ข้อความจากต่างมิติ - การเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสารใน DNA, ผี-คือข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 8 มีนาคม 2011.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความนี้ผมก็แปลมาอีกเช่นเคยครับ และเพราะเห็นว่าน่าสนใจดี ก็เลยแบ่งปันมา ให้ท่านได้อ่านด้วยเท่านั้นแหละครับ

    เชื่อ-ไม่เชื่อ ได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์อย่างไร
    ก็สุดแท้แต่ท่านเองนะครับ ใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะครับ...

    ปล. เนื้อหาของกระทู้นี้จะเกี่ยวข้อง และ/หรือ ต่อเนื่องกับกระทู้เหล่านี้นะครับ


    ข้อความจากต่างมิติ-การท่องกาลเวลา-การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8...B2.266549/

    ข้อความจากต่างมิติ-ระบบบันทึกแห่งฟ้า-the-akashic-system-โดยครายออน
    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-ระบบบันทึกแห่งฟ้า-akashic-system-โดยครายออน.284651/

    ข้อความจากต่างมิติ-ประวัติมนุษยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon
    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-ประวัติมนุษยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon.276395/

    ข้อความจากต่างมิติ-การออกแบบมนุษย์-ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน
    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-การออกแบบมนุษย์-ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน.282051/

    การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม-dna-ด้วยคลื่นเสียง
    http://palungjit.org/threads/การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม-dna-ด้วยคลื่นเสียง.255677/

    ผลงานวิจัยจากรัซเซีย-ใช้เสียงเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมใน-dna-ได้-2
    http://palungjit.org/threads/ผลงานวิจัยจากรัซเซีย-ใช้เสียงเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมใน-dna-ได้-2-a.255487/

    .....................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2021
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia
    ผู้แปล: น่าจะเป็นคุณ Kindred เรียบเรียงโดย Chayutt


    ที่มา: www.kryon.com (Energetic Consciousness > Kryon)

    ตอนที่ 1:

    สวัสดีที่รักทั้งหลาย ฉันคือครายออนแห่งหน่วยบริการแม่เหล็ก ลูกตุ้มแห่งความเป็นจริงได้แกว่งมาถึงมุมของฉันอีกครั้งหนึ่งแล้ว และที่นี่ก็มีคนที่ไม่เชื่ออยู่ด้วย

    ในกลุ่มของผู้ที่มีจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย มันก็มักจะเป็นแบบนี้แหละ
    พวกเขาบอกว่ามันง่ายเกินไป ง่ายมากๆที่จะกุเรื่องโกหกขึ้นมา (แล้วแสร้งว่าเป็นการสื่อสารทางโทรจิตจากต่างมิติ – ผู้แปล) ดังนั้นฉันจึงขอบอกเรื่องนี้กับพวกคุณก่อน ก่อนที่พวกคุณจะเริ่มเข้าสู่ประเด็นสนทนา

    มันมีแต่ความรักเท่านั้น นั่นแหละคือสิ่งที่มันเป็น มันได้เป็นเช่นนั้นมาตลอด และก็จะเป็นแบบนั้นตลอดไปด้วย มันไม่ใช่ความรักในแบบที่คุณคิด เพราะว่ามันมีพลังอย่างหนึ่งในจักรวาล ที่แม้แต่นักดาราศาสตร์ของพวกคุณก็ยังรู้และเห็นและตรวจจับมันได้เลย พวกเขาเรียกมันว่า “การออกแบบอย่างชาญลาด” (Intelligent Design)

    พวกเขาคิดถูก เพราะว่าตัวจักรวาลเองมีความลำเอียงอยู่ มันมีความลำเอียงในแง่ของการสร้างชีวิต มันมีความลำเอียงในความรัก มันมีเป้าประสงค์ในการสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างมีสติสัมปชัญญะ ซึ่งนักดาราศาสตร์, นักวิทยาศาสตร์, และนักฟิสิกส์ทั้งหลายของพวกคุณต้องการที่จะเห็นความเป็นกลางที่สมบูรณ์แบบในทุกสิ่งทุกอย่าง แต่พวกเขาก็หาไม่พบ

    มันเป็นเรื่องที่น่าตลก ที่พวกคุณเอาความคิดของตัวเองเกี่ยวกับ
    “ตรรกแห่งกระบวนการทางวิทยาศาสตร์” (The Logic of the Scientific Method) ไปใช้กับสิ่งที่พวกคุณคาดหมายว่า จะได้เห็นในจักรวาล และเมื่อพวกคุณไม่ได้ผลลัพธ์แบบนั้น จากการศึกษาจักรวาลแล้ว พวกคุณก็ไม่เคยสงสัยเลยว่า “กระบวนการทางวิทยาศาสตร์” ของพวกคุณที่ว่านั้น มันไม่ถูกต้อง! แต่พวกคุณกลับไปสงสัยข้อมูลที่ได้มาแทน! มันเป็นเรื่องตลกสำหรับพวกเรามาก

    ฉันอยากจะกล่าวถึงสิ่งที่พวกคุณกำลังค้นพบอยู่สักหน่อย และรวมถึงสิ่งที่พวกคุณได้เห็นแล้ว
    แต่ยังอธิบายไม่ได้ถูกต้องนักด้วย พลังอำนาจที่กำลังจะเริ่มกลายมาเป็นของพวกคุณนั้น มันจะต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานที่อยู่รอบๆตัวคุณเองซะก่อน และพวกคุณก็ไม่เคยพิสูจน์ได้อย่างถูกต้องมาก่อนเลย

    พวกคุณอยากจะเห็นหลายสิ่งหลายอย่าง ว่าเป็นพลังงาน เมื่อพวกมันมี ”ข้อมูลข่าวสารที่มีพลังงาน“ ที่เฉพาะเจาะจงอยู่
    ดังนั้น เรื่องนี้คือเรื่องแรกที่การสื่อสารทางโทรจิตระหว่างมิติชุดนี้จะกล่าวถึงเป็นอันดับแรก ซึ่งมันอาจจะใช้เวลานานในการสื่อสารแต่ละครั้ง และจะค่อยๆทะยอยสื่อสารมาเรื่อยๆเป็นระยะๆ เพื่อที่จะอธิบายถึงหลักการณ์ของมัน ที่พวกคุณเข้าใจผิดกันมาตลอด และที่พวกคุณหาคำอธิบายไม่ได้เลย ให้พวกคุณได้เข้าใจมากขึ้น

    a.gif
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    มันมีช่องว่างขนาดมหึมา ที่อยู่ระหว่างนิวเคลียสของอะตอม กับกลุ่มอิเล็กตรอนในอะตอมนั้นๆ ถ้าพวกคุณสามารถเข้าไปดูจุดที่เล็กที่สุดของเล็กที่สุดนั้นกับเราได้ พวกคุณก็จะเห็นว่ามันมีช่องว่างขนาดมโหฬารอยู่ในนั้นจริงๆ มันมีขนาดใหญ่จนน่าฉงนเลยทีเดียว

    นักฟิสิกส์อาจจะบอกพวกคุณว่า องค์ประกอบส่วนใหญ่ของทุกสิ่งทุกอย่าง คือ “ความว่างเปล่า” แต่ในขณะเดียวกัน “มวล” ส่วนใหญ่ของสสารก็มาจาก “ความว่างเปล่า” ลึกลับในอะตอมที่ว่านี้แหละ

    ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าวิทยาศาสตร์ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ “ในที่มืด” ได้เท่านั้นเอง


    ต่อไปนี้คือข้อความที่พวกเราจะใช้ เพื่ออธิบายให้พวกคุณที่อยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้ แต่กำลังพยายามพิสูจน์สิ่งที่อยู่ใน “โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ” ได้เข้าใจ ซึ่งในความเป็นจริงหลากมิตินั้น มันก็คือ:

    ระหว่างนิวเคลียสกับกลุ่มของอิเล็กตรอน ที่ดูเหมือนว่ามันไม่มีอะไรนั้น แท้ที่จริงแล้ว มันเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารทางพลังงาน ที่วิทยาศาสตร์ของพวกคุณเรียกว่า “การออกแบบอย่างชาญฉลาด” นั่นแหละ

    มันยากที่จะอธิบาย โดยเฉพาะเรื่องที่ว่ามันปรากฎออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณได้อย่างไร
    แต่มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ดังนั้น เดี๋ยวฉันจะเริ่มไปอย่างช้าๆและง่ายๆกันต่อ

    .......................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • fog.gif
      fog.gif
      ขนาดไฟล์:
      70.8 KB
      เปิดดู:
      2,848
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2021
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 2: นี่คือดอกกุหลาบ

    เพื่อนๆทั้งหลาย นี่คือดอกกุหลาบ ที่เอามาให้พวกคุณจินตนาการและตรวจพิสูจน์ มันเป็นดอกกุหลาบสีแดงที่สวยมาก แต่บางทีพวกคุณอาจจะไม่ชอบมันก็ได้ เพราะว่าพวกคุณอาจจะไม่ชอบหนามของมัน หรือบางทีพวกคุณอาจจะไม่ชอบสีของมัน หรือบางทีไม่ชอบแม้แต่ดอกกุหลาบเลยด้วยซ้ำไป

    ดังนั้นพวกคุณจึงอาจจะบอกกับตัวเองว่า “ฉันจะชอบมันมากกว่านี้ถ้ามันเป็นดอกเดซี่แทน” แต่นี่มันเป็นดอกกุหลาบ ดังนั้นพวกคุณก็อาจจะแค่ยักไหล่แล้วพูดว่า “ในโลกแห่งความเป็นจริงของฉัน ก็คือฉันมีดอกกุหลาบสีแดงที่มีหนามอยู่” ตอนนี้

    ในความคิดของผู้ที่อยู่ในมิติพื้นๆ มิติเล็กๆ ซึ่งก็คือมิติที่ 3 แห่งนี้ สิ่งต่างๆมันจึงดูเหมือนว่า “คงที่”
    และ “เปลี่ยนแปลงไม่ได้” สิ่งต่างๆมันเป็นอย่างที่มันเป็นอยู่ มันจึงเป็นเรื่องที่แย่มากๆที่พวกคุณได้ดอกกุหลาบมา ทั้งๆที่พวกคุณอยากได้ดอกเดซี่แท้ๆ เพราะว่าดอกกุหลาบดอกนั้น มันก็จะยังเป็นดอกกุหลาบอยู่อย่างนั้นของมันต่อไป

    แต่ถ้าพวกคุณสามารถมองเข้าไปเห็นข้างในเมล็ดของดอกกุหลาบที่มันงอกและโตขึ้นมาได้ พวกคุณก็คงจะคิดว่า มันก็จะยังคงเป็นดอกกุหลาบอยู่ตลอดไป แล้วพวกคุณก็อาจจะพูดว่า “แย่จังเลย” “มันจะต้องเป็นดอกกุหลาบไปตลอดกาลแน่ๆเลย”

    ดังนั้น ในความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ และพฤติกรรมสนองตอบต่อมันก็จะกลายเป็นว่า
    “มันจะเป็นดอกกุหลาบตลอดไป ดังนั้น ฉันจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรมันได้เลย”

    ดังนั้น ความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงดอกกุหลาบ หรือแม้แต่เปลี่ยนให้มันกลายเป็นดอกเดซี่ จึงไม่เคยอยู่ในความคิดของพวกคุณเลย พวกคุณเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากสิ่งที่พวกคุณรู้ในมิติที่ 3 นี้เท่านั้น

    ตอนนี้ลองมาพิจารณาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกหลากมิติบ้างสักหน่อยนะ
    เมื่อใดที่คุรุชาวสวนไปเยี่ยมเมล็ดดอกกุหลาบนั้น ต้องจินตนาการช่วยนิดหนึ่งนะว่า คุรุชาวสวนคนนั้นสามารถบอกมันได้ว่า ข้อมูลข่าวสารส่วนไหนของเมล็ดดอกกุหลาบ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบของมัน ที่จะเปลี่ยนมันให้กลายไปเป็นอย่างอื่นได้ เมื่อเซลของเมล็ดดอกกุหลาบ แบ่งเซลครั้งต่อไป ให้มันไม่มีหนาม และสีของมันก็ให้เปลี่ยนไป หรือบางทีอาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่า ให้มันกลายไปเป็นดอกเดซี่แทน

    ทีนี้ ถ้าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้จริงๆ พวกคุณจะเรียกมันว่าอะไร?
    คำตอบก็คือ พวกคุณจะเรียกมันว่า “ปาฏิหาริย์ !” “เรื่องเหลือเชื่อ !” “เป็นไปไม่ได้ !”

    แต่พวกเราเรียกมันว่า “เรื่องธรรดา” หรือเรื่องของ “ฟิสิกส์หลากมิติ” (Multidimensional physics) ซึ่งมันพร้อมที่จะถูกค้นพบและเข้าใจได้อยู่แล้ว

    แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของพวกคุณ ก็จะเป็นไปในแบบที่พวกคุณ ได้ให้คำจำกัดความ
    กับสิ่งที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของมิติที่ 3 ของพวกคุณเอาไว้แล้วเท่านั้น

    ฉันอยากให้พวกคุณเริ่มต้นมองมันในแบบที่แตกต่างออกไป ฉันอยากให้พวกคุณเริ่มต้นมองดูพลังงาน ที่มีคุณสมบัติเป็นสิ่งหลากมิติ ว่าเป็น “ข้อมูลข่าวสารที่มีพลังงาน” (Energetic energy) แทน

    สิ่งต่างๆอีกมากมายมหาศาลที่พวกคุณเรียกกันว่าพลังงานนั้น แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นแค่ข้อมูลข่าวสารเท่านั้นเอง เดี๋ยวเราจะไปต่อเรื่องนี้กันในช่วงถัดไป


    ..........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 3: เคยมีรายงานการค้นพบแล้ว

    ตอนนี้ ฉันจะบอกพวกคุณว่า ได้เคยมีการค้นพบแล้วบนโลกของพวกคุณ และตอนนี้ผลการค้นพบนั้น ก็กำลังถูกนำมาใช้อยู่ด้วย ซึ่งการค้นพบที่ว่านั้นก็คือ: “พวกคุณสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสาร ที่ถูกบันทึกไว้ในเซลของร่างกายตัวเองได้”

    หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ วิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแล้วว่าจะสามารถเขียนข้อมูลข่าวสารใหม่ ป้อนใส่ลงไปในระบบ DNA ของร่างกายมนุษย์ได้อย่างไร เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างทางข้อมูลข่าวสารของมัน

    (ปล. ดูรายละเอียดได้ในกระทู้ที่ผมเคยแปลและโพสต์ไว้แล้วทั้ง 2 กระทู้นั่นนะครับ อยู่ในลิงค์ข้างบนโน้น- ผู้แปล)


    a.png
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    และเพื่อที่จะไม่ต้องตอกย้ำประเด็นนี้กันบ่อยจนเกินไป (ครายออนได้เคยพูดถึงเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว) พวกคุณจะต้องจดจำให้ได้ว่าสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเกี่ยวกับ DNA นี้คืออะไร

    มีเพียง 5% ขององค์ประกอบทางเคมีในจำนวน 3 พันล้านหน่วยเท่านั้น
    ของโมเลกุล DNA ที่ทำหน้าที่เข้ารหัสสร้างโปรตีน และผลิตยีนส์ นั่นหมายความว่าอีก 95% ขององค์ประกอบทางเคมีทั้งหมดใน DNA ของพวกคุณ ดูเหมือนจะไม่มีหน้าที่อะไรเลย

    ดังนั้น สิ่งที่พวกคุณมีก็คือ โครงสร้างของ DNA หรือเกลียว DNA ที่มีองค์ประกอบทางเคมีจำนวน 3 พันล้านหน่วย
    ซึ่งในจำนวนนี้มีเพียง 5% เท่านั้นที่เป็น “เครื่องจักร” ผลิต “รถแข่งชีวภาพ” (ผลิตยีนส์) ที่เรียกว่า “มนุษย์” นั่นเอง ส่วนอีก 95% ของมันทำหน้าที่เป็น “คนขับรถ” (ที่ทำหน้าที่สั่งการว่ารถควรจะทำอะไรบ้าง)

    ดังนั้น ส่วนประกอบส่วนใหญ่ของ DNA ที่แต่ก่อนพวกคุณเรียกกันว่า
    “DNA ขยะ” นั้น มันคือ “จิตสำนึกของชุดคำสั่ง” (Consciousness of instructions) อย่างหนึ่ง มันคือพลังงาน มันคือข้อมูลข่าวสาร และมันก็มีมากมายมหาศาลซะด้วย!

    จะเป็นอย่างไรถ้า พวกคุณสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในโครงสร้างของ DNA เหล่านั้นได้? พวกคุณจะบอกกับพวกมันว่ายังไง? เอาหละ เดี๋ยวเราจะเอาตัวอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้ทำไปแล้วมาเล่าให้ฟัง มันคือการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์

    ............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 4: การป้อนข้อมูลข่าวสารใส่ลงไปใหม่

    ฉันอยากจะบอกว่า พวกคุณเกิดมาพร้อมกับมีหัวใจที่ผิดรูปร่างไป ดังนั้น มันจึงเป็นหัวใจที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพราะว่าลิ้นหัวใจมันปิดไม่สนิทดี

    ฉันอยากจะบอกต่ออีกว่า นั่นแหละคือสิ่งที่พวกคุณเป็นหละ พวกคุณคือดอกกุหลาบสีแดงที่มีหนามแหลมคม
    ดังนั้น ในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ พวกคุณจึงกำลังจะตายลงไปในไม่ช้านี้ เพราะว่าหัวใจมันทำงานไม่ปกติ บางทีพวกคุณอาจจะต้องใช้ยาช่วยรักษาด้วย เมื่อพวกคุณแก่ลง และพวกคุณก็จะมีหัวใจที่ผิดรูปร่างไปตลอดชีวิต

    เอาหละมาถึงตอนนี้ ฉันอยากจะขอให้พวกคุณลองใช้ตรรกะที่พวกคุณไม่เคยใช้มาก่อนดู และถามคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับชีวภาพของพวกคุณดูว่า

    ก็ในเมื่ออวัยวะทุกๆส่วนในร่างกายของพวกคุณ มันมีการซ่อมแซมรักษาตัวเองได้อยู่ตลอดเวลา อยู่ชั่วชีวิตของพวกคุณอยู่แล้ว แล้วทำไมหัวใจของพวกคุณจึงยังคงมีรูปร่างที่ผิดปกติอยู่อย่างนั้นอีกหละ?

    ทำไมร่างกายของมนุษย์ จึงไม่ค่อยๆซ่อมแซมมันให้ดีขึ้นมาเองเสียหละ? อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันเป็นไปได้ และก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วกับผิวหนังที่ได้รับบาดเจ็บของพวกคุณ ที่มันสามารถซ่อมแซมตัวมันเองได้ (ผิวหนังคือส่วนที่มีพื้นที่มากที่สุดของร่างกายมนุษย์)

    แล้วทำไมร่างกายมนุษย์ถึงยังสร้างแต่หัวใจที่ผิดปกติขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อีกหละ?
    ทำไมมันถึงเอาแต่สร้างสิ่งที่คุณภาพไม่ดีขึ้นมาอยู่อย่างนั้นอีกหละ?

    ต่อไปนี้คือคำตอบนะ: เพราะว่าระบบข้อมูลข่าวสารในเซลทุกๆเซลของหัวใจมันยังคงเหมือนเดิมอยู่หนะสิ

    หมายความว่า วันนี้ ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดใน DNA แต่ละโมเลกุลของเซลหัวใจของพวกคุณ
    มัน (สเต็มเซล – stem cells) มีแบบพิมพ์เขียวของหัวใจที่ผิดปกติบรรจุอยู่ และถ้าไม่มีอะไรไปเปลี่ยนแปลงพลังงานของข้อมูลข่าวสารในระบบนี้หละก็ มันก็ยังจะคงเป็นอย่างที่มันเป็นอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ดอกกุหลาบก็ยังจะเป็นดอกกุหลาบอยู่ต่อไปเรื่อยๆ และหนามก็จะยังคงเจริญเติบโตต่อไปเรื่อยๆด้วยเช่นกัน

    ดังนั้น จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกคุณสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในส่วนของ 95% นั้น
    ของ DNA ของพวกคุณได้?

    องค์ประกอบทางเคมีส่วนใหญ่ในร่างกายของพวกคุณคือข้อมูลข่าวสาร คือคนขับรถ
    ที่กำลังขับรถไปสู่ความมีสุขภาพที่ดี และการเสริมสร้างขึ้นมาใหม่ มันคือคนขับรถที่ขับรถยนตร์แห่งองค์ประกอบทางเคมี และรถยนตร์แห่งการผลิตยีนส์ มันเป็นไปได้ที่จะสั่งให้มันไปทางอื่นได้ หรือหักพวงมาลัยให้ยีนส์ไปในที่ๆสร้างสรรค์อื่นได้ ใช่แล้วมันเป็นไปได้

    วิทยาศาสตร์กำลังเริ่มเรียนรู้แล้วว่า จะสามารถป้อนข้อมูลข่าวสารพื้นฐานให้แก่เซลได้อย่างไร
    และการป้อนข้อมูลที่ว่านี้ ก็คือการป้อนข้อมูลข่าวสารด้านพลังงานลงไปใน DNA ของพวกคุณ ซึ่งมันก็จะไปทำให้สเต็มเซลได้รับแบบพิมพ์เขียวชุดใหม่ที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิมแทน แทนที่ชุดข้อมูลเดิมที่ผิดปกติอยู่นั้น

    จากนั้น หัวใจและอวัยวะทุกๆส่วน ก็จะเริ่มต้นเสริมสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ มันจะค่อยๆกลายเป็น
    หัวใจที่แข็งแรงสมบูรณ์ เพราะมีลิ้นหัวใจที่ปิดสนิทดีแล้ว นี่เป็นแค่นิยายวิทยาศาสตร์หรือเปล่า? ฉันกำลังจะบอกพวกคุณว่า มันกำลังเกิดขึ้นอยู่แล้วในตอนนี้!!

    เพราะว่าตอนนี้การสร้างสรรค์ในระดับหลากมิติกำลังเริ่มต้นเกิดขึ้นแล้ว บนดาวเคราะห์โลกใบนี้
    แต่มันยังจะมีอะไรมากมายกว่านี้อีกเยอะ มันจะช่วยผลักดันความสามารถทางด้านความเชื่อของพวกคุณ และมันก็จะเปลี่ยนร่างกายเนื้อของพวกคุณด้วย ซึ่งพวกคุณก็ได้เห็นมันแล้ว แต่พวกคุณก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเห็นมันอยู่!

    ......................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 5: การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของมนุษย์โลก

    ฉันจะขอถามคำถามพวกคุณอีกสักสองสามข้อ ซึ่งพวกคุณไม่เคยใส่ใจคิดถึงมันมาก่อนเลย ฉันเคยหยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว และตอนนี้ฉันก็จะพูดถึงมันเต็มๆซะที

    ทำไมปลาดาวจึงสามารถงอกแขนที่ขาดขึ้นมาใหม่ได้ แล้วทำไมพวกคุณถึงทำไม่ได้หละ?

    นั่นก็เพราะว่า DNA ในร่างกายของพวกคุณถูกโปรแกรมมาอย่างนั้นยังไงหละ! ใน DNA ของพวกคุณ ในส่วนที่เป็นข้อมูลข่าวสาร ไม่ยอมให้มันเป็นเช่นนั้น พวกคุณเข้าใจไหม? มันจะเปลี่ยนแปลงได้ไหม? หรือว่ามันจะเป็นเรื่องประหลาดสำหรับพวกคุณหรือเปล่า? พวกคุณจะยอมรับความสามารถที่เปลี่ยนไปนั้นได้หรือไม่? หรือว่าพวกคุณจะวิ่งหนีมันไป แล้วเรียกมันว่าสิ่งที่ขัดต่อพระประสงค์ของพระเจ้า หรือว่าสิ่งชั่วร้าย และเป็นสิ่งที่พวกคุณไม่ควรทำโดยเด็ดขาด ใช่หรือไม่?

    ประเด็นเหล่านี้มันเกิดขึ้นแล้วกับการปลูกถ่าย “หัวใจดวงแรก” บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้แล้ว และปฏิกิริยาตอบสนองของมันก็สามารถคาดการณ์ได้ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ ดังนั้น มันจึงกลายเป็นข้อกำหนดทางศาสนาไป และสิ่งนี้ก็จะเป็นแบบนั้นด้วย

    คนขับรถแข่งคนนั้น ที่กำลังขับรถแห่งข้อมูลข่าวสารของ DNA อยู่ ได้ควบคุมสั่งการให้สารเคมีในร่างกายของพวกคุณ ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนดอกกุหลาบให้กลายไปเป็นดอกเดซี่นั้น สามารถทำเช่นนั้นได้เฉพาะตอนที่พวกคุณอยู่ในครรภ์เท่านั้นเอง

    ดังนั้น องค์ประกอบทางเคมีดังกล่าวมันจึงคงที่และไม่สามารถถูกปรับแต่งใดๆได้เลยโดยร่างกายมนุษย์
    เพราะเหตุนี้ ชุดคำสั่งจึงยังคงเป็นชุดคำสั่งเดิมๆทุกๆครั้งที่เซลมีการแบ่งตัว ดังนั้นทุกๆครั้งที่เซลของหัวใจที่ผิดรูปร่างนั้น มีการสร้างเซลใหม่ขึ้นมาเมื่อใด มันก็จะสร้างตามชุดคำสั่งในแบบพิมพ์เขียวเดิมๆของมันทุกครั้งไป

    มันจะมีสักวันหนึ่งที่พวกคุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งเหล่านั้นได้ แล้วพวกคุณก็จะสามารถงอกแขนงอกขาขึ้นมาใหม่ ทดแทนที่ขาดหายไปได้ เพราะว่าส่วนประกอบทางเคมีมันมีพร้อมอยู่หมดแล้ว และมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยด้วย

    แต่ว่าชุดคำสั่งในระดับ DNA ของพวกคุณนั้น มันสั่งเอาไว้ว่าพวกคุณไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
    เพราะฉะนั้น พวกคุณจึงไม่เคยเห็นมันทำได้มาก่อนเลย เพราะฉะนั้น พวกคุณจึงจินตนาการไม่ออกยังไงหละ

    .............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 6: เปลี่ยนวิธีการคิดของพวกคุณ

    ตอนนี้พลังงานรอบๆตัวพวกคุณกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ และมันก็จำเป็นมากๆสำหรับพวกคุณ ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อสิ่งต่างๆรอบๆตัวพวกคุณเสียใหม่ พวกคุณจะต้องรู้ว่าอะไรที่พวกคุณจะต้องจัดการ และเปลี่ยนแปลง และจะต้องรู้ว่าจะสามารถเรียกใช้ผู้สร้างที่อยู่ในตัวพวกคุณเองให้สร้างสิ่งที่พวกคุณเคยคิดว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นมาใหม่ได้อย่างไร

    หลายคนอาจจะมองพวกคุณว่าเป็นตัวประหลาด และเกินกว่าที่พวกเขาเคยจินตนาการไว้
    พวกเขาอาจจะพูดว่าพวกคุณสามารถสร้างสิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์ได้ แต่นั่นเป็นเพราะว่าพวกคุณเพิ่งจะเริ่มต้นเรียนรู้ว่าจริงๆแล้วสิ่งต่างๆมันทำงานอย่างไรเท่านั้นเอง

    ลองจินตนาการดูซิว่า ถ้าคนขับรถแข่ง กำลังขับรถวิเศษอยู่ แต่เขารู้แค่วิธีการ
    สั่งให้มันเลี้ยวไปทางซ้ายเท่านั้นเอง เขาก็เลยจะสั่งแต่ให้มันเลี้ยวซ้ายอย่างเดียวเลย พวกคุณรู้ใช่ไหม? แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาขับไปบนทางตรง แต่เขารู้จักแต่วิธีการขับเลี้ยวซ้ายเท่านั้นหนะ?

    พวกคุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสารใหม่ให้กับเขา และให้เขาเรียนรู้ว่าจะสามารถใช้ประโยชน์
    จากศักยภาพทั้งหมดของรถของเขาได้อย่างไรบ้าง และนั่นแหละคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับพวกคุณในตอนนี้หละ

    เมื่อกระดูกสันหลังได้รับบาดเจ็บรุนแรง มันก็จะมีสารเคมีวิ่งไปที่ๆได้รับบาดเจ็บนั้น เพื่อไปทำให้มันไม่งอกขึ้นมาใหม่ พวกคุณเคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไหม? ว่ามันจะมีฮอร์โมนที่เป็นสารประกอบโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่จะไปทำให้มันไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ แล้วแบบนี้มันจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ได้อย่างไร?

    เอาหละ มันไม่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์จริงๆนั่นแหละ มันเป็นผลพวงมาจากวิวัฒนาการ
    และวิวัฒนาการก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกเราคาดหมายไว้เสมอไปหรอก เพราะว่าบางครั้งมันก็ช้า หรือไม่ก็หยุดไปเลย ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ไหนที่กำลังวิวัฒน์อยู่ มันไม่สมบูรณ์แบบหรอก และพวกคุณก็เห็นกันอยู่ ว่ามันเกิดขึ้นทุกที่ในร่างกายของมนุษย์นั่นเอง มันเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย

    เส้นประสาทของมนุษย์ถูกออกแบบมาให้สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนใหม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น พวกคุณเคยรู้มาก่อนไหมว่า เส้นประสาทในร่างกายมนุษย์มีแม้กระทั่งที่อยู่เป็นของตัวมันเอง ดังนั้นจึงทำให้พวกมันสามารถค้นหากันได้ และสร้างขึ้นมาใหม่ได้?

    แต่ว่าในกรณีของการบาดเจ็บของกระดูกสั้นหลัง มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น นั่นก็เพราะว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากข้อมูลข่าวสารของคนขับรถ ที่สั่งเอาไว้ว่า กระดูกสันหลังจะไม่สามารถถูกสร้างขึ้นมาทดแทนได้หนะสิ!

    เรื่องนี้มันเป็นความขัดแย้งกันของโครงสร้างทางชีวภาพ ที่ดูเหมือนว่าจะถูกออกแบบมาเพื่อให้รักษาชีวิตเอาไว้
    แต่บางทีพวกคุณก็เห็นแล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย (คือไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้เสมอไป – ผู้แปล)

    มันจะมีสักวันหนึ่ง ที่จะถึงวันที่พวกคุณสามารถ
    โปรแกรมระบบสเต็มเซลในร่างกายของตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ “โดยการใช้จิตสำนึก และ สิ่งประดิษฐ์”

    สเต็มเซลมีอยู่ทุกๆที่ในร่างกายของพวกคุณ พวกมันยังมีชีวิตอยู่และก็สุขสบายดี
    พวกมันคือต้นตอของสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของพวกคุณทั้งหมด ซึ่งถ้ามองในเชิงเคมีแล้ว พวกมันก็คือต้นเหตุของความไวต่อการเจ็บไข้ได้ป่วยของร่างกายมนุษย์นั่นเอง

    และเจ้าความไว้ต่อการเจ็บไข้ได้ป่วยนี่เอง ก็ถูกถ่ายทอดต่อๆไปยังลูกหลานของพวกคุณ และเจ้ารหัสพันธุกรรมนี้ และพลังงานนี้ และข้อมูลข่าวสารส่วนที่เป็น 95% นี้ ก็จะถูกถ่ายทอดต่อไปเรื่อยๆ และต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่ามันจะถูกตั้งโปรแกรมใหม่ซะทีโน่นแหละ


    แต่ฟังให้ดีนะว่า การตั้งโปรแกรมใหม่ที่ว่านี้มันไม่ใช่ด้านสารเคมีเลย
    แต่มันเป็นด้านข้อมูลข่าวสารของพลังงาน (informational energy) ต่างหากหละ เพราะว่ามันคือพลังงานหลากมิติ (multidimensional energy)

    มันมีเทคโนโลยีใหม่ๆที่กำลังจะมาถึงเร็วๆนี้ ที่จะนำมาใช้เพื่อการตั้งโปรแกรมใหม่ให้กับ “ชิ้น” หรือ “ส่วน” ของร่างกายมนุษย์ “ในระดับสเต็มเซล” (systemic level)

    พวกคุณรู้ไหมว่า มันหมายความว่าอย่างไร? มีสุภาพสตรีเยาว์วัยหลายคนในห้องนี้
    ที่อาจจะมียีนส์บางชนิดที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษอยู่ ซึ่งยีนส์ที่ว่านั้นก็คือยีนส์ที่ถ่ายทอดความไวต่อการป่วยเป็นโรคมะเร็ง และไวต่อการมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอนั่นเอง

    ฟังนะ เมื่อใดที่พวกคุณสามารถป้อนข้อมูลให้กับพิมพ์เขียวทางพันธุกรรมของพวกคุณเองได้แล้ว ลูกหลานรุ่นต่อๆไปของพวกคุณก็จะไม่มีใครมีรหัสนั้นๆอีกเลย

    พวกคุณเข้าใจที่พวกเรากำลังบอกพวกคุณอยู่นี่ไหม? ว่าลูกของคุณ และลูกของลูกของคุณ
    ก็จะมีแต่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกตั้งโปรแกรมใหม่แล้วเท่านั้น และเซลในร่างกายของพวกคุณก็จะนำข้อมูลข่าวสารใหม่นั้นไปใช้ และยึดถือเป็นแบบพิมพ์เขียวสำหรับพวกคุณไป แล้วก็ถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานของพวกคุณต่อไป

    พลังงานก็เป็นแบบนี้แหละ พลังงานที่บรรจุข้อมูลข่าวสารอยู่ก็เป็นอย่างนี้แหละ และพวกมันก็มีอยู่มากมายหลายชนิดด้วยบนโลกใบนี้ มันมีอยู่หลายระบบบนดาวเคราะห์ดวงนี้ ที่ยังถูกเข้าใจผิดอยู่ และเข้าใจผิดมาช้านานแล้ว

    ฉันจะยกตัวอย่างให้พวกคุณฟังซัก 2 เรื่องก็แล้วกัน ซึ่งมันจะเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับความคิดของพวกคุณ ดังนั้นพวกคุณอาจจะไม่เห็นด้วย หรือพวกคุณอาจจะไม่ชอบมันก็ได้ แต่ยังไงฉันก็ยังจะเล่าให้ฟังอยู่ดี



    .........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 7: ผี – คือ “ข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ” หรือ “วิญญาณที่ยังติดอยู่” กันแน่?

    a.jpg
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    มนุษย์โลกมักจะชอบอะไรที่มากระทบในเวลากลางคืน พวกเขาชอบการถูกทำให้สะดุ้งตกใจ และพวกเขาก็ชอบการถูกทำให้หวาดกลัวด้วย พวกเขาชอบดูหนังสยองขวัญที่จะทำให้พวกเขากลัว และก็ชอบสถานที่หลอนๆด้วย พวกคุณเห็นการเพิ่มขึ้นของสถานที่เหล่านั้นเมื่อเร็วๆนี้ไหม?

    สื่อของพวกคุณจำนวนมาก ก็กำลังพากันสร้างรายการโชว์แบบใหม่ขึ้น ที่เกี่ยวข้องกับพวกมันอยู่
    ตอนนี้ พวกเราจะขอบอกพวกคุณว่า พวกมันคืออะไร และทำไมพวกมันถึงเป็นแบบนั้น

    ตอนนี้เรามารู้เรื่อง “พลังแห่งข้อมูลข่าวสารของมนุษย์ในแต่ละภพชาติ และบันทึกแห่งฟ้า (Akash)” ซะก่อน
    จิตสำนึกของมนุษย์จะบรรจุรหัสที่สามารถส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์โลกได้เอาไว้อยู่ ซึ่งพวกเราได้บอกพวกคุณไปแล้วในการสื่อสารครั้งแรกๆ

    จิตสำนึกของมนุษย์คือข้อมูลข่าวสาร มันคือข้อมูลข่าวสาร มันไม่ใช่เป็นแค่พลังงานที่เกิดขึ้นแบบสุ่มเท่านั้น มันคือพลังงานที่พวกคุณสร้างมันขึ้นมา จากกระแสความคิดของพวกคุณเอง และมันก็ทรงพลังอำนาจมากๆด้วย

    จริงๆแล้ว จิตสำนึกของมนุษย์ จะเข้าไปอยู่ในสิ่งที่พวกเราเรียกว่า “โครงข่ายคริสตัล” (Crystalline Grid) ของดาวเคราะห์โลก ซึ่งเป็นโครงข่ายหลากมิติอย่างหนึ่ง พวกคุณจึงไม่สามารถมองเห็นมันได้ แต่มันมีพลังงานอยู่ และมันก็บรรจุข้อมูลข่าวสารหลากมิติเอาไว้ด้วย

    เวลาที่พวกเราจะตรวจวัดค่าความสั่นสะเทือนด้านจิตวิญญาณของดาวเคราะห์โลก พวกเราก็จะวัดค่าจากโครงข่ายคริสตัลที่ว่านี้แหละ

    โครงข่ายคริสตัลไลน์จะเก็บกักทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ใส่เข้าไปให้กับมัน มันคือเครื่องบันทึกหลากมิติ
    ที่จะบันทึกทุกๆกระแสความคิด/กระแสจิต จากทุกๆภพชาติของมนุษย์ทุกคน และของทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกเอาไว้ทั้งหมด

    ทำไมพื้นที่บางพื้นที่ จึงรู้สึกราวกับว่ามันเต็มไปด้วยพลังงานเก่าแก่ หรือถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานแห่งศึกสงคราม ในขณะที่บางพื้นที่ก็จะรู้สึกถึงความแจ่มใสและสะอาดปลอดโปร่งหละ?

    เหตุผลก็คือ..เหตุผลเดียวกันนี้เสมอ นั่นก็คือ..มันคือพลังงานของเหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น เพราะฉะนั้น ตอนนี้พวกคุณคงพอจะเข้าใจกันบ้างแล้วนะว่า พลังงานของมนุษย์ส่งผลกระทบต่อสถานที่ต่างๆบนโลกใบนี้ได้อย่างไรบ้าง

    นี่คือสิ่งที่ฉันกำลังจะบอกพวกคุณ ในสภาวะบางอย่าง และด้วยวิธีการบางอย่าง
    ที่มนุษย์โลกคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มาทำให้เกิดเหตุการณ์อะไรสักอย่างร่วมกันขึ้นมา มันก็จะไปทำให้เกิดรอยประทับของพลังงานที่มีข้อมูลข่าวสารนั้นๆขึ้นมาในสถานที่นั้นๆด้วย มันจะเป็นข้อมูลข่าวสารและพลังงานที่จะ replay ตัวมันเอง ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เหมือนกับเทปบันทึกเสียงในมิติที่ 3 ของพวกคุณนั่นแหละ ดังนั้น พวกคุณถึงเห็นมันเป็นบ้านผีสิงยังไงหละ!

    ดังนั้น ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนที่จะทำให้พวกคุณนำกลับไปขบคิดกันดูนะ พวกคุณเคยสังเกตกันบ้างไหมว่าในสถานที่หลอนๆเหล่านั้น พวกคุณจะเห็นปรากฏการณ์ “เล่นแบบเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า” อยู่? ไม่เคยมีอะไรใหม่เกิดขึ้นเลย

    เช่น มีผู้ชายเดินลงมาจากบันได แล้วก็เดินกลับขึ้นไปใหม่
    มีผู้หญิงอยู่ในห้องครัว เคลื่อนที่ไปทางซ้าย แล้วก็ไปทางขวา ไปนั่งบนเก้าอี้ แล้วก็โยกเก้าอี้ไปมาอยู่พักหนึ่ง แล้วก็เดินออกไป

    ซึ่งถ้าเหตุการณ์ใด เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมด้วยหละก็ มันก็อาจจะเป็นในแนวๆที่ว่า มีผู้ชายเดินลงมาจากบันได้พร้อมกับขวานด้ามหนึ่ง ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น มันเป็นหนังดีอีกเรื่องหนึ่ง ใช่ไหม? และก็มันก็มีอยู่แค่นั้นแหละ!

    แล้วทำไมมันถึงทำให้พวกเรารู้สึกอย่างที่กำลังรู้สึกอยู่นั้นได้หละครายออน?”

    ก็เพราะว่ามันเป็นผลพวงมาจาก “รอยประทับของจิตสำนึกของมนุษย์คนนั้นๆ” หนะสิ และรอยประทับแบบเดียวกันนี้ของพวกคุณเองก็มีด้วยเช่นกันนะ

    เมื่อพวกคุณเข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นๆ พลังงานของพวกคุณก็จะไปซ้อนเหลื่อมกับมัน มันก็เลยทำให้พวกคุณรู้สึกเย็นยะเยือก เพราะว่ามันเป็นของจริง เพราะว่ามันได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ และมันก็สามารถสัมผัสกับพวกคุณได้ด้วยซ้ำไป!

    ตอนนี้วิทยาศาสตร์ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องนี้แล้ว เช่นเดียวกัน อย่างที่มันควรจะเป็น
    พวกเขากำลังพากันพิสูจน์อะไรบางอย่างในสถานที่ๆเป็น “พื้นที่หลอน” ของจริงอยู่ และรอยประทับ (เหตุการณ์หลอน) ที่ว่านี้ ก็จะมีคุณสมบัติบางอย่างที่สามารถตรวจวัดค่าทางวิทยาศาสตร์ได้ง่ายๆอยู่ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ทั้งหมดเป็นคุณสมบัติหลากมิติ

    ลองเดากันดูซิว่า พวกเขาตรวจพบความผิดปกติอะไรได้บ้าง? มันก็คือพลังงานแม่เหล็ก, แรงโน้มถ่วง, แสงสว่าง และแม้แต่ความผิดปกติของกาลเวลา เพราะว่ามันเป็นเหตุการณ์หลากมิติ ที่ถูกประทับไว้บนพื้นที่นั้นๆ
    บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ที่เล่นตัวมันเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นนั่นเอง

    คุณสมบัติหลากมิติเหล่านี้ ยังประกอบไปด้วยความผิดปกติของอุณหภูมิด้วยนะ
    ซึ่งปกติก็จะผิดปกติไปในแง่เย็นลงมากกว่า ฉันเคยบอกพวกคุณไปแล้วแม้กระทั่งว่า ถ้าพวกคุณกำลังจะสร้าง “เลนส์หลากมิติ” ขึ้นมาสักชุดหนึ่ง พวกคุณจะต้องทำให้มันมีคุณสมบัติ cryogenic ด้วย (สภาวะที่เย็นแบบยิ่งยวด - ผู้แปล) พวกคุณจำได้ไหม? เพราะนี่คือคุณสมบัติของสิ่งที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของมิติที่ 3 ของพวกคุณ

    แล้วพวกคุณจะสามารถถ่ายภาพวีดีโอของมันเอาไว้ได้ไหม?
    ได้สิ เพราะว่ามันรู้ว่ามันกำลังถูกสังเกตุการณ์อยู่ (เหมือนกับที่มันรู้ว่ามันกำลังถูกสังเกตการณ์อยู่ในการทดลองทางฟิสิกซ์ทั้งหลายนั่นแหละ)

    [ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในวีดีโอชุด “Double Slits Experiment” นะครับ – chayutt]

    เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของรอยประทับที่เป็นของหลากมิติ หรือในนัยยะของควอนตั้มแล้วก็คือ “มันรู้” แต่ฉันไม่สามารถจะอธิบายเรื่องนี้ให้พวกคุณเข้าใจได้ เพราะว่าพวกคุณจะเชื่อเพียงแต่ว่า สิ่งที่จะ “รับรู้” อะไรได้นั้น จะต้องเป็นสิ่งที่มีความตระหนักรู้เท่านั้น

    หรืออาจจะกล่าวว่าพวกคุณจะรู้สึกว่าอะไรก็ตามที่จะ “รับรู้” ได้นั้น จะต้องเป็นสิ่งที่มีภูมิปัญญาเท่านั้นด้วย
    เช่น มนุษย์และสัตว์ เป็นต้น

    แต่ว่าสิ่งนี้มันไม่ใช่ทั้งมนุษย์ และสัตว์ มันเป็นการรับรู้อย่างหนึ่งที่เป็นควอนตั้ม
    ศาสตร์ด้านควอนตั้มฟิสิกส์ของพวกคุณ ก็ได้ทำให้พวกคุณเห็นความไม่ปกติอย่างมากมายของคุณสมบัติของแสง และแม่เหล็กแล้วนี่ ที่มันไม่มีทั้งช่องว่างและกาลเวลา และมันก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในสถานที่เหล่านี้ด้วย

    แต่อย่าไปครุ่นคิดเรื่องนี้ให้มากจนเกินไปนัก เพราะว่าพวกคุณอาจจะไม่ชอบมันก็ได้ พวกคุณคิดแต่อยากจะให้มันและจำเป็นต้องให้มันกลายเป็น “วิญญาณ” อะไรซักอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง เพื่อที่พวกคุณจะได้รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่มีภูมิปัญญาอยู่สักหน่อย เพราะมันจะเป็นเพียงข้อมูลข่าวสารเฉยๆได้ยังไง?

    เพราะคำตอบมันอยู่นอกเหนือประสบการณ์ของพวกคุณ ดังนั้นพวกคุณจึงไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ว่าทำไมข้อมูลข่าวสารหลากมิตินี้ มันถึงได้เหมือนกับว่ามันมีชีวิตจิตใจอย่างงั้นหละ ทั้งๆที่มันไม่มี?

    ฉันก็อยากจะขอถามพวกคุณสักหน่อยว่า เวลาที่พวกคุณทำอะไรซักอย่างอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกคุณ และถ้ามันพูดกับพวกคุณได้และเรียกชื่อพวกคุณได้ พวกคุณจะกลัวและบอกว่ามันมีผีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเปล่าหละ? ไม่เลย..เพราะว่ามันเป็นแค่รหัส มันเป็นแค่ข้อมูลข่าวสารเท่านั้นเอง

    เอาหละคราวนี้ พวกคุณก็ลองนำเอากรณีนี้ ไปขยายสเกลออกไปอีก ให้เป็นล้านๆเท่าดูสิ พวกคุณก็จะได้ลักษณะของ “รอยประทับหลากมิติ” ขึ้นมาทันที


    ..........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 8: วิธีการกำจัดผี หรือ สิ่งหลอกหลอนออกไป

    โอ..ฉันยังมีเรื่องจะบอกพวกคุณอีกนะ มันเป็นเรื่องที่พวกคุณอาจจะไม่เชื่อว่าพวกคุณสามารถเปลี่ยนแปลง “รอยประทับ” เหล่านี้ได้ด้วย พวกคุณอยากจะกำจัดสิ่งหลอกหลอนนี้ออกไปไหมหละ?

    แต่ระวังนะ อย่าไปทำในที่ๆเป็นแหล่งทำเงินของใครเขานะ
    เพราะว่าบรรดานักท่องเที่ยวต้องไม่ชอบแน่ๆเลย (ครายออนขำ) เพราะว่าเจ้า “เทปที่เล่นวนกลับไปกลับมา“ อันนั้นแหละที่ทำให้พวกเขาสามารถขายบัตรเข้าชมได้หละ ดังนั้น เรามาพูดถึงในกรณีที่เป็นบ้านของพวกคุณเองกันดีกว่า

    พวกคุณจะต้องเอาพลังงานอะไรซักอย่าง
    ที่มีพลัง "มากกว่า" พลังงานของเจ้ารอยประทับของสิ่งหลอกหลอนอันนั้น ไปแทนที่มันเสีย เข้าใจไหม?

    พวกคุณไม่สามารถสั่งให้มันหนีไปเฉยๆได้ เพราะว่าพวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ที่รักทั้งหลาย พวกคุณอาจจะไม่เชื่อว่า วิธีการขับไล่ผี หรือการเสกเป่า หรือการเรียกหาพระเจ้ามาช่วยนั้น ก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย เพราะว่ารอยประทับนี้ มันถูกสร้างขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิตที่สูงส่ง และทรงพลังอำนาจ (นั่นก็คือมนุษย์นั่นเอง) แม้ว่าบางครั้ง อาจจะดูเหมือนว่าสิ่งที่มนุษย์ทำลงไปนั้น มันเป็นเรื่องพื้นๆทั่วๆไปก็ตาม แต่ว่าเรื่องนี้มันก็มีเหตุผลของมันอยู่เหมือนกัน

    เดี๋ยวเราจะขอพูดนอกเรื่องสักหน่อยว่า พวกคุณไม่รู้จริงๆหรอกว่า พลังงานของจิตวิญญาณเก่าแก่
    มีความล้ำลึกมากแค่ไหน พวกคุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมชนชาวพื้นเมืองทุกๆชนเผ่า บนโลกใบนี้ จึงเรียกหาบรรพบุรุษของพวกเขา และสักการะบูชาบรรพบุรุษของพวกเขา?

    นั่นก็เพราะว่าพวกเขารู้ว่ามันมีพลังงานอยู่ที่นั่นหนะสิ!
    บางครั้งคนที่พวกคุณคิดว่าเขาเป็นแค่คนพื้นๆธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้ว เขาอาจเป็น “จิตวิญญาณเก่าแก่มากๆ” ที่มีข้อมูลข่าวสาร และพลังงานสูงมากๆเก็บเอาไว้อยู่ในโครงข่ายคริสตัลไลน์ของโลกก็ได้ เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “บันทึกแห่งฟ้า” (Akashic Recod) ที่บรรจุอยู่ใน DNA ของมนุษย์

    วกกลับมาเข้าประเด็นกันต่อ เพื่อที่จะกำจัดเจ้ารอยประทับ (สิ่งหลอกหลอน) นี้ออกไปด้วยตัวพวกคุณเอง
    พวกคุณจะต้องนำพลังงาน "ที่มีพลังมากกว่า" เข้าไปใส่ไว้แทนที่มัน

    แล้วพลังงานที่ว่านั้นหนะคือพลังงานอะไรหละ? แม้ว่าจะดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นักก็ตาม แต่พวกเราก็จะบอกพวกคุณแล้วหละว่า


    ทำไมพวกคุณไม่นำพลังงานแห่งความรัก เข้าไปใส่ไว้ในห้องนั้นแทนหละ?
    นั่นแหละที่จะช่วยได้หละ! และที่มันช่วยได้ ก็เพราะว่าพลังงานแห่งความรัก เป็นพลังงานที่มีพลังอำนาจมากกว่าพลังงานของข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในเทปหลากมิติอันนั้น ที่กำลังเล่นกลับไปกลับมาอยู่นั่นมากมายมหาศาลเลย

    ในห้องนี้มีหลายคนที่มีความรักอยู่แล้ว มันเป็นความลับที่งดงามมากที่พวกเราได้ล่วงรู้ พวกคุณบางคนก็คงจะรู้แล้วว่า พลังอำนาจและพลังงานที่เกิดขึ้นจากการที่มนุษย์สองคนมารวมตัวกัน ในสัมพันธภาพทางเพศนั้น จะก่อให้เกิดพลังงานชนิดที่ 3 (ความรัก) ขึ้นมา ซึ่งจะมีพลังอำนาจมากกว่าพลังอำนาจของคนสองคนที่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมารวมกันอีกเป็นไหนๆ

    เพราะว่ามันเกือบจะสร้างเสียงขับขานของทวยเทพได้เลยทีเดียว
    มันมีพลังอำนาจมากกว่าการกระทำทางกายภาพใดๆของพวกคุณมากมายนัก ซึ่งพวกคุณก็รู้ดี

    มนุษย์โลกเอ๋ย มันเป็นความศักดิ์สิทธิ์ มันงดงาม และมีพลังมากกว่าสิ่งหลอกหลอนใดๆทั้งหมด
    แต่ว่าบางทีวันนี้พวกคุณอาจจะไม่อยากฟังแบบนี้ก็ได้ (ครายออนยิ้ม)

    เอาหละ บางทีพวกคุณอาจจะอยากใช้วิธีการอื่นแทนใช่ไหม? ถ้าอย่างงั้นก็นำความรักของพระเจ้าไปใส่แทนที่มันไว้สิ ด้วยการทำพิธีกรรม และเฉลิมฉลอง ซึ่งก็จะทำให้พลังงานของสิ่งหลอกหลอนนั้นค่อยๆหายไปในที่สุด และก็จะมีพลังงานความรักแห่งการสรรสร้างอันเข้มข้นเข้ามาอยู่แทน

    มันเป็นอารมณ์แห่งความรักที่ทรงพลังอำนาจ!
    และบางทีพวกคุณก็อาจจะอยากร้องขอให้บรรพบุรุษของพวกคุณมาช่วยด้วยก็ได้ (ครายออนยิ้ม)


    ......................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เดี๋ยวค่อยมาต่อนะครับ

    .......................
     
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 9: อันนี้ยิ่งจะทำให้เกิดข้อโต้แย้งหนักขึ้นไปอีก

    แล้วสิ่งอื่นๆหละ เป็นอย่างไรบ้าง ครายออน ? แล้วเรื่องปีศาจเข้าสิงหละ แล้วเรื่องอะไรทำนองนี้อีกหละ?

    เอาหละ เดี๋ยวฉันจะบอกพวกคุณว่า มันห่างไกลจากความคิดของพวกคุณมากมายนัก

    เพราะว่ามันไม่มีหรอกนะปีศาจร้ายหนะ
    เพราะว่ามนุษย์สามารถสร้างปีศาจที่ชั่วร้ายที่สุดขึ้นมาได้ด้วยจินตนาการของตนเองอยู่แล้ว และมนุษย์ก็ทำได้ดีมากๆซะด้วยสิ ซึ่งพวกคุณก็รู้กันดีอยู่แล้ว ใช่ไหม?

    เพราะว่าพวกคุณมีพลังอำนาจ พวกคุณมีส่วนหนึ่งของพระเจ้าอยู่ในตัวเอง แม้แต่ในตำนานของพวกคุณ ก็ยังบอกเลยว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างปีศาจ

    ส่วนเรื่องเทวดาตกสวรรค์ที่กลายไปเป็นปีศาจหนะหรือ? มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้! พระเจ้าไม่ได้สร้างปีศาจ มนุษย์เองต่างหากหละที่เป็นคนสร้าง ความชั่วร้ายคือคำเปรียบเปรยถึงสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้บนโลกใบนี้ ด้วยพลังงานที่ตนเองมีอยู่

    มนุษย์โลกเอ๋ย สิ่งต่างๆมันไม่ได้เป็นอย่างที่มันดูเหมือนว่าจะเป็นเสมอไปหรอกนะ
    ปีศาจเข้าสิง มีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของมนุษย์ และก็ถูกสนับสนุนด้วยตำนานความเชื่อของมนุษย์เองต่างหาก

    แล้วมันมีจริงไหมหละ? ใช่มันมีอยู่จริง! แต่มันก็เกิดขึ้นจากมนุษย์เอง พวกคุณเห็นสิ่งที่พวกคุณสร้างขึ้นจากความเชื่อและความปราถนาของตัวเองที่นี่ไหม?

    เพราะความสามารถในการสร้างโลกแห่งความเป็นจริงให้แก่ตนเองนั้น
    เป็นคุณสมบัติที่มีพลังอำนาจอย่างหนึ่งของมนุษย์ และมนุษย์ก็สามารถสร้างขึ้นมาได้ทั้งในด้านบวกและด้านลบด้วย

    พวกคุณสามารถสร้างแม้กระทั่งปีศาจขึ้นมาได้ ถ้าพวกคุณต้องการ โดยการรวบรวมขึ้นมาจากควันและไฟ
    มันเป็นทางเลือกอิสระของพวกคุณ แต่จงรู้ไว้ด้วยว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะหายไปเมื่อเปิดไฟให้สว่างขึ้นมา

    นี่เป็นเรื่องที่ยากมากๆที่จะทำให้พวกคุณเชื่อได้ เพราะว่ามนุษย์ยังต้องการปีศาจอยู่เสมอ
    เพื่อเอาไว้โยนความผิดให้สำหรับการกระทำที่ชั่วร้ายของตัวเอง

    .......................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  12. cosmiccell

    cosmiccell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +253
    ขอบคุณครับ เป็นข้อมูลข่าวสาร ที่ช่วยให้หายกลัวผีกันได้มากทีเดียวครับ :boo:
     
  13. MagicCarpet

    MagicCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +81
    ในส่วนตอนที่บอกว่า เอาพลังงานความรักเข้าไปแทนที่

    มันก็เชิงหมายถึง การแผ่เมตตา แผ่ความรัก ด้วยความปรารถนาดี เป็นประมาณนี้หรือเปล่าครับ คือ ว่าแทนที่จะกลัว เอาความเมตตาเข้ามาในจิตใจเราแทน

    หรือท่านอื่นมีความคิดในแง่ไหนบ้างครับ

    ;]



    คุณอาชยุตครับ

    คุณอาเคยคิดทำรวมเป็น e-book บ้างหรือเปล่าครับ

    บางตอนที่ผมยังไม่เคยอ่าน หรืออยากจะกลับไปอ่าน ต้องเข้าไปค้นจาก user ของคุณอา ที่คุณอาชยุตโพสไปแล้ว มันไม่สะดวกนิดหน่อยครับ / หรือว่ามีทางลัด แต่ผมทำไม่เป็นเอง :(

    หรือถ้ายังไงผมจะลองทำสะสมเก็บเป็น e-book ไปเรื่อยๆนะครับ

    ;]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2011
  14. i3oomi3er

    i3oomi3er สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +2
    ดีครับ ถ้าทำสะสมไว้ เมื่อนำมาเก็บรวมกันไว้เยอะๆ ก็จะทำเป็นหนังสือได้ เล่ม 1 เลย
    แล้วในที่นี้มีใคร กำลังรวบรวมบ้างครับ แล้วครบไหม เพราะผมก็อยากได้เก็บไว้อ่านเหมือนกัน แล้วก็อีกอย่างเอาไว้ให้รุ่นน้องๆหลังที่เพิ่งเกิดมาได้อ่านได้เข้าใจกันด้วย

    และอีกอย่างผมก็เพิ่มเข้ามาเว็บพลังจิตได้ไม่นานเลยทำให้เนื้อหาไม่ครบครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2011
  15. i3oomi3er

    i3oomi3er สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอความกรุณาด้วยนะครับ รวบรวมเนื้อของคุณ คุณอาชยุต ไว้ให้มากที่สุดครับ เพราะมันอาจจะเป็นพระคัมภีร์อีกเล่มหนึ่งเลยก็ได้ ^^ แล้วต้องขอขอบคุณสำหรับข้อความจากต่างมิตินะครับ ที่ คุณอาชยุต ได้นำเนื้อหาจากการสื่อสารกับท่าน ครายออนด้วยครับ
    อ่านแล้วทำให้ได้แง่คิดหลากหลายมุมเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2011
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia

    ที่มา:
    Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 10: การสนทนากับผู้ที่ตายไปแล้ว – มันแตกต่างจากที่พวกคุณเข้าใจมาก

    แล้วเกี่ยวกับเรื่องการสนทนากับผู้ที่ตายไปแล้วหละ? มันเป็นไปได้อย่างไร ครายออน?

    พวกคุณจะสามารถสนทนากับผู้มีชื่อเสียง ที่ตายไปแล้ว และได้กลับมาเกิดใหม่เรียบร้อยแล้ว ได้อย่างไร? เพราะว่าถ้าพวกเขาได้ตายไปแล้ว และจิตวิญญาณของพวกเขาได้กลับมาเกิดเป็นคนใหม่แล้ว พวกคุณจะสามารถสนทนากับพวกเขาได้อย่างไร?

    คำตอบก็คือ พวกเขาไม่เคยจากไปไหนเลย! โอ..แม้ว่าส่วนที่เป็นจิตวิญญาณของมนุษย์นั้นได้จากไปแล้วก็ตาม แต่ “รอยประทับ” แห่งข้อมูลข่าวสารทั้งหมดในชีวิตของพวกเขา และทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขารู้ ไม่ว่าจะเป็นจิตสำนึกของพวกเขา, ภูมิปัญญาของพวกเขา, ความรู้ของพวกเขา จะถูกเก็บกักเอาไว้ใน “โครงข่ายคริสตัลไลน์” (Crystalline Grid) ของโลกเสมอ และก็จะคงอยู่ที่นั่นตลอดไป พวกเราเคยพูดถึงเรื่องนี้กันมาก่อนหน้านี้แล้ว

    พวกคุณจะสามารถติดต่อกับผู้ที่มีชื่อเสียง เพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวสารอะไรบางอย่างมาได้หรือไม่? คำตอบก็คือ “ได้”


    แล้วข้อมูลข่าวสารที่ได้มานั้น มันจะถูกต้องไหม? แน่นอนสิ! เพราะว่าพวกคุณกำลังสนทนาอยู่กับเจ้าของข้อมูลโดยตรงเลยนะ ดังนั้น มันก็เลยจะถูกต้องเพราะมันเป็นเรื่องราวในชีวิตของพวกเขาเอง เพราะว่ารอยประทับของพวกเขายังอยู่ที่นั่น

    คุณหมายความว่า คุณไม่ได้กำลังคุยอยู่กับวิญญาณของคนผู้นั้นจริงๆอย่างงั้นเหรอ คุณกำลังคุยอยู่กับรอยประทับอย่างงั้นเหรอ?

    ฉันอยากจะบอกอะไรสักอย่างกับพวกคุณสักหน่อย เพื่อให้พวกคุณเก็บเอาไปคิดดู ซึ่งมันอาจจะเป็นคำถามที่เล่นสำนวนอยู่สักหน่อย ฉันอยากจะถามพวกคุณว่า "พวกคุณเป็นใคร?"

    ตอนนี้ฉันเห็นจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายที่กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าฉันอยู่ที่นี่ และก็ที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ด้วย และมีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งที่อยู่ในห้องนี้ ที่ไม่ได้ใส่ชุดสีแดง แต่คุณก็รู้ใช่ไหมว่าคุณเป็นใคร และฉันก็จะบอกคุณว่าทำไม (ถึงไม่ใส่ชุดสีแดง - ผู้แปล)

    นั่นก็เพราะว่าสีแดงมันเคยทำให้คุณถูกฆ่าตายมาแล้วหนะสิ! เพราะว่าสีแดงเคยเป็นสีของขนนกที่ประดับอยู่บนหมวกของคุณมาก่อน สมัยที่คุณเกิดเป็นนักรบ!


    เพราะว่าตอนนั้นคุณเคยเป็นกัปตันเรือ แล้วศัตรูที่อยู่ตรงหน้าคุณในสนามรบ ก็รู้ด้วยว่าถ้าสามารถโค่นล้มคุณลงได้ กองทัพทั้งกองทัพของคุณก็จะระส่ำระสายทันที และก็นั่นแหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นหละ

    ดังนั้น การสวมใส่สีแดง จึงไม่เพียงแต่เคยฆ่าคุณมาแล้วเท่านั้น แต่มันยังเป็นสาเหตุให้ผู้คนรอบๆตัวคุณถูกฆ่าตายไปหมดด้วย! เพราะฉะนั้น คุณจึงไม่ยอมสวมใส่อะไรที่เป็นสีแดงอีกเลย

    แล้วคุณก็แค่รู้สึกไม่ชอบสีแดงขึ้นมาเฉยๆ เพราะคุณรู้สึกว่ามันไม่ใช่สีสำหรับคุณ และคุณก็หลบเลี่ยงมันมาตลอด ใช่ไหมหละจิตวิญญาณเก่าแก่เอ๋ย?

    เพราะฉะนั้นแล้ว ในขณะที่คุณกำลังนั่งอยู่ตรงนี้ คุณเป็นใครหละ? คุณคือนักรบคนนั้นที่ถูกฆ่าตายใช่ไหม? หรือว่าคุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในปี 2010 ที่จะไม่ยอมสวมใส่อะไรที่เป็นสีแดงกันหละ?


    จริงๆแล้วมันอาจจะเป็นคำถามที่เล่นสำนวนอยู่สักหน่อย เพราะว่าในมิติของฉัน พวกคุณคือชิ้นส่วนหนึ่งของพระเจ้า ฉันเห็นทุกๆภพชาติของพวกคุณ

    พวกคุณรู้ไหม? ว่าเมื่อพวกคุณพูดถึงเรื่องนี้ พวกคุณไม่อาจจะจมปลักอยู่กับแต่ความคิดที่ว่า
    ตัวเองเป็นแค่ “คนหนึ่งคนบนโลกใบนี้” ได้เท่านั้นแล้ว เพราะว่าพวกคุณมีมากกว่าที่พวกคุณคิด และในทางปรจิตวิทยาแล้ว นี่คือวิธีที่พระเจ้ามองเห็นพวกคุณ และก็เป็นวิธีที่พวกคุณเพิ่งจะเริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณด้วย

    ดังนั้น กลับมาที่คำถามกันดีกว่า เมื่อใดที่พวกคุณอยากจะส่งกระแสจิตขึ้นไปข้างบน
    เพื่อไปติดต่อกับใครสักคนที่ตายไปแล้ว เพื่อถามคำถามอะไรบางอย่างกับพวกเขา พวกคุณคิดว่า..จะได้พูดกับใคร?

    พวกคุณกำลังคุยอยู่กับ “บันทึกแห่งฟ้า” ของคนๆนั้นอยู่หรือเปล่า? หรือว่า
    พวกคุณกำลังคุยอยู่กับผู้ที่กำลังมีชีวิตอยู่หรือผู้ที่ตายไปแล้วกันแน่?

    ฉันจะบอกพวกคุณเองว่า..
    ทั้งหมดที่พูดมานั่น ไม่มีอะไรถูกต้องไปทั้งหมดหรอก เพราะว่ามันเป็นอะไรที่สำคัญมากกว่านั้นเยอะ! ซึ่งพวกเราได้บอกพวกคุณไปแล้วก่อนหน้านี้

    พวกคุณสามารถที่จะติดต่อกับคุณป้ามาธา (Aunt Martha) ได้ เพื่อถามเธอว่าเธอฝังหีบสมบัติไว้ที่ไหน? แน่นอนว่าเธอจะต้องรู้แน่ๆ ทำไมหละ?

    ก็เพราะว่าพวกคุณกำลังคุยอยู่กับ “รอยประทับของข้อมูลข่าวสารของป้ามาธา” อยู่หนะสิ
    และข้อมูลข่าวสารที่ว่านั้น มันก็เป็นข้อมูลข่าวสารที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในรูปแบบที่จะทำให้พวกคุณ “รู้สึก” ว่ามันเป็นตัวป้ามาธาจริงๆซะด้วย!

    แต่อย่างไรก็ตาม พวกคุณจะสามารถถามป้ามาธาได้ไหมว่า
    “ชีวิตฟากฝั่งโน้นเป็นอย่างไรบ้าง?" หรืออะไรทำนองนั้น แต่ “รอยประทับของป้ามาธา” จะไม่รู้เรื่องนี้หรอกนะ! แล้วมันก็จะตอบพวกคุณได้แต่ข้อมูลที่เคยถูกบอกเล่ามาแบบซ้ำซากอีกต่อหนึ่ง เมื่อสมัยที่ป้ามาธายังมีชีวิตอยู่เท่านั้นเอง

    เธออาจจะพูดว่า “มันสวยงาม” “แล้วทางฟากโน้นมันเป็นยังไงบ้างหละ?” “มันน่ารัก” “ไม่เอา..เอาแบบละเอียดๆหน่อยสิ” “ฉันรักคุณ”

    เธอไม่รู้หรอก! เพราะว่ารอยประทับของป้ามาธาจะรู้เฉพาะสิ่งที่ป้ามาธาเคยรู้เท่านั้นเอง เพราะว่าพวกคุณไม่ได้กำลังพูดคุยอยู่กับผู้ที่อยู่ทางฟากฝั่งโน้นของม่านพรางจริงๆ

    พวกคุณคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกประหลาด แต่มันไม่ใช่นะ! มันทรงพลังอำนาจ และมันก็เป็นของจริงซะด้วย
    และพวกคุณก็สามารถเข้าถึงมันได้ และแม้แต่พูดคุยกับมันได้จริงๆซะด้วย

    มันเป็นของหลากมิติ และหากใครมีพรสวรรค์ก็จะสามารถเข้าถึงภูมิปัญญาโบราณนี้ได้ และสามารถกลับไปถามพวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขาเคยรู้มาได้ และกลับไปถามถึงสิ่งที่พวกเขาเคยรู้สึกได้ กลับไปถามถึงที่ๆพวกเขาได้เก็บซ่อนสมบัติเอาไว้ได้ พวกคุณจะได้เห็นตัวอย่างของสิ่งที่พูดมานี้บางส่วนในไม่ช้านี้แหละ

    แต่จงระวังไว้หน่อยว่า เหล่าผู้มีอำนาจที่อยู่บนโลกของพวกคุณ,
    เหล่าผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบขององค์กรทางจิตวิญญาณทั้งหลาย และเหล่าผู้นำทางศาสนาทั้งหลาย จะเรียกมันว่า “สิ่งชั่วร้าย” และจะเรียกมันว่า “ลัทธิความเชื่อ”

    เพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจว่า พวกคุณกำลังเคลื่อนเข้าไปอยู่ในสภาวะหลากมิติ
    ซึ่งก็เป็นสภาวะที่เหมาะสม ถูกต้อง เป็นความจริง นำไปใช้งานได้ แม่นยำ มีประโยชน์ และสามารถมองเห็นได้อย่างแท้จริง ไม่แพ้สิ่งอื่นๆเลย

    การถามบรรพบุรุษถึงสิ่งที่พวกเขาเคยรู้มา จะทำให้พวกคุณเข้าใจสิ่งที่พวกคุณกำลังศึกษาอยู่นี้ได้อย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น

    .............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2021
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากต่างมิติ – Energetic Consciousness (จิตสำนึกที่มีพลังงาน) - โดย ครายออน

    สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
    วันที่ทำการสื่อสาร: 17 กรกฎาคม 2010
    สถานที่: Berkeley Springs, West Virginia
    ผู้แปล: น่าจะเป็นคุณ Kindred เรียบเรียงโดย Chayutt


    ที่มา: Energetic Consciousness > Kryon

    ตอนที่ 11: กาลเวลาเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก

    ฉันอยากจะบอกหลักการอะไรบางอย่างให้พวกคุณรู้อีกสักหน่อย ซึ่งนี่จะเป็นอันสุดท้ายแล้ว เพราะว่าฉันได้เก็บเรื่องที่ยากที่สุดเอาไว้ตอนท้ายของข้อความชุดนี้ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่ฉันชอบมากที่สุดด้วย

    คู่หูเอ๋ย (พูดกับนายลี - ผู้แปล) พวกเรายังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันมาก่อนเลยนะ เพราะฉะนั้น ถ่ายทอดให้มันถูกต้องนะ (บอกให้นายลีพูดช้าลง และก็ไม่ต้องกังวลว่าข้อความชุดนี้มันจะยาวเกินไปด้วย)

    ฉันอยากจะแสดงให้พวกคุณเห็นว่า กาลเวลามันทำงานยังไง แต่ฉันก็ทำไม่ได้หรอก เพราะว่าความเป็นจริงเกี่ยวกับความเป็นหลากมิตินั้น มันสลับซับซ้อนมากเหลือเกิน เกินกว่าที่ศักยภาพของมนุษย์โลกจะสามารถเข้าใจได้

    คือ..มันไม่สามารถที่จะนำมาสอนได้ในการรับรู้แบบ 3 มิตินี้ของพวกคุณโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น ฉันจึงจะขอพูดในเชิงอุปมาอุปมัยเพื่อให้พวกคุณพอเข้าใจมันได้ก็แล้วกัน เพราะว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว แต่ว่า..มันก็จะเป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของความเป็นจริงทั้งหมดของมันหนะนะ

    กาลเวลาที่พวกเรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ จะเป็นกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงของพวกคุณนะ เพราะว่าสำหรับมนุษย์โลกที่อาศัยอยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้แล้ว พวกคุณก็จะรู้จักแต่เส้นกาลเวลา (time line) เส้นเดียวเท่านั้นเอง คือมันจะไม่มีเส้นกาลเวลาอื่นๆที่หลากหลายอยู่ด้วย มันจะมีแค่เส้นกาลเวลาเดียวเท่านั้นสำหรับพวกคุณ ซึ่งก็คือเส้นกาลเวลาที่พวกคุณกำลังอยู่กันในตอนนี้

    พวกคุณจะรับรู้มันแบบเป็นเส้นตรงแค่เส้นเดียว คล้ายๆกับทางรถไฟที่ทอดยาวเป็นเส้นตรงไปสู่อนาคต และมันก็จะเดินทางด้วยความเร็วแค่ความเร็วเดียวเท่านั้นด้วย แล้วก็จะเดินทางไปแค่ในทิศทางเดียวเท่านั้นอีกด้วย สำหรับชีวิตของพวกคุณและชีวิตของดาวเคราะห์โลกเอง และมันก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดไปด้วย

    แต่ว่าความจริงแล้วก็คือ.."กาลเวลา" มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา! และก็ยังมีข้อเท็จจริงอีกอย่างหนึ่งที่พวกคุณยังไม่เข้าใจก็คือ พวกคุณทุกๆคนสามารถก้าวออกมาจากทางรถไฟอันนั้นได้ด้วย แล้วก็สามารถสร้างเส้นกาลเวลาใหม่ ที่เร็วขึ้นหรือช้าลงกว่าเดิม ก็ได้ด้วยนะ แต่ว่าพวกคุณก็ไม่เคยรู้ทั้งสองเรื่องนั้นมาก่อนเลย

    พวกเราจะอธิบายเรื่องนี้ให้พวกคุณเข้าใจได้ยังไงนะ? เดี๋ยวฉันจะลองย่อมันให้กลายมาเป็นเส้นตรงก่อนก็แล้วกันนะ แล้วก็สมมุติว่าตอนนี้พวกคุณทุกๆคนกำลังอยู่บนเส้นกาลเวลาเส้นเดียวกันหมดก็แล้วกันนะ แต่ว่า..ก็นั่นแหละคือสิ่งที่พวกคุณกำลังคิดกันอยู่หละ เพราะฉะนั้นแล้ว มันก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยากอะไร

    ตอนนี้ฉันอยากจะให้พวกคุณลองสร้างทางรถไฟขึ้นมาในใจของตัวเองดูสักเส้นทางซิ ซึ่งทางรถไฟที่ว่านี้ก็คือตัวแทนของเส้นกาลเวลานั่นเอง แล้วจากนั้น ฉันก็อยากจะให้พวกคุณนำเอาหัวรถไฟมาใส่ไว้บนรางนั้น แล้วก็ปล่อยให้มันวิ่งไปข้างหน้าอย่างช้าๆดู โดยไม่มีการเปลี่ยนความเร็วเลย และสมมุติว่านั่นแหละคือความเป็นไปของชีวิตของพวกคุณหละ ซึ่งพวกคุณก็กำลังนั่งอยู่บนรถไฟที่ตัวเองสร้างขึ้นมานี้อยู่

    คราวนี้ ฉันอยากจะให้พวกคุณจินตนาการต่ออีกว่า รถไฟขบวนนี้กำลังวิ่งไปรอบโลกอยู่ ซึ่งในการรับรู้ของพวกคุณแล้ว พวกคุณก็จะเห็นว่ามันเดินหน้าตรงไปอย่างเดียวเลย เพราะว่าพวกคุณสามารถมองเห็นได้ไกลแค่สุดลูกหูลูกตาของตัวเองเท่านั้น แต่ว่าความเป็นจริงของมันก็คือ รถไฟขบวนที่พวกคุณสร้างขึ้นมานี้ เมื่อมันเดินทางไปได้รอบโลกแล้ว อ่าฮ้า!! เส้นทางมันก็กลายเป็นวงกลมไป

    ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เวลาพวกคุณมองไปข้างหน้านั้น มันก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังมองดูทางรถไฟที่ตัวเองเพิ่งผ่านมาด้วยในขณะเดียวกัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่า "กาลเวลามันเป็นวงกลม" และพวกคุณก็สามารถจินตนาการถึงมันได้ไม่ยากนัก แต่ว่าสิ่งที่ฉันจะกล่าวถึงต่อไปนี้ จะทำให้พวกคุณงงแล้วหละนะ

    กาลเวลาที่เวียนมาบรรจบกันเป็นวงกลมแบบนี้ ยังเป็นปริศนาสำหรับพวกคุณอยู่ในทุกวันนี้ เพราะว่าตามความเข้าใจของพวกคุณที่อยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้แล้ว กาลเวลามันจะเป็นเส้นตรง ที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด

    แต่ว่าพวกคุณก็ยังไม่รู้อีกหนะแหละว่าทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดนั้น มันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ดังนั้น มันจึงยังเป็นปริศนาสำหรับพวกคุณอยู่อีกเหมือนกัน แต่ว่าพวกคุณก็ยังชอบที่จะมองมันว่า มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดอยู่ เพราะว่ามันเหมาะกับพวกคุณ แต่ว่าในบัดดล! ในตัวอย่างที่ฉันยกขึ้นมานี้ มันกลับเป็นวงกลมที่ลากรอบโลกไป

    เพราะฉะนั้น เรามาดูคุณสมบัติบางอย่างของกาลเวลาแบบที่เป็นวงกลมกันซักหน่อยเถอะ ที่กำลังทำให้พวกคุณงงกันอยู่นี้

    เราลองมาสมมุติกันต่อว่า อายุขัยของพวกคุณยาวแค่ 30 เมตรเท่านั้นเองบนรางรถไฟสายนี้ ซึ่งก็ไม่ยาวนัก แต่มันก็เป็นชั่วอายุขัยของพวกคุณ รถไฟขบวนนี้วิ่งไปอย่างช้าๆ ช้ามากๆ รอบๆโลกของพวกคุณ เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปกังวลเลยว่าจะได้พบกับอดีตของตัวเองอีกเมื่อไหร่ ใช่ไหม?

    ซึ่งในระยะทาง 30 เมตร หรือชั่วอายุขัยของพวกคุณนี้ บางทีพวกคุณอาจจะยังไม่ทันได้พบกับอดีตของตัวเองด้วยซ้ำไป แต่เราก็จะมาสมมุติกันว่า พวกคุณจะได้พบกับอดีตของตัวเองก็แล้วกันนะ

    แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกคุณขับรถไฟคันนี้ไปรอบโลกอีก? ซึ่งคำตอบก็คือ ในท้ายที่สุดแล้ว พวกคุณก็จะขับรถไฟไปบนรางรถไฟรางเดิม หรือพลังงานเดิม ที่พวกคุณเคยขับผ่านมันไปก่อนหน้านี้แล้วหนะสิ ใช่ไหม?

    ซึ่งด้วยแนวคิดในลักษณะเดียวกันนี้ ถ้าพวกคุณขับรถไฟไปรอบๆโลกหลายๆรอบหละ? ในท้ายที่สุดแล้วพวกคุณก็จะขับรถไฟไปบนรางรถไฟเก่า ที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่อนาคตอยู่ใช่ไหม!

    อา..เห็นไหมหละ พวกคุณรู้คุณสมบัติอย่างหนึ่งของกาลเวลาไปแล้ว ในแบบที่พวกคุณคิดไม่ถึงมาก่อน ซึ่งถ้ามันเป็นวงกลมจริงๆ มันก็หมายความว่าอนาคตกำลังส่งผลกระทบต่อปัจจุบันอยู่หนะสิ!

    แต่ในมิติที่ 3 แห่งนี้ พวกคุณคิดว่าอนาคตคือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นใช่ไหม? แต่ว่ากาลเวลามันมีคุณสมบัติของความเป็นควอนตั้มอยู่ และก็จงจำเอาไว้เลยว่า สิ่งที่อยู่ในสภาวะควอนตั้มจริงๆนั้น พวกมันไม่ได้เป็นไปตามแนวคิดแบบโลกๆของพวกคุณหรอก แต่มันเป็นไปตามศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

    คราวนี้ฉันจะบอกข้อมูลอะไรบางอย่างแก่พวกคุณ ซึ่งฉันก็จะบอกพวกคุณในสไตน์เดียวกับที่นักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณกำลังมองมันอยู่นั่นแหละ..มันจะเป็นไปได้ไหมที่อนาคตจะสามารถส่งพลังงานและข้อมูลข่าวสารมาถึงพวกคุณที่อยู่ในปัจจุบันนี้ได้?

    คราวนี้ เราจะมาจินตนาการถึงรางรถไฟรางนั้นกันอีกสักครั้งหนึ่ง แล้วเราก็จะไปกันต่อในส่วนที่ซับซ้อนยิ่งกว่านี้อีก

    ตรงนี้มันจะมีหลายชั้นหน่อยนะ ทุกๆครั้งที่รถไฟของพวกคุณเคลื่อนที่ไปได้รอบโลกหนึ่งแล้ว มันก็จะมีทั้งอดีตและอนาคตเกิดขึ้นมา แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ารถไฟขบวนนั้นคือมนุษย์โลกซะเอง? คราวนี้พวกคุณก็จะมีทั้งอดีต, ปัจจุบัน, และอนาคต ของทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นแล้วบนรางรถไฟที่มีลักษณะเป็นวงกลมรางนี้

    คราวนี้ เราลองมาสมมุติสถานการณ์อะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นมาอีกสักหน่อยว่า ถ้าสมมุติว่าพวกคุณสามารถหยุดขบวนรถไฟขบวนนี้ได้หละ แล้วก็สามารถขุดลงไปในรางรถไฟรางนั้นได้ด้วย แล้วหยิบเอาสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยขึ้นมา หรือไม่ก็หยิบเอาสิ่งที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วขึ้นมา

    ที่รักทั้งหลาย ฉันไม่หวังว่าพวกคุณจะเข้าใจมันหรอกนะ แต่ก็ฟังไปเรื่อยๆก็แล้วกันนะ เพราะว่านั่นแหละคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกอยู่ในขณะนี้หละ

    คราวนี้เราลองมาเพิ่มความยากเข้าไปให้กับมันอีกสักหน่อยนะ สมมุติว่ารางรถไฟรางนี้ จะต้องวิ่งขึ้นเขาและลงเขาอยู่หลายแห่ง และภูเขาและหุบเขาเหล่านั้น ก็ล้วนเป็นภูเขาและหุบเขาเดียวกันกับที่อยู่ในรางรถไฟแห่งกาลเวลารางเดียวกันนี้เป๊ะเลยด้วย

    เพราะฉะนั้นแล้ว ในระหว่างที่พวกคุณกำลังเดินทางไปรอบๆโลกรอบแล้วรอบเล่าอยู่นี้ ถ้าพวกคุณฉลาดมากพอสักหน่อย และก็มีระบบอะไรที่สามารถเข้าใจรางรถไฟแห่งกาลเวลารางนี้ได้ด้วย พวกคุณก็จะสามารถสร้างแผนที่ของภูเขาและหุบเขา ที่รถไฟแห่งกาลเวลาของพวกคุณจะต้องปีนขึ้นปีนลงขึ้นมาได้เลยทีเดียว

    และพวกคุณก็จะสามารถเรียกมันว่า Time Fractal ได้เลยทีเดียว ซึ่งมันก็ถูกต้องแล้ว (ครายออนยิ้ม) ในทุกๆครั้งที่พวกคุณเดินทางมาถึงจุดๆนั้นของกาลเวลา ไม่ว่ามันจะอยู่ในอดีตหรืออนาคตก็ตาม พวกคุณก็จะได้เจอกับภูเขาและหุบเขาลูกเดิมๆนั้นเสมอ

    มนุษย์โลกที่รักทั้งหลายเอ๋ย สิ่งที่ฉันกำลังบอกพวกคุณอยู่นี้ก็คือ นี่แหละคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในชั่วขณะนี้เลยหละ (คือการที่พวกเรากำลังวนเวียนกลับไปเผชิญกลับเหตุการณ์เดิมๆที่เคยเกิดขึ้นแล้วบนดาวเคราะห์โลกของเรา เมื่อในอดีต - ผู้แปล)

    แต่ว่าฉันก็ได้ใช้วิธีการอธิบายที่ง่ายที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ไปนะ เพื่อให้พวกคุณเข้าใจถึงความเป็นหลากมิติของกาลเวลา คือ..พวกคุณกำลังไปเยือนศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ของสิ่งที่พวกคุณคิดว่ายังไม่เกิดขึ้นอยู่ แต่ในความเป็นจริงระดับควอนตั้มแล้ว มันได้เกิดขึ้นแล้ว

    และตอนนี้พวกคุณก็กำลังได้รับคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นเรื่อยๆอยู่ บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ เพื่อที่พวกคุณจะสามารถมองดูรางรถไฟแห่งกาลเวลารางนี้ได้ แล้วเลือกเอาว่าที่ไหนที่พวกคุณต้องการจะไป

    เพราะว่าตอนนี้พวกคุณกำลังมองดูศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ของสิ่งที่เป็นควอนตั้มอยู่ ซึ่งกำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความสั่นสะเทือนขึ้นอยู่ และพวกคุณก็กำลังสร้างอารยธรรมมนุษย์อารยธรรมใหม่ขึ้นมาอยู่ ที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าที่พวกคุณจะจินตนาการได้

    เพราะว่าข้อมูลนี้ มันจะบินไปอยู่ต่อหน้าคำพยากรณ์ทุกๆคำพยากรณ์เลยทีเดียว เพราะว่าคำพยากรณ์ใดๆ ก็คือสิ่งที่ตั้งอยู่บนรากฐานของเส้นกาลเวลาแค่เส้นเดียว ที่มีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น ในมิติที่ 3 ของพวกคุณ

    แต่ว่าเมื่อใดที่พวกคุณเริ่มที่จะกลายเป็นมนุษย์หลากมิติแล้ว ข้อมูลข่าวสารก็จะกลายเป็นพลังงานไป และสิ่งที่อยู่บนรางรถไฟแห่งกาลเวลารางนั้น ก็จะกลายเป็นข้อมูลข่าวสารของศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ของดาวเคราะห์โลกไป

    มันเป็นไปได้ไหมว่าบรรบุรุษของพวกคุณจะรู้เรื่องนี้ด้วย? แน่นอน..พวกเขารู้อยู่แล้ว! แล้วมันเป็นไปได้ไหมว่า ผู้ที่อยู่ในอนาคตที่อาจเป็นไปได้จะรู้เรื่องนี้ด้วย? แน่นอน..พวกเขาก็รู้ด้วย! ซึ่งต่างจากการรับรู้ในมิติที่ 3 ของพวกคุณ..คือพวกเขารู้

    *Crop Circle คืออะไร*

    เอ่อ..คราวนี้..มันอาจจะเหมือนกับว่าฉันกำลังเปิดหนังสือไปอีกหน้าหนึ่งอยู่สักหน่อยนะ เพราะว่ามีบางคนในนี้อยากรู้ว่า Crop Circle คืออะไร ดังนั้น ฉันก็เลยจะบอกพวกคุณเสียเลย มันเป็นคำถามที่ดีนะ เพราะว่ามันชวนคิดมากๆ

    Crop Circle หลายๆอันคือการประทับตราลงมาของพลังงานจากอนาคต!

    อ้าว..แล้วมันเป็นยังไงหละ? คราวนี้ก็เลยกลายเป็นว่า พวกคุณไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมจากที่เคยรู้มาก่อนเลยใช่ไหม? เพราะว่ามันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย ใช่ไหม?

    แต่ว่า..ด้วยตัวอย่างที่พวกเรายกขึ้นมาแล้ว จากเรื่องรางรถไฟ ก็น่าจะพอทำให้พวกคุณสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ของมันขึ้นมาบ้าง ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกคุณเชื่อและเข้าใจจริงๆ

    ตอนนี้พวกคุณกำลังอยู่ในสภาวะแห่งการ Entangle ของโลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่งอยู่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในมิติที่พวกคุณจะสามารถรับรู้ได้ แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่จะอธิบายได้ยากมากๆเลย เพราะว่าโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ ทำให้พวกคุณคิดเป็นแต่แบบที่เป็นเส้นตรง และมันก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีกที่จะทำให้พวกคุณเข้าใจได้ แต่มันก็เป็นการง่ายที่พวกคุณจะสามารถรู้สึกถึงมันได้

    ลองจินตนาการดูสิว่า พวกคุณจะรู้สึกอย่างไร? ถ้าพวกคุณสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว ลองจินตนาการดูสิว่า พวกคุณจะรู้สึกอย่างไร? ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณได้วางแผนเอาไว้ เสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงแล้ว ลองจินตนาการดูซิว่า พวกคุณจะรู้สึกอย่างไร? ถ้าพวกคุณมองย้อนกลับไปแล้วพูดว่า "มันก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่นี่นา"

    ลองจินตนาการดูซิว่า พวกคุณจะรู้สึกอย่างไร? ถ้าเรื่องที่ยุ่งยากที่สุดที่พวกคุณได้นำมาด้วยในวันที่มีการประชุม ถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้วและจบสิ้นลงแล้ว (ตรงนี้น่าจะหมายถึง ในตอนที่เราไปประชุมกันกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่จะลงมาเกิดร่วมภพชาติกับเรา เพื่อมาแก้ไขและสะสางกรรมเก่าที่มีต่อกันให้จบสิ้นลง ก่อนที่เราจะลงมาเกิด - ผู้แปล)

    มนุษย์โลกเอ๋ย จงหายใจเข้าลึกๆแล้วหายใจออกเพื่อปลดปล่อยพลังงานควอนตั้มออกมา แล้วมองดูมันอย่างที่ฉันกำลังมองดูอยู่นี่ แล้วพวกคุณก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตแบบควอนตั้มไปจริงๆ และในความเป็นจริงระดับที่ลึกที่สุดนั้น พวกคุณเพิ่งสร้างมันขึ้นมาเดี๋ยวนี้เอง ขอแสดงความยินดีด้วยนะ!

    คราวนี้ก็เดินออกจากสถานที่แห่งนี้ไป ด้วยวิธีการแบบ 3 มิติของพวกคุณ แล้วเดินออกไปด้วยก้าวย่างที่พวกคุณเคยทำกันมาแล้ว

    นี่แหละคือข้อความของฉันสำหรับวันนี้ ข้อมูลข่าวสารคือพลังงานหลากมิติ และทุกสิ่งทุกอย่างก็สามารถเป็นไปได้ทั้งนั้นด้วย เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้หมด

    และถ้าพวกคุณคนใดมาที่นี่..ในสถานที่แห่งนี้ หรือได้เข้ามาอ่านข้อความนี้ มันก็เป็นไปได้มากว่าพวกคุณคือจิตวิญญาณเก่าแก่คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่กำลังอยู่ในกระบวนการตื่นรู้นั่นเอง

    เพราะฉะนั้นแล้ว จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย พวกคุณจะไม่ยอมพลาดแน่นอนเลย ใช่ไหม? ฉันไม่ได้กำลังพูดถึงการชุมนุมกันในครั้งนี้หรอกนะ แต่ฉันกำลังพูดถึงชีวิตของพวกคุณในภพชาตินี้ต่างหาก เพราะว่พวกคุณได้พากันเวียนว่ายตายเกิดกันมากี่ภพชาติแล้ว เพื่อที่จะรอให้ถึงยุคแห่งการเลื่อนระดับขึ้นเช่นยุคนี้?

    พวกคุณคิดว่ามันมีภูมิปัญญาอะไรอยู่ในบันทึกแห่งฟ้าของพวกคุณบ้าง? ถ้าพวกคุณได้ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมาหลายภพชาติแล้ว และพวกคุณคิดว่าพวกคุณได้เดินทางไปบนรางรถไฟรางนั้นครบรอบกี่รอบโลกแล้วหละ?

    พวกคุณเข้าใจไหมว่าพวกคุณก็คือบรรพบุรุษของตัวเอง? และพวกคุณเข้าใจไหมว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ล้วนถูกบันทึกอยู่ในบันทึกแห่งฟ้า (Akashic Record) ของพวกคุณเรียบร้อยแล้ว? มันมีอยู่แล้วใน DNA ของพวกคุณ! มันแค่รอเวลาให้พวกคุณมองเห็นมันอย่างที่มันเป็นอยู่เท่านั้นเอง

    คู่หูของฉันบอกว่า "จงเดินจากไปในแบบที่แตกต่างจากตอนที่พวกคุณเดินเข้ามา" เขาเอาคำพูดนั้นมาจากฉันเองแหละ ก็..จงเป็นไปตามนั้น

    And so it is

    KRYON

    ...................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2021
  18. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    บทความนี้ ทำให้นึกถึงเรื่องที่พี่นักเขียนเคยเล่าให้ฟัง

    ครั้งหนึ่งพี่นักเขียนเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดต่างจังหวัด

    ไปกันกลุ่มใหญ่ และนอนพักรวมกันที่ศาลาวัด
    ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ด้วย คือเป็นเหมือนโบสถ์ที่ไว้ทำวัดด้วย

    พี่นักเขียนเล่าให้ฟังว่า นอนหันศรีษะไปทางพระพุทธรูป
    แล้วทางปลายเท้า ก็มีเสาตกน้ำมันอยู่ต้นหนึ่ง
    บนขื่อมีผ้าเหลืองพระผูกไว้ ปลายห้อยๆลงมา
    พี่นักเขียนก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก

    จากนั้นก็หลับไปแล้วก็ฝันว่า เห็นแต่ศรีษะผู้หญิงโผล่ขึ้นมาจากพื้นไม่กระดาน

    และที่ลำคอมีผ้าเหลืองพันไว้รอบ โยงไปจนถึงขื่อข้างบน
    เป็นตำแหน่งตรงเสาตกน้ำมันต้นนั้นพอดี

    เช้ามาพี่นักเขียนก็ได้เล่าให้ท่านเจ้าอาวาสฟัง ท่านก็ดูตกใจ

    พี่นักเขียนเลยถามว่า ที่วัดนี้เคยมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น
    ท่านเจ้าอาวาสเลยเล่าให้ฟังว่า

    ตอนที่กุฏนี้เริ่มสร้างได้เคยมีพระธุดงค์หนุ่มรูปหนึ่งเดินทางมา

    แล้วขอจำพรรษาที่วัดนี้ พอพระองค์นั้นเข้าไปที่กุฏิ
    แล้วบอกกับพระดูแลที่นั้นว่า เสาตกน้ำมันต้นนี้ มีวิญญาณติดค้างอยู่
    จะขอปลดปล่อยดวงวิญญาณให้ไปสู่สุขคติ ไม่ต้องมาทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้
    จึงขอทำพิธีให้

    พระผู้ดูแลก็มิได้ว่ากล่าวอะไร ถ้าไม่ใช่พิธีกรรมที่ผิดวินัยสงฆ์ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

    จากนั้นพอท่านเจ้าอาวาสในขณะนั้นทราบเรื่อง ก็ให้คนมาบอกให้เลิกทำพิธี
    แล้วก็ขับไล่พระสงฆ์รูปนั้นไป
    เพราะคิดว่า พระหนุ่มรูปนั้น มาทำพิธีกรรมที่ไม่ชอบมาพากล
    พระธุดงค์รูปนั้นพยายามอธิบายให้ฟังแต่ก็ไม่เป็นผล
    พระธุดงค์รูปนั้นจึงต้องจำใจจากมาในคืนนั้นเลย

    ตอนแรกฟังไปก็ขนลุกไป

    แต่พี่นักเขียนกลับหัวเราะแล้วบอกว่ามันคืออะไรรู้ไหม

    พี่นักเขียนไปรับรู้เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

    ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลยนะ ทำไมโยมรู้
    เนื่องจากเจตนาที่แรงกล้าของพระรูปนั้นที่จะทำพิธีปลดปล่อยดวงวิญญาณ
    แต่ทำไม่สำเร็จ มันจึงเกิดรอยประทับทางด้านพลังงาน
    ของเรื่องราวนั้นๆขึ้น ณ ที่จุดนั้น


    ...............................................................

    อันนี้ พีนักเขียนอธิบายมาสองเรื่อง


    เรื่องแรก คือ เรื่องราวและเหตการณ์ต่างเป็นพลังงานที่ไม่เคยสูญหาย


    เรื่องที่สอง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดำเนินไปพร้อมกัน


    พี่นักเขียนไปรับรู้ในมิติที่เหตุการณ์นั้นกำลังดำเนินอยู่
    ไม่ได้ไปรับรู้อดีต แต่ไปรับรู้รอยประทับของเหตุการณ์นั้นต่างหาก

    ดังนั้น ในทุกๆที่ ก็จะมีรอยประทับของพลังงาน หรือมีผีทั้งนั้น
    อยู่ในคลื่นต่างๆ ทีี่เรียกว่ามิติต่างๆ หรือโลกต่างมิติ
    แต่สถานีรับความถี่(ตัวเรา)จะไปรับรู้ได้ ก็ต่อเมื่อความถี่ของเรา(สติสัมปชัญญะ)
    เกิดจูนช่องความถี่ตรงกับความถี่นั้น จึงรับได้
    หรือที่เรียกว่า การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อ

    เหมือนวิทยุ โทรทัศน์ ที่เมื่อเราปรับจูนช่อง มันก็เปลี่ยนสถานี
    ในขณะที่ทุกรายการมันก็ดำเนินของมันอยู่แล้วพร้อมกันหมด
    แต่เรารับรู้ได้ ในมิติทางกายภาพนี้ทีละครั้งเท่านั้น
    เราจึงรับได้ที่ละช่อง


    ........................................................

    ส่วนเรื่องการไล่ผี ด้วยพลังงานความรักที่ว่า
    ก็อาจหมายถึงการแผ่เมตตาก็เป็นได้
    แต่เราอย่าลืมว่า ความรักต้องเกิดจากความรู้สึกจริงๆ
    ไม่ใช่แผ่เมตตาเพราะกลัวผี แล้วอยากไล่
    ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่นะ

    แล้วถ้าเราไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองที่คนส่วนใหญ่
    รวมทั้งวิญญาณ ณ รอยประทับในแต่ละสถานที่
    ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ เขาจะฟังบทสวดมนต์เราออกไหม

    แต่หากเราแผ่เมตตาด้วยความรักและเมตตาจริงๆ
    ปรารถนาให้เขาไปสู่สุขคติ บทสวดใดก็คงไม่จำเป็น
    เพราะความรักเป็นภาษาของจักรวาล มันสากลยิ่งกว่าสากล
    โดยไม่ต้องมีคำแปลใดๆเลยนะ....ว่าไหมเอ่ย

    เล่าสู่กันฟังจ้า...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2011
  19. fullmoon5

    fullmoon5 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +44
    ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันเสมอๆ เลย นะคะ
     
  20. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ขอบคุณ คุณเดรดจ้า (รวมทั้งคุณชยุตและพี่นักเขียนด้วย)
     

แชร์หน้านี้

Loading...