลพระพุทธองค์และ
    พระสงฆ์สาวกไม่ได้บริหารวัด ฆราวาสเป็นผู้บริหารวัด พระพุทธองค์และพระสงฆ์สาวก
    บริหารธรรม ดังที่พระเจ้าพิมพิสารทรงดูแลวัดเวฬุวันที่กรุงราชคฤห์ อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็น
    ผู้ดูแลวัดเชตวัน และนางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นผู้ดูแลวัดบุพพารามที่กรุงสาวัตถี เป็นต้น เมื่อ
    ครั้งท่านปัญญานันทะไปครองวัดอุโมงค์ที่เชียงใหม่ ท่านเล่าว่าท่านไม่ต้องบริหารวัดเลย เจ้าชื่น
    สิโรรสทำให้หมด ท่านแสดงธรรมอย่างเดียว
    ในสมัยพุทธกาลที่เรียกว่าวัดก็ไม่ได้มีทรัพย์สมบัติอะไรมากมาย สมัยนี้วัดมีทรัพย์
    สมบัติที่มีราคาค่างวดมหาศาล สมภารต้องเป็นผู้บริหารทรัพย์สมบัติอันมโหฬารเหล่านี้ หมด
    เวลาไปกับการบริหารทรัพย์มากกว่าบริหารธรรมนี้จะเป็นไปตามหลักธรรมละหรือ แล้วก็ไป
    เกิดเรื่องเกิดราวกันบ่อย ๆ เช่นว่า สมภารร่ำรวยมีเงินทองมากมาย แล้วพาลเชื่อมต่อไปเป็นเรื่อง
    สีกา หรือหาไม่ก็เป็นช่องโหว่ที่ฆราวาสบางคนมาหากินกับวัด หรือดังที่พูดกันติดปากว่า แบ่ง
    กันคนละครึ่ง การวิจัยให้รู้สถานภาพทางการเงินและทรัพย์สมบัติของพระและของวัด และ
    พัฒนาให้มีความถูกต้อง จะเป็นคุณต่อการพระศาสนา ทำให้ระบบพุทธศาสนามีพลังของความ
    ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อสังคมยิ่ง ๆ ขึ้นเป็นเอนกประการ

    7ความสัมพันธ์กับสังคมและรัฐ
    พุทธบริษัทประกอบด้วยทั้งพระและฆราวาส
    ประสานกัน สมัยนี้ในทางธรรมเสื่อมด้วยกันทั้งคู่ และพระกับฆราวาสแยกกันแบบ “ชั่วช่างชีดี
    ช่างสงฆ์” ในด้านหนึ่ง และ “เรื่องของชาวบ้านพระไม่เกี่ยว” อีกด้านหนึ่ง เป็นส่วนสุดทั้ง ๒
    ไม่ใช่ทางสายกลางแห่งสัมพันธภาพอันควร ในสมัยปัจจุบันสังคมมีความเชื่อมโยงสลับซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต่างจากสังคมในสมัยพุทธกาลสุดประมาณสมควร
    จะมีการ ทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างพระสงฆ์กับสังคมในเชิงเกื้อกูลต่อกัน อันยังให้เกิดทั้ง
    ความ ตั้งมั่นแห่งพระธรรมวินัย และทั้งสังคมแห่งการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ แท้ที่จริงศีลคือ
    การที่มีการอยู่ร่วมกันด้วยสันติระหว่างมนุษย์กับมนุษย์และระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ไม่ว่า
    สังคมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างใด ๆ มนุษย์ก็ต้องสามารถเรียนรู้ที่จะมีการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ
    หรือศีลได้ ศีลจึงกลายเป็นกระบวนการทางปัญญาอย่างยิ่ง ไม่ใช่เป็นการให้และรับศีลอยู่
    เท่านั้น อันเป็นสภาวะสถิต ไม่เกิดปัญญาแห่งการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ
    ในครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์และพระสงฆ์สาวกไม่ได้ขึ้นกับรัฐใดรัฐหนึ่ง แต่มีอิสระ
    (เหมือนนกที่บินไป) ประกอบด้วยปัญญาและเมตตาอันไพศาล สั่งสอนตั้งแต่กระยาจก จนถึง
    เศรษฐี จนถึงพระราชา พระพุทธศาสนาในประเทศไทยอยู่ในความอุปถัมภ์ของรัฐมาโดย
    ประวัติศาสตร์ จึงมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐกันมาจนเป็นปรกติธรรมดา ในขณะที่รัฐก็
    เปลี่ยนแปลงไปมาก สังคมก็เปลี่ยนแปลงไปมาก น่าจะมีการทบทวนว่าพระสงฆ์กับรัฐควรจะมี
    ความสัมพันธ์กันเช่นใดจึงจะงาม ถูกต้องตามพระธรรมวินัยและมีประโยชน์เกื้อกูลกัน

    8พระราชบัญญัติคณะสงฆ์
    เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันมากว่าที่ถูกที่ควรควรเป็นอย่างไร
    และหาความลงตัวมิได้ และคงจะไม่ได้ถ้าองค์ประกอบทั้งหมดตั้งแต่ข้อ ๑-๗ ดังกล่าวข้างต้นยัง
    ไม่ลงตัว เพราะลักษณะของระบบพระพุทธศาสนาที่พึงประสงค์จะมากำหนดว่าพระราชบัญญัติ
    ควรเป็นอย่างไร และพระราชบัญญัติจะเอื้อเฟื้อต่อระบบพระพุทธศาสนาที่พึงประสงค์อย่างไร
    ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก มิใช่สักแต่จะทำด้วยอำนาจ แล้วก็ไม่สามารถแก้ปัญหาของระบบการ
    พระพุทธศาสนาได้จริง
    เรื่องของพระพุทธศาสนานั้นเกี่ยวข้องกับสถาบันทางสังคมหลายสถาบัน เช่น สถาบัน
    พระมหากษัตริย์ รัฐบาล ระบบราชการ คณะสงฆ์ พระสงฆ์ และประชาชนโดยทั่วไป ความ
    เข้าใจและความต้องการของแต่ละฝ่ายไม่ตรงกัน ไม่มีสถาบันหนึ่งใดมีความพร้อมในตัวเอง
    และมีพลังพอที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบพระพุทธศาสนาได้ เพราะองค์ประกอบ
    ต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องยาก ๆ ทั้งสิ้น และยังไม่มีความรู้พอเพียงในเรื่องนั้น ๆ ใน
    สภาพอย่างนี้วิธีการที่นำไปสู่การพัฒนาระบบพระพุทธศาสนาได้ คือ การวิจัยระบบพระพุทธศาสนา
    ควรจะมีทั้งพระและฆราวาสที่เข้าใจพระพุทธศาสนาร่วมกันวิจัยระบบพระพุทธศาสนา โดย
    เชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาร่วมกันตั้งโจทย์วิจัย หรือร่วมวิจัย เมื่อวิจัยได้ความรู้มาก็นำมาสู่การ
    เรียนรู้ร่วมกันของผู้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง โดยอาศัยความรู้ที่ชัดเจนในเรื่องหนึ่ง ๆ และ
    โดยการเรียนรู้ร่วมกันในความรู้นั้น ๆ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง ความรู้และการ
    เรียนรู้ร่วมในการปฏิบัติ จนมีปริมาณมากพอที่จะถึงจุดเปลี่ยน ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น นี่
    คือที่เรียกว่า การวิจัยและพัฒนา (Research and Development = R&D) อันหมายถึง การวิจัย
    เพื่อพัฒนาหรือการวิจัยในการพัฒนา อันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ยาก

    โดยที่การพัฒนาระบบพระพุทธศาสนามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความยั่งยืนของ
    พระพุทธศาสนา และต่อบทบาทของพระพุทธศาสนาในการสร้างความร่มเย็นเป็นสุขใน
    ประเทศไทย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมการศาสนา สกว. สภาวิจัย ควรร่วมกัน
    ส่งเสริมให้มีกลุ่มผู้วิจัยที่เหมาะสม ทำการวิจัยระบบพระพุทธศาสนาในประเทศไทยโดยนัย
    ดังกล่าวข้างต้น ต้องมีความพิถีพิถันและความประณีตในการจัดการ ต้องมีกลุ่มที่เหมาะสมก่อ
    ตัวขึ้นเอง จะไปใช้คำสั่งให้เกิดคงจะไม่ได้ ทางที่ดีบุคคลที่เหมาะสมควรจะก่อตัวขึ้นเอง และ
    องค์กรต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นเข้าสนับสนุน อาจมีสถาบันวิจัยระบบพระพุทธศาสนาเป็น
    สถาบันของรัฐที่เป็นอิสระ โดยไม่ใช่ระบบราชการ ทำนองเดียวกันสถาบันวิจัยระบบ
    สาธารณสุข (สวรส.) และสำนักงานปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติ (สปรส.) ก็ได้ ขอย้ำว่า งาน
    ยาก ๆ ที่ต้องการกระบวนการทางปัญญาต่อเนื่องเช่นนี้ ถ้าตั้งเป็นหน่วยงานในระบบ ราชการ
    จะทำงานไม่สำเร็จ ควรศึกษาองค์กรใหม่ ๆ ที่เป็นองค์กรของรัฐที่ไม่ใช่หน่วยราชการ อันมีมาก
    ขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย

    ใกล้ถึงเวลารมควัน
    โปรดติดตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2011
  16. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    น่าทึ่งจริงๆครับ กับข้อมูลในกระทู้นี้

    พึงได้มีโอกาศติดตามอ่านกระทู้นี้

    ไม่ทราบว่าพอจะหาซื้อหนังสือพระมหาชนกได้อยู่ไหมครับตอนนี้

    อยากได้มาอ่านดูเองนะครับ

    และไม่ทราบว่าจะมีการทำสรุปเรื่องราวทั้งหมดหรือป่าวครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เห็นมีที่ร้านนายอินทร์นะ รีบไปซื้อเลย เพราะว่าก่อนหน้านี้ขาดตลาดมานานจ้า
     
  18. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    @พี่ somyod เจ้าของหนังสือ ตามรอยพระมหาชนก กำลังดำเนินการกับทางสำนักพิมพ์ครับ :cool:

    แต่เรื่องนี้เรื่องใหญ่ เกี่ยวข้องกับบ้านเมืองและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
    อาจจะไม่ได้ออกสู่สาธารณะชน ก่อนวิกฤติบ้านเมือง
     
  19. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    คนเล็กคนน้อย จะช่วยกันเปลี่ยนประเทศได้อย่างไร?


    ปูรณมีมหาวิชชาลัย "มหา-ลัยจิตอาสา"
    สร้างระบบการศึกษาที่พาชาติออกจากวิกฤติ ตอนที่1


    บทสนทนาจากกลุ่ม เครือข่ายพุทธชยันตี~สังฆะเพื่อสังคม 29 ก.ค. 54
    หลังจากคุยเรื่องปัญหาการศึกษาบ้านเรากับพี่ๆน้องๆในกลุ่ม ก็ได้ความคิดว่า
    น่าจะตั้ง "มหา-ลัยจิตอาสา" ขึ้น

    @dday:> ผมมีความฝัน จะตั้งมหาลัยจิตอาสา

    @วิษณุ:> ถ้าจะทำเรื่องนี้ ที่จริงวง พุทธชยันตี-สังฆฆะเพื่อสังคมก็เปิดประเด็นคุยได้... วาระการศึกษา สร้างสังคมคุณธรรม......@พี่น้องสารภี ช่วยขยับเรื่องนี้ได้นะครับผมว่า

    @dday:> งานช้างเลย แต่น่าจะทำได้
    เพราะเป็นมหาลัยที่ไม่มีตึก ไม่ต้องจ้างอาจารย์สอน

    @วิษณุ:> มี ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ที่มหิดล อีกคน และพี่ปรีชา ร้านเบิกม่าน ก็คิดก็พูดเรื่องนี้...อาจลองหา ความหมายของ มหาวิทยา่ลัย ชีวิต ที่ทางอโศก ทำไว้หลายปีก็ได้ครับ

    @dday:> แค่มาวาง จัด ออกแบบระบบการเรียนรู้ ระบบการทำงานจิตอาสา ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ
    เปิดวงคุยแลกเปลี่ยนกันเลยดีไหมครับ ^^

    @วิษณุ:> รู้จัก อ.มิชิตา มั้ยล่ะ วงนั้นก็ได้นะครับ

    @dday:> ช่วยแนะนำด้วยครับ

    @วิษณุ:> หรือไม่ก็ลอง เข้าไปหา คนที่เป็นตัวจริงเสียงจริง ที่คิดและทำเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ของพี่มันแค่ฉาบๆโฉบๆ ไม่ได้ลงลึกครับ

    @dday:> จริงๆแล้ว เครือข่ายสังฆะ นี่ก็ตัวจริงทั้งนั้นนะครับ ^^

    @วิษณุ:> Volunteer Spirit Network Staff
    ใน FB ชื่อนี่อ่ะ พรรคพวกเราทั้งนั้นครับ


    @dday:> แค่สร้างระบบคนทำงานจิตอาสา ป้อนพระนักพัฒนาในเครือข่ายทั่วประเทศ ก็เป็นมหาลัยจิตอาสา ในความหมายที่ผมมองแล้วครับ ^^

    @วิษณุ:> นั่นก็ได้ครับ
    รอแต่..พี่น้องสารภี พม. ทำเวทีรวมพลคนจิตอาสา ทั้งประเทศ อีกรอบครับ


    @dday:> ครับ ผมว่าเริ่มจากเล็กๆแบบนี้ หาคนอาสาช่วยพระทำงาน มหาลัยนี้ ก็เป็นรูปเป็นร่างแล้วครับ:)

    @วิษณุ:> ดีครับ

    @dday:> ว้าว ดีเลยครับ มีเวทีที่น่าสนใจ

    @วิษณุ:> ทาง วงโน้น จะมี เครือข่ายจิตอาสา และ CSR ที่ทำกันมาสัก 6-7 ปีแล้ว

    @dday:> เกิดแน่ งานนี้ มาลัยจิตอาสา
    แค่ชื่อ ก็พอทำให้มหาลัยในระบบหันมามองได้แล้วครับ
    ^^

    @วิษณุ:> ทาง วงโน้น จะมี เครือข่ายจิตอาสา และ CSR ที่ทำกันมาสัก 6-7 ปีแล้ว
    นอนก่อนนะครับ ภาวนาให้สำเร็จ ... ชื่อดี แต่ขอเนื้อในให้ชัดด้วยนะครับ อิอิ จะได้แข็งแรง


    @dday:> แจ้งเกิด มหาลัยจิตอาสา ^^

    @วิษณุ:> เอา จัดไป

    @dday:> สร้างกระแสให้สังคมต้องหันกลับมามองหน่อย
    อิอิ
    ช่วยกันครับ มีจอมยุทธ์อยู่ในนี้หลายคน สำเร็จแน่ครับ
    ต้องถามพระอาจารย์ในเครือข่ายว่าท่านอยากได้ลูกศิษย์เก่งๆไว้ช่วยงานไหม
    มหาลัยจิตอาสา จะจัดให้ ^^
    แต่มีข้อแม้ว่า พอ.ต้องมีเวลาดูเด็กๆ +ใช้งานเต็มที่หน่อย

    นึกอะไรดีๆได้ครับ
    มหาลัยจิตอาสานี้
    ไม่อยากทำให้มันเชยๆ
    อยากทำแบบอินเตอร์

    @dokdoy สิ่งที่มนุษย์ต้องมากที่สุดคือความสุข
    จะหาจากที่ไหนคับ

    23:28
    @dday:>เราจะเปิดรับอาสาสมัคร ต่างชาติ ที่สนใจเรียนรู้พุทธศาสนา การใช้ชีวิตแบบ พอเพียง มาช่วยด้วย
    พอ.วินย์ท่านน่าจะถนัดเรื่องนี้
    รับอาสาสมัคร ต่างชาติ มาช่วยจุดกระแส ในเมืองไทย
    สร้างค่านิยม

    แท้จริงแล้วความสุขที่มนุษย์ต้องการนั้น
    ไม่ต้องหา หรือรับจากไหนครับ แค่เป็นผู้ให้ไปเท่านั้น

    จบการสนทนา...

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2011
  20. ธัมมะอาสา

    ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    คนเล็กคนน้อย จะช่วยกันเปลี่ยนประเทศได้อย่างไร?


    ปูรณมีมหาวิชชาลัย "มหา-ลัยจิตอาสา"
    สร้างระบบการศึกษาที่พาชาติออกจากวิกฤติ ตอนที่2


    บทสนทนา(บางส่วน)กับคุณ heureuse ก.ค.-ส.ค.54

    @dday:> เมื่อไหร่จะกลับมาเมืองไทยอะครับ มาช่วยกันทำโครงการดีกว่า ^^

    @heureuse:> ยังไม่ใช่เวลาสำหรับหนูพี่..หนูขอโทษด้วย เเต่หนูมีภารกิจที่จะต้องทำ หลายอย่างเพื่อให้พ่อเเม่สบายก่อนเพราะหนูได้สัญญาเขาท่านไว้.เเต่เมื่อเพียงพอ
    เเล้วจะกลับไปตั้งหลัก พัฒนาบ้านเราเเน่นอน วางหลักไว้ในใจอยู่เเล้วว่าอยากช่วยคนอื่น
    พี่อย่าห่วง ว่าเเต่พี่ก็นะ...หนูนับถือเลยนะ กำลังใจสุดยอดมากเลย เเต่ชื่นชมนะ ทำต่อไป ถึงหนูทำอย่างพี่ไม่ได้เเต่หนูก็ชื่นชม


    @dday:>(ได้แค่คิดกะสื่อสาร ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันซะที ><..)
    อย่าลืมกลับบ้านของเรา และมาอยู่แถวภาคเหนือก่อน ต้น2013นะ

    @heureuse:> มีคนบอกว่า รูปหนูที่ติดเข็มกลัด
    รูปนี้
    เขาบอกว่า ดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่ฝั่งอินเดีย ลังกาเสียมากกว่า และดูเหมือนว่าทางมหาเถรก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่


    @dday:>มันธงพระพุทธศาสนา นานาชาติอะนะ คงต้องส่งประวัติธงนี้ให้เขาอ่าน

    ความหมายของแต่ละสีดีมากเลย

    @dday:>ตอนนี้กี่โมงแล้วอะครับ
    @heureuse:>บ่ายสาม13จ้า
    @dday:>อยู่คนละมุมโลกเลย
    @heureuse:>อยากไปอินเดียเน๊อะ
    @dday:> ^^ ศรีลังกา น่าไปกว่าน๊า ดูคนค้นคนแล้วใช่ไหมครับ
    @heureuse:>อันไหน ยังมั้ง ขอลิ้ง อยากดู
    @dday:> ชาวศรีลังกา น่ารักดีครับ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=TphUvW3rktI"]http://www.youtube.com/watch?v=TphUvW3rktI[/ame]
    @heureuse:>คราวตอนอยุ่ไทย หนูคิดบ่น อยากไปอินเดียๆ
    ได้ไปจริงๆด้วยอ่ะ ไปเปลี่ยนเครื่อง ๕๕๕


    @dday:> (ในลิ้งที่พี่ให้) อันนี้ท่านพูดไว้น่าคิด
    ปี ๒๕๕๕ เมืองไทยจะพ้นจากวิกฤติการณ์ เพราะหลังจากที่กัดกันจนตายทั้งคู่แล้ว นั่นแหละจึงจะหันหน้ามาปลูกผักปลูกผลไม้กินกัน เมื่อไม่มีอะไรเหลือแล้ว

    @heureuse:> ดูท่าเเล้วเมืองไทยก็ไม่ห่างจากเเบบนั้น เเต่เราดีที่มีบารมีพระเจ้าอยู่หัว ไม่งั้นคงเเย่กว่านี้
    @dday:> อืม แต่ใกล้ที่ท่านจะ.......
    @heureuse:>หมายถึงประมาณว่า จะ......(....ไป)น่ะหรอ
    ถ้ายังงั้นก็คงต้อง ระวังภัยธรรมชาติด้วย จากคนด้วยช่วงนั้น
    เพื่อนหนู ตอนนี้เขาเป้น ตร. อยุ่ สามจ. เขาเคยฝันว่า เมื่อท่านไปเเล้ว จะมีน้ำมาเป็นคลื่นจาก ภาคใต้กับตะวันตกหรือไงนี่ล่ะ


    @dday:> บางทีก็อยากให้มันเกิดเร็วๆนะ ช่วงนี้มันช่วงทรมาณ กะช่วงเตรียมการ
    @heureuse:>ไม่ได้หรอก ขึ้นอยู่กับกรรม
    @dday:>ถึงจะรู้ล่วงหน้าแต่ว่า ยังทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเลย
    อืม หรือว่าทำใจดี ^^

    @heureuse:>ก็อยากให้พี่สบายใจอ่ะนะเเต่ก็เข้าใจ
    ก่อนจะทำใจ ให้สู้ถึงสุดๆก่อนเเละกัน
    บางที อาจจะฟื้นต้นมะม่วงได้ เมื่อมันล้มเเล้วก็ได้นะ
    ตอนนี้มันอาจจะอยู่ในขั้นสับสนอลวน


    @dday:>เหลือไม่กี่เดือน จะสิ้นปีละ
    ทำยังไงถึงจะ สร้างชุมชนพอเพียงสัก84 ชุมชน ต้นแบบให้ในหลวงดี

    @heureuse:>หนูก็เคยคิดเมือหลายปีมาเเล้ว
    เขียนไว้จน หายหมดเเล้ว
    ที่หนูเคยคิดคือ อยากซื้อทีหาที่ให้คนที่ลำบากอยู่ เเล้วก็ให้เขาใช้ชีวิตเเบบพอเพียง
    เเต่ยังไม่ทำ เพราะหนูยังไม่มีเงิน


    @dday:>นั่นละ รื้อฟื้นกลับมาใหม่ พี่รู้ละ ว่าจะขอให้น้องช่วยอะไรดี
    @heureuse:>อะไรหรือคะ
    @dday:>เดียวพี่จะเปิดรับอาสาสมัครนานาชาติ จะให้น้องช่วยประสานให้นะ :)
    รับคนที่สนใจเศรษฐกิจพอเพียง สนใจมาเรียนรู้วิถีชีวิตชาวพุทธ สนใจศึกษาพุทธศาสนา

    @heureuse:> หนูไม่ค่อยรู้จักคนเท่าไรอ่ะ กลัวไม่มีคนเชื่อถือ
    @dday:> ไม่เป็นไรจ้า ช่วยเอาป้ายไปแปะไว้ตามมหาลัยก็พอแล้วจ้า
    ^^ อย่างน้อยก็ได้ละ1ประเทศ
    @heureuse:>กะลังคิด เเล้วถ้าเขาโฮเค เเล้วเราจะทำไงต่อไป
    @dday:> ตอนนี้ จะมีฝรั่งกลุ่มหนึ่งที่หันมาสนใจพุทธ เทรนด์กำลังมาเลย
    @heureuse:>พี่ช่วยเขียนเเบบ โครงการมาหน่อยจิได้ป่ะ ยังไง เดี้ยวเอาไปติดที่สถายทูตก็ได้ คือหนูไม่รุ้จะอธิบายเขาว่าไงดี

    @dday:>อืม.. ทางนี้พี่จะช่วยกันจัดระบบงานอาสาสมัคร ในบ้านเรา
    จ้าได้จ้าแต่ไม่รู้จะคลอดตอนไหนนะ ทัน5ธันวาก็ดี ^^
    @heureuse:> หัวข้อคือ สร้างหมู่บ้าน พอเพียงใช่ป่ะ

    @dday:>ถ้าทั่วโลก เกิดภัยพิบัติ คนเหล่านี้ที่มีบุญพอก็จะได้มาหลบภัยที่ประเทศเรา
    @heureuse:> สาธุ มันจะไปได้ป่าวมะรู้ดิ ขนาดหนูเอง ยังปลงเลย
    @dday:>ได้สิ ถ้าเราตั้งใจซะอย่าง มีน้องช่วยทั้งคนจะกลัวอะไร :)
    ทางนี้ก็มีเครือข่ายสังฆะเพื่อสังคมอยู่
    แต่พี่เป้นคนเล็กๆ ไม่มีบทบาทอะไร แต่จะลองเสนอทางนี้ดู
    พระบ้านเราจะได้มีลูกศิษย์เป็นฝรั่ง น่าสนุกดีออก

    @heureuse:>ที่สำคัญรายละเอียดโครงการ
    @dday:>คงต้องมีเว็บไซต์ ทางน้องหรืออาสาสมัคร จะได้ทราบรายละเอียด
    @heureuse:> รับอาสาสมัครทำหมู่บ้านพอเพียง 84หมูบ้าน84พรรษาในหลวง
    @dday:>ใช่ครับ ละก็ช่วยงานพระสงฆ์นักพัฒนาด้วย

    @heureuse:>เเล้วหมู่บ้านพอเพียง ต้องเป็นอย่างไรบ้างคงต้องเตรียมตรงนี้อีก
    @dday:>อาจจะต้องไปทีละขั้น ช่วยงานพระสงฆืนักพัฒนาทั่วประเทศก่อน
    จากนั้นก็ค่อยใช้ฐานบารมีของพระในพื้นที่ ชวนชาวบ้านทำโดยมีอาสาสมัครนานาชาติช่วย
    @heureuse:>เหมือนคล้ายๆว่า หมู่บ้านต้นแบบ ตัวอย่าง ซักหนึ่งสองหมู่บ้าน หลังจากนั้นก็รับสมัครเพิ่ม พี่ มันมีอยู่สองอย่างคือ หาที่ใหม่ กับ พัฒนาหมู่บ้านที่มีจริงๆอยู่เเล้วให้หันมาพอเพียง

    @dday:>ใช่จ้า คิดเหมือนพี่เลย ทั้ง2อย่าง แต่สร้างใหม่อาจจะง่ายกว่า
    คงต้องแล้วแต่สถาพพื้นที่และบริบทที่พระนักพัฒนานั้นๆอยู่
    พี่ได้ไปดูที่นครสวรรค์มา เจ๋งมาก 1ไร้แก้จน 1ไร่1แสน ประมาณนี้
    คือพอจริงๆ พอกินและพอสำหรับช่วยเหลือผู้อื่น

    อาจต้องทำแบบ หมู่บ้านจัดสรรค์
    จัดสรรค์ี่ที่ดินแค่คนละ1ไร่ แต่อยู่ได้อย่างมีความสุข +มีวิถีปฎิบัติธรรม ทำบุญร่วมกัน ทุกวันพระ เป็นต้น

    @heureuse:> ทำไม พี่คิดเหมือนหนูเลยล่ะพี่ อันนี้คิดมาหลายปีเเละ
    @dday:> อืม..นั่นละเราจึงต้องมาช่วยเรื่องนี้ยังไงละ
    ตัวอย่าง 1ไร่แก้จน ที่นี่ดีมาก ชื่อว่าสวรรค์บ้านนา

    @heureuse:> พี่เดย์ หนูกำลังเซริทหา หมู่บ้านพอเพียงในเน็ตอะ ถ้าเราประสานไปยังหมู่บ้านพวกนี้เพื่อ ให้เขามาส่งเสริมให้หมู่บ้านที่สนใจ ก็จะได้หมู่บ้านในโครงการเเล้วนะ
    หนูมีเด็กทุนอยู่เกือบทั่วโลกเลยพี่
    พี่เดย์ พี่เร่ง รายละเอียดให้หนูหน่อยนะ๕๕๕๕
    MEMBER กลุ่มนี้มี 730คน ทั่วโลก


    @dday:>มาแล้วหนึ่งแรงกดดัน หุหุ
    @heureuse:> พี่เดย์ ถ้าได้เเล้ว สร้าง pageใหม่ ของโครงการนี้ก็จะดีมากเลยค่ะ
    ยังไม่ต้องถึงกับทำเว็บกะได้

    @dday:>เด็กกลุ่มไหนเอ่ย กว่า 700คน น่าสนใจมากครับ
    @heureuse:> ODOS - One District One Scholarship
    @dday:>น้องได้ทุนนี้ด้วยใช่ไหมครับ เยอะดี ทีนี้เราก็จะมีเครือข่าย อย่างน้อยก็ คนที่จะช่วยประชาสัมพันธ์หาอาสาสมัครทั่วโลก

    @dday:>ว้าวๆ big project นะเนี่ย ช่วยคนทั่วโลกเลย
    พี่ว่าถ้าถึงตอนนั้นเมืองไทย กะอินเดีย คงปลอดภัยจากภัยพิบัติสุด
    โดยเฉพาะสังเวชนียสถาน
    แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ เพราะเมืองไทยยังมีกรรมใหญ่อยู่

    @heureuse:> กำลังดู คนค้นคน ศรีลังกา ซาบซึ้งดีจัง
    @dday:>สาธุจ้า
    วันนี้มีเทพดลใจให้เราได้คุยกันหรือเปล่าเนี่ย
    พี่กำลังเอาเม้าไปจิ้ม จะคุยกับเรา เราก็ทักมาทันทีเลย

    @heureuse:> ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้เเล้ว หนูก็อยากให้โครงการที่เราคิดไว้ มันสานต่อถึงสำเร็จ เมื่อกี้นึกถึง โครงการที่ในหลวงบอก คือ บ ว ร บ้านวัดโรงเรียน สามสิ่งผสานสังคมสงบสุข

    @dday:>อืม..โจทย์เดียวกันเลย ออกแบบให้ตอบโจทย์เฉพาะหน้าที่เราจะเผชิญ
    1.รับมือภัยพิบัติ สร้างชุมชนพอเพียง
    2.ค้ำจุนพระศาสนา โดยหาคนช่วยพระนักพัฒนาทำงาน
    3. เชื่อม บวร เข้าด้วยกัน

    พี่จะสื่อสารสังคม ว่า "มหาลัยจิตอาสานานาชาติ" นะ
    แต่ชื่อจริง คง ตามรอยพระมหาชนก
    คือ มีคำว่า "มหาวิชชาลัย"
    แต่เดี่ยวคนจะงง ก็เลยเรียก ง่ายๆก่อนว่า มหาลัยจิตอาสา

    @heureuse:>โหยนึกถึง รูปนั้นน่ะที่มีฮอ ที่มีดาวเทียม
    @dday:>สร้างคนที่มีจิต โพธิ อาสา = โพธิสัตว์
    โพธิวิชชาลัย

    @heureuse:>หนูตั้งใจไว้เเล้วว่า งานที่เเท้จริงนั้นคืองานเพื่อพุทธศสนา เเต่เหมือนต้องเเฝงกายทำ เเล้วก็ทำงานในสังคมไปพร้อมกัน
    @dday:>^^ ใช้แล้วจะ โลกกับธรรมไม่แยกกัน
    @heureuse:>เกิดมาชาติหนึ่ง ต้องทำดีสักหนึ่งอย่าง..ให้ได้
    @dday:> ^^ สาธุครับ ได้ทำบุญใหญ่ร่วมกัน

    จบการสนทนา...

    [​IMG]


    คนที่มีสองมือเปล่าคนนี้
    ฝันอยากจะสร้างชุมชนพอเพียง
    84 ชุมชนปฎิบัติธรรม 84 พรรษาในหลวง
    ถวายเป็นพุทธบูชา ถวายให้พ่อของแผ่นดิน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...