... แล้วเราจะเล่าให้ฟัง ...

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สายฝนฉ่ำเย็น, 1 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. atzcret

    atzcret สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +2
    ทุกสิ่งเกิดขึ้นแล้วดับไปย่อมเป็นธรรมดา
    ขอบคุณที่มาเล่าเป็นวิทยาทานคร๊า ^^
     
  2. แก้วทิพย์

    แก้วทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +2,435
    คุณอ้อ ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อเอาเรื่องจริงมาแบ่งปันความรู้ หายากค่ะ มีประสบการณ์ชีวิตที่คิดไม่ถึง ขอชมจากใจจริง ลีลาการเขียนเล่า เยี่ยมมากค่ะ อ่านแล้ว วางไม่ลง ขอเป็นกำลังใจค่ะ
     
  3. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
  4. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    วันอังคารนี้...มีโอกาสได้ไปร่วมบวชพระที่อินเดีย...โมทนาบุญร่วมกันนะคะ
    แล้วจะเก็บภาพมาฝากนะคะ...ไม่ทราบว่าจะเกริ่นอย่างไรดี...เพราะเป็นเหตุการณ์
    ที่ไม่คาดคิดมาก่อน...เคยอธิษฐานไว้ว่า...ปีหน้า ถ้าพอเก็บเงินได้ จะพาแม่ไป
    กราบพระพุทธองค์ที่อินเดีย...แล้วจู่ๆ ก็มีญาติธรรม...นำข่าวมาบอกเรื่องบวชลูกชาย
    ตั้งใจว่าจะนำลูกชายไปบวชที่นั่น เป็นเวลา 1 พรรษา...พอได้ยินดังนั้น...ก็ขออนุโมทนา
    ร่วมด้วยกันกับเขา...แต่เขาบอกว่า...อยากให้คุณอ้อไปด้วย...ปฏิเสธไปแล้ว...เกรงใจ
    เขามาก...เพราะค่าใช้จ่ายก็เยอะอยู่เหมือนกัน...แต่ก็จนด้วยน้ำใจที่เขาปรารถนาให้
    จริงๆ...เพราะผู้ที่เชื้อเชิญเป็นผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน...จึงรับคำเชิญไป...สาธุ...
    งั้นไปเซอร์เวย์ก่อนแล้วกันเน๊าะ...ปีหน้าฟ้าใหม่..เก็บเงินได้...จะได้ไม่พาแม่หลงทาง...อิอิ..
    อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ....สาธุธรรมค่ะ ^__^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2011
  5. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ประเทศไทย ฅนไทย อนาคตจะเป็นจังได๋ครับ
     
  6. ส้มจุก

    ส้มจุก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +1,054
    ขออนุโมทนากับคุณอ้อด้วยค่ะ...
    ครั้งหนึ่งในชีวิตถ้าได้ไปที่อินเดีย ก็ถือว่าได้เข้าเฝ้าพระศาสดาอย่างใกล้ชิดแล้วค่ะ...
    กลับมาแล้วช่วยมาเล่าประสบการณ์ด้วยนะคะ

    ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ...
     
  7. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    โดนนเลย เมิลก็ปีเถาะอยู่ในช่วง35-36 พอดี ไม่น่าละร้อนรุ่มอยากเปลี่ยนงาน อยากเลิกกับสามี โอเคคะพี่เมิลจะอดทน ท่องเอาไว้ว่าช่างมัน เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว ขอบคุณมากสำหรับทุก ๆ อย่างนะคะ
     
  8. Kimberry25

    Kimberry25 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +12
    ชอบมากเลยคร้าแต่ยังอ่านไม่หมดทุกหน้า แต่มีอะไรที่คล้าย ๆ คุณอ้อคะ แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างคุณอ้อเลย พอจะมีวิธีแนะนำบ้างมั้ยคะ ปฏิบัติหรือทำยังไงถึงจะทำให้ชีวิตบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง (ดิฉันก็เป็นอีกคนที่เคยทำให้แม่เสียใจ)ทุกวันนี้พยายามจะทำมันดีกว่าที่เลยผ่านมา เป็นกำลังใจให้คุณอ้อนะคะ สู้ ๆ ๆ ๆ คะ ทุกวันนี้ก็ท่องไว้ตลอด ๆ เวลาท้อ เวลาเหนื่อย แล้วคิดถึงหน้าแม่ตลอด เคยคิดหนีปัญหา แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วคะไม่อยากทำให้แม่เสียใจอีก แล้วยังไม่ได้่ทดแทนบุญคุณที่แม่ดูแลดิฉันมาเลย ทุกวันนี้ก็ได้แต่รอ ๆ ๆ สักวันมันจะดีกว่าเดิม สู้คร้า...............
     
  9. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    สวัสดีค่ะ สาวกทุกๆ ท่าน ^ ^

    ก่อนอื่นคงต้องขอ....กราบขอบพระคุณ...ท่านผู้ใจบุญทั้งสองท่าน สามีภรรยา ผู้มีอุปการะคุณของสายฝนฉ่ำเย็น...ที่ได้นำพาเอาอีกหนึ่งชีวิต...ที่ยังพอมีบุญอยู่บ้าง...ติดไปถึงสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์นั้นด้วย...ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน...ตกเครื่อง...เหน็ดเหนื่อย...เมื่อยล้า...ทรมาณร่วมกัน...สาธุ...ได้ไปแสวงบุญร่วมกันจริงๆ....เพราะ...ไปเพื่อเห็นทุกข์....ไปเพื่อเจอทุกข์...เมื่อนั้น...จิตที่พึงพบสุขอันแท้จริง....ก็ตระหนักถึง...ทุกข์...ที่เป็นทุกข์จริงๆ...จนอดที่จะหวนคิดไม่ได้ว่า....คำของพุทธองค์ท่านทรงตรัสไว้แล้วว่า...“เกิดก็เป็นทุกข์ เจ็บก็เป็นทุกข์ ตายก็เป็นทุกข์”...เพียงแค่เกิด....ทุกข์ก็รออยู่ปากทางที่จะออกแล้ว...เด็กที่เกิดมาทุกคน...ให้สังเกตุดีๆ...มักจะกำมือกันเกือบแทบทุกคน...ตามความรู้สึกของฉัน...เขาเหล่านั้น...มาพร้อมกับกรรมที่ติดตามมากับดวงจิตของแต่ละคน...แต่...จะเป็นกรรมดีมากกว่า หรือ กรรมเลวมากกว่า...ก็แล้วแต่วิบากกรรมที่ต้องเผชิญกันต่อไป....

    อีกทั้งลูกๆ ของญาติธรรมทั้งสอง...ก็ดูแลฉัน...เป็นอย่างดี...ไม่ได้ขาดตกบกพร่องอะไรเลย...นำพาไปสถานที่ทั้งสามได้ไม่มี...ขาดตกบกพร่อง...ด้วยเวลาเรามีน้อย จึงได้ไปเพียง 3 สถานที่....แต่เพียงเท่านี้...ก็บุญของฉันเหลือเกินแล้ว...

    กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงอีกครั้งค่ะ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2011
  10. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    5 ก.ค. 2554

    ยังไม่หลับไม่นอน...เพราะต้องนั่งปั่นงานให้เสร็จ...เกือบตี 2 เพิ่งจะได้จัดกระเป๋า เตรียมของใช้จำเป็น...คนขี้โรค...ก็คงขาดไม่ได้เลย...ยาที่ต้องเตรียมไป 1 ห่อใหญ่ทีเดียว "_"!!!...ชีวิตเศร้าเคล้าน้ำตาของคนมีกรรม โรคตามมาแต่เกิดหลายโรคเหลือเกิน อีกทั้งโรคจากกรรมใหม่....

    ขึ้นเที่ยวบินเวลา 10.30 ของสายการบิน Air Asia...ถึง...กัลกัตตา...เวลา 12.45 น. นั่นคือเวลาของ อินเดีย แต่ในไทย คือ 14.30 น. เข้าไปแล้ว...พอลงจากเครื่องปุ๊บ...น้องๆ เขาก็เตรียมเรื่องรถโดยสารที่จะเข้า พุทธคยา ไว้ตั้งแต่ประเทศไทยแล้ว เพราะน้องมาบ่อยมาก จนรู้ที่ทางว่าจะต้องตระเตรียมอะไรไว้บ้าง...พวกเราทั้งหมด 9 ชีวิต ขึ้นรถบัสคันใหญ่ มุ่งหน้าสู่ พุทธคยา “วัดป่าพุทธคยา” ...

    พอขึ้นรถปุ๊บ...ใจเต้นระทึก...เออหนอ!! เคยได้ยินคนเขาเล่ามาว่า...ลำบากลำบน...ทั้งเรื่องห้องน้ำ...อาหารการกิน...จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ...คิดยังไม่ทันได้ไปไหนเลย...เสียงแตรรถดังขึ้นมาทันที....ดังอยู่อย่างนั้นติดต่อกัน...คุณลองนึกภาพตามนะ ระยะทางจากกัลกัตตา ไปพุทธคยา เกือบ 10 ชั่วโมง คุณต้องนั่งฟังเสียงแตรที่กดตลอดทางไปเป็น 10 ชั่วโมง....ตอนแรกก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน เพราะจะเคลิ้มๆ หน่อยก็ต้องตกใจเสียงแตรที่กดรัวเป็นปืนกล....แต่พอสักพักใหญ่ๆ ก็ชินกันไป...(พระอาจารย์ต๋อยที่นำเที่ยวกุสินาราย์ ท่านเล่าว่า...นั่นเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า...ฉันตามหลังเธออยู่นะ...ฉันรีบนะ...ฉันจะไปก่อนนะ...หรือ...ฉันมาแล้วนะ หลบๆ กันหน่อย...ระวังด้วยนะ...เพราะคนที่นี่สัญจรกันบนท้องถนนทั่วไปหมด...ไม่ว่าจะเป็น...วัว...คนเดินเท้า...คนลากรถ..สามล้อ...รถบรรทุก..รถม้า..รถยนต์...จักรยาน..มอเตอร์ไซด์...และแต่ละคนก็สัญจรแบบตามใจฉัน ขนาดรถใกล้จะถึงก้นแล้ว...บีบแตรขนาดหนัก...เขาก็ยังเดินกันหน้าตาเฉย...นี่ถ้าเป็นบ้านเรา...คงได้เห็นการชกต่อย...มีเรื่องมีราวกันไปตลอดทางเป็นแน่....)

    นึกแบบขำๆ ว่า...รถที่นี่ ถ้าจะเสียอย่างแรกคงเป็นเรื่องของ “แตร” และตามมา คือ “ยางรถยนต์” และ “ช่วงล่าง” เป็นแน่....เพราะ ถนนที่เป็นหลุมบ่อ...อีกทั้งต้องหลบหลีกซึ่งกันและกัน ระหว่าง สิ่งของต่างๆ ที่ได้บรรยายไปแล้วข้างบน...เหมือนเข้าไปในเกมส์...แข่งรถที่ต้องหลบหลีก...เครื่องกีดขวางทางสัญจรนั่นแหละ....นั่งนึกถึงตัวเองเข้าไปอยู่ในเกมส์ หรือ การ์ตูน สักเรื่อง...ตัวเอียงไปมาเกือบจะรอบทิศ...อีกทั้งนั่งด้วยก้นที่แทบจะไม่ติดเบาะ...5555+++ คุณลองนึกภาพตามนะ ... ระยะทางเกือบ 10 ชั่วโมง...ที่จะถึงที่พัก....หัวใจ ตับ ไต ไส้พุง...ของพวกเรา...อยู่ๆ ก็เกิดรักกันขึ้นมาเฉยเลย...มารวมกันเป็นก้อนเดียว...ถ้าลองส่องเข้าไปดู...ฉันว่า เขาน่าจะกอดกันอยู่...ประมาณว่า...รวมกัน เราอยู่....แยกกันอยู่ ตัวใคร ตัวมัน เป็นแน่...55555

    (คืนนี้ต้องเตรียมตัวเดินทางไปบวชพระและทำบุญในวันพรุ่งนี้ที่ต่างจังหวัด กลับมาแล้วจะมาเล่าต่อนะคะ อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ สาธุธรรมค่ะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2011
  11. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    สวัสดีค่ะ เราตามกลิ่นโรตีและเนยมา ๕๕๕ และโมทนาบุญด้วยค่ะ (เราเป็นเด็กว่างอน สอนง่ายค่ะ)
     
  12. OneLostSoul

    OneLostSoul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +355
    กรุบกรั่บ ๆ ๆ ๆ (เคี้ยวหนมอยู่)

    ศิษย์เพ่.. ลำไส้ใหญ่กะลำไส้เล็กมันเข้าที่ยาง???
     
  13. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    "__" !!! ขอเวลาอีกเดี๋ยวนะ...ขอให้หายใจหายคอคล่องๆ กว่านี้อีกสักนิด...
    อายุคงเยอะแล้ว...เลยเพลียไม่หายเลย...ลำไส้...ยังทำงานไม่ปกติ...ทานได้น้อย
    พอทานเข้าไป...มานพร้อมจะออกเลย...ยังปั่นป่วนอยู่...ขอเวลาอีกจั๋กเดี๋ยว...
    แล้วจะมาเล่าต่อ...พร้อมภาพนะจ๊ะ...ศิษย์น้อง...ขอบคุณหลายๆ ที่เป็นห่วงเด้อค่ะเด้อ...
     
  14. xanadu

    xanadu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +1,637
    Found this topic yesterday and now reading up to page 7.
    Very moving, very interesting.
    Thank you very much for sharing your life story, your experiences.

    Sorry I can't type in Thai, never learn it.
    I'm typing from the other side of Pacific ocean.


    :cool::cool::cool:
     
  15. Angie_04

    Angie_04 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +431
    แม่นสุดๆ


    เพิ่งเจอไปสดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ เหมือนตัวเองหัวเน่ายังไงก็ไม่รู้ นี่ขนาดว่าไม่ใช่ปีเถาะนะเนี่ย เลยมานิดนึง กับเจ้านายแต่ก่อนร๊าก.....รัก ไม่รู้เป็นไรโยนอุนจิให้กองเบ้อเริ่มเลยตอนนี้ ทำอะไรก็ขวางหู ขวางตาเขาซะทุกเรื่อง ก็ต้องอดทนลูกเดียวค่ะ ยังไม่รวยเน๊าะ :'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2011
  16. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ยินดีค่ะ...^___^ ถ้าข้อมูลใดเป็นประโยชน์กับสาธารณชน ขอกุศลให้เกิดขึ้นกับผู้อ่านด้วยนะคะ ... สาธุธรรมค่ะ
     
  17. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    รบกวน ช่วยชี้แนะให้กระจ่างด้วยครับ

    อ่าน บทความนี้ทำให้ผมนึกถึงตัวเอง เคยมีหมอดูท่านนึงทักผมว่าจะได้เงินเพราะปาก คือเป็นหมอดูนั้นเองแต่ยังไม่เจอครูบาอาจาย์ ขึ้นอยุ่กับเวลาและแรงบุญ พออ่านถึงตรงที่ คุณ สายฝนทักเพื่อนสามี ทำให้นึกถึงตัวผมเอง ตะก่อน สมัยที่ยังไม่ได้บวช ผมชอบนั่งสมาธิ ภาวะนา พุทโธ ก็นั่งได้ระดับนึงที่ว่านานพอสมความ จนไม่รุ้สึกเจ็บ ปวดทรมาน เวลานั่ง นิ่งและสงบมากแต่เคยทำได้ครั้งเดียว พอมาบวช ที่วัดแห่งนึง พระอาจารย์ ท่านให้เดินจงกลม นั่ง สมาธิ สาย สติปฐาน 4 แต่หลังจาก สึก ออกมา มารุ้จักน้องท่านนึง เลยให้เค้า เปิดพระโอษ (ภาษาเทพให้) เค้าให้ กำหนด ลมหายใจ ธัม-โม แต่ทุกวันนี้ นั่งไม่นิ่ง เลย ไม่รุ้ว่า ตัวเอง ควรจะ ปฎิบัติ แบบไหนดีถึงจะตรงกับ ครูบาอาจารย์ที่แท้จริงของเรา
     
  18. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    อ่ะจ้า...มาต่อกันนะจ๊ะ จะทยอยลงรูปและเล่าเรื่อง...ตามความคิดและเท่าที่จำได้...นะคะ..ไม่ได้ยึดหลักอะไรมากมาย...อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน...และ...เข้าใจในสัจธรรม...เพราะ...ฉันได้มากับตนเอง...อย่างจัง...ถึงกับน้ำตาร่วงทีเดียว....

    ด้วยความที่กลัว....แขก...จนลนรานของดิฉัน...ได้ยินมาเยอะเหลือเกิน...ว่าไปที่นั่นต้องระแวดระวังตนให้ดี....ขนาด แขก ด้วยกัน เขายังหลอกกันเองเลย....แต่...แขกดีๆ ก็ยังมีอีกเยอะ...และด้วยความที่...ภาษาอะไรๆ ก็ไม่แข็งแรงของดิฉัน...เลยทำให้วิตกกังวลตลอดเวลา...กลัวจะพลัดหลงกับทางคณะ...เลยติดเขาแจเลย...ประมาณว่า...ไปไหนไปกัน...ขอเดินตามติดไปแบบไม่กระโตกกระตาก....5555+++ ถ้าวิญญาณออกจากร่างได้ คงขอสิงไปด้วย...นั่นแหละ....ที่เล่ามานี่...เพราะทั้งขาไป ขากลับ ไม่ได้ถ่ายสนามบิน หรือ บริเวณรอบๆ สนามบินเลย ได้ถ่าย รถแท็กซี่ ก็ตอนขาจะกลับบ้านนี่แหละ...ใจจดจ่อทีเดียว...นับเวลาถอยหลังกันเลย...ว่าอีกกี่นาที...เราจะได้กลับบ้านเราเสียที...บ้านเราแสนสุขใจ...เมืองไทยของเรา....^ ^

    พอเครื่องบินจอดปุ๊บ...เราก็เดินเข้าขึ้นรถบัส...เพื่อนำเราสู่ภายในอาคารสนามบิน...ออกจาก ต.ม. ได้ น้องก็มุ่งหน้า และตั้งตามองหา รสบัส ติดแอร์ ... เพราะน้องติดต่อไว้ตั้งแต่เมืองไทยแล้ว...แต่จนแล้วจนรอด...ก็เห็นเพียงรสบัสคันหนึ่ง สีแดง...คนขับไม่อยู่ ถามใครก็ไม่รู้เรื่อง...พูดอังกฤษไม่ได้...ส่วนทางเราก็พูดภาษาฮินดี้ไม่ได้ เลยต้องยืนรอกันอยู่...ถามคนที่ติดต่อไว้...เขาก็ว่ารถไปรอแล้ว...รอตามเวลาที่เครื่องลง...จนสุดท้าย...น้องกลับไปที่รถบันคันเดิมที่จอดรอท่าไว้ แต่หาคนขับไม่เจอ...คนขับกลับมาแล้ว...He ไปหาอะไรกิน หิวข้าว...ถามไปถามมา...ได้ความว่า เป็นรถคันเดียวกันนั่นแหละ....

    พอขึ้นรถได้ ทุกคน....เฮ....แต่!!!!!!....ในรถร้อนกว่าข้างนอกเสียอีก...ถามหาแอร์กันจ้าละหวั่น....อ้าว!!!...ไหนบอกว่ารถแอร์ไง...ทำไมไม่มีแอร์....กว่าคนขับจะปรับแอร์ให้ได้ รถก็ขับไปเป็นกิโลทีเดียว...พอแอร์มา...ทุกคนเริ่ม...หิว...ก็หาอาหารที่ได้นำมาจากไทย...ข้าวเหนียว หมูทอด กุนเชียงทอด หมูยอทอด ข้าวสวย ผัดพริกหมู .... แหม ... ทำไม๊ ทำไม....อาหารวันนี้ถึงได้อร่อยเป็นนักหนา....อร่อยจริงๆ...ฉันเห็นข้าวครั้งแรก คิดว่ากินไม่หมดแน่เลย...ปรากฏว่า...กินไปเกือบค่อนถุง...หน้าละอายจริงเชียว หุ หุ หุ
     
  19. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    พออิ่มหนำสำราญกันแล้ว...ก็เริ่มสอดส่ายสายตามองออกนอกหน้าต่าง...เสียงบีบแตรตลอดทาง...ตอนแรก...ก็ทำใจไม่ได้...นึกในใจ...“พ่อคู๊ณ...จะบีบอะไรกันหนักหนา...” ไม่เราก็เขาช่วยกันบีบ...มี 10 คัน ก็บีบกันทั้ง 10 คัน...แค่บีบยังไม่พอ...ยังขับแบบฉวัดเฉวียน (ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่า) ประมาณว่า หลบรถด้วยกัน หลบมอเตอร์ไซด์ จักรยาน หลบคนสัญจร และที่สำคัญ “หลบ วัว” ... แรกๆ เราก็นึกในใจว่า...ทำไมคนเลี้ยงเขาถึงไม่ดูแลวัวของเขานะ....จนกระทั่งวันที่เดินทางไปพาราณสี ถึงเข้าใจว่าเพราะอะไร...หลวงพี่ต๋อย (ท่านเป็นไกด์พาเที่ยว ณ ไวสาลี และ พาราณสี เพราะท่านเรียน ปรัชญาอยู่ที่พาราณสี จึงเข้าใจในท้องถิ่นนั้นเป็นอย่างดี) ท่านเล่าให้ฟังว่า...ประชาชนของเขาให้ความสำคัญกับวัว....เพราะเป็นความเชื่อว่า...วัวคือพาหนะของพระศิวะ...เมื่อวัวที่ยังใช้งานได้อยู่...เขาจะผูกติดไว้กับปรัก...เชือกยาวแค่วาเดียว...ท่านก็ชี้ให้ดู...อยากบอกว่า...น่าสงสารมากกกกก...ด้วยความที่มัวแต่สงสาร...เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู....เพราะเชือกยาวแค่วาเดียว...จะเดินไปไหนก็ไม่ได้...ทำได้แค่...ยืนและนอนและกิน....อยู่ที่แค่นั้น....แต่.....วัวที่เราเห็นสัญจรไปมาตามท้องถนนนั้น...เป็นวัวที่ใช้งานไม่ได้แล้ว....เขาจึงปล่อยไปตามยถากรรม...ไม่มีการฆ่า...ไม่มีการทำร้าย...รถขับ...เจอวัว...ต้องหลบให้วัว...และปล่อยให้ตายเองตามธรรมชาติ...เมื่อตายไปนกกาก็จิกกินกัน....เป็นวัฏจักรของชีวิต....เอ้า...มาเข้าเรื่องท้องถนนกันต่อ...ฉวัดเฉวียนไม่พอ...ยังมีหลุมบ่อตลอดทาง...นั่งกันเนี่ย...ก้นไม่ติดเบาะเลย...หนำซ้ำ หัวโขกกระจกอีกต่างหาก...เฮ้อ....มองออกไปนอกหน้าต่าง...เห็นถึงความลำบาก...ความยากจน...ความแร้นแค้น...ของเขา...น้ำตาร่วงเลย...นี่ขนาดปี พ.ศ. 2554 นะ ผ่านมา 2554 ปีแล้ว ความเจริญเทียบเท่ากับบ้านเราเมื่อประมาณร้อยปีทีแล้วเลย...แล้วพระพุทธเจ้าล่ะ...เราว่า...เราเห็นความลำบากแล้ว...ท่านคงลำบากกว่านี้เป็นแน่...กว่าจะเดินทางจากอีกที่ ไปอีกที่ สำหรับเรา มีรถรา นั่งโดยรถที่ขโยกตลอดเวลา ยังลำบากเลย แล้วท่านเดินเท้า เพื่อจาริกบุญ เพื่อเผยแพร่พระศาสนา เพื่อหาต้นสายและปลายเหตุ นำมาสอนสั่ง ให้กับเรา...เราแม้แต่คำว่า ธุลีดิน ยังไม่สามารถจะเทียบเท่าเลย....บุญแค่ไหนแล้วหนอ...ได้เกิดมาเจอพระพุทธศาสนาของพระศาสดา....

    รถขับมาได้หลายกิโลทีเดียว น่าจะประมาณ 4 ชั่วโมงเห็นจะได้ ... ได้ยินแต่เขาพูดกันเป็นชั่วโมง ไม่ได้พูดกันเป็นจำนวนกิโลเมตร...เพราะจากสนามบินกัลกัตตา เดินทางไป คยา เค้าว่าใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง...คุณคิดเอาเถอะ...พวกเรานั่งรถดีดแบบนั้นไป 10 ชั่วโมง จะไม่ให้ตับไตไส้พุง กระจัดกระจาย ได้อย่างไร....คนขับคงเห็นว่า ได้เวลาที่จะปล่อยให้พวกเราได้เข้า ห้องน้ำ ห้องท่า กันเสียบ้าง ผ่านมา 4 ชั่วโมงขนาดนั้น ... เขาพาเราไปที่โรงแรม...ขอย้ำโรงแรม...พวกเราดีใจกันมาก...เพราะกิตติศัพท์เรื่องห้องน้ำของอินเดียนั้นไม่ได้เป็นรองพี่จีนเขาเลย...พวกเราคิดว่า...โรงแรม...ต้องดีกว่าห้องน้ำปั๊ม หรือ ห้องน้ำทั่วไปเป็นแน่....แต่!!!!!!!!!!!!

    ความดีใจของพวกเรา...มีได้ประเดี๋ยว...มานก็เลี้ยวกลับขึ้นรถไป พร้อมหัวใจเหี่ยวเฉา...ห้องน้ำมี 3 ห้อง 1 ห้องเป็นห้องอาบน้ำ 2 ห้องเป็นห้องน้ำ ห้องแรกมีคนเข้าเป็นผู้ชาย...แต่พอน้องผู้หญิงเข้าไปยังไม่ทันได้ปิดประตู น้องเดินออกมา หน้าแดงก่ำ...พร้อมอาการคลื่นเหียน...เอาแล้ว!!!! ดอกแรกก็เจอกันเลย...พร้อมกับพูดว่า...หนูรอเข้าห้องนี้แล้วกัน...ไม่ไหวแล้ว...จึงเหลือห้องน้ำแห่งความหวังเพียงห้องเดียว...พอถึงคิวฉันที่จะเข้าไปบ้าง...เฮ้อ...น้ำที่กดก็กดได้เพียงหนเดียว...ไม่มีสำรอง...ไม่มีตัวเลือก...มีกระบอกน้ำขนาดใบย่อมๆ วางไว้ 1 ใบ พร้อมก๊อกน้ำ ที่มีน้ำไหลจ๊อกๆๆๆๆ...ไม่ใช่ไหล ซู่ ซู่ นะคะ...ไหลจ๊อกๆๆๆๆ...กว่าจะผ่านไปได้....ฉันอั้นจนหน้าดำหน้าแดง 555555+++

    นี่คือ โรงแรมแรก ที่เราไปขอเข้าห้องน้ำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • INDIA2.JPG
      INDIA2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      97
  20. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    พอเข้าห้องน้ำเป็นที่เรียบร้อย...น้องก็ชวนชิมชาของที่นั่น...ฉันเห็นควันขโมงเลย..เขาใช้ฟืนในการหุงต้ม...ติดกับร้านชากาแฟ...เป็นมินิมาร์ท....ย้ำ...มินิมาร์ท...ฉันมองแล้วมองอีก...ว่านั่นคืออะไร...ถ้าเป็นบ้านเรา...คงมีกระถางธูป..วางไว้พร้อมพวงมาลัยดาวเรือง...แต่ไม่ใช่...มีคนนั่งขายของอยู่ในนั้น...นั่นคือ ร้านค้าของเขา...น้องๆ ซื้อ เลย์ กลับขึ้นมา .... ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปที่นั่น ขอเตือนว่า...อย่าซื้อเลย์ ซองสีน้ำเงิน เพราะเป็นมันฝรั่งที่มีกลิ่นเครื่องเทศน์แร๊งงงงมากกกก...แต่ถ้าเป็นเลย์ ซองสีแดง ถือว่าใช้ได้ เพราะเป็นรสมะเขือเทศ...ฮา....น้องนำชามาให้ชิม...ตอนแรกไม่กล้า...ชิม...เพราะกลัวท้องเสีย....ยิ่งหาห้องน้ำจะฉิ๋งฉ๋องลำบากอยู่....เกิดมีของหนักมาด้วย...จะยิ่งแย่กันไปใหญ่....จนสุดท้ายได้มาชิมที่คยาเนี่ยแหละ...ถึงได้รู้ว่า...รสชาติของเขาดีจริงๆ...ไม่หวาน...ไม่คาว.....เยี่ยม!!!!!!!

    ร้านขายของ ด้านหลังเป็นร้านกาแฟ ที่ควันโขมงเชียว....

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • INDIA1.JPG
      INDIA1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      97

แชร์หน้านี้

Loading...