เรื่องเด่น ที่สุดของการถือสา...คนที่หลงกอด"ความว่าง"โดยคิดว่าเป็น"ความมี"ทำไมจะไม่ทุกข์!

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 17 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    ที่สุดของการถือสา...คนที่หลงกอด"ความว่าง"โดยคิดว่าเป็น"ความมี"ทำไมจะไม่ทุกข์!


    1(15).jpg



    เคยมีคนกราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า ถ้าหากจะย่อหลักธรรมของพระองค์ให้เหลือเพียงสั้นๆ ทว่าครอบคลุมใจความทั้งหมดแห่งพระพุทธศาสนา จะสรุปได้ว่าอะไร พระองค์ตรัสว่า หากจะให้สรุปเช่นนั้น ก็ขอสรุปว่าใจความแห่งคำสอนของพระองค์ขึ้นอยู่กับประโยคที่ว่า

    "สัพเพ ธัมมานาลัง อะภินิเวสายะ ใดใดในโลกอันบุคคลไม่ควรยึดติดถือมั่น" ทำไมจึงไม่ควรยึดติดถือมั่น เพราะที่ใดมีความถือมั่น ที่นั่นก็มีความทุกข์ ความทุกข์ขยายตัวตามระดับความเข้มข้นของความยึดติด ยึดมาก ติดมาก จึงทุกข์มาก ไม่ยึด ไม่ติด จึงไม่ทุกข์ ความไม่ยึดติดถือมั่น กล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า "การปล่อยวาง"

    ทำไมจึงต้องปล่อยวาง เพราะทุกอย่าง " มีความว่าง" มาแต่เดิม คนที่หลงกอด "ความว่าง" โดยคิดว่าเป็น " ความมี" ทำไมจะไม่ทุกข์ล่ะ หลายคนชอบกอดไว้หมดทุกเรื่อง ทุกปัญหา ทุกคน แล้วยกขึ้นไปแบกไว้บนบ่า จากนั้นก็มานั่งเป็นทุกข์ว่าทำไมชีวิตถึงได้เหนื่อยล้าขนาดนี้ หมดเรี่ยวหมดแรงเหมือนโลกทั้งโลกกำลังกดทับ ก็เล่นถือเอาทุกเรื่องเป็นเรื่องของตัวหมดเลยนี่ ถ้าไม่แบกเอาไว้ก็คงไม่หนัก ถ้าไม่ถือเอาไว้ก็คงไม่เหนื่อย แต่ก็นั่นแหล่ะ บางคน "วาง" ไม่เป็น มีจิตฟุ้งซ่านต้องการจะเป็นธุระไปเสียทั้งหมด ก็ต้องแลกเอากับผลลัพธ์ที่ทำให้เหน็ดเหนื่อย

    มีเรื่องเล่าชวนคิดเรื่องหนึ่งว่า

    พระบวชใหม่รูปหนึ่งเดินบิณฑบาตผ่านชุมชนแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้คนจอแจ ขณะเดินสำรวมก้มหน้าแต่พอประมาณเพื่อเดินผ่านชุมชนไปอย่างช้าๆ นั่นเอง จู่ๆ มีชายผู้หนึ่งใส่สูท ผูกเนคไท สวมแว่นตาดำ เดินเข้ามาหาท่าน พร้อมชี้หน้าด่าท่านอย่างสาดเสียเทเสีย พระรูปนั้นตกตะลึง รีบเดินหนี

    แต่แม้ท่านจะเดินหนีชายคนนั้นพ้นแล้ว แต่เสียงด่าทอของเขายังก้องอยู่ในโสตประสาทของท่านอย่างชัดถ้อยชัดคำ เมื่อกลับมาถึงวัด พลันที่คิดถึงเหตุการณ์ที่ตนถูกชี้หน้าด่ากลางฝูงชน

    พระหนุ่มก็รู้สึกโกรธจนหน้าแดงก่ำ ยิ่งคิดต่อไปว่าชายคนนั้นมาชี้หน้าด่าตนซึ่งเป็นพระ และตนก็จำได้ว่าตั้งแต่บวชเข้ามาในพระธรรมวินัย ก็ยังไม่เคยทำอะไรผิด คิดมาถึงขั้นว่าตนไม่ผิด แต่ทำไมตนต้องถูกด่า ยิ่งเจ็บ ยิ่งแค้น วันที่ท่านถูกด่ากลางชุมชนนั้นเป็นวันศุกร์ แต่ตกถึงเช้าวันจันทร์ท่านก็ยังไม่หายโกรธ


    เช้าวันจันทร์นั้น พระบวชใหม่ประคองบาตรเดินผ่านชุมชนนั้นเหมือนเดิม ท่านพยายามสอดส่ายสายตามองหาชายคนเดิม ตั้งใจว่าวันนี้จะต้องถามให้รู้เรื่องว่าเหตุใดจึงมาชี้หน้าด่าตนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ยิ่งพยายามค้นหา กลับยิ่งไม่พบ ท่านจึงเดินสำรวจรับอาหารบิณฑบาตต่อไป จนได้อาหารเต็มบาตรแล้วจึงเดินกลับวัด

    ระหว่างทางกลับวัด โดยไม่คาดฝัน พระหนุ่มทอดสายตาไปพบกับชายคนหนึ่ง สวมสูท ผูกเนคไท ใส่แว่นตาดำ ท่านอุทานในใจว่า

    “ อ๋อ เจ้าคนนี้เองที่ด่าฉันเมื่อวันศุกร์ ”

    ภาพที่เห็นคือ ชายแต่งตัวดีคนนั้น นอนหลับหมดสติอยู่ข้างศาลเจ้าแม่แห่งหนึ่ง ข้างๆ ตัวเขามีขวดเหล้าล้มกลิ้งอยู่ พอท่านพยายามเดินเข้าไปมองใกล้ๆ เขาจึงเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พอเห็นท่านเท้านั้นชายคนนั้นก็ร้องขึ้นมาว่า

    “ ขอเดชะ พระอาญาไม่พ้นเกล้าฯ บัดนี้พระองค์ทรงกลับมาครองพาราณสีอีกครั้งหนึ่งแล้วกระนั้นหรือ …” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นรำเฉิบๆ

    พลันที่ท่านประเมินได้ว่าชายแต่งตัวดี คนที่ชี้หน้าด่าท่านเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเป็นคนบ้าที่มาในร่างของคนแต่งตัวดีเท่านั้น ความโกรธที่ก่อตัวเป็นเมฆดำทะมึนอยู่ในใจของท่านมานานถึงสามวันก็อันตรธานไปอย่างง่ายดายชนิดไร้ร่องรอย

    ทำไมเราจึงปล่อยวางต่อคนบ้าได้ง่ายดายเหลือเกิน แต่กับคนปกติ ทำไมเราจึงมีความรู้สึกว่าต้อง...เอาเรื่องราว...ให้...ถึงที่สุด


    เราบ้าหรือเปล่า ?



    ----------------
    มติชนออนไลน์

    ที่สุดของการถือสา...คนที่หลงกอด"ความว่าง"โดยคิดว่าเป็น"ความมี"ทำไมจะไม่ทุกข์! : มติชน=
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กันยายน 2018
  2. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    อ่านแล้วชอบจังอ่ะ บทความนี้ ^_^
     
  3. Buatham

    Buatham Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +47
    ใช่ เราบ้าหรือป่าว ^_^
     
  4. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +782
    ขออนุโมทนา สาธุด้วยครับ ผมก็เคยมีอาการคล้ายๆ แบบนี้เลยครับ กว่าจะคิดได้ก็หลายวันทีเดียว
     
  5. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    สาธุ ค่ะ ขออนุโมทนา อ่านกระทู้นี้แล้วคิดได้ว่า ความรักคือความว่างเพราะเป็นนามธรรม เปรียบดังชีวิตฉันก็ว่างจากเธอมาตั้งนานแล้ว เกือบ 4 ปีที่เธอไม่ได้อยู่ข้างกายฉันเลย แต่ใจฉันยังกอดเธออยู่อย่างนั้นไม่เคยปล่อยเลย จิตใจถึงเป็นทุกข์บอบช้ำมากเหลือเกิน
     
  6. amornvut

    amornvut Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +82
    เพราะจิตไม่เคยฝึก ไม่เคยหัดวาง ไม่เคยหัดปล่อย สิ่งใดกาลใด ควรปล่อย ควรวาง มีปัญญาอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักการนำปัญญานั่น นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
    อนุโมทนาสาธุกับเรื่องดีๆ ด้วยนะครับ
     
  7. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ชอบเรื่องนี้ครับ (^_^)
     
  8. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    เหมือนกันเลย ชอบเอามาคิด ไม่ว่าจะโดนว่าหรือว่ากลับ คิดว่าจะวางแล้วล่ะครับกำลังพยายามอยู่
    ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
     
  9. กาแฟสีชมพู

    กาแฟสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +29
    จริงด้วย เราบ้่่าหรือเปล่า
     
  10. VikingsX

    VikingsX ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,668
    ผมโดนประจำครับ...

    ที่โดนเพราะ ญาติผมเค้าชอบทำแบบนี้ วิธีที่เค้าใช้

    คือไปเที่ยวสนตะพาย ให้คนมากวน... มาทำหยาบ ๆ คาย ๆ ใส่บาง ชวนทะเลาะ

    เที่ยวให้ เพื่อนฝูงที่เคยเรียนมาด้วยกัน / ที่ทำงานบาง / ร้านค้าต่าง ๆ ในตลาดบาง / มาทำเลว ๆ ใส่

    ก็ทำมา 20 กว่าปีแล้วครับ

    เมื่อก่อนก็นึกไม่ออกว่าอะไร ก็ต้องไปหาจิตแพทย์ ฉีดยา

    ตอนนี้ ไล่เรียงทบทวนกลับไปแล้ว ก็พบว่า เป็นการกระทำของกลุ่มคน

    ญาติพี่น้อง ลุงป้า ฯลฯ คือเค้าเสียม สอน คนรอบ ๆ ข้างให้ทำแบบนั้นแบบนี้

    ก็กลายเป็นวิชาที่ใช้สืบ ๆ กันมา

    เยอะครับยังไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิต

    ก็ได้แต่ทำบุญ

    *************
    คือทำเป็นเฉย ปล่อยวางก็ยังด่าเลย ครับ
    ไอ้นี้ทนบาง ฯลฯ บาง

    เฮอะ ๆ ๆ ปล่อยวาง แล้วยังไม่ยอมเลย ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร
     
  11. ลูกท่าน

    ลูกท่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,649
    ขอกราบอนุโมทนาด้วยครับ
    ในข้อความข้อคิดอันเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ
    กัลยาณมิตรที่ดีทั้งหลายในเวปนี้
    และผู้ที่ได้ผ่านมาอ่านเจอนะครับ
     
  12. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    ทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้กฎ ไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งแท้จริงแล้ว
    กายหรือใจนี้ล้วนอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์นี้ทั้งนั้น ที่จริงแล้วธรรมชาติของมันก็ว่าง
    นั่นแหละ แต่เราไม่รู้จึงเข้าไปยึดเป็นตัวเป็นตน แต่แค่คิดๆว่าว่าง ก็ได้แค่คิดอย่างเดียว
    ยังไม่ได้เห็นว่างของจริง จึงเป็นแค่เห็นความว่างปลอมๆ ต้องปฎิบัติสติปัฎฐานสี่ ตามรู้
    กายรู้ใจ เนืองๆ จนเกิดปัญญาเห็นไตรลักษณ์ของกายของใจ เห็นความจริงว่ากายนี้
    ใจนี้ว่า เป็นไตรลักษณ์ เมื่อมีปัญญาเห็นความจริง ก็จะเลิกยึดกายนี้ใจนี้ เมื่อนั้นแหละ
    ที่เราจะเห็นความว่างของจริง ใจจะเป็นกลางต่อทุกสิ่ง มันคือความว่างที่แท้จริง ^^
     
  13. คนข้างหลัง

    คนข้างหลัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +28
    ใช่ทำไมเราจะต้องโกรธด้วย เหมือนฟังวิทยุตอนเช้านี้ เราต้องแปลงสารที่ส่งมาให้เป็นสิ่งที่ดี เป็นเพลง เป็นถ้อยคำที่ชอบ แล้วจะไม่โกรธ คนที่มีสติหนักแน่นถึงจะทำได้นะ ถ้าเป็นเราก็คงสติแตกกระเจิงเหมือนกัน
     
  14. oankrub

    oankrub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +112
    ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ และอนุโทนาด้วยครับ
     
  15. Raksa_P

    Raksa_P สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอบคุณค่ะ อนุโมทบุญค่ะ
     
  16. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,964
    ค่าพลัง:
    +359
    สอบถามเจ้า ค่ะ

    คนเรา นั่ง สมาธิ นาน นาน รู้ จัก ปล่อย วาง----บาง ครั้ง ก็ ปล่อย ได้ นาน บางครั้งก็ ปล่อย ได้ ไม่นาน เเล้ว เเต่ ระยะ เวลา ใน การนั่ง -----ถ้า นั่ง ได้ นาน ยิ่ง นิ่ง ยิ่ง ลึก ยิ่ง นั่ง ยิ่ง นานนนน ขึ้น นานนนนนนนนนนขึ้น ยิ่งดี ยิ่ง สุข ใจ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เเล้ว เเบบนี้ เรา เองก็ ยึดติด ในอาการ นี้ ด้วย ใช่ รึป่าว ค่ะ ----สงสัย เลย สอบ ถาม เจ้าค่ะ
     
  17. กินข้าวยัง

    กินข้าวยัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +27
    ลิงกำถั่ว อ่ะดิครับแบบนี้
     
  18. one_heart

    one_heart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +648
    ปล่อยวาง [FONT=Times New Roman, Times, serif]คำง่ายๆ ทำได้ยาก
    [/FONT]
     
  19. pandablahblah

    pandablahblah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +71
    อนุโมทนาสาธุค่ะ ^^ อยากจะหายบ้าเร็วๆเหมือนกันค่ะ จะได้ปกติสุขกับเขาเสียที ฝึกมาได้นิดหน่อยค่ะ แต่ยังไม่ดีพอ จะเอาอีก อิอิ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...