โอ้ว...เรียนวิชาปรัชญา ยิ่งเรียนยิ่ง งง ^^

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย O๐.AnGle.๐O, 18 มีนาคม 2011.

  1. จิงทรงฌาณ

    จิงทรงฌาณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +29
    รักแท้ แต่ดูแลไม่ได้ ซึ้ง..
     
  2. O๐.AnGle.๐O

    O๐.AnGle.๐O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +861
    โอ้ว...ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

    ในที่นี้มีนักปรัชญามากมาย ^ ผมอ่านก็รู้ได้ในทันที :D
     
  3. khaikung

    khaikung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +6
    1. เกิดมาเพื่อ ได้เรียนรู้ถึงสิ่งต่างต่างบนโลก เพราะทุกสิ่งก็มีการเกิดเหมือนกันทั้งหมด

    2. ความรัก คือทุกอย่าง เหมือนกับที่ถามว่า ความรู้ คืออ่ะไร ประมาณนั้นครับ

    ตอบตามความคิด ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยครับ
     
  4. yen-jit

    yen-jit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +709
    พื้นฐานแรกเริ่มเลยของคนทุกคน คือรักตัวเอง ไอ้ที่บอกว่ารักเธอมากอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็คือการแสดงความรักตัวเองเห็นแก่ตัวเองนั่นแหละ ต่อเมื่อคนเริ่มเรียนรู้ ความเป็นมนุษย์เริ่มฉายแววแล้วแต่ว่าจะมีความเป็นมนุษย์มากหรือน้อยก็ขึ้นกับตัวเอง
     
  5. yen-jit

    yen-jit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +709
    ตอนพี่เรียนก็งงเหมือนกัน ของพี่เป็นวิชาพื้นฐานบังคับเรียน แล้วก็ขึ้นกับคนสอนด้วยว่าสอนเรางงไปด้วยหรือเปล่า เกือบไม่รอด
     
  6. nutni

    nutni Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +95
    เกิดมาเพื่อบริโภคและทำให้ชีวิตอยู่รอด
    ความรักคือ สิ่งที่ทำให้ชีวิตเราพึ่งพอใจ และต้องการไว้เป็นสมบัติของตัวเองถึงแม้ว่าจะได้มาด้วยความลำบาก
     
  7. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    1.เกิดมาทำไม ?

    ไม่ว่าเราจะเกิดมาทำไม แต่สิ่งที่ต้องทำ คือทดแทนพระคุณผู้ให้กำเนิด


    2.ปรัชญาความรัก


    ที่ใดมีรัก ที่นั้นมีทุกข์


    นิยามความรัก ?


    ความรักทำให้คนตาบอด
     
  8. เย็นไว้โยม

    เย็นไว้โยม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    ความรักคือการให้ความรู้สึกที่ดีซึ่งเป็นคุณไม่เป็นโทษต่อบุคคลอื่นอย่างต่อ

    เนื่อง
    ยาวนาน ผูกพันเป็นไมตรีด้วยการกระทำดีอย่างมั่นคงต่อบุคคลนั้น อย่าง

    ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ


    ลักษณะความหมายดังข้างบนจะครอบคลุม

    ความรักอันได้แก่ความรักของแม่ต่อลูก ครูกับศิษย์ คู่รัก ฯลฯ

    ตลอดจนความรักต่อสิ่งที่เป็นนามธรรมเช่นความรักของประชาชนต่อชาติศาสนา

    พระมหากษัตริย์และผืนแผ่นดิน

    ลองพิจารณาความรักของคุณกับสิ่งที่คุณรัก และคนที่รักคุณ

    ความยั่งยืนยาวนานเป็นดัชนีสำคัญ เช่นแม่รักลูก
     
  9. Peak_14

    Peak_14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +465
    1.เกิดมาเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น ไปจากวงจร เกิด แก่ เจ็บ ตาย บ้าๆนี้ซักที
    2.ความรัก ที่แท้จริงคือ การให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังผลตอบแทน ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น และเป็นสิ่งที่มิอาจประมาณค่าได้ ....ลองให้อะไรกับใครซักคนแล้วทำความรู้สึกแบบนี้ดูหรือยัง
     
  10. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    คำถามนี้เริ่มมีตั้งแต่รุ่งอรุณแห่งมนุษยชาติ ณ ตอนนี้ก็ยังต้องถามกันต่อไป แน่นอนที่สุด คำตอบก็เริ่มมีตั้งแต่จุดเริ่มเดียวกัน แต่เหตุใดเล่า เรายังต้องถามอยู่ร่ำไป
    ด้วยความเมามายในชีวิต เราจึงต้องการคำตอบไม่รู้จบ เมื่อเมามายจึงไม่ค่อยจะรู้ที่มาที่ไปแห่งชีวิตและความรัก เราทั้งหลายพึงสดับรับรู้ไว้สักนิด อันว่าความจริงแห่งชีวิตมีมิติที่หลากหลาย แต่ทว่าสมองและความคิดเรามีมิติอยู่เพียงสาม เราจึงเข้าใจชีวิตในแบบที่เราเป็นอย่างมีขีดจำกัด และสุดแสนจะน้อยนิด การจะเข้าใจมิติชีวิตที่หลากหลาย เราพึงหลุดจากกรอบแห่งโลกสามมิติก่อน แล้วเราจะเข้าใจอย่างสุดซึ้ง เราจึงเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
    อันว่าความรัก ความใคร่ มันอยู่กันไม่ได้เลย (มาลีฮวนน่าร้องเอาไว้) ความรักมีมิติซับซ้อนน้อยกว่าชีวิต เพราะความรักเป็นเพียงสับเซทของชีวิต แต่มันก็ยังมีมิติมากกว่าสามอยู่ดี ความรักเอย อันใดเรียกว่ารัก แล้วมีผู้ใดบ้างที่มัวเมาและเมามายในรัก ในโลกย่อมมีบุรุษและสตรีจำนวนมากงมงายในรัก ความรู้สึกอันอบอุ่น หวั่นไหว ระทึก สดชื่น เปี่ยมสุข สะเทิ้นอาย หลอมรวมในหัวใจของผู้มีรัก อย่างยากจะอธิบายผ่านระบบสมองและความคิด ก็ความรักเป็นความรู้สึก ความรู้สึกย่อมมีมิติอันหลากหลาย ดังนั้นจึงพอจะรับรู้ในอาการแห่งรักได้ดี
    อะไรเล่า ทำให้เรามีความรู้สึก รัก โอ....... นี่คือการสืบเสาะหาเบื้องต้นแห่งรักกระนั้นหรือ ผู้ใดศึกษาพุทธรรม ก็จะได้รับคำตอบอีกแบบหนึ่งเป็นแบบที่ปุถุชนไม่ค่อยอยากจะรับรู้นัก รักนั้นหนอคือกิเลสจากใจ สุขประเดี๋ยว ทุกข์ยาวนานนัก
    แต่เราเป็นปุถุชน นิยามแห่งรักของเราจึงพยายามเบี่ยงเบนจากกิเลสกระนั้นหรือ จะไหวหรือ แน่ใจน่ะว่าเข้าใจในรักจริงๆ
    ความรักเป็นพรอันวิเศษที่ฟากฟ้าสุลาลัยประทานให้มนุษย์ ลองนึกภาพที่คนไม่มีรักในหัวใจดู ชีวิตย่อมเหี่ยวแห้ง เฉาตายเหมือนตอไม้กลางนา วิตามินของชีวิตก็คือความรัก วิตามินย่อมเสื่อมอานุภาพลงตามกาลเวลา มันให้ผลในระยะสั้นๆ (หรือว่า เราต้องแสวงหาวิตามินนี้หลายๆเม็ด)
    ความรักที่สูงส่ง ศาสดาทั้งหลายได้แนะนำไว้หมดแล้ว และคงฤทธิ์ได้นานกว่าระดับวิตามิน ความรักชนิดนี้ สามารถเข้าใจคำถามแห่งชีวิตได้เป็นอย่างดี ความรักที่ไม่ได้มีบ่อเกิดจากกิเลสและความหลง ถือเป็นความรักในระดับสูงสุด ไปเถอะเราไปแสวงหาความรักด้วยกัน
     
  11. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    1.เกิดมาทำไม ?

    เมื่อท่านตั้งคำถามนี้ท่านก็ได้พลาดจากชีวิตไปเสียแล้ว ท่านถามว่าเกิดมาทำไม? เหตุผลก็คือ ท่านต้องการการพึ่งพิง เพราะ ถ้าท่านพบคำตอบท่านก็จะรู้ว่า ท่านควรจะทำอะไร?
    เช่น ท่านพูดว่าท่านเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นข้าของพระเจ้า เกิดมาเพื่อค้นหาสัจธรรม ท่านเกิดขึ้นมาเพื่อรักใครสักคน หรือเกิด มาเพื่อเป็นอะไร?สักอย่าง ไม่เป็นอะไร? สักอย่าง? สุดแล้วแต่ท่านจะตอบคำถามให้ตัวเอง แต่เอาเข้าจริงท่านเคยสังเกตุไหมว่าท้ายของท้ายที่สุดไม่ว่าท่านจะตอบว่า อะไร? สุดท้ายท่านก็ยังรู้สึกระแวงสงสัยอยู่ดีว่าสิ่งนี้ใช่คำตอบจริงๆหรือไม่? และ ควรมุ่งไปจริงๆหรือไม่?

    อย่าพึ่งหัวเราะไป นี่เป็นคำถามที่คนเราทุกคนถามกัน คราวนี้ท่านเคยคิดหรือไม่? ว่าทำไม?ท่านจึ่งถามเช่นนี้? มันเพราะอะไร?กัน ลืมเรื่องปรัชญาไปเราไม่ได้กำลังพุดถึงปรัชญาหรืออ้างอิงแนวคิดของใครแม้ แต่ พระพุทธเจ้า แต่เราจะมาร่วมกัน สังเกตุการณ์ชีวิตอย่างที่มันเป็นจริงๆ ความกลัวใช่ไหมที่ทำให้ท่านถามคำถามนี้ ความกลัวที่จะมีชีวิต กลัวที่จะตาย กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับชีวิตใช่ไหม?

    เราเกิดมาเพื่ออะไร? ทำไม? เราคิดว่าถ้าเรารู้คำตอบเราจะพบหนทาง เราจะสลัดทิ้งความกลัวออกไปได้ ความกลัวการเปลี่ยนแปลง ความกลัวความไม่มั่นคงที่เกิดขึ้น เรารู้ว่าถ้าเราได้คำตอบนั้น จากการค้นหาจากการแสวงหาเป้าหมาย หรือ คำตอบ ที่เราได้คิดไว้ ได้สั่งสมไว้ แต่ท่านเคยสงสัยไหม?ว่ามันเป็นเช่นนี้จริงๆรึ ท่านคิดว่าถ้าท่านรู้คำตอบว่า เกิดมาทำไม? ความกลัว ความวิตกกังลวจะสิ้นสุดลง ตัวท่านจะกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า หรือในทางกลับกัน มันก็อาจจะเพิ่มขึ้น เช่นท่านพบว่าคำตอบดันกลายเป็นว่า ท่านเกิดขึ้นมาเพื่อให้หลุมศพ ความตายได้วิ่งไล่ท่านได้ แต่ท่านเคยคิด หรือ ไม่ว่า ถ้าคำตอบมันกลายเป็นว่าท่านเกิดมาเพื่อมาตั้งคำถามโง่ๆที่ไม่มีคำตอบ และ ไร้สาระว่าเกิดมาทำไม ?ล่ะ ณ จุดนั้นท่านจะยอมรับมันได้หรือไม่? นั้นก็คงเป็นสิ่งที่มันเป็น

    มันไม่สำคัญหรอกว่าท่านจะเกิดมาทำไม? สิ่งสำคัญคือท่านเรียนรู้จะใช้ชีวิตที่เกิดมานี้อย่างไร?ต่างหาก เพราะชีวิตนั้นคือปัจจุบันขณะ คือ สิ่งที่เป็นอยู่ คือ สมบัติพียงหนึ่งเดียวที่ท่านยังคงมีอยู่ ณ เวลานี้ ที่ปัจจุบันขณะนี้ มันคือเวลาที่ท่านมานั้นตั้งคำถามว่า เกิดมาทำไม ? ในขณะที่หลุมศพได้เคลื่อนเข้ามา
    สหายอันเป็นที่รักของฉันเอ๋ย จงใช้ชีวิตของเธออย่างมีสติตื่นรู้เถอะ การใช้ชีวิตอย่างมีสติตื่อรู้ก็เท่ากับเธอได้นำเอาระฆังแห่งสติ ติดตัวไป ระฆังที่จะปลุกเธอให้ตื่นจากความประมาณ และหันกลับมาดูแลชีวิตของเธอ อันจะทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุดในทุกขณะ บนพื้นฐานของจิตวิญญาณ ที่เกิดขึ้นจากความรัก ปัญญา และ ความเป็นอิสระจากกิเลส จงใช้มันผ่านความมุ่งมั่นปรารถนาที่จะพัฒนาความเข้าใจ ความเมตตา และ ช่วยเหลือโลก และที่นั้นเธอจะพบกับคำตอบนี้นั้น


    2.ปรัชญาความรัก นิยามความรัก ?

    เมื่อท่านได้ตั้งคำถามนี้ ท่านก็ได้พลาดจากความรักไปเสียแล้ว เพราะท่านได้พยายามที่จะจำกัดความรักลงเป็นทฤษฏี หรือ กรอบของสิ่งที่ท่านคิด ท่านมิได้ปล่อยให้ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ท่านใช้หัว ท่านถามว่าความรักคืออะไร? เพราะ ท่านคิดว่า ถ้าท่านนิยามมันได้ ท่านรู้เหตุผลว่าทำไม?ถึงรัก และ ทำไมไม่รัก?ท่านก็จะเข้าใจมัน และท่านก็จะเรียนรู้วิธีที่จะตามหามัน ประคับประคองมัน ใช้มัน เป็นนายของมัน

    อย่างไร?ก็ตามบนโลกใบนี้มีอยู่สามสิ่ง สิ่งแรกคือ สิ่งที่ท่านรู้แล้ว ต่อมาคือสิ่งที่ท่านยังไม่รู้ แต่ในวันหนึ่งท่านก็จะรู้ และ สิ่งสุดท้ายก็คือ สิ่งที่ท่านจะไม่มีวันรู้ ความรักเป็นหนึ่งใน สิ่งสุดท้ายนี้

    ความรักเป็นสิ่งที่ท่านจะไม่มีวันรู้เด็จขาดว่ามันคืออะไร?พึ่งจำไว้เถอะไม่มีวิธีการใดที่จะอธิบายความรัก ไม่มีระบบปรัชญาใดที่จะทำให้ท่านเข้าใจมัน เพราะ ความรักไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะเรียนรู้ได้ ทั้งไม่มีใคร ศาสดาองค์ไหน สามารถมาสอน หรือ บอกให้ท่านรักได้


    <O:pดังนั้นสิ่งที่ท่านควรทำจึ่งมีเพียงแค่ จงปล่อยให้ให้มันหลั่งไหลออกมาจากตัวท่านอย่างมีสติตระหนักรู้ จงสัมผัสมัน และ ปล่อยให้มันจากไป ความรักไม่ใช่สิ่งที่เป็นนิรันดริ์ มันตายได้ เพื่อที่จะได้เกิดใหม่ตลอดเวลา พึ่งจำไว้ว่าจงอย่าได้ตั้งคำถามว่าฉันควรจะตามหาความรักเมื่อไหร่ ดี วันพรุ่งนี้ เดือนหน้า หรือเวลาใดๆ เพราะ เมื่อท่านถามคำถามนี้ ท่านก็ได้ออกเดินทางตามหาความรักแล้วเพียงแต่ท่านอาจจะไม่ร ุ้ตัวว่าตัวเ้องได้ออกเดินทาง ชีวิตคือ การเดินทาง เมื่อความรักเรียกร้องท่าน จงตามมันไป แม้ว่าบนหนทางที่ไร้เส้นทางของมันนั้นจะขรุขระ และ ชันเพียงไร ท่านต้องกล้าหาญ แม้ว่าเบื้องหน้าจะเป็นหุบเหว จงก้าวลงไป เมื่อมันพูดกับท่าน จงเชื่อตาม แต่อย่าได้ปล่อยให้มันครอบงำท่าน และ จงอย่าได้พยายามที่จะครอบครองมัน เพราะ ความรักนั้นเป็นสิ่งที่งดงาม แต่ความปราถณาที่จะครอบครองมัน ได้ทำลายความรักลง จนมันกลายเป็นยาพิษไป ท่านเคยเห็นดอกไม้หรือไม่ดอกไม้นั้นจะงดงามที่สุดเมื่อมันบานอยุ่บนต้นของมัน เมื่อมันมีชีวิต แต่เมื่อใดก็ตามที่ท่านไปตัดมันออกมาใส่ในแจกัน ดอกไม้ดอกนั้นก็ได้ตายลง เหี่ยวเฉาลง ดอกไม้นั้นเปรียบได้กับความรักมันเป็นสิ่งที่งดงาม หอมหวน แต่ก็เปราะบาง ดังนั้นความต้องการที่จะครอบครอง เงื่อนไขต่างๆที่ตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะครอบงำ แม้เพียงน้อยนิดก็จะพรากการมีชีวิต ลมหายใจ จิตวิญญาณไปจากความรัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 เมษายน 2011
  12. O๐.AnGle.๐O

    O๐.AnGle.๐O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +861

    เวลาสอบ ก็แจกกระดาษ A4 มาให้ เขียนกันเข้าไป

    คำถามสั้นนิดนึง คำตอบ ยาวเป็นแผ่นๆ ^ ฮ่า ๆ ๆ
     
  13. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ไม่มีความเห็น เพราะไม่รู้อะไรสักอย่าง ไม่มีอะไรที่รู้เลย (จริงๆ)
     
  14. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
    ก็แค่เลือกว่าจะตอบแบบ ปรัชญา หรือ แบบ ศาสนา อ่านพวก บทกวี

    ปรัชญาเก่า หรือ เช็คสเปียร์ อะไรก็ว่าไป
     
  15. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
    ข้อสอบแบบเนี่ย ชอบ ชะมัดเลยย เขียนง่ายๆ ได้คะแนนละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...