สงสัยว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทยจริงหรือเปล่าครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย มารบรูพา, 9 สิงหาคม 2010.

  1. Solotel

    Solotel Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +38
    ลองศึกษาดูจากเวปด้านล่างนะครับ ผมคิดว่าเป็นโครงการวิจัยที่น่าสนใจมาก

    www.buddhabirthplace.com
     
  2. Solotel

    Solotel Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +38
    ข้อความบางส่วนจากเวปครับ

    สภาพภูมิประเทศ ของเนปาล และอินเดียในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก หลายประการที่เกี่ยวกับปราสาท 3 ฤดู ช่วงเวลา เข้าพรรษา และระยะทางจากเมืองต่างๆ ตามที่ปรากฏในพระสูตร และตามที่เป็นจริง

    ปราสาท 3 ฤดู ตามพุทธประวัติ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถเจริญวัย พระราชบิดาได้โปรดให้สร้างปราสาท 3 ฤดู คือ ปราสาทฤดูร้อน ปราสาทฤดูฝน และปราสาทฤดูหนาว

    แต่เมื่อดูที่ตั้งในเนปาล ดินแดนที่อ้างว่าเป็นที่ตั้งของกรุงกบิลพัสดุแล้ว ปรากฏว่า อยู่เหนือเส้นขนานที่ 24 จัดอยู่ในเขต Tropic of Cancer ซึ่งมี 4 ฤดู ประเทศเนปาลตั้งอยู่เชิงเขาหิมาลัยซึ่งโดยทั่วไปจะมีอากาศเย็น ดังนั้นกรุงกบิลพัสดุซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาท 3 ฤดูจึงไม่น่าจะอยู่ใน ประเทศเนปาล




    ช่วงฤดูเข้าพรรษา ตามพระวินัยกำหนดให้พระอยู่ประจำพรรษา 3 เดือนในช่วงเดือนสิงหาคม-กลางเดือนตุลาคม (กลางเดือน ๘ - กลางเดือน ๑๑) ตรงกับช่วงเข้าพรรษาในเมืองไทยไม่คลาดเคลื่อนเลย

    แต่ในเนปาล และอินเดียตะวันตก จะมีฝนตกในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ดังนั้นการกำหนดช่วงเข้าพรรษา จึงน่าจะไม่ใช่กำหนดตาม สภาพ ภูมิศาสตร์ในเนปาลหรืออินเดียตะวันตก แต่น่าจะกำหนดตามสภาพภูมิศาสตร์ ในดินแดน สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของไทย ลาว เขมร พม่า และมอญในปัจจุบัน เพราะแม้ เหตุการณ์จะผ่านไปกว่าสองพันปีช่วงเวลาเข้าพรรษา ก็ตรงกับที่บัญญัติไว้ในพระวินัย

    นอกจากนี้ ระยะทางตามที่เป็นจริงในประเทศอินเดียกับระยะทาง ในพระไตรปิฎกไม่สอดคล้องกัน
     
  3. Solotel

    Solotel Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +38
    ระยะทางระหว่างเมืองตามที่ระบุในพระไตรปิฎก

    และในอินเดีย

    เมื่อพิจารณาระยะทางตามความเป็นจริงก็จะเห็นว่า ขัดแย้งกับที่ระบุในพระไตรปิฎก อาทิ

    ๑) ราชคฤห์ห่างจากตักสิลา 90 โยชน์ ก็จะเป็นระยะทางประมาณ 1440 กิโลเมตร (1 โยชน์=16 กิโลเมตร) แต่ในความเป็นจริง ตักสิลาอยู่ทาง ตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงอิสลามาบัดในปากีสถาน ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่าสองพันห้าร้อยกิโลเมตร แต่ถ้าเป็นราชคฤห์ตามความเชื่อ ของไทยแต่เดิมที่อยู่ทางเหนือของเชียงแสนไ ปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว (ที่เรียกว่า ห้อหลวงแล้ว) ก็มีความเป็นไปได้มาก

    ๒) กรุงพาราณสีห่างจากตักสิลา ๑๐ โยชน์ เป็นระยะทางประมาณ ๑๖๐ กิโลเมตร แต่ถ้าเทียบกับตักสิลาซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ กรุงอิสลามาบัดในปากีสถานซึ่งอยู่ห่างออกไป กว่าพันห้าร้อยกิโลเมตร ก็ยืนยันทันทีว่า คนละเมืองแน่นอน

    จึงเห็นได้ว่า หากพิจารณาระยะทาง ที่เป็นจริงในอินเดีย กับที่ปรากฏในพระไตรปิฏกแล้ว ไม่มีที่ตรงกันเลยแม้แต่จุดเดียว แต่มรเมืองไทยที่ตรงกับพระไตรปิฎกมีหลายกรณี อาทิ

    (๑)ระยะทางระหว่าง เมืองตาก(อำเภอบ้านตาก) ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นตักสิลา และเชิงเขาใหญ่ (บริเวณกลางดง ของอำเภอปากช่อง) ซึ่งเชื่อว่า เป็นที่ตั้ง กรุงพาราณสี แล้ว ระยะทางประมาณ ๑๐ โยชน์ (๑๖๐ กิโลเมตร) มีความเป็นไปได้สูง



    (๒) ระยะทางระหว่างเมืองสาวัตถี ถึงเมืองสาเกต ๗ โยชน์ (๑๑๘ กิโลเมตร) ก็ตรงกับระยะทางระหว่างร้อยเอ็ด กับตำบลสาวะถี จังหวัดขอนแก่น ในปัจจุบัน

    (๓) ที่ตั้งของเมืองในอินเดีย กับพระไตรปิฎกไม่ตรงกัน จะเห็นได้จากการเดินทางจากกุสินารา ไปกรุงราชคฤห์ของพระอานนท์ ซึ่งท่านพระอานนท์เถระถือเอาบาตรและจีวรของ พระผู้มีพระภาคเจ้าอันภิกษุสงฆ์แวดล้อม มีความประสงค์จะเดินทางผ่านกรุงสาวัตถีไปยังกรุงราชคฤห์ ก็หลีกจาริกไปทางกรุงสาวัตถี.เพื่อให้ทันเข้าพรรษา ซึ่งเหลือเวลาไม่กี่วัน แสดงว่า กรุงสาวัตถีอยู่ระหว่างเมืองกุสินารากับราชคฤห์ แต่ในแผนที่อินเดีย สาวัตถี กับราชคฤห์ อยู่คนละฟากกัน คือ สาวัตถีอยู่ทิศเหนือ ส่วนราชคฤห์อยู่ทิศใต้ที่รัฐ Bihar (ข้อสังเกตจากคุณอาตม ศิโรศิริ)

    อย่างไรก็ตามที่ตั้งของเมืองต่างๆ ได้ยึดตามเอกสารของพระธรรมเจดีย์(ปาน) แต่ยังไม่เป็นข้อยุติ เนื่องจาก ทีมคณะผู้วิจัยแต่ละทีมยังไม่ได้ข้อยุติที่ตรงกัน ในเบื้องต้น พวกเราทุกทีมต่างมุ่งพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่า ชมพูทวีปและพระพุทธอุบัติภูมิอยู่ในดินแดนที่ปัจจุบันเรียกว่า สุวรรณภูมิ
     
  4. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ท่านทั้งหลาย อย่าอ่านไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดเลย ขอให้ค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ พิจารณาเถิด
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    บุคคลในสมัยพุทธกาลก็มีหน้าตาผิวพรรณดังเช่นคนไทย พม่า ลาว เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายนี้แหละ หาใช่มีหน้าตาเป็นแขกดำอย่างเช่นที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เพียงแต่เป็นการเคลื่อนย้ายเผ่าพันธุ์อพยพมายังสุวรรณภูมิ คือ ไทย พม่า ลาว
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ประวัติพระพุทธศาสนา ก็ยังคงเป็นประเทศอินเดีย และในสมัยก่อนพื้นดินติดเป็นแผ่นผืนเดียวกันสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ ในประเทศอินเดีย แต่ปรินิพพานที่พระแท่นดงรัง ในจังหวัดกาญจนบุรี และโทณะพราหมณ์ได้สถาปนาก่อสร้างพระประโทณเจดีย์ขึ้นเพื่อเก็บรักษาทะนานทองคำที่ใช้ตวงพระบรมสารีริกธาตุ ในจังหวัดนครปฐม<O:p</O:p
     
  5. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +36
    จะลองเข้าไปศึกษาในเวปดูนะคะ

    คุณ Solotel คะ

    ตักศิลาไม่ได้อยู่ตะวันตกของอิสลามบัดนะคะ อยู่ตะวันออก ปากีสถานนี้อยู่ตะวันตกเลยอินเดียไป

    คุณ Sirius Galaxy
    แขกดำที่คนไทยเห็นๆกันในเมืองไทยนั้นเค้าไม่ได้มาจากอินเดียทางเหนือหรือทางตะวันตก พวกนี้เป็นแขกทมิษ อยู่ทางใต้ เหมือนกับคนฝรั่งว่าทำไมคนไทยที่อยู่เมืองนอกมีแต่คนอิสาน คนไทยส่วนใหญ่หน้าตาเหมือนอิสานใช่ไหม ก็เปล่า แต่เพราะคนไทยที่ไปอยู่เมืองนอกส่วนใหญ่เค้ามีปัญหาด้านการเงินดังนั้นต้องไปหาเงินต่างประเทศ พวกคนที่รวยๆ หน้าตาดีๆก็มักจะไม่ไปอยู่ประเทศอื่น อินเดียก็เช่นกัน แขกที่ตัวดำๆนั้นจน ดังนั้นมาทำงานในเมืองไทยกันเยอะคนไทยเลยเหมาว่า แขกอินเดียส่วนใหญ่ดำแบบพวกที่มาอยู่เมืองไทย
    อินเดียนั้นใหญ่มีหลายภูมิภาคคะ ชาวอินเดียจากปัญจาบและทางเหนือจะขาวเหลืองออกแทนๆเหมือนคนไทยแต่หน้าคมเหมือนแขก

    ดูรูปนี้เป็นตัวอย่างได้คะ ภาพ ชาวปัญจาบ ยุคปัจจุบัน เชื่อว่าทุกคนต้องคิดเหมือนกันว่า ถูกต้องตามลักษณะมหาบุรุษและมหาสตรีมาก

    http://www.mobileapples.com/Assets/Content/Wallpapers/Neil.jpg

    http://www.flickr.com/photos/52635691@N02/5541966896/

    http://www.flickr.com/photos/58262710@N06/5352387147/sizes/l/in/photostream/

    http://3.bp.blogspot.com/_inoq4eaMZ...YPWgr_g/s1600/bangladeshi+beautiful+girls.jpg

    http://www.flickr.com/photos/58262710@N06/5351864914/sizes/l/in/photostream/

    http://lh4.ggpht.com/_9KDTFIuWS1Q/S..._Q-BdKMU/neil-mukesh-of-morellato-watch53.jpg

    มีข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งว่าถ้าพระพุทธเจ้าท่านเป็นคนไทย และมีรูปร่างหน้าตาแบบคนเอเชีย ส่วนตัวไม่คิดว่าศาสนาของท่านจะไปไกลถึงกรีก ถึงอัฟกานิสถาน ท่านน่าจะมีลักษณะที่ดูสง่างามเพื่อเจริญศรัทธาต่อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกรีก เปอร์เซีย สมัยนั้นก็รู้กันอยู่ ว่าพวกตะวันตกนั้นคิดว่าตัวเองเป็นผู้เจริญกว่าใครๆ และดูดีกว่าใครๆ กรีกเองไม่ถูกกับมองโกลอยู่เป็นทุนแล้ว เนื่องจากไปรุกรานบ่อยและ กรีกก็มีการบรรยายลักษณะคนมองโกลว่า หน้าตาไม่ดีในสายตาชาวกรีก ไม่เป็นที่น่านับถือ ก็เคยอ่านมาจากหนังสือเล่มหนึ่งเขียนโดยท่าน หลวงวิจิตร เล่าถึงชาวฝรั่งเศษที่เข้ามาประเทศสยามในยุคแรกๆก็ได้เขียนเล่ารูปร่างหน้าตาชาวไทยในสมัยนั้นคล้ายคลึงกับที่กรีกพูดถึงคนเอเชียในสมัยก่อนพุทธกาลว่า ไม่งาม ไม่น่าดู รูปร่างแคระแกรน ใบหน้าแป้น ไม่มีดั้งจมูก


    มาดูลักษณะของมหาบุรุษที่ปรากฏในพระไตรปิฏกนั้น เหตุใดถึงมีรูปลักษณ์ไปทางชาวคอเคเซี่ยน ?

    มีพระฉวีสีทอง มีพระฉวีเปล่งปลั่งดุจทองคำ ( Golden skin นี้เป็นสีผิวที่ชาวตะวันตกพูดถึงผิวของพวก ชาวตะวันตกที่มีผิวคลำแบบผิวแทน แบบพวกเม็กซิกัน เมดิเตอร์เรเนียน หรือคนคอเคเซี่ยนที่อยู่ทางซีกโลกใต้ ตลอดจนลูกผสมคนดำคนขาว มูแลตโต้ ถ้าดาราก็ผิวแบบเจนิเฟอร์ โลเปซ หรือดาราอินเดียก็ ไอรศวรรยา ไร แต่ถ้าพูดถึงชาวเอเชียตะวันออกฝรั่งจะใช้คำว่า ผิวขาวเหลือง

    เส้นผมกลมสลวยทุกเส้น : ผมกลมนั้น เป็นลักษณะผมหยักศกเป็นลอน


    กับ มีดวงพระเนตรแจ่มใสดุจตาลูกโคเพิ่งคลอด (ดวงตาโคนี้ เป็น idiom ที่รู้กันในหมู่ชาวตะวันตกพูดถึงดวงตากลมโต ลึก แบบ ดวงตาแบบพวกแขกอาหรับ อินเดีย อิหร่าน

    คิ้วใหญ่ดำดกสนิท

    จมูกโด่งคมสัน


    อยากให้ทุกคนลองไปหาอ่านหนังสือเล่มนี้ดู มีลำดับเวลาละเอียดทุกขั้นทุกตอนตลอดจนตลอด 45 พรรษา ของท่านว่าพระพุทธองค์อยู่ที่ไหน พำนักที่ใด และประวัติศาสตร์ของอินเดียและพระไตรปิฏกละเอียดยิบ


    ส่วนเมืองกบิลพัตรธุ์ นั้นไม่ได้หนาวเย็นตลอดนะคะ ดูจากรูปนี้จะเห็นได้ว่ามีภูมิประเทศเป็นหญ้ามีทะเลทรายผสมด้วย


    ลองอ่านกระทู้นี้ของวัดสามแยก ดูนะคะ

    http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=1462.0
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • small.jpg
      small.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.2 KB
      เปิดดู:
      190
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2011
  6. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ขอบพระคุณมากครับ คุณ whimsicle สำหรับข้อมูลความรู้ที่ดีมีประโยชน์

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผมเห็นด้วยกับพระมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ หรือลักษณะของพระมหาบุรุษ

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผมเห็นด้วยในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ไม่ได้มีเฉพาะแขกดำอย่างเดียว แขกขาวก็มีด้วย เช่นชาวอินเดียจากปัญจาบและทางเหนือ ตามที่คุณ whimsical ได้ให้ข้อมูลแสดงความคิดเห็น

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผมเห็นด้วย กับรูปภาพที่แนบมาในกระทู้ ทั้งรูปหญิง รูปชาย ที่มีลักษณะเป็นเผ่าพันธุ์เชื้อชาติเช่นเดียวกับบุคคลในสมัยพุทธกาล ไม่ว่าจะเป็นชาวมคธ โกศล สักกะ โกลิยะ มัลละ วัชชี เป็นต้น

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผมเห็นด้วยประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาอยู่ที่ประเทศอินเดีย

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธคำบอกกล่าว คำบอกเล่า ของพระอริยบุคคล(พระอรหันต์) และผมก็มีความเชื่อในคำบอกกล่าว คำบอกเล่า ของพระอริยบุคคล(พระอรหันต์) คือ หลวงปู่มั่น และหลวงพ่อฤษีลิงดำ

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .....จากรูปภาพ หญิง ชาย ที่คุณ whimsical แบบมาในกระทู้นั้น ก็มีคนไทยอยู่ไม่น้อยที่มีหน้าตาแบบนั้น และคิดว่าพอจะหาดูได้ แต่ถ้าพูดไปแล้วในคนไทยจำนวน 500 คนอาจจะมีสักหนึ่งคนที่มีหน้าตาเช่นนั้น เพราะการอพยพเคลื่อนย้ายเผ่าพันธุ์ของบุคคลในสมัยพุทธกาลมายังสุวรรณภูมิ ได้มีการผสมเผ่าพันธุ์กันระหว่างผู้อพพยและชาวพื้นเมืองเดิมในสุวรรณภูมิ ซึ่งในเวลานั้นก็มีหลายพวก แต่พวกที่มีลักษณะใกล้เคียงกับผู้อพพยก็คือชาวทวาราวดี จึงไม่น่าแปลกที่คนไทยในสมัยโบราณจะมีรูปร่างสูงใหญ่

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .....เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาของเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ของพระพุทธเจ้าในดินแดนสุวรรณภูมิ ก็คือชนเผ่ามองโกล คือ พวกชนเผ่ามองโกลจะมีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวคือ ดวงตาจะเล็กเรียว เพราะดวงตาต้องปรับตัวตามสภาพอากาศหนาวและมีหิมะปกคลุม ทั้งทุ่งหญ้า ทะเลทราย และสายลม ชาวเผ่ามองโกลนี้เองที่ได้มารุกรานชาวจีนฮั่นที่มีรูปร่างลักษณะใบหน้าคล้ายคลึงชาวไทย เมื่อชาวเผ่ามองโกลมารุกรานชาวจีนฮั่นแล้วก็ได้ผสมเชื่อชาติเผ่าพันธุ์กับชาวจีนฮั่น และก็มีชาวจีนฮั่นพันธุ์ผสมมองโกลได้อพยพถอยร่นลงมาทางตอนใต้ ทำให้มีการผสมพันธุ์กันกับเผ่าพันธุ์เชื้อชาติที่อพยพมาจากอินเดีย

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .....ถ้าจะไล่เลียงระยะเวลาการอพยพของเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ละก็ เดิมทีคนไทยก็มีอยู่แล้วในดินแดนสุวรรณภูมินี้ ศูนย์กลางก็คือพม่า ไทย ลาว และก็อยู่กระจัดกระจายกัน พระศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า ในขณะที่ยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์นั้น ก็ถือกำเนิดและสร้างบารมีในดินแดนสุวรรณภูมินี้ ในสมัยนั้นเขายังไม่เรียกว่าเป็นคนไทย ครั้นกาลเวลาผ่านมา คือในสมัยก่อนพุทธกาลหลายร้อยปี คนพวกนี้ได้รวมเป็นกลุ่มก้อนกระจุกอยู่บริเวณทางตอนใต้ของจีน ต่อมาถูกรุกรานก็ได้ถอยร่นไปอินเดีย พม่า และไทย ที่เรียกว่าไทยใหญ่ ไทยน้อย ไทยอาหม พวกที่ไปอินเดียก็มีความเจริญก้าวหน้า แบ่งเป็นแว่นแคว้นน้อยใหญ่ เช่น มคธ โกศล สักกะ โกลิยะ มัลละ วัชชี เป็นต้น พวกที่มาไทยก็มีความเจริญก้าวหน้าแต่ยังด้อยกว่าพวกที่ไปอินเดีย ได้แก่ ชาวทวาราวดี สำหรับพม่านั้นมีอาณาเขตติดต่อกับอินเดียพม่าเป็นส่วนหนึ่งในแว่นแคว้นของอินเดีย ได้แก่แคว้นวัชชี อังคะ

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .....ต่อมาในสมัยหลังพุทธกาลพวกที่ไปอินเดียถูกรุกราน ก็อพยพยมายังสุวรรณภูมิ พม่า ไทย ลาว และกระจัดกระจายออกไปทั่วภูมิภาค บางพวกก็อพยพไปตั้งบ้านเรือนอยู่ทางตอนใต้ของจีน ก็ไปเจอคนไทยด้วยกันที่เป็นชาวพื้นเมืองทางตอนใต้ของจีน ก็ได้ผสมเผ่าพันธุ์กัน และกลืนกินวัฒนธรรมไปบ้างก็มี บางพวกก็อพยพมาสร้างบ้านเรือนอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศไทย เกิดเป็นอาณาจักรโยนก บางพวกก็อพยพมาสร้างบ้านเรือนอยู่บริเวณภาคอิสานของประเทศไทย เกิดเป็นอาณาจักรโคตรบูรณ์ บางพวกก็ลงไปทางตอนใต้ที่มีอาณาจักรทวาราวดีเดิมอยู่แล้ว

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .....และอาณาจักรที่มีความโดนเด่น มีการสืบต่อในการสร้างชาติสร้างอาณาจักร ก็คือ อาณาจักรโยนก หรืออาณาจักรโยนกนาคนคร หรืออาณาจักรโยนกหรือยาง จะเรียกอย่างไรก็ได้ ซึ่งเป็นผู้สืบต่อให้เกิดอาณาจักรสุโขทัย โดยสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าสิงหนวัติ

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .....สำหรับพวกที่อพยพไปอยู่ทางตอนใต้ของจีน ก็ไปสร้างอาณาจักรน่านเจ้า ซึ่งก็ได้ทำสงครามสู้รบอยู่กับจีน ต่อมาอาณาจักรน่านเจ้าถูกพวกมองโกลรุกราน รวมทั้งมีชาวจีนฮั่นหนีภัยพวกมองโกลได้อพยพลงมาทางตอนใต้ด้วย ทั้งหมดก็ได้อพยพถอยร่นลงมาทางตอนใต้อีก ก็มาเจอพวกคนไทยด้วยกันที่อยู่ในอาณาจักรโยนก ต่อมาก็ได้ร่วมกันสร้างเป็นอาณาจักรล้านนา และอาณาจักรล้านช้าง

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .....ถ้าจะว่าไปแล้วจุดกำเนิดเชื้อชาติเผ่าพันธ์ที่เป็นอริยวงศ์ อริยวาส เป็นสายบารมี ในการสร้างบารมี ก็คือดินแดนสุวรรณภูมิ และดินแดนสุวรรณภูมินี้แท้จริงคือศูนย์กลางของชมพูทวีป พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้แก่ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า พระศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า ในขณะที่ยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์นั้น ก็ได้มาเกิดและสร้างบารมีในดินแดนสุวรรณภูมินี้ รวมทั้งพระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตตรัย ก็ได้มาเกิดและสร้างบารมีในดินแดนสุวรรณภูมินี้เช่นกัน ดังนั้น ชาวศากยวงศ์ หรือชาวกบิลพัสดุ์ ก็มีเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ต้นกำเนิดมาจากสุวรรณภูมิ แต่ได้อพยพเคลื่อนย้ายเผ่าพันธุ์ไปยังอินเดียในยุคก่อนพุทธกาล และเมื่อถูกรุกรานก็ได้อพยพเคลื่อนย้ายเผ่าพันธุ์กลับมายังสุวรรณภูมิในภายหลังพุทธกาล และมีบางส่วนหนีมาไม่ทันก็ได้ผสมเผ่าพันธุ์กับผู้รุกราน

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .....ในสมัยพุทธกาลและก่อนพุทธกาลนั้นชมพูทวีป เป็นพื้นดินติดเป็นแผ่นผืนเดียวกันสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยมีสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลาง ประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ ไม่ได้แยกออกเป็นเกาะน้อยใหญ่ดังเช่นปัจจุบัน คือจะเป็นผืนแผ่นดินติดกันกับสุวรรณภูมิ และอ่าวเบงกอลในสมัยนั้นไม่ได้กว้างขวางใหญ่โตและกินพื้นที่ลึกเข้าไปในประเทศอินเดียและประเทศพม่าดังเช่นปัจจุบันนี้ คือในสมัยนั้นจะมีผืนแผ่นดินที่สามารถเดินทางด้วยเท้าเป็นเส้นตรงจากประเทศอินเดียมายังประเทศไทย ไม่ต้องเดินอ้อมผ่านประเทศพม่าหรือลาว (ซึ่งต้องรอการค้นคว้าและพิสูจน์ทางธรณีวิทยาต่อไป)

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สรุป
    <O:p</O:p
    1. พระพุทธศาสนาเกิดในประเทศอินเดีย ประวัติพระพุทธศาสนาอยู่ในประเทศอินเดีย

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2. พระพุทธเจ้ามาปรินิพพานในประเทศไทย ที่พระแท่นดงรัง ในจังหวัดกาญจนบุรี และโทณพราหมณ์ได้สถาปนาก่อสร้างพระประโทณเจดีย์ขึ้นเพื่อเก็บรักษาทะนานทองคำที่ใช้ตวงพระบรมสารีริกธาตุ ในจังหวัดนครปฐม

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    3. เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ของพระพุทธเจ้าได้อพยพมายังสุวรรณภูมิ เมื่อครั้งถูกโจมตีจากผู้รุกราน และได้ผสมเผ่าพันธุ์กับชาวพื้นเมืองเดิม และมีเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ของพระพุทธเจ้าบางส่วนหนีมาไม่ทันก็ได้ผสมเผ่าพันธุ์กับผู้รุกราน

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    4. ความรู้ด้วยตาเนื้อจากการดู การเห็น การมอง แล้วอุปมาน นึกเอง เห็นเอง ของพวกฝรั่ง หรือชาวต่างชาติ แล้วเขียนเป็นประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องราว ให้คนเชื่อถือและยอมรับ ย่อมมีความผิดพลาด คลาดเคลื่อนบ้างเป็นธรรมดา

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    5. ความรู้ด้วยตาใน ด้วยคุณวิเศษของพระอรหันต์ที่ได้อภิญญาล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีต ย่อมเป็นความรู้แท้จริงไม่คลาดเคลื่อน และพระอรหันต์ที่เล่าเรื่องนี้ ส่วนมากเป็นพระอรหันต์ที่ลาพุทธภูมิ และก็มีพระอรหันต์จำนวนมากที่ไม่สนับสนุนให้คิดในประเด็นเรื่องนี้ เพราะจะทำให้จิตฟุ้ง เกิดความลังเลสงสัย กำลังใจตก ศรัทธาสั่นคลอน ไม่เป็นอันปฏิบัติธรรม

    6. ที่เขียนมาทั้งหมดไม่ได้ให้เชื่อ

    7. ที่สำคัญที่สุด พวกที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด หรือพวกปัญญาน้อย พอมีคนบอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทยเท่านั้นแหล่ะ แกก็เหมาเอาเลยว่าพระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ในประเทศไทย ความคิดเช่นนี้ถือว่าเป็นอันตรายมาก

    8. พระพุทธเจ้าผู้เป็นสัพพัญญูย่อมรู้ว่าประเทศอินเดียไปสามารถรองรับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปได้ถึง 5000 ปี ทรงเล็งเห็นด้วยญาณว่าในดินแดนสุวรรณภูมินี้สามารถรองรับศาสนาตถาคตได้ถึง 5000 ปี พระองค์จึงทรงกำหนดอาณาเขตด้วยการประทับรอยพระพุทธบาทไว้ทั่วในดินแดนสุวรรณภูมิโดยเฉพาะประเทศไทย

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    9. พวกเราทั้งหลายก็คือเผ่าพันธุ์เดียวกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น พม่า ไทย ลาว ญวณ มอญ เขมร และจีนที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พระพุทธเจ้า เป็นคนไทย (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)<!-- google_ad_section_end --> ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ<O:p</O:p
    http://palungjit.org/f23/พระพุทธเจ้า-เป็นคนไทย-หลวงพ่อฤาษี-วัดท่าซุง-156008.html

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พระพุทธเจ้าปรินิพพานในประเทศไทย ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ<O:p</O:p
    http://www.danpranipparn.com/web/article.php?sid=193<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2011
  7. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909
    คุณ whimsicle และ คุณ Sirius Galaxy ท่านทั้งสอง"งามสง่าด้วยกันทั้งคู่"

    มีความสุภาพอ่อนน้อม......อ่านกระทู้ของท่านทั้งสองแล้ว"สุขใจ" ที่เห็นภาพ

    โต้แย้งกันด้วยความงดงามครับ.
     
  8. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +36
    เคยได้ยินที่อาจารย์ซึ่งสอนนั่งวิปัสสนาจากสายหลวงพ่อฤษีลิงดำเล่าให้ฟังอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้เล่าละเอียดนัก ท่านเล่าให้ฟังเหมือนกันคะว่าพระพุทธเจ้าเป็นชาวไทย อาหม ไทยอาหมนี้ก็มีให้เห็นอยู่ตามรัฐ อัสสัม ในเมืองกะลา หรือบังกลาเทศ ชาวอัสสัมเหล่านี้ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นไทยคะแต่ หน้าตาจะเหมือนแขกเสียส่วนใหญ่ และวัฒนธรรมก็ใกล้เคียงกับคนไทยด้วย

    เท่าที่เคยเห็นมา ชาวไทยกลุ่มที่ดูคล้ายกับชาวปัญจาบมากที่สุด น่าจะเป็นพวกชาวมอญนะคะ คือพวกชาวมอญรุ่นก่อนๆถ้าเราไปแถวราชบุรีหรือเมืองกาญ มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่หน้าตาคล้ายแขกผสมคนเอเชียทั้งที่ก็นับถือศาสนาพุทธ รูปร่างที่ดูคล้ายต้นตระกูลชาวอริยะกะโบราณนั้นก็มีมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละตระกูล เหมือนกับที่คนไทยบางคนมีเชื่อจีนก็จะเหมือนจีน ในขณะคนไทยแท้ก็จะหน้าตาคมกว่า

    นำภาพชาวไทยอาหมในรัฐอัสสัมมาให้ดูกันคะ



    http://www.assamtribune.com/feb0109/Photo2.jpg

    http://static.jeevansathi.com/seo_pg_img/assamese-matrimonials.jpg

    Tai Ahom in Assam Pradesh | Flickr - Photo Sharing!

    http://www.ahomroundtable2.com/ahom__2.jpg

    อันนี้ภาพสาวชาวมอญ ในรัฐมอญทางตะวันตกเฉียงใต้ของพม่า

    Aye Myat Thu | Flickr - Photo Sharing!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2011
  9. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ชาวไทยน้อยก็ดี ชาวไทยใหญ่ก็ดี ชาวไทยอาหมก็ดี ก็ล้วนเป็นเชื้อชาติเผ่าพันธุ์เดียวกัน

    มีรูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกัน

    ขอยกตัวอย่างพระภิกษุสงฆ์วัดบวรฯ กรุงเทพฯ ที่สืบเชื้อสายมาจากพระอานนท์ เชื้อสายศากยวงศ์ ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ
    http://palungjit.org/threads/พระดร-อนิลมาน-ผู้มีเชื้อสายศากยวงศ์.284792/
    พิจารณาดูแล้วเหมือนคนไทย แต่เวลาผ่านมา 2000 กว่าปี อาจเป็นเลือดผสม
     
  10. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +36
    ยอมรับคะว่าท่าน อนิลมาน มีเชื้อสายศากยวงค์ เพราะเวลาก็ผ่านไปเกือบสามพันปี นานมากๆเลย ไม่แปลกที่ท่านอนิลมานซึ่งเป็นเชื้อสายของศากยะวงค์จากพระอานนท์ซึ่งสืบทอดมาทางชาว มองโกลในเนปาล จะมีลักษณะคล้ายไปทางชาวเอเชียมากกว่าต้นตระกูลของท่าน แต่จากรูปหน้าของท่านก็ยังมีเค้าความเหมือนชาวอริยะกะอยู่ แต่ที่ติดใจอยู่นั้นคือ เรื่องที่ไม่ตรงกันระหว่างข้อมูลของทางเมืองไทยกับที่อินเดีย คือเราก็มีเพื่อนซึ่งเป็นคนอินเดียที่นับถือทั้งพุทธและฮินดู เป็นคนปัญจาบคะ เค้าให้ข้อมูลมาว่าพระพุทธองค์เป็นชาว
    อินโด-อารยัน อีกทั้งบอกอีกว่า มีการบันทึกด้วยว่า ชาวกรีกบอกว่า คำว่า ศากยะ นั้นเป็นคำมีความหมายในภาษาเปอร์เซีย โบราณว่า ซาก้า หรือ หมาย ชาวไซเทีย (Scythians) ซึ่งเดินทางมาจากตอนเหนือของอิหร่าน เป็นบรรพบุรุษของชาวยุโรปปัจจุบันไม่ใช่บรรพบุรุษของชาวเอเซีย

    เฮโรโดตัส นักปราชญ์ ได้ บันทึกเรื่องชาวศากยะเอาไว้ด้วย

    ราชวงค์ เมารยัญของพระปิตุลาของพระเจ้าอโศกมหาราชนั้นเป็นญาติกันกับราชวงค์ศากยะ

    จากซากเมืองโบราณของพระเจ้าอโศก นักโบราณคดีพบว่ามีรูปปั้นและสถาปัตยกรรมแบบกรีก อย่างเช่นหัวสิงค์โต บนเสา แบบโรมัน




    อีกทั้งนักโบราณคดียังได้ค้นพบอนุสาวรีย์รูปปั้นของพระพุทธเจ้าแบบ กรีก ในบริเวณ เมือง กันดาราในประเทศอัฟกานีสถาน

    ตามรูปนี้คะ

    http://1.bp.blogspot.com/-xHLmQbDgRIE/TWvQAl_hcpI/AAAAAAAAAic/i-f-FzBG-_I/s1600/la-1123pin07-300x193%2B%25281%2529.jpg


    ข้อแก้ไขเพิ่มเติม

    หลักฐานต่างๆที่นำมาแสดงให้เห็นนี้ไม่ใช่จะเฉพาะจากของที่ทางอินเดีย หรือนักโบราณคดีฝรั่งอย่างเดียว แม้กระทั้งจากจดหมายเหตุของจีนโบราณก็สนับสนุนเรื่องพงศาวดารของพระพุทธองค์ไปในทางเดียวกันกับของอินเดียอะคะ

    เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ยากจะรู้ได้เพราะไม่มีคนจากยุคนั้นอยู่มาจนถึงสมัยนี้ ดังนั้นประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่จึงใช้ข้อมูลที่ปรากฏจากหลักฐานต่างๆทางโบราณคดี ในความเห็นของเราคิดว่าต่อให้พระพุทธองค์เป็นคนไทยหรือแขกอินเดีย หรือ ฝรั่ง ก็ไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับสิ่งที่พระองค์สั่งสอน แต่สำหรับคนรุ่นต่อๆไปเรื่องก็สำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะหากข้อมูลที่คนรุ่นหลังได้รับนั้นมีความผิดพลาดไปจากความจริง เชื่อว่าพระพุทธองค์ท่านคงไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นแน่ หรืออย่างน้อยก็เพื้อเป็นการให้เกียรติแก่เชื้อชาติและตระกูลของพระพุทธองค์ ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องตีแผ่ความถูกต้องเกี่ยวกับพงศาวาลของพระองค์คะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2011
  11. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +36
    ยอมรับคะว่าท่าน อนิลมาน มีเชื้อสายศากยวงค์ เพราะเวลาก็ผ่านไปเกือบสามพันปี นานมากๆเลย ไม่แปลกที่ท่านอนิลมานซึ่งเป็นเชื้อสายของศากยะวงค์จากพระอานนท์ซึ่งสืบทอดมาทางชาว มองโกลในเนปาล จะมีลักษณะคล้ายไปทางชาวเอเชียมากกว่าต้นตระกูลของท่าน แต่จากรูปหน้าของท่านก็ยังมีเค้าความเหมือนชาวอริยะกะอยู่ แต่ที่ติดใจอยู่นั้นคือ เรื่องที่ไม่ตรงกันระหว่างข้อมูลของทางเมืองไทยกับที่อินเดีย คือเราก็มีเพื่อนซึ่งเป็นคนอินเดียที่นับถือทั้งพุทธและฮินดู เป็นคนปัญจาบคะ เค้าให้ข้อมูลมาว่าพระพุทธองค์เป็นชาว
    อินโด-อารยัน อีกทั้งบอกอีกว่า มีการบันทึกด้วยว่า ชาวกรีกบอกว่า คำว่า ศากยะ นั้นเป็นคำมีความหมายในภาษาเปอร์เซีย โบราณว่า ซาก้า หรือ หมาย ชาวไซเทีย (Scythians)


    ความหมายของคำว่า ไซเทีย หรือ ซาก้า นั้น เป็นภาษาเปอร์เซียโบราณของชาวอารยัญ แปลว่า งู ในอินเดียปัจจุบัน ใช้คำว่า นาค หรือใน ภาษาอังกฤษ แปลว่า snake หมายถึงผู้ที่บูชา บวงสวง งู


    เราจะเห็นได้ว่าคำภาษา บาลี และภาษาสันสกฤตโบราณก่อนที่อังกฤษจะเข้ามายึดอินเดียนั้นกลับมีความหมายที่คล้ายกันกับภาษาอังกฤษหรือ ภาษาทางยุโรปมาก

    ยกตัวอย่างเช่น Star : ดาว ในภาษาภาษาสันสกฤตคือ ดารา

    Civilize : เจริญ ในอินเดียภาษาสันสกฤตคือ ศิวิลัย,

    Water : น้ำ หรือ ในอินเดียภาษาสันสกฤต วารี

    Mother : แม่ ในภาษาอังกฤษ

    Moeder : มูด้า แม่ภาษาดัชต์

    Manda : มารดา แม่ภาษาสันสกฤต

    ดังนั้นเราจะเห็นได้ชัดว่าชาวศากยวงค์นั้นเป็นชาว อินโดขอารยัน
    ซึ่งเดินทางมาจากตอนเหนือของอิหร่าน เป็นบรรพบุรุษของชาวยุโรปปัจจุบันไม่ใช่บรรพบุรุษของชาวเอเซีย

    เฮโรโดตัส นักปราชญ์ ได้ บันทึกเรื่องชาวศากยะเอาไว้ด้วย

    ราชวงค์ เมารยัญของพระปิตุลาของพระเจ้าอโศกมหาราชนั้นเป็นญาติกันกับราชวงค์ศากยะ

    จากซากเมืองโบราณของพระเจ้าอโศก นักโบราณคดีพบว่ามีรูปปั้นและสถาปัตยกรรมแบบกรีก อย่างเช่นหัวสิงค์โต บนเสา แบบโรมัน




    อีกทั้งนักโบราณคดียังได้ค้นพบอนุสาวรีย์รูปปั้นของพระพุทธเจ้าแบบ กรีก ในบริเวณ เมือง กันดาราในประเทศอัฟกานีสถาน

    ตามรูปนี้คะ

    http://1.bp.blogspot.com/-xHLmQbDgR...zBG-_I/s1600/la-1123pin07-300x193+%281%29.jpg

    เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ยากจะรู้ได้เพราะไม่มีคนจากยุคนั้นอยู่มาจนถึงสมัยนี้ ดังนั้นประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่จึงใช้ข้อมูลที่ปรากฏจากหลักฐานต่างๆทางโบราณคดี ในความเห็นของเราคิดว่าต่อให้พระพุทธองค์เป็นคนไทยหรือแขกอินเดีย หรือ ฝรั่ง ก็ไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับสิ่งที่พระองค์สั่งสอน แต่สำหรับคนรุ่นต่อๆไปเรื่องก็สำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะหากข้อมูลที่คนรุ่นหลังได้รับนั้นมีความผิดพลาดไปจากความจริง เชื่อว่าพระพุทธองค์ท่านคงไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นแน่ หรืออย่างน้อยก็เพื้อเป็นการให้เกียรติแก่เชื้อชาติและตระกูลของพระพุทธองค์ ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องตีแผ่ความถูกต้องเกี่ยวกับพงศาวาลของพระองค์คะ
     
  12. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    ขอบคุณคุณSolotel ที่นำWebsiteมาเผยแพร่ครับ แม้ว่าความจริงไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าพระพุทธเจ้าท่านจะเป็นไทยหรือไม่ เน้นให้เราเป็นคนดีก็พอ

    ความสุขคือการแบ่งปันความรักให้กับทุกผู้คน เปรียบเขาดั่งเราแล้วไซร้ย่อมมีความสุขกว่าใส่ใจในความอยากของตน
     
  13. Sirimaneekorn

    Sirimaneekorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +185
    เคยไปอ่านเรื่องพระพุทธเจ้าคือคนไทย มาจากวัดป่าสุทธาวาส สกลนครเหมือนกันค่ะ (วัดที่หลวงปู่มั่นละสังขาร)
    เค้าทำเป็นบอร์ดใหญ่ๆตั้งไว้เลย ซึ่งอ่านเนื้อหาจากบอร์ดที่วัดสุทธาวาสแล้วสรุปว่า เมื่อก่อนคนไทยเคยตั้งถิ่นฐานที่อินเดียมาก่อน แต่ถูกพวกแขกมุสลิมรุกรานไล่ตี จึงถอยร่นมายังประเทศไทย ณ ปัจจุบัน
    ส่วนอนาถปิณฑิกะเศรษฐี กับนางวิสาขาคือชนพม่า
    ไทยคือชาวเมืองราชคฤห์
     
  14. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512



    ...............

    ดีคับ
     
  15. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    แต่เดิมฝรั่งมันสอนว่าไทยอพยพมาจากมองโกล แต่พอเจอหลักฐานจากการขุดพบอารยะธรรมโบราณหลายๆยุค ไล่ไปจนถึงยุคหิน ประวัติศาสตร์ชาติไทยก็เปลี่ยนไป

    แต่ก่อนไม่มีประเทศไทย แต่ดินแดนอณาจักรสุวรรณภูมิเก่าแก่ และกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก
    ประวัติศาสตร์ จะเปลี่ยนแปลงตามการค้นพบหลักฐานใหม่ๆ เสมอ

    ค่อยๆเรียนกันไป :d
     
  16. นาคะวงศ์

    นาคะวงศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +166
    สงสัยจังครับ(สงสัยมานานแล้ว)ทำไมพระอรหันต์ในยุคนี้ถึงได้เป็นคนอิสานโดยส่วนมาก(โดยเฉพาะสายหลวงปู่มั่น)ผท่านผู้รู้ช่วยตอบที
     
  17. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +36

    ศาสตร์แบบนี้แตพุทธกาล และ ก่อนพุทธกาลแล้ว บังเอิญที่พวกเราชาวไทยเสพเฉพาะข่าวไทย หากลองศึกษาเรื่องการนั่งสมาธิถอดจิตจะพบว่าเรื่องแบบนี้มีปรากฏอยู่ทั่วโลกแม้กระทั้งในยุโรปก็มีเช่นกัน แต่ที่พระสงฆ์ทางภาคอีสานเรื่องชื่อด้านกรรมฐานมากกว่าที่อื่น ก็ต้องมาดูกันที่ประวัติศาสตร์ด้านการเผยแพร่พระพุทธศาสนาและฮินดูในภูมิภาคอารคเนย์นี้นั้น มาทางเรือดังนั้น จะต้องผ่านทางเขมรและลาวก่อน ศาสนาฮินดูนั้นมาก่อนดั่งจะเห็นจาก ซากเมือง อักกอร และ นครวัดนครธม แล้วระลอกที่ ๒ มาทางพม่า ในสมัยนั้นไทยเป็นอาณาจักรหนึ่งของอาณาจักรสุวรรณภูมิ สุวรรณภูมิ มีขอบเขตกว้างขวาง มีประเทศรวมกันอยู่ในดินแดนส่วนนี้ทั้ง 7 ประเทศในปัจจุบัน ได้แก่ ไทย พม่า ศรีลังกา ญวน กัมพูชา ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซี ซึ่งสุวรรณภูมิ เป็นอาณาจักรภายใต้การปกครองของอินเดีย (คนไทยแท้ๆจะหน้าคล้ายอินเดียมากแต่ยุคปัจจุนจะผสมจีนไปซะเยอะ แต่หากลงไปทางสุพรรณ ฯ หรือทางใต้ที่ยังไทยแท้ๆอยู่ จะคล้ายชาวอินเดียใต้อย่างศรีลังกาจนแยกไม่ออก) และครั้นเมื่อพระพุทธศาสนาและศาสนาฮินดูเข้ามา ก็ผสมผสานเข้ากับความเชื่อดั่งเดิมเรื่องผีสาง ทำให้ปัจจุบันนี้ถ้าพูดถึงไสยศาสตร์ เรื่องลี้ลับ ตลอดจนพระสงฆ์ที่มีฌาน,สมาบัติ สูงมักจะปรกฏให้เห็นทางลาว อีสาน และเขมรเสียส่วนใหญ่ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีชนจากประเทศอื่นหรือแม้กะทั้งศาสนาอื่น ที่ไม่มีความสามารถด้านสมาธิดังเช่นที่ พุทธเจ้าได้กล่าวถึงปัจเจกพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ได้โดยที่ไม่ได้นำความรู้นั้นไปเผยแพร่แก่ผู้อื่น ยกตัวอย่างโยคีมากมายที่อินเดีย ท่านทั้งอดอาหาร ทานแต่มังสวิรัต อยู่แต่ในวิหารและสวดมนต์กับทำสมาธิตลอดเวลา อาจจะมีบางท่านเป็นพระอรหันต์ไปแล้วเพียงแต่เราไม่รู้เท่านันเอง

    อย่างที่ดังๆในต่างประเทศก็มีอยู่หลายท่าน อย่างที่อินเดียนี้ก็เยอะมาก นอกจากนั้นหลายตั้งนิกายของตัวเอง และไแเผยแพร่ที่ต่างประเทศก็มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2011
  18. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    แน่ใจเหรอครับ ที่พระอรหันต์ที่พูดๆกันหน่ะ ได้เป็นพระอรหันต์จริงๆ ไม่ใช่อวยกันเองเหรอ ไม่ใช่ดูถูกนะครับ แต่ดูจริงๆ ไม่มีใครถึงเลย โดยเฉพาะพระหลังๆมาเนี้ย มีลูกศิษย์ลูกหาคอยอวย เพื่อหากินกับชื่อเสียงพระทั้งนั้นเลย แล้วพระพวกนี้จะเป็นพวกอรหันต์ได้ไง เพราะไม่สามารถอบรมลูกศิษย์ไม่ให้หากินในการมอมเมาด้วยความเชื่อ
     
  19. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    เหมือน ขนมโมจิ นครสวรรค์ สินะครับ
     
  20. JolieAcidus

    JolieAcidus สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +20
    จะสรุปออกมายังไง คนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ^^ เพราะเรามีพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...