เครียดเรื่องเรียนมากค่ะ

สวัสดีค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 แล้ว สายวิทย์สุขภาพ
พอดีเพิ่งสอบเสร็จ คะแนนก็ออกมาบ้างเป็นบางวิชาตกมีนทุกวิชาเลยค่ะ
มีอยู่วิชานึงสอบตกคนเดียวของคณะเลยค่ะ เครียดมากๆ ทั้งๆที่พยายามตั้งใจเรียน
อ่านหนังสือมาเต็มที่มากๆ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันทำให้รู้สึกแย่มากๆๆ
พยายามทำใจแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เท่าไหร่ มีโอกาสสุดท้ายตอนไฟนอล
แต่ก็รู้สึกกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีอีก ไม่อยากต้องเรียนซ้ำ อยากจบพร้อมกับเพื่อนๆ

ความพยายามต้องพยายามมากแค่ไหน ถึงจะสำเร็จ ทำไมบางคนอ่านหนังสือนิดเดียวก็สอบได้แล้ว เราอ่านตั้งเยอะแต่กลับทำได้น้อย(มีปัญหาเรื่องความจำมาก) แถมยังโดนเพื่อนว่าว่าอ่านหนังสือมาเปล่าเนี่ย เสียกำลังใจมากๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตตัวเองดี ขอคำปรึกษาหน่อยค่าาา

 

ที่พลาดไปแล้วก็แล้วไป เริ่มต้นใหม่นะคะ

แนะนำให้น้องทิ้งความกังวล และอารมณ์ที่หดหู่ทั้งหลาย และสวดมนต์นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้มีสติและช่วยเรื่องความจำได้นะคะ

เป็นกำลังใจให้ ^^

 

อย่าท้อ ที่ผ่านมาก็แล้วไป

สอบเข้าไปได้นี่ สอบเข้าได้ก็ต้องเรียนได้

ที่ว่าอ่านหนังสือมากแล้วสอบไม่ได้นี่อ่านยังไง อ่านให้จบๆไปก็เรียกว่าอ่านหนังสือเหมือนกันนะ ลองเปลี่ยนวิธีการใหม่ รอบแรกอ่านให้รู้ว่ามีอะไรบ้าง รอบสองต้องหาความสำคัญในเรื่องนั้นๆและต้องจำให้ได้ รอบสามทบทวน แล้วลองดู คราวนี้จะสอบผ่านหรือไม่

ตอนเรียนตั้งใจเรียน กลับบ้านเอามาทบทวน ตั้งใจมากๆ เดี๋ยวก็ดีเอง

 

เครียดได้แต่อย่าเครียดนาน......ไม่ดีต่อสุขภาพกายและใจจ้ะ(||)
ธรรมดาเรื่องสอบตก พี่ก็เคยตกจ้ะน้อง.....

ทีแรกก็เครียด เพราะเราตั้งความหวังไว้สูง อ่านเยอะ คิดว่าจะสอบผ่าน บางทีเราอ่าน
แต่เราเข้าใจไหมล่ะ สรุปได้ไหม ใจความสำคัญอยู่ที่อะไร บางทีก็ไม่ได้ อ่านพอผ่านสายตาแต่ไม่ได้เข้าไปในสมองก็มี

แต่ถ้าเป็นวิชาที่ต้องจำ ก็ต้องจำ (แต่ละคนมีวิธีจำที่ไม่เหมือนกัน) คล้ายๆการจำเบอร์โทรศัพท์ไง เราก็มีวิธีจำของเราจริงไหมล่ะ แต่ถ้าจำไม่หมด ก็เอาเท่าที่จำได้นั่นแหละ
หัวสมองเรามีเท่านี้ พยายามสุดๆแล้ว ก็ไม่เป็นไร

ค่อยสอบใหม่แก้ตัว คงต้องผ่านสักวัน ความพยามจะทำให้น้องจบแน่นอนจ้ะ ไม่ต้องกลัว
ที่สำคัญ การสอบตกไม่ใช่ปัญหาที่น้องต้องเจอเพียงแค่นี้ เมื่อน้องจบ ทำงาน น้องต้องเจอปัญหาที่หนักกว่านี้ และน้องต้องแก้ไขอย่างมีสติและเข้มแข็ง....

การเผชิญกับปัญหาวันนี้...ถ้าผ่านไปได้.....วันหน้าก็ฉลุย ลุยไปเลยจ้ะน้อง

ตัวอย่างที่ไม่ดี น่าสลดใจยิ่งนัก คือการฆ่าตัวตายหนีปัญหา อย่างที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ
น้องอย่าได้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง.....คนฉลาดจริงๆ เขาไม่ทำกันหรอกจ้ะ

จุดมุ่งหมายในการเรียน คือได้ความรู้ความสามารถ วุฒิการศึกษาเอาไปเพื่อทำงานต่อ
เวลาเราทำงานจริงๆ ก็ไม่ได้เน้นเกี่ยวกับที่เรียนมาหรอกนะ อยู่ที่ความสามารถ ความขยัน อดทน ความพยายาม ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ อยู่ในตัวเราแล้วทั้งสิ้น

ขอให้จบออกมา มีงานทำ สุจริต ไม่งอมืองอเท้า เป็นกาฝากสังคม....ถ้าทำไม่ได้อย่างที่กล่าวมา จึงสมควรเครียดมากกว่าจ้ะน้อง(i)

 

ตั้งใจใหม่ อ่านเที่ยวแรกผ่าน ๆ
อ่านเที่ยวสอง แล้วย่อใจความสำคัญ
จับใจความสำคัญที่ฟังอาจารย์บรรยายในห้องเรียน
ให้ได้ว่าเขาต้องการอยากออกสอบเรื่องอะไร
เมื่อจับใจความสำคัญและย่อได้แล้ว
ก็เอาเรื่องย่อ ๆ ที่คิดว่าสำคัญที่สุดมาอ่าน
อ่านจนเข้าใจอย่างน้อยหลาย ๆ เที่ยว
เมื่อไม่เข้าใจตรงไหนให้ค้นคว้าหาคำตอบให้ได้
ผมอ่านอย่างน้อย 4 เที่ยวที่ย่อใจความสำคัญนะ
บางทีอ่าน 10 กว่าเที่ยวยังมีเลยในบางวิชา
อ่านจนกว่าเราจะเข้าใจ อย่าลืมการย่อใจความที่สำคัญ
เพราะหนังสือเล่มหนามากอ่านแล้วจะจับใจความสำคัญไม่ค่อยได้
เราต้องเอามาย่อความด้วยตัวเราเอง...เคล็ดลับคนเรียนเก่ง
สมัยเรียนได้ท๊อปแทบทุกวิชา

 

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะคะ จริงๆมันเรียนเยอะมาก แล้วอ่านหนังสือช้าด้วย
ไม่เคยอ่านหนังสือให้จบๆไปหรอกค่ะ เพราะมันไม่มีประโยชน์ แต่เพื่อนเก่งกันมากๆ
มีน 80 เปอร์เซ็นเลยค่ะ คนท๊อปเกือบเต็มเลย รู้ว่าไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบกัีบเพื่อนๆ
แต่ก็ต้องทำเพื่อให้ตัวเองเรียนผ่านน่ะค่ะ
ปกติสรุปก็ทำแหละค่ะ อ่านสรุปหน้าห้องสอบเกือบ 10 รอบเหมือนกัน
แต่อ่านหนังสือได้มากสุดแค่ 3 รอบ เพราะเรียนเป็น 10 วิชา
ถ้าต้องอ่านถึง 10 รอบอ่านยังไงก็ไม่ทัน ขนาดไม่ดูทีวี ไม่ทำตัวไร้สาระเที่ยวอะไรเลย
กลับมาหอก็อ่านแต่หนังสือ แกะเทป งานก็เยอะด้วยเรียนแต่แต่เช้าเลิกเย็น ต้องออกไปทำงานกลุ่มต่อเกือบทุกวัน เลิก 5 ทุ่ม ช่วงสอบได้นอนน้อยมากๆ
ยอมเสียอิสระภาพมากๆ ออกกำลังกายก็ไม่ได้ออก ทุ่มเทขนาดนี้
ถ้ามันยังน้อยไปก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจ้าาา ส่วนเรื่องสวดมนต์นี่สวดเกือบทุกวันเลยนะคะ น้อยมากที่ไม่สวดเพราะเหนื่อยมากจริงๆก็หลับไปเลย ถ้าจะบอกว่าแล้วมีเวลามานั่งเล่นเน็ตได้ยังไงบอกได้เลยว่า เพิ่งมีเวลามาเล่นนี่แหละค่ะ ที่หอไม่มีเน็ตเล่นหรอกค่ะ
ช่วงนี้เป็นวันหยุด เลยอยากพักผ่อนบ้าง เดี๋ยวจะเครียดมากเกินไป
หลังจากนี้ก็ต้องไปอ่านหนังสือต่อแล้วค่ะ
แต่ยังไงก็จะพยายามให้เต็มที่นะคะ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงก็ต้องยอมรับให้ได้ค่ะ

 

หนูนั่งสมาธิเป็นรึเปล่าครับ ปัญหาเรื่องความจำจะแก้ไขได้ โดยการนั่งสมาธิเยอะๆ

หรืออีกทาง ทำบุญด้วยหนังสือต่างๆ จะให้ดีต้องพิมพ์หนังสือธรรมะ แจกเป็นธรรมทาน

อีกอย่างเป็นการกันเหนี่ยว หนูอาจจะพลาดพลั้งล่วงเกินพระัรัตนตรัยโดยไม่มีเจตนา

ขอให้กล่าวคำขอขมาพระรัตนตรัยบ่อยๆ ต่อหน้าพระพุทธรูปก็ได้

ขอให้เชื่อว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ มองในแง่ดีเข้าไว้

 

อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วไป เราแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น มันเป็นแค่บททดสอบของชีวิต คิดเสียว่ามันเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง เรื่มใหม่เอาข้อมูลทั้งหมดมาทบทวน อย่างชาญฉลาด และวางทุกอย่างให้หมด แล้วถามตัวเองว่าเราควรจะทำอะไรในตอนนี้ อะไรที่จะทำให้เราพุ่งไปข้างหน้าได้ อย่าแบกไว้มันจะหนัก บางเรื่องที่เรายังทำไม่ได้ตอนนี้ก็ยังไม่ต้องทำ

 

สังเกตมั้ยเวลาดูละครเราจำนางเอกนางร้ายด่ากัน เราจำได้แทบทุกคำพูดจำได้เป็นฉากๆเลย กระบวนการทางจิตเริ่มทำงาน สัญญารับภาพและเสียงเกิดอารมณ์ สนุกสนาน หัวเราะร้องไห้ไปกับตัวละคร เสวยเวทนา คราวนี้ลองมาเปลี่ยนตัวหนังสือเป็นหนังบ้างซิ สร้างนิยายซักเรื่องจากข้อมูลในหนังสือนั่นแหละ สร้างนิยายจากกายเรา(สายวิทย์สุขภาพ)
ผู้เขียนเคยใช้สมัยเรียนราม อ่านหนังสือจากชีตหน้าราม อ่านก่อนสอบ 2 ชั่วโมง วิชาทฤษฎีการเมือง สอบหลายครั้งมากในที่สุดใช้วิธีนี้แหละสอบผ่านนะ

 

อ่านเท่าไหร่ไม่สำคัญเท่ากับการที่คุณ จำ มันได้มากแค่ไหน
..


บางคนบอกว่าอ่าน แต่ในขณะที่อ่านนนั้นในสมองคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้
ได้จดจ่อกับสิ่งที่อ่านมากน้อยแค่ไหน

แล้ว ตั้งใจเต็มที่จริงๆอย่างที่พูดหรอป่าว
..
??


หากเรารู้ว่าตัวเองอาจจะช้ากว่าคนอื่น
สิ่งที่เราควรทำคือเริ่มต้นอ่านหนังสือให้เร็วขึ้นกว่าคนอื่น

เริ่มอ่านหนังสือมาเรื่อยๆในทุกวัน อาจารย์สอนจบตรงไหนก็ทวนตรงนั้น
ทำสรุปในความเข้าใจของตัวเองไว้ในแต่ละบทเรียน
พอสองสัปดาห์สุดท้าย ก็อ่านเนื้อหาเต็มอีกรอบ
ก่อนสอบก็มานั่งอ่านที่เราสรุปไว้

แค่นั้นพี่ว่าน่าจะทำให้เราจัดระบบระเบียบเนื้อหาได้ทัน

แต่หากระหว่างเทอมไม่ได้อ่าน แล้วพอกพูนความไม่เข้าใจไว้
สุดท้ายมาเร่งอ่านก่อนสอบสองอาทิตย์

ถึงตอนนั้นพี่คิดว่าเราคงจะไม่ทัน!!
:z1

 

แนบภาพตัวอย่างสรุป note ของพี่ มาให้เราดูเล่น
พี่จะใช้สีฟ้า / สีเขียว เขียนกรอบไว้ว่าประกอบด้วยเรื่องอะไร
จากนั้นจะใช้สีแดงสด เน้นข้อความสำคัญที่เราเก็งไว้ว่าน่าจะออกสอบ
แล้วก็สีอื่นๆ เพื่อทำให้เราไม่ง่วง ก็แล้วเเต่เราเลยว่าอยากระบายอะไรลงไปในนั้น

เพราะเมื่อเราทำ map การอ่านให้ตัวเองแล้วเนี่ย
ก่อนสอบจริงสักไม่กี่วัน เรามาอ่านก็เหมือนกับได้อ่านฉบับเต็มนั้นละ
ฟื้นความจำง่ายมาก
ข้อสอบไม่นอกเหนือไปจากที่อาจารย์สอนเลย

:z1

ที่พี่แนะนำมันเป็นเทคนิคของพี่นะ
แต่ก็คิดว่าน่าจะช่วยได้ เพราะพี่เรียนสายเดียวกับเรานั่นละ