นี่เป็นเพียงแค่เศษของกรรมหรือเราได้รับกรรมนั้นเต็มๆ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย aoyleo, 14 กรกฎาคม 2011.

  1. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ;hi2ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เชื่อถึงเรื่องกฏแห่งกรรมเป็นอย่างมาก เชื่อมาโดยตลอดแต่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างยาวนานและยั่งยืนเช่นนี้ แต่จะกล่าวว่านานมันก็ไม่ถึงกับนาน เรื่องกรรมที่ดิฉันได้รับมันเกิดอย่างกระทันหันเมื่อปีกลายนี้เอง (2010) เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันตอนสมัยเรียนอยู่มหาลัยดิฉันก็เป็นเด็กหอและอยู่กับเพื่อนอีกสี่คน เราก็ใช้ชีวิตอย่างประมาทมาโดยตลอดคือกินเหล้า เที่ยวกลางคืน แต่ไม่เคยทิ้งการเรียน(ดีอยู่อย่างเดียว) วันนึ่งเพื่อนรักของดิฉันได้โทรมาว่าจะมาเยี่ยมที่หอพักกับแฟนเค้าซึ่งก็เป็นเพื่อนของดิฉันเหมือนกัน เค้าทั้งสองมาอย่างแปลกมาก คืนนั้นพอเราทานข้าวกันเสร็จ เพื่อนที่มาจากกรุงเทพ(ขอให้นามสมมุติว่า นิด และ กบ) ก็เล่าเรื่องให้ฟังว่า เค้าท้อง พวกเราทุกคนตกใจมาก แล้วก็ถามเค้าว่าจะเอาไงดีเพราะยังเรียนอยู่ บอกพ่อแม่ดีไหม แต่นิดเค้าเป็นคนที่กลัวแม่เค้ามาก เค้าบอกว่ากลัวแม่จะตัดความเป็นแม่ลูกกัน(นิดเค้าเป็นเด็กเรียนพ่อแม่ฝากความหวังไว้ทั้งหมดที่เค้า แตกต่างจากดิฉันมาก) แต่พ่อแม่ทางสามีเค้ารู้ (ตอนนี้เค้าแต่งงานกันแล้ว) นิดบอกกับดิฉันและเพื่อนอีกสามคนว่า ขอยืมตังค์หน่อย เราว่าจะเอาไปทำไม เค้าก็ว่าจะเอาไปเป็นค่าทำแท้ง ดิฉันก็ตกใจมาก ดิฉันจึงบอกเค้าว่า ทำไมไม่รู้จักคุม ดิฉันก็ไม่ได้ให้เค้าไป พร้อมบอกเค้าว่าเก็บเด็กไว้เถอะเดี๋ยวจะเลี้ยงเอง แต่นิดก็ไม่ยอม ตอนเช้าเค้าก็ไปทำแท้งตามที่ต้องการ แต่เค้าก็บอกว่าเงินหมดแล้วขอยืมเป็นค่ารถกลับ กทม หน่อย เค้าร้องไห้อย่างมากว่าสงสารเด็กไม่อยากทำ แต่เค้าจำเป็น(เหตุผลเดิมๆของคนทำผิด) ดิฉันก็สงสารกับสถานการณ์ที่อึดอัดนั้นจึงให้เงินเค้าไปโดยแชร์กับเพื่อนอีกสามคน คนละห้าร้อย
    ดิฉันคิดเสมอว่าสักวันกรรมก็ตามสนองดิฉันและเพื่อนๆแน่นอน ถึงแม้ไม่ได้สนับสนุนให้ทำก็ให้เงินเค้ากลับ กทม.
    เหตุการณ์นั้นเกิดเมื่อประมาณ 8 ปีเห็นจะได้ แต่ก็นานมาก แต่ดิฉันไม่เคยลืม จนมาถึงปีกลาย 2010 กรรมมันได้ตามสนอง ดิฉันเต็มๆ และฉับพลันมากแบบตั้งตัวไม่ทัน ดิฉันกับแฟน(ต่างชาติ) ชีวิตเรากำลังรุ่ง กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ทำอะไรก็ได้เงินแฟนก็ได้เลื่อนตำแหน่งทุกหกเดือน เงินเดือนขึ้น จนดิฉันไม่ต้องทำงานเลย แล้วเราก็แต่งงานกัน หลังจากแต่งงานได้ไม่ถึงเดือน วันนั้นแฟนของดิฉันกำลังจะไปหาหมอเค้าก็กำลังแต่งตัว แต่เค้าได้หกล้มลงในห้องแต่งตัว และไม่สามารถขยับตัวได้เลย(เค้ามีอาการปวดหลังเรื้อรังมาประมาณ ห้าหกเดือนแล้วแต่ไม่มาก) รถพยาบาลก็นำส่งโรงพยาบาล หมอก็ตรวจพบว่าเค้าเป็นมะเร็งที่เม็ดเลือด เดินไม่ได้ ดิฉันก็สวดมนต์ภาวนาขอให้เค้าเดินได้มีชีวิตรอด จากนั้นชีวิตเราก็แย่ลง เจ้านายแฟนก็ปลดเค้าออกจากงาน ดิฉันก็ต้องดิ้นรนหางานทำ ทุกอย่างเท่าที่ทำได้ โชคยังดีที่บุญยังมี ระหว่างทีเค้าอยู่โรงพยาบาล ดิฉันก็ได้ไปทำบุญให้เค้าแทบทุกวันใครมีบุญมาถึงก็ทำแทบทุกบุญ (เป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว) ทำให้แฟน สวดมนต์ให้เค้า ทำสมาธิเพื่อเค้า ขอให้เค้าเดินได้ นวดให้เค้าแทบทุกวัน หมอเค้าบอกว่า ไม่มีทางที่แฟนดิฉันจะเดินได้อีกครั้ง ดิฉันก็ให้กำลังใจเค้าให้ธรรมทาน จนตอนนี้แฟนเค้าได้เปลี่ยนศาสนามาเป็นพุทธศาสนิกชนแล้วเพราะเค้าเห็นว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่เค้าเดินได้ เราเคยวางแผนกันไว้ว่า หลังแต่งงานเราจะมีลูก แต่ตอนนี้หมอว่า50%หรืออาจจะไม่มีเลย คงจะเป็นบาปที่ได้เคยทำไว้ แต่ตอนนี้ชีวิตดีขึ้นเยอะ แฟนสามารถทำงานได้ แต่ไม่เต็มเวลา ดิฉันก็ได้งานทำ พอเลี้ยงตัวเองและพ่อแม่ทางบ้านได้ ไม่ถึงกับขัดสน ดิฉันคิดว่ากรรมตามสนองเราในชาตินี้ดีกว่าไปตามสนองเราในภพชาติหน้า ดิฉันคิดว่าดิฉันมีบุญเยอะที่ได้ใช้หนี้เค้าเร็ว และได้รู้จักธรรมะของพระพุทธเจ้า
    เพื่อนๆของดิฉันที่เคยให้เงินนิด ก็ประสบปัญหาไม่ต่างกัน ครอบครัวมีปัญหาบ้าง ทำการงานไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ก็ขึ้นๆลงๆ ขัดสนบ้าง นี่จะว่ากรรมอดีตชาติบวกกับกรรมปัจจุบันก็อาจเป็นไปได้ มันจึงส่งผลให้ดิฉันประสบแต่ปัญหา ซึ่งตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องงาน สมัครงานไม่มีใครรับทั้งที่มีความสามารถ ก็ได้แต่อุทิศและขออโหสิแก่เจ้ากรรมนายเวรไปเรื่อยๆจนกว่าเค้าจะอโหสิให้ดิฉัน
    ขอให้ผลบุญแห่งการให้ธรรมทานนี้จนสำเร็จแด่สิ่งศักดิ์ทั้งหลายที่ลูกเคารพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ดูแลรักษาลูกอยู่ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ญาติทั้งหลายทั้งที่มีชีวิตและได้ล่วงลับไปแล้ว และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้รับในผลบุญแห่งธรรมทานนี้และโปรดอโหสิกรรมให้แก่ลูกด้วยเทอญและขอให้ท่านทั้งหลายอนุโมทนาในบุญนี้ด้วยเทอญ สาธุ
    ;aa19
     
  2. DORAEMON_ONLINE

    DORAEMON_ONLINE สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +7
    ตัวเองไม่ได้เจตนา( ให้เขาทั้งสองฆ่าเด็ก.) บาปตกอยู่กับผู้กระทำเหตุนั้นเอง

    ( ไอส์คิดว่าเป็นกรรมตั้งแต่อดีตชาติ ของท่านเอง//คงต้องรอผู้มีทิพย์จักขุญาณตอบให้ )

    เรื่องที่ผ่านมาแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ( ฉะนั้นมิควรคำนึงถึง )

    เริ่มใหม่ครับ // (ทำให้ปัจจุปันให้ดีที่สุด)

    ----------------------------------------------------------------------------
    < พระพุทธโอวาท กล่าวกับพระองคุลิมาล (อหิงสกะ)>
    ในขณะที่ ท่านอหิงสกะนั่งสมาธิอยู่บนยอดเขา +
    -----------------------------------------------------------------------------
    + หากได้นั่งสมาธิหรือแผ่เมตตาเป็นนิจ (กรรมดั่งกล่าวจะบรรเทาลง) สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2011
  3. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ขอขอบคุณและขออนุโมทนา สำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำนะค่ะ;41
     
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    พยายามทำจิตให้เป็นกุศลมากๆ นะครับ บางทีเราเกลียดหรือไม่ชอบอะไรเราจะ
    ได้อย่างนั้น มันเป็นสภาวะธรรมที่มันแสดงตัวให้เราเห็น การให้ผลของกรรมมัน
    ขึ้นอยู่กับ ภพภูมิที่เกิด ยุคสมัยที่เกิด รูปร่างของเรา และความเพียรที่เรามี เช่น
    เราไปเกิดเป็นเทวดา 100 ชาติ ทั้ง 100 ชาติก็ใช้แต่บุญไม่ได้รับบาปเลย หรือ
    เราเกิดเป็นสัตว์นรกเราก็ใช้แต่บาป บุญไม่ได้ใช้เลย ไม่ใช่ว่าเราไปทำเขาชาตินี้
    ชาติหน้าเรามาใช้เขาแบบนั้นไม่ใช่ครับ ทีนี่กรรมมันมีกรรมเก่ากับกรรมใหม่
    กรรมเก่าก็คือ ภพภภูมิที่เกิด ยุคสมัยที่เกิด รูปร่างของเรา พวกนี้มันเป็นกรรมเก่า
    เช่น บางคนจมุกโด่ง บางคนตาสีพ้า ผมสีทอง บ้างพวกนี้เรียกกรรมเก่า หรือจะ
    เรียกว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็ได้ ส่วนกรรมใหม่คือการกระทำที่เราทำ ทาง กาย
    วาจา ใจ เช่น ตาเห็นรูป หูกระทบเสียง พวกนี้เรียกอินทรีย์ ถ้าเราไม่ชอบสิ่งที่เรา
    เห็น สถาวะธรรมของเรามันจะไปดึงบาปมาเลยไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถ้าเราทำ
    จิตเป็นกุศล ตัวสภาวะธรรมของเราก็จะดึงบุญเก่ากลับมา ดังนั้นการทำจิตให้เป็น
    กุศลสำคัญมากนะครับ หรือจะทำอินทรีย์สังวรก็ได้ สิ่งที่เราเห็นทาง ตา หู จมูก
    ลิ้น กาย ใจ มันเป็นสภาวะธรรมของเราที่มันแสดงให้เราเห็น เช่นเราเกลียดทุกข์
    สภาวะธรรมของเรามีนก็จะให้เราเห็นทุกข์ เพื่อที่จะให้เราจะได้มีประสบการณ์ว่า
    เกลียดทุกข์
     
  5. Hnuymax

    Hnuymax สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +3
    ม่ขอตัดสินน่ะครับ ว่าเป็นเศษกรรมหรือกรรม อะไรหรือเปล่า
    แต่อยากให้ท่านลองพิจารณาดูเอง .... ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
    เราไม่ได้มีเจตนา แต่ทำไปเพื่อต้องการช่วยเหลือ
    เราส่งเขากลับบ้าน ไม่ได้ให้เขาไปทำอะไรไม่ดี
    เราทุกข์หนัก เพราะคิดเอาแต่ฝ่ายเดียวว่า
    เป็นกำลังหนุนนำให้กรรมของเขาสำเร็จ ...

    ลองพิจารณาดูน่ะครับ ว่า เหตุผลที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร
    ไม่มีผู้ใดเข้าใจกฏแห่งกรรมดีเท่าพระพุทธเจ้า ..
    เราอาจจะเชื่อ กฏแห่งกรรมอย่างหมดใจ ...
    แต่ด้วยวิสัยแห่งเรา ก็ไม่สามารถเข้าใจกฏแห่งกรรมทั้งหมดได้
    ปล่อยวาง ทำให้ให้สบาย กรรมที่เกิดขึ้น
    อาจจะเป็นกรรมเก่าแต่อดีตชาติ หรือกรรมใหม่ ในปัจจุบันชาติ
    เรามิอาจรู้ ...

    สิ่งที่ควรที่สุดตอนนี้คือ .... อยู่กับปัจจุบัน หมั่นบำเพ็ญเพียร
    ในไม่ช้า นำหนักฝ่ายกุศลกรรมที่เราได้กระทำไว้ ก็จะตอบสนองเราเองแหละครับ


    พิจารณาตามความจริง
    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

     
  6. yaka

    yaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +1,384
    โมทนาสาธุกับเรื่องราวของคุณค่ะอ่านเพื่อเป็นธรรมะทาน ขอเป็นกำลังใจให้คุณและครอบครัวนะค่ะ
     
  7. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ขออนุโมทนาธรรมค่ะ ดิฉันได้ปฏิบัติอย่างที่ท่าน Bluebabyได้กล่าวซึ่งมันได้ผลอย่างมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
     
  8. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ขออนุโมทนา และขอบคุณอย่างมากสำหรับคำแนะนำและกำลังใจ ซึ่งคำแนะนำของท่านได้ช่วยให้ดิฉันมีจิตใจที่เบิกบานขึ้นมากเลยค่ะ
     
  9. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค่ะ ดีใจค่ะที่อย่างน้อยเรื่องราวของดิฉันสามารถเป็นประโยช์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...