ชมรมการพัฒนาจิต บำบัด ด้วยกฎธรรมชาติและพลังแห่งพุทธะ

รับทราบค่ะ

เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ..............

 

22 มกราคม พ.ศ. 2554
วันเส้นทางแห่งพลังพุทธะ.......พลังนี้จะปรากฏ......ด้วยความรักและเมตตา ......ไม่มีประมาณ.....ไม่มีขอบเขต......ไม่เลือกที่มา
เราจะเดินไปพร้อม ๆกัน ....ทีละก้าว.....จนถึงเส้นชัย.....แห่งการหลุดพ้น
เดมีดี

 

ผ่านไปหนึ่งวันสำหรับงานหม่าม๊า.....
มีคนที่มาประมาณ 60 ท่าน
บางท่านติดภารกิจ,บางท่านป่วย ก็เลยทำให้แผนงานต้องปรับเปลี่ยนเฉพาะหน้า เหลือผู้ช่วยงานในการแนะนำไม่มีเลย พอดีได้คุณดาวทะเลทรายมาช่วยรับดูแลสมาชิกที่มีพื้นฐานและเก่ง ๆ กันแล้ว ในการเช็คพลังของตนและสอนการช่วยเหลือผู้อื่น

เราเลยรับหน้าที่สอนด้วยความจำเป็นเอากันแบบสด ๆ จากภูมิเดิมที่มีตามสไตล์ของเราเอง ....แบบง่าย ๆ.....บนพื้นฐานง่าย ๆ.........ก็พอทำให้สมาชิกมีความรู้รอเวลาวิทยากรหลัก ๆและแนะนำวิทยากรได้บางท่านเท่าที่พอมีเวลา เพราะเราเริ่มรักษากันเลยจึงทำให้แต่ละท่านมีคิวเต็ม

แต่งานนี้สนุกสนานกันมากด้วยกิจกรรมจ้องตาจับผิดด้วยพลังจิต ก็ทำให้บางท่านเกิดความคุ้นเคยกันได้เร็วขึ้น คนเก่งช่วยคนไม่เป็นให้เก่งขึ้น และดูทักษะเฉพาะตนได้มากขึ้น

งานนี้หม่าม๊ายังไม่ค่อยสบายเลยไม่สามารถพูดได้มาก ใช้เสียงไม่ค่อยได้ ก็เลยพลาดโอกาสงาม ๆ ไป ตั้งใจไว้ว่า หม่าม๊าจะพูดคนเดียว 1 ชั่วโมง เลยเหลือแค่ 5 นาที เพราะเจ็บคอไอทั้งคืน..........

ส่วนภาคบ่ายเมื่อวิทยากรและผู้ช่วยตัวจริงมา.....ตอนนี้ก็ทำให้บรรยากาศคึกคักทันที
เน้นหนักไปกับการนั่งสมาธิ และนั่งสมาธิ และเท่าที่สังเกตทุกท่านได้ประโยชน์กันทีเดียว
หน้าใสกลับไปเลย แต่หลินเองไม่ไหวแล้วเลยนั่งหลับเลย....55555

เรื่องอาหารการกินมีเหลือเฝือ เห็นน้องคณโฑไว ๆ แล้วรีบหนีกลับเลย มีคนชมอร่อยด้วยนะ.......ขอบคุณหลาย หลายเด้อ...........
ส่วนเบรกก็มีให้ทานไม่อั้น .......แต่ด้วยทุกท่านมีความเพียรอย่างมาก ไม่ค่อยจะยอมทานอะไรเลย........อิ่มบุญกันหมดเลย...........5555

พรุ่งนี้เอาใหม่.....สถานที่เปลี่ยนเล็กน้อยเข้ามาอยู่ด้านใน แต่สำหรับท่านที่มาแล้วเราก็สามารถมาต่อยอดได้ทันที รอบสอง.....ประโยชน์ที่ได้รับก็จะมากขึ้นไปอีก....นิด
และก็ขอให้ทุกท่านนำกลับไปฝึกด้วยตนเองสม่ำเสมอทุกขณะจิต....ง่าย ๆ เบาสบายและหลุดพ้น

 

วันที่2 สอนทำอะไรมั่งคะพี่หลิน ปูเสื่อรออ่าน..*-*

 

สรุปงาน

วันแรกเป็นการชี้แจง การทำจิตให้ว่างและอิสระ และเรียนรู้พื้นฐานของตนเอง

วันที่2 เป็นการต่อยอด จากวันที่1 และเรียนรู้การช่วยผู้อื่น ปรับสมดุล ซึ่งแต่ละคน ก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ควรมี คือจิตอาสา ที่บริสุทธิ์ ด้วยรักและเมตตา ด้วยความหวังดี ปรารถนาดี ต่อตนเอง และผู้อื่น

เราจะมีโครงการที่2 ต่อ............... ขึ้นอยู่กับการเรียกร้องของสมาชิก เราจะดูตัวเลขที่ 100 คนอัพ สามารถจองคิวไว้ได้เลยค่ะ

 

ต้องขอขอบคุณพี่ดาวทะเลทราย พี่ชัยมงคล พี่อัคนีวาต ปุนจา และสต๊าฟทุก ๆ ท่าน รวมทั้งผู้มีอุปการะคุณให้งานนี้สำเร็จลงได้ด้วยดี มีทั้งกำลังใจ กำลังกาย และจิตอาสา จากเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องสมาชิกทั้งใหม่และเก่า ที่เราสามารถรวมกันเป็นหนึ่งได้ โดยไม่ย่อท้อและบ่นเลยซักคำเดียว งานที่แสดงให้เห็นถึงความรักและเมตตา อย่างไม่มีประมาณนั้น ต้องร่วมกันหลาย ๆ ฝ่ายอย่างเต็มกำลัง ไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้เริ่ม แต่มีแต่เราก้าวไปพร้อม ๆ กัน ด้วยความรัก ศรัทธา และเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เท่านั้นถึงเห็นถึงความสำเร็จได้

เมื่อคราวหน้ามาถึง....เราจะมีทั้งสมาชิกที่เก่งขึ้น....มีพลังมากขึ้น....และมีจิตอาสามากขึ้น....และเราจะก้าวต่อไป........พร้อม ๆ กัน

เชิญลงคะแนนเสียงโหวดได้เลยค่ะ ว่าคราวหน้าต้องการให้มีอีกหรือเปล่า.......
(เพราะเสียงของสมาชิกจะดังไปถึงพลังแห่งธรรมชาติ.....ที่รอเวลา...ปรับสมดุลย์ค่ะ)

 

สอนให้รู้หน้าที่ ที่มีต่อตนเองและผู้อื่น

และหน้าที่ที่มีต่อโลกและจักรวาล มันไม่ใช่หน้าที่ใด คนใด เพียงคนเดียวที่จะช่วยได้ มันมีหน้าที่ของส่วนรวม ซึ่งทุกคนมีหน้าที่ แต่ต่างกันที่ภาระกิจที่ได้รับมอบหมายเท่านั้นเอง ..............

 

เชิญลงคะแนนเสียงโหวดได้เลยค่ะ ว่าคราวหน้าต้องการให้มีอีกหรือเปล่า.......
(เพราะเสียงของสมาชิกจะดังไปถึงพลังแห่งธรรมชาติ.....ที่รอเวลา...ปรับสมดุลย์ค่ะ)


ขอร่วมเป็นกำลังใจ.... เห็นควร ที่จัดให้มีครั้งที่ 2 ครับ
เป็นกำลังใจให้กับผู้พยายามฝึกหัดตน เพื่อตัดวงจรแห่งปฏิจจสมุปบาท

หม่าม๊าหายไวไว นะครับ

 

มีคนให้กำลังใจหลังไมล์กันมาก ทั้งแนะนำการทำงานและภาพรวมของการทำงาน เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น ต้องขอออกตัวก่อนว่า งานแรก เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับทุกท่านเลยยังกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ และยังไม่ค่อยเจอกันแบบคราวละหลาย ๆ ท่านพร้อมกัน เพราะส่วนใหญ่ เมื่อพบหม่าม๊าแล้วก็กลับเลย จึงไม่ได้มีโอกาศสนทนาในบรรดาสมาชิกกันเอง แต่งานนี้ส่วนใหญ่ อยู่จนเลิกงานเลย เห็นแล้วชื่นใจแทนหม่าม๊า จริง ๆ ว่ามีสมาชิกต้องการพบท่านมาก และรอที่สนทนากับหม่าม๊า แต่เสียดายหม่าม๊าไม่ค่อยมีเสียงเลยรับรองไม่ได้เต็มที่

และในวันที่สองสมาชิกที่มาส่วนใหญ่ เป็นสมาชิกที่มาในวันแรกแล้ว และเราก็เริ่มนั่งสมาธิกันเลย โดยมีคุณอัคนีวาตแนะนำเบื้องต้นให้ และต่อยอดด้วยตัวเอง ซึ่งเท่าที่ฟัง หลายท่านมีการพัฒนาการที่เร็วมาก เรียนรู้ได้ดี และเข้าใจมากขึ้น ทั้งการเดินพลัง การปลดปล่อยพลัง และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้เราสบายเลย เพราะสมาชิกรู้จักกันแล้ว
ก็ทำให้บรรยากาศเหมือนมานัดเจอกันสนุกสนานไปเลย พอช่วงบ่ายเราก็มีกิจกรรมรวมกลุ่มใหญ่อีกครั้ง ซึ่งวันที่สองจะต่างจากวันแรกตรงที่ มีผู้มีความสามารถมาสมทบหลายท่าน ที่ยังไม่เคยมาเลย ก็ทำให้การนั่งสมาธิเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็วและทรงพลัง(เราไม่รู้หรอกเค้าบอกมา.....55555)และก็มีการอธิบายถึงวิธีการที่มีการนั่งสมาธิกันในลักษณะนี้เพื่อประโยชน์อะไร ท่านที่มาก็สามารถรับรู้และเข้าใจได้ และนำกลับไปปฏิบัติต่อได้
และก็มีการนัดหมายเวลากันที่สองทุ่มของทุกคืน.........ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันพอสมควร........เพราะเราเป็นคนนอนดึก...พอนอนเร็ว ก็เลยตื่นเลยและทำให้มีเวลามาเขียนเล่าบรรยากาศโดยรวมให้ฟังแก้เหงายามค่ำคืน

สำหรับท่านใดมีอาการอ่อนเพลียก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเราใช้พลังกันมากแบบไม่รู้ตัว
แต่สำหรับเราเองไม่ค่อยแปลกใจเพราะนอนดึกมาสองอาทิตย์แล้วเลยน็อตหลุด แบบหลับได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นระบบปกติของร่างกาย พอมาเจอนั่งสมาธิแบบเต็ม ๆ มันก็จะหลับแทน ก็เลยไม่ค่อยสนุกกับการนั่งเสียเท่าใด............แต่ก็ได้พี่ ๆ มาส่งพลังให้ที่หลังให้ฟื้นตัวได้เร็ว........ขอขอบคุณค่ะ

ถ้าสมาชิกที่มามีอะไรแนะนำ และต้องการอะไรเพิ่มเติมในกิจกรรมครั้งต่อไป ก็ขอให้บอกนะค่ะ จะได้จัดสรรให้แบบถูกอกถูกใจทุกท่าน หรือสมาชิกจะออกแบบกิจกรรมเองก็ได้ค่ะ
ยินดีรับมาพิจารณาร่วมกันค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีคนเก่งหลายท่านแต่กลัวการพูดที่มีคนจ้องหลาย ๆ คนพร้อมกัน......กลัวความหล่อจะถูกดูดกลืนไปนะค่ะ เลยไม่ยอมออกมาเป็นวิทยากรให้.....ก็เลยต้องให้แม่ครัวออกมาเล่นเอง.....ก็เลยได้งานแบบสบาย ๆ กันเองหน่อย.....ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เพราะคราวหน้าก็คงผิดพลาดอีก..........55555

 

พี่หลินคะ

คราวหน้าจะจัดที่สวนรถไฟใช่ไหม ตามที่พี่ชัยแนะนำ
วันที่ 5 กพ.จะไปปฏิบัติธรรมที่นั่น
ไว้จะถ่ายรูปมาใหดูละกันนะคะ

รอจัดครั้งที่ 2 ค่ะ สนับสนุนเต็มที่

 

กำลังหาคนติดต่ออยู่

ถ้าไปแล้ววานถามให้ที ติดต่อใคร เค้าจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสาธารณะของกทม.(พี่ชัยนี่ใครนะ.....พี่ชัยมงคลหรือ)
สนับสนุนหม่าม๊า ....ไม่ใช่สนับสนุนพี่หลิน.....เอือก.....55555

 

วันนี้มีเทคนิคเก็บตกมาจากวันงานมานำเสนอค่ะ
เราเล่นเกมส์กันใช่หรือไม่ค่ะ ...... การจ้องตากันและมองด้วยใจและความรู้สึก....เป็นหนทางลัดที่เป็นการฝึก เจโต ค่ะ (ไปหาอ่านเองนะค่ะ เจโต หมายถึงอะไร )
ดวงตาคือสื่อความหมายของจิตใจและความรู้สึกค่ะ ถ้ามองดี ดี เราจะรู้ว่า มันมีเรื่องซ่อนเล้นอยู่มากมาย ประกอบกับท่าทางของอีกฝ่าย บุคคลิกภาพที่ปรากฏ มันกำลังจะสื่อความหมายอะไรออกมา ลองเอาไปเล่นบ่อย ๆ ก็ได้ค่ะ
เพราะบางคนแค่ถูกจ้องอยู่ไกล ๆ ก็รู้สึกตัวว่าถูกจ้องมองดูค่ะ มันมีกระแสวิ่งผ่านไปมา และยิ่งสำหรับคนฝึกพลังจิต จะเป็นเรื่องเล็กน้อยค่ะ

 

ใช่พี่ชัยมงคลค่ะ
จะลองถามดูนะคะ
ก็ไม่ได้ระบุว่าสนับสนุนใครโดยเฉพาะ
เอาเป็นว่าสนับสนุนให้มีงานดี ไม่เลือกหน้า เลือกสถานที่ อ่ะนะ
ฮ่ะฮ่าๆๆ เล่นมุกแรงส์ทีหลัง ย่อมหัวเราะ หึหึ ในลำคอ หุหุ ด้วย
และต่อท้ายด้วย ฮ่ะฮ่าฮ่าๆๆๆๆๆ

 

เวป พลังจิต นี่เขา server ทำงานหนัก บ่อยเนอะ
พี่ๆมี facebook กันป่ะ ใครใช้ account ขื่อไรบ้าง จะได้ Add
แล้วก็ไปสร้าง group Mamaa แล้วคุยกันในนั้นท่าจะดีนะ
สร้าง group จะทำให้คุยได้แบบส่วนตัว เฉพาะกลุ่ม หรืออยากเิปิดเผยก็ได้หมดอ่ะ
มันไม่ค่อยค้างอ่ะ

อีกอย่าง มีเครือข่ายอยู่เยอะ เพื่อนแยะ จะทำให้ช่วยเรื่องปชสได้เวลาจัดงาน

 

จะใส่รูปใต้ชื่อ ทำไงอ่ะ แนะนำหน่อยค่ะ

 

ขอเล่าส่ิ่งที่เกิดขึ้นกับเราบ้าง ขณะที่คุณติณให้พลังอยู่นั้น มีความรู้สึกคลื่นไส้มาก
แต่มันไม่ยอมออก พอกลับถึงบ้านเข้าห้องน้ำถ่ายออกมาดำปี๋เลย และในช่วงสองทุ่ม
พออ่านคำอธิฐานร้อนไปทั้งจักระ๗ถึงแม้จะเดินเล่นผ่อนคลายดูต้นไม้แล้วก็ตาม เลยต้อง
เข้าห้องเปิดแอร์เป่าถึงจะดีขึ้น

 

คำเตือน..............
ในหลาย ๆ บอร์ดจะเตือนเสมอว่า..........เปิดจักระแล้ว........ไม่ดี มีผลข้างเคียง

จะขอบอกกล่าวว่า

การเปิดจักระนั้นเปิดเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งที่รับพลังจากภายนอกเข้าสู่ร่างกายและผ่านออกไป ไม่ได้เอามาเก็บไว้ทำอะไรเลย.....เอามาเพื่อล้างของเสียของร่างกายในวิธีหนึ่งเท่านั้น...และผู้ที่ฝึกจนชำนาญแล้วและมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นผู้ช่วยเหลือผู้อื่นได้นั้น
ท่านต้องเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่ ต้องการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความจริงใจ ไม่หวังผลใด ใด ในทางอวดอ้างบารมี หรืออวดอ้างสรรพสิ่งเหนือมนุษย์ ทั้งปวง และ ขอรับพลังจากภายนอกเพื่อผู้อื่น.....เข้าใจคำว่าผู้อื่นหรือไม่.........
ให้ด้วยความรักและเมตตา ปรารถนาให้เค้ามีสุขภาพที่ดีขึ้น.....เท่านั้นเอง

ดังนั้นเมื่อท่านฝึกแล้ว แน่น...ปวดหัว..หรืออะไรก็แล้วแต่...นั่นแสดงว่าท่านยังปรับจิตและร่างกายไม่ดีพอ เป็นการเร่งพลังเกินไป ไม่ได้ดึงพลังแบบธรรมชาติ เหมือนการตั้งใจอะไรสักอย่างที่ขาดการสังเกต ที่ตัวตน และจิต ของท่านเอง ต้องทำให้มันสมดุลย์ เบาสบาย ทั้งตัวและจิต................

ความสำเร็จคงไม่ได้มาแค่ชั่วเวลาข้ามคืน.....และอย่าหวังผลให้สูงมากนัก....ค่อย ๆ เรียนรู้ตนเอง...สิ่งดี ดี เกิดขึ้นภายใน...ไม่ใช่ภายนอก

 

หลายวันมานี่...ที่เรานัดกันสองทุ่ม...ใครมีผลก้าวหน้าอย่างไรบ้าง
ช่วยแนะนำด้วยค่ะ....ต้องการทราบข้อมูลที่แตกต่างกันค่ะ

 

สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม คือผมรู้สึกว่านอกจากจักระที่เจ็ดแล้ว ยังมีพลังงานเข้ามาที่มือทั้งสองข้างด้วยนะครับ ตอนนี้รู้สึกแปล๊บๆที่มือนะครับ

ส่วนตอนแผ่เมตตาก็รับพลังเข้ามา แล้วแผ่เมตตาออกไปไม่มีกั๊กไว้กะตัวนะครับ รับมาแล้วส่งออกไป คิดว่าตัวผมเป็นแค่ทางผ่านของพลังงานนะครับ :love:

 

ตอนนี้...ความเหนือยล้าได้พอทุเลาไปบ้าง....อะไรจะเกิดก็ปล่อยไป พอมีเวลาทำสมาธิก็เลยได้เห็นโลกทัศใหม่ ๆ หน้าที่ใหม่ ๆ ฟันเฟืองแต่ละตัวก็คงจะเริ่มทำงานได้แล้ว.....
เร่งรีบฝึก ๆ กันหน่อย.....บททดลองเล่น ๆ ใครที่ถูกใจใครเป็นพิเศษ...ก็ลองต่อเชื่อมดู....ว่าจะส่งถึงกันได้หรือไม่....