อานุภาพอันอัศจรรย์ของคาถาพาหุง (พุทธชัยมงคลคาถา)

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย สรานุวัฒน์ นวลคำ, 29 กันยายน 2008.

  1. กังหันลม

    กังหันลม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +693
    อยากได้อีกสี่บทหลังจังครับ
     
  2. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    เรามาต่อให้นะคะ อีก4 บทที่เหลือ เอาอันที่4ก่อนนะเพราะเห็นว่า จขกท ยังพิมไม่หมด
    (๔)อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง

    ธาวันติโยชะนะปะถัง คุลิมาละวันตัง

    อิทธีภิสังขะตะมะโนชิตะวา มุนินโท






    ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ





    ปราบมหาโจร ด้วยอิทธิฤทธิ์ พระพุทธเจ้าทรงโปรดองคุลิมาลเมื่อพระพุทธองค์กลับจากบิณฑบาตในกรุงสาวัตถีพบองคุลิมาลองคุลิมาลเห็นเข้าจึงจับอาวุธไล่ตามพระพุทธองค์ แต่ไล่ตามไม่ทันพระพุทธองค์ตรัสให้ องคุลิมาลได้คิด ?เราหยุดแล้ว แต่ท่านสิไม่หยุด? องคุลิมาลเลื่อมใส ขอบวช และตามเสด็จกลับไปกรุงสาวัตถี พักอยู่ ณ เชตวนาราม

    อุปเท่ห์การใช้คาถาพาหุงบทที่ ๔ (๑) ภาวนา ๓ จบ ก่อนออกจากบ้าน แล้วอธิษฐานให้แคล้วคลาดจากศัตรูหมู่พาล สันดานหยาบ และหมู่พวกโจรทั้งหลาย จะแคล้วคลาดจากโจรร้าย และภัยจากการประทุษร้ายจนกลับถึงบ้าน (๒) ภาวนาทำน้ำมนต์คนไข้ที่ถูกผีตายโหงสิงก็ดีนัก แต่เมื่อจะทำน้ำมนต์มาใช้ ให้รำลึกถึงองคุลีมาลจอมโจรผู้เข่นฆ่าแล้วกลับมาเป็นสงฆ์ ขอให้ทำลายภูตผีปีศาจให้กระจายไป รดไปเถิด รดจากหัวถึงเท้าผีเข้าก็ออกแล (๓) ก่อนนอนสวดระลึกถึง ๓ จบ ตั้งใจให้เป็นกำแพงคุ้มครองบ้านเรือน เมื่อโจรเข้าบ้านจะตื่นก่อนแล
     
  3. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    ๕) กัตวานะกัฎฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา


    จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ

    สันเตนะโสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ








    ปราบหญิงแพศยา ด้วยสันติธรรมพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ เชตุพนใกล้เมืองสาวัตถี ครั้งนั้นเกิดลาภสักการะในพระพุทธศาสนามากพวกเศรษฐีให้นางจิญจมาณวิกา ทำอุบาย เข้าออกในพระเชตุพนเนืองๆแล้วเอาท่อนไม้ผูกท้องเข้าในผ้านุ่ง ไปยืนแสดงตนขณะพระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาร้องตู่ว่าพระองค์ทำให้นางมีครรภ์ พระอินทร์และเทพยดา ๔ องค์นิมิตลงมาเป็นหนูกัดเชือกผูกท่อนไม้ขาดแล้วแผ่นดินก็สูบนางจิญจมาณวิกาลงไปในนรก

    คาถาบทนี้ มีอุปเท่ห์ในการใช้ดังนี้ ใช้ขับลูกที่ตายในท้อง หรือ คลอดยาก ให้ท่องคาถาบทที่ ๔ พอมาถึงท่อนที่ว่า ?อิวะคัพภินียาจิญจายะ? ให้เปลี่ยนคำว่า ?คัพ? เป็น ?ขับ? อันหมายถึงการขับ ทำน้ำมนต์สวด ๓ จบแล้ว เป่าลมปราณลงไป เอาไปให้คนไข้กิน เหลือเอาลูบหัว จะเกิดลมเบ่งช่วยให้คลอดลูกได้ ใช้แทนคาถา ?ยะโตหัง? อันเป็นคาถาองคุลีมาลได้เป็นอย่างดี





    (๖) สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง

    วาทาภิโรปิตะมะนังอะติอันธะภูตัง
    ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท

    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    ปราบเจ้าลัทธิ ด้วยปัญญาพระพุทธเจ้าประทับอยู่ในมหาวันใกล้เมืองเวสาลี ครั้งนั้นมีสัจกนิครนถ์บุตร อาศัยในเมืองเวสาลี ถือมิจฉาทิฐิตั้งตนเป็นปราชญ์ มีความรู้มาก ต้องทำแผ่นเหล็กรัดท้อง เพราะกลัววิชาจะทำลายท้องแตกวันหนึ่งพบพระอัสชิ จึงถามปัญหาแก่ท่าน ต่อมาได้ชวนพญาลิจฉวีทั้ง ๕๐๐ ไปป่ามหาวันถามปัญหาแก่พระพุทธเจ้า ขณะนั้นพระอินทร์นิมิตเป็นยักษ์ถือฆ้อน ลอยอยู่บนอากาศเหนือศีรษะของสัจกนิครนถ์ สัจกนิครนถ์นั้นได้ฟังพระธรรมเทศนา จากพระพุทธเจ้าก็ละมิจฉาทิฐิ แล้วตั้งตนอยู่ในพระไตรสรณคมณ์

    โบราณจารย์ ได้บอกอุปเท่ห์การใช้พระคาถาพาหุงบทที่ ๖ นี้ ไว้ดังต่อไปนี้คือ แก้การใส่ไคล้โดยไม่เป็นจริง เฉพาะผู้ที่กล่าวใส่ร้ายเป็นชาย กรรมวิธีเป็นแบบเดียวกับคาถาพาหุงบทที่ ๕ ?นางจิญจามาณวิกา? ทุกประการ ใช้ในการเอาชนะทางด้านการพูด การละเล่น เมื่อจะไปโต้วาทีหรือแสดงการละเล่นประชัน ตลอดจนการแข่งขันที่ต้องใช้โวหารทั้งปวง ให้สวดคาถาพาหุงลำดับที่ ๖ สามจบ ก่อนจะออกไปกระทำการดังกล่าว ระลึกเอาพระบารมีที่ชนะสัจจะกะนิครนถ์เป็นที่ตั้ง เสกน้ำหนึ่งแก้วเป็นน้ำมนต์กินก็ยิ่งดีใหญ่ เมื่อไปถึงสถานที่ที่จะต่อสู้แล้ว ให้ภาวนาคาถานี้ ๑ จบ จะเต้น จะรำ จะโต้วาที ก็ทำเถิดจะเกิดชัยชนะทุกเมื่อแล

    คาถาบทที่ ๖ นี้ ใช้ปิดปากคนนินทาว่าร้ายเราได้อีกด้วย กล่าวคือ ท่านให้เอากระป๋องหรือกล่องโลหะที่มีฝาปิดมิดชิดมาหนึ่งใบ เขียนชื่อ นามสกุล คนที่ใส่ร้ายหรือนินทาว่าร้ายเรา โดยปราศจากความจริงด้วยความเท็จทั้งปวง ให้รำลึกถึงพระบารมีที่ทรงชนะต่อนางจิญจามาณวิกา และสัจจะกะนิครนถ์ เสกด้วยคาถาทั้งสองบทคือ บทที่ ๕ และบทที่ ๖ บทละ ๓ จบ เป่าลงไปที่ชื่อ นามสกุล แล้วแผ่เมตตาซ้ำลงไป อย่าไปผูกพยาบาทจองเวรเขา อธิษฐานให้คนผู้นั้นสงบปาก จากนั้นก็ม้วนกระดาษชื่อลงไปในกระป๋องหรือกล่องผนึกปากให้แน่นหนา เอาบูชาไว้ที่หิ้งพระสัก ๓ วัน แล้วเปิดกระป๋องขึ้นทีหนึ่ง หากยังไม่สงบปากให้ปิดต่อไปจนครบเจ็ดวัน ก็เปิดอีกทีหนึ่ง เขาจะสงบเงียบไปทันที หากยังขืนปากมากเป็นฝีที่ปากหรือที่ลิ้น จะแพ้ภัยไปเอง ห้ามทำเกินเจ็ดวันจะเข้าตัวแล




    (๗) นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง

    ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะทะมาปะยันโต

    อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เตชะยะมังคะลานิ








    ปราบพญานาคจอมพาลด้วยฤทธิ์สู้ฤทธิ์ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เหาะไปสู่เทวโลกพญานัน-โทปนันทนาคเห็นเข้า ก็โกรธว่าพระสมณะเหาะข้ามศีรษะจึงบันดาลขดกายใหญ่พันเขาพระสุเมรุ แผ่พังพานยังดาวดึงส์พระพุทธองค์ส่งพระโมคคัลานะไปปราบ ต่างสำแดงฤทธิ์เดชต่างๆ เป็นโกลาหลภายหลังพญานาคแพ้ฤทธิ์ แล้วตั้งอยู่ในพระไตรสรณคมณ์

    อุปเท่ห์การใช้มีดังนี้ ป้องกันอสรพิษและแมลงป่องทั้งหลาย เมื่อจะต้องไปทำไร่ทำนาดายสวน ดายไร่ บุกป่าดงที่มีอันตรายจากอสรพิษ และแมลงมีพิษต่าง ๆ ให้ตั้งนะโม ๓ จบ สวดพระคาถาพาหุงบทที่ ๗ สามจบ รำลึกถึงบารมีที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงมีชัยแก่นันโทปนันทะนาคราช ขอให้มาป้องกันตนเองด้วย จากนั้นก็เป่าลมพรวดไปที่ฝ่ามือทั้งสองแล้วเอาลูบไล้ที่แขนขาและบริเวณที่ ต้องสัมผัสกับความรกและบริเวณร่างกายที่น่าจะถูกกัดต่อยจากอสรพิษ แล้วยาตราไปเถิด จะแคล้วคลาดจากการขบกัดต่อยของสัตว์ร้าย แม้ไปเหยียบมัน มันก็อ้าปากไม่ขึ้นแล


    (๘) ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง

    พรัหมังวิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง

    ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสาภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ





    ปราบพกาพรหม ด้วยญาณพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นสู่พรหมโลกท้าวพกาพรหมเห็นพระพุทธองค์เสด็จมา จึงเรียกร้องด้วยคำกระด้าง แล้วกำบังกายแต่ก็มิสามารถกำบังกายได้ หมู่พรหมทั้งหลายก็หัวเราะเยาะเย้ยท้าวผกาพรหมได้รับความอับอายยิ่งนัก แล้วพระพุทธเจ้าจึงเทศนาธรรมทรมานท้าวพกาพรหมและพรหม ๑,๐๐๐ ให้สำเร็จมรรคผล



    อุปเท่ห์การใช้คาถาบทที่ ๘ มีดังนี้ คือใช้ ปราบพยศคนดื้อดึง ให้ทำน้ำมนต์ เสกด้วยคาถาบทนี้ ๓ จบ แล้วเอาไปให้กิน คนที่ดื้อดึงถือดีจะลดพยศลง เด็กดื้อให้กินน้ำมนต์ก็จะหายดื้อ จะไปเจรจาปรับความเข้าใจกับคนที่เคยโกรธเคืองมีทิฐิร้าย ก็เสกน้ำมนต์ ๓ จบกินก่อนไปเจรจาและก่อนเจรจาก็ให้ท่องคาถาพาหุงบทที่ ๘ อีกหนึ่งจบ แล้วไปเจรจาเถิดดีนักแล>>


    (๙) เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา

    โย วาจะโน ทินะทิเนสะระเต มะตันที
    หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ

    โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะนะโร สะปัญโญ



    คำแปลบทที่ ๙คนมีปัญญาสวดพุทธชัยมงคล คาถาทั้ง ๘ นี้เป็นประจำ โดยไม่เกียจคร้านพึงขจัดอุปัทวันตรายทั้งหลายได้ บรรลุถึงซึ่ง พระนิพพานอันเป็นสุข?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2011
  4. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    ฝอยพาหุง


    ไหว้คุณพระสัตถาพระมหาอนัตตะคุณ

    มีฤทธิ์อันสมบูรณ์สืบบุราณมานานเมือง
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1040 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>พาหุงแปดบทต้นนั้น คุณอนันต์เอนกเมือง
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1030 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>ช่วยสัตว์ไม่ขัดเคืองล้ำเลิศยิ่งทุกสรรพ์
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1031 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>ถ้าแม้นจะแก้คุณให้ดับสูญสิ้นเสียพลัน
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1032 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>ผีภูตปีศาจอันที่สมมุติมนุษย์ทำ
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1033 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>บทสองคือมาราให้เสกยากินประจำ
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1034 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>มีคุณนั้นเลิศล้ำสะเดาะโรคไม่ราคิน
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1035 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>อนึ่งจะเข้าสู่ไพรสณฑ์จะผจญด้วยไพริน
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1036 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>สารพัดสัตว์กลัวสิ้น ด้วยนาฬาประเสริฐสม
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1037 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>อนึ่งจะจรไปต่างเมืองให้รุ่งเรืองทั่วนิคม
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1038 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>ฝูงชนย่อมนิยมนะโมน้อมเป็นไมตรี
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1025 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>อุกขิตตะขัคให้ภาวนาเกิดลาภาเหมือนวารี
    บูชาทุกดิถี มาสู่ที่สำนักตน
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1026 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>อนึ่งมีศัตรูหมายมาทำร้ายจลาจล
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1027 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>จะให้จิตต์ผู้นั้นวนสามิภักดิ์มารักเรา
    ให้รำลึกพระคาถากัตวาแล้วนึกเอา
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1028 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>ผู้นั้นจะบรรเทากลับใจจิตเป็นมิตรพลัน
    อนึ่งจะพูดให้เขาเชื่อสัจจังเจือเป็นนิรันดร์
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1029 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>เป็นจริงทุกสิ่งสรรพ์ไม่คลางแคลงระแวงใจ
    อนึ่งถูกอสรพิษ ไม่ว่าฤทธิ์สิ่งอันใด
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1041 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>ดับพิษได้เร็วทันใจ วิเศษในบทนันโท
    อนึ่งผจญปัจจามิตร์ทุคคาคิดในมะโน
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1042 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>มิจฉาทิฏฐิโกมนุสโสระอาใจ
    เอตาปิพุทธะอย่าได้ละรำพึงไป
    <v:shape style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" id=_x0000_i1043 type="#_x0000_t75" alt=""><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\POCH\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>พระคุณอนันต์ในอุดมเลิศในชาตรี
    พาหุงทั้งแปดบทท่านกำหนดพระคุณมี
    ยิ่งพื้นพระธรณีจะกำหนดให้ชดชม
    อนึ่งแก้วความเขาปองหาตักน้ำมาโดยนิยม
    สิบนิ้วนั่งประนม ทำน้ำมนต์ด้วยบาลี
    พาหุงทั้งแปดบทเขียนชื่อจดลงทันที
    เสกแล้วเอาวารีชุบขยี้ละลายไป
    สูญสิ้นไม่มีแก่นสารอธิษฐานตามชอบใจ
    โจทก์จนไม่ทนได้ดังทิ้งไข่เหนือศิลา
    จงจำกำหนดแน่เท่านี้แลพระคาถา
    แปดบทดังพรรณนา ยุติกาเท่านี้เอยฯ<O:p></O:p>
     
  5. yu_hongthong

    yu_hongthong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +104
    ขออนุโมทนาบุญนะคะ ขออนุญาตถามท่านผู้รู้ คะ ว่า คือทุกวันนี้ก็สวด พาหุงมหากา คือตอนที่เราสวดเราไม่ต้องแปลใช่ไหมคะ คือสวดทีเดียว 8 บท ตามหนังสือสวดมนต์คะ หรือว่า มีวิธีที่สวดแบบถูกต้อง ขอรบกวนช่วยแนะนำด้วยคะ ขอบคุณมากนะคะ
     
  6. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    ไม่ต้องแปลก็ได้ค่ะ สวดแล้วน้อมจิตนึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า ตามแต่ล่ะบทค่ะ
     
  7. Nok1410

    Nok1410 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0

    อนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ แต่อยากอ่านทั้งหมดควรทำอย่างไรดีค่ะ เพราะดีมากๆเลยค่ะ
     
  8. YuthKrab

    YuthKrab สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4



    อนุโมทนาสาทุ การทำบุญควรอุทิศเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งให้ยิ่งได้ ไม่ยิดติดว่าจะจะต้องทำบุญอย่างเดียว การทำความดีก็อุทิศได้ การสวดมนต์ก็อุทิศได้ อุทิศให้คน ผู้ล่วงลับ สรรพสัตว์ทั้งหลาย เทวดา พรแม่ธรณี,พระแม่คงคามพระเพลิงพระพราย Ect,...​
     
  9. Thammasawasdee

    Thammasawasdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +869
    ธรรมะสวัสดี ^-^

    ขออนุโมทนา สาธุจร้า

    สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...