ถึงเวลาแล้ว..ที่ผมจะเปิดเผยเรื่องลึกลับของชาติไทย...ที่สำคัญยิ่ง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ผู้เตือน warn, 19 มิถุนายน 2011.

  1. Red people

    Red people เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +153

    ถูกต้องครับ เมื่อก่อน ปตท.กิจการย่ำแย่ บริการก็แย่ต้องเอาเงินภาษีไปอุ้มมากมาย แต่พอแปรรูปไปแล้วกิจการดีมากทำเงินเข้าประเทศหลายหมื่นล้าน จากขาดทุนก็กลับกลายมาเป็นทำกำไร (คำว่าแปรรูป ไม่ใช่เป็นการขายสมบัติของชาติแบบที่เขาหลอกชาวบ้านนะ ปตท.ย่อมเป็นของคนไทยโดยรัฐจะถือหุ้นเกินกึ่งหนึ่ง ที่เหลืออีกไม่ถึงครึ่งใครก็ได้ รวมทั้งคุณ , ผม และ ต่างชาติก็สามารถลงทุนเข้าไปซื้อเอากำไรได้โดย ที่คุณไม่ต้องเสียภาษีรายได้จากการลงทุนของคุณ อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะลงทุนละสิ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2011
  2. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752
    อ้างอิง

    ผู้ที่คิดว่าเขาพระวิหารเป็นของเขมรคิดผิดคิดใหม่ได้ กรณีที่มีความพยายามให้ไทยต้องยอมรับว่าเขาพระวิหารและพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของเขมรนั้น ก็เพราะว่าเมื่อลากเส้น Lat - Long ลงไปแล้ว ก็จะครอบคลุมพื้นที่ทับซ้อนทางทะลที่เป็นปัญหาว่าเป็นของไทยหรือของเขมรนั้นกลายเป็นของเขมรโดยสมบูรณ์ซึ่งจะไม่เป็นปัญหาในอนาคต "ยิงปืนนัดเดียว ได้นกทั้งฝูง" หัวใจส่วนหนึ่งอยู่ที่เกาะกูดซึ่งเป็นอธิปไตยของไทยแต่ปัจจุบันเกิดเหตุการณ์แบบที่เขาพระวิหารเพราะมีเขมรอพยพเข้าไปอยู่ส่วนปลายเกาะเต็มไปหมดและเริ่มมีการอ้างว่าเกาะกูดเป็นของเขมรเพื่อเอื้อประโยชน์ในการณ์ลากเส้นแผนที่ทะเล

    ความเห็น

    ตรงนี้ สำคัญมากครับ...และ ไม่เห็นมีใครให้ความสนใจ นอกจาก คนเดินดินกินข้าวแกงไม่กี่คน...พูดไป ก็ เหนื่อยเปล่า...

    ...การจะแก้ไขปัญหาใดๆได้ มันต้องลงมือทำ ไม่ใช่ รอให้ ปัญหาต่างๆ มัน แก้ไขด้วยตัวมันเอง...

    ..อย่างแรก...ต้องเข้าใจ ให้ถูกต้องว่า ปัญหามันเกิดจากอะไรก่อน...และหากทราบแล้วยังแก้ไขไม่ได้ ก็ ตัวใครตัวมัน...กรรม...

    สรุป เป็นข้อคิดเห็นที่ดีมากครับ...
     
  3. Red people

    Red people เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +153

    เขาพระวิหารศาลโลกเขาตัดสินเป็นของเขมรไปแล้วเมื่อประมาณปี2505 แต่จอมพลสฤษดิ์ท่านเอาลวดไปขึงให้เขมรเพียงเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น ส่วนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ไม่ได้ให้และเขมรก็ไม่ได้รู้ไม่ได้สนใจในพิ้นที่นั้นเลย จวบจนกระทั่งเขมรเขาจะเอาเป็นมรดกโลกนั่นแหละ ตอนนี้เขมรก็ยังไม่ได้สนใจพื้นที่นี้ เพราะคุณนพดล ปัทมะ ร่วมลงนามก็ให้เพียงปราสาทพระวิหารเท่านั้น แต่มันเป็นด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่รู้ที่ คุณสนธิ ลิ้มฯและพวกออกมาขัดขวางความสำเร็จของคุณนพดล ปัทมะ ออกมาไม่ยอมรับผลงานของคุณนพดล ขุดคุ้ยด่าทอจะตัดหัวเขามาล้างตีนบ้านอ้างแผนที่ต่าง ๆ จนกระทั่งเขมร เขารู้ว่ามีพื้นที่ทับซ้อนอีก 4.6 กม.ที่เขามีหวังจะได้จึงส่งกองทัพมดมาสร้างวัดสร้างบ้าน เรื่องมันจึงบานปลายไม่ยอมหุบมาจนทุกวันนี้แหละครับ
     
  4. earn1

    earn1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +651
    ผู้ถึงน้ำมันไปเขาพระวิหารเสียแล้วดึงกลับมาหน่อยครับ
     
  5. Red people

    Red people เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +153
    ธรรมะย่อมเป็นเหตุเป็นผล
    ก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับ เพื่อนผมหลายคนพอได้ฟังเหตุและผลแล้วส่วนมากจะขอร่วมแก้ไขในสิ่งที่พวกเขาเคยไปร่วมมือทำผิดจนบ้านเมืองย่อยยับส่งผลให้หลายบริษัทต้องปิดกิจการ จนพนักงานจำนวนมากตกงาน ส่งผลให้หลากหลายครอบครัวต้องเดือดร้อนเพราะเขาไปมีส่วนร่วม
     
  6. โบ๊ต

    โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +847
    มาต่อให้คุณลุงโอลด์เเมนนะครับ

    มันมากกว่าเขาพระวิหาร้พราะมันเป็นพื่นที่ทับซ้อนยาวไปถึงอ่าวไทย

    คนบางกลุ่มรู้กันมานานเเล้งจึงออกมาต่อต้านและยังทำอยู่ทุกวันนี้

    เเต่ก็ยังมีคนไทยใจทรามบางคนออกมาขัดขวางคงไม่ต้องบอกว่าพวกใด......

    "เขมรจะรวยบ้าง สูบน้ำมันอ่าวไทยปีหน้า วาดแผนโรงกลั่นแรก"

    [​IMG]

    http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000073854



    รักในหลวงห่วงใยประเทศไทยมาร่วมขจัดอัปรีย์จัญไรออกจากประเทศกันดีกว่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2011
  7. earn1

    earn1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +651
    อ๋อมีน้ำมันน่าจะเข้ากันได้
     
  8. pinitko

    pinitko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +291
    บ่อน้ำมันที่เมืองมะริด ในเขตพม่า
    ไหลผ่านไทย ตามความเป็นจริงเขมรได้ไปแค่กึ่งนึงไม่เยอะ ที่เหลืออยู่เขตอ่าวไทยและอันดามัน
     
  9. โบ๊ต

    โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +847
    แก้ไข _____________________________
     
  10. Namchap

    Namchap สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    ใช้เทคโนโลยีเจาะแบบ horizontal เลยไปดูดน้ำมันเขมรมาให้หมด
     
  11. โบ๊ต

    โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +847
    ลองอ่านดูนะครับสำคนหัวสมัยใหม่ชอบการเเปรรูปขายเข้าตลาดหลักทรัพย



    อันนี้ตัวอย่างสมัยรัฐบาลคนนั้นที่เขาขาย ปตท ไปแล้วยังจะพยยามขาย การไไฟฟ้าเข้าตลาดไปอีก


    เเต่โชคดีที่ สว รสณา ยื่นฟ้องศาลปกครองจนมีคำสั่งระงับการชายเข้าตลาดหุ้น

    ไม่อย่างนั้นวันนี้เราอาจจะใช้ไฟเเพงเเบน้ำมันก็ได้



    สว โสภณ สุภาพงษ์ กรรมาธิการด้านพลังงาน ตัวจริงทางด้านนี้ เป็นผู้ทำเรื่องศึกษาการแปรรุปทั้ง ปตท การไฟฟ้า และอื่นๆ และได้ทำผลศึกษาส่งไปยังรัฐบาลมาหลายครั้งที่จะมีการขายรัฐวิสาหกิจ
    นาย โสภณ สุภาพงษ์ โสภณ สุภาพงษ์ สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากกรณีที่รัฐบาลจะนำการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงปลายปีนี้นั้น ในข้อเท็จจริงแล้วพบว่า รัฐบาลต้องการเพิ่มมาร์เก็ตแคปของตลาดหลักทรัพย์จากปัจจุบันที่มีอยู่ 5.5 ล้านบาท เป็น 7 ล้าน ล้านบาท หรือเป็นเพียงวัตถุดิบตัวหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ฯใหญ่โตขึ้น โดยไม่สนใจว่ากิจการไฟฟ้าของประเทศจะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างกิจการไฟฟ้า แต่อย่างใด

    จะ เห็นได้จากกิจการไฟฟ้าของประเทศเวลานี้ ยังไม่เป็นหน่วยงานกลางที่เป็นอิสระเข้ามากำกับดูแลกิจการแต่อย่างใด เหมือนกับของธุรกิจโทรคมนาคม ที่มีคณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคม(กทช.)ขึ้นมาดูแล ทำให้เกิดความไม่ เป็นธรรมในการแข่งขัน เนื่องจากกฟผ.ยังมีการผูกขาดในธุรกิจสายส่งไฟฟ้าอยู่ และสามารถเอาเปรียบผู้บริโภคได้ ในการปรับค่าไฟฟ้าที่มักจะอ้างมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงมีราคาสูงขึ้น

    อีกทั้ง มองว่า กฟผ.ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามนโยบายของรัฐบาลที่อ้างขาดสภาพคล่องทางการเงินในการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้า แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว กฟผ.ถือเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจชั้นดี ไม่มีปัญหาการขาดแคลนเงินลงทุนแต่อย่างใด จะเห็นได้จากประสบการณ์ในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ กฟผ.จะไปกู้เงินจากสถาบันการเงินไหน ต่างได้รับการดูแลและให้ความเชื่อมั่นที่จะปล่อยกู้ได้ เพราะฉะนั้นไม่ ควรที่จะนำเรื่องการขาดแคลนเงินหรือมีปัญหาเงินลงทุนมาเป็นข้ออ้างในการแปร รูป รัฐบาลควรจะมองเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างกิจการไฟฟ้าของประเทศแทน โดยเฉพาะกิจการที่ผูกขาดอย่างสายส่งไฟฟ้า น้ำในเขื่อน ไม่ควรที่จะนำเข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้นักลงทุนแสวงหากำไร เพราะเป็นกิจการสาธารณะส่วนรวม

    "สิ่ง เหล่านี้เป็นเพียงว่าเอาไปเป็นวัตถุดิบช่วยตลาดหลักทรัยพ์ฯให้แข็งแรง ใหญ่โตขึ้น และจากการวิเคราะห์ชี้ชัดว่ากิจการไฟฟ้าไม่ได้มีปัญหาด้านการเงิน กฟผ.เป็น ลูกหนี้ชั้นดี ตอนนี้กลายเป็นว่าการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นประเด็นที่ดึงกฟผ.เข้าไปด้วย ซึ่งผมมองว่ามันควรจะมองเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างกฟผ.ให้เสร็จก่อน"

    ประกอบกับเมื่อมีการกระจายหุ้นเข้าตลาดแล้ว ปัญหาค่าไฟฟ้าที่เป็นห่วงกันว่าจะปรับตัวสูงขึ้นไปจะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะมีการนำผลการดำเนินงานในอนาคตมาขาย ผู้ที่ซื้อหุ้นก็ต้องหวังกำไร หากไม่มีกำไรจูงใจ จะมีใครที่ไหนเข้ามาลงทุน

    และ เวลานี้ คงไม่สามารถยับยั้งการนำกฟผ.เข้าตลาดได้ เพราะว่าหลายฝ่ายได้ประโยชน์ที่ลงตัวแล้ว ซึ่งต่อไปจะกลายเป็นธุรกิจที่ผูกขาดมากขึ้น จะเห็นได้อย่างกรณีของบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ที่เข้าไปถือหุ้นในโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ ในเวลานี้ 4 แห่ง ทำให้เกิดการผูกขาดบริษัทเดียว กลไกการแข่งขันของระบบลดน้อยลง

    นายโสภณ กล่าวว่าเวลานี้องค์ใหญ่ๆ 2 องค์กร(กฟผ.,ปตท.)มี การผูกขาดจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับประชาชน โดยเฉพาะคนจนที่เหมือนเป็นการไปซ้ำเติม ทั้งปัญหาที่ดิน ค่าไฟฟ้า และน้ำมันที่ราคาสูงขึ้น

    "กิจการอะไรที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯและผูกขาดล้วนน่ากลัวทั้งสิ้น ยกตัวอย่างน้ำมันที่ผมมองว่าเป็นค่าใช้จ่าย/ปี มูลค่า 800,000 ล้านบาท/ปีที่ประชาชนต้องจ่าย และเป็นค่าไฟฟ้า 300,000 ล้านบาท/ปี และเป็นค่าโทรศัพท์ 150,000 ล้าน บาท/ปี ในขณะที่น้ำมันเมื่อต้นทุนสูงกว่าปกติก็จะแข่งขันกับต่างประเทศไม่ได้ เพราะตลาดหุ้นจะโยงข้ามประเทศ กิจการไฟฟ้าเมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะมีฝรั่งถือหุ้นเต็มไปหมดเข้าแซง ชั่นได้ ในขณะที่กิจการเหล่านี้ เป็นค่าใช้จ่ายของประเทศ ซึ่งผมมองว่าสุดท้ายแล้วเราต้องมีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ตามรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิ์ไว้ แต่ยังไม่มีใครเขียนออกมา"

    จากสิ่งที่ สว โสภณเสนอมา มีสาระสำคัญอย่างน้อย 3 เรื่องที่ต้องพิจารณา นั่นคือ

    1. กฟผ ขาดเงินทุนจนต้องขายหุ้นตามที่รัฐบาลอ้างจริงหรือ?

    2. ทรัพยากร ของแผ่นดิน เช่น เขื่อน สายส่ง ใครจะรับประกันว่าจะไม่ตกเป็นของเอกชนในอนาคต อย่าลืมว่าเขื่อนล้วนเป็นชื่อพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งสิ้น ที่ดินข้างเคียงบางแห่งก็เป็นพระราชวัง ทุกวันนี้ไม่มีกฎหมายอะไรออกมา รับรองอย่างชัดเจน มีแต่เพียงว่าทรัพย์สินเหล่านี้อยู่ในความดูแลของหน่วยงานใด การทำสัญญาไม่ดีทำให้เสียสมบัติของชาติได้ง่ายๆ

    3. ไม่ มีกฎหมายอะไรเป็นหลักประกันให้กับประชาชนเลยว่าจะได้ประโยชน์อะไรจากการแปร รูป นอกจากคำปลอบใจว่าค่าไฟจะไม่ขึ้น ทุกวันนี้คนไทยต้องจ่ายค่า FT ซึ่งไม่ถือว่าเป็นต้นทุนอะไรถึง 3 บาทต่อหน่วย

    ในข้อ 2 และ 3 เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการ ทำสัญญาอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติ สิ่งแรกที่สุดคือต้องทำประชาพิจารณ์ แล้วต้องออกกฎหมายรับรองประกันสิทธิของประเทศและของประชาชนให้ชัดเจน และสุดท้ายต้องมีหน่วยงานอิสระที่ดูแลอย่างแท้จริง ไม่ใช่องค์กรกลางแต่ชื่อเหมือนที่ผ่านมา

    ความ ล้มเหลวในอดีตเกิดจากรัฐทำสัญญากับเอกชนโดยไม่มีการออกฏหมายรับรองสิทธฺ ต่างๆไว้ ทำให้ประชาชนไม่ทราบว่าทำไปแล้วประชาชนจะได้อะไร ที่ผ่านมารัฐบาลทุกยุคจะทำสัญญาเสียเปรียบเอกชนมาโดยตลอด ฟังดูเหมือนรัฐบาลโง่ แต่ความจริงรัฐบาลคอรัปชั่นผ่านสัญญาเหล่านั้น สัญญา แต่ละฉบับมักจะอ้างว่าเป็นความลับเปิดเผยไม่ได้ แต่เอาเปรียบประชาชนทั้งสิ้น กรณีของนายทักษิณก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรัฐบาลก่อนๆคือจะขายท่าเดียวโดยไม่มี กฎหมายอะไรเลยที่จะมาคุ้มครองสิทธิของประเทศและประชาชน นอกจากคำพูดลอยๆว่าจะดูแลอย่างดี วันหนึ่งเมื่อรัฐบาลนี้จากไปเพราะเหตุ อะไรก็ตาม สัญญาทาสก็ค้ำคอประชาชนไปตลอด รัฐบาลชุดใหม่มาก็อ้างว่ารัฐบาลชุดที่แล้วทำไว้ และต้องทำต่อไปเพราะผูกพัน โดยไม่สนใจว่าประชาชนและประเทศจะเป็นอย่างไร นี่คือความชั่วร้ายของนักการเมืองไทยทุกยุคทุกสมัย

    ปรกติแล้วเวลาเล่นกีฬา ต้องมีกติกาก่อนการแข่งขัน การขายสมบัติของชาติโดยไม่มีกฎหมายคุ้มครองสิทธิของประเทศและประชาชนก็เหมือนกับการเล่นกีฬาโดยไม่มีกติกา ซึ่งประเทศเราเสียเปรียบตะวันตกอยู่แล้ว ประชาชนและประเทศมีแต่เสียหาย แต่สำหรับนักการเมืองแล้วไม่สนใจเพราะสนใจสิ่งตอบแทนที่ตนจะได้มาจากความ เสียหายของชาติ เรากำลังเสียสมบัติของชาติไม่ต่างจากสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เสียดินแดนให้ตะวันตก โดยน้ำมือคนไทยที่อ้างว่ารักชาติแต่ปาก หลายคนอาจไม่พอใจกับคำพูดนี้ แต่สิ่งที่เป็นประกันต่อประชาชนคือกฎหมายที่คุ้มครองประชาชน ไม่ใช่ถ้อยคำรื่นหูของนักการเมือง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2011
  12. krasin

    krasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +2,821
    อยู่แบบพอเพียงตามคำสอนของพ่อหลวง ไม่ต้องศิวิไลก็อยู่ได้สบาย ไม่ยึดติด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
     
  13. Red people

    Red people เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +153
    ธรรมะคือธรรมชาติ ยังมีการเกลียดเพราะเขาสร้างภาพหลอกให้เราเกลียด ความเกลียดใครคนหนึ่งโดยไม่ยอมรับเหตุผลของความจริงจนเป็นเหตุนำพาความฉิบหายมาสู่ส่วนรวม
    บุคคลผู้เจริญย่อมมีธรรมะ ย่อมคิดถึงเหตุและผล ย่อมไม่ปล่อยให้จิตหลงไปตามกระแสที่เขาหลอกให้เราเกลียด
    รู้สึกจะมีคนยังเข้าใจผิดกับคำว่า "ขายสมบัติชาติ"
     
  14. Nanpri

    Nanpri Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +48
    ..ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่เมื่อเราเข้ามาเป็นสมาชิกเวบพลังจิต ยึดถือพระพุทธศาสนาเป็นที่สุด รู้แก่ใจกันดีทุกคนว่า “ ทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลกรรมทุกคน หลีกหนีไม่ได้” อย่างนักการเมืองบางคนก็เช่นกันที่ได้รับผลจากการกระทำ..อย่างที่หลายท่านได้แสดงความคิดเห็น ทำไมเราคนไทยด้วยกันต้องมาทะเลาะต่อสู้ ห้ำหั่นกันเอง เพื่ออะไร......เมื่อแผ่นดินนี้บรรพบุรุษได้สู้รบ เสียสละเลือดเนื้อ ชีวิต เพื่อปกป้องไว้ให้ลูกหลานได้อยู่กันอย่างสุขสบาย สบายมากจนต้องมาสู้รบกันเอง.....เพื่ออะไร หรือว่า ที่บางท่านไม่ได้ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธศาสนาจริงๆหรอกหรือ ที่ว่า ใครทำกรรมใด ย่อมได้รับกรรมนั้น?
     
  15. Red people

    Red people เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +153
    ถูกต้องแล้วครับ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทุกคนมีความรู้ความสามารถและไม่ดูถูกคน การอยู่ในสังคมส่วนรวมย่อมต้องฟังเสียงของคนส่วนใหญ่ ที่ผ่านมาก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าความเห็นของคนไทยส่วนใหญ่ถูกต้องกระทั่งนำพาประเทศชาติพ้นจากหายนะต่าง ๆ เช่นพ้นจากการเป็นหนี้ IMF แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งไม่มากที่ออกมาทำลายบ้านเมืองจนเป็นหนี้สินอีกด้วยการใช้เล่ห์หลอกลวงคนไทยเพื่อให้ตัวเองมากอบโกยเงินภาษีส่วนรวมของพวกเราโดยไม่มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยเลย
     
  16. omo@ampawan

    omo@ampawan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3
    บ้าไปกันใหญ่

    จะมัวเถียงกันเรื่องน้ำมันอยู่ใยครับพี่น้อง ประเทศอื่นเค้าใช้พลังงานทดแทนกันถึงใหนแล้ว จิตใจตั้งใจจะใช้น้ำมันไปอีกเป็นร้อยๆปีเลยเหรอครับ ไม่สงสารโลกบ้างเหรอ รถพลังไฮโดรเจนล้วนๆ BMW ยังผลิตออกมาขายวิ่งเกลื่อนเมืองนอกกันแล้ว โอ้ย...สงสารประเทศจริงๆ
     
  17. กัลกิ

    กัลกิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +5
    เรื่องนี้ผมก็ทราบมานานแล้ว แต่ไม่รู้ข้อเท็จจริงมากนัก แต่เราถูกการประชาสัมพันธ์เรื่องราวไว้แค่บางส่วน ให้เราเห็นแต่ส่วนที่ดีผ่านสื่อ บางครั้งผมเองเวลาดูสื่อต้องพิจารณาให้มากกว่าที่เป็นอยู่เสียอีก ว่าเป็นข้อเท็จจริงมากน้อยแค่ไหน หรือเป็นแค่แง่มุมของทุนนิยมที่แฝงมาในรูปประชาธิปไตย
     
  18. keepwork

    keepwork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +770
    น้ำมันอ่าวไทยมีเยอะนี้.เผากันใด้ทั้งชาติที่แน่ๆมันเผากรุงเทพได้..หรือประหยัดหน่อยก็เอายางรถยนต์นั้นแหละ..รักความยุติธรรมเผาแบบสองมาตรฐานบ้านมันไม่เผามาเผาบ้านคนอื่น!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2011
  19. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ชอบใจคำโพสนี้มากครับ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มิถุนายน 2011
  20. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    มีรีสอทหรู มาเปิดกิจการที่ เกาะกูด สำหรับต้อนรับลูกค้า ธุรกิจน้ำมันในอ่าวไทยโดยตรง

    ที่พักไม่แพง คืนละแสนกว่าบาท ........
    ราคา สำหรับเด็กๆ คืนละเป็นหมื่น ผู้ใหญ่ต้องไม่พูดถึง

    ถ้าอ่าวไทย ไม่มีน้ำมันมหาศาล โรงแรมประเภทนี้ ไม่ลงทุนมาสร้างหรอกครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...