ไม่ดัด เมื่อไหร่จะงดงาม

กิเลสมีตั้งมากตั้งมาย ไม่ดัดเมื่อไหร่จะงดงามภายใน

รู้เยอะ แต่ละไม่ได้ จะมีประโยชน์อะไร

ยิ่งรู้มากยิ่งสงสัยมาก ยิ่งรู้มากยิ่งพอกพูนอัตตามาก

อัตตามากก็หวงแหนมาก ความเห็นแก่ตัวก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

หมั่นเจริญพรหมวิหารบ่อย ๆ ให้มาก ละความเห็นแก่ตัวออกไปให้ได้เสมอ ๆ


พรหมวิหารเจริญอย่างไร...

1.ไม่เหยียบย่ำทำร้ายทำลายกำลังใจกัน นั่นแหละ เมตตา

2. รอบคอบรอบด้านในการช่วยเหลือ นั่นแหละ กรุณา

3. ส่งเสริมให้กำลังใจแก่กันและกัน นั่นแหละ มุทิตา

4. เมตตา กรุณา มุทิตา อย่างมีสติ ไร้เงื่อนไข ไร้โลภโกรธหลง นั่นแหละ อุเบกขา

กระทำให้เป็นอัปปมัญญาพรหมวิหารเลยทีเดียว

หน้าที่ของพวกเราทั้งหลายคือ ยกระดับจิตให้สูงขึ้นจากบาปกรรมทั้งปวง


เอวัง...

 

-:O: สร้อยสนตัด :O:-

[music]http://www.bhuddajak.com/diawkhim/12.wma[/music]

 

หมกอู่แปะนี้ ปกเปี่ยงตีอุ่งขี่
ไม่มีโชคชะตาใดไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล

ดอกไม้จะบานเมื่อถึงเวลา ถ้ามังไม่เหี่ยวตายเสียก่อง

ไม้แก่ดัดแรงก็หักเสียโอกาส

ไม้อ่อนไม่รีบดัดก็เสียโอกาส

เรียกเส้นกราฟที่ตัดกันนี้ว่าเส้นoptimize พอเหมาะพอดี หรือ ทางสายกลางนั้นเอง

 

บางครั้ง"ดัดแล้ว"ก็ยังไม่งามอยู่ดี ทำไง?

 

ดัดไม่เป็น ก็ไม่งาม...

 

พรหมวิหารเจริญอย่างไร...

1.ไม่เหยียบย่ำทำร้ายทำลายกำลังใจกัน นั่นแหละ เมตตา

2. รอบคอบรอบด้านในการช่วยเหลือ นั่นแหละ กรุณา

3. ส่งเสริมให้กำลังใจแก่กันและกัน นั่นแหละ มุทิตา

4. เมตตา กรุณา มุทิตา อย่างมีสติ ไร้เงื่อนไข ไร้โลภโกรธหลง นั่นแหละ อุเบกขา

กระทำให้เป็นอัปปมัญญาพรหมวิหารเลยทีเดียว

หน้าที่ของพวกเราทั้งหลายคือ ยกระดับจิตให้สูงขึ้นจากบาปกรรมทั้งปวง


เอวัง...
เกิดดัดเเล้ว ไม่งามดังใจของใครๆ ล่ะเจ้าค่ะ ต้องงามของใคร ดีของใคร จึงจะเหมาะค่ะ

 

ถึงตอนนั้น ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ตนจะรู้ตนเองว่า อะไรควรอะไรไม่ควร อะไรถูกอะไรผิด ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกเลย แต่ก็ต้องใช้เวลานะ กว่าที่ต้นไม้ในใจจะเจริญงอกงาม ไม่ใช่ปลูกวันนี้เดือนนี้ จะให้งอกงามทันทีทันใด ต้องค่อยเป็นค่อยไป ต้องใช้เวลาจริง ๆ

 

ให้งาม ตามหลักธรรม ด้วยตัวเราเองนั้นแหละสังเกตุเอง เทียบกับตัวเอง ไม่ต้องดีของใคร
เอาตัวเราเอง เป็นบรรทัดฐาน
สังเกตุตัวเราเอง ว่าวันนี้เราดีกว่าเมื่อวานหรือไม่ ท่องเอาไว้ว่า วันคืนล่วงเลยผ่านไปแล้วเราทำอะไรอยู่
ประมาทกว่าเมื่อวานหรือไม่

พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน เราสังเกตุตัวเองได้ ถ้าเทียบกับตัวเองในวันวาน ขออย่างเดียวมีสติในวันนี้ให้ดี
แล้ว พรุ่งนี้จะระลึกย้อนกลับมาได้ แล้วจะทำให้รู้ตัวเองเสมอไป
แต่ หากทำอะไรไม่มีสติ วันนี้เราลงมือทำอะไรลงไป พรุ่งนี้เราก็ระลึกอารมณ์ความคิด ความนึกของวันนี้ไม่ได้
เป็นเหตุให้ เราไม่สามารถรู้ตัวได้ว่า เราดีขึ้นกว่าวันวานหรือไม่

ให้มีสติให้มากในทุกการกระทำ ความคิด ระลึกให้ได้ แล้วพัฒนาตนเทียบกับวันวาน

 

ชัดเจน ไม่เปลี่ยนเเปลง

เหมาะสมที่จะเก็บเอาไว้เป็นธรรม ประจําใจของคุณพ่อมือใหม่จริงๆ
ถ้าปีใหม่นี้ ลูกน้อยออกมาคงได้ นําไปใช้เเบบสมบูรณ์เป็นเเน่เเท้
เเต่วันนี้ขอนํามาใช้บ้างเป็นบางส่วนก่อนก็เเล้วกันน่ะเจ้าค่ะ เดี๋ยววันหลังไม่มีโอกาศได้ใช้อีก จะเเอบคิดถึงก็คงจะไม่ทันการซะเเล้ว555555(deejai)(deejai)(deejai)

 

ไม่ดัด... เมื่อไหร่จะงดงาม ?

ไม่ดัดเมื่อไหร่....จะงดงาม...


เอ๊ะ ? สองประโยคนี้ ต่างกัล ที่ตรงไหนหว่า
แร้ว แบบใด แหล่ม ฝ่ากัล น๊อออ ? เหอ...เหอ....

 

ไม่ดัดเมื่อไหร่....จะงดงาม...แบบนู๋ๆ ที่ยังไม่มีทิฏฐิเพราะทิฏฐิยังไม่ทำงาน

ขอตอบเป็น คำตอบสุดท้ายยยยยยย
<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/_JmA2ClUvUY?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/_JmA2ClUvUY?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

ไม่ดัด... เมื่อไหร่จะงดงาม ? ก็คงจะประมาณนี้ ป่าวววววว

<object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/mMHzGqlEjE8&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/mMHzGqlEjE8&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>

แต่ถ้าดัดเก่งๆ ก็อาจสวยได้แจ่มๆระดับเหรียญทองเวิรลด์แชมป์เปี้ยน เนาะ

<object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/lYnvOsPM4rY&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/lYnvOsPM4rY&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></embed></object>

 

สาธุ..สาธุ อนุโมทนาครับ ได้ประโยชน์ในการปฏิบัตให้ถูกต้องจริงๆครับ

 

หูยยยยยย มุขนี้ แหล่มขั้นเทพ !
คิดได้ไงว้าาาาาาาาาา



นี่ ๆ อิหม่ามี๊ขราาาาาา
แร้ว หม่ามี๊ว่า คนจ๋วยใจดี แบ่บนู๋บี เนี่ย
ไม่ดัด หรือ ดัด ดีคร้าาาาา
ป๋าวีร์ ถึงจะหลงร้ากกกหัวปักหัวปำาาาาาา หุหุ

 

มะรุ....อ่า

ต้องลองดู ดัดให้ดูเป็นธรรมชาติที่ซู๊ดดด อะ เจ๋งแระ

มะอยากเซดดดดด อิหม่ามิ๊ โหลยโท่ยทุกอย่าง (ธรรมชาติของหม่ามิ๊มันโหลยโท่ยสุดๆ ทุกเรื่อง อิอิ)

มะเคยสนใจใยดีภัสดา หนีเที่ยวโลดถ้ามีโอกาส แหะ แหะ

จนโดนว่าอิใจด๊ำดำ ไม่รุทำไมภัสดาของหม่ามิ๊ ถึงยังทนทู่ซี้อยู่ด้วยก็มะรุ ว่ะค่ะ

แถมบอกว่าหม่ามิ๊เล่นไม่ซื่อ ทำของใส่ปะเนี่ย (อิอิ)

แบบว่ายิ่งไม่ชอบยิ่งเกาะหนึบ ยิ่งหนียิ่งเจอ ยิ่งไม่อยากได้ มันก็มาให้กันจัง

โดนย้อนศรตลอด....อ่า มึนตึ๊บบบบ :boo:

 

อิอิ ฟังดูเหมียน อมตะนวนิยาย
เรื่อง คู่เวร เอ๊ย คู่กรรม จังเรยแฮะ
ป๋าโจ เป็น โกโบริ กลับซาด มาเกิด อ๊ะปล่าววว เนี่ย
ถึงได้ ทนมือทนตรีน เอ๊ย ทนเท้า แม่อังฯ ได้ขนาดเนี๊ยะ อิอิ


แต่พูดก็พูดเหอะนะ ฟังเจ่เจ้
เล่า เรื่อง ฟามใจดำ ดั่ง อิกา ของตัวเองแระ
ก็พอจะเข้าใจ อ่ะนะ ว่าทำไม พ่อดอกมะลิ ถึงได้หลงมาติดแร้วเสน่ห์


อืม....เสน่ห์ ของ พูญิ๋ง เรา มันมีหลายหลากอ่ะนะ
ผู้ญิ๋ง บางคน มีเสน่ห์ อยู่ที่ หน้าตา
บางคน เสน่ห์ อยู่ที่ วาจา แล กิริยา มารยาท
ทว่า เสน่ห์ ของ พูญิ๋งบางคน
ดั๊น ไพล่ไปอยู่ที่ ฟามใจดำ เป็น อิกา อ่ะ
แบ่บว่า พูชายบางคน มันชอบของแปลกว่ะ
พอเห็นจริตจกร้านฟามใจดำปิ๊ดปี๋ ของพวกเราแร้ว
จะบังเกิดอาการหน้ามืด ฟุ้งไปว่า
ฟามใจดำ คือ อีกด้าน ของ ฟามจิงใจ แบ่บสุด ๆ ง่ะ
เรย เกาะหนึบ ติดหัวติดหู เป็น ผีชัตเตอร์เหอ...เหอ...


อิอิ อันนี้ พูดจิน ๆ นะ
เพราะ อิฉันเองก็เข้าข่ายนั้นเหมือนกัล ว่ะ
เนี่ย สมัย ละอ่อน ตอนจั่วไพ่ยิปซี ทำนาย อัตลักษณ์ ตัวเอง
หน้าไพ่ ที่จั่ว มันยังบอกโต้ง ๆ เล๊ยยย


ว่า เสน่ห์ของ อิฉัน อยู่ที่การมีฟามเห็นแก่ตัว เล็ก ๆ อ่ะนะ
อ่านแร้ว ขำกลิ้ง ( แต่ก็จิง ของมันว่ะ เอิ๊ก ๆ )
เนี่ย สังเกต มานานแระ มันเป็นงั้น เสมอเรยนะ
ม่ะลู้ชาติก่อน ทำบุญมาด้วยอะไร


ขนาดเคยสำแดงฟามใจดำ หน้าตาเฉย
ด้วยการบอกคนบางคน ประมาณว่า

" มีอะไรให้ช่วย ก็บอกนะ ยกเว้นเรื่องเงิน ! อันนี้ไปไกล ๆ เรย"


แทนที่ คนฟัง จะเคือง
มันกลับหัวเราะก้าก
แร้ว โพล่งออกมา ประมาณ ว่า

" เฮ้ยยย นังนู๋บี ชั้นชอบเธอว์จังเรย ดูจิงใจดีว่ะ ! "


เฮ้อออ เอากะมันจิ งี้เรียกว่า นู๋บี ดัดจริต เอ๊ย หว่านซาเหน่
ได้อย่าง แนบเนียนและลุ่มลึก ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ...
อ๊ะปล่าววววคร้าาาา อิอิ



ปอลิง

อ่ะ เอา เทคก๊ะนิค "ดัดจริต อย่างไร ให้ดูเป็นธรรมชาติที่ซู๊ดดด"
มาให้ ทั่นสาธุชทั้งหลายได้ลอกเลียนแบบนะเคอะ
ลองเอาไปลองหัด ลองดัด ฯ ไว้เยอะ ๆ
วันล่ะ 3 เวลา หลังอาหาร นะเธอว์


อ่ะมีหั้ยเลือก 3 ท่าลีลาเด็ด
เลือก ดัด ฯ ได้ ตาม กิเลส ตัณหา
แล อัถยาศัยยยยย กัลไปเรยจร้าาา เหอ..เหอ....