ข้อความจากต่างมิติ - ทำไมช่วงนี้จึงเกิดแผ่นดินไหวบ่อยๆ ข้อความจากมหาเทพ Metatron

ใช้วิจารณญาณเอาเองนะครับ

พวกเราแค่แปลมา และแบ่งปันให้ท่านได้อ่านด้วยเท่านั้น
หาใช่เจ้าของข้อมูลแต่อย่างใดไม่...









...............................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 1


สวัสดี ผู้อันเป็นที่รัก ข้าพเจ้าคือ เมตาตรอน เจ้าแห่งแสงสว่าง
ณ ตอนนี้ ขอต้อนรับพวกคุณทุกคุณสู่ วงล้อมของแสงสว่างแห่งสวรรค์

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ทำการสั่<wbr>นสะเทือนให้กับดาวเคราะห์<wbr>ของพวกคุณ
ที่เกาะนิวซีแลนด์และได้ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตเมื่อ 7 วันที่ผ่านมานั้น
พวกเรารู้ว่ามันเป็นความโศกเศร้<wbr>าเสียใจสุดแสนของนิวซีแลนด์
ซึ่งมันก็เป็นความสูญเสีย เช่นเดียวกับเหตุการณ์แผ่นดิ<wbr>นไหวที่ เฮติ ชิลี
และ ซุนามิที่อินโดนิเซียเลยจริ<wbr>งๆทีเดียว

การยกระดับของมนุษย์<wbr>โลกในเวลานี้มีหลายสิ่งหลายอย่<wbr>างที่สุดแสนจะยากลำบากยิ่ง
และพวกเราขอให้พวกคุณร่วมกั<wbr>นสวดภาวนา
ให้กับเหล่าผู้ที่ได้<wbr>รับความทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์<wbr>ทั้งหลายเหล่านี้
พวกเราแห่งอาณาจักรเทวะจะอยู่กั<wbr>บพวกคุณเสมอ

แม้เหตุการณ์วิปโยคเหล่านี้ จะก่อให้เกิดการสูญเสียต่อทั้ง ชีวิต
และทำลายล้างพื้นแผ่นดิน และโครงสร้างของเมือง Christchurch
แต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวเหล่านี้<wbr>ก็ไม่ได้หมายถึงกรรม
การลงโทษ หรือพลังงานด้านลบใดๆทั้งสิ้น

เหล่าคุรุทั้งหลาย พวกเราจะบอกกับพวกคุณว่าสิ่งที่<wbr>กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่<wbr>จะต้องเกิด
มันเป็นสิ่งจำเป็นในกระบวนการจั<wbr>ดเรียงตัวใหม่

ที่ประทศนิวซีแลนด์ จะมี aftershocks เกิดตามมาอีก
และในบางพื้นที่จะมีค่าความสั่<wbr>นสะเทือนรุนแรงสำหรับในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
แต่การเกิด aftershocks เหล่านี้จะไม่นำมาซึ่งความเสี<wbr>ยหายอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

มันคือการเลื่อนระดับของโลก เป็นการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่พลั<wbr>งงานใหม่

.....................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 2


ที่รักทั้งหลาย พวกเรารับรู้ถึงความเจ็บปวดต่<wbr>อการสูญเสียเหล่านี้ของพวกคุณ
และพวกเราขอสดุดีต่อ ความพยายามในการรับมือกับพลั<wbr>งงานการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
ผ่านความทุกข์ยากที่คุณกำลั<wbr>งแบกรับอยู่

พวกเราเข้าใจเป็นอย่างยิ่งถึ<wbr>งความเศร้าโศกในดินแดนของทวิ<wbr>ภาวะแห่งนี้
พวกเราจะห้อมล้อมพวกคุณอยู่ด้<wbr>วยความรัก ตลอดระยะเวลาแห่งการก้าวผ่านสิ่<wbr>งเหล่านี้

แต่พวกคุณต้องเข้าใจว่าทุกๆสิ่งเกิดขึ้นจากทางเลือก
และมันเป็นทางเลือกที่กล้<wbr>าหาญและศักดิ์สิทธิ์
ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นเพื่<wbr>อการยกระดับ

พวกเราจะบอกกับพวกคุณอีกด้วยว่า ท่ามกลางความทุกข์ยาก
เหตุการณ์บางอย่างก็ได้นำผู้<wbr>คนเข้ามารวมตัวกัน
และแสดงให้เห็<wbr>นถึงความดีงามที่สุดแห่งมนุ<wbr>ษยชาติออกมา
การมารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือผู<wbr>้อื่น

ดังนั้นขอให้พวกเราได้บอกข้อมู<wbr>ลล่าสุดถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้<wbr>นนี้ให้กับพวกคุณ
จากทั้งในมุมมองทางมิติที่เป็<wbr>นเส้นตรงและในมิติที่สูงส่งกว่า
พวกเราจะบอกว่าทำไมโลกจึงกำลั<wbr>งสั่นไหว

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิ<wbr>ดการเปลี่ยนแปลงจากเหตุการณ์แผ่<wbr>นดินไหวบนพื้นที่เหล่านี้
เป็นเพราะว่า ธรณีสัณฐานเกิ<wbr>ดการแปรสภาพจากการเคลื่อนที่<wbr>ของรอยเลื่อนบนเปลือกโลก
ในพื้นที่ที่เป็นจุดรับน้ำหนั<wbr>ก
ที่เป็นตำแหน่งโครงข่ายหลั<wbr>กสำหรับโลกแบบใหม่
และทั้งเมือง Christchurch และเกาะนิวซีแลนด์
ก็อยู่ในตำแหน่งนั้นอีกด้วย

มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ<wbr>้นในวันเดียวกันกับที่ New Zealand,
ใน โคลัมเบีย, แองโกลาAngola, อียิปต์, ไอซ์แลนด์ และ ชิลี....
ทั้งหมดนั้น ที่พิกัดค่าความสั่นสะเทื<wbr>อนประมาณ 4.0-5.3 ริกเตอร์
และไม่มีการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้<wbr>นในเหตุการณ์เหล่านี้

แต่การเกิดแผ่นดินไหวในหลายๆพื้<wbr>นที่เหล่านี้
เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่<wbr>าการเลื่อนระดับของดาวเคราะห์<wbr>ในขณะนี้
กำลังเกิดขึ้นและก็เป็นไปอย่<wbr>างรวดเร็วเสียด้วย

พวกเราจะบอกกับพวกคุณว่า พื้นที่ที่ไม่เคยมีการสั่<wbr>นมาเลยนานนับศตวรรษ
หรือหลายพันปีมาแล้วจะเกิดการสั่นไหวขึ้นในไม่ช้านี้
รวมถึง ในอเมริกา อาฟริกา เอเชีย ยุโรป สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย

.........................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 3


พวกคุณส่วนใหญ่รู้ดีว่า ณ ตอนนี้ ดาวเคราะห์ของคุณเกิดการเปลี่<wbr>ยนแปลงขึ้นมากมาย
และพวกเราอยากจะขอย้ำถึ<wbr>งความสำคัญนี้อีกครั้งเพื่อให้<wbr>เกิดความเข้าใจ

: พวกเราจะบอกคุณอีกครั้งว่า การแพร่สะพัดเหล่านี้ไม่ได้เป็<wbr>นเพียงแค่ต้องเป็นไป
แต่มันยังจำเป็นอีกด้<wbr>วยในความหมายที่ว่า
มันจะทำให้โลกแหละมนุษยชาติ<wbr>สามารถปลดปล่อยพลังงานเก่<wbr>าๆออกไป
และเลื่อนเข้าสู่พลั<wbr>งงานใหม่ได้

เหตุการณ์แผ่นดินไหวเหล่านี้คื<wbr>อการชำระล้างทำความสะอาด
และยกระดับการสั่นสะเทื<wbr>อนของดาวเคราะห์
เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงอื่<wbr>นๆที่เกิดขึ้นบนโลกที่มักจะถู<wbr>กเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ

ดังนั้นพวกเราขอให้คุณรับรู้ว่<wbr>าจะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหว, ซุนามิ, ภาวะโลกร้อน
และซุปเปอร์เฮอริเคน เป็นอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเรื<wbr>่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง
และไม่ต้องหวาดกลัวหรื<wbr>อพยายามไปหยุดยั้งมัน
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กรณีตัวอย่าง
เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องที่<wbr>จำเป็นจริงๆสำหรับการวิวัฒนาการ
การวิวัฒนาการที่คุณเรียกว่า การยกระดับของดาวเคราะห์

การปัดกวาดจากการเกิดแผ่นดิ<wbr>นไหวดังกล่าว
ส่งผลกระทบต่อสนามพลังงานจิ<wbr>ตสำนึกของโลก
ในการที่จะปลดปล่อย ,
ตั้งรหัส และจัดเรียงตัวใหม(ความถี่...<wbr>ผู้แปล)

ทั้งหมดนั้นก็จะเป็นไปอย่างต่<wbr>อเนื่องและเกี่ยวข้องกันทั้<wbr>งหมดอีกด้วย
ด้วยวิธีนี้จึงจะทำให้เกิดจิ<wbr>ตสำนึกใหม่ๆขึ้น และโลกแบบใหม่ก็กำลังจะรุดไปข้<wbr>างหน้า

แต่ความกลัวก็จะยังคงมีอยู่ และนั่นเป็นเรื่องธรรมดา
และจริ<wbr>งๆแล้วมันก็เป็นเรื่องที่สมเหตุ<wbr>สมผล
และที่ยิ่งไปกว่านั้น ที่พวกคุณบางคนก็<wbr>ไปอยู่ในพื้นที่ที่คุณเรียกว่<wbr>าพื้นที่ปลอดภัย
ซึ่งจะไม่ได้รั<wbr>บผลกระทบโดยตรง

นั่นก็เพราะว่า มันเป็นการรับรู้ของจิตใต้สำนึ<wbr>กที่แท้จริง
จากหายนะที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อครั้งสมัยน้ำท่วมโลก
ในยุ<wbr>คแอตแลนติส เลมูเรีย และที่อื่นๆที่นอกเหนือไปจากนี้

ที่รักทั้งหลาย มนุษยชาติที่อยู่บนดาวเคราะห์<wbr>ดวงนี้
เคยประสบกับความหายนะเหล่<wbr>านี้ทั้งหมด
มาแล้วสี่ครั้งด้วยกัน
แต่ก็ไม่มีการย้ายหนีไปไหน

ดังนั้นพวกเราจึงเข้าใจว่าเหตุ<wbr>ใดพวกคุณจึงรู้สึกกลัว
แต่การเกิดแผ่นดินไหว สภาวะโลกร้อน การระเบิดของภูเขาไฟและลมพายุ
และ การเปลี่ยนแปลงศักยภาพของขั้<wbr>วแม่เหล็กโลก
จะยังคงสร้างสิ่งอื่นให้เกิดขึ้<wbr>นอีกด้วย

นั่นก็คือ 'การเดินเครื่องกันใหม่'
จากภัยพิบัติที่ทำลายล้างสิ่งมี<wbr>ชีวิตของโลกอย่างที่คุณรู้

การเดินเครื่องใหม่จะเกิดขึ้<wbr>นแน่นอน
แต่พวกเราจะบอกกับพวกคุณว่า
การเปลี่ยนแปลงในตอนนี้จะค่<wbr>อยๆเพิ่มมากขึ้น
แต่มันก็ขึ้นอยู่กับปฏิกิริ<wbr>ยาตอบสนองของมวลมนุษย์ด้วย

.................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 4


แม้การนำเสนอเรื่องราวต่<wbr>างๆตามสื่อหนังสือพิมพ์<wbr>และภาพยนตร์ของพวกคุณ
จะแสดงให้<wbr>เห็นถึงเหตุการณ์ที่น่าหวาดวิ<wbr>ตกจนเกินความเป็นจริง
แต่ในปี 2012 ไม่ใช่เวลาหายนะของโลก

แต่มันคือช่วงเวลาของ การร่วมบรรจบกันอย่างสอดคล้อง(H<wbr>armonic Convergence)
ในรอบ 34 ปีที่ผ่านมา สิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ และพวกคุณก็เคยเปลี่ยนแปลงมั<wbr>นมาแล้ว

และ Kryon คุรุแห่งหน่วยบริการแม่เหล็ก ก็ได้เคยบอกคุณมากว่าทศวรรษแล้<wbr>ว
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะนำมาซึ่<wbr>งการมาร่วมบรรจบกันอย่างสอดคล้<wbr>อง
ที่จะทำให้มนุษย์มีระดับแสงสว่างมากพอที่จะทำให้เกิ<wbr>ดการยกระดับขึ้นได้

ดังนั้นพวกเราจะบอกกับพวกคุณว่า
เรื่องแกนโลกเอียง และการเปลี่ยนขั้วของสนามแม่เหล็กโลก
ที่คาดการณ์กันไว้ในหลายๆแหล่งข่าวและในภาพยนตร์
และกำลังเป็นที่หวาดกลัวกันอยู่นี้ มันจะไม่เกิดขึ้น

ความหวาดกลัวบางอย่างเป็นเรื่องที่จำเป็น

แต่แกนของดาวเคราะห์โลก จะไม่เอียงจนถึงระดับที่เป็นหายนะ
จนน่าหวาดหวั่น และจะไม่มีการทำลายล้างจากอุกาบาตชนโลก
และขั้วแม่เหล็กโลกจะไม่มีการสลับขั้วในปี 2012

ดังนั้นเราจึงของพูดอีกครั้งว่า
อันที่จริงมันคือ มาตราการและทางเลือกของมนุษย์ที่ได้ตัดสินใจแล้วว่า
จะไม่เกิดเหตุหายนะใหญ่หลวง หรือ มีการทำลายล้างอย่างมหาศาลไปทั่วทุกพื้นที่บนโลก

มันเป็นเพียงแค่การทำความสะอาด
ที่จำกัดวงอยู่ในพื้นที่เล็กๆ
เพื่อการติดตั้งโปรแกรมใหม่เท่านั้น
และ มนุษย์ก็จะได้เคลื่อนไปสู่ระดับต่อไปได้จริงๆ

...............................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 5

ไม่มีการกระทำใดที่ผิดพลาด
ที่รักทั้งหลาย

การเปลี่ยนแปลงเพื่อการชำระล้างจะต้องเกิดขึ้นและดำเนินต่อไป
ถ้าหากมวลมนุษย์เรียนรู้จากมันอย่างเหมาะสม
และเปิดรับโอกาสและมุมมองให้กับสิ่งที่ดีขึ้น
กับการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมดังกล่าว
มันจะทำให้การวิวัฒน์เป็นไปอย่างง่ายดายขึ้นและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก

ยังมีคนอีกหลายคนอยากจะเป็นผู้ 'ปกป้องโลก' ตามความหมายของพวกคุณ
พวกคุณหลายคนยังมีความเข้าใจที่ผิดพลาดว่า
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้
และแน่นอนโลกก็ไม่ได้เป็นผลมาจากการไถ่บาปจากมวลมนุษย์

แล้วสิ่งนี้มันจัดการอย่างไร?
หากจิตสำนึกเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับโลก
มันจะเกิดการสอดคล้องต้องกันอย่างเหมาะสมมากขึ้น
มันจะทำให้บทสนทนาร่วมกันระหว่างคุณกับโลกมีความเข้าใจกัน
และมีความเป็นจริงเป็นจังมากยิ่งขึ้นระหว่างโลกและมนุษย์

พวกคุณหลายคนที่เคยถือกำเนิดอยู่ในหลายชาติภพ
ในฐานะที่เป็น ผู้พิทักษ์โลก ชนพื้นเมือง(indigenous)
ดรูอิด(Druid..นักบวช พ่อมด จอมขมังเวทย์)พระ Atla-Ra
และได้มาอยู่ที่นี่แล้ว

โดยเฉพาะเพื่อมาโอบอุ้มพลังงานเหล่านี้ไว้
และในตอนนี้มันก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
มันคือเหตุผลที่ว่าทำไมคุณถึงถูกดึงดูดเข้าไปหา ปมพลังงาน
,ประตูทางเข้าวอร์เท๊กซ์ ของจุดแห่งการสร้างสรรค์
และ ถูกตั้งรหัส Sun-Disc ใหม่

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนหลายๆคน
ที่มีความตั้งใจที่ดี
นั่นก็คือ...
พวกเขาไม่เข้ากับค่าของแสงสว่างที่สูงพอ
ที่จะรับกระบวนทัศน์ที่แท้จริงของธรรมชาติแห่งโลกความจริงได้

และดังนั้นในขณะที่กลุ่มคนเหล่านี้อยากที่จะช่วย ทั้งๆที่จริงๆแล้วก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
พวกเขาเชื่อว่าการป้องกันไม่ให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง
หรือการย้ายไปอยู่ที่อื่นที่เหมาะสมกว่าน่าจะดีกว่าที่นี่ พวกคุณเข้าใจไหม?

ผู้ที่อยากช่วยเหล่านั้นไม่มีใครเลยที่มีความเข้าใจอย่างแท้จริงถึงจุดประสงค์ที่สูงส่งขึ้น
ที่ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้ของเหตุการณ์ต่างๆที่คุณเรียกมันว่า
พายุซุปเปอร์เฮอริเคน, ภูเขาไฟระเบิด, แผ่นดินไหวและซุนามิ

ดังนั้นความกลัวต่อเหตุการณ์เหล่านี้จึงเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอย่างง่ายๆ
ในการที่จะปลดปล่อยความวิตกกังวลออกไป
แต่การหลีกเลี่ยงความวิตกกังวลนั้น
ไม่เหมือนกับการทำความเข้าใจกับความกลัว

และด้วยเหตุนี้ ส่วนใหญ่ของการแปรสภาพ(ความคิด...ผู้แปล)ของมนุษย์
จึงได้สร้างให้มันเกิดขึ้นมาใหม่ได้อีกแน่นอน

ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะกำจัดหรือสลายปัญหา
การทำให้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ค่อยๆหมดไปที่ละน้อย
ไม่ได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์ใดๆต่อโลกและมนุษย์เลย

ปัญหาของผู้ที่อยากช่วย นั่นก็คือ พวกเขาเชื่อว่าพวกเขารู้มากกว่า
& เชื่อว่าพวกเขามีความรู้ความเข้าใจมากกว่าในฐานะที่เป็นนักวิชาการ
ทั้งพวกเขาก็ละเลยต่อความศักดิ์สิทธิ์
พวกเขาละเลยความสมบูรณ์ของเงื่อนไขทางจิตวิญญาณ และหลักอภิปรัชญา

พวกเขามองไม่เห็นความสมบูรณ์พร้อมของสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะ อุปสรรคที่ใหญ่หลวงสำหรับผู้ที่ไม่มีความเข้าใจว่า
ทั้งหมดนั้นคือ ความสมบูรณ์พร้อม
ทั้งหมดอยู่ในคำบัญชาที่ดีเลิศ

และที่สำคัญพวกเขาไม่ยอมที่จะหล่อลื่นจารบีลงไปในฟันเฟืองที่ติดขัด
แต่พวกเขากลับพยายามที่จะหยุดยั้งวงล้อไม่ให้หมุนเสียด้วยซ้ำไป

แล้วมันจึงทำให้พวกเขาติดกับอยู่อย่างนั้น
และทำให้การวิวัฒน์ยากมากขึ้นไปอีก พวกคุณเข้าใจไหม?
ความกลัวมักเป็นสาเหตุใหญ่แห่งปัญหาเสมอ
..................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 6

พวกเราได้เคยบอกพวกคุณแล้วว่<wbr>าสาเหตุหลักๆของภาวะโลกร้อน
เกิดจากการที่แกนโลกชั้นในที่มี<wbr>ส่วนประกอบหลั<wbr>กๆ
จากโลหะผสมของเหล็กและนิเกิ<wbr>ลที่หลอมละลายมีการหมุนปั่นเร็วขึ้น
และการปั้นที่เร่งเร็วขึ้นนี้ เพิ่มมากขึ้นทั้งแกนชั้<wbr>นในและแกนชั้นนอก

ความร้อนที่เกิดขึ้นจึงส่<wbr>งผลไปถึงชั้นแมนเทิลเต็มๆ
รวมทั้งส่งผลต่ออัตราการหมุ<wbr>นของแกนโลกด้วย

การหมุนที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้ไปเพิ่ม “ชั่วขณะ”(flash)
ของกาลเวลาที่ต่อเนื่องเป็นเส้<wbr>นตรงบนโลกของพวกคุณให้นานมากขึ้น
(การกระพริบเข้าและออกที่ช้าลง ชั่วขณะจึงนานขึ้น...ผู้แปล)

และมันส่งผลให้แกนโลกชั้<wbr>นในขยายขนาดขึ้น ทำให้การปลดปล่อยประจุลบ
(คลื่นความถี่ชู<wbr>แมนซ์ (Schumann Resonance)) ออกมาได้มากขึ้น ตามมาเป็นลำดับอีกด้วย

จริงๆแล้วการเอียงของแกนโลก มันก็คือลักษณะความเป็<wbr>นขั้วแท้ๆ
(ทวิภาวะ)<wbr>ของดาวเคราะห์โลกเลยทีเดียว(ไม่<wbr>สมดุล...ผู้แปล)

.....................................................................................................

หมายเหตุ : กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการเกิดของกาลเวลาจากกระทู้นี้ค่ะ
http://palungjit.org/forums/%E0%B8...ml#post4023126

.....................................................................................................


เพิ่มเติม...

: ชั้นแมนเทิล (Earth's Mantle): เป็นชั้นที่อยู่ระหว่างเปลื<wbr>อกโลกกับแกนโลก
มีความหนาประมาณ 2,885 กิโลเมตร มีส่วนประกอบของแมกนีเซี<wbr>ยมและเหล็ก เป็นส่วนใหญ่
แมนเทิลเกือบทั้งหมดเป็นของแข็ง ยกเว้นที่ความลึกประมาณ 70-260 กิโลเมตร
หรือที่เรียกว่าฐานธรณี<wbr>ภาค (asthenosphere) ในชั้นนี้มีการหลอมละลายของหิ<wbr>นเป็นบางส่วน

บริเวณที่ติดกับเปลือกโลกจะมีอุ<wbr>ณหภูมิต่ำ
อุณหภูมิสูงสุดพบบริเวณที่ติดกั<wbr>บแกนโลกที่ให้ความร้อน (heat-producing core)
หินในชั้นแมนเทิลส่วนบนมีอุณหภู<wbr>มิต่ำและค่อนข้างเปราะ
ในขณะที่หินในชั้นแมนเทิลส่วนล่<wbr>างมีอุณหภูมิสูงและค่อนข้างอ่อน (แต่ไม่หลอม)
หินในชั้นแมนเทิลส่วนบนมี<wbr>ความเปราะมากพอที่จะแตกเมื่อมี<wbr>แรงมากระทำ
และก่อให้ เกิดแผ่นดินไหวได้

อย่างไรก็ตามหินในชั้นแมนเทิลมี<wbr>ความอ่อนและสามารถไหลได้เมื่<wbr>ออยู่ภายใต้ สภาวะที่มีแรงมากระทำ
แมนเทิลชั้นบนและล่างแบ่งโดยบริ<wbr>เวณที่มีลักษณะความเปราะที่น้<wbr>อยที่สุด

ที่มา...http://th.wikipedia.org/wiki/%<wbr>E0%B9%81%
E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%<wbr>B9%80%E0%B8%
97%E0%B8%B4%E0%B8%<wbr>A5

: Schumann Resonances :
โลกของเราที่มีเส้นรอบวงที่พื้<wbr>นผิวโลกราว 40000 Km(จุดนี้มีประจุรวมเป็น ลบ)
และเหนือขึ้นไป 90 Km จะมีชั้นบรรยากาศ ionospheres (จุดนี้มีประจุรวมเป็น บวก)
การที่ทั้ง 2 ชั้น นี้มีประจุไฟฟ้าที่ต่างกันทำให้<wbr>เกิดการdischargeประจุเป็<wbr>นระยะๆ
เกิดเป็น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ

ดังนั้นที่ว่างระหว่างพื้นผิ<wbr>วโลกกับชั้นบรรยากาศนี้จะมีคลื่<wbr>นแม่เหล็กไฟฟ้า
วิ่งวนอยู่ในชั้นนี้และคลื่นนี้<wbr>จะมีผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้
และคลื่นที่วิ่งวนอยู่<wbr>ตลอดเวลาก็คือคลื่นที่มีชื่อว่า Schumann Resonances

Schumann Resonances จะพบทั่วไปในธรรมชาติ มีมากใน ป่า น้ำตก ชายทะเล
สาเหตุที่คลื่นนี้ลดลงในเมือง เป็นเพราะเราสร้าง Electro magnetic field (EMF) ขึ้นมามาก
EMF นี้จึงไปหักล้าง Schumann Resonances
ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นความถี่<wbr>โลก และมีประโยชน์บางประการกับสุ<wbr>ขภาพมนุษย์

EMF มาจากไฟฟ้า สายไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้า ทีวี มือถือ ฯลฯ ยิ่งในเมืองก็ยิ่งมาก

ที่มา...http://www.soundfountain.com/<wbr>amb/r77acousticrevive.html

.....................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 7

ในปัจจุบันการปรับเปลี่ยนนี้ยั<wbr>งไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์
และเป็นผลให้ใจกลางโลก เกิดความไม่สมดุลอย่างที่เป็<wbr>นอยู่ในขณะนี้

ความไม่สมดุลนี้มีสาเหตุ<wbr>มาจากการหมุนปั่นที่เร็วขึ้นอย่<wbr>างไม่มีเสถียรภาพ
; การหมุนของแกนโลกมีทั้งวิธีที่<wbr>หมุนตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็<wbr>มนาฬิกา

ดังนั้นมันจึงต้องทำให้โลกเกิ<wbr>ดความสมดุลขึ้นด้วย
มิฉะนั้นแล้วหากปราศจากความสมดุ<wbr>ล โลกจะไม่สามารถเคลื่อนเข้าสู่<wbr>ออคเทฟที่สูงขึ้นได้
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่<wbr>างยิ่งทีเดียวในการเตรี<wbr>ยมความพร้อม
สำหรับการรับคลื่<wbr>นของมิติที่สูงกว่าได้

ฉะนั้นคำพูดที่ขัดแย้งกันเองทั้ง<wbr>จริงและเสียดสี กับ ความจริงที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้<wbr>น
ที่มวลมนุษยชาติไม่รู้จริงๆ นั่นก็คือ
ถ้าคลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าดั<wbr>งกล่าวยังไม่สมดุล
โลกก็จะมีการเปลี่ยนแปลงที่<wbr>มากยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก

มันจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นก่<wbr>อนและตามมาด้วยพายุเฮอริ<wbr>เคนและพายุทอนาโด
เพื่อการปรั<wbr>บสมดุล คุณเข้าใจไหม

ดังนั้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้<wbr>นอีก ก็จะเกิดการสร้างรูปแบบพายุ<wbr>เฮอริเคนและพายุทอร์นาโดขึ้<wbr>นเองตามมา
ด้วยวิธีนี้ มันจะทำให้เกิดพลังงานที่ไปดั<wbr>นให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เคลื่<wbr>อนที่ไปทั่วดาวเคราะห์ ไหลเวียนเข้าไปรอบระบบโครงข่าย
และจากนั้นมันก็จะแทรกซึมผ่<wbr>านไปทั่วโลก และไปปรับสมดุลภายในอีกด้วย

มันไม่มีความจำเป็นที่จะไปป้<wbr>องกันไม่ให้เกิดการเปลี่<wbr>ยนแปลงเหล่านี้บนโลก
สิ่งเหล่านี้คือ การไปปรับสมดุลให้เหมาะสมอย่<wbr>างที่มันควรจะเป็น

เราขอยืนยันว่า ความไม่สมดุลที่ยังไม่ได้รั<wbr>บการปรับ
จะนำไปสู่ภัยพิบัติ<wbr>ในระดับมหัพภาคใหญ่

มันจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่าที่เหตุ<wbr>การณ์เล็กๆที่เกิดขึ้นเหล่านี้<wbr>จะนำความสมดุลมาสู่
และหากไปป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ<wbr>้น
มันจะกลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่ พวกคุณเข้าใจหรือไม่

ในกรณีเดียวกันกับ coronal mass ejections - CME
(การที่ดวงอาทิตย์ปลดปล่<wbr>อยอนุภาคและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้<wbr>าพลังงานสูงจำนวนมากออกมาสู่<wbr>อวกาศ )
ที่เรียกว่า พายุสุริยะ หรือ ลมสุริยะ จะยิ่งทวีความเข้มข้นรุนแรงขึ้น
อย่างที่ไม่เคยมีการบันทึกมาก่<wbr>อน

ดังนั้น ที่พวกคุณถามว่า “ลมสุริยะ หรือ CME มีบทบาทอะไรต่อการยกระดั<wbr>บของดาวเคราะห์?
พวกเราก็จะบอกกับพวกคุณว่า

สิ่งเหล่านี้กำลังเปลี่ยนค่<wbr>าความสั่นสะเทือนที่มีผลต่<wbr>อโลก
มันเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่
<wbr>ในระดับปฎิบัติงานของมนุษยชาติ(<wbr>ความถี่ของมนุษย์)

พวกมันทำให้ขี<wbr>ดความสามารถในการเชื่อมต่<wbr>อประสาน (interface)
เพื่อการเข้าถึงมิติได้<wbr> มีมากขึ้น

....................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 8

และดังนั้น พวกเราจะพูดต่อถึงเหตุแห่งการสั่นไหวของโลก ว่าทำไมโลกจึงเลือกที่จะสั่น
ที่รักทั้งหลาย มันเป็นไปเพื่อการยกระดับ

การยกระดับที่พวกคุณเป็นผู้สร้<wbr>าง
ดังนั้น มนุษย์ทั้งหลาย โปรดจงเข้าใจว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหว พายุเฮอริเคน
เป็นวิธีชำระล้างให้โลกสดใสขึ้น นุ่นวลขึ้น และทำให้ขั้วพลังงาน
(Power Nodes)ของคุณและ เส้นเมอริเดียนของโลก
(meridiens… คือ เส้นลากตามแกนโลก ในแนวดิ่งหรือแนว(Vertical) มีได้หลายเส้น…ผู้แปล)
เปล่<wbr>งประกายสว่างสไวมากยิ่งขึ้น

การที่โลกถูกเขย่าไม่ได้<wbr>มาจากผลกรรมใดๆทั้งสิ้น
แต่เป็นการปรับเทียบค่าใหม่ที่<wbr>งดงามมากกว่า เหมือนตุ้มถ่วงในระบบทวิ<wbr>ภาวะ
ที่แกว่งไกวอย่างนุ่มนวลขึ้<wbr>น และทำให้เกิดการขยายตัวเข้าสู่<wbr>มิติที่สูงขึ้นได้

เพราะฉะนั้น พวกคุณที่มีค่าของแสงสว่างในสั<wbr>ดส่วนที่มากขึ้น
จะรู้ได้เองจากด้านที่เป็นตั<wbr>วตนอันสูงส่งของคุณเอง ว่าอะไรเป็นสาเหตุของสิ่งที่เกิ<wbr>ดขึ้นทั้งหลายเหล่านี้

มนุษย์คือความสนุกสนานในการมาเรี<wbr>ยนรู้บนโลก
มันจึงขึ้นอยู่กับคุณในการตัดสิ<wbr>นใจ ทั้งในระดับเล็กและระดับใหญ่
ด้วยการเทียบค่าในการปรั<wbr>บโครงสร้างใหม่ของกาลเวลาที่เป็<wbr>นเส้นตรงแบบนี้


โลกคือจิตวิญญาณที่มีอำนาจล้นพ้<wbr>น
โลกจะไม่มีทางถูกทำลาย
ไม่ว่<wbr>าพวกคุณจะยอมรับมันหรือไม่
และจะไม่มีอะไรถู<wbr>กนำออกไปจากโลกได้ถ้าโลกไม่ยิ<wbr>นยอม


มนุษย์สามารถทำลายโลกได้ตราบเท่<wbr>าที่ยังอาศัยอยู่บนตัวเธอ
โลกมีจิตสำนึกเป็นอันหนึ่งอั<wbr>นเดียวกันกับทรงกลมลาวาที่ลุ<wbr>กไหม้อยู่ อย่างที่เป็นเธออยู่ในทุกวันนี้


การเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาถึงนี้<wbr>ก็เป็นข้อตกลงของ Gaia
ของจิตสำนึกที่สูงส่งของมนุ<wbr>ษยชาติ
ไปสู่ในระดับของวงออเคสตร้าอั<wbr>นยิ่งใหญ่

ด้วยความรู้สึกของโลก ดวงอาทิตย์ และสิ่งที่คุณให้คำนิยามว่า พระผู้สร้างเลยทีเดียว

โปรดจงรับรู้ไว้ว่าทั้งหมดนั้<wbr>นอยู่ในคำบัญชาที่สมบูรณ์

......................

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: Thursday, 24 February, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา: http://spiritlibrary.com/earth-keeper/why-the-earth-is-shaking

Why the Earth is Shaking

ตอนที่ 9...จบค่ะ


และดังนั้น ที่รักทั้งหลาย ก่อนเราจะจบการสื<wbr>่อสารนี้
พวกเราขอบอกกับพวกคุณว่า ยังมีสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่<wbr>มีวงจรที่เกี่ยวข้องกัน
และอยู่เหนือพ้นพวกคุณขึ้นไปอี<wbr>กมาก

เหนือโลกศักดิ์สิทธิ์ เหนือการเปลี่ยนแปลงของโลก
และพลังงานเหล่านี้ก็กำลังหลั่<wbr>งไหลเข้าสู่สนามแห่งการตื่นรู้<wbr>ของพวกคุณ
อยู่ ณ ตอนนี้ มันคือแสงสว่างของธรรมชาติที่<wbr>ละเอียดอ่อน
มันไม่ใช่แสงสว่างแห่งความหวัง เพราะมันไม่ใช่การยึดถืออยู่กั<wbr>บเหตุและผล
แต่เป็นแสงสว่างที่<wbr>แสนจะสบายของความสุขสมบูรณ์
และมันก็เต็มไปด้วยพลังงานของ 'บ้านอันอบอุ่น' แห่งอาณาจักรเทวะอย่างแท้จริง

พวกเราขอกล่าวต่อพวกคุณ ที่อยู่บนโลกทวิภาวะที่แสนพิ<wbr>เศษของดาวเคราะห์ดวงนี้
โลกศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่รั<wbr>กแห่งนี้ ว่าใครก็ตาม
ที่ยอมเปิดรับแสงสว่<wbr>างแห่งสวรรค์ให้เข้าไปสู่<wbr>ทรงกลมแห่งพลังอำนาจ
สนามพลังงานแห่งจิตสำนึก

พวกเขาจะพบทันทีว่า พวกเขาเองกำลังได้รับพรแห่งจิ<wbr>ตวิญญาณ
ซึ่งกำลังส่องแสงระยิ<wbr>บระยับอยู่ในความสงบเงียบอันศั<wbr>กดิ์สิทธิ์
พลังงานนี้สงบนิ่ง พลังงานนี้เชื่<wbr>อมประสานความกลมกลืน

และพลังงานนี้ก็เชื่อมต่อกั<wbr>บความศักดิ์สิทธิ์ในตัวพวกคุณทุ<wbr>กคน
กับบ้านอันอบอุ่นที่แท้จริ<wbr>งของพวกคุณ
ที่ๆมีไว้สำหรับทุกคนที่พร้<wbr>อมจะเปิดรับมัน แสงสว่างนี้ พลังงานนี้ห้อมล้อม
และ สรรสร้างแหล่งพักพิงเพื่อการเยี<wbr>ยวยาและสมบูรณ์พูนสุข

ผู้ที่ยังค้นไม่พบความสุขสมบู<wbr>รณ์ในการแสวงหาของพวกเขาอยู่<wbr>เสมอๆ
คือผู้ที่ยังไม่มีความเข้าใจวิ<wbr>ถีแห่งหนทางเดินนี้

แต่พวกคุณทุ<wbr>กคนสามารถไปให้ถึงจุดนั้นได้ เพราะมันเป็นของกำนัลแห่งสั<wbr>จจะความจริง
อย่างที่จิตวิญญาณในตัวคุณกำลั<wbr>งโหยหาอยู่

สำหรับช่วงเวลาแห่งการเปลี่<wbr>ยนแปลงนี้พวกเราจะอยู่กับพวกคุณ
คอยสดับฟังเสียงของพวกคุณอยู่<wbr>เสมอ
เพื่อทำให้คุณมั่นใจว่า ทั้งหมดนั้นดีที่สุดแล้ว แม้มันจะเป็นช่วงเวลาที่<wbr>ยากลำบากก็ตาม

ข้าพเจ้าคือ เมตาตรอน และได้มาแบ่งปันความจริงอันศั<wbr>กดิ์สิทธิ์เหล่านี้ให้กับพวกคุณ
และพวกเราจะบอกกับพวกคุณว่า พวกคุณทุกๆคนเป็นดั่งที่รัก พวกคุณไม่ได้โดดเดี่ยว


...และมันก็เป็นดังนั้น...


..........................

 

<table id="post4408936" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">23-02-2011, 04:02 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1232 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> LadyOfLight
สมาชิก



วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 505
พลังการให้คะแนน: 181


</td> <td class="alt1" id="td_post_4408936" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> ขออนุญาตนำมิวสิควิดีโอเพลงดอกไม้ไฟที่คุณ Kindred เคยโพสต์ไว้มาโพสต์อีกครั้งนนะคะ...*-*


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=QGJuMBdaqIw&feature=player_embedded"]YouTube - Katy Perry - Firework[/ame]



Do you ever feel like a plastic bag
Drifting through the wind, wanting to start again?
Do you ever feel, feel so paper thin
Like a house of cards, one blow from caving in?
เธอเคยรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นถุงพลาสติก
ที่กำลังปลิวไปกับสายลมตามยถากรรมอยู่ร่ำไปบ้างไหม?
เธอเคยรู้สึกว่าตัวเองบอบบาง
เหมือนบ้านที่ถูกสร้างขึ้นจากไพ่
แค่ถูกเป่าทีเดียวก็พังทลายลงบ้างไหม?

Do you ever feel already buried deep
Six feet under screams but no one seems to hear a thing?
Do you know that there's still a chance for you
'Cause there's a spark in you?
เธอเคยรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกฝังจมดินจนลึกและส่งเสียงตะโกนร้อง
แต่ดูเหมือนไม่มีใครได้ยินอะไรเลยบ้างไหม?
เธอรู้ไหมว่าโอกาสยังเป็นของเธออยู่เสมอ
ซึ่งเป็นเพราะมีประกายไฟอยู่ในตัวเธอเองน่ะ?


You just gotta ignite the light and let it shine
Just own the night like the 4th of July
แค่เธอให้แสงไฟในตัวลุกโชนและสาดแสงออกไป
แค่ทำให้เป็นดั่งค่ำคืนเฉลิมฉลองอิสรภาพของเธอเอง
(ที่มีประกายแสงไฟสาดส่องขึ้นบนท้องฟ้า.../LadyOfLight)


'Cause baby, you're a firework
Come on, show 'em what you're worth
Make 'em go-o-o-o
As you shoot across the sky-y-y
Baby, you're a firework
Come on, let your colors burst
Make 'em go-o-o-o
You're gonna leave 'em falling down-own-own
เหตุเพราะ ที่รัก...เธอน่ะคือดอกไม้ไฟ
มาเถอะ...แสดงให้ประกายไฟเหล่านั้นเห็นว่าเธอคู่ควรที่จะสาดแสง
จงให้มันลุกโชนสาดแสงออกไป
ให้เหมือนว่าเธอยิงแสงไฟข้ามพาดผ่านท้องฟ้า
ที่รัก...เธอคือดอกไม้ไฟนะ
เอาเลย...ระเบิดสีสันของเธอออกมาให้เจิดจ้า
จงให้มันระเบิดกระจายออกไป
เธอกำลังปล่อยแสงไฟกระจายตกลงมา(บนโลก.../LadyOfLight)


You don't have to feel like a waste of space
You're original, cannot be replaced
If you only knew what the future holds
After a hurricane comes a rainbow
เธอไม่จำเป็นต้องรู้สึกเหมือนว่าตัวเองไร้ค่า
เธอน่ะเป็นคนพิเศษ...ไม่มีใครแทนที่เธอได้
หากเพียงเธอรู้ได้ว่าอะไรรออยู่ในอนาคต
หลังจากที่พายุพัดผ่านไปกลายเป็นท้องฟ้าสดใสทอประกายรุ้ง


Maybe you're reason why all the doors are closed
So you could open one that leads you to the perfect road
Like a lightning bolt, your heart will blow
And when it's time, you'll know
บางที...ตัวเธอเองน่ะแหล่ะ ที่ทำให้ประตูทางออกทุกบานปิดลงไปหมด
งั้นเธอก็ควรเปิดออกไปสักบานหนึ่ง ซึ่งพาเธอออกไปสู่เส้นทางที่ใช่
มันเหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยงลงมาเลยล่ะ...หัวใจของเธอจะเต้นตูมตาม
แล้วเมื่อถึงเวลานั้น...เธอจะรู้เอง


You just gotta ignite the light and let it shine
Just own the night like the 4th of July
แค่เธอให้แสงไฟในตัวลุกโชนและสาดแสงออกไป
แค่ทำให้เป็นดั่งค่ำคืนเฉลิมฉลองอิสรภาพของเธอเอง


'Cause baby you're a firework
Come on, show 'em what you're worth
Make 'em go-o-o-o
As you shoot across the sky-y-y
Baby, you're a firework
Come on, let your colors burst
Make 'em go-o-o-o
You're gonna leave 'em falling down-own-own
เหตุเพราะ ที่รัก...เธอน่ะคือดอกไม้ไฟ
มาเถอะ...แสดงให้ประกายไฟเหล่านั้นเห็นว่าเธอคู่ควรที่จะสาดแสง
จงให้มันลุกโชนสาดแสงออกไป
ให้เหมือนว่าเธอยิงแสงไฟข้ามพาดผ่านท้องฟ้า
ที่รัก...เธอคือดอกไม้ไฟนะ
เอาเลย...ระเบิดสีสันของเธอออกมาให้เจิดจ้า
จงให้มันระเบิดกระจายออกไป
เธอกำลังปล่อยแสงไฟกระจายตกลงมา


Boom, boom, boom
Even brighter than the moon, moon, moon
It's always been inside of you, you, you
And now it's time to let it through
บูม...บูม...บูม
ให้สว่างเจิดจ้ากว่าดวงจันทรา
ไฟนั้นอยู่ภายในตัวเธอตลอดมา
และถึงเวลาที่เธอต้องปล่อยมันสาดแสงออกมาแล้ว


'Cause baby you're a firework
Come on, show 'em what you're worth
Make 'em go-o-o-o
As you shoot across the sky-y-y
Baby, you're a firework
Come on, let your colors burst
Make 'em go-o-o-o
You're gonna leave 'em falling down-own-own
เหตุเพราะ ที่รัก...เธอน่ะคือดอกไม้ไฟ
มาเถอะ...แสดงให้ประกายไฟเหล่านั้นเห็นว่าเธอคู่ควรที่จะสาดแสง
จงให้มันลุกโชนสาดแสงออกไป
ให้เหมือนว่าเธอยิงแสงไฟข้ามพาดผ่านท้องฟ้า
ที่รัก...เธอคือดอกไม้ไฟนะ
เอาเลย...ระเบิดสีสันของเธอออกมาให้เจิดจ้า
จงให้มันระเบิดกระจายออกไป
เธอกำลังปล่อยแสงไฟกระจายตกลงมา


Boom, boom, boom
Even brighter than the moon, moon, moon
Boom, boom, boom
Even brighter than the moon, moon, moon
บูม...บูม...บูม
ให้สว่างเจิดจ้ากว่าดวงจันทรา
บูม...บูม...บูม
ให้สว่างเจิดจ้ากว่าดวงจันทรา

................................................................................................
</td></tr></tbody></table>

 

เข้าใจดีครับและอยากมีส่วนร่วม ทำเพื่อส่วนรวมไม่ได้อยากทำเพื่อส่วนตัว เพิ่งย้ายกลับมาจากต่างประเทศ มีปัญหาที่จะพยายามอธิบายให้คนไทยฟัง

 

การติดต่อสื่อสารทางจิตก็มีทั้งแบบที่ถูกและผิดอยู่แล้ว

 

ขอแถมเพลงนี้ด้วยนะครับ อิอิ ชอบมากๆๆๆ

“SHINE”<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

<o> </o>
I never really feel quite right
I don't know why, all I know is there's something wrong
Every time I look at you, you seem so alive

Tell me how do you do it, walk me through it
I'm following every footstep

Baby on your own you take a conscious step
Do you wanna give it up?

But all I want is for you to SHINE
Shine down on me
Shine on this life that's burning out

I say a lot of things sometimes that don't come out right
And I act like I don't know why
I guess a reaction is all I was looking for

You looked through me, you really knew me like no one has EVER looked before

Baby on your own you take a cautious step
Do you wanna give it up?

But all I want is for you to SHINE
Shine down on me
Shine on this life that's burning out

I know, I know, girl you got something

SHINE (shine it on to me)
Shine down on me (I wanna feel it)
Shine on this life that's burning out

Baby on your own you take a cautious step
Do you wanna give it up?

But all I want is for you to SHINE
Shine down on me (just show me something)
Shine on this life that's burning out (you give me something that I never
know)

Shine (it gonna kill me if you give something away)
Shine yeaaah (I wanna know what's going in on your mind)
Shine on this life that's burning out<o></o>
ใครเก่งๆแปลหน่อยคร้าบบบ

 

เพราะครับ จากMR.BIG [ame=http://www.youtube.com/watch?v=AClxnJa4J-Q]YouTube - mr big - shine videoclip (correct audio)[/ame]

 

ขอขอบพระคุณ ต่อสิ่งดีๆที่ มหาเทพMETATRON

ได้มาแบ่งปันความจริงอันศั<WBR>กดิ์สิทธิ์เหล่านี้ให้กับพวกเรา

 

ขออภัยแทนมนุษยืดลกทีเป็นกังวลและส่งคลื่นความกลัวไปถึงท่ามหาเทพMETATRON
ขอขอบคุณท่านจริงที่ทรงชี้แจงให้พวกเราเข้าใจ


ขอให้ท่านมหาเทพจงเป็นสุขชั่วนิรันดร์

 

อันที่จริงกระทู้ "ข้อความจากต่างมิติ"
ทุกๆกระทู้ที่พวกเราโพสต์ไปแล้ว

รูปธรรมชีวิตต่างมิติทั้งหลาย
พวกท่านก็บอกแบบนี้กันทั้งนั้นแหละครับ

คือบอกมาตลอด บอกมานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยของ The Law of One
รูปธรรมชีวิตต่างมิติที่ใช้ชื่อว่า "รา"
ก็บอกมานานกว่า 60 ปีแล้ว ว่า
โลกกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง
โลกกำลังจะเข้าสู่วัฏจักรใหม่ แห่งยุคพลังงานใหม่
และไม่ใช่วันสิ้นโลกใดๆทั้งสิ้น
แต่มันคือ "วันสิ้นยุค"

ซึ่งคำๆนี้ ในคัมภีร์ไบเบิลภาคภาษาไทยบางเวอร์ชั่น
ก็แปลผิดด้วยนะครับ..เขาแปลไปว่า "วันสิ้นโลก"

ต่อมา เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ตอนที่ครายออน
ลงมาปรับโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกให้
ครายออนก็บอกไปแล้วว่าโลกกำลังจะเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่
และปลายทางของเหตุการณ์ร้ายต่างๆ
ก้คือโลกที่มีแต่สันติสุข และอุดมสมบูรณ์
ดีพร้อมไปทุกๆอย่าง

ต่อมาก็รูปธรรมชีวิตต่างมิติแห่งแสงสว่างทั้งหลาย
จากสมาพันธ์แห่งกาแล็กซี่ จำนวนมากมาย
รวมถึงแมทธิว และคุรุด้านจิตวิญญาณทั้งหลายด้วย
ก็ได้มาพร่ำบอกแบบนี้เหมือนๆกันหมดทั้ง 100%

แต่ก็นั่นแหละนะ..เพราะว่ามนุษย์ "ชอบ" ที่จะกลัว
มนุษย์ "ชอบ" ที่จะวิตกกังวล
มนุษย์ "ชอบ" ที่จะคิดในแง่ลบ เพราะว่ามนุษย์ "ชอบ"

มนุษย์ "ไม่เลือก" ที่จะคิดในแง่บวก
หรือยอมเข้าใจอะไรดีๆ ที่พวกเขาสื่อสารกันมานั้นเลย
ทั้งนี้ คงเป็นเพราะว่ามนุษย์ "ชอบ" แบบนั้นกระมัง

ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงนะครับ..
ก็ได้แต่เผยแพร่ข้อความด้านบวกของพวกเขา
ให้คนที่สนใจได้อ่านด้วยเท่านั้นเอง

ส่วนคนที่ "ชอบ" ที่จะคิดในแง่ลบ
ก็ยังคงไม่สนใจอ่าน และไม่ยอมเข้าใจอยู่ต่อไป
รวมทั้งยังประโคมข่าวร้ายๆ ไปในทางร้ายๆอยู่ต่อไป

ผมก็เข้าใจดี ว่าบางคน หรือบางครั้ง
ชีวิตของมนุษย์เรา เราก็รู้สึกว่ามันไม่สมบูรณ์แบบ
มันมีสิ่งที่เราอยากจะแก้ไข หรืออยากจะลบล้างมันไปมากมาย

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า
เราจะต้องตายเพื่อกลับไปเกิดใหม่เสมอไป
และที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ..

บางคน..คิดแม้กระทั่ง อยากให้ภัยพิบัติมันเกิดเร็วๆ
เพื่อที่จะได้ล้างโลก และล้างคนทั้งโลกนี้ไปเสีย
เพื่อตัวเอง ซึ่งไม่ชอบชีวิติของตัวเองอยู่แล้ว
จะได้มีเพื่อนตายด้วยเยอะๆ อะไรแบบนั้น

ที่ผมบอกว่าผมเข้าใจหนะ ก็เพราะว่าผมเคยเป็นมาก่อน

ส่วนบางคนก็อยากจะให้หายนะมันเกิดเร็วๆ
เพื่อที่จะได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อนั้นหนะ
มันถูกต้องแล้ว มันเกิดขึ้นจริงๆแล้ว
เห็นไหม? เป็นอย่างที่ฉันบอกไหม? อะไรแบบนั้น


(เดี๋ยวค่อยมาคุยต่อนะครับ)
..............................................

 

อันที่จริงข่าวร้ายมันก็ไม่ใช่จะไร้ประโยชน์
หรือเป็นโทษแต่เพียงอย่างเดียว
เพราะโดยส่วนตัวผมเอง ก็เริ่มหันมาหาทางธรรม
ก็เพราะข่าวร้าย และเหตุการณ์ร้ายๆในชีวิตนี่แหละครับ

ตอนนั้นผมใช้คำว่าเหตุการณ์ร้ายๆในชีวิต
แต่ตอนนี้ไม่ใช้คำนี้อีกต่อไปแล้วนะ
เพราะว่ามันไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตผม
ที่เป็นเหตุการณ์ร้ายๆเลย เพราะว่ามันเป็นประโยชน์
และเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับผมทั้งหมดเลย

ทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกๆความเป็นไปในชีวิต
มันสอดคล้องลงตัวแบบพอเหมาะพอเจาะกันเหลือเกิน
เหมือนมันถูกออกแบบไว้แล้วอย่างนั้นแหละ

เช่น ถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้น ผมก็คงจะไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น
ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ ผมก็คงจะไม่ได้มาอยู่ตรงนี้
อะไรแบบนั้นครับ..

คือมันมีที่มาที่ไปของมัน และมีเหตุมีผลของมันทั้งนั้น
มันถูกต้องเหมาะสม "ในแบบของมัน" หมดทุกเหตุการณ์เลย
เพราะฉะนั้น มันจึงไม่มีเหตุการณ์อะไรเลยที่จะเรียกว่า
"เลวร้าย" ได้ มันดีทั้งหมด มีประโยชน์ทั้งหมด
และจะขาดเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่งไปก็ไม่ได้ด้วย

ผมเลยได้แต่ขอบคุณเหตุการณ์เหล่านั้น
ขอบคุณแล้วขอบคุณอีกอยู่พักหนึ่ง
และถ้ามีใครมาถามผมว่าอยากเปลี่ยน
หรือแก้ไขอะไรในอดีตไหม ผมก็จะบอกว่าไม่
เพราะว่าทุกอย่างมันถูกต้องลงตัวหมดแล้ว

..ในแบบของมัน..

(เดี๋ยวมาคุยต่อครับ)
.................................

 

แต่ข่าวร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติระดับโลกที่ผมได้รับรู้มา
ผมรู้มาจากหนังสือชุด "จิตจักรวาล" ของอาจารย์ปริญญา ตันสกุล
ตอนนั้นผมอ่านหมดทั้ง 14 เล่มเลย

ถ้าใครได้อ่านหนังสือชุดนี้แล้ว แม้จะไม่เชื่อทั้ง 100% ก็ตาม
แต่ผมก็ว่า ทุกๆคนน่าจะพอได้ประโยชน์อยู่บ้าง
เช่น อย่างน้อยก็ให้ได้ยินได้ฟังผ่านๆเอาไว้บ้าง
เพื่อเป็นข้อมูลใน database ของตัวเอง
ว่าโลกกำลังจะเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่แล้วนะ
และกระบวนการในการเข้าสู่ยุคนี้ มันก็จะต้องมีการ "ชำระล้าง" ด้วย

ซึ่งการชำระล้างที่ว่านี้ ก็จะนำมาซึ่งภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆ
แต่มันก็จะไม่ใช่วันสิ้นโลกแต่ประการใดทั้งสิ้น
และ..แน่นอนว่า จะมีผู้ที่จะต้องตายในเหตุการณ์เหล่านี้มากมายด้วย
มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้..อะไรแบบนั้น

เพราะฉะนั้น ข่าวร้าย ในแบบที่ผมได้รับรู้มานี้
มันจึงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหดหู่ ท้อแท้ หรือสิ้นหวังแต่อย่างใดเลย
มันมีแต่จะทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น เร่งทำความดีมากขึ้น
เพื่อที่จะรีบเร่งยกระดับจิตของตัวเองให้สูงขึ้น
ทันต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเหล่านี้
เพื่อที่จะให้สามารถผ่านเข้าไปสู่ยุคพลังงานใหม่กับเขาด้วยได้

แรกๆก็มีเหมือนกันที่อยากจะให้มันเกิดเร็วๆ แรงๆ
เพื่อที่จะได้ให้คนอื่นเห็นข้อพิสูจน์ว่า สิ่งที่ผมเชื่อนั้น มันเป็นความจริง
เพื่อที่จะให้คนอื่นเลิกมองเราว่าบ้าเสียที
และเพื่อที่จะได้ให้พวกเขาหันมาสนใจด้านจิตวิญญาณ
และเร่งรีบทำความดี และยกระดับจิตขึ้น กันเสียทีด้วย

แต่เมื่อเวลาผ่านไปๆ เมื่อความเข้าใจในอะไร ต่ออะไรมัน มากขึ้นแล้ว
ความรู้สึกแบบนั้น มันก็หายไป

มันไม่ได้รู้สึกสะใจอะไรเลย เวลาเห็นภัยพิบัติร้ายแรงเกิดขึ้นตรงไหนของโลก
และมันก็ไม่ได้รู้สึกสมน้ำหน้าคนที่ตายเหล่านั้นเลย
ที่เราคิดและเชื่อว่า พวกเขาคือคนบาป หรืออยู่ในดินแดนที่มีบาป
หรือมีกรรมชั่วที่ต้องชดใช้..อะไรแบบนั้น

มันไม่ได้รู้สึก และเชื่อว่า ประเทศไทยจะเกิดภัยน้อยที่สุด
เพราะว่าเราเป็นเมืองพุทธ มีเทพยดาคุ้มครอง
และมีพระอรหันต์มากมาย อะไรแบบนั้นเลย
ซึ่งตรงประเด็นนี้ เป็นความคิดส่วนตัวของผมนะครับ
อาจจะขัดแย้งกับหลายท่านอยู่บ้าง แต่ลองฟังต่อก่อนว่า..

แต่ก่อนผมก็เคยคิดและเชื่อแบบนั้นแหละ
และผมก็เคยภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และเป็นคนพุทธด้วย
รวมถึงผมก็ยังเคยดูหมิ่นคนชาติอื่น ศาสนาอื่น
ที่ไม่ใช่คนไทย และไม่ใช่คนพุทธด้วย
เหมือนกับหลายๆท่านที่กำลังรู้สึกอยู่ในขณะนี้
ไม่เชื่อลองถามใจท่านดูแบบตรงไปตรงมาสิ..ว่า..

ท่านเชื่อว่าเรามีบุญมากกว่าคนอื่นใช่ไหม
ถึงได้มาเกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนาได้

ท่านเชื่อว่าเรามีบุญมากกว่าคนอื่นใช่ไหม
เราถึงได้มาเกิดเป็นคนไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม
และเป็นเมืองที่มีน้ำใจไมตรี และสงบร่วมเย็นแบบนี้

เรามาลองสำรวจความคิดและความเชื่อของตัวเองดูกันหน่อยดีไหม
ว่า ตัวเราเองยังมีการ "เปรียบเทียบ" และ "แบ่งแยก" อยู่หรือเปล่า..ว่า..

"มีเรา - มีเขา"

"เราดีกว่าเขา..เขาชั่วกว่าเรา"

"เรามีบุญมากกว่าเขา เพราะว่าศาสนาเรามีการทำบุญทำทาน
แต่ศาสนาเขาไม่มี หรือมี แต่ไม่มีพระอริยเจ้า
ที่เป็นเนื้อนาบุญที่ดีให้กับเขา เหมือนเรา"

"ศาสนาเขา หรือประเทศเขา ไม่มีใครเลยที่เข้าขั้นอริยบุคคล
เพราะว่าพวกเขาเอาแต่งมงาย เอาแต่ร้องขอพระเจ้า
ไม่รู้จักใช้ปัญาและเหตุผล พึ่งพาตนเองเหมือนเรา"

"เราประเสริฐกว่าเขา เพราะเราถือศีล 5 หรือ 8 อยู่
แต่เขาไม่ได้ถือศีลอะไรเลย"
.....ฯลฯ........

จริงเหรอ? เรารู้จักพวกเขาดีแค่ไหน?
ในชีวิตประจำวันของเรา เราเคยคุยกับฝรั่งมาแล้วกี่คนกัน?
เรารู้จักฝรั่งดีจริงๆสักกี่คนกัน?
แล้วอะไร ทำให้เราเชื่อมั่น และสรุปออกมาแบบนั้นได้?

เป็นเพราะในตำราของเราเขียนไว้ใช่ไหม๊?
และเป็นเพราะว่าครูบาอาจารย์สอนเรามาแบบนั้นใช่ไหม?

แล้วเราไม่คิดเหรอว่า ในตำราของพวกเขา ก็คงเขียนไว้แบบนั้นเหมือนกัน
และครูบาอาจารย์ของพวกเขา ก็คงสอนพวกเขามาแบบนั้นเหมือนกัน

แล้วแบบนี้ ถ้าจับมานั่งถกกัน หรือเถียงกัน ระหว่างเรากับเขา
ใครจะชนะ? ข้อสรุปมันจะออกมาว่าใครถูก? ใครผิด?

เชื่อผมเถอะว่า มันเป็นไปได้น้อยมากๆๆๆๆ
ที่ผลของการโต้วาทีนี้ จะลงเอยด้วยการ
มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกมาสารภาพว่า

"เออ..ของเราผิดนี่หว่า ของท่านถูกต้องกว่า
เพราะฉะนั้น นับจากนี้ไป เราจะหันมานับถือของท่านแทนดีกว่า"

มันเป็นไปแทบไม่ได้เลย..เพราะว่าส่วนใหญ่ ทุกคนทุกฝ่าย
ก็จะต้องปกป้องความเชื่อของตนเองจนสุดความสามารถ
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ซึ่งรวมทั้งการ "ฆ่า" คนที่มาสบประมาท หรือ ปรามาท
ความเชื่อนั้นๆของพวกเขาด้วย..

เพราะทุกคนก็จะต้องเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อนั้นมันถูกต้องที่สุดแล้ว
เหมือนกันหมดทั้งนั้นแหละ..

..เราก็ว่าเราถูกต้องที่สุด..แล้วเขาหละ..ก็คงคิดไม่ต่างอะไรกับเราหรอก..

มีใครเคยอ่านเจอ หรือเคยได้ยินได้ฟังครูบาอาจารย์สอนไว้ไหม
ว่าท่านสนับสนุนให้เที่ยวไป "เปรียบเทียบ" หรือ "แบ่งแยก"
แบบนั้นหรือเปล่า? ลองถามตัวเองดูนะครับว่า

การยึดมั่นในความคิด และ ความเชื่อ ว่าเราดีกว่าเขา ว่าเราประเสริฐกว่าเขา แบบนั้น
มันเป็นสภาวะธรรมชั้นสูง หรือ มันเป็นความก้าวหน้าทางจิตของเราหรือเปล่า?

(เดี๋ยวค่อยมาคุยต่อนะครับ)
.................................