มาให้กำลังใจเเม่ดร.เเม่ชีทศพร..จากหนึ่งเสียงของผู้ศรัทธา

ได้ดูเกือบทุกตอน แต่บางตอนก็ทนฟังไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่ก็จะเปิดไปดูตอนอื่นๆๆๆ
บางคำที่ได้ยิน ก็จะคิดแค่ว่าทำไมต้องพูดออกมาแบบนี้ด้วยน้าาาาาา ไม่กล้าคิดไกลกลัว
บาป แต่ก็พยายามห้ามใจไม่ให้คิดแย้งน่ะค่ะ กรรมของใครก็เป็นของคนนั้น อย่าไปตำหนิหรือต่อว่าให้เกิดเป็นบาปกรรมแก่ตัวเองเลยค่ะ

 

ถูกต้องค่ะ

ส่วนตัวคิดว่า
เราต้องเอาเจตนาของแม่ชีเป็นที่ตั้ง แม่ชีท่านยังไม่ใช่พระอรหันต์ก็ต้องมีบ้างที่พลั้งเผลอ แต่ท่านคงไม่มีเจตนาในด้านลบแน่นอน

 

สวัสดีครับ.....
ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามแนวทางที่แม่ชีนำมาเผยแพร่ในเรื่องของกรรม ผมเองเป็นคนที่สนใจในการใฝ่รู้และปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่ตนถนัดและชอบ เมื่อผมทราบข่าวเรื่องของแม่ชีผมเองก็คิดว่าท่านจะแก้กรรมให้คนอื่นได้อย่างไร เมื่อผมได้มีโอกาสมานั่งฟังท่านบรรยายธรรมและยกตัวอย่างกรรมในเรื่องต่างๆที่คนมาขอให้ท่านแนะนำให้นั้น แรกๆก็เฝ้าดูว่าจะจริงแค่ไหน จะช่วยได้หรอ ผมซื้อซีดีที่ท่านแนะนำเรื่องกรรมมาดู ซื้อหนังสือมาอ่าน แล้วลองทำตามคำแนะนำทุกอย่างแบบไม่เชื่อแต่อยากลองว่าเมื่อทำตามคำแนะนำแล้วจะได้ผลลัพท์อย่างไร เริ่มแรกลองทำได้ 1 เดือนเต็มๆ แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของชีวิตว่าเป็นเช่นไร

ขอบอกว่าวิธีคิดดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน(ละเอียดขึ้น) รู้จักละอายและเกรงกลัวต่อบาปมากขึ้น มองทุกอย่างแบบมีเหตุ(ต้นเหตุกรรม)และผล (อานิสงค์จากกรรม) อาชีพการงานมั่งคงและรุ่งเรืองขึ้น รู้จักที่จะอธิษฐานผลบุญ แผ่เมตตาได้ตรงจุดตรงประเด็นมากขึ้น และลองแนะนำให้คนที่รักข้างเคียงลองทำตาม ปรากฎว่าได้ผลดีเช่นกัน

เลยอยากให้ท่านเปิดใจกว้างแล้วลองทำตามคำแนะนำตามที่ท่านแม่ชีกล่าวไว้ก่อน หากทำตามอยางจริงจังและจริงใจแล้วไม่ดีจริงก็เปลี่ยนแนวทางได้ครับ แต่หากทำตามแล้วชีวิตดีขึ้นก็นับว่ามีวามสนาต่อกัน หนทางเดินมีมากมายเราอาจมีวาสนากับบางเรื่อง บางบุคคล แต่มิได้หมายความว่าหากเราลองทำตามแล้วไม่ดีแปลว่าท่านไม่ดีไปด้วยนะครับ

ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ขอยืนยันคุณธรรม ความดีที่ท่านแม่ชีได้แนะนำเรื่องกฏแห่งกรรมที่ท่านได้บอกกล่าวเอาไว้ครับ

ขอบอกนะครับว่าไม่เคยให้แม่ชีเปิดกรรม ไม่เคยขอให้ท่านเปิดกรรม เพียงแต่นำเอาคำแนะนำที่ท่านแนะนำผู้ที่มาขอคำแนะนำจากท่านไปลองทำ ลองปฏิบัติดูแล้วได้ผลดีเกินคาด จึงอยากให้บางท่านเปิดใจกว้างก่อนที่จะตัดสินสิ่งใดลงไปนะครับ

 

เป็นกำลังใจให้แม่ชีคับ สู้ๆๆต่อไปคับ

ถ้าไม่ได้แม่ชี ผมก็คง ทำบาป หรือ ทำกรรมต่อไปเรื่อยๆๆ

ผม ฟังแล้ว สิ่งที่ผมทำๆเออมันบาปจิงๆๆนะ แล้วผมก็หยุดทำ
ส่วนตลกๆๆแม่ชีคงอยากให้พวก ศรัทธรา ไม่เครียดกัน แม่ชีคงไม่อยากให้ทุกคนที่มาฟังธรรม รู้สึกเบื่อ

ดั่งที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติไว้ หย่อน พอดี ตึงมาก

พระพุทธเจ้าก็ เลือก พอดี

ถ้าเกิดแม่ชี บรรยายธรรม หย่อนเกินไป คือ พูดไร้สาระเกิน เกินกว่าความเป็นจริงไป ก็จะรู้สึกเบื่อกันได้
ถ้าเกิดแม่ชี บรรยายธรรม ตึงเกินไป คือ พูดแต่เรื่องเครียด ทุกคนจะเครียดได้ และเบื่อได้

ถ้าเกิดแม่ชี บรรยายธรรม พอดี คือ ไม่เกินความเป็นจิง ไม่พูดให้ผู้ฟังรู้สึกเครียดมาก แต่จะให้สนุกสนานไปกับธรรมมะ
ผู้ศรัทธรา ทั้งหลายก็รู้สึกดี สนุกสนาน เฮฮา มีความสุขกับธรรมมะ และรู้สึกว่าตนเองจะไม่ทำกรรมอไรอีกต่อไปแล้วนะล้วนแลวแต่คิดดีทุกคน


แล้วก็ทุกคนที่ศรัทธาแม่ชี ก็ล้วนแล้วแต่ มาปฏิบัติดีมาปฏิบัติชอบกันทุกคน


คือถ้าใคร ละกิเลสได้แล้ว จะเข้าใจคับ ไม่เอามาวิพากวิจารกันแบบนี้ ควรจะส่งเสริม กล่าวให้กำลังใจผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำให้คนหลายคน มาปฏิบัติธรรมได้เยอะขนาดนี้

แต่ถ้าเรื่องใดดูแล้วเกิด ไม่เชื่อ พูดจาแบบไม่ไช่แบบนักปฏิบัติเลย แค่ท่านไม่เชื่อ ท่านก็มีกิเลศแล้วคับ(ผมไม่ได้ตั้งใจว่าคนที่ไม่เชื่อนะคับ)



ขอให้ทุกท่าน ที่ยังละ กิเลศ ไม่หมด ขอให้บุญกุศลความดีที่ทุกท่านทำมาส่งผลให้ ละกิเลส ทั้งปวงให้ได้หมดด้วยเถิด


ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกไม่พอใจ ขออโหสิกรรมด้วยนะจ้า

 

คนเราไร้สติ ฟัง ดู สิ่งใดมาก็ด่าทอว่าร้ายเสียหายหมด แต่ไม่เคยนึกถึงคุณงามความดีเลย นี่แหล่ะมนุษย์ที่ไร้สติ
ส่วนตัวไม่ถือโทษโกรธผู้นั้น อโหสิกรรมให้กันไป

 

ทำใจวางเฉย
สิ่งใดที่เราสัมผัสได้ว่าดีงามก็อยู่กับมันไป
สิ่งใดที่เราเห็นว่ามันไม่ดีจริง ก็ถอยห่างออกมา
เราคงเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ แต่มีความตั้งมั่นและสัจจะในตัวเองที่จะปฏิบัติและยึดมั่นในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าต่อไป

 

ท่านแก้กรรม แล้วท่านเรียกร้องขอเงินหรือเปล่า ผมก้อไม่รู้น่ะ แต่อยู่เฉยๆ ทำตัวเองให้ดีก้อพอแล้ว คิดแค่นี้ก้อพอ
ส่วนเรื่องผลประโยชน์อื่นๆผมไม่รู้

 

ผมเป็นคนที่เชื่อยาก ก่อนที่จะเชื่อแม่ชี ก็ลองตั้งข้อสังเกตุตั้งข้อพิสูจน์เอาไว้พอสมควร ทุกวันนี้ก็เชื่อครับ
ขอบคุณแม่ชีที่ทำให้คนของผมส่วนหนึ่ง ได้เป็นคนดีขึ้นครับ
ครั้งหนึ่งแม่ชีท่านว่า หากท่านขึ้นวิปัสนาแล้ว ท่านรู้ก็จะไม่ยุ่งกับเรื่องของใครอีก ประมาณนี้ เท่าที่จำได้ ลองพิจารณาดูดีๆ

เราท่านเคยแก้กรรมให้ใครมั้ยครับ ท่านรู้มั้ยครับว่าการจะแก้จิตที่ติดขัดต้องทำยังไง สำหรับผม แก้จิตที่ติดขัดนั้นออกได้จิตไม่ขุ่นมัวไม่ติดขัดเมื่อนึกถึงเรื่องนั้นก็หลุดจากบาปทุกข์จากเรื่องนั้น เ่ท่าที่ผมเองก็เคยลองแก้ให้เขามาบ้างเมื่อเขามีทุกข์มาก็ทำเพียงเท่านั้น ไอ้ที่ว่าจะตายๆ รอดไปก็มี ผิดหวังสมหวังก็มี เจ็บหายป่วยก็มีื ก็ทุกอย่างเกิดแต่จิตนี่นะ แต่อุบายของแต่ละท่าน แต่ละจริต วิธีการแต่ละท่าน แต่ละจริต ก็ใช้ไม่เหมือนกัน แต่เป้าหมายนั้นผมว่าเหมือนกัน


การสร้างบารมี มีหลายขั้น
ไม่รอบ ระวังจะต้องเสียใจที่หลังด้วยความไม่รอบนั้นเอง
รักนะ ถึงบอก ถึงเตือน

 

แล้วแก้กามทำไงครับ มันยากส์จริง ๆ(ถามคนที่ยังไม่มีครอบครัวนะครับคนมีครอบครัวไม่ต้องตอบเพราะท่านละไม่ได้อยู่แล้ว)

 

ขอโทษนะคะนี่กระทู้ให้กำลังใจแม่ชีทศพร ถ้าพวกคุณจะมาว่าแม่ชีไปกระทู้อื่นเลยค่ะ
ไปตั้งกระทู้ด่าแม่ชีก็ตามใจอย่าทำผิดความตั้งใจจขกทค่ะ


เราขอเป็นฝ่ายแม่ชีค่ะ กรรมบางอย่างบางทีมันต้องแก้ที่เหตุค่ะ คุณไปทำอะไรมาคุณก็ต้องแก้ตรงนั้น ส่วนตัวเราชื่อว่าแม่ชีท่านก็คงทราบแล้วว่าจะมีเสียงมาว่าท่าน แต่ท่านก็คงนิ่งเฉยให้เวลาจัดการทุกอย่างเอง ลูกเชื่อในแม่ชีทศพรค่ะ

 

นอ มิ ทอ ฟ่อ ขอแสดงเคารพในคุณธรรมของแม่ชีทศพร บุญเทวาพิทักษ์ธรรม

 

สมเด็จองค์ปฐม วจีกรรม คือ..นินทา กับ สรรเสริญ

กรรมทางวาจาร้ายแรงมาก *** คนดีเขาไม่ตีใคร
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

อนุโมทนา

 

ผมไม่เคยไปเปิดกรรมกับเเม่ชีครับ
ได้เเต่พิจารณาเเละศึกษาจากการอ่านหนังสือ ดูวีซีดี คลิบวีดีโอ
เมื่อได้ดูเเล้วไม่ใช่ ว่าหลง งมงาย จนเเยะเเยะถูกผิดไม่ออก
เเต่ผมกลับรักเเละเคารพ ในคำสอนบางเรื่อง ที่เรามองข้ามเเละคิดว่าคงไม่มีผลกรรม เเต่ที่ไหนได้ มันส่งผลรุนเเรงกว่าเดิมซะอีก

ยกตัวอย่าง พยาบาลท่านหนึ่ง ที่ชอบขโมยเอา สำลี ยาเเดง กับครูท่านหนึ่งที่เอาสมุดปากกา กลับบ้านไปใช้ ท่านทั้งสอง ไม่ได้คิดขโมย เเต่กรรมมันกำหนด ว่าสิ่งที่เอาไป มันผิด เพระเป็นทรัพย์ที่เกิดจากภาษีของเเผ่นดิน เรื่องละเอียดเล็กน้อยเเค่นี้มันส่งผลกรรมได้ ทำให้พยาบาลเเละครูท่านนี้ ต้องรับกรรมในเรื่องของใช้เล็กน้อยเหล่านี้ ว่าไปเซนต์เอกสารที่ไหน ก็ไม่ผ่าน มีปัญหาติดขัดลูกที่ร่างกายเเข็งเเรง วันหนึ่งต้องเจ็บป่วย ตามตัวมีเเผลเกิดขึ้น รักษาไม่หายเเละรู้สึกสำนึกตัวขึ้นได้ เลยไปขอขมากรรมกับพระรัตนตรัย เอาของใช้เหล่านั้นไปคืน เเละเเผ่เมตตาให้สัมมาอาชีพเเละตนเอง ชีวิตจึงดีขึ้นเรื่อยๆ
ไม่คิดเหรอครับว่า
1. เเม่ชีรู้ว่าเขาเป็นครู เป็นพยาบาลโดยที่ท่านทั้งสองไม่ได้พูดเลยเเม้เเต่คำเดียว
2. ถ้าท่านทั้ง2 คือครูเเละพยาบาล ไม่ได้เอาปากกาหรือสำลีไปใช้จริง ทั้ง2ท่านคงหัวเราะเเละเดินกลับ เเละคงว่าเเม่ชีเดามั่ว คงไม่มีคนเคารพศรัทธาเเน่
นอน
3.กรรม มันทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบเเม้เพียงเล็กน้อย เเม้เราจะมองข้ามไป เเละเเม่ชีก็ได้ฝึกจิต จนเห็นภาพเหล่านั้น เเละนำความรู้ที่ได้นั้นมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ตรงจุด ซึ่งเพราะความต่างในความสามารถนี่เอง ที่บางคนเก่งเเต่อัตตาเเละเป็นพหูสูตร ทฤษฎีเเน่นเป๊ะ เเต่ปฎิบัติได้เท่าใดไม่ทราบ มาพูดอธิบาย ว่าข้านี่เเน่ จึงได้เเต่เเขวะผู้อื่นไปทั่ว การรู้สำรวจจิตตัวเองไม่ ว่า มันหยาบกระด้างเพียงไหน


ปล.อีกอย่างการโพสกระทู้ซ้ำ มันเกิดขึ้นได้ครับ เเละผมได้เเจ้งadminไปเเล้ว
อย่าดีเเต่ใช้วาจาด่าทอคนอื่นเลยครับ ผมมีสติปัญญาครบถ้วนสมบูรณ์ ท่านเองจิตจะมัวหมอง ปฎิบัติตนในทางของท่านให้ดีกว่า น่าจะเจริญขึ้นนะครับ

ไม่เป็นไรครับ มารไม่มี บารมีไม่เกิด

 

เอ่ม ผมไม่รู้ใครผิด ไม่ผิด

แต่ที่รู้มีคนสอน การที่เราไปด่าผู้ทรงศีล หรือผู้ที่รักษาศีล มันก็เป็นบาปกับตัวเราแล้วไม่ใช่หรอ

ถึงกรณีนี้ไม่รู้จริง หรือไม่จริง แต่เราจะไปด่าท่านคิดว่าดีหรอ
อย่างน้อยท่านก็ เผยแผ่ศาสนา สอนให้คนกตัญญู รักษาศีล ทำบุญ
แต่เราที่ไปด่าท่าน เรามีศีลเหนือกว่าท่านหรือเปล่า

แล้วก็เราด่าท่านไปแล้ว อะไรมันจะดีขึ้นไหม
เราด่าท่านแล้วคนจะเลิกนับถือท่านเลยหรอ ถ้าเอาจริงไม่ใช่เลย
ถ้าเค้านับถือแบบตั้งใจแล้ว ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่หวั่น

ถ้าคิดอีก อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด เราว่าท่านไป เราก็บาป
อย่้เยๆดีกว่า ขอยกนำคำโอวาทของหลวงปู่ทวดมานะครับ

พูดมาก เสียมาก
พูดน้อย เสียน้อย
นิ่งเสีย โพธิสัตว์

แล้วก็สุดท้ายนะครับ ข้าะเจ้าขอตั้งจิตนอบน้อมอาราราคุณพระศรีรัตนตรัย
หากข้าเจ้าได้ล่วงเกินท่านใด ผู้ใด ทุกๆท่าน ทุกๆคน ทุกๆสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะทางกาย วาจา ใจ ข้าพเจ้าขอขมาต่อท่านทั้งหลาย ขอให้ท่านทั้งหลายได้โปดอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ

 

เมดู youtube แล้วเเม่ชีก็สอนดีนะ เข้าใจง่ายดี เมให้กำลังใจแม่ชีด้วย เมว่าคนที่ไม่ให้กำลังใจแม่ชีอย่ามาโพสดีกว่า เห็นหลายโพสแล้ว ประชดประชันแต่คนอื่น หาแต่เหตุแต่ผลมาลบล้าง โลกนี้มีคน 2 ประเภทจริงๆ
1.คนทำดีแล้วโดนด่า
2.คนไม่ทำห่าแล้วด่าคน(hma ชัดๆ)

 

เรามองที่เจตนาของท่านแม่ชีที่ตั้งใจจะช่วยให้คนมีทุกข์น้อยลงและสร้างกรรมดีมากขึ้น โดยส่วนตัวจากการฟังแม่ชีทำให้เรามีความละอายต่อบาปเวลาที่จะทำอะไรจะพิจารณาถึงบาปบุญมากขึ้น เราพิจารณาจากสิ่งที่แม่ชีได้พูดได้สอน มันคือการให้คนมีสติมากขึ้นในการดำเนินชีวิต เราได้ประโยชน์หลายอย่างจากการบรรยายธรรมเรื่องกรรมของท่านแม่ชี ขอขอบคุณและขออนุโมทนากับท่านแม่ชีค่ะ

 

แก้กรรมก็อย่าง แก้กรรมก็อย่าง แก้กรรมก็แก้จิตที่ติดขัดติดข้อง แก้กามให้ได้เด็ดขาดมีในชั้นอนาคามีขึ้นไป
ส่วนตัวผมที่เคยสู้กับกามหาวิธีสู้กับกามมาหลายวิธี ทั้งทำอสุภะ ทั้งทรงอยู่ในอุเบกขา มันเหมือนสงบ เหมือนกดทับไว้ พอหมดกำลัง จิตมันดันฉลาดไปในทางกิเลสมากขึ้น พอบ่อยเข้ามันรู้แกว มันก็กลับมามีกำลังได้อีก ต่อๆไปมันหาทางแก้ทางกันไว้ได้หมด
ต่อมาเคยได้ลองทำวิปัสนา ลองตั้งมั่นรู้ตามแต่อย่างเดียว กับเห็นมันดับลงในอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ได้กด ไม่ได้อยากให้มี ไม่ได้อยากให้ไม่มี สักแต่ว่าเป็นผู้รู้ผู้เห็น ให้มันเกิดขึ้นดับเองตามธรรมชาติของมัน หรือจะกล่าวอีกอย่างตามไตรลักษณ์ให้มันเกิดขึ้นแล้วดับลงด้วยตัวเอง เหมือนตะกอนที่ฟุ้งขึ้นเราไม่เข้าไปยุ่งกับมันมันก็จะสงบลงเอง ยิ่งดูยิ่งเคยชิน เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลอย่างรุนแรงสำหรับผม ปกติเราจะเคยชินกับข้างการเข้าไปยุ่งโดยอัตโนมัติ ตะกอนก็จะฟุ้งยิ่งขึ้น สะสมขึ้น โดยไม่รู้ตัว ต่อเมื่อมันสงบลงได้เอง โดยที่เราเป็นเพียงผู้ดู โดยไม่ต้องกดไม้ต้องทำอะไรกับมันกับเป็นประสปการณ์ที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับกามมาอย่างยาวนานครั้งหนึ่งของผมครับ(ทุกวันนี้ยังมีกามนะครับ ช่วงที่ตัวเองเห็นกามตัวเองดับลงอย่างง่ายดายเป็นคราวๆนั้นยังตกใจครับ ยังแอบอาลัยอาวรณ์เสียดายมันอยู่ ตอนนั้นพอดูมันบ่อยขึ้น มันดับเร็วขึ้นจนกลายเป็นเห็นแว่บ ดับเลยไม่ทันที่ร่างกายจะตอบสนองด้วยซ้ำเป็นอย่างนั้นไปหลายวันจนต้องหยุดปฎิบัติอย่างนั้นเอาไว้ก่อน) และตามความเห็นผมนะครับ คนที่ละแล้วมีครอบครัวน่าจะมีอยู่แน่นอน บางคนอยู่กันอย่างเป็นเพื่อนปฏิบัติ อยู่กันแบบไม่มีอะไรกันมานานแล้วก็มี ทั้งที่พึ่ง 20กว่าๆเอง กลับบรักกันอยู่ด้วยกันได้อย่างน่าอิจฉา
ไม่ว่ากรรมหรือกาม มันก็เป็นอย่างนั้นของมันเอง เราเองที่เข้าไปทุกข์ไปสุข พอใจไม่พอใจกับมัน เข้าไปต่อเรื่องต่อราวกับมัน ทุกข์ก็เป็นของเรา ความดิ้นรนปรุงแต่งฟุ้งซ่าน ก็เป็นของเรา
ทุกข์อย่างเกิดแต่เหตุ เมื่อมีผลย่อมมีเหตุ เมื่อมีเหตุย่อมมีผล ทุกอย่างเป็นตามเหตุตามผล แต่ทุกข์อย่างก็เกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่และดับลงด้วยตัวเอง หามีเหตุใดสิ่งใดจะตั้งอยู่ได้ถาวรตลอดไปได้ไม่ เราเข้าไปทุกข์ดิ้นรนปรุงแต่งฟุ้งซ่านกับสิ่งใด ความทุกข์ ความดิ้นรนปรุงแต่งฟุ้งซ่านจากสิ่งนั้นก็เป็นของเรา
ผู้ไม่ถูกกาม ไม่ถูกกรรม ทำให้เป็นทุกข์ เป็นสุขแท้
ผู้ฉลาดบ้างเลือกทางต่อให้ไม่เป็นทุกข์ต่อตน

 

ช่วงหนึ่งที่ผมสังเกตุแม่ชีนะครับ นอกจากรู้กรรม รู้ว่าคิดอะไร แล้วยังรู้ว่า ตอนที่ออกจากบ้านมารู้ว่าพูดอะไรบ้างก่อนที่จะมาถึงวัด การที่จะรู้อย่างนี้ได้ ถ้าใจไม่บริสุทธิ์พอประมาณหนึ่ง จะไม่สมมารถ หรือสามารถแล้วไม่บริสุทธิ์พอ ก็จะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว สำหรับผม
ผมยังไม่เห็นท่านเสื่อมครับ

 

ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้แม่ชีค่ะ ดิฉันมองที่เจตนาของแม่ชีมากกว่าค่ะ อะไรดีก็นำมาใช้ค่ะ

 

พอออกข่าวช่องสามไป
คนรักพี่สอก็จะคิดไม่ดีกับแม่ชีมากขึ้น
ส่วนคนที่นับถือแม่ชี ก็อุเบกขา ไม่ก็...พี่สอมากขึ้น

แบบว่าต้องถามตัวเองไปด้วยว่า จะเอาถูก หรือจะเอาสุขล่ะ?