เรื่องเวลาของมหากัป

เคยสงสัยเหมือนกันเรื่องเวลาของมหากัปที่เขานับบารมีกัน ถ้าเปรียบกับ ขัดภูเขาหรือนับเม็ดผักกาด ลองคำนวณดูแล้วผมว่าระยะเวลาสั้นไปตกแค่ประมาณ3*10ยกกำลัง33 เองผมว่าน้อยไป
อันที่จริงต้องลองจากอายุคนในชมพูทวีป ไม่ว่าจักรวาลใดๆจะมีหนึ่งชมพูทวีป จักรวาลใดมีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรุ้ จะเรียกว่า มงคลจักรวาล และ สมนันตจักรวาล คือมีเพียงหนึ่ง คู่กันกับอวมงคลจักรวาล และอนันตจักรวาล
หลังจากพรหมหมดบุญลงมากินดิน ตอนชมพูทวีปสุกใหม่ๆ อายุจะตั้งต้นที่อสงไขยปี (อย่าสับสนกับ อสงไขยกัปและ อสงไขยมหากัป ) อะไรๆก็ตามที่ใส่ว่าอลงไขย หมายถึงคูณด้วย10 ยกกำลัง140 เอาแค่พรหมหมดบุญ อายุเค้ายัง 1*10ยกกำลัง 140 เลย มากกว่าขัดภูเขา หรือหย่อนเม็ดผักกาดตั้งเยอะ

 

ภาค2

ทีนี้ เริ่มทำบาปมากขึ้น อายุจะลดลง 100 ปีลดลง 1 ปี จนเหลือ 10ปีแล้วทำกุศลมากขึ้น อายุก็เพิ่ม100ปี เพิ่ม 1ปี จาเป็น1*10 ยกกำลัง140 คืน
1*10ยกกำลัง140------100ปีลด1ปี----------10ปี-------100ปีเพิ่ม1ปี--------1*10ยกกำลัง140
อันนี้จะเรียกว่า 1 อันตรกัป ( อันตระ แปลว่าระหว่าง เช่นโลกันตระนรกคือ โลก+อันตระ แปลว่านรกที่อยู่ระหว่างโลก) พระพุทธเจ้า พระปัจเจกจะตรัสรู้เฉพาะอันตรกัปขาลง เท่านั้น ไม่ตรัสในขาขึ้น

 

ภาค3

มีใครเป็นนักคณิตศาสตรเก่งๆปะคับ มาช่วยตั้งสุตรให้ผมหน่อย
เล่าต่อ อายุขึ้นลงอย่างนี้64 รอบ เรียก 1 อสงไขยกัป(ยังไม่ใช่มหากัปนะ ) ดังนั้น
1อสงไขยกัป = 64รอบx (1*10ยกกำลัง140----ร้อยปีลดลง1ปี จนถึง----10ปี------ร้อยปีเพิ่ม1ปีจนถึง1*10ยกกำลัง140)
ใครเก่งตั้งสูตรมาช่วยกันนะ
มาตอนนี้แอบสงสัยที่พระไตรปิฎก ว่า อสงไขยกัป ขึ้นลง 64 รอบเอง แต่เอาเป็นว่าคำนวณตามนี่ก่อนละะกัน

 

ภาค4 มหากัป

4 รอบอสงไขยกัป ถึงจะเป็น 1 มหากัปที่พวกเราพูดถึงกัน
ดังนั้น1มหากัป= 4 x 64รอบ x (1*10ยกกำลัง140----ร้อยปีลดลง1ปี จนถึง----10ปี------ร้อยปีเพิ่ม1ปีจนถึง1*10ยกกำลัง140)
=256 รอบ x (1*10ยกกำลัง140----ร้อยปีลดลง1ปี จนถึง----10ปี------ร้อยปีเพิ่ม1ปีจนถึง1*10ยกกำลัง140)
=256 อันตรกัป= 4 อสงไขยกัป = 1 มหากัป
ใครคิดสูตรช่วยหน่อยคับ

 

ภาค5 อสงไขยมหากัป

อย่างที่เคยบอกแล้วว่า อสงไขยคือ 1*10ยกกำลัง140
ดังนั้น อสงไขยมหากัป= 1*10ยกกำลัง140x[256 รอบ x (1*10ยกกำลัง140----ร้อยปีลดลง1ปี จนถึง----10ปี------ร้อยปีเพิ่ม1ปีจนถึง1*10ยกกำลัง140)]

ถ้าผมได้อ่านมา สูตรคำนวณเวลาของ อันตรกัป อสงไขยกัป มหากัป อสงไขยมหากัป น่าจะเป็นตามสมการนี้ ใครตั้งสูตรแล้วออกมาเป็นตัวเลขกลมๆได้จะเป็นพระคุณมากเลยคับ

 

ผมไม่เก่งคณิตศาสตรนะครับ

แต่ผมเชื่อมันในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สิ่งที่พระองค์ตรัสคือความจริงทุกประการ ไม่มีผิดเพียนเลยแม้แต่น้อย

 

อยากคิด คิดไป แก้ว่าง

 

เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็น อจินไตย
รู้ไปก็มิได้ทำให้พ้นทุกข์
แล้วจะรู้ไปทำไมหรือ

 

เห็นสนใจการนับ จึงนำจำนวนนับมาฝาก ตั้งแต่ สิบ , ร้อย , พัน จนถึง อสงไขย
๑๐ สิบ..............เป็น....................หนึ่งร้อย
๑๐ ร้อย.............เป็น....................หนึ่งพัน
๑๐ พัน..............เป็น....................หนึ่งหมื่น
๑๐ หมื่น............เป็น....................หนึ่งแสน
๑๐ แสน............เป็น....................หนึ่งล้าน
๑๐ ล้าน ............เป็น....................หนึ่งโกฏิ
๑๐ โกฏิ.............เป็น....................หนึ่งปโกฏิ
๑๐ ปโกฏิ...........เป็น....................หนึ่งโกฏิปโกฏิ
๑๐ โกฏิปโกฏิ......เป็น....................หนึ่งนหุต
๑๐ นหุต............เป็น....................หนึ่งนินนหุต
๑๐ นินิหุต..........เป็น.....................หนึ่งอักโขภินี
๑๐ อักโขภินี.......เป็น.....................หนึ่งพินทุ
๑๐ พินทุ............เป็น.....................หนึ่งอัพภุทะ
๑๐ อัพภุทะ.........เป็น.....................หนึ่งนิรัพภุทะ
๑๐ นิรัพภุทะ........เป็น.....................หนึ่งอหหะ
๑๐ อหหะ...........เป็น.....................หนึ่งอัฏฏะ
๑๐ อัฎฎะ ..........เป็น.....................หนึ่งอัพภัพพะ
๑๐ อัพภัพพะ.......เป็น.....................หนึ่งโสคันธิกะ
๑๐ โสคันธิกะ ......เป็น....................หนึ่งอุปละ
๑๐ อุปละ............เป็น....................หนึ่งกุมุทะ
๑๐ กุมุทะ............เป็น....................หนึ่งปทุมะ
๑๐ ปทุมะ ............เป็น...................หนึ่งปุณฑริกะ
๑๐ ปุณฑริกะ.........เป็น...................หนึ่งกถานัง
๑๐ กถานัง ...........เป็น...................หนึ่งมหากถานัง
๑๐ มหากถานัง.......เป็น...................หนึ่งอสงไขย

หนึ่งอสงไขย เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เขียน เลข 1 แล้วเขึยนเลข 0 ตามไปอีก 140 ตัว
หลายคนมักเข้าใจผิด นำหลักล้าน มาเทียบ กับหลัก อสงไขย
ซึ่งความจริงแล้ว จำนวน ล้าน มันน้อย มาก ๆๆๆ หากไปเทียบกับ จำนวน อสงไขย

ส่วนคำว่า มหากัป มันคือ อายุของ จักรวาล (คำว่าจักรวาล ในพุทธศาสน์ มันเทียบกับทางวิทยาศาสน์ ก็คือ กาแลกซี่ )
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ระยะเวลาตั้งแต่ โลก และจักรวาล (กาแลกซี่ ) เริ่มก่อตัวกำเนิดขึ้น ตั้งอยู่ จนกระทั่งพังทลายไป
อายุของ จักรวาล มันนานมาก ๆ จนไม่มีจำนวนนับใดๆ มา นับได้ จึงต้องใช้วิธี อุปมา แทน
และ ระยะเวลามหากัป นี้ นั้น ช่วงเวลาส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มี สิ่งมีชืวิต รวมถึงมนุษย์ อาศัยอยู่ได้
ส่วนที่ คุณ หมอตัวน้อย กำลังคิด สูตรคำนวน นั้นจะ เป็นเพียงระยะเวลาที่มนุษย์ อาศัยอยู่ได้ ซึ่งเป็นส่วนน้อยของมหากัป (ส่วนน้อยของมหากัป ก็ยังนาน มากๆๆๆ)

ความรู้ที่มีใน พระพุทธศาสน์ อีกมากมาย ที่ ทางวิทยาศาสน์ ยังตามไม่ทัน

 

แค่ชาติปัจจุบัน อายุสูงสุด 75 ปี เล่นคิดไปสะไกลโน้น ตายไปแล้วเป็นร้อยล้านครั้ง T T อิอิ

 

ที่ว่าพระพุทธิเจ้าอฐิฐานจิตว่าจะไห้พุทธศาสนาอยู่ในโลกอีก5000ปีแสดงว่าหลังจากนี้ไป5000ปีจะไม่มีโลกนี้อยู่ใช่ไม๊ครับบังเอิญโลกถูกล้างก่อนหมดศาสนาครบ5000ปี
แล้วพวกเราเกิดใหม่เป็นตัวอะไรกันครับแล้วกระแสนิพานในสวรรค์จะดับตามไปด้วยไม๊ครับ

 

จากการหาข้อมูล ไม่พบว่า พระพุทธเจ้าเคยอฐิษฐานจิตว่าจะไห้พุทธศาสนาอยู่ในโลกอีก5000ปี
และ เรื่องพุทธศาสนามีอายุ5000ปี ก็ไม่มีในพระไตรปิฏก แต่มีใน อรรถกถา และ มิลินทปัญหา
หากหลังจาก 5000ปี แล้ว พุทธศาสนาเลือนหายไป โลกนี้มันก็จะคงอยู่ต่อไป แต่ไม่มีคำสอน ความรู้ที่จะให้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร อาจจะมี พระปัจเจกพุทธเจ้าเกิดขึ้นบ้าง
ศาสนาพุทธไม่มีคำสอนเรื่อง วันล้างโลก หรือวันพิพากษา
ถึงมีภัยพิบัตร้ายแรง จนมนุษย์ตายกันเป็น ล้านๆ คน ยังไงมนุษย์ ก็ไม่สูญพันธ์
เพราะผมเชื่อมั่นในคำที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า จะมีพระศรีอริยะเมตไตร มาตรัสรู้และสอนให้มีผู้บันลุธรรม ตามกันมากมาย

ปีที่มนุษย์ จะตายมากที่สุด จนเกือบสูญพันธ์ น่าจะเป็นปี พ.ศ.9000 เพราะมนุษย์น่าจะมีอายุ เฉลี่ย ที่ 10 ปี ศีลธรรมคงเสื่อมถึงขีดสุด คงมีคนน้อยมากๆที่จะรักษาศีล และรอดชีวิตจากช่วงนั้นไปได้

 

ขอทําวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อความหลุดพ้น

อนุโมทนาสาธุๆ ขอบพระคุณค่ะ