<SPAN>ชมรมขุนแผนระฆังทอง&เจดีย์ทอง หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ (โชว์ภาพและประสบการณ</SPAN

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย knutch, 8 สิงหาคม 2010.

  1. knutch

    knutch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +1,241
    ถาม... ทำบุญล้างบาปได้หรือไม่ ??

    ตอบ...กรรมลบล้างไม่ได้ แต่หลีกหนีผลกรรมได้ (ดูรายละเอียดในพระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่มที่ ๑๔ หน้า ๑๑)

    อดีตล่วงพ้นไปแล้ว การกระทำทุกอย่างที่กระทำไปด้วยเจตนา ไม่ว่าจะชั่วหรือดีก็ตาม ก็เป็นอันได้กระทำไปแล้ว และผลกรรมนั้นจะต้องย้อนกลับมาหาตัวผู้กระทำในที่สุด แต่เวลาที่กรรมให้ผลนั้นไม่แน่นอนว่าจะช้าหรือเร็ว จะเป็นปัจจุบันหรืออนาคต ถ้าหากกรรมที่ได้กระทำก่อนหน้านั้นยังให้ผลไม่หมด หรือกรรมที่กระทำในปัจจุบัน มีวิบากแรงกว่าก็จะทำให้กรรมนั้นมีผลช้า เมื่อเป็นเช่นนี้หนทางที่จะหลีกหนีผลกรรมก็พอมีทาง(ดูรายละเอียดใน พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓ หน้า ๗๙) ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้กระทำเองว่า มีฝีเท้าในการหลีกหนีมากน้อยแค่ไหน มีเส้นชัยอยู่ที่อนุปาทิเสสนิพพาน(ดับขันธปรินิพพาน) ถ้าในระหว่างนี้เขามุ่งมั่นทำเฉพาะบุญกุศลอบรมสติปัญญาให้ปราดเปรื่องอยู่ตลอดเวลา จนถึงขณะจิตสุดท้าย หลังตายก็จะไปเกิดในภพดี ๆ ได้ และหากเขาทำได้เช่นนี้ทุกภพทุกชาติ ไม่มัวหลงระเริงกับความสุขเล็กๆน้อย ๆ ที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว อันเป็นผลพลอยได้จากการเร่งทำบุญ เขาก็มีโอกาสเข้าถึงเส้นชัยได้ก่อนที่บาปจะตามมาทัน

    เปรียบเหมือน โจรผู้ร้ายที่ได้ก่อคดีอาญาไว้ แล้วหลบหนีการจับกุมได้ตลอด ๒๐ ปี มีความสามารถในการหลบหลีกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่ออายุความครบ ๒๐ ปี คดีความก็เป็นอันหมดอายุไป กฎหมายไม่อาจลงโทษเขาได้อีกต่อไป บาปที่เราทำไว้ก็เช่นกัน หากเราเข้าถึงอนุปาทิเสสนิพพานได้แล้ว ก็ไม่อาจตามมาให้ผลได้อีกต่อไป(ดูรายละเอียดในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๔ ข้อ ๒๑๙ หน้า ๓๖๕) แต่โดยมากยากที่จะเป็นเช่นนั้น มักถูกวิบากกรรมตามมาทันเสียก่อน หลายคนหลายท่านพยายามวิ่งหนีเอาจิต รอดสุดชีวิต ต้องถึงกับผ้าผ่อนหลุดลุ่ยกว่าจะเข้าถึงอนุปาทิเสสนิพพาน เข้าสู่ที่ปลอดภัยได้

    ตัวอย่างเช่น พระองคุลีมาลเถระ กว่าท่านจะฟันฝ่าอุปสัคเข้าสู่เส้นชัยได้ ถูกกรรมเก่าไล่กวดจับจวนเจียนจะทันอยู่แล้ว หรืออาจจะถูกกรรมเก่าจับติดชายผ้านุ่งแล้ว แต่ท่านก็ยังพยายามดิ้นรนเต็มที่ ถึงกับถอดผ้านุ่งออกแล้ววิ่งล่อนจ้อนต่อไป จนเข้าสู่เส้นชัยจนได้ เมื่อเข้าสู่เส้นชัยแล้ววิปากกรรมก็มิอาจส่งผลได้อีก ไม่ต้องชดใช้กรรมใดๆ อีก ต่อไป( ดูรายละเอียดใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ ข้อ ๒๓๔ หน้า ๓๙๗) กรรมที่เคยทำไว้จะกลายเป็นอโหสิกรรมไป(ดูรายละเอียดในคัมภีร์อภิธรรมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๕ เรื่องกัมมจตุกกะ)

    คัมภีร์มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตรนิกาย เอกก-ติกนิบาต หน้า ๑๓๒ อธิบายว่า ในเวลาที่กุศลกรรมให้ผล อกุศลกรรมอย่างหนึ่งจะตั้งขึ้นตัดรอนกรรมนั้นให้ตกไป ถึงในเวลาที่อกุศลกรรมให้ผลกุศลกรรมอย่างหนึ่ง ก็จะตั้งขึ้นตัดรอนกรรมนั้นแล้วให้ตกไป นี้ชื่อว่าอุปัจเฉทกกรรม ในบรรดาอุปัจเฉทกกรรมที่เป็นกุศล และอกุศล กรรมของพระองคุลิมาลเถระได้เป็นกรรมตัดรอนอกุศล

    พระมหาเถระอีกรูปหนึ่ง ท่านมีบุญบารมีมากกว่าพระองคุลีมาลหลายเท่านัก และทั้งที่สามารถเข้าถึงสอุปาทิเสสนิพพานได้แล้ว แต่ท่านก็ยังถูกกรรมเก่าตามมาทันจนได้ ท่านผู้นั้น คือ พระมหาโมคคัลลานะ(ดูรายละเอียดในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ ข้อ ๖๐ หน้า ๓๙๐) ผู้อัครสาวกเบื้องซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่กรรมของท่านมีพลังอำนาจถึงเพียงนี้ เนื่องจากในชาติก่อนท่านได้ฆ่าพ่อแม่ของตนเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในอนันตริยกรรม ๕ ประการที่จัดว่าเป็นกรรมชั่วที่หนักที่สุด กรรมที่ท่านได้ทำนั้นส่งผลให้ท่านแทบเอาจิตไม่รอดทั้ง ๆ ที่ท่านสั่งสมบุญกุศลมาเป็นจำนวนมหาศาลถึงขนาดที่สามารถส่งท่านเข้าสู่พระนิพพานได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังต้านแรงบาปแทบไม่ไหว ท่านเข้าสู่สอุปาทิเสสนิพพานได้แล้วกรรมก็ยังตามมารังควาญอยู่ คือ ทั้งที่ท่านบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้รับสรรเสริญจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เป็นผู้มีฤทธิ์กว่าพระอรหันต์ทั้งปวงก็ยังถูกพวกโจรทำร้ายทุบตีร่างกายจนแหลกละเอียด เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ก็ยังดีที่บาปตามมาทันขณะที่ท่านก้าวเข้าสู่เส้นชัยได้ครึ่งตัวแล้ว จึงทำให้ผลกรรมย่ำยีท่านได้แต่ร่างกายเท่านั้น ไม่อาจทำให้จิตท่านหวั่นไหวได้

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “บัณฑิตทั้งหลาย เรียกบุคคลผู้เป็นมุนีทางกายเป็นมุนีทางวาจา เป็นมุนีทางใจ ผู้ไม่มีอาสวะว่า เป็นมุนีผู้สมบูรณ์ด้วยโมเนยยธรรม ล้างบาปได้แล้ว” (ดูรายละเอียดใน คัมภีร์พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๙ หน้า ๗๐)

    ที่มา ::
     
  2. PPond

    PPond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    838
    ค่าพลัง:
    +2,348
    ขอบคุณพี่knutch นำความรู้มาให้อ่านครับ
    พรุ่งนี้วันสำคัญของเราชาวพุทธ ขอให้มีความสุขมากๆครับ:cool:
     
  3. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    สวัสดียามคุณวีร์ คุณเตอร์ คุณอาร์ท คุณปังปอน คุณวุธ คุณเช คุณรัก น้องโอ๊ต และทุกๆๆท่าน ถ้าใครอยู่ทักทายกันหน่อยนะครับ
     
  4. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    สวัสดียามเช้าครับ วันนี้พระใหญ่ผมจะเอาลูกอมไปเวียนเทียนที่วัดด้วย ไปเวียนเทียนกันครับ
     
  5. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ดีครับ วันนี้ได้ทำบุญไปแล้วครับเมื่อเชานะครับ
     
  6. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892

    หวัดดีคับทุ๊กๆคน แล้วก็หวัดดี ยามคุณวีร์ [​IMG]ด้วยคับ
     
  7. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,573
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2011
  8. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892
    ไคที่ยังไม่แต่งงาน เชิญอ่านคับ

    ผู้ชายคนนึงอยากแต่งงาน
    แต่ไม่รู้จะเลือกใครดีระหว่างผู้หญิง 3 คน
    เขาเลยให้ของขวัญทั้ง 3 คนเป็นเงินสดคนละ 5,000 เหรียญ
    แล้วดูว่าแต่ละคนจะทำอะไรกับเงินที่ให้ไป
    คนแรก เอาไปใช้เรื่องแต่งตัวหมดเลย
    เธอเข้าร้านเสริมสวยทำผมใหม่
    แต่งหน้าใหม่ ซื้อชุดสวยๆ ใหม่ใส่
    เธอบอกเขาว่าที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่ออยากสวยสำหรับเขา
    เพราะเธอรักเขามาก
    เขาประทับใจเธอมาก
    คนที่สอง ไปซื้อของใช้ผู้ชายให้เขา
    เธอซื้อไม้กอล์ฟใหม่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
    และเสื้อผ้าแพงๆ ให้เขา
    ตอนเธอให้ของขวัญเขา
    เธอบอกว่าเธอใช้เงินทั้งหมดเพื่อเขาคนเดียว
    เพราะเธอรักเขา
    เขาก็ประทับใจอีก
    คนที่สาม เอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น
    ได้เงินมาหลายเท่า
    เธอคืนเงิน 5,000 เหรียญแก่เขา
    และลงทุนต่อโดยใช้ชื่อร่วม
    เธอบอกเขาว่าเธออยากเก็บเงินไว้เพื่ออนาคตสำหรับเธอและเขา
    เพราะเธอรักเขามาก
    เขาประทับใจเป็นที่สุด
    ชายหนุ่มคิดอยู่นานเกี่ยวกับวิธีใช้เงินของผู้หญิงแต่ละคน
    และแล้วเขาก็แต่งงานกับคน….
    **** ที่นมใหญ่ที่สุด…..****
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2011
  9. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    ไคที่ยังไม่แต่งงาน เชิญอ่านคับ

    ผู้ชายคนนึงอยากแต่งงาน
    แต่ไม่รู้จะเลือกใครดีระหว่างผู้หญิง 3 คน
    เขาเลยให้ของขวัญทั้ง 3 คนเป็นเงินสดคนละ 5,000 เหรียญ
    แล้วดูว่าแต่ละคนจะทำอะไรกับเงินที่ให้ไป
    คนแรก เอาไปใช้เรื่องแต่งตัวหมดเลย
    เธอเข้าร้านเสริมสวยทำผมใหม่
    แต่งหน้าใหม่ ซื้อชุดสวยๆ ใหม่ใส่
    เธอบอกเขาว่าที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่ออยากสวยสำหรับเขา
    เพราะเธอรักเขามาก
    เขาประทับใจเธอมาก
    คนที่สอง ไปซื้อของใช้ผู้ชายให้เขา
    เธอซื้อไม้กอล์ฟใหม่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
    และเสื้อผ้าแพงๆ ให้เขา
    ตอนเธอให้ของขวัญเขา
    เธอบอกว่าเธอใช้เงินทั้งหมดเพื่อเขาคนเดียว
    เพราะเธอรักเขา
    เขาก็ประทับใจอีก
    คนที่สาม เอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น
    ได้เงินมาหลายเท่า
    เธอคืนเงิน 5,000 เหรียญแก่เขา
    และลงทุนต่อโดยใช้ชื่อร่วม
    เธอบอกเขาว่าเธออยากเก็บเงินไว้เพื่ออนาคตสำหรับเธอและเขา
    เพราะเธอรักเขามาก
    เขาประทับใจเป็นที่สุด
    ชายหนุ่มคิดอยู่นานเกี่ยวกับวิธีใช้เงินของผู้หญิงแต่ละคน
    และแล้วเขาก็แต่งงานกับคน….
    **** ที่นมใหญ่ที่สุด…..****

    อึ่ม...ได้คิดแฮะ นอกเหนือจากความสามารถที่ผมอ่านตามกะว่าคนที่ 3 นะครับ แต่หวยออกไม่ใช่ เหนือความสามารถ ก็อาหารตาเอง ได้ใจเลยน้าม่อม...........:cool:
     
  10. Surfers

    Surfers เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    10,498
    ค่าพลัง:
    +26,963
    สวัสดีวันเปิดเทอมของเหล่านักเรียนครับ
    วันนี้มาทำงานรถติดแต่เช้าเลยครับผม แต่มาถึงที่ทำงานทันเวลาพอดีเป๊ะครับผม
     
  11. namo_2009

    namo_2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,432
    ค่าพลัง:
    +10,228
    สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้สำบายดีเด้อครับ
     
  12. nudjinnong

    nudjinnong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,161
    ค่าพลัง:
    +3,012
    สวัสดีครับพี่PeacE123, ละม่อม พี่ตรีรัตน์ พี่เตอร์ พี่ภู พี่วุธ พี่อาร์ต พี่อุ้ม พี่วี พี่ปังปอนด์ พี่เช
    คุณsurfer พี่ ลี บางกอก และพี่ๆสมาชิกทุกท่านครับ

    รูปโพรไฟล์ พี่อาร์ต แนว มากๆๆครับ
    ส่วน เรื่องเล่าพี่ละม่อม....ผมจะจำไว้เป็นแนวทางครับ อิอิ
     
  13. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    อะจ๊ากกกกกกกกกก

    คุณละม่อม จะเลือกแต่งกับคนไหนครับ อิอิ:cool:
     
  14. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892

    หวัดดีคับ น้องโอ๊ต
    พี่อาร์ตกลายเป็นหมาแพนดี๊ ไปซะแล้ว เท่ห์มั๊กๆๆ อิอิ

    มีอีกเรื่องนึงคับ เผื่อเป็นแนวได้


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=left>วิธีเลือกภรรยา


    </TD><TD align=right></TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2>เศรษฐีคนหนึ่ง มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว

    ครั้นถึงวัยสมควรแต่งงาน แกเป็นห่วงกลัวว่าจะได้เมียไม่ดีมาผลาญสมบัติของตระกูล

    จึงประกาศหาคู่ให้ลูกชายผ่านทางคอลัมน์ มาลัยไทยรัฐ

    ปรากฎว่ามีหญิงสาวจากทั่วทุกสารทิศสนใจมาสมัคร มากมาย

    แต่ละคนแจ่ม แจ่ม ทั้งนั้น ทำเอาลูกชายตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใคร

    ท่านเศรษฐีนำเอาสร้อยแหวน เพชรนิลจินดาราคาแพง และ หัวมัน หนึ่งหัว

    มากองไว้ต่อหน้าบรรดาสาว สาว ทั้งหลาย แล้วสั่งให้เลือกหยิบคนละหนึ่งชิ้น

    ปรากฏว่าทุกคนล้วนคว้าเอาแต่ข้าวของมีค่า มีเพียงสาวน้อยคนหนึ่งที่หยิบเอาหัวมัน

    เศรษฐีเห็นดังนั้นก็พูดกับลูกชายว่า”ลูกเอ๋ย จงเลือกหญิงคนนั้นมาเป็นเมียของเจ้า”

    ลูกชายรู้สึกแปลกใจ ถามพ่อเพราะเหตุใด , เศรษฐีจึงสอนลูกชาย ว่า

    ” ผู้หญิงที่เลือกเอาแก้วแหวน แสดงว่าหลงใหลในทรัพย์สิน ไม่รู้จักทำมาหากิน”

    ” ส่วนผู้หญิงที่เลือกเอาหัวมันนั้น คือคนที่ขยัน ทำงานไม่เกี่ยง”

    ลูกชายได้ฟัง ก็ไม่เถียง พ่อว่าไงก็ว่าตามนั้น

    ผมฟังนิทานเรื่องนี้แล้ว รู้สึกซาบซึ้งในคำสอนของท่านเศรษฐี

    ทุกวันนี้ผมจึงจำใส่ใจไว้ตลอดว่า ถ้าจะมีเมีย ต้องเลือกผู้หญิงที่

    ...........................................

    อยากรู้ว่า จะมีใครตอบได้มั้ยน้า ติ๊ก ต่อก ติ๊ก ต่อก ลองตอบมากันนะ




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892
    ตอนนี้ยังไม่เลือกดีกว่า..........ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์:':)':)'(


    ที่ใดมีกระปุก ที่นั่นมีออมสิน
    ที่ใดมีairport ที่นั่นมีเครื่องบิน
    ที่ใดมีน้องจิน ที่นั่นมีหมอลำ
    ที่ใดมีทาทา ที่นั่นหนามีเจ๊เบียบ
    ที่ใดมีหลอดตะเกียบ ที่นั่นมีไฟทุกคืนค่ำ
    ที่ใดมี Eหนู ที่นั่นมีเฒ่าหัวงู...เป็นประจำ
    ที่ใดมี" ถั่วดำ" ที่นั่นมี" กะเทยยยยย"
     
  16. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    อิอิ สัจธรรม เกิดมาก็คนเดียว ตายไปก็คนเดียว

    ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
     
  17. วีรวัช

    วีรวัช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,622
    ค่าพลัง:
    +5,029

    เลือกผู้หญิงที่ เอามัน คับพี่
     
  18. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
    ภาพหลวงปู่นามเมตตาปลุกเสกวัตถุมงคลให้พี่เพียรวิทย์ศิษย์ก้นกุฏิหลวงปู่ทิม
    ล๊อกเกตหลวงปู่ทิมประทานพรให้โชคลาภ
    ที่มา
    www.timpirus.com
    16 มิถุนานี้ ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมเปิดพิพิธภัณฑ์ "บุญญาภิรัต" หลวงปู่ทิม อิสริโก
     
  19. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892
    เกิดมาก็คนเดียว ตายไปก็คนเดียว อึม! ลึกซึ้งมั๊กๆ



    ถูกต้องแล้ว ค๊าบ เพราะว่าผู้หญิงที่เลือกเอาหัวมันนั้น คือคนที่ขยัน ทำงานไม่เกี่ยง คิดเหมือนผมเลย ช่ายมะๆ catt3


    เรื่องขำขันเกี่ยวกับพระ

    ฟังพระเล่ามา....ห้ามขำคนเดียวนะ

    ถ้าตอนใส่บาตรแล้วที่ยืนสกปรกมาก จะต้องถอดรองเท้าใส่บาตรด้วยหรือไม่ ?
    “ พระไม่ฉันรองเท้านะโยม ” ...ไม่ต้องเอารองเท้าใส่มานะ..... 021


    พระนอนไม่หลับ เลยไปหาหมอใหม่จบมาจากเมืองนอก

    หมอ: เป็นอะไรครับ
    พระ : จำวัดไม่ได้จ๊ะโยมหมอ

    หมอ: (ทำหน้างง) แล้วจะกลับวัดยังไง
    พระ: (ทำหน้างงด้วย) มามอไซค์รับจ้างก็ต้องกลับมอไซค์นะโยม

    หมอ: (ทำหน้าง๊งงง) แล้วมอไซค์รับจ้างจำวัดได้เหรอ
    พระ: (ทำหน้าง๊งงงด้วย) มอไซค์รับจ้างจำวัดไม่ได้หรอกโยม มีแต่พระที่จำวัดได้

    หมอ: (ทำหน้างงง๊งงง) อ้าวไหนบอกว่าจำวัดไม่ได้ไง
    พระ : !\=-+#@ %^&*( +๐"ฯ, ?

    จำวัดเป็นภาษาพระแปลว่านอน.........................
    หมอ: อ๋ออออออออออออออออออออออออออ

    ญาติโยมหลายท่านมักถามว่า " ท่านบวชเรียนมาตั้งแต่อายุยังน้อย อยู่ในเพศบรรพชิต
    มามากกว่าครึ่งชีวิต มีโอกาสสัมผัสชีวิตฆราวาสไม่มากนัก แล้วเอาข้อมูลวัตถุดิบหรือ
    มุกมาจากไหนหนักหนา"

    อาตมาก็ตอบว่า หลักๆเลยก็คือ การอ่าน นอกจากนั้นก็หนัง ละครที่ญาติโยมดูกันนั่นแหละ
    พอตอบออกไปอย่างนี้ โยมก็สวนกลับทันที "ไม่ผิดข้อห้ามหรือท่าน"

    อาตมาก็จะอธิบายไปว่า ดูเพื่อให้เท่าทันกิเลสจะได้สกัดมันถูก และที่สำคัญหากอาตมา
    ไม่รู้หรือไม่เข้าใจ ตลอดจนไม่เท่าทันเรื่องราวทางโลก และจะมาบรรยายธรรมให้ญาติโยม
    รู้สึกอินกันได้อย่างไร ซึ่งนอกจากการอ่าน การดูและการฟังแล้ว หลายวัตถุดิบที่นำมาสร้าง
    เป็นมุกฮาก็ได้มาจากการพูดคุยกับเหล่าโยมๆนี่แหละ

    อย่างวันหนึ่งระหว่างที่อาตมากำลังฉันเพลอยู่ก็มีโยม ท่านหนึ่งโทร.มา
    "พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองนะคะ"
    "หา อะไรนะ"
    "พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองค่ะ"
    "ถ้าโยมแทนตัวว่าอาตมา แล้วอาตมาจะแทนตัวอาตมาว่าอะไร"
    "อ๋อ ขอโทษค่ะ"
    หลังจากนั้นก็คุยธุระกันจนจบ อาตมาก็กล่าวว่า "เจริญพร"
    "ค่ะ เจริญพรเช่นกัน"
    แน่ะ มีอวยพรให้พระด้วย 008

    ข้างต้นก็คือ สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆระหว่างพูดคุยกับเหล่าญาติ โยม จนถือว่าเป็นเรื่อง
    ปกติสำหรับอาตมาไปแล้ว หรืออย่างก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เดินถือสังฆทาน
    มาอย่างมาดมั่น พอเข้ามาในกุฏิแล้ว เธอก็มุ่งตรงไปที่พระบวชใหม่รูปหนึ่งทันที
    "ถวายสังฆทานค่ะ"

    พระบวชใหม่ด้วยความที่ยังจำบทสวดต่างๆ ไม่ค่อยคล่องนัก จึงหยิบหนังสือขึ้นมาดู
    "ไม่ต้องค่ะ " โยมผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างหนักแน่นตามสไตล์สาวมั่น
    "ดิฉันท่องได้ค่ะ เพราะคุณยายพาเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ" เธอพนมมือขึ้น ก่อนกล่าวว่า
    "อิมานิ มะยัง ภันเต สะปะริวารานิ คิกขุ สังโฆ">> (ที่ถูกต้องจะต้องเป็น ภิกขุ สังโฆ)
    พระบวชใหม่มีสีหน้างุนงง ก่อนหันมาถามอาตมา "คิกขุสังโฆ นี่มันฟังทะ:)ๆ นะหลวงพี่"

    อาตมาเกรงว่าโยมผู้นั้นจะหน้าแตก ก็เลยตอบไปว่า "คิกขุ แปลว่า น่ารัก
    สังโฆ แปลว่า สงฆ์ คิกขุสังโฆ ก็คือ แด่พระสงฆ์ผู้น่ารัก" เท่านั้นแหละ
    พระใหม่รูปนั้นนั่งยืดทั้งวันเลย 027

    แต่ก็มีบางกรณีที่การพูดผิดของคุณโยมทำให้อาตมาแทบจะ สำลัก อย่างเมื่อเร็วๆนี้
    มีโยมท่านหนึ่งโทรศัพท์มา "หลวงพี่ขา ขอเรียนเชิญนิมนต์ค่ะ"
    "ไปไหนล่ะโยม" "ไปมรณภาพที่บ้านน่ะค่ะ"
    < <>>โห นิมนต์พระไปตายถึงที่บ้านเลย 021
    อาตมาจึงบอกไปว่า ถ้านิมนต์ไปงานศพไปให้ได้ แต่ถ้าเชิญไปมรณภาพนี่
    ช่วงนี้อาตมาไม่ว่างจริงๆ ขอตัวเถอะนะโยม

    จากตัวอย่างข้างต้น คุณโยมอาจจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่มันก็สะท้อนให้เห็นความห่างเหิน
    ระหว่างคนกับวัดได ้ในระดับหนึ่ง ปัจจุบันนี้คนจะนึกถึงวัดในกรณีพิเศษ เท่านั้น เช่นงานบวช งานศพ

    ต่างกับสมัยก่อนที่วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ฆราวาสกับพระจึงสนทนากันไหลลื่น
    ไม่มีคำแปลกๆ หรือผิดที่ผิดทางออกมาให้พระสดุ้งแต่อย่างใด ซึ่งถ้าพูดถึงศัพท์
    แสงที่แสลงใจแล้ว ตอนไปบิณฑบาตอาตมาจะเจอบ่อยมาก เช่นมีอยู่
    ครั้งหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินๆอยู่ ก็ได้ยินเสียงใสๆ แว่วขึ้นมา

    "แม่ๆ พระมาขอข้าว"
    "มาเยอะไหมลูก"
    "มา 2 อัน"
    โห เรียกอย่างกับชิ้นส่วนรถยนต์
    นี่ถ้ามาเยอะๆไม่เรียกเป็นฝูงเลยเหรอ

    ดังนั้นเวลาไปบรรยายธรรมให้นักเรียนฟังอาตมาจะนำเรื่องนี้ไปสอดแทรกเพื่อสอนเด็กๆด้วย
    "ถ้าพระกิน เรียก ฉัน"
    " พระนอน เรียก จำวัด" (บางคนเรียกขี้เกียจเป็นพระนอนไม่ได้)
    " พระป่วย เรียก อาพาธ"
    " พระตาย เรียก มรณภาพ" (ไม่ใช่เรียกป่อเต็กตึ๊งนะ)
    " แล้วพระอาบน้ำล่ะ เรียกอะไรเอ่ย"
    คราวนี้อาตมาถามให้เด็กๆ ตอบบ้าง
    เด็กๆ ตอบ >>"เรียกคนมาดู"

    ที่มา : Forward mail
     
  20. PPond

    PPond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    838
    ค่าพลัง:
    +2,348
    สวัสดีพี่น้องชมรมระฆังทอง ช่วงนี้เงียบๆนะครับ

    เมื่อคุณจะทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม
    หากคุณชอบและรัก และพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับมัน
    คุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
    แต่คุณต้องลงมือศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจังด้วย
    ---- ชัยยุทธ กรรณสูต

    อย่าลืมว่า
    ในการประกอบธุรกิจ เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเฮงด้วย
    และเก่งกับเฮงก็ใช้ไม่ได้แล้วในสมัยนี้
    ต้องมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจด้วย
    และเรื่องนี้ผมก็สอนลูก ๆ ผมอยู่เสมอ
    ---- อุเทน เตชะไพบูลย์

    ผมบอกพนักงานอยู่เสมอ
    คือในโลกนี้ ไม่มีคนไหนเก่งไปตลอดกาล
    วันนี้คุณอาจเก่ง แต่พรุ่งนี้ อาจมีคนเก่งกว่าคุณ
    เพราะฉะนั้น คนใดก็ตามที่ภูมิใจว่า ตนเองเก่ง
    จงจำเอาไว้ได้เลยว่า ความหายนะใกล้มาถึงตัวคุณแล้ว
    ความโง่คืบคลานมาใกล้ตัวคุณแล้ว
    ---- ธนินท์ เจียรวนนท์

    ผมพร้อมจะเป็นน้ำนิ่ง อาจมีเขื่อนมาขวางหน้า
    แต่ถ้าวันใด ที่เขื่อนนั้นเปราะบาง และโอกาสแห่งการสำแดงพลังมาถึง
    ผมก็พร้อมจะกลายเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
    โหมกระหน่ำใส่ทุกสิ่งที่ขวางกั้น
    แม้กระทั่งเขื่อนที่ครั้งหนึ่งผมเคยสยบยอมก็ตาม
    ---- เจริญ สิริวัฒนภักดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...