เพราะอะไรคนถึงไม่เชื่อกฏแห่งกรรม(ขอถามความเห็นนะค่ะ)

คนไทยสูติบัตรเกิดของตัวเรา จะใส่ว่า นับถือศาสนาพุทธ แต่ทำไมคนถึงเข้าใจคำว่า กฏแห่งกรรม โรคเวรโรคกรรม กันยากมาก บางคนถึงกับลบหลู่

หรือการที่ ชาวพุทธไปนับถือศาสนาอื่นๆ ลัทธิอื่น ด้วยเหตุผลต่างๆ
พอนับถือเขาแล้วกลับบอกว่า ชีวิตดีขึ้น ไม่ต้องยุ่งยาก ฯลฯ

เราสงสัยมากเลย

 

เพราะปัญญาของแต่ละคนมีมากน้อยต่างกัน ทำให้แม้เค้าจะมองสิ่งเดียวกัน แต่กลับเห็นต่างกัน เมื่อเห็นต่างกันจึงเชื่อต่างกัน เป็นเรื่องธรรมดาของโลกอย่างนี้เอง

อุปมาผู้มีปัญญามากเหมือนคนที่มีแสงประทีปโชติช่วงสว่างไสวถือติดตัวตลอดเวลา เดินไปที่ใดส่องมองไปที่ใด ก็ย่อมเห็นสิ่งที่มองชัดเจน แม้ในที่ที่มืดมิด ส่องมองไปที่ช้างก็เห็นเป็นช้างได้อย่างชัดเจนถูกต้องตามความจริง ส่วนผู้ที่มีปัญญาน้อยก็เหมือนกับผู้ที่มีแสงเล็กๆจากหัวไม้ขีดติดตัว ส่องมองไปที่ช้างตัวเดียวกัน แต่กลับเห็นเป็นแค่ภาพสัตว์ตัวใหญ่ๆเป็นเงาสลัวๆ แต่ก็ด้วยทิฐิมานะจึงด่วนสรุปไปว่าที่เห็นเป็นควายไม่ใช่ช้าง

ผู้ใดต้องการให้ตนมีปัญญามาก ก็ต้องหมั่นทำสมาธิให้มีกำลังความสงบและทำศีลของตนให้บริสุทธิ์ และเอาจิตที่สงบระงับดีแล้วนั้น ไปพิจารณาใคร่ครวญธรรมให้เกิดปัญญารู้แจ้งในสัจธรรม

สรุป
ปัญญาจะเจริญไม่ได้ ถ้าสมาธิยังไม่ดีไม่มีกำลังความสงบ
สมาธิจะดีจะสงบระงับก็ยังไม่ได้ ถ้าศีลยังไม่บริสุทธิ์

 

..ความไม่รู้ ทำให้เกิดความกลัว(ที่ขาดปัญญา)...

..ความกลัว(ที่ขาดปัญญา) ทำให้เสื่อมจากความจริง...

 

เพราะไม่เห็นผลในทันที เลยไม่เชื่อ

 

กฏแห่งกรรมก็เหมือนการปลูกไม้ผลยอมใช้เวลาในการออกผลฉันใดก็ฉันนั้น การที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นทำให้ชีวิตดีขึ้นเป็นการทำให้จิตใจดีขึ้นเท่านั้น เพราะที่จริงแล้วการใช้ชีวิตประจำวันก็เป็นพุทธทุกศาสนา ยกตัวอย่างเช่น เราจะหุงข้าวเราจะต้องเอาข้าวสารใส่หมอ เติมน้ำ เสียบปลักหมอหุ้งข้าว ถึงจะได้กินข้าว ไม่มีใครเอาข้าวสารใส่หมอแล้วอ่อนวอนพระเจ้าเสกให้ข้าวสารเป็นข้าวสวยได้ และอีกหนึ่งตัวอย่าง มีชายคนหนึ่งแก่มีอาชีพฆ่าไก่
มาตลอดวันหนึ่งแก่กลัวบาปจะตามทันแก่ แก่ก็กลุ้มใจมาก แก่ก็ไปต่างประเทศก็ไปเปลี่ยนศาสนา แล้วแกก็กลับมา แก่มาคุยกับพระรูปหนึ่งบอกว่าแก่หมดบาปแล้วเพราะพระเจ้าทรงล้างบาปให้แก่แล้ว พระท่านก็ถามว่า พุทธ คริส อิสราม กินพริกแล้วเผ็ดเหมือนกันหรือเปล่าฉันใดก็ฉันนั้น กฎแห่งกรรมจะทำหน้าที่ของมันอย่างเที่ยงตรงไม่เคยละเว้นใคร อย่าลืมว่า บัวมีสี่เหล่า ศาสนาพุทธไม่เคยเสื่อม แต่คนต่างหากที่เสื่อมจากศาสนา:boo::boo::boo:

 

:z16ขออนุญาติ ออกความคิดนะคับ ผิดพลาด ประการใด ก็ขออภัยท่านผู้รู้ พี่ๆเพื่อนๆ ด้วยนะคับ
chearr ทางหลักจิตวิทยา(ขออิงวิทยาศาสตร์หน่อยนะคับ) คนเรามีแนวโน้ม เอียงมาทาง ความต้องการของตัวเอง หากคนนั้นมีความคิดไปทางไหน แล้วมีคำสอนที่มาสอดคล้องกับความเชื่อ ความคิดที่มี คนนั้นจะมองว่า "ถูกต้องเลย ต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน"
และจะเชื่ออย่างสนิดใจคับ เพราะคำเดียวแท้ๆ คือ คำว่า "ถูกใจฉัน"
ไม่รูนะ ลองฟังท่านผู้รู้คนอื่นชี้แนะด้วยก้อดีนะคับ
;aa55 อิจิโกะ

 

ขอบคุณนะค่ะ พอดีเราดูรายการทีวี เขาสัมภาษ เจ้าตัวออกความเห็นว่า ตักบาตรทุกวัน ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น แต่พอเปลี่ยน ชีวิตดีขึ้น ยุ่งยาก ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่เหมือนพระเจ้าที่ต้อนรับทุกคนไม่มียกเว้น แต่ศาสนาพุทธยกเว้นให้แต่คนดีเท่านั้น
หรือการ ที่เพื่อนเราชวนเข้า เราไม่ทำตาม คนเหล่านี้มีการต่อว่า พุทธศาสนามากมาย ว่า นับถือไปก็ไม่เห็นมีอะไรดี สู้ของเขาไม่ได้ เห็นผลเร็ว
เรารู้สึกว่า ในเมื่อคนไทย นับถือเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ทำไม ความเข้าใจ น้อยมากๆ (อย่างเราเองเมื่อก่อนก็เข้าใจน้อยมากๆ แต่ไม่ได้ลบหลู่ หรือ คิดเปลี่ยนศาสนาเลย)
..เราเองก็ไม่เห็นด้วยที่เการเข้าลัทธิต่างๆ แล้วจะล้างบาปให้เราได้อย่างไร มันล้างง่ายขนาดนั้นเลยหรือ..

 

พระพุทธเจ้าทรงสอน อริยสัจย์ 4 ให้มนุษย์ทุกรูปทุกนามได้พ้นจากความทุกข์ ทรงสอนว่า ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่ว คนที่เขาไม่เชื่อผลของกรรมเพราะเขายังรื่นเริงในความสุขอยู่ คนเราจะรื่นเริงกับความสุขตลอดย่อมเป็นไปไม่ได้ ต่อเมื่อเกิดความทุกข์ขึ้น เขาก็จะเข้าใจคำว่า กฎแห่งกรรม

 

กฎแห่งกรรม ก็คือเรื่องเหตุและผล สร้างเหตุไว้เช่นใด ก็ได้ผลเช่นนั้น

แต่ที่มันยากจะเข้าใจก็เพราะคนเราสร้างเหตุสะสมไว้มากมายทั้งทางกาย วาจา ใจ ต่างกรรมต่างวาระ จนกระทั่งตนเองก็จำไม่ได้แล้ว ว่าทำกรรมอะไรมาบ้าง นี่ยังไม่รวมข้ามภพข้ามชาติอีก

ผลของกรรมก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดเมื่อใด เกิดจากเหตุตัวไหน สรุปแล้วจะบอกว่าเกินปัญญาที่ปุถุชนจะรู้ซึ้งเท่าทันในเรื่องกฎแห่งกรรมนี้

เว้นแต่พระอริยะที่ท่านได้ญานจนรู้แจ้งในกฎนี้ แต่ท่านก็น่าจะรู้เฉพาะผลของกรรมของตัวท่านเองว่าเกิดจากเหตุใด

ผลของกรรมหรือที่ศัพท์ว่าวิบากกรรม เป็นหนึ่งในอจินไตย ที่พระพุทธองค์ห้ามปรามไว้ เพราะยุ่งยากซับซ้อนเกินปัญญาปุถุชนจะเข้าใจ ใครพยายามเข้าใจอาจเป็นบ้าวิกลจริตเสียก่อน

ฉะนั้นอยากเข้าใจกฎแห่งกรรมก็ต้องเป็นพระอริยะ ส่วนที่ใครจะเปลี่ยนไปนับถือลัทธิอะไร ก็เป็นเรื่องของเขา ธรรมะเป็นเรื่องสากลอยู่แล้ว

 

เพราะหลายๆ คนติดอยู่ในความฝันนะ คือคิดว่าสิ่งที่เขาทำและเชื่อมาตลอดมัน
เป็นสิ่งที่ดี และสิ่งที่ประเสริฐสูงสุดแล้ว พอมีคนมาบอกความจริงที่มันขัดหรือทำ
ให้ความฝันของเขาพังทลายมันก็เหมือนกับทำลายเขา มันทำให้เขารู้สึกว่าถ้า
เขายังอยู่ในความฝันเขายังได้เป็นพระราชา แต่ถ้าเขาออกจากความฝันจะรู้สึก
เหมือนเป็นขอทานอย่างนั้น ในสมัยพุทธกาลมีกษัตริย์พระองค์หนึ่งถูกขอโดย
อุปราชให้ไปหาพระพุทธองค์ เนื่องจากอุปราชเป็นคนที่สำคัญต่อพระราชบัลลังค์
มากพระราชาก็เลยไม่กล้าปฏิเสธ แต่ถามอุปราชว่าทำไมคนที่เป็นพระราชาอย่าง
เราต้องไปพบกับคนที่ขอคนอื่นเขากินด้วย อุปราชก็บอกกับพระราชาว่าท่านยัง
ไม่เข้าท่านนั่นแหละที่เป็นขอท่าน เมื่อพระราชามาพบกับพระพุทธองค์ถึงกับเอย
ปากออกมาเลยว่าเข้าใจแล้วเราเป็นขอทานจริงๆ ส่วนพระพุทธองค์นั้นเหมือน
เป็นพระราชา

 

เท่าที่เคยศึกษา เคยอ่าน และเคยฟังมา แก่นแท้ของพุทธศาสนา เป็นเหมือนวิทยาศาสตร์
หรือวิชาที่เกี่ยวกับจิตใจ อย่างการแพทย์ปัจจุบันมุ่งรักษาทางกาย แต่พุทธศาสนาเป็นการรักษา หรือช่วยให้มนุษย์หายจากโรคทางจิต แต่น่าเสียดายว่า ศาสนาทั่วๆ ไปจะปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้พุทธศาสตร์ (ธรรมชาติ ความจริงของชีวิต ที่มนุษย์ถูกอวิชา หรือกิเลส ครอบงำตั้งแต่เกิดมาทีเดียว)

 

เห็นด้วยครับอะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์จริงๆ คนเข้าใจยากครับ วิทยา
ศาสตร์ไม่เคยบอกว่าใครทำ แต่บอกว่าสิ่งต่างๆ เกิดได้อย่างไร พอไม่
มีคนมีแต่อาการแล้วมันเข้าใจยาก อย่างตอนที่ไอนไสตน์มีชีวิตอยู่ ทั้ง
โลกมีคนเข้าใจทฤษฎีสัมพันธภาพอยู่แค่ 12 คน เป็นเพราะแนวคิดนั้น
ใหม่มาก

 

เหตุประการหนึ่งที่ ไม่มีใครเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมเพราะไม่ให้ผลตามนั้นทันที แต่ถ้าเข้าใจเรื่องกฏแห่งกรรมจริงๆจะต้องรู้ว่า

คนที่ทำดี แล้ว ไม่ได้ดี เหตุเพราะอดีตเคยทำชั่วใว้มาก
คนที่ทำชั่วแล้วยังไม่ได้ชั่ว เพราะเหตุอดีตเขาทำดีใว้มาก

 

เพราะเป็นของทีู่รู้ได้ยากนะสิ เพราะถ้ารู้ได้ง่ายๆก็ไปนิพพานกันหมดแล้ว

 

ผมเชื่อในกฎแห่งกรรมนะครับ

แต่สังโยชน์ทั้งหลายที่มีในมนุษย์ปุถุชนที่ยังละกิเลสตัณหาไม่ได้

ทำให้ได้เผลอใจสร้างบาปกรรมต่างๆเอาไว้

ทั้งที่รู้ว่าผิด

 

ความเห็นของผมคงจะคล้ายๆของ คุณ เนยแข็ง

 

ไม่เข้าเวปหน่อยเดียวน้องอิจิโกะเป็นผู้ชายไปแล้วหรือเนี่ย!!!

ตกลงสอบเข้าหมอได้มั๊ย?

 

ปัจจัยมีเยอะเกินกว่า จะ สรุปตรงตรงว่าไม่เชื่อ กฎแห่งกรรม บางทีการต้องทำกรรมบางอย่างเพราะกระแสโลกธรรมนำพาไปก็มี(ค่อนข้างเยอะ)ส่วนใหญ่คนที่ทำกรรมดี ละกรรมชั่ว อาจจะมีหลายเหตุผลก็ได้ไม่ใช่เฉพาะเรื่องความเชื่อเรื่องกรรมอย่างเดียว อาจจะทำดีเพราะสงสารผู้อื่นก็ได้ ทำดีเพราะทำแล้วมีความสุขก็ได้ประมาณนี้นะผมว่า

 

เชื่อกฎแห่งกรรมค่ะ
ประมาณว่า คล้ายๆ กับ สูตรเคมี ปฏิกริยา action reaction กฏการดึงดูด แรงโน้มถ่วงฯลฯ ซึ่งจะสลับซับซ้อนกว่าที่กล่าวมาทั้งหมด และบางสิ่งที่เคยทำไปเราก็ลืมไปแล้ว
และยังเกี่ยวโยงกับคนอื่นๆ สิ่งอื่นๆ ทั้งหมด
แต่บางทีแค่รู้หรือเข้าใจ ก็ยังตัดกรรม หรือสลัดอะไรๆ ออกไม่ได้ในทันที เหมือนกับคนที่จมอยู่ในโคลนมานาน แค่โผล่หัวขึ้นมา หรือบางคนก็พ้นมาจนเกือบหลุด (คล้ายบัว4 เหล่าอะไรประมาณนั้น) หรือคล้ายกับยางเหนียวที่เราถูกยึดไว้

 

ทุกๆ ศาสนาที่เกิดขึ้นได้นั้นเพราะความเชื่อ ก็มันเป็นความเชื่อของแต่ท่าน

ก็เพราะเขาเชื่ออย่างอื่นจึงไม่เชื่อกฏแห่งกรรม​