เชิญ"พระศาสดา"ประดิษฐานวัดหลิงกวงดันไทยศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก

​

ความพยายามในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่คู่กับโลกใบนี้ เป็นหน้าที่หลักขององค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก หรือ พ.ส.ล. ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2493 รวมเวลากว่า 61 ปี มาแล้ว

แม้องค์การแห่งนี้จะมีการประชุมครั้งแรกในประเทศศรีลังกา โดยมีประเทศซึ่งมีประชากรนับถือศาสนาพุทธรวม 28 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม แต่ไทยซึ่งเป็นประเทศแรกๆ ที่ร่วมผลักดันให้มีการจัดตั้งองค์การแห่งนี้ได้รับการยอมรับจากประเทศสมาชิกว่า เป็นประเทศที่พระพุทธศาสนามีความเข้มแข็งมากที่สุด เพราะมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและทรงเป็นพุทธมามกะ อีกทั้งรัฐบาลยังให้การสนับสนุนองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก

ประเทศสมาชิกจึงสนับสนุนให้ไทยเป็นที่ตั้งของสำนักงานถาวรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 โดยปัจจุบันมีที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานเบญจสิริ และมีคนไทยเป็นประธานองค์การ คือนายแผน วรรณเมธี เช่นเดียวกับเลขาธิการองค์การ ก็เป็นคนไทยเช่นกันคือนายพัลลภ ไทยอารี

หลังมีการจัดตั้งสำนักงานถาวรองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกในประเทศไทย องค์การแห่งนี้มีความพยายามในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาของโลก มีการจัดประชุมประเทศสมาชิกทุกๆ 2 ปี เพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการเผยแพร่หลักธรรมอันบริสุทธิ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งเสริมให้ผู้นับถือศาสนาพุทธในประเทศสมาชิกรักษาศีลและปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งเสริมสร้างความสามัคคีความเป็นปึกแผ่นและภราดรภาพในหมู่ศาสนิกเพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความกลมเกลียวกันในหมู่มนุษย์

เมื่อปี 2552 องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกได้จัดสร้างพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย พุทธลักษณะพระศาสดา จำนวน 19 องค์ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ประดับบนผ้าทิพย์พระพุทธรูป เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัด และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา จำนวน 19 ประเทศทั่วโลก ซึ่งหลังการจัดสร้างได้นำไปประดิษฐานในประเทศต่างๆ แล้ว 15 องค์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ได้นำพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดา องค์ที่ 16 ไปส่งมอบให้แก่พุทธสมาคมแห่งประเทศจีน เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วัดหลิงกวง ชานกรุงปักกิ่ง ของประเทศจีน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีประดิษฐานพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดาในพระวิหารประธานของวัดด้วยพระองค์เอง

"วัดหลิงกวง เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 8 สมัยราชวงศ์ถัง เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาเพราะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระธาตุเขี้ยวแก้วหรือพระทาฐธาตุ ซึ่งเป็นพระธาตุส่วนที่เป็นเขี้ยวขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยังเป็นเส้นทางผ่านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจากชมพูทวีปไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกสมัยพุทธกาล ปัจจุบันมีพุทธศาสนิกชนทั่วโลกเดินทางมาสักการะพระธาตุเขี้ยวแก้วที่วัดแห่งนี้จำนวนมาก องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกและพุทธสมาคมแห่งประเทศจีนจึงเห็นตรงกันให้นำพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดามาประดิษฐานเพื่อพุทธศาสนิกชนที่ไปที่วัดแห่งนี้ได้นมัสการเพื่อเป็นสิริมงคล" นายพัลลภ ไทยอารี เลขาธิการองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก กล่าว

นายพัลลภ กล่าวด้วยว่า การนำพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญของประเทศไทย ไปประดิษฐานยังสถานที่สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธ เป็นหนึ่งในแผนงานที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธให้เป็นรูปธรรม และเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพุทธศาสนิกชนชาวไทยกับพุทธศาสนิกชนในประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยมายาวนาน

สำหรับประเทศจีนมีการนำพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดา ซึ่งสร้างโดยองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกไปประดิษฐานแล้วจำนวน 3 องค์ โดยองค์แรกประดิษฐานที่วัดจึ้งอัน นครเซี่ยงไฮ้ องค์ที่สองประดิษฐานที่วัดป่าเชต์ เมืองจิ่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา และองค์ที่สามที่วัดหลิงกวง ชานกรุงปักกิ่ง

ส่วนพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดาที่เหลืออีก 3 องค์ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะนำไปประดิษฐานในสถานที่ใด แต่จะยึดหลักการพิจารณาว่าสถานที่นั้นๆ จะต้องเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนา เป็นศูนย์รวมของพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่จะเดินทางไปในสถานที่แห่งนั้น เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเหล่านั้นได้มีโอกาสนมัสการพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดา ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนชาวไทย

http://www.komchadluek.net/detail/2...ฐานวัดหลิงกวงดันไทยศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก.html

 

"การนำพระพุทธรูปจำลองสมเด็จพระศาสดา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญของประเทศไทย ไปประดิษฐานยังสถานที่สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธ เป็นหนึ่งในแผนงานที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธให้เป็นรูปธรรม" ผลักดันไปทำไม หลงทางแล้วมั้งน่ะ แทนที่จะส่งเสริมพระธรรม กลับไปส่งเสริมรูปเคารพ จะเสื่อมไปถึงไหนครับ