สําเร็จ ความใคร่ ก่อน ทําสมาธิ

สองเล่ม นี้ เล่มไหน จะเเน่ กว่า กัน

ขอความเห็น เจ้าค่ะ ถ้า จะ ตัด กันจริง จริง เล่ม ไหน เเน่ กว่า กัน---------------เดี๋ยวย้าย ไปตั้งกระทู้ ใหม่:boo:

 

สมาธิแก้ได้ นั่งสมาธิโดยพิจารณากามอสุภะสิ ร่างกายเป็นของเน่าเหม็น น่ารังเกลียด ไม่มีอะไรสวยงามยั่งยืน ร่างกายเป็นป่าช้าของสัตว์ทั้งหลายเพราะมนุษย์ต้องกินมันเข้าไป

 

เพ่งอสุภะครับ ออกจากกามคุณ อดทน ถ้าอดไม่ได้มันก็จะเกิดขึ้นไปมาไม่รู้จบ สิ้น จนเป็นความเคยชิน เเล้วเราก็จะหมองใจไปเรื่อยๆไม่รู้จบ เมื่อเห็นโทษเเล้ว อยากจะทำอีกก็เรื่องของ คุณครับ

 

สรุป ว่า

สรุป ตาม พี่ พี่ น้อง น้อง ว่า --------ถ้า รัก ปฏิบัติ ธรรม ต้อง ไม่ มีเซ็ก ----ถ้า รัก จะมี เซ็ก ก็ ต้อง ไม่ ปฏิบัติ ธรรม ใช่ไหม เจ้า ค่ะ---------งั้น พระ พุธ เจ้า ก็ โกหก นะสิคะ ที่ ท่าน ตรัส ไว้ ว่า ---ให้ ดํารง สติ ระลึก ถึง พระธรรม คําสอน ให้ ได้ ทุก ขณะ จิต-----งั้น เวลา มีเซ็ก ก็ ----หยุด คิด ถึง พระ ก่อน ใช้ไหม ค่ะ-----------สรุป เอา ไง กัน เเน่ เนี้ย ---หรือ ว่า คําสอน ของ พระพุธ เจ้า ถูก บิดเบือนนนนนนนนนน ---งง ----งง(tm-love)

 

นราสภา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4314022", true); </SCRIPT>
สมาชิก


สรุป ว่า<!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->สรุป ตาม พี่ พี่ น้อง น้อง ว่า --------ถ้า รัก ปฏิบัติ ธรรม ต้อง ไม่ มีเซ็ก ----
อ้าว... ก็ถามเกี่ยวการทำสมาธิไม่ใช่เหรอจ๊ะคุณน้อง การปฏิบัติธรรมไม่ได้หมายถึงการทำสมาธิอย่างเดียวนี่นา คำว่า"ปฏิบัติธรรม"มันมีขอบเขตกว้างกว่าการทำสมาธิตั้งมาก

ก็ถ้าสามารถมีเซ็กซ์แล้วเกิดสมาธิได้ ก็เอาสิ ใครจะไปว่าอะไรได้
ทางใครทางมันเนอะคุณน้องเนอะ...
"อาจารย์โยดา" ตอบแบบกว้างๆนะ ต้องไปพิจารณาทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งเองต่อไป


ถ้า รัก จะมี เซ็ก ก็ ต้อง ไม่ ปฏิบัติ ธรรม ใช่ไหม เจ้า ค่ะ----
ถ้ามีมันสมองก็ต้องลองตรองดูพิจารณาเอาเองบ้างนะคุณน้องนะ

ถ้ามีเซ็กซ์แล้วรู้สึกว่าตนเองเจริญในธรรม... และยินดีในการเจริญธรรมนั้น ก็โอเคนะคุณน้อง
แต่ถ้ามีเซ็กซ์แล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยเจริญในธรรม... และยังปรารถนาที่จะเจริญในธรรมมากกว่า ก็คงต้องลองปรับปรุงวัตรปฏิบัติดูอ่ะนะ

การเจริญธรรมก็เพื่อสติปัญญา เพื่อความสุขกายสบายใจของทั้งตนเองและดุลยภาพของสิ่งแวดล้อมต่างๆทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต
อยากรู้ว่าเจริญในธรรมมากหรือน้อยเพียงใดก็ลองพิจารณาความสุขดูเอานะ อย่าดูแต่ความสุขของตนเองถ่ายเดียวล่ะ ดูรอบๆ เพราะการเจริญในธรรมหมายถึงสมดุลย์ทั้งภายในและภายนอก
ถ้าภายในสมดุลย์เหมาะสมดี ก็จะส่งผลต่อสมดุลย์ของภายนอกได้นะคุณน้องนะ

-----งั้น พระ พุธ เจ้า ก็ โกหก นะสิคะ ที่ ท่าน ตรัส ไว้ ว่า ---
อ้าว ไหงพูดงั้นล่ะ... ก็โง่ไม่เข้าใจคำสอนเอง ดันไปว่าเขาโกหกซะงั้น


ให้ ดํารง สติ ระลึก ถึง พระธรรม คําสอน ให้ ได้ ทุก ขณะ จิต-----
ก็ถ้าระลึกได้ทุกขณะจิตจริง แล้วคุณน้องจะไปมีอารมณ์อยากมีเซ็กซ์ตอนไหนล่ะ
เพราะไม่มีคำสอนบทไหนสอนให้มีเซ็กซ์นี่นา... มีแต่บอกให้มีเซ็กซ์ให้ถูกบุคคล กาละ(เวลา)และเทศะ(สถานที่)

งั้น เวลา มีเซ็ก ก็ ----หยุด คิด ถึง พระ ก่อน ใช้ไหม ค่ะ-----------
อ้าวคิดถึงพระตอนมีเซ็กส์ แล้วมันช่วยให้คุณน้องเจริญในธรรมส่วนไหนได้บ้างมั๊ยล่ะ ถ้าได้ก็เอาเลยคุณน้อง
มีเซ็กส์ให้มากๆ จะได้เจริญในธรรมให้มากๆด้วย


สรุป เอา ไง กัน เเน่ เนี้ย ---หรือ ว่า คําสอน ของ พระพุธ เจ้า ถูก บิดเบือนนนนนนนนนน ---งง ----งง
สรุป... คนโง่ที่ไม่เข้าใจคำสอนได้ลึกซึ้ง ก็เลยพาลว่าคำสอนบิดเบือน


นึกว่า... ขบคิดเรื่องอื่นๆต่อไปแล้วนะเนี่ยคุณน้อง
ตกลงว่าสงสัยอยากหาคำตอบหรืออยากหาข้อจับผิดคำสอนกันล่ะเนี่ย

 

ผมมีความเห็นว่า นั่งสวดมนต์ทำสมาธิไปก่อน ถ้าจิตเราเป็นสมาธิแล้ว
ความอยากก็จะหายไปเอง แม้จะเป็นแค่ชั่วคราว เพราะจิตเราแน่วแน่กับการสวดมนต์ แต่ถ้ายังหยุดความอยากไม่ได้ก็เลิกทำสมาธิไปก่อน ถ้าใจพร้อมเมื่อไหร่ค่อยเริ่มหัดทำสมาธิใหม่จะดีกว่าครับ

 

ชัดเจน

ขอบคุณ อาจารย์ โยดา ด้วยเจ้าค่ะ ---พิม ไป พิมมา หลง ปะเดน ----มุ่งเเต่ จะตอบ คําถาม ที่ เขา ตําหนิ มาเอาอารม เข้ามา บวก เพิ่ม โดย ไม่ได้ สําหรวจตัวเอง ว่า ได้เข้ามา ถาม อะไร มุ่ง เเต่ จะเอา ชนะ หาเหตุ นู้น เหตุ นี้ มาสร้าง ปะเดนใหม่ เพื่อ ลบล้าง คํา ตอบ ที่ไม่ตรง กับ ใจ เเต่ ดัน ลืม ละเลย ในประเดน เดิม ที่ได้ ถาม เอาไว้ -----ข้อนี้ คุงน้อง ขอ รับผิด ยอม ให้ อาจารย์ โยดา เขี่ยนตี ได้ ตาม อําเภอ ใจ เลย เจ้า ค่ะ-------เเต่ เรื่อง ปรามาส คําสอน ของ องค์ สมเด็จ พระสัมมา นี้ น้อง มิได้ มีเจต ตานา เช่นนั้น นะเจ้าค่ะ--------หาก เเต่ คงเกิดเพราะ ด้วย ความเบา ปันยา ของน้อง เอง ที่ ไม่ ศึกษา ให้ ถ้วนถี่ เสียก่อน ----ขอบ พระคุณ อาจารย์ เจได อีก รอบ ที่ เตือน สติ ----------ขอบคุณ มากมาย ก่ายกอง เจ้าค่ะ ขอบคุณค่ะ ----เอาไว้ วันไหน ว่างเว้น จามา รบกวน สมเด็จ พระอาจารย์ โยได อีกรอบ ขอบคุณ ค่ะ น้อม รับ ในความผิด นี้เจ้าค่ะ ----หาก อาจารย์ จูจู ไม่ให้ อภัย สิต ก็ จะขอนั่ง คุกเขา เเบบนี้ ไปจนกว่า อาจารย์ จูจู จะหายโกรธ นะเจ้าค่ะpig_cryypig_cryy

 

ตรงๆ ไปเกี่ยวเบ็ดก่อนไป๊ แล้วไปนั่งเล่นเน็ต ดูทีวีให้สบายใจก่อน แล้วค่อยมาสวดมนต์ทำสมาธิป่ะ (ตรงๆ เถื่อนตามแนวน้องเลย)


ปล. ตัวจริงผมเป็นคนสุภาพนะครับ จะบอกให้

 

หยาบ คาย จังเลย ค่ะ

ไปเกี่ยว เบ็ต ก่อนไป๊---ขอโทษ จากใจจริง ค่ะ รุ่น น้อง คง ไม่ต้อง ใช้ วิธี เเบบนั้น หลอก ค่ะ ---ผู้ ญ อย่างหนู ไม่ได้ อด อยาก ปาก เเห้ง อะไร มากมาย มีกิน ตลอด พรรษา ค่ะ ---เก็บ เเช่ตู้เย็น เอา ไว้ กินยาม เเล้ง ก็ ยังพอเหลือ ไปจนถึง ปีหน้า นู้น เลย ค่ะ---เเต่ อย่าง นึง ที่ ไม่คิด นํามากิน ---คือ พวก ขยะ มี พิษ เเบบพี่ เนี้ย เเหละ ค่ะ -----หยาบ คาย เก่ง ได้ เฉพาะ กับ ผู้ ญ ---ถ้า จะเข้ามา โพส อะไร เเบบนี้ น้อง ว่า กลับ ไป อ่าน ทบ ทวน เจตนา ของ กระทู้ เสียใหม่ เเล้ว ค่อย มา ตอบ ก็ ไม่มีใครเขา ว่า โง้ หลอก ค่ะ กรุณา อยู่ ใน ประเดน ซัก นิด---ก็ดี นะค่ะ--------ขอบคุณ ค่ะ

 

นราสภา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4374149", true); </SCRIPT>
สมาชิก


ชัดเจน<!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ขอบคุณ อาจารย์ โยดา ด้วยเจ้าค่ะ ---พิม ไป พิมมา หลง ปะเดน ----มุ่งเเต่ จะตอบ คําถาม ที่ เขา ตําหนิ มาเอาอารม เข้ามา บวก เพิ่ม โดย ไม่ได้ สําหรวจตัวเอง ว่า ได้เข้ามา ถาม อะไร มุ่ง เเต่ จะเอา ชนะ หาเหตุ นู้น เหตุ นี้ มาสร้าง ปะเดนใหม่ เพื่อ ลบล้าง คํา ตอบ ที่ไม่ตรง กับ ใจ เเต่ ดัน ลืม ละเลย ในประเดน เดิม ที่ได้ ถาม เอาไว้ -----ข้อนี้ คุงน้อง ขอ รับผิด ยอม ให้ อาจารย์ โยดา เขี่ยนตี ได้ ตาม อําเภอ ใจ เลย เจ้า ค่ะ-------เเต่ เรื่อง ปรามาส คําสอน ของ องค์ สมเด็จ พระสัมมา นี้ น้อง มิได้ มีเจต ตานา เช่นนั้น นะเจ้าค่ะ--------หาก เเต่ คงเกิดเพราะ ด้วย ความเบา ปันยา ของน้อง เอง ที่ ไม่ ศึกษา ให้ ถ้วนถี่ เสียก่อน ----ขอบ พระคุณ อาจารย์ เจได อีก รอบ ที่ เตือน สติ ----------ขอบคุณ มากมาย ก่ายกอง เจ้าค่ะ ขอบคุณค่ะ ----เอาไว้ วันไหน ว่างเว้น จามา รบกวน สมเด็จ พระอาจารย์ โยได อีกรอบ ขอบคุณ ค่ะ น้อม รับ ในความผิด นี้เจ้าค่ะ ----หาก อาจารย์ จูจู ไม่ให้ อภัย สิต ก็ จะขอนั่ง คุกเขา เเบบนี้ ไปจนกว่า อาจารย์ จูจู จะหายโกรธ นะเจ้าค่ะ


เอาล่ะ... ลุกขึ้นก่อน
คุกเข่านานๆ เดี๋ยวก็เข่าเจ็บจนช่วยตัวเองไม่ถนัดหรอก

ไม่รู้... ก็ถาม
รู้สึกผิด... ก็ขออภัย

ก็มีสปิริตดีนะคุณน้อง


ถ้ามีโอกาส... พาอาจารย์โยดาไปลองใช้กัญชาประกอบการทำสมาธิมั่งสิ




คุยกะอาจารย์จูจู ใช้ตัวหนังสือเล็กๆก้อด้ายยยนะจ๊ะ...

 

โหยยยยยยยย
--กระทู้เจ๊แต่ละอันนี่สุดยอดเลย อันนั้นก็กัญชา ผมแอบไปเม้นให้ด้วยนะ

แต่เหตุการณ์แบบกระทู้นี้ผมไม่ค่อยเจอเท่าไร

ดูรูปเมียมันก็หดไปเอง​

 

สำหรับผมมีอารมณ์ จะให้อารมณ์ดับ แล้วค่อยนั่งสงบจิตใจ

 

ไม่ได้มาตอบกระทู้หรอกนะ แค่จะมาบอกว่า อ่านไปขำไปขำจนน้ำตาเล็ด
ที่ขำไม่ได้เมากัญชาหรอกนะ ขำทั้งคำถามคำตอบ แรง catt3

 

;aa17 ผมก็ขำเหมือนกันครับ สงสัยก่อนน้องตอบ กัญชาจะค้างในกระแสเลือด black_pig

 

สาธุ

สาธุ ขอ ให้ เมีย มาอ่านเจอ ที เถอะ --เพี้ยงงงงงงงงงงเป็น ข้อ ความ ที่ เสี่ยงภัย เป็น อย่าง ยิ่ง อิ อิ อิ

 

น้านนนนนนนนนนนนนน

น้านนนน เเม่น ยัง กะ ตาเห็น 5555555

 

ขอบ

ขอบ พระคุณ ทุก ความ คิดเห็น เจ้า ค่ะะะะะะะ

 

--ว่าแต่ ชายที่ยิ้มในรูปเจ๊นี่คัยหรอครับ หล่อดีนะ
อิอิ

 

ตอบค่ะ

ตอบ---เป็นเพื่อน รุ่น พี่ เจ้าค่ะ --เป็น นักดนตรี เล่น ไวโอลิน บาง ที มันขี้เกียด --มันก็ ลงไป ยืน ตบ มือ ข้าง เวที ----กิน เเรง โครตตตตตตต

 

สมาธิ ในความหมายของพจนานุกรม แปลว่า ที่ตั้งมั่นแห่งจิต แต่สมาธิในความหมายของการฝึกปฏิบัติ คือการทำใจให้นิ่ง ซึ่งต่างจากร่างกายที่ยิ่งเคลื่อนไหวยิ่งแข็งแรง แต่จิตใจนั้นตรงกันข้าม คือจิตใจหวั่นไหวย่อมอ่อนแอ แต่หากหยุดนิ่งเฉยได้แล้วจะยิ่งมีพลัง เหมือนการรวมโฟกัสของแสงให้เป็นจุดเดียวกัน ย่อมมีพลังที่จะจุดไฟให้ติดได้
การทำสมาธิมีปรากฏในหลายศาสนา ซึ่งรวมถึง พุทธศาสนา ฮินดู และ เต๋า และยังคงรวมถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา เช่น โยคะ
<TABLE class=toc id=toc><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

[ซ่อน]

• <LI class="toclevel-1 tocsection-1">1 ระดับของสมาธิในพุทธศาสนา <LI class="toclevel-1 tocsection-2">2 การทำสมาธิในพุทธศาสนา <LI class="toclevel-1 tocsection-3">3 การเพ่งกสิณเพื่อการทำสมาธิภาวนา <LI class="toclevel-1 tocsection-4">4 สัมมาสมาธิ <LI class="toclevel-1 tocsection-5">5 อ้างอิง
• 6 แหล่งข้อมูลอื่น

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[แก้] ระดับของสมาธิในพุทธศาสนา

1. ขณิกสมาธิ สมาธิค่อยๆ เล็กน้อย ที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่นใช้อ่านหนังสือ หรือขับรถ
2. อุปจารสมาธิ สมาธิที่แน่วแน่มากกว่าขณิกสมาธิ แต่แน่วแน่น้อยกว่าอัปปนาสมาธิ
3. อัปปนาสมาธิ สมาธิที่ไม่หวั่นไหว หมายถึงสมาธิระดับฌานสมาบัติ ปฐมฌาณขึ้นไป

ผมหาความหมายของสมาธิมาให้อ่านดูนะครับ
ทุกคนถ้ายังละสักกายทิฐฐิไม่ได้ (ซึ่งผู้ปฏิบัติมานานก็ยังเกิดได้เป็นบางครั้ง) ย่อมมีราคะ

วิธีสำหรับจัดการกับ "กามราคะ"

หากท่านต้องพบกับปัญหาความคิดทางกามารมณ์เข้ามารบกวนจิตใจอยู่บ่อยๆ หรือ ถูกสื่อยั่วยุต่างๆ กระตุ้นเร้าให้สนใจแต่เรื่องเพศ จนจิตใจไม่สงบ เสียการเสียงาน โปรดอย่าปล่อยให้จิตใจของท่านถูกกระทำแต่ฝ่ายเดียว เพราะการถูกกระตุ้นเร้าทางเพศเป็นประจำจะทำให้ท่านมีความรู้สึกทางกามารมณ์ที่รุนแรง จนไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองให้เป็นปรกติได้ มีผลทำให้เกิดโทษต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ความเดือดร้อนใจ ความทุกข์ใจ ความกระวนกระวายใจ ฯลฯ และ เกิดโรคภัยไข้เจ็บ หรือ บางครั้งท่านอาจสามารถก่ออาชญากรรมทางเพศได้โดยไม่รู้ตัว ฯลฯ
Budpage จึงขอเสนอวิธีฝึกกรรมฐานแบบง่าย ๆ ที่จะสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ และ แก้ไขปัญหาให้ท่านได้

วิธีการฝึก

1. ให้อ่านธรรมเทศนาเรื่อง"ความไม่งามของร่างกาย " ที่นำมาแสดงข้างล่างนี้อย่างช้าๆ และตั้งใจ
2.ขณะที่อ่านควรพิจารณาภาพที่นำมาแสดงให้เห็นความไม่งาม ตามคำบรรยาย
3. หากท่านพิจารณาอย่างตั้งใจ จิตของท่านจะเริ่มสงบ เพราะราคะภายในใจค่อยๆ หมดไป
4. หากท่านพิจารณาอย่างต่อเนื่องและตั้งใจ ติดต่อกันเป็นเวลานาน จิตจะเกิดปีติ สุข และ สมาธิ
(กรุณาอ่านคำเทศนาของพระอาจารย์กรรมฐาน พร้อมกับพิจารณาภาพ)


<!--coloro:#800080--><!--/coloro-->การเจริญวิปัสสนาค้นคว้าในกาย ขั้นเหตุนั้น จงกำหนดคาดหมายเสียก่อนว่า เป็นอย่างโน้น อย่างนี้ก็เราเคยเห็นมาแล้ว มนุษย์เพื่อนร่วมโลกร่วมสงสาร หญิงชายตายแล้ว เห็นแต่เป็นอย่างนี้ เอาไว้วัน ๒ วัน ไม่ฉีดยา ก็เหม็น เหม็นเบื่อหน่าย เหม็นน่าเกลียด เหม็นมนุษย์ร้ายกว่าเหม็นหมานั่นแหละ ทำไมเหม็นเน่าขนาดนั้น

จึงว่า อสุภะ อสุภัง เป็นของเปื่อยเน่า เป็นของเหม็น น่าเกลียด เหม็นอย่างสุดยิ่ง นั่นแหละ ปฏิกูลน่าเกลียดสกปรกโสโครก มีหนังหุ้มอยู่ ภายนอกดูเกลี้ยงเกลาหลอกเรา หญิง ชาย หนุ่ม สาว ภายในนั้นมีอะไรบ้าง ดิน น้ำ ลม ไฟ หลายอย่าง เอ็น กระดูก ชิ้นน้อย ชิ้นใหญ่ ไส้น้อย ไส้ใหญ่ ทุกอย่าง อาการ ๓๒ ก็ล้วนแล้วแต่ของปฏิกูลทั้งนั้น (ดูภาพประกอบ)

นั่นแหละ เมื่อเอาของภายในออกภายนอกแล้วเป็นอย่างไร ก็มีแต่ของเปื่อยเน่า มีแต่ของปฏิกูลน่าเกลียดทั้งนั้น นั่นแหละทีนี้ ก็เห็นๆ กันมาอย่างนั้น ถึงแม้เรายังไม่เป็น ยังไม่ถึง คนอื่นก็เป็นมาให้เห็นอยู่ บางคนหญิงชายตายแล้ว เก็บไว้คืน ๒ คืน ก็ส่งกลิ่นเหม็นออกมาแล้ว คืนที่ ๓ เอาไปป่าช้าเปิดหีบออก มันขึ้นสีเขียวหมดแล้ว สีเขียว สีดำ หน้าเบ้ อะไรก็ไม่น่าดู เปลี่ยนสภาพหมด มีกลิ่นเหม็น น้ำเน่าไหลออกจมูก ไหลออกปาก หญิง ชาย โอ๋...น่าเกลียด น้ำเน่านั้น เขาเลิกผ้าออกไปถึงทวารหนัก ทวารเบา น้ำเน่านั้นมันก็ไหลออกจากทวารหนัก ทวารเบา

แพทย์เขาบอกว่า ผู้หญิงมันเน่าทวารเบาก่อน เหม็นเน่า น่าเกลียด ผู้ชายเน่าที่ท้องก่อน เหม็นเน่าน่าเกลียด ปฏิกูลน่าเกลียด แสนที่จะไม่น่าปรารถนา นั่นแหละ เมื่อถึงสภาพนั้น อะไรเป็นเขา เป็นเรา ก็ถามจิตดู

เคยเห็นมาแล้ว หลายร้อยศพ ผลสุดท้ายก็เผาหรือฝัง เมื่อเผาแล้วเป็นอย่างไร ก็เหลือแต่ร่างกระดูกขาวๆ นั่นแหละ อสุภะ อันละเอียด จากนั้นไฟก็สังหารเป็นเถ้าถ่านจนหมด ถ้าฝังถมดินไว้ ดินก็ดูดกลืนกินหมด เหลือแต่กระดูกธาตุแข็งเท่านั้น ไม่มีอะไรเป็นชิ้นดีหรอก ของเขา ของเรา เมื่อถึงสภาพนั้นแล้ว สิ่งทั้งปวงก็เป็นอย่างนี้<!--colorc--><!--/colorc-->

คำบรรยายจากเทปเรื่อง การฝึกจิต

หลวงปู่จันทา ถาวโร

หรือเริ่มขจัด ฟุ้งซ่านในจิตตัวเองก่อนด้วยการใช้คำภาวนา เช่น พุทโธ ก็ได้ผลดี