ประกาศรายชื่อผู้ได้รับองค์สมเด็จพระปฐม มวลสารครูบาอาจารย์

ลำดับที่ 18 คุณ สนธยา
ตถาคต... ย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น
ตถาคตย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น

 

ลำดับที่ 19 ธิดา จองเกียรติ์
"บุญทั้งหลาย ย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย"

 

ลำดับที่20
ศรายุทธ นิยมทอง

"อย่ามัวเมาในวัยว่ายังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ อย่ามัวเมาในความไม่มีโรคมาเบียดเบียน อย่ามัวเมาในชีวิตว่าเวลาของเรายังมีอยู่"

ตกลงกลายเป็นจับสลากไปแล้ว น๊อ " ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง "

 

ลำดับที่20

" ....ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอนคอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ
โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว
ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิด
ว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย

จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า
ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย"

....นี่คือคำสอนที่องค์หลวงปู่มั่นเคยพูดอยู่เสมอๆ




กรุณาส่ง วรุณ อ่อนละมุล

70/17 ซ.25 ถ.เพชรเกษม ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110

อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับ

 

ลำดับ21

" ....ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอนคอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ
โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว
ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิด
ว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย

จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า
ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย"

....นี่คือคำสอนที่องค์หลวงปู่มั่นเคยพูดอยู่เสมอๆ




กรุณาส่ง วรุณ อ่อนละมุล

70/17 ซ.25 ถ.เพชรเกษม ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110

อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับ

 

ลำดับที่ 25
ชื่อ เกียรติชัย ชุ่มมงคล

คติธรรมที่ชอบ
ธรรมทั้งหลายมีนิพพานเป็นที่สุด

 

" ผู้มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และ เทวดา "

" ผู้ให้สิ่งเลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศกว่า "

ขออนุโมทนาสาธุการบุญทั้งหมดทั้งมวลครับ



* เข้ามาอนุโมทนาอย่างเดียวครับ ผ่านผมไปได้เลยครับ

 

ลำดับที่ 22
ยุพาพิน อติกานต์กุล

" ที่ใดมีธรรม ที่นั่นมีเรา"

 

ไม่ขอรับพระนะครับ แค่อยากเข้ามาแลกเปลี่ยนคติธรรมให้เพื่อนๆอ่านครับ
คำสอนหลวงปู่ชา สุภทฺโท

เธอจงระวังความคิดของเธอ
เพราะความคิดของเธอจะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ
เพราะความประพฤติของเธอจะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ
เพราะความเคยชินของเธอจะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ
เพราะอุปนิสัยของเธอจะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต


การรักษาศีล ต้องอาศัยปัญญามาก่อน แต่เราพูดว่ารักษาศีลก่อน ตั้งศีลก่อน ศีลจะสมบูรณ์อย่างไรนั้น ต้องมีปัญญา ต้องค้นคิดกายของเรา วาจาของเรา พิจารณาหาเหตุผล นี่ตัวปัญญาทั้งนั้น ก่อนที่จะตั้งศีลขึ้นได้ต้องอาศัยปัญญา...ถ้าปัญญากล้าขึ้นก็อบรมสมาธิให้มั่นขึ้นไป เมื่อสมาธิมั่นขึ้นไป ศีลก็สมบูรณ์ขึ้น สมาธิก็กล้าขึ้นอีก เมื่อสมาธิกล้าขึ้น ปัญญาก็กล้ายิ่งขึ้น สามอย่างนี้เป็นไวพจน์ซึ่งกันและกัน​

หลวงปู่ชา สุภทฺโท​

 

ลำดับที่23
ธนกร โฆษิตพิสิฐพร

หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อเคยสอนผมกับภรรยาว่า ศีล 5 8 10 227 รวมเป็น 1 เดียวคืออยู่ที่การควบคุมจิต(หรือใจ)ให้ได้ ศีลทุกข้อรวมอยู่ที่นี้ที่เดียว ให้รักษาและทรงจิตให้ดี ก็ไม่ต้องหว่งเรื่องจะผิดศีล

 

ลำดับที่ 18
สมเจตน์ แสงศศิธร

1.ให้ตั้งจิต ที่จะละชั่ว - ทำดี ให้ได้ก่อน
2.ให้ขจัด ความทุกข์และโทมนัส ที่ซ่อนไว้
3.ให้ทำลาย ความโกรธเกลียดและทุกสิ่ง ที่ฝังไว้
4.ให้ลด ความรู้สึก ชอบใจ-ไม่ชอบใจ ให้น้อยลง
5.ให้ละ ความรู้สึก ฟุ้งเฟ้อและแข็งกร้าว ที่มีอยู่
6.ให้สลาย ความรู้สึก ที่ไม่ดีทั้งมวล ให้สิ้นไป
7.ให้ฝึกตน ให้มีใจ เมตตา-กรุณา อย่างแท้จริง
8.ให้รู้สึก ทำจิตใจ ให้สงบ ก็จบกัน

 

ลำดับที่ 26
นายวุฒิชัย ศรีสนิท

มองเห็นความผิดของคนอื่นเหมือนภูเขา​

​

เห็นความผิดตนเท่ารูเข็ม​

​

ตดคนอื่นเหม็นเหลือทน​

​

ตดตนเองเหม็นไม่เป็นไร​

​

ปากคนอื่นเหม็นเหลือทน​

​

ปากของตนเหม็นไม่รู้สึกอะไร​

 

ลำดับที่ 30
สุประพนธ์ สิริสุกัลย์

"ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้
ล้วนแต่เคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไปสู่การสลายตัวทั้งสิ้น
ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบ"

 

ลำดับที่31
สมชาย เก็จพิรุฬห์

“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร การจองเวร เวรของผู้นั้นย่อมไม่ระงับ”
การขออโหสิ และการให้อโหสิ ซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งสำคัญ

 

ลำดับที่ 32
"สวดมนต์ต้องสวดทุกวัน มันจะต้องมีซักวันที่จิตเราเป็น​สมาธิ คิดดีกับคนอื่น ไม่คิดโกรธเกลียดใคร นั่นเป็นการอโหสิกรรมไปในตัว แล้วการแผ่เมตตาจะได้ผล แต่ถ้ายังคิดไม่ดีกับเขาอยู่ แผ่ไปก็ไม่ได้ผล ดังนั้นจึงต้องสวดทุกวัน"

ชญานนท์ ฟักสิทธิ์
73 ซ.สรงประภา18 ถ.สรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง
กรุงเทพฯ 10210

 

จงรักษาใจ..ให้เหมือน "นาฬิกา" ..
เพราะหน้าที่ของนาฬิกา...
คือ..การอยู่กับปัจจุบันขณะ..
ด้วยสัจจะ และความเที่ยงตรง.. <!-- google_ad_section_end -->
__________________

ลำดับที่ 33 อยากได้มากครับ สมเด็จองค์ปฐม

นายโอมกฤษณ์ ลิ้มฉุ้น
62/246 ม. 2 ถนนศรีวิชัย ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000

 

ลำดับที่ 33
ขออนุโทนาครับ

การปฎิบัติไม่ว่าครูบาอาจารย์องค์ไหนก็ตามไม่ว่า ธรรมยุตหรือมหานิกาย ก็คือศานาพุทธ
ก็คือนับถือ พระรัตนตรัย เหมือนกัน ก็คือลูกศิษย์พระพุทธเจ้าเหมือนกัน ซึ่งไม่ว่าคำสั่งสอน
ที่ครูบาอาจารย์ไหนก็เปรียบเหมือน ธรรมของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็น อกาลิโก เมื่อเราพึงปฎิบัติตามคำสั่งสอนของท่านก็จะรู้ด้วยตัวเอง เพราะธรรมนั้นคือธรรมชาติ

นายยุทธพงษ์ เขาทอง
14/8 หมู่ที่ 1 ซอยโรงน้ำแข็ง 11
ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี
11000

 

ลำดับที่35 ขออนุโมทนาครับ
ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ

 

ลำดับที่ 34
ขออนุโทนาครับ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เท่านั้น
กันตพิชญ์ โพธิ์สินสมวงศ์
1835/3-1837 ซ.อุทัยฟาร์ม ถ.พระราม4 อ.คลองเตย ต.คลองตัน กรุงเทพ 10110
ขอบพระคุณครับ

 

ลำดับที่ 37 วรชิต พูลดำ

" แก้ที่ตัวเราเป็นเรื่องธรรม มัวคิดแก้คนอื่น ปรับปรุงคนอื่น ปรับปรุงเรื่องนอก ๆ นั้นเป็นเรื่องโลก แก้ที่ตัวเรามีวันจบ แต่การแก้ที่ภายนอก นั้นไม่มีวันจบสิ้น เพราะโลกนั้นพร่องอยู่เป็นนิจ ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบเลย การเข้าไปมีส่วนแก้ไขปรับปรุงภายนอกนั้นก็ยังอาจเป็นสิ่งที่ต้องทำตามแต่บทบาท เพียงแต่ต้องทำใจว่าแก้อย่างไรก็ไม่มีวันจบสิ้น ไม่มีวันบอกได้ว่าแก้ไขจนดีที่สุดแล้ว และที่สำคัญที่สุด ต้องไม่ละเลยการแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้การเกิดมาชาติหนึ่งของเรานั้นไม่เป็นโมฆะ "


" การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้นนี้มาสงสัยถาม มักจะโต้เถียงกันเปล่า โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน่นนี่ว่าอย่างนั้นอย่างนี้มา …การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริงให้รู้ ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยยังไม่ทำให้จริงให้รู้ ก็เหมือนดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์ "

" รอให้แก่เฒ่าหรือจวนตัวแล้วจึงสนใจภาวนา ก็เหมือนคนหัดว่ายน้ำตอนเรือหรือ
แพใกล้แตก มันจะไม่ทันการณ์ "

" ถึงอย่างไรขออย่าได้ละทิ้งการปฏิบัติ ได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติก็เหมือนนักมวย
ขึ้นเวทีแล้วต้องชก อย่ามัวแต่ตั้งท่าเงอะ ๆ งะ ๆ "

...............คำสอนของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ...................