วันพิพากษากำลังจะมาถึง เร็วจนไม่มีใครตั้งตัวมาก่อน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไลซ์, 5 มกราคม 2007.

  1. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    ระวังให้ดี มันจะเริ่มขึ้นทีละนิดตั้งแต่ กลางเดือน มกรานี้ เป็นต้นไป
    แล้วจะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มีนาคมนี้ เป็นต้นไป

    มกราคม - ประเทศเริ่มขาดเข้าสู่สภาวะผู้นำไร้ความสามารถ จะมีการออกมาต่อต้าน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย กลางเดือนเป็นต้นไปจะมีฝนผิดฤดูที่บอกถึงอาเพสจะเริ่มมา เพื่อเป็นสัญญาณเตือน
    กุมภาพันธ์ - ต้นเดือนคงดีใจว่าทุกอย่างจะเริ่มเข้าที่ เพราะมันดูเหมือนอะไรๆ ก็จะนิ่งทรงตัวอยู่อย่างนั้น ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่มีอะไรเลวลง แต่มันเปรียบเสมือนเชื้อโรคร้ายที่กำลังบ่มฟักตัวเพื่อรอการเจริญเติบโต
    ประมาณก่อนกลางเดือนไม่กี่วัน การเมืองคือตัวทำลายประเทศ
    หมดคนดีแล้วประเทศเรา กำลังเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง มันคือละครที่เคยแสดงไปแล้ว กำลังจะนำกลับมาฉายอีกครั้งตั้งแต่ก่อนกลางเดือนนิดหน่อยถึงปลายเดือน ประเทศจะพบกับภาวะขาดแคลนน้ำอีกครั้ง
    มีนาคม - ฝนผิดฤดูเริ่มมาอีกครั้ง พร้อมนำพาความโหดร้ายที่มากกว่าเดิมมาด้วย บ้านเมืองเงียบสงบ นั่นไม่ได้หมายถึงความสงบสุข แต่มันคือความเงียบสงัด
    เมษายน - เสมือนแม่เหล็กคนละขั้ว ไม่มีน้ำแม้กระทั่งจะเล่นสงกรานต์ จากพายุฝนอันโหดร้ายได้กลายเป็นแสงแดดที่แผดเผา
    พฤษภาคม เป็นต้นไป ธรรมชาติเล่นกล หอบพายุฝนมาช่วยบรรเทา อีกครั้ง มาคืนแล้วคืนเล่าไม่หยุดหย่อน เดือนหนึ่งแล้งเดือนหนึ่งฝนสลับกันไป
    คือความวิปริศที่ธรรมชาตินำมาตอบแทนบุญคุณที่พวกเราตั้งใจดูแลธรรมชาติเป็นอย่างดีตลอดมา
    มิถุนา - มันไม่ทันเสียแล้วที่จะแก้ไขอะไรในตอนนี้ ไม่รู้ว่าเดือนต่อไปคือเดือนอะไรต่อไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการตัดสินให้จบสิ้น ไม่มีการแก้ตัว ไม่มีการสำนึก ไม่มีการยื่นอุทรณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น ชีวิตที่เหลือรอด คือชีวิตที่แสนทุกข์ทรมาน ความท้อแท้ สิ้นหวังจะมาเยือน ต้องใช้เวลานับแรมปี ในการฟื้นฟูสภาพจิตใจ
     
  2. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    รอดูเถิด

    ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่ให้รอพิสูจน์เถิด
    ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่มีความหมายอีกต่อไป
    ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้พิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกต่อไป ผู้ผิดดิ้นรนไปมันก็ไม่พ้นความผิด ก่อนจะทำดีไถ่โทษก็ต้องได้รับโทษก่อน รอดูเถอะฝูงชน เพราะมันอาจเร็วกว่านั้นโดยที่ใครก็ไม่คาดคิ้นไปเสียด้วยซ้ำ
     
  3. kepokman

    kepokman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +337
    อ่อ ปีนี้จะเกิดปรากฏการ เอลนินโย่วๆ หรือ ญานิญญ่า หรือ โรนัลดินโญ่

    งง ตกลงเข้าเรียกว่าอะไร แต่ผมทราบว่าปรากฏการนี้ ทำให้ มันแล้งมากๆๆ ฝนตกก็จะตกมากๆๆๆๆ

    แต่ผู้นำไร้ความสามารถ พาดพิงถึงใครครับ !

    การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ก็ข่าวลือมาจากเมื่อวานแหละ ผมก็ทราบ แต่ไม่ทราบข่าวจะจริงมั้ย แต่ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่
     
  4. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    เอาเป็นว่าเข้ามาเตือนครับ
    ถ้ามากระแทกกันก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่านะครับ
    ก็บอกอยู่ว่าให้รอดูไม่ได้บอกให้เชื่อ ถ้าเกิดว่าไม่มีความสามารถในการ
    เข้าใจภาษามากพอ แนะนำให้อ่านอีกสิบรอบครับ
    ว่าผมบอกให้รอดู ไม่ได้บอกให้เชื่อ

    **ส่วนเรื่องข่าวลือเมื่อวานน่ะ ผมรู้ข่าวมาก่อนคุณซะอีก
    ผมเล่นหุ้น ข่าว insider พวกนี้พวกเรารู้กันก่อนคุณอยู่แล้วครับ เห็นได้จากการที่หุ้นกระหน่ำลงตั้งแต่ยังไม่มีข่าวลือออกมาซะอีก แล้วก็รู้ด้วยว่าไม่มีการปฏิวัติแล้ว เพราะเค้าเจรจากันได้ข้อตกลงแล้ว ถ้าผมจะออกมาทำนายอะไรที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว คงไม่หรอกครับ เพราะในเมื่อรู้ข่าวว่าไม่ปฏิวัติแล้ว คงไม่เอามาโพสต์อีกว่าการเมืองจะมีปัญหา แต่ที่ผมโพสต์คนละประเด็นกันครับ
    ส่วนผู้นำไร้ความสามารถที่โพสต์ไป ยังเหลืออีกตั้งหลายอาทิตย์กว่าจะสิ้นเดือน ถึงตอนนั้นผู้นำอาจเป็นคนอื่นไปแล้วก็ได้ หรือไม่อาจไม่เปลี่ยน ถ้าใครอยู่ตอนนั้นก็หมายถึงคนนั้นแหละครับ
    ส่วนเรื่องปรากฎการณ์ที่คุณเรียนมาผิด ๆ น่ะครับ เค้าเรียกปรากฎการ ลานิญญ่า ไม่ใช่ ญานิญญ่าครับ

    ท่านผู้อื่นที่ผ่านมาอย่าหาว่าผมหยาบคายหรือเสียมารยาทเลยนะครับ
    เพียงแค่อยากเอาบางอย่างมาเสนอ แต่ผมไม่เข้าใจครับว่าทำไมยังชอบมาป่วน ทั้ง ๆ ที่เจตนาหวังดีออกมาบอกกัน แล้วก็บอกแล้วว่ายังไม่ต้องเชื่อ ให้รอดู !!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2007
  5. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +1,444
    อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด
     
  6. เจสุน ลาโม

    เจสุน ลาโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2006
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +218
    อืม
    ที่คุณศิวิไลซ์บอกมามันก็มีส่วนจริงนะ
    แต่จะจริงซักกี่เปอร์เซ็นต์ก็ต้องรอดูเหมือนกัน

    ซัมโดรล ซังโม
     
  7. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ถามตอบระบบเศรษฐกิจพอเพียง​

    ธุลีกองฟอน "ระบบเศรษฐกิจพอเพียงไม่ทำให้คนยากจนดอกหรือท่าน"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "ไม่หรอก เราต้องพิจารณาจากทรัพยากรธรรมชาติที่เรามีทั้งโลก (Total global resource) แบบตรงไปตรงมา แล้วเปรียบเทียบกับผลผลิตที่เราทำได้ ซึ่งเราพบว่าเมื่อเราทำงานหนักด้วยแรงขับดับทางด้านทุนนิยม ทำให้เราได้ผลผลิตล้นเกินพอดี เสื้อผ้าเรามีมากมาย สองสามตู้ไม่ได้หยิบมาใช้ ยังไม่ทันเก่า และไม่ขาดวิ่น บ้านเราหลังใหญ่พอที่จะจัดงานบวชลูกชายได้ แต่เราใช้นอนจริงๆ ไม่เท่าไร รถยนต์เรามีหลายคัน วิ่งเปลืองน้ำมันหมดเงิน สิ้นรอบไปมาเพราะการวางผังเมืองที่ไม่ดี แต่นั่นก็ไม่เพียงพอแต่การสนองตอบต่อความเบื่อของเราได้ อาหารเรากินเต็มโต๊ะแต่ว่ามีเศษอาหารเหลือมากมายในแต่ละจาน จริงๆ แล้วผลิตผลมวลรวม (GDP) ของเราสามารถเลี้ยงคนได้ทั้งโลกด้วยซ้ำไป นี่เกิดจากการผลิตแบบปกตินะ ชาวไร่ชาวนายังไม่ได้ทำงานเต็มที่ (Full-employment) ด้วยซ้ำ นั่นแปลว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้มีปัญหาด้านความขาดแคลนหรือปริมาณในผลิตผลที่ทำได้ แต่เรามีปัญหาด้านประเภทผลิตภัณฑ์ (Product variety and quality) และการกระจายผลิตภัณฑ์ (Total distribution) มากกว่า จุดนี้เอง ทำให้ผลผลิตมวลรวมที่ได้ปริมาณมากเกินพอดีแล้ว (Over productivity) เป็นไปในด้านที่ขาดคุณภาพ (Low quality) บางอย่างสร้างขึ้นมาสนองกิเลสตัญหา และช่วยก่ออาชญากรรม ทั้งนี้ความเหลื่อมล้ำทางการกระจายรายได้ (Unbalance of product distribution) ยังกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมสูงขึ้นอีก ทำให้รัฐบาลมีต้นทุนค่าดูแลสังคมเพิ่มขึ้น (High social capital)"

    ธุลีกองฟอน "แล้วปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่เราเจอทุกวันนี้ที่แท้จริงมันอยู่ที่ไหนครับ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "เราต้องมีสติ อย่าไปวิ่งตามเงา ความหมายก็คือ การที่เราวิ่งไล่กำไรซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะภายใต้ระบบทุนนิยมนี้ เราเป็นปลาเล็ก ไม่อาจต้านทานกระแสเศรษฐกิจโลก เราต้องไหลตามน้ำเขาอย่างเดียว นี่คือ ลักษณะปกติของทุนนิยม ใครมีทุนมากก็ได้เปรียบ แต่เราเพิ่งรู้สึกตัวเมื่อกระแสมันไหลต่อไปไม่ได้แล้ว พอเราวิ่งต่อไปไม่ได้ เงาที่ไล่หลังเรามา (ดอกเบี้ยเงินกู้) ก็แสดงฤทธิ์ เจ้าหนี้เริ่มฟ้องล้มละลาย ผู้บริหารเริ่มสร้างภาพลักษณ์ออกโฆษณาสร้างความน่าเชื่อถือ มีแต่ภาพลักษณ์และอนาคต แต่ไม่มีผลงานทั้งในด้านทางการตลาดซึ่งวัดง่ายๆ ด้วยยอดขาย (Sale volume), ความภักดีต่อตราสินค้า (Brand loyalty) และในการอัตราการทำกำไร (Profit margin) หรือแม้นแต่ปริมาณการผลิตที่คุ้มทุน (Economic of scale uncontrollable) เราก็ควบคุมไม่ได้ เพราะผลิตยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน คู่แข่งขันก็ออกสินค้าตัวใหม่ ลูกค้าเห่อก็ไปซื้อตัวใหม่ กรณีนี้เห็นบ่อยในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิก ซึ่งกำลังจะล้มละลายอีกมาก มีทางเดียวคือหาตลาดใหม่เมื่อตลาดคลายตัวลง (Decline) นี่คือปัญหาที่แท้จริงของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งก็คือ ตัวระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมนั่นแหละที่เป็นตัวปัญหา ไม่ใช่ปริมาณทรัพยากรที่มี (Resource quantity) หรือด้านแรงงาน (Labor force) ใดๆ เลย"

    ธุลีกองฟอน "ที่กล่าวว่าปัญหาน้ำมันแพง, ต้นทุนแรงงานสูง, ตลาดหดตัว ไม่ใช่ปัญหารึ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "ไม่ใช่ นั่นเป็นธรรมชาติของการล่มสลายของระบบทุนนิยมต่างหาก เป็นธรรมชาติในช่วงถดถอยของระบบ (Decline stage) เป็นปกติของมัน ทีนี้ทางแก้ของระบบทุนนิยมของเขาก็คือ การวิ่งหาตลาดใหม่ (New market explanation) เพื่อจะได้ต้นทุนที่ต่ำลง (Lower cost) และได้ฐานตลาดที่กว้างขึ้น (High target market) มันไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริง มันเป็นปัญหาของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมต่างหาก เหมือนเราไถนา แล้วเครื่องไถนามันเสีย จะไปโทษที่นาฟ้าดินไม่ได้"

    ธุลีกองฟอน "แล้วปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริงคืออะไรครับ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริง ข้อที่หนึ่งคือ เราไม่สามารถควบคุมทิศทางการผลิตสินค้าที่ควรผลิตเพื่อพัฒนาประเทศชาติได้ (Uncontrolled production) เพราะระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม เป็นระบบปล่อยปละเลยเลยให้เอกชนแข่งขันกันเอง (Non-direction in competition) แล้วให้ประชาชนตัดสินใจ โดยไร้ทิศทางการนำไปสู่การพัฒนาชาติ (Non-direction in social development) เช่น การผลิตเหล้าสนองความต้องการคนจนที่เครียด ยิ่งจนยิ่งเครียด เลยยิ่งกินเหล้า เราเห็นในโฆษณาไหม นั่งขำแย่ นั่นแหละประเทศเราเอง มันย่ำแย่อยู่ให้เราเห็นแล้วนั่งขำ แต่ช่วยอะไรกันไม่ได้ แบบนี้ ลูกค้าเป็นคนตัดสิน ซึ่งเราไม่มีใครนำทางว่าควรนำเงินไปซื้ออะไร แต่เขามีความเครียดจากการแข่งขันในระบบทุนนิยม แน่นอนว่าเขาต้องเลือกระบายความเครียดกับสิ่งที่ให้ผลเร็ว (High speed response but high bad side effect) ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันให้ผลเสียที่รุนแรงตามมาต่อสุขภาพกายและใจ และต่อสังคมโดยรวม เขาจะไม่เลือกสิ่งที่ต้องใช้เวลานานๆ ในการสร้างความสุขที่แท้จริง เขาจะไม่เลือกไปนั่งสมาธิแก้เครียด เพราะระบบทุนนิยมไม่อนุญาติให้เขาได้มีเวลาในชีวิตแบบนั้น ระบบทุนนิยมอนุญาติให้เขาเป็นหมูในคอกที่เลือกกินอะไรก็ได้ อ้วนแล้วรอขึ้นเขียงตายไปเท่านั้นเอง ทั้งๆ ที่ สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตคือเวลาในชีวิตของคนที่หดหายไปกับการทำงาน แต่ไม่ว่าทำงานได้เงินมาเท่าไร ทว่าซื้อกลับมาไม่ได้ ปัญหาข้อที่สองคือ ด้านการบริโภค ที่กระตุ้นลัทธิวัตถุนิยมขึ้น เป็นข้อเสียที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันของระบบทุนนิยม ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนไม่มีเวลาได้รับความรักจากพ่อแม่ เลยไปเล่นเกมออนไลน์ เล่นไปเล่นมา มีแต่เกมยิงฆ่าทำลาย ก็เกิดความก้าวร้าว พ่อแม่สอนไม่ได้ สถาบันครอบครัวก็ล่มสลาย ทีนี้สังคมไทยก็รอถึงยุคเด็กนรก "แล๊กน่าร๊อก" ขึ้นมาเป็นนายก แถมใช้ประชานิยมอีกที สงสัยเกมฆ่ากันนอกจออาจเกิดขึ้นสนุกกันคราวนี้ ปัญหานี้มีมานาน จนแม่บางคนต้องโดดตึกตายเพราะลูกไปเล่นเกมไม่เชื่อฟังพ่อแม่เป็นข่าวมาแล้ว พอโตขึ้นความที่เกเรเลยไม่สามารถสอบแข่งขันได้ตำแหน่งดีๆ เลยไม่มีงานทำ จึงไปปล้นไปก่ออาชญากรรม แล้วก็เข้าสู่วังวนยาเสพติด บ้างก็มีพรรคพวกสนับสนุนให้ลองก่อการร้ายดู เห็นว่าทำได้ ตำรวจจับไม่ได้ เลยคึกคะนองทำบ่อยๆ ท้าทายดี เพราะมันฝึกจิตมาแบบนี้ตั้งแต่เด็ก อีกพวกหนึ่งแข่งขันสอบได้ตำแหน่งดีๆ เป็ฯชนชั้นกลางของสังคม พอโตขึ้นทำงานเครียดก็ต้องโกยเงินให้คุ้มค่าการทำงานที่เครียดนั้น แล้วขยับตัวเองขึ้นมาเป็ฯชนชั้นนายทุน ทีนี้วังวนการโกงกินก็เกิดขึ้นทุกระดับ ต่อยอดไปสู่วังวนอำนาจการเมืองต่อ ไม่มีใครหนีวังวนความเครียดไปได้ เครียดมากก็ไประบายความเครียดผ่านความใคร่และความรุนแรง จึงไม่แปลกที่ทุกสื่อของอเมริกันจะต้องมีเซ๊กและความรุนแรง เช่น ภาพผู้หญิงยั่วยวนและการระเบิดเตะต่อย อยู่ในงานสื่อนั้นเสมอ นี่คือ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นรสนิยมที่เปลี่ยนไปอันเป็นผลร้ายจากลัทธิวัตถุนิยม ลูกน้องของระบบทุนนิยมเขานั่นเอง"

    ธุลีกองฟอน "ฟังดูแล้วมันเหมือนไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันเลย"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "แน่นอน เพราะพวกเขาไม่คิดว่านี่คือปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบไปสู่ปัญหาสังคมและภาพรวมของประเทศชาติ เขาคิดแต่จะตามก้นฝรั่งมังค่า แก้ปัญหาวนเวียนตามเขาไปแบบนั้น ซึ่งตราบใดที่กระแสเศรษฐกิจไม่ดี เราไปควบคุมอะไรไม่ได้เด็ดขาด เพราะเราไม่ใช่ปลาใหญ่ ไม่ใช่เซตใหญ่ ไม่ใช่ต้นกระแส เราเดินกลยุทธตามกระแส จะแข่งขันกับเขาอย่างไรก็ไม่มีทางทันในทุกด้าน ดังนี้ การไปปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย (Interest rate), ค่าใช้จ่ายภาครัฐบาล (Government expenditure) ฯลฯ มันยิ่งทำให้เกิดการเสียความสมดุลภายในของตัวเราเอง (Internal dis-balancing) การเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงภายนอก เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรได้ เพราะปัญหาใหญ่คือ เราไหลตามกระแสโลก ตราบใดที่กระแสโลกยังไม่ดี เราจะดีขึ้นมากกว่าได้อย่างไร ในเมื่อเราเดินเกมทุนนิยมตามก้นเขาอยู่ การส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อมก็ไม่มีทางเป็นไปได้ (Low business feasibility) อย่างที่เห็นอยู่ ว่าเราไม่มีสายป่านเงินทุนหนุนพอ (Short capital support) เราไม่มีความชำนาญในการควบคุมคุณภาพได้ตามมาตรฐานเพราะเราเป็นมือใหม่ (Low quality control skill) เราไม่มีฐานลูกค้าเก่าเพราะเราเพิ่งเข้าตลาด (Narrow target market) เราไม่มีความเข้มแข็งหลักที่แท้จริงของเราเลย (Core competitive) เรามีเพียงความแปลกใหม่ที่หลอกหลอนและเหลวแหลกสร้างฝันหล่อเลี้ยงให้เราเชื่อคำโฆษณาของรัฐบาลไปเท่านั้นเอง ในขณะที่เราต้องแข่งขันกับคู่แข่งขันคือใครเรายังไม่รู้เลย แล้วเราไม่รู้เขา เราจะเอาตัวรอดในท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดกลางสมรภูมิการตลาดโลกได้อย่างไร นโยบายที่ฝันเฟื่องไม่ลงไปดูสภาพปัญหาจริงนี้ เปรียบเสมือนแม่ทัพที่สั่งพลทหารออกไปรบโดยคิดเอาเองในมุ้ง ไม่ออกไปตรวจจุดยุทธศาสตร์และข้าศึกเลยแม้แต่น้อย จึงผิดพลาดทั้งหมด"

    ธุลีกองฟอน "ฟังดูเหมือนมืดมนไม่มีทางออกเลยนะท่านแก้อะไรไม่ได้เลยหรือ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "มี เศรษฐกิจพอเพียงไงละ คือทางแก้ที่มีนานแล้ว แต่เสียดายไม่มีใครทำเสียที ถึงตอนนี้ก็สายไปแล้ว เพราะเรามัวหลงฝรั่งมังค่า ลืมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เราไม่เชื่อท่าน แต่เราดันไปเชื่อฝรั่งหยาบด้าน การเดินในทางที่ตนอ่อนแอและเสียเปรียบ ก็แพ้ทัพตั้งแต่แรก ดังนี้ ต่อให้เราวิ่งตามระบบทุนนิยมขนาดไหน เราก็ไม่มีทางทันเวียดนาม, จีน, อเมริกา เรายิ่งรีบวิ่งเพื่อจะไปเป็นเสือตัวที่ห้า ในที่สุดเราก็ขัดขาตัวเองล้ม เป็นต้มยำกุ้งไครซีสอย่างที่เห็นนั่นไง ถึงตอนนี้เราต้องรับกรรมร่วมกันแล้ว เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ ใครจะหนีพ้นสงครามไปได้ ระบบเศรษฐกิจล่ม ระบบการเมืองการปกครองก็ต้องพังตาม มันเป็นธรรมชาติที่พึ่งพากันแบบนี้นี่แหละ เมื่อคนอดอยาก คนก็ขาดความเชื่อถือในการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล ฝ่ายตรงข้ามที่แย่งชิงอำนาจก็จะใช้โอกาสนี้ ใส่ความก่อม๊อบขึ้นมา เช่น การเลียนแบบการถล่มตึกเวิล์ดเทรด โดยการวางระเบิดในที่สำคัญ ใช้ระเบิดแบบโจรใต้ แต่วิธีการแบบโจรใต้เป็นวิธีเฉพาะ เลยทำเลียนแบบไม่ได้ แล้วแสร้งเขียนเครื่องหมายบ้าๆ บอๆ ให้คนคิดว่าเป็ฯผู้ก่อการร้ายไปเสียนี่ เพื่อให้ภาพลักษณ์การบริหารประเทศตกต่ำ คนขาดความมั่นใจในเศรษฐกิจ แล้วปั่นม๊อบขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล ที่นี้คนไทยก็ฆ่ากันเองเหมือนอดีต แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังก็กลับมายึดอำนาจแสดงตนเป็นวีรบุรุษไป ที่ทำไปเพราะกำลังถูกริบทรัพย์ฐานฉ้อโกง ที่เล่านี้เป็นเหตุการณ์สมมุตินะ ไม่ว่าใคร อย่าคิดมาก แต่ถ้าคิดน้อยแล้วคิดได้ก็ไม่ว่ากัน ความคิดใครความคิดมันผมห้ามไม่ได้"

    ธุลีกองฟอน "เศรษฐกิจพอเพียงแก้ปัญหาได้อย่างไร ในเมื่อให้คนยังจนอยู่จะพอได้หรือ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "พอได้อยู่แล้ว อย่างที่ผมเรียนเบื้องต้นว่าแท้แล้วผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการในการหล่อเลี้ยงประเทศคืออะไรละ ไม่ใช่เหล้านะ ไม่ใช่มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดนะ แค่ปัจจัยสี่เราก็รอดได้ทั้งประเทศ ที่นี้ถ้าเรากระจายสินค้าและปัจจัยสี่ทั่วถึง มันก็ลดปัญหาอาชญากรรม ต้นทุนรัฐบาลก็ลดลง ไม่เห็นว่าจะต้องใช้เงินรัฐบาลมากขึ้น มีแต่ได้กับได้ ลดต้นทุนรัฐบาล ด้วยการลดช่องว่างสังคม ไม่ต้องไปใช้เงินรัฐบาลเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้คนรวย จนไปเพิ่มช่องว่างทางสังคมให้เพิ่มขึ้นเลย แต่ที่เราจะล่มจมเพราะนายทุนจะถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลาย เพราะยอดขายไม่ทำกำไร เพราะการผลิตและการแข่งขันที่ไปหดกำไรส่วนต่างลงต่างหากละ มันเป็นปัญหาของระบบทุนนิยม ระบบเงินกู้ และระบบบริโภคนิยม ที่ก่อตัวขึ้นในทันทีที่กระแสทุนนิยมหยุดไหล ทุกอย่างมันถูกจุดให้วิ่งไปหยุดไม่ได้ นี่ละ ระบบทุนนิยม มันหยุดไม่ได้จริงๆ มันไม่มีสมดุลในตัวมันเอง มันขาดเสถียรภาพที่แท้จริงในตัวมัน มันเป็นแรงผลักเปิดให้พุ่งไปเรื่อยๆ เท่านั้น ซึ่งขัดแย้งกับธรรมชาติที่มีขึ้นมีลงทุกอย่างเป็นอนิจจัง แม้นแต่การผลิตที่มากเกินไปสุดท้ายก็ทำให้ต้นทุนเพิ่ม การแข่งขันที่มากเกินไปสุดท้ายก็ทำให้อัตราส่วนกำไรลดลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยวิ่งไปข้างหน้าตลอด มันย้อนถอยหลังไม่ได้อย่างแท้จริง เจ้าหนี้เขาจะฟ้องเอา"

    ธุลีกองฟอน "ฟังๆ ดูเศรษฐกิจพอเพียงไม่ไห้ให้คำตอบของคนอยากรวยอยู่ดี"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "คุณอาจคิดว่าระบบนี้ อยู่แบบจนๆ แล้วสมดุลในตัวเองไปวันๆ อย่างนั้นเอง แท้จริงแล้วไม่ใช่ เพราะคุณนิยามความรวยว่าอะไรละ ความรวยในหุ้นตัวเลขที่หวังให้ลูกได้รวยต่อ รวยในเงินที่ซื้อกินอ้วนจนต้องเอาเงินมากๆ ไปผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ หรือรวยจนเอาเงินไปมัวผู้หญิงจนต้องจ้างคนคุ้มครองด้วยเงินจำนวนมากเพราะถูกตามฆ่า ชีวิตทำงานวันๆ เป็นเถ้าแก่จากเมืองจีน ทำงานหนักมาก กินให้อ้วนเป็นหมู สร้างบ้านให้ใหญ่แต่นอนตายแต่นิดเดียว สุดท้ายชีวิตทั้งชีวิตจบลง อ้าวจบแล้วหรือ ไม่ได้ทำอเไรเลย นอกจากงานอย่างเดียว อิสรภาพไม่มีจริง จ้างตัวเองทำงาน จ้างทาสมาประจำคอกต่อ แล้วจ้างลูกให้เป็นเศรษฐีโง่ ที่ใช้เงินไปทำร้ายตัวเองแบบโง่ๆ อย่างที่ลูกเศรษฐีเขาตกเป็นข่าวกัน เป็นความรวยแบบนี้หรือที่คุณต้องการ หรือคุณต้องการรวยอิสระ มีเวลาที่จะค้นหาความหมายในชีวิต จาริกแสวงบุญ หรือออกไปท่องเที่ยวราวกับกามนิตหนุ่มผู้ค้นหาความหมายของชีวิตแล้วพบรักต่างแดนอันแน่นแฟ้น ซึ่งคุณอาจได้แต่งงานกัน และจดจำไปจนวันตายไม่รู้ลืม ไม่ใช่เอาเหอะวะ แก่แล้ว พร้อมแล้วทั้งคู่อย่าเลือกมากเลย ไม่มีเวลาดูใจหรอก เดี๋ยวก็ไม่มีสามีกันพอดี หน้าตาพอดูได้ ทำงานใกล้ๆ กัน เอาเหอะวะ แบบนี้มันขาดรสชาติชีวิต คนนะครับ ขาดอิสระภาพแห่งความเป็นคน เพื่อไปเป็นหมูในกรง ถึงเวลาผสมพันธุ์ก็เอากันข้างๆ คอกนี่หรือไง นี่หรือระบบทุนนิยม ทำให้ความเป็นคนตกต่ำไปหมดทุกอย่าง ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงนี้ คุณได้มีเวลาอยู่กับลูกตั้งแต่แรกเกิด แบบที่เศรษฐีไม่มีแม้นแต่เวลาจะให้ลูกกินนม แต่มีเงินเยอะนะ ไปจ้างเขาเลี้ยง ราคาแพงเหมือนหมาชั้นดีเลย แล้วเอามาเล่าในวงสังคมว่าชั้นส่งลูกไปเลี้ยงโรงหมาราคาแพงดี ในขณะที่ชาวนาที่ดำรงชีพแบบพอเพียงได้เห็นหน้าตากันตลอด ช่วยกันทำงานตลอด เขาจึงรักกันมาก แม้นยากจนมากก็ตาม แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้วัตถุนิยม เพราะกระแสทุนนิยมมันบีบบังคับให้เขาทิ้งไร่ทิ้งนา อันมีแต่ความสุขสงบไป"

    ธุลีกองฟอน "แล้วจุดมุ่งหมายสูงสุดของระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงคืออะไร"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "อย่างแรกเลย เราต้องพอเพียงเลี้ยงตัวรอดยืนบนลำแข้งตัวเองได้ไม่อดตาย มีปัจจัยสี่สมบูรณ์ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดสรรค์ให้ได้ไม่ต้องกลัว เรามีผลิตผลเยอะ ขอแค่มีความเมตตาและยุติธรรม ย่อมแบ่งปันแจกจ่ายทั่วถึงแน่ พอถึงจุดนี้แล้ว ต่อไปเป็ฯกำไรชีวิต ซึ่งเราจะให้กำไรที่สูงค่าที่สุดในชีวิต ซึ่งก็คือ เวลาในชีวิต และการค้นหาสิ่งสูงค่าในชีวิตของแต่ละคน นั่นก็อาจหมายถึงความสุขนิรันดร์ คือ ธรรมอันนำทางไปสู่พระนิพพาน ซึ่งคนคิดว่าเป็ฯเรื่องน่าเบื่อของคนเบื่อโลก ซึ่งผิดถนัด ตัวอย่างเพื่อนของผมก็หลุดพ้นนิพพานแล้ว ทำงานในบริษัทเอกชน เจ้านายยังต้องนับถือเกรงใจ ผลงานก็ดีใช้ปัญญาทำงานได้ดีเวลาน้อย แถมมีรอยยิ้มให้คนรอบข้างตลอดวัน มีอิสระในทุกที่ทุกเวลา ไม่เห็ฯว่าจะไม่ดีตรงไหน อย่างที่อธิบายว่าเงินมากมาย ของต่างๆ มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เพราะดูความต้องการทางร่างกายของเราสิ มันต้องการแค่ไหน เราไปสนองความต้องการทางใจด้วยวัตถุ ซึ่งเป็นความผิดที่โง่เขลา การสนองความต้องการทางกายที่พอเพียงแล้ว ตามหลักความต้องการห้าขั้นของมาสโลว์ คือ การสนองความต้องการทางสังคมและจิตใจ ซึ่งความต้องการทางสังคมนี้ มันเกิดเมื่อเราปรับตัวเข้าสังคมได้ดี อันเป็นลักษณะของพระอรหันต์ ส่วนความต้องการทางจิตใจ มันก็ต้องสนองด้วยจิตนิยม ใช่ไหม มันจะไปสนองจิตใจด้วยวัตถุนิยมได้อย่างไรละ ผิดชัดๆ ตรงๆ อย่างโง่งมที่สุด ของตรงไปตรงมา แต่ไปหลงทางผิด มันก็ตอบผิดอยู่วันยังค่ำ ดังนี้ มนุษย์เราไม่ได้ต้องการวัตถุมากหรอก ลองถามใจตัวเองลึกๆ ดูก็ได้ เพียงแต่เราไม่เคยสัมผัสสินค้าที่สนองคุณค่าทางใจให้เราได้มาก่อนเลยนั่นเอง เราเลยไปลองยึดนั่นยึดนี่ ซึ่งมันไม่ใช่สักที เราถึงได้เบื่อไง เพราะว่าเราทดลองแล้วว่ามันไม่ใช่ อย่าโกหกใจตัวเองเลย ในเมื่อมันไม่ใช่ ใจมันเบื่อ มันก็ไม่ใช่ยาแก้เบื่อ ไม่ให้สุขแท้ทางใจ พูดอย่างนี้อย่าคิดว่าผมบังคับให้คุณบวช หรือไปนิพพานเท่านั้นนะ เพราะความสุขทางใจนี้มีมากมายในทุกศาสนา คุณเคยเห็ฯไหม ใครหลายคนที่ผ่านโลกมามากๆ สุดท้ายก็มาหยุดตรงนี้ ที่ศาสนาทั้งนั้น แต่คนที่ยังไม่หยุด ยังหลง ยังทดลอง ลองผิดๆ แล้วผิดอีก เพราะยังเสียดายความสุขไม่แท้ ที่ยังพอมีความสุขอยู่บ้าง และฉาบฉวยรวยเร็ว สัมผัสสุขได้ทันทีทันใด ทันใจมากกว่า เปิดฝาก็สุขได้ แถมลุ้นโชคชิงเงินล้านได้อีกต่างหาก มันเลยละเลยที่จะค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง ระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงภายใต้ระบอบการปกครองแบบพุทธะนี้ จะปลดทาสจำยอม ให้มีอิสระในชีวิต สามารถจาริกแสวงบุญ ท่องเที่ยวไปตามใจต้องการได้ หากโครงการดีก็ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล ถามว่ารัฐบาลปล่อยให้ลางานไป ใครจะทำแทน ปริมาณแรงงานไม่ลดลงหรือ รัฐบาลเอาเงินที่ไหนมาสนับสนุน ก็ตอบได้ง่ายๆ เลยว่าประสิทธิภาพการทำงานจะเพิ่มขึ้น จึงลดปริมาณแรงงานลงได้ คนที่ทำงานทั้งวันเครียดมากประสิทธิภาพการทำงานก็ลดลงอย่างที่เห็นอยู่ งานทุกวันนี้เราใช้สมองไม่ใช่หรือครับ ทำไมมันคิดนานจัง แสงดว่าสมองเราไม่ปลอดโปร่ง หรือเราเครียดเรามีอีโก้ อัตตาสูง เถียงกันไม่จบ แบบนี้ถ้าลดอีโก้หรืออัตตา โดยวิธีการทางพุทธศาสนาก็ใช้เวลาประชุมน้อยลง ได้ข้อสรุปแบบผู้มีปัญญามากขึ้นจริงไหมครับ นอกจากนี้การสนับสนุนให้คนไปจาริกแสวงบุญและเดินทางสู่ธรรม จะทำให้ผลิตคนดีให้ประเทศมาปกครองประเทศโดยธรรมต่อไป ระบบแบบนี้จึงเป็นเสมือนเครื่องผลิตคนดี ให้คนดีมาช่วยคนอื่นเช่นนี้เรื่อยไป แต่เรามักคิดว่าคนดีเป็นคนโง่ ซึ่งผิดอย่างแรง คนเลวต่างหากที่โง่บัดซบ แต่อาศัยเล่ห์เหลี่ยมกลโกง เช่น การประจบสอพลอบ้าง, การใส่ร้ายป้ายีบ้าง, การแย่งผลงานบ้าง, การพูดดูดีพรีเซ้นตืเก่งแต่ลงงานจริงไม่เป็นบ้าง ฯลฯ ในขณะที่คนดีมักมองรอบด้านรอบคอบ จึงคิดช้ากว่า บ้างก็มองลึกซึ้งจนอธิบายยากบ้าง, บ้างก็เห็นปัญหาในอนาคตที่คนไม่มองจึงไม่กล้าเสนอออกมาบ้าง ดังนี้ เราจึงเสียบุคลากรที่ดี ทั้งที่เขาอยู่ในองค์กรของเรานี่เอง เพราะอะไรละ เพราะผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของเงิน เขาย่อมบริหารเพื่อความพึงใจของเขา ไม่ได้เห็นประโยชน์ของคนดีที่ทำเพื่อองค์กร แต่เข้าข้างคนเลวที่เข้าได้กับตนได้ด้สนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ฯการโกงกินหรือประจบสอพลอ ดูประเทศเราก็ได้ คุณเชื่อไหมว่าคนดีมีความสามารถยังมีอยู่ในประเทศไทย ผมคิดว่าคุณมีคำตอบในใจมากกว่าหนึ่งคนนะ แต่เขาเหล่านั้นไม่ได้มาเสนอหน้าลงสมัครให้คุณเลือกเลยสักคน เพราะเขาไม่ต้องการลงไปอยู่ท่านกลางสงครามขว้างขี้ ของนักการเมืองในอดีต (ปัจจุบันดีแล้วระดับหนึ่ง) ที่ถามอะไรก็ตอบว่าไม่รู้ ยังไม่ได้รับรายงาน รู้อย่างอย่างเดียว คือ ผมมีหลักฐานทำลายฝ่ายตรงข้ามอยู่เป็นตระกร้า และจะนำมาแสดงสาดใส่กันให้ฟังเร็วๆ นี้ จบข่าว สุดท้าย ความเบื่อของประชาชน ก็หันไปดูข่าวเม้าท์ดาราแทน ดาราดังมากๆ ก็หันมาเข้าวงการการเมือง มีแต่อะไรที่น่าเบื่อน้ำเน่าวนเวียนอยู่แบบนี้ ผมคิดว่าคนไทยฉลาดกว่าคนอเมริกันด้วยซ้ำ ในการการมองคน และมุมมองการเมืองการปกครอง แต่เราอ่อนด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจเท่านั้นเอง สังเกตุได้ว่าการพัฒนาประชาธิปไตยของเรา แม้นเริ่มต้นที่หลังอเมริกาแต่เราไปได้เร็วกว่านะ ที่เห็นว่าอเมริการุ่งเรืองนั้น รุ่งเรืองเพราะการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจ ให้นานประเทศอยู่ภายใต้ระบบทาสจำยอม แค่นั้นเอง แต่ในด้านการปกครองเขาตกต่ำมาก ต่างกันอย่างไร ชัดเจนครับ เศรษฐกิจไม่ใช่การปกครอง เศรษฐกิจก็แค่รวยผลิตได้มาก ได้เงินมาก แต่การปกครองหมายรวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาสังคม การสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม การลดอาชญากรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ อเมริกันสอบตกหมดทุกประตู เมื่อเศรษฐกิจเขาพัง ทุกอย่างก็ล่มสลายลง เพราะความเคยชินในการใช้เงินแก้ปัญหามันทำให้เขาไม่มีเครื่องมืออื่นในการแก้ไขปัญหาสังคมและการปกครองประเทศ"

    ธุลีกองฟอน "สรุปสุดท้ายสั้นๆ ครับ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "ศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงให้ลึกซึ้งทุกแง่มุมก่อนตัดสินใจครับ"

    ..............
    จบการสัมภาษณ์โดยธุลีกองฟอน
    <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_441064", true); </SCRIPT>
     
  8. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    เป็นปีที่ยากลำบาก แต่ยังไม่ใช่วันพิพากษาโลกหรอกจ๊ะ ให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรม แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี
     
  9. bkgolf1999

    bkgolf1999 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +98
    ฝ่ายนึงบอกว่า มันจะสิ้นสุดโลกเร็วๆ นี้ นั่นคือวันพิพากษาโลกที่พระเยซูกลับมาครั้งที่ 2

    อีกฝ่ายบอกว่า เป็นภัยพิบัติแต่ยังไม่ถึงสิ้นสุด... เพราะต้องถึง พ.ศ.5000 ก่อนใช่ปะครับ...

    ถ้าอันนึงมันถูก อีกอันมันต้องผิดใช่ปะครับ...

    สมมติคนๆ นึงเชื่อว่าเอามือไปรนไฟแล้วไม่ร้อน แต่ถ้าเค้าไปรนจริงๆ หละ... นั่นหมายความว่าเค้าเชื่อผิดใช่ปะ... ผมว่าคงพอเปรียบเทียบกันได้

    แต่ถึงเวลาคงรู้เองมั้ง...
     
  10. 12punna

    12punna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ^^ พิษการเมือง เราหนีไม่พ้น ก็ต้องทำใจ ^^
    ^^ พิษ ภัยธรรมชาติ มา ก็ วิ่ง ^^
    ^^ วันพิพากษามา ก็ ต่อแถว รอคำตัดสิน ^^

    น้ำจะท่วม ฟ้าดินจะทลาย แผ่นดินจะยุบ ภูเขาไฟระเบิด
    การเมืองจะ ? สุดท้ายจริงๆๆ ให้จำคำนี้ไว้ให้ดีๆๆ ^^
    ว่า ..................
    ...............
    ....................
    ..........
    .................
    .........
    ...........................
    ..............
    ...........................
    ...........
    ...........................
    ................
    ......................................
    .................................
    ...................
    ...........................
    .......................
    .............
    .............................
    ....................
    ..............
    ..........................
    ...............
    ..........................
    ................
    .............................

    หนี เป็น อัน จบ คำตอบง่ายๆๆ ^^
     
  11. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    เค้าเรียกว่าวันพยายมทำงานหนัก
     
  12. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    วันนี้โลกจะแตก พรุ่งนี้โลกจะดับ ปีนี้ปีหน้า ไม่ใช่สาระสำคัญ ทุกสิ่งเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป จะไปกังวลอะไร
    ทำความดีเข้าไว้ เถิด อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ปฏิบัติดีกันเข้าไว้ ตายไปจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดาย ว่า "ตอนมีชีวิตอยู่ น่าจะได้ทำบุญ น่าจะได้ทำความดีให้มากกว่านี้" ถึงรู้ว่าพรุ่งนี้โลกจะแตก แล้วเราจะแก้ไขอะไรได้หรือ?
     
  13. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ถึงคุณ e20ehq<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_441664", true); </SCRIPT>

    ทำความรอดได้เฉพาะตัว เรียกว่าเห็นแก่ตัว
    หากเมตตา ต้องร่วมกันวางแผนช่วยชาติช่วยชาวนาให้รอด
     
  14. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    ความจริงแล้วผมอยากจะบอกคนที่เดินผ่านมาว่า
    คำทำนายมันก็คือคำทำนาย มันอาจผิดหรือถูกก็ได้ เราก็ต้องรอดู
    แต่อยากถามว่า ถ้าท่านเชื่อ สิ่งที่ท่านจะทำต่อไปคืออะไร
    คือเร่งทำความดีไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าวันนั้นจะเกิดขึ้นตามคำทำนายหรือไม่
    สิ่งที่ท่านได้ทำมันคือความดีไม่ใช่เหรอ

    ผมทำนายโดยใช้จิต คิดว่าจิตขณะทำนายสงบที่สุดแล้ว ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อหรือมันจะเกิดจริงหรือไม่เกิด ท่านก็มีแต่ได้กับได้ไม่ใช่เหรอ
    ท่านที่เชื่อ ท่านก็เร่งทำความดี ผลดีมันก็ตกอยู่กับตัวท่านเอง ส่วนท่านที่ไม่เชื่อ แล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง สิ่งที่ท่านได้มาก็คือชีวิตท่านที่ไม่ต้องเสียไป ไม่ใช่หรือ ?

    แต่หากวันนั้นมาถึงแล้วมันไม่เป็นตามคำทำนาย ผมก็ยินดีรับคำติหนิ
    แต่อยากถามว่า ถ้าสมมุติโชคดีมันไม่เป็นดั่งคำทำนาย แล้วท่านจะโกรธผมด้วยเรื่องอะไร โกรธที่คุณต้องเร่งทำความดีทั้งๆ ที่ยังมีเวลาเหลืออีกตั้งนาน
    หรือโกรธที่โลกไม่ถึงกาลวิบัติ ??
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2007
  15. okilu220

    okilu220 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +2,090
    อะไรจะเกิดก็ช่างมันเถอะครับ วันนี้เร่งทำบุญทำความดีกัน ใครที่ไม่เคยทำก็ทำซะ ดีกว่าไม่ทำใช่ไหมล่ะครับ ถ้ามันถึงคราวตายมันก็ต้องตาย
     
  16. kepokman

    kepokman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +337

    อ่อผมก็เล่นหุ้นครับ อังคารทมิฬ ผมซื้อกำไรกระหื่มครับ คุณมองว่าผมป่วนหรอ ผมแสดงความคิดเห็น ทำไมดูเหมือนคุณร้อนตัวจังผมพูดของผมธรรมดาไม่มีเจตนาจะมาด่าคุณซะหน่อย ผมไม่อยากเขียนอะไรอีกละ คุณพูดในเชิงยังกะเคืองอะไรผมนักหนา ผมเข้าใจในความหวังดีของคุณครับ เข้าใจ แต่ผมแค่พยายามอธิบายว่า ปรากฏการที่คุณเรียกถูกนั้น มันส่งผลกระทบด้วย และ ที่ผมบอกว่ามันพาดพิงถึงใคร มันเหมือนการยุยงให้คนอื่นไม่เห็นด้วยกับผู้นำคนนี้ แค่นั้นแหละผมแค่กลัวคนเข้าใจผิดแล้วแตกแยกกัน ผมเคยเข้าบอร์ดนี้ในสมัยคุณ หนุมานออกมาพูดเรื่องทักษิณแล้วผมจึงเห็นมีบางคนไม่พอใจก็ว่าไป พูดง่ายๆผมไม่ชอบข้อความนี้เพราะกลัวคนเขาจะแตกแยกเหมือน กระทู้คุณหนุมาน ไปค้นกระทู้เก่าได้ครับ เพราะหนุมานมาในนามสัจจะธรรมด้วย แต่เข้าใจคุณหวังดี เข้าใจ สุดท้าย ขอโทษที่ทำให้คุณไม่พอใจ เพราะข้อความแรกผมไม่มีเจตนาจะว่าคุณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2007
  17. ตกยุคอะ

    ตกยุคอะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +31
    แนวทางสมานฉันท์จะดีกว่าปีนี้เลขสวย 2550 เริ่มต้นอะไรใหม่ๆกันดีกว่า
     
  18. mayamaya2007

    mayamaya2007 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +14
    จะเกิดอะไรขึ้นหรือในเดือนมิถุนาหรือครับ asteriod ชนโลกหรือะไร.....
    ช่วยบอกคำนายให้ละเอียดหน่อยน่ะครับ
    บอกแค่นี้ผมหรือใครก็อ้างได้ครับ
     
  19. okilu220

    okilu220 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +2,090
    ปีใหม่แล้ว มาเริ่มทำอะไรดีๆกันดีกว่านะครับ เครียดตั้งแต่ต้นปีไม่ดีเลยนะ หุหุ
     
  20. FATAL_FRAME

    FATAL_FRAME เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    808
    ค่าพลัง:
    +3,990
    ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...