เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เครื่องบินรบ 'ล่องหน' รุ่นล่าสุดของจีน เรียกเสียงฮือฮาในแวดวงทหาร

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    กาแฟดำ

    จีนพัฒนา “เครื่องบินรบล่องหน” ที่มะกันเรียก “stealth fighter jet” เงียบๆ จนพร้อมจะเปิดตัว ก็แกล้งทำเป็น “ข่าวรั่ว”

    ออกในสื่อหนังสือพิมพ์และบล็อกในอินเทอร์เน็ต ให้ชาวโลกตื่นเต้นเล่น ใครจะทำไม?
    สองสามวันก่อนผมอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ขณะที่ รัฐมนตรีกลาโหม โรเบิร์ท เกตส์ ไปเยือนจีน ประเด็นนี้ก็กลายเป็นเรื่องที่สหรัฐต้องถามผู้นำจีนว่ามันเป็นจริงแท้แค่ไหน?
    ประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ไม่ปฏิเสธข่าวนี้ บอกให้คิดต่อไปอีก ว่า การออกแบบเครื่องบินรบแบบหลบหนีการตรวจสอบของเรดาร์ทันสมัยนั้น “ไม่ได้มีประเทศไหนเป็นเป้าหมายเป็นการเฉพาะ และการทดลองบินก็มิได้กำหนดให้ตรงกับการมาเยือนประเทศจีนของท่าน”
    เกตส์ เป็นคนบอกนักข่าวเองว่าได้ตั้งคำถามเรื่องนี้กับผู้นำจีน (ก็เข้าล็อกแผนจีนที่ต้องการให้ถามเพื่อจะได้ตอบโดยไม่ต้องออกแถลงการณ์เอง) ซึ่งเมื่อได้รับคำตอบอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียงต่อไปอีก เพราะเจ้าของบ้านเขายืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องภายในของเขา และไม่ได้มุ่งจะสร้างศัตรูกับใคร
    แต่ข่าวคราวการเปิดตัวของ J-20 สร้างความฮือฮาในแวดวงทหารระหว่างประเทศพอสมควร เพราะมันคือการพิสูจน์ว่าจีนสามารถพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารของตัวเองได้ เกินกว่าระดับที่เคยเชื่อกันว่ายังล้าหลัง ประเทศตะวันตกอยู่หลายขุม
    วันนี้ความเชื่ออย่างนั้นเริ่มจะเสื่อมคลาย เพราะการเปิดตัวอย่างไม่เปิดตัวของ J-20 ของจีนนั้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้หลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า จีนสามารถผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยได้ด้วยตนเองในหลายด้านแล้ว
    จีนแอบพัฒนาด้านนี้โดยไม่ออกเป็นข่าว เพราะไม่ต้องการสร้างความหวาดกลัวเพิ่มเติมให้แก่ประเทศต่างๆ ที่วาดภาพว่าจีนกำลังสยายปีกเพื่อจะเป็นมหาอำนาจทางทหาร และอาจจะกลายเป็น “พี่เบิ้ม” คุกคามประเทศอื่นๆ ได้
    ผู้นำจีนยังยืนยันเสมอมาว่าการเติบใหญ่ของจีนจะเป็นไปอย่างสันติ และไม่มีเจตนาจะคุกคามความมั่นคงของประเทศใดทั้งสิ้น
    แต่คำถามเรื่องนี้ไม่หายไป ตรงกันข้ามกลับมีการตั้งประเด็นร้อนๆ เรื่องนี้อย่างถี่ยิบและดังขึ้นทุกที
    และพอมีทั้งภาพและข่าวของเจ้า J-20 ออกมาในสื่อของจีนและแพร่ไปในต่างประเทศ ก็ยิ่งกระพือความเห็นของผู้สังเกตการณ์ว่าจีนกำลังเดินหน้าสร้างแสนยานุภาพทางทหารอย่างไม่หยุดยั้ง
    ภาพที่ผมเห็นคือการทดลองขึ้นลงของ J-20 สองเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นเครื่องบินปฏิบัติการพิเศษรุ่นที่ 4 ที่เมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน ประมาณ 15 นาที วันหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน
    เป็นที่รู้กันว่าเฉิงตูกับเมืองเสิ่นหยาง (ในเหลียวหนิง) กับ ซีอาน (ในฉ่านซี) เป็นจุดที่รัฐบาลจีนใช้เพื่อการพัฒนาแสนยานุภาพทางอากาศของกองทัพจีนอย่างกว้างขวางและคึกคัก
    แม้ว่าเครื่องบินที่เห็นนำมาทดสอบนั้นเป็นเพียง “แม่แบบ” หรือ prototype เท่านั้น แต่ก็สร้างความฮือฮาในหมู่คนที่รู้เรื่องดีว่าจีนกำลังหายใจรดต้นคอหลายประเทศในแง่การสร้างคนของตนทางด้านวิจัยและพัฒนาทางทหารเพื่อสร้างสมอาวุธของตน
    จีนเพิ่งประกาศนโยบายจะไม่ยอมเป็นสองรองใครในด้านอวกาศ และหากจีนมีผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศ อีกทั้งยังส่งคนรุ่นใหม่ทางด้านวิทยาศาสตร์และออกแบบไปศึกษาหาความรู้ด้านลึกจากประเทศที่พัฒนาด้านนี้ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐหรือยุโรป ซึ่งแปลว่าปักกิ่งกำลังไล่กวดทางด้านการทหารอย่างคล่องแคล่วยิ่ง
    ยิ่งเศรษฐกิจของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงใด ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าจีนมีเงินทองมากพอที่จะทุ่มไปกับการพัฒนาทุกอย่างทางทหารที่ตนต้องการเพื่ออ้างได้ว่าเป็นการปกปักรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของตนในอนาคต
    เครื่องบินรบ “ล่องหน” อาจจะหลบเลี่ยงเรดาร์ได้ แต่ไม่อาจจะหลีกหนีการติดตามข่าวสารของประเทศที่เฝ้ามองความเคลื่อนไหวของจีนทางด้านการสร้างความคึกคักทางด้านทะเลและอากาศได้แน่นอน
    แน่นอนว่าเราไม่ต้องเห็นการแข่งขันกันสร้างแสนยานุภาพทางทหารในภูมิภาคนี้ เพราะหากต่างฝ่ายต่างแก่งแย่งกันสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ ความตึงเครียดก็จะเพิ่มระดับขึ้นโดยอัตโนมัติ
    รัสเซียกับอินเดียเพิ่งจะลงนามร่วมกันสร้างเครื่องบินล่องหนเพื่อการส่งมอบในปี ค.ศ. 2017 ซึ่งก็จะตรงกับที่จีนจะสามารถพัฒนาเพื่อใช้ในการปฏิบัติการทางทหารได้เช่นกัน
    กองทัพอากาศของอเมริกาเองมีเครื่องบินรบแบบ “ล่องหน” ชื่อ B-2 “Spirit” bomber ประมาณ 20 ลำ ซึ่งทุกวันนี้ก็ใช้ปฏิบัติการในสงครามอิรักและอัฟกานิสถาน (เคยใช้ในสงครามโคโซโวเมื่อปี 1999)
    สหรัฐอเมริกามีเครื่องบินภารกิจคล้ายกันอีกประเภทหนึ่ง ชื่อ F-22 “Raptor” fighter ซึ่งแพงและห้ามส่งออก และเมื่อมีการพัฒนาอีกหนึ่งรุ่น คือ F-35 ก็กำลังพิจารณาจะเลิกผลิตรุ่น F-22
    เห็นไหมว่า ถ้ามังกรพ่นไฟด้วยเครื่องบินรบล่องหนเมื่อไหร่ อินทรีก็คงนอนไม่หลับอย่างแน่นอน

     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อภินิหารของหุ้น

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    <DD class=columnist-name>ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร <DD class=by-line>โลกในมุมมองของ VALUE INVESTOR ในตลาดหุ้น เราจะพบความ "ไร้เหตุผล" ในเรื่องของราคาหุ้นอยู่บ่อยๆ บางครั้งบริษัทที่ยิ่งใหญ่ในแง่ของตัวธุรกิจ มองทั้งในปัจจุบันและอนาคต
    แต่ราคาหุ้นต่ำต้อยจนไม่น่าเป็นไปได้ เป็นหุ้นที่ราคา "ไม่สมศักดิ์ศรี" ตรงกันข้าม บางครั้งบริษัทไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย ธุรกิจก็ธรรมดามาก หรือไม่มีอะไรโดดเด่น บ่อยครั้งเป็นผู้ผลิต หรือขายสินค้า "โภคภัณฑ์" ที่แข่งขันด้วยราคาเป็นหลัก แต่ราคาหุ้นกลับสูงลิบลิ่ว คิดเป็นมูลค่าของกิจการ หรือมี Market Cap. เป็นพัน หมื่น หรือบางทีเป็นแสนล้านบาท
    ในขณะที่ส่วนของทุน มีแค่เป็นหลักร้อย พัน หรือหมื่นล้านบาทเท่านั้น เรียกว่าราคาหุ้นสูงเป็นเกือบสิบเท่าของทุนทางบัญชี หุ้นในกลุ่มหลังนี้ผมอยากเรียกว่าเป็น "หุ้นอภินิหาร"
    การเกิดขึ้นของหุ้นอภินิหารนั้น ผมคิดว่ามีปัจจัยหลายๆ ประการขึ้นอยู่กับตัวหุ้น บางหุ้นอาจต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน บางหุ้นก็มีปัจจัยเพียงน้อยนิด แต่ผลก็คล้ายคลึงกันนั่นคือ ราคาหุ้นขึ้นไปสูงเกินพื้นฐาน "ระยะยาว" มากมาย ลองมาดูกันว่าหุ้นเหล่านี้มีปัจจัยอะไรบ้างที่มักเป็นตัวกำหนด
    ปัจจัยแรกที่ผมเห็นว่า เกือบจะต้องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหุ้นอภินิหารทุกตัว ก็คือ หุ้นเหล่านี้มักมี Free Float หรือหุ้นที่อยู่ในมือของนักลงทุน หรือนักเก็งกำไรระยะสั้นค่อนข้างน้อยถึงน้อยมาก บางบริษัทมีไม่ถึง 5% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท บางบริษัทมีหุ้นอาจจะถึง 25-30% แต่คิดเป็นเม็ดเงินแล้วก็น้อยมาก อาจจะเพียง 200-300 ล้านบาทก่อนที่หุ้นจะกลายเป็นหุ้นอภินิหาร
    การมี Free Float ต่ำนั้น ผมคิดว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปสูงลิ่วได้ ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหุ้นที่มีขายอยู่ในตลาดเพียง 200 ล้านบาท ถูกนักลงทุนรายใหญ่สักรายที่มีพอร์ตเล่นหุ้นพันล้านบาท กวาดซื้อหุ้นทั้งหมด
    แน่นอน การซื้อหุ้นหลังจากนั้น เขาก็สามารถทำราคาเป็นเท่าไรก็ได้ เพราะคนที่จะขายก็อาจจะเป็นเขาเองหรือเป็นเครือข่ายของเขา และถ้าเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น ราคาหุ้นก็จะค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นยาวนาน ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายหุ้นก็จะหดหายไป ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับคนที่กวาดซื้อหุ้นก็ไม่มีเพราะเขาอาจจะ "ออกของ" หรือขายหุ้นทิ้งทำกำไรไม่ได้ สิ่งที่ดีที่เหลืออยู่ก็อาจจะเป็นว่าเขารู้สึก "รวย" เพราะคำนวณจากตัวเลขแล้ว พอร์ตของเขาอาจจะใหญ่มากจากการถือหุ้นตัวนั้น
    หุ้นอภินิหารจำนวนไม่น้อย ถ้าดูจากปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวัน ก็อาจจะเห็นว่าสูงมาก เรียกว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องเหลือล้น ปริมาณเม็ดเงินที่วนเวียนอยู่ในตลาดที่คิดตามมูลค่าหุ้นตาม Free Float ที่มีอยู่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่น้อย บางตัวหลายพันล้านและบางตัวหลายหมื่นล้านบาท
    นี่ก็อาจทำให้เข้าใจผิดว่า ราคาหุ้นที่เห็นน่าจะสมจริงเป็นธรรมชาติที่เกิดจากอุปสงค์อุปทานของนักลงทุน แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้ง ก็จะพบว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่หุ้นกลายเป็นหุ้นอภินิหารแล้ว ถ้ามองก่อนหน้านั้น ที่ราคาหุ้นยังต่ำมาก ก็จะพบว่าหุ้นเหล่านั้นมี Free Float คิดเป็นเม็ดเงินน้อย เช่นเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายหุ้นก็น้อย ดังนั้นจึงเข้าข่ายที่จะเป็นหุ้นอภินิหารได้
    ปัจจัยข้อสองที่มักจะพบในหุ้นอภินิหารก็คือ บริษัทมักอยู่ในธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการที่มีราคาขายผันผวนคือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ และช่วงที่จะกลายเป็นหุ้นอภินิหารก็คือช่วงที่เกิดการขาดแคลนสินค้าในตลาดทำให้ราคาปรับตัวขึ้นมากส่งผลให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
    นอกจากนั้น บริษัทก็มักจะประกาศขยายกำลังการผลิตเพื่อที่จะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นไปอีกถ้าคิดว่ากำลังการผลิตใหม่ทั้งหมดสามารถทำกำไรได้เหมือนเดิม ทั้งหมดนั้นทำให้สามารถ "รองรับ" กับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปได้ในสายตาของนักลงทุนหรือนักเล่นหุ้นที่เข้าไปเก็งกำไรกันในช่วงนั้น
    ปัจจัยประการที่สามก็คือ หุ้นอภินิหารต้องมี "คนเล่น" ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีหลายกลุ่ม ตั้งแต่คนที่เป็น "สปอนเซอร์" ซึ่งมักจะเป็นรายใหญ่ที่มีพลังเงินมากเมื่อเทียบกับขนาด Free Float ของบริษัทในช่วงก่อนที่จะเป็นหุ้นอภินิหาร และต้องมีนักเล่นหุ้นรายย่อย ที่เป็นนักเก็งกำไร ซึ่งเข้ามาเล่นหุ้นรายวัน โดยหวังจะทำกำไรจากความผันผวนของราคาหุ้น
    นอกจากนั้น อาจจะมีนักลงทุนที่มองพื้นฐานของกิจการอย่าง Value Investor ด้วยที่อาจจะเข้าใจผิดในมูลค่าของกิจการ ทั้งหมดนั้นต่างก็มีความ "ฮึกเหิม" และหวังว่าจะสามารถทำกำไรได้งดงามจากการซื้อขายหุ้นอภินิหาร เหนือสิ่งอื่นใด ราคาหุ้นที่ปรับตัวต่อเนื่องมหาศาลเป็นสิ่งที่ "ยืนยัน" ความคิดของคนทุกกลุ่มที่เข้ามาเล่นว่าเขา "คิดถูก"
    ปัจจัยประการสุดท้าย ก็คือ หุ้นอภินิหาร มักจะเกิดขึ้นในยามที่ภาวะตลาดหุ้นสดใส เป็นตลาดกระทิงที่มีปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันสูงมาก หุ้นอภินิหารนั้น มักจะปรับตัวแรงในวันที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น เรียกว่าราคาหุ้นมักเกาะกระแสตลาด เช่นเดียวกัน วันไหนที่ตลาดปรับตัวลงแรง หุ้นอภินิหารก็ตกแรงตามไปด้วย ในช่วงที่กำลังเป็นหุ้นอภินิหาร การปรับตัวขึ้นลงวันละ 5-10% เป็นสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องธรรมดา
    หุ้นอภินิหาร สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ ไม่ช้าก็เร็ว ความอภินิหารก็จะหายไป จุดเริ่มต้น มักจะเป็นเรื่องของราคาสินค้าของบริษัท ที่มักจะเป็นราคาตลาด หรือตลาดโลกเริ่มเข้าสู่วัฏจักรขาลง หรือสินค้าที่ในช่วงต้นกำลังมาแรง เริ่มจะอ่อนตัวลง หรือเรื่องราวดีๆ ที่คิดไว้นั้นเมื่อเวลาผ่านไปไม่เกิดขึ้น หรือในบางกรณีสปอนเซอร์ใหญ่เลิกเล่นแล้ว หลังจากที่ออกของ หรือขายหุ้นทำกำไรไปได้หมดแล้ว
    ระยะเวลาของการเป็นหุ้นอภินิหาร บางกรณีก็สั้นมากแต่บางกรณีก็ยาวหลายปี แต่เมื่ออภินิหารหมดไป หุ้นเหล่านี้ มักจะปรับตัวลงกลับไปที่เดิม หรือใกล้เคียงกับราคาเดิมก่อนที่จะเกิดอภินิหาร คนที่เข้าไปเล่นแล้วออกของไม่ทันด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ก็จะเจ็บตัวและขาดทุนหนัก
    แต่ผมก็ยังเชื่อว่าน้อยคนที่จะเข็ด หุ้นอภินิหารตัวใหม่ก็จะมีสตอรี่ใหม่ที่น่าเชื่อถือ และน่าประทับใจไม่เหมือนตัวเดิม คนในตลาดหุ้นนั้น "ความจำสั้นมาก แต่ความโลภนั้นถาวร"
    ดังนั้น หุ้นอภินิหาร จึงเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในยามที่ตลาดหุ้นปรับตัวเป็นกระทิง และคนในตลาดต่างก็ถูกครอบงำโดยความโลภ

    </DD>
     
  3. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <object width="640" height="385">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/-48RiUYWPn8?fs=1&hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></object>

    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/kYrf-gEqAdE?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/kYrf-gEqAdE?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2011
  4. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ผมถอยมามองอย่างพื้นๆไม่ต้องซับซ้อน

    ผมคิดว่าวิกฤติจากภัยธรรมชาติซึ่งขณะนี้เกือบจะทั่วโลก
    กำลังทำลายชีวิต,ทรัพย์สิน,แหล่งอาหาร เป็นตัวเร่งวิกฤติเศรษฐกิจที่สำคัญ
    และที่น่ากลัวก็คือการล้มกระดานหลังจากเกิดวิกฤติเศรษกิจโลก
    โดยการก่อสงคราม

    Note :
    ถ้าภัยธรรมชาติยังเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องและทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่
    ของโลกโดยกินพื้นที่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะพื้นที่ในเมือง
    พื้นที่การเพาะปลูก ผมมั่นใจว่าจะส่งผลกับภาวะอภิมหาเงินเฟ้อแน่นอน

    *********************************************

    ข้างบนผมโม้ของผมเองนะครับ อย่าเพิ่งเชื่อ ^_^"
     
  5. ForeverYoung

    ForeverYoung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +135
    อันนี้ของหมอเล็กแห่ง Thaigold โพสวันนี้ 10.12 น.ครับ

    [​IMG]

    ก็อปมาฝากครับของคุณ Jimmy Siri

    ปี 2011 จงเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งเหล่านี้ครับ :

    ในปี 2011 นี้ จงเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งเหล่านี้ครับ ซึ่งจะทยอยเกิดขึ้นโดยลำดับ :

    1.จับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มสหภาพยุโรปเป็นระยะๆ เงินยูโรจะ "ล้ม" ก่อน และโอกาสที่กลุ่มสหภาพยุโรปจะแตกออกมีสูงมาก ความพยายามเข้าไปให้ความช่วยเหลือของจีนและญี่ปุ่นอาจจะช่วยซื้อเวลาได้บ้าง

    2.ทันทีที่เงินยูโรล้มแล้ว ไม่เกิน 1 เดือน ดอลล่าสหรัฐจะล้มตาม ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์จะกลายเป็นเรื่องเดียวกัน และต่อเนื่องกัน

    3.หลังจากเงินดอลล่าล้มแล้ว โลกจะเข้าสู่ " The Great Darkness " หรือยุคมืด หรือ "ยุคเข็ญ" ในทุกๆ ด้าน

    4."เงินสกุลใหม่ของโลก" ซึ่งจะเป็นเงินสกุลเดี่ยว สกุลกลาง หรือ One World Currency อยู่ในระหว่างการประชุมจัดตั้งที่กรุงมอสโคว โดยมีการประชุมในเรื่องนี้ทุกๆต้นเดือน มาอย่างน้อย 18 เดือนแล้ว โดยขั้นตอนนี้มีนาย ซาโคซี่ ปธน.ฝรั่งเศษเป็นผู้ดูแล ในฐานะประธานกลุ่ม G20 ในช่วงเวลาดังกล่าว

    หมายเหตุ : โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้ามารับตำแหน่งประธานกลุ่ม G20 ในครั้งนี้ วาระ "ที่สำคัญที่สุด" ของนายซาโคซี่คือการปรับโครงสร้างระบบการเงินของโลกใหม่ การวางพื้นฐานระบบการเงินใหม่ และเงินสกุลใหม่

    5.เงินสกุลใหม่ และระบบการเงินใหม่จะมีความคืบหน้าออกมาในการประชุม G20 หรือ "อาจจะ" มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการในเดือน มีนาคม-กรกฏาคม ปี 2011 นี้ หรืออาจจะเป็นช่วงเดียวกับการประชุม G20 ที่จะมาถึงในช่วงเดือนดังกล่าว

    6.US Dollar Super Devaluation เงินดอลล่าสหรัฐจะถูก "ลดค่า" ลงอย่างน้อย 50%-70% หลังการประกาศใช้เงินใหม่ดังกล่าว ในขั้นตอนนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายซาโคซี่ได้เยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการเพื่อพูดคุยกับนายโอบาม่าเพื่อให้ ..."ยอม"... ถอนเงินดอลล่าสหรัฐ ออกจากการเป็น World Reserve Currency หรือเงินสกุลกลางของโลก

    7.ผลของการลดค่าเงินดอลล่าดังกล่าวจะส่งผลให้ ราคาสินค้า เชื้อเพลิง อาหาร และทุกอย่างที่นำเข้าไปในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัว หรือมากกว่านั้นซึ่งขึ้นอยู่กับว่าลดค่าเงินลงเท่าไหร่ ( แต่คงไม่ต่ำกว่า 50% )

    8.จะมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ออกมาจากองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น ในปี 2011 นี้ เพื่อวางโครงสร้างการจัดระเบียบโลกใหม่ หรือ New World Order เพื่อจะให้มีการประกาศจัดตั้ง "อย่างเป็นทางการ" ในปี 2012 นี้

    9.โลกกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร หรือ Food Crisis เนื่องจากภัยพิบัติร้ายแรงที่เกิดขึ้นตามที่ต่างๆ ในหลายๆ มุมโลก ซึ่งกำลังประทุขึ้น รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ก่อตัวขึ้นพร้อมๆกันทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาอาหาร แร่ธาตุและพลังงานถีบตัวสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก และจะเริ่มเข้าสู่วิกฤติและเป็นปัญหาของหลายๆ ประเทศทั่วโลก ในเดือนเมษายน 2011 นี้

    และบางประเด็นข้างต้นก็กำลังเป็นหัวข้อข่าวที่ชัดเจนอยู่แล้วในขณะนี้ครับ

    ผลต่อเนื่องถ้ายุโรปและดอลล์ล้ม

    ผลกระทบกับประเทศไทยคือ ทุนสำรองเงินตรา หรือเงินคงคลังที่อยู่ในสกุลยูโร และดอลล่า จะเสื่อมค่าลงอย่างฉับพลัน จะถึงขั้นกลายเป็นกระดาษเปล่าเลยหรือไม่คงตอบไม่ได้ครับ แต่คงไม่มีค่าเท่าเดิมแน่นอน

    แต่ ดอลล่านี่คงลงไป 50%-70% ซึ่งเยอะมากๆๆ ครับ แต่ผมถือว่าดีกว่าที่คาด เพราะถ้าเอากันให้สุดจริงๆ ต้องลงไป 97%-98% เพื่อให้ถึงมูลค่าที่แท้จริง
    ซึ่ง ก็อย่าประมาทครับ ถ้าเป็นการปล่อยลอยตัวเหมือนที่บ้านเราทำตอนปี 40 เพราะมันก็คือกระดาษกับหมึกพิมพ์นี่เองครับ "และไม่มีอะไรหนุนทั้งสิ้้น"
    คนที่รับไปเต็มๆ ก็คือคนอเมริกัน เพราะ 70%-80% ของสินค้าในสหรัฐมากจากการ "นำเข้า" โดยเฉพาะ "น้ำมัน"
    /// ส่วนบ้านเราต้องลดค่าเงินบาทลงตามทุนสำรองที่สูญหายไปครับ แต่จะเรียกว่าเป็นการปรับค่าเงินมากกว่า ฟังดูดีกว่า เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น
    แต่ ไม่ต้องห่วงครับ ต้องทำกันทั่วโลก เพราะโดนกันทั้งหมด ใครมีมากก็โดนมากหน่อย ภาคที่โดนเต็มๆ คงเป็นภาคที่ต้องน้ำสินค้าเข้า หรือวัตถุดิบที่ต้องน้ำเข้าจากต่างประเทศ "น่าจะ" ต้องหยุดชะงักลงครับ /// ก็คงต้องดูว่า Transition หรือการเปลี่ยนผ่านเพื่อนำระบบเงินใหม่ออกมาใช้มันสัมฤทธิ์ ผลแค่ไหน ถ้ามีช่อว่างละก็ ธุรกิจคงต้องล้มตายกันอีกเยอะครับ /// พลังงานโดยเฉพาะน้ำมัน ที่ต้องนำเข้าอาจจะต้องแลกกับทองคำหรือข้าว หรือคอมโมดีตี้ หรือสินทรัพย์ใดๆที่เรามี อันนี้ก็ต้องรอดูเรื่องเงินสกุลใหม่อยู่ดีครับ ว่าจะมาทดแทนกันได้หรือเปล่า ถ้าไม่ละก็ "วุ่นวาย" แน่นอนครับ /// ข้าวยากหมากแพงคงต้องเกิดขึ้นแน่นอนครับ ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว แล้วดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่เราโชคดีที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยครับ เราผลิตอาหารได้เกิดตัว "หวังว่า" เรื่องอาหารเราคงจะไม่โดนหนัก แต่พลังงาน "น้ำมัน" น่าเป็นห่วงครับ

    ผม เชื่อว่าเราจะได้เห็นการขอรับบริจาคทองคำ ภาค 2 ครับ ในลักษณะเดียวกันกับที่หลวงตาบัวท่านทำไว้ แต่ครั้งนี้จะ "ซีเรียส" กว่ามากครับ เพื่อชดเชยกับทุนสำรองที่หายไป เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว "เงินบาท" ไปต่อลำบากครับเพราะไมรู้มันจะออกมาในรูปไหน แล้วลองตามข่าวเรื่องเงินคงคลังของประเทศไทยดูซักหน่อยครับ ว่าประเทศไทย ณ วันนี้ ทุนสำรองเงินตรงสูงเป็นอันด้บต้นๆ "ของโลก" กลายเป็น "ความภูมิใจ" ไปอีกครับ : ( /// ลดปริมาณการถือครองเงินบาท กระดาษ ตราสาร ลงทุกชนิดครับ หรือแม้แต่พันธบัตรรัฐบาล "กระดาษจะเป็นกระดาษ" ในที่สุด ใครจะเถียงว่ามันมั่นคงแค่ไหน ก็คงได้พิสูจน์กันในตอนนั้น คงทราบนะครับว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในตอนนี้คงสถานะที่ "AAA" อยู่เลยครับ /// ระบบกระดาษทุกชนิดคือระบบที่งอกเงยออกมาจากระบบการแลกเปลี่ยนด้วยทองคำและ แร่เงินทั้งสิ้น /// ระบบการเงินการธนาคารคงปั่นป่วนวุ่นวายอย่างสุดๆ ครับ "เก็บแร่เงินและทองคำ" ยังคงเป็นทองออกที่ดีที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจ้า 2 สิ่งนี้จะเป็นศูนย์กลาง แล้วเงินระบบใหม่ก็คงหนีไม่พ้นต้องใช้ทองคำและเงินหรืออาจจะมีวัตถุธาตอะไร อีกเพิ่มขึ้นมา ก็แล้วแต่ว่าเค้าจะตั้งเกมส์มาอย่างไรครับ
     
  6. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขึ้นราคาอีกแล้วครับพี่น้อง

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2554 17:30 น

    ขึ้นอีก 30 ส.ต.!!! ปตท.-บางจาก ปรับราคาน้ำมันทุกชนิดยกเว้นดีเซล

    บริษัท ปตท. และบางจาก ได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด 30 สตางค์ต่อลิตร
    ยกเว้น น้ำมันดีเซล B3 โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันพรุ่งนี้

    ทั้งนี้จะส่งผลให้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 39.44 บาทต่อลิตร
    แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 35.14 บาทต่อลิตร
    แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 32.64 บาทต่อลิตร
    น้ำมัน E20 อยู่ที่ 31.74 บาทต่อลิตร
    น้ำมัน E85 อยู่ที่ 20.29 บาทต่อลิตร
    ส่วนน้ำมันดีเซล B5 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 19.69 บาทต่อลิตร
    ขณะที่น้ำมันดีเซล B3 ยังคงราคาเดิมที่ 29.99 บาทต่อลิตร

    อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุของการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในครั้งนี้ เป็นผลมาจากต้นทุนราคาน้ำมันดิบ
    ในตลาดโลก ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ จึงจำเป็นต้องปรับขึ้น
    ราคาขายปลีกให้สะท้อนต้นทุน


    ที่มา : http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000007159
     
  7. ForeverYoung

    ForeverYoung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +135
    อันนี้เป็นข่าวเมื่อวานนี้ครับ ว่าปธน.จีน นายหู จิ่น เทา จะไปเยือนอเมริกาบ้างตามคำเชิญของนายโอบามา

    ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว โอบามา ก็ได้มาเยือนจีนไปก่อนหน้านี้แล้ว

    แต่ไฮไลท์ที่ปธน.หู จิ่น เทา จะคุยกับอเมริกา นั้น

    น่าจับตา เป็นอย่างยิ่งครับ

    เพราะหัวข้อที่ นายหู จิ่น เทา จะคุยกับโอบามาหัวข้อหนึ่งคือ

    ระบบการเงินโลกที่ผ่านมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งใช้เงินสกุลดอลลาร์อเมริกานั้น ถือว่า " โบราณ " ไปแล้วสำหรับปัจจุบัน

    พร้อมกับเสนอให้มีตัวกลางการเงินใหม่ที่ไม่ใช่ USD

    เหมือนไปตบหน้าอเมริกาถึงถิ่นไหมครับ



    Hu Highlights Need for U.S.-China Cooperation, Questions Dollar - WSJ.com

    ส่วนอเมริกาคงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะตัวเองก็เป็นหนี้จีนขนาดที่ไม่มีวันใช้คืนได้หมด

    ถ้าระบบแลกเปลี่ยนเงินตราโลกถูกเปลี่ยนแปลงจริง สิ่งที่เราคุยกันตั้งแต่ต้นก็กำลังจะปรากฏให้เราเห็นแล้วครับ


    เตรียมตัวรับมือกันได้แล้วครับ

    ด้วยความหวังดี

    โชคดีครับ
     
  8. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    คุณForeverYoung ผมว่าอเมริกาไม่ยอมเสียหน้าแน่ครับ

    งานนี้มีฟาดงวงฟาดงาแน่ๆ
     
  9. ForeverYoung

    ForeverYoung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +135
    ครับ อเมริกาค่อนข้างเป็นประเทศที่เกเร

    จากประวัติศาสตร์ เมื่อเงินดอลลาร์เมกามีปัญหา มักจะลงด้วยสงครามทุกทีไป

    มาดูกันครับ ว่าหวยจะออกที่ตะวันออกกลาง หรือ คาบสมุทรเกาหลี
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “เตาผิงมือถือ” ช่วยเด็กนักเรียนไล่ความหนาว

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2554 15:09 น.
    [​IMG]
    วาง “เตาผิงมือถือ” ไว้ใกล้ ๆ ช่วยไล่ความหนาวในเวลาเรียนได้ (ภาพเอเยนซี)
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">เอ เอสทีวีผู้จัดการออนไลน์/ไชน่า เดลี - เสียงเตือนจากพยากรณ์อากาศต้นปีกระต่าย บอกให้รู้ว่าความหนาวเหน็บเยี่ยมกรายแผ่นดินจีนแล้ว แม้บางพื้นที่จะเริงรื่นกับประติมากรรมน้ำแข็งอันตระการตา แต่ทว่าบางแห่งมีผู้คนได้รับทุกข์ทรมานจากภัยหนาวอย่างสาหัส

    แถบ ชานเมืองชาผิง ในเขตอำเภอปกครองตนเองซินห่วงต้ง มณฑลหูหนาน เป็นอีกพื้นที่ที่ความหนาวเย็นเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนตัว น้อย ๆ เมื่อโรงเรียนไม่มีระบบปรับอุณหภูมิในห้องให้อบอุ่น บรรดานักเรียนจึงต้องนำประดิษฐกรรม “เตาผิงมือถือ” มาช่วยสร้างความอบอุ่น

    “เตาผิง มือถือ” ประยุกต์จากวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น อาทิ ถังน้ำอลูมีเนียม อ่างล้างหน้าโลหะ ฯ โดยสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก นักเรียนจะวางไว้ใต้เก้าอี้เพื่อให้ความอบอุ่นในเวลาเรียน และอยู่ใกล้ ๆ เวลารับประทานอาหาร “เตาผิงมือถือ” ไล่ความเหน็บหนาวได้เป็นอย่างดี

    ภาพชีวิตนักเรียนชนบทจีนกับ “เตาผิงมือถือ”

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เช้า มาโรงเรียน หนูน้อยนักเรียนนอกจากหนังสือและเครื่องเขียนแล้ว ยังต้องหิ้ว “เตาผิงมือถือ” มาด้วย (ภาพเอเยนซี)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เย็นกลับบ้าน ก็หิ้ว “เตาผิงมือถือ” กลับไปใช้ต่อที่บ้านได้ (ภาพเอเยนซี)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="320"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="320"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เวลาเรียน เด็กนักเรียนวางเตาผิงใต้เก้าอี้ ช่วยให้อุ่นจากล่างขึ้นบน เรียนหนังสือได้สบาย ๆ (ภาพเอเยนซี)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ได้เวลากินข้าวแล้ว รวมเตาผิง นั่งล้อมวงจะได้อุ่น ๆ (ภาพเอเยนซี)</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  11. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
    ทัพอาหารจ่อปรับราคาขึ้น 15% พรานทะเลชู 3 หมากเด็ดสู้วิกฤต


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 มกราคม 2554 22:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000007309&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE>​



    [​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    ทัพสินค้าอาหารทั่วโลกจ่อปรับราคาขึ้น 15% หลังภัยธรรมชาติ

    พ่นพิษผลผลิตขาดแคลน วัตถุดิบแห่ขยับราคา “พรานทะเล”
    ปรับตัวชูนโยบายดำเนินธุรกิจลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
    ลั่น 1-2 ปี สู่กรีนโปรดักส์ทุกตัว ชงคอนเซปต์ “ละ ลด เลิก รีไซเคิล”
    นำร่องลดการใช้พลาสติก ดันภาพลักษณ์แบรนด์ แถมยังช่วยลด
    ต้นทุนผลิต 20% ประเดิมนำร่องเมนูข้าวต้มลดโลกร้อน สิ้นปี
    รายได้โต 20% กวาด 1,430 ล้านบาท


    นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและ
    ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย
    อาหารทะเลแช่แข็งพรานทะเล เปิดเผยว่า ปีนี้มีแนวโน้มว่าราคาอาหาร
    ทั่วโลกปรับราคาขึ้น 15% เนื่องจากผลพวงจากภาวะโลกร้อน สภาพอากาศ
    แปรปรวนทั่วโลกนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผลผลิต
    ทางการเกษตร สัตว์ และการประมงลดลง ผลักดันให้ต้นทุนการผลิตปรับเพิ่ม
    ขึ้น อาทิ เนื้อปลาแซลมอนนำเข้าปี 2552 ราคา 190 บาทต่อกก.
    เพิ่มเป็น 290บาทต่อกก.ในปี 2553 และกุ้งราคาเพิ่มขึ้น 30%

    บริษัทให้ความสำคัญการทำธุรกิจที่ลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ภายใต้
    คอนเซปต์ “ละ ลด เลิก และรีไซเคิล”เพื่อลดกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    ภายใน 1-2 ปี ผลิตภัณฑ์ของพรานทะเลต้องเป็นกรีนโปรดักส์ โดย
    จะใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกที่น้อยที่สุด ขณะเดียวกันช่วยลดต้นทุน
    การผลิตลง 20% หลังจากราคาพลาสติกได้ปรับเพิ่มขึ้น 10-20%
    ในช่วงที่ผ่านมา นำร่องทุ่มงบ 10 ล้านบาท จากงบการตลาดทั้งปี 30 ล้าน
    บาท เปิดตัวโครงการ “ข้าวต้มลดโลกร้อน” โดยบริษัทได้เลือกเมนูข้าวต้ม
    พรานทะเลและพรานไพร ซึ่งเป็นสินค้าที่จำหน่ายดีที่สุด ด้วยการ
    เลิกใช้บรรจุภัณฑ์ชนิดถ้วยพลาสติก มาเป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิด
    บางที่สุด สามารถช่วยลดการใช้พลาสติกลง 65% หรือ 63 ตันต่อปี
    ช่วยลดต้นทุนการใช้พลาสติก 3-5 บาทต่อชิ้น และยังได้ปรับราคาเมนู
    ข้าวต้มลดลง 20% อาทิ ซีฟู้ดส์ 49 บาท เหลือเป็น 39 บาท และ
    ข้าวต้มพรานไพรจาก 39 บาท เหลือ 29 บาท

    "หากบริษัทไม่ปรับลดต้นทุน ต้องปรับราคาสินค้าขึ้น 30-40%
    หลังทดลองจำหน่าย 3-4 เดือนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
    ยอดขายเมนูข้าวต้มลดโลกร้อน เพิ่มขึ้น 70% และตั้งเป้าว่าสิ้นปีนี้
    ยอดขาย 100 ล้านบาท โต 15% ส่วนข้าวต้มบรรจุภัณฑ์ถ้วยพลาสติก
    หากยอดขายต่ำกว่า 10% จะเลิกผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ดังกล่าว
    และในปีนี้บริษัทยังพิจารณาเมนูอาหารอื่นๆ ที่ใช้บรรจุภัณฑ์
    ถ้วยพลาสติกลง อาทิ ข้าวผัดปู ตลอดจนการพิจารณาใช้ถ่านการผลิต
    จากแป้งมันสำปะหลังในกลางปีนี้"


    นายอนุรัตน์ กล่าวต่อถึงกลยุทธ์การตลาดในยุคที่ราคาวัตถุดิบพร้อมจะปรับ
    เพิ่มขึ้นว่า การทำตลาดในประเทศบริษัทเน้น 3 รูปแบบ คือ 1.การลดขนาด
    ให้เล็กลง 2. ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 10% 3.ลดปริมาณลงจาก
    20-30 กรัม สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าโต 20% หรือ 1,430 ล้าน
    บาท จากปีที่ผ่านมา 1,200 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการส่งออกปีนี้
    ไม่เติบโต เนื่องจากมีปัจจัยลบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าและราคาวัตถุดิบ
    ปรับเพิ่มขึ้น


    ที่มา : Business - Manager Online - �Ѿ����è�ͻ�Ѻ�ҤҢ��� 15% ��ҹ���Ū� 3 ��ҡ��������ԡĵ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เวียดนามตอนเหนือหนาวเหน็บ วัวควายตายร่วม 10,000 ตัว
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มกราคม 2554 03:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    โชคร้ายของทุย-- ควายเดินท่อมๆ ตามถนนลาดยางเพื่อกลับเข้าหมู่บ้านในเขต อ.ซาปา (Sapa) ปลายท่องท่องเที่ยวยอดนิยมใน จ.เซินลา (Son La) ทางตอนเหนือของประเทศ ไปเที่ยวในช่วงนี้จะได้เห็นราษฎรนำเอาเนื้อวัวควายออกวางขายข้างทางในราคาถูกๆ.

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ASTVผู้จัดการออนไลน์-- จนถึงวันจันทร์ 17 ม.ค.นี้ มีวัวควายล้มตายแล้วราว 10,000 ตัว ในขณะที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนเวียดนามหนาวเหน็บ อุณหภูมิลดต่ำลงใกล้ศูนย์องศา และหลายอาณาบริเวณในเขตภูเขามีค้างแข็งกระทั่งหิมะจับปกคลุมไปทั่ว

    นายหว่างกิมซยาว (Hoang Kim Giao) อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและพัฒนาบทกล่าวว่า จังหวัดกาวบ่าง (Cao Bang) สูญเสียหนักที่สุด วัวควายตายไปแล้ว 1,996 ตัว ตามด้วย จ.ลางเซิน (Lang Son) 1,930 ตัว และ จ.ล่าวกาย (Lao Cai) อีก 1,420 ตัว

    ทางการได้จ่ายเงินให้ราษฎรเจ้าของวัวควายไปตัวละ 2 ล้านด่ง (100 ดอลลาร์) เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) รายงาน

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุมกศาสตร์กลางพยากรณ์ก่อนหน้านี้ว่า อุณหภูมิจะยังลดลงอีก และอากาศหนาวเย็นจะปกคลุมภาคเหนือเวียดนามต่อไปจนกระทั่งถึงเทศกาลตรุษ ในเดือนหน้า และ กรมปศุสัตว์ได้เรียกร้องให้ราษฎรในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ กระทำทุกวิธีทางเพื่อปกป้องคุ้มครองสัตว์เลี้ยง ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจเอาไว้ให้ได้

    จ.ฮว่าบี่ง (Hoa Binh) ลาวเซิน กาวบ่าง กับเซินลา เป็นเขตหนาวเย็นที่สุดในขณะนี้ หลายท้องที่อุณหภูมิลดลงถึง 3 องศาเซลเซียสเมื่อวันจันทร์

    ใน จ.ลางเซินยังมีรายงาน ว่าปลาที่เลี้ยงในกระชังล้มตายเป็นจำนวนมาก ฟาร์มเลี้ยงบางแห่งต้องนำปลาที่ตายเพราะอากาศหนาวเย็นออกจำหน่ายราคาถูกวันละกว่าครึ่งตัน บางครัวเรือนปลาที่เลี้ยงเอาไว้ตายไป 80-90% ซเวินจี๊กล่าว

    ไม่เพียงแต่สัตว์เท่านั้นที่กำลังล้มตายลงเพราะอากาศหนาวเย็นผิดปรกติ เจ้าของสวนยางพาราแห่งหนึ่งในลางเซิน กล่าวว่า ต้นยางในพื้นที่ว่า 8,000 ไร่ จากทั้งหมดกว่า 33,000 ไร่ กำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากอากาศหนาวเย็นขณะนี้ สำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยมกล่าว.

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=580 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=580>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    เด็กๆ ต้อนควายเข้าหมู่บ้านในเขต อ.ซาปา (Sapa) จ.เซินลา (Son La) ทางตอนเหนือของประเทศ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้ออกเรียกร้องให้ราษฎรในเขตที่อากาศหนาวเย็นอย่างวิปริต กระทำทุกวิธีทางเพื่อช่วยให้วัวควายผ่านพ้นฤดูหนาวให้ได้.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>2</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>3</CENTER><CENTER></CENTER>

    <CENTER>"ซาปา" หนาวเหน็บ </CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>4</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>5</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>6</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>7</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>8</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>9</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>10</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>11</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>12</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>13</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>14</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>15</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>16</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>17</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>18</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>19</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>20</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000007372
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เวียดนามตอนเหนือหนาวเหน็บ วัวควายตายร่วม 10,000 ตัว
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มกราคม 2554 03:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    โชคร้ายของทุย-- ควายเดินท่อมๆ ตามถนนลาดยางเพื่อกลับเข้าหมู่บ้านในเขต อ.ซาปา (Sapa) ปลายท่องท่องเที่ยวยอดนิยมใน จ.เซินลา (Son La) ทางตอนเหนือของประเทศ ไปเที่ยวในช่วงนี้จะได้เห็นราษฎรนำเอาเนื้อวัวควายออกวางขายข้างทางในราคาถูกๆ.

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ASTVผู้จัดการออนไลน์-- จนถึงวันจันทร์ 17 ม.ค.นี้ มีวัวควายล้มตายแล้วราว 10,000 ตัว ในขณะที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนเวียดนามหนาวเหน็บ อุณหภูมิลดต่ำลงใกล้ศูนย์องศา และหลายอาณาบริเวณในเขตภูเขามีค้างแข็งกระทั่งหิมะจับปกคลุมไปทั่ว

    นายหว่างกิมซยาว (Hoang Kim Giao) อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและพัฒนาบทกล่าวว่า จังหวัดกาวบ่าง (Cao Bang) สูญเสียหนักที่สุด วัวควายตายไปแล้ว 1,996 ตัว ตามด้วย จ.ลางเซิน (Lang Son) 1,930 ตัว และ จ.ล่าวกาย (Lao Cai) อีก 1,420 ตัว

    ทางการได้จ่ายเงินให้ราษฎรเจ้าของวัวควายไปตัวละ 2 ล้านด่ง (100 ดอลลาร์) เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) รายงาน

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุมกศาสตร์กลางพยากรณ์ก่อนหน้านี้ว่า อุณหภูมิจะยังลดลงอีก และอากาศหนาวเย็นจะปกคลุมภาคเหนือเวียดนามต่อไปจนกระทั่งถึงเทศกาลตรุษ ในเดือนหน้า และ กรมปศุสัตว์ได้เรียกร้องให้ราษฎรในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ กระทำทุกวิธีทางเพื่อปกป้องคุ้มครองสัตว์เลี้ยง ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจเอาไว้ให้ได้

    จ.ฮว่าบี่ง (Hoa Binh) ลาวเซิน กาวบ่าง กับเซินลา เป็นเขตหนาวเย็นที่สุดในขณะนี้ หลายท้องที่อุณหภูมิลดลงถึง 3 องศาเซลเซียสเมื่อวันจันทร์

    ใน จ.ลางเซินยังมีรายงาน ว่าปลาที่เลี้ยงในกระชังล้มตายเป็นจำนวนมาก ฟาร์มเลี้ยงบางแห่งต้องนำปลาที่ตายเพราะอากาศหนาวเย็นออกจำหน่ายราคาถูกวันละกว่าครึ่งตัน บางครัวเรือนปลาที่เลี้ยงเอาไว้ตายไป 80-90% ซเวินจี๊กล่าว

    ไม่เพียงแต่สัตว์เท่านั้นที่กำลังล้มตายลงเพราะอากาศหนาวเย็นผิดปรกติ เจ้าของสวนยางพาราแห่งหนึ่งในลางเซิน กล่าวว่า ต้นยางในพื้นที่ว่า 8,000 ไร่ จากทั้งหมดกว่า 33,000 ไร่ กำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากอากาศหนาวเย็นขณะนี้ สำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยมกล่าว.

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=580 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=580>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    เด็กๆ ต้อนควายเข้าหมู่บ้านในเขต อ.ซาปา (Sapa) จ.เซินลา (Son La) ทางตอนเหนือของประเทศ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้ออกเรียกร้องให้ราษฎรในเขตที่อากาศหนาวเย็นอย่างวิปริต กระทำทุกวิธีทางเพื่อช่วยให้วัวควายผ่านพ้นฤดูหนาวให้ได้.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>2</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>3</CENTER><CENTER></CENTER>

    <CENTER>"ซาปา" หนาวเหน็บ </CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>4</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>5</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>6</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>7</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>8</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>9</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>10</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>11</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>12</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>13</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>14</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>15</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>16</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>17</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>18</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>19</CENTER><CENTER></CENTER>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=440>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> <CENTER></CENTER><CENTER>20</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    IndoChina - Manager Online -
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แผ่นดินไหวรุนแรง 7.2 ถล่มปากีฯ สะเทือนไกลถึงอินเดีย-เอมิเรตส์
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มกราคม 2554 08:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

    เอเอฟพี - เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.2 ถล่มภาคตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถานเช้านี้ (19) ทำให้ผู้คนจำนวนมากแตกตื่นวิ่งหนีออกจากอาคารบ้านพักเอาชีวิตรอด ขณะที่แรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ไกลถึงอินเดีย และอ่าวเปอร์เซีย

    กรมสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ หรือยูเอสจีเอสเผยว่า แผ่นดินไหวระดับ 7.2 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 1.23 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 3.23 น.ตามเวลาของไทย ห่างจากเมืองดัลบันดิน ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนอัฟกานิสถาน ไปทางตะวันตกราว 50 กิโลเมตร

    สถานีโทรทัศน์รายงานภาพผู้คนหนีออกจากบ้านเรือนท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น พร้อมกับท่องบทสวดในพระคัมภีร์อัลกรุอาน ขณะที่หน่วยกู้ภัยรับคำสั่งเตรียมพร้อม แต่ยังไม่ได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน และยังไม่มีรายการผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเบื้องต้น

    แรงสั่นสะเทือนรุนแรงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้สามารถรับรู้ได้ไกลถึงในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ซึ่งอยู่ห่างออกไปร่วม 1,300 กิโลเมตร เช่นเดียวกับในหลายๆ เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย แม้ว่าจะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ ก็ตาม

    นอกจากนี้ ข้อมูลบนเว็บไซต์ของยูเอสจีเอสชี้ว่า แผ่นดินไหวระดับ 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นที่ความลึก 84 กิโลเมตรครั้งนี้ ยังสั่นสะเทือนไปไกลถึงอาบูดาบี และดูไบ ขอสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย

    ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของปากีสถานระบุความรุนแรงของแผ่นดินไหวดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 7.3 มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองคารัน ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 55 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่เบาบาง และติดกับชายแดนอิหร่าน และอัฟกานิสถาน

    ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกชี้ว่า แผ่นดินไหวภายในประเทศไม่มีโอกาสก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดียแต่อย่างใด

    ทั้งนี้ ทางตอนเหนือของปากีสถานเคยประสบแผ่นดินไหวรุนแรง 7.6 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ปี 2005 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 73,000 ราย และอีก 3.5 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่อยู่ในแคว้นแคชเมียร์
    Around the World - Manager Online -
     
  15. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ค: แรงซื้อเก็งกำไร ดอลล์อ่อน หนุนเก็งกำไร ทองคำปิดพุง$7.7

    ประกาศวันที่19 มกราคม 2554 % เวลา08:00น.

    [​IMG]

    สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุน
    เข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงกว่า 26 ดอลลาร์เมื่อวัน
    ศุกร์ นอกจากนี้ การรที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโร
    ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำด้วยเช่นกัน


    สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน
    ก.พ.เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1368.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจาก
    เคลื่อนตัวในช่วง 1375.2 - 1367.2 ดอลลาร์

    ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 59.2 เซนต์ ปิดที่ 28.912
    ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น
    1.6 เซนต์ ปิดที่ 4.428 ดอลลาร์/ปอนด์


    ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 12.30 ดอลลาร์ ปิดที่
    1,828.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนเม.ย.
    พุ่งขึ้น 19.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 810.45 ดอลลาร์/ออนซ์

    ไมค์ ดาลี นักวิเคราะห์ด้านทองคำของบริษัท PFGbest กล่าวว่า
    นักลงทุนแห่เข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรสัญญาทองคำและสัญญาโลหะมีค่า
    ประเภทอื่นๆ หลังจากสัญญาทองคำร่วงลง 26.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,360.50
    ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการ
    กันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% นอกจากนี้ การอ่อนค่า
    ของสกุลเงินดอลลาร์ยังทำให้ทองคำและโลหะมีค่าประเภทต่างๆมีมูลค่า
    ที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ ด้วย


    "ความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนใช้ทองคำและโลหะมีค่า
    ประเภทต่างๆเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ปลอดภัย และเพื่อป้องกันผลกระทบ
    ของภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทั่วโลก" ดาลีกล่าว

    นอกจากนี้ การที่สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 91 ดอลลาร์/บาร์เรล
    ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำ โดยดาลีกล่าวว่า
    "การที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ
    และวิกฤตเศรษฐกิจ จึงทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำและโลหะเงินเพื่อป้องกัน
    ความเสี่ยงในเรื่องนี้ด้วย"


    --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--


    ที่มา : ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงซื้อเก็งกำไร-ดอลล์อ่อน หนุนทองคำปิดพุ่ง $7.7 ห้างขายทองเมืองพลอย
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    หลับคาเก้าอี้!สภาสูงอังกฤษอภิปรายข้ามวันข้ามคืน จัดหมอน-เตียงให้สมาชิก
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มกราคม 2554 01:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    เอเจนซี/เดลิเมล์ - นี่อาจเป็นศึกอภิปรายยาวนานที่สุดตลอดกาลของสภาสูงอังกฤษ และการพิจารณาประเด็นปฏิรูปการเมืองอันยืดเยื้อครั้งนี้ทำให้ ส.ว.หลายคนอยู่ในสภาพอ่อนเปลี้ย ทั้งสัปหงกและหลับกลางสภา จนเจ้าหน้าที่ต้องจัดหมอน เตียงนอนชั่วคราวและกาแฟไว้คอยบริการเลยทีเดียว

    ด้วยที่มีแผนอภิปรายข้ามคืน เจ้าหน้าที่จึงจัดเตรียมเตียงนอนและเครื่องดื่มที่สร้างความสดชื่นให้คอยบริการ ขณะที่เห็นได้ชัดว่าสมาชิกบางส่วนกำลังตกอยู่อาการเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเต็มที

    สมาชิกหลายคนตาปรือแสดงถึงสภาพที่ง่วงนอนเต็มแก่ และมีอยู่ 2 คนที่นอนหลับคาเก้าอี้ ขณะที่การพิจารณาร่างประชามติระบบการลงคะแนนเลือกตั้ง ในความพยายามเปลี่ยนแปลงพื้นที่เลือกตั้งและลดจำนวนส.ส.ต้องลากยาวออกไป

    ศึกอภิปรายต้องยืดเยื้อออกไปอีก หลังจาก 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากช่วงบ่ายของวันจันทร์(17) จนถึง 12.51 น.ของวันอังคาร(18) เพิ่งพิจารณาไปได้เพียง 8 ประเด็นเท่านั้น ทั้งนี้สมาชิกได้กลับคืนสู่สภาอีกครั้ง ณ เวลา 14.15 น. ในพิธีแนะนำตัวสมาชิกสภาหน้าใหม่ 3 ราย และหลังจากวาระตั้งกระทู้ถามแล้ว พวกเขาจะกลับเข้าสู่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปฏิรูการเมืองต่อไป

    ทั้งนี้สถิติศึกอภิปรายยาวนาวที่สุดของสภาสูงอังกฤษ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม ตั้งแต่ 11.00 น.ไปจนถึง 19.31 น.ของอีกวัน โดยคราวนั้นเป็นการอภิปรายในวาระแก้ไขกฎหมายต่อต้านก่อการร้าย ขณะที่ตามปกติแล้วสภาบนจะปิดประชุมกันในเวลา 22.00 น.
    Around the World - Manager Online -
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เมียอดีต ปธน.ตูนีเซีย ขนทอง 1.5 ตันหนีตามสามีกบดานซาอุฯ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 มกราคม 2554 12:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    เลย์ลา ทราเบลซี ภริยาของอดีตประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี แห่งตูนีเซีย ซึ่งถูกโค่นอำนาจจนต้องลี้ภัยในซาอุดีอาระเบีย

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเจนซีส์ - ภริยาอดีตประธานาธิบดีตูนีเซียหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมขนทองแท่งน้ำหนัก 1.5 ตัน มูลค่ากว่า 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดตัวไปด้วย รายงานเผยวานนี้(17)

    เลย์ลา ทราเบลซี อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งผู้รักความหรูหราฟุ่มเฟือยจนได้ฉายาว่า “อิเมลดา มาร์กอส” แห่งโลกอาหรับ ขอถอนทองแท่งออกจากธนาคารกลางตูนีเซีย หลังจากประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี ผู้เป็นสามีถูกโค่นอำนาจเมื่อสัปดาห์ก่อน

    รายงานระบุว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางปฏิเสธไม่ยอมให้ทราเบลซีถอนทองดังกล่าว แต่อดีตประธานาธิบดีวัย 74 ปี เข้ามาแทรกแซงด้วยตนเอง จึงทำให้ทองทั้งหมดถูกขนออกไปยังซาอุดีอาระเบียพร้อมกับเธอ

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของธนาคารกลางตูนีเซียได้ออกมาปฏิเสธรายงานดังกล่าว โดยยืนยันว่า “ไม่มีใครแตะต้องทองแท่งในคลังของธนาคารกลางในช่วงหลายวันมานี้เลย”

    “แม้แต่เงินสดก็ยังอยู่ครบถ้วน ประเทศของเรามีกฎหมายที่เข้มงวดมาก” เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าว

    มอนเซฟ เชโครโฮ นักเศรษฐศาสตร์แถวหน้าของตูนีเซียซึ่งเป็นผู้ให้ข่าว ระบุว่ากองทหารของเบน อาลี พยายามจะขนทองออกไปมากกว่านั้นด้วยซ้ำ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=595>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เลย์ลา ทราเบลซี(ขวา) และบุตรสาว "ฮาลีมา" ระหว่างฟังการปราศรัยของประธานาธิบดี เบน อาลี ในปี 2007 (แฟ้มภาพ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ครอบครัวของทราเบลซี มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ทั้งเรื่องคอร์รัปชันและการใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย

    ทราเบลซี อดีตช่างทำผมวัย 53 ปี ชื่นชอบรถความเร็วสูงเป็นพิเศษ และมีบ้านพักมากกว่า 50 หลัง เธอมักจะเดินทางไปชอปปิ้งที่ดูไบ และมีกระแสข่าวว่าเธอใช้เงินจับจ่ายซื้อของไปแล้วหลายล้านปอนด์

    ขณะที่ชาวตูนีเซียส่วนใหญ่ต้องเผชิญภาวะตกงานและอยู่อย่างยากไร้ ครอบครัวของเบน อาลี ที่ได้ฉายาว่า “มาเฟียแห่งตูนิส” กลับมีทรัพย์สินมากกว่า 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนใหญ่ถูกฝากไว้ในธนาคารของฝรั่งเศส

    เนสรีน บุตรสาววัย 24 ปี ของประธานาธิบดีและซัคร์ สามีของเธอ ยังคงผักผ่อนอย่างสบายอารมณ์อยู่ที่ ปารีส ดิสนีย์แลนด์ ท่ามกลางการอารักขาของบอดีการ์ดและผู้ติดตามจำนวนมาก

    เนสรีน ซึ่งได้ฉายาว่า “มารี อองตัวแน็ตต์” แห่งตูนีเซีย มักสั่งให้คนนำเครื่องบินส่วนตัวส่งอาหารราคาแพง และไอศกรีมจากเซนต์โทรเปซ ไปบริการเธอและสามีถึงบ้านพักตากอากาศริมทะเล

    รัฐมนตรีฝรั่งเศสคนหนึ่งให้สัมภาษณ์วานนี้ (17) ว่า เนสรีน และ ซีรีน น้องสาวของเธอ อาจถูกขับออกจากกรุงปารีสเร็วๆ นี้ เนื่องจากฝรั่งเศสซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของตูนีเซีย กำลังพิจารณาอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีเบน อาลี ทั้งหมด

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=588 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=588>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประธานาธิบดี เบน อาลี พร้อมภริยา ขณะเดินสายหาเสียงที่เมืองราเดส ใกล้กับตูนิส เมื่อปี 2009 (แฟ้มภาพ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    Around the World - Manager Online -
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สัญญาณจากมะกันและไต้หวันก่อน หู จิ่นเทา เยือนสหรัฐฯ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 มกราคม 2554 18:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ธงชาติจีน-สหรัฐฯ ประดับบริเวณทำเนียบขาว วันที่ 17 ม.ค. ก่อนการเยือนเพียง 1 วัน (ภาพเอเอฟพี)
    เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์/เอเอฟพี - ส.ว.มะกันออกประกาศโจมตีจีนแทรกแซงค่าเงินหยวน ขณะที่บริษัทธุรกิจจีน-สหรัฐฯ ลงนามทำสัญญามูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ ส่วนทางฝั่งไต้หวันก็ออกมาแสดงความกังวลว่า การเยือนฯ ในครั้งนี้อาจส่งผลต่อการค้าขายอาวุธ จีน-ไต้หวัน
    ส.ว.มะกันออกแถลงการณ์โจมตีจีน

    สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ พรรคเดโมแครต 3 คน ร่วมลงนามในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (17 ม.ค.) เพื่อลงโทษจีนในกรณีแทรกแซงเงินหยวนให้อ่อนค่ากว่าความเป็นจริง โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนประธานธิบดีหู จิ่นเทา เยือนสหรัฐฯ

    บรรดา ส.ว.มะกันที่ร่วมลงนามฯได้แก่ เด็บบี สแต็ปนาว ส.ว.เดโมแครตจากมิชิแกน ร่วมกับ ชาร์ล ชูเมอร์และ บ็อบ คาเซย์ จากพรรคเดียวกัน แถลงว่า “เราส่งสัญญาณถึงหู จิ่นเทา เพื่อบอกให้รู้ว่า อเมริกายินดีต้อนรับจีน แต่พวกเราต้องการมั่นใจด้วยว่า เราจะมีระบบการค้าที่เป็นธรรมกว่านี้”

    3 ส.ว. ยังบอกอีกว่า ร่างกฎหมายฯ ลงโทษจีนเรื่องเงินหยวนที่จะเริ่มพิจารณาในสภาฯ หน้า จะพูดถึงเรื่องความไม่เป็นธรรมจากการที่จีนกดดันหยวนให้อ่อนค่าเกินจริง ส่งผลให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า หากร่างกฎหมายฯ ผ่านการพิจารณา ก็จะช่วยให้ลงโทษประเทศที่แทรกแซงค่าเงินได้ง่ายขึ้น ด้วยการตั้งกำแพงภาษีสินค้าส่งออก และห้ามบริษัทเข้ามาทำธุรกิจในสหรัฐฯ

    ทั้งนี้ ชูเมอร์ หนึ่งใน ส.ว. มั่นใจว่าร่างกฎหมายฯ จะผ่านการเห็นชอบแน่นอน

    [​IMG]

    แฟ้มภาพ – วุฒิสมาชิก Debbie Stabenow พรรคเดโมแครต จากมิชิแกน ร่วมกับส.ว.จากพรรคเดียวกันอีก 2 คน ออกแถลงการณ์โจมตีจีนเรื่องกดดันค่าเงินหยวนฯ ก่อนประธานาธิบดีจีนเยือนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการคืนนี้ (18 ม.ค.) (ภาพเอเอฟพี)
    สแต็ปนาว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า มาตรการของสหรัฐฯนี้สอดคล้องกับกฎฯ องค์การการค้าโลก (WTO) และจะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถพูดกับจีนตรงไปตรงมาได้ว่า “เรามีกฎระเบียบทางการค้าที่ต้องปฏิบัติตาม ถ้าจีนไม่ยอมรับ เราก็จะค้าขายเฉพาะพวกเราเอง (โดยปราศจากจีน)”

    ขณะที่ คาเซย์ กล่าวว่า การที่จีนชักใยอยู่เบื้องหลังค่าเงินหยวนนำมาสู่ปัญหาการว่างงาน และความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจอย่างมาก “คนสหรัฐฯ ตกงานมากมาย เราทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากนโยบายการค้าของจีนและโดยเฉพาะการกดดันค่าเงินหยวน เราต้องทำอะไรบางอย่างให้รัฐบาลจีนรู้ว่า พวกเรา “ซีเรียส” และพวกเราจะไม่นั่งเฉย ๆ รอความช่วยเหลือ”

    อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอาทิตย์ (16 ม.ค.) ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาก็ตอบโต้ว่า “ระบบเงินตราโลกผูกติดอยู่กับดอลลาร์มานาน เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ตัดสินใจปั๊มเงินดอลลาร์เข้าไปพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถึง 600,000 ล้านดอลลาร์ ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกฯ สภาพคล่องและการไหลเวียนของเงินทุนในหลายประเทศอย่างกว้างขวาง ดังนั้นสหรัฐฯ ควรรักษาสภาพคล่องดอลลาร์ให้เหมาะสมและมีเสถียรภาพ” พร้อมชี้ “เงินดอลลาร์เป็นผลิตผลของอดีตไปแล้ว”

    จีนจับมือมะกันลงนามทำธุรกิจในเท็กซัส 600 ล้านดอลลาร์
    ในวันเดียวกัน (17 ม.ค.) ขณะที่ส.ว.มะกันประกาศโจมตีจีน ผู้แทนจีน-สหรัฐฯ กลับจับมือกันลงนามบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจ ในมลรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ มูลค่าถึง 600 ล้านดอลลาร์
    [​IMG]

    แฟ้มภาพ – การขนส่งฝ้ายในมิสซิสซิปี (2003) ทั้งนี้จีน-สหรัฐฯจับมือบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจ 6 ฉบับมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ เมื่อ 17 ม.ค. (ภาพเอเอฟพี)

    ไต้หวันหวั่น “หูพบโอบามา” กระทบการค้าอาวุธฯ

    ส่วนทางฝั่งไต้หวัน ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว กล่าวเมื่อวันจันทร์ (17 ม.ค.) แสดงความกังวลว่า การที่ผู้นำจีนพบปะผู้นำสหรัฐฯในคืนนี้จะส่งผลกระทบต่อการซื้อ-ขายเครื่องบินขับไล่รุ่นก้าวหน้าสหรัฐฯ-ไต้หวัน

    หม่า แสดงความเห็นในการพบปะกับ อาเธอร์ บรู้คส์ ประธานสถาบันธุรกิจอเมริกา ว่า “ไต้หวันกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการที่หู จิ่นเทา พบประธานาธิบดีโอบามาของสหรัฐฯ โดยเราหวังว่าสหรัฐฯจะยังคงขายเครื่องบินขับไล่ เอฟ 16 ซี/ดี ให้ไต้หวัน”

    ทั้งนี้ จีนต่อต้านการขายอาวุธทุกชนิดแก่ไต้หวัน เนื่องจากถือว่าเป็นการทำให้เกิดความแตกแยกทางดินแดน เนื่องจากจีนเห็นไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีนมิอาจแบ่งแยกได้

    อย่างไรก็ตามไต้หวันกังวลว่า ปี 2554 ซึ่งใกล้ถึงเวลาแผ่นดินใหญ่เปลี่ยนตัวผู้นำ จะส่งผลให้สัมพันธภาพ จีน-ไต้หวันซับซ้อนและยากจะคาดการณ์

    China - Manager Online -
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    กองทัพไต้หวันซ้อมยิงขีปนาวุธ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 มกราคม 2554 18:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ทหารไต้หวันกำลังตรวจสอบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศสัญชาติมะกันรุ่น “ฮอว์ก” ทั้งนี้ ไต้หวันเปิดฉากซ้อมยิงขีปนาวุธวันนี้(18 ธ.ค.) หวังสร้างขวัญกำลังใจ หลังจีนเผยโฉม J-20 เครื่องบินขับไล่เทคโนโลยีล่องหน (ภาพเอเอฟพี)
    เอเอฟพี - ไต้หวันเปิดฉากซ้อมยิงขีปนาวุธวันนี้(18 ธ.ค.) หลังจีนเผยโฉม J-20 เครื่องบินขับไล่เทคโนโลยีล่องหน แต่ขีปนาวุธหลายลูกกลับพลาดเป้าระหว่างปฏิบัติการฯ

    การซ้อมยิงขีปนาวุธดังกล่าว ดำเนินการที่ฐานทัพจิ่วเผิง เขตผิงตง ทางตอนใต้ของไต้หวัน โดยมีหม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดี ไต้หวัน เข้าร่วมชมปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งจำลองจากสถานการณ์เครื่องบินรบจีนกระหน่ำขีปนาวุธนำวิถี(ballistic missile) ใส่ไต้หวัน อันส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก โดยในระหว่างการซ้อมยิงฯ ปรากฏว่า ขีปนาวุธ 5 จาก 19 ลูก พลาดเป้าไปต่อหน้าต่อตาของท่านผู้นำไต้หวัน

    ด้านผาน กงเสี่ยว พลอากาศโท เผยว่า “ผลของการซ้อมยิงขีปนาวุธเป็นไปตามที่เราคาด แต่แน่นอน เราจะต้องพัฒนาต่อไป”

    อย่างไรก็ตาม ท่านประธานาธิบดีแห่งไต้หวัน ดูจะไม่ค่อยพอใจกับผลการซ้อมเท่าใดนัก โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมไม่พอใจอย่างมาก มีขีปนาวุธบางลูกพลาดเป้า และทางกองทัพควรจะหาสาเหตุมาให้ได้ว่า เกิดการผิดพลาดที่จุดใด เป็นที่คนหรือที่กลไก อีกทั้งต้องมีการซ้อมให้มากขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของกองทัพ”

    พร้อมกล่าวว่า “การซ้อมยิงขีปนาวุธในวันนี้(18ม.ค.) เป็นการเตรียมความพร้อมด้านการป้องกัน ไต้หวันไม่ได้มีเจตนาประกาศสงคราม แต่ต้องการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น”

    บรรดานักวิเคราะห์ ชี้ว่า กองทัพไต้หวันซ้อมยิงขีปนาวุธ เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพในการป้องกันตนเอง ให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจ หลังจากที่จีนได้เผยโฉม J-20 เครื่องบินขับไล่เทคโนโลยีล่องหน(สเตลท์)

    ทั้งนี้ ปฏิบัติการซ้อมยิงขีปนาวุธเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดี หู จิ่นเทาเยือนสหรัฐฯ โดยการเยือนครั้งนี้อาจมีการถกเถียงประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันในประชุมระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯ

    อนึ่ง จีนและไต้หวัน ได้แยกการปกครองจากกัน หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 2492 แต่จีนยังคงถือไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนและจะต้องกลับมารวมชาติในที่สุด อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ จีน-ไต้หวัน พัฒนาดีขึ้น หลังจากประธานาธิบดี หม่า อิงจิ่ว ผู้นำพรรคก๊กมินตั๋ง เข้ารับตำแหน่งในปี 2551

    สำหรับ ระบบอาวุธที่ใช้ในปฏิบัติการซ้อมยิงฯครั้งนี้ ได้แก่ ขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศที่ผลิตขึ้นเอง รุ่น “เทียนกง” (ธนูสวรรค์) ขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศสัญชาติฝรั่งเศส รุ่น “ไมก้า” และ “เมจิก” และขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศสัญชาติสหรัฐฯ รุ่น “ฮอว์ก”

    เจ้าหน้าที่ทางทหารไต้หวัน เผยว่า ปฏิบัติการดังกล่าวได้เริ่มขึ้น หลังจากทางกองทัพฯมั่นใจว่า ไม่มีเรือสอดแนมจากจีน มาเก็บข้อมูลอยู่ใกล้ชายฝั่งของฐานทัพฯ
    [​IMG]


    ขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศรุ่น “ฮอว์ก” สัญชาติสหรัฐฯ กำลังทะยานสู่อากาศ ระหว่างการซ้อมยิงขีปนาวุธที่ฐานทัพจิ่วเผิง ทางใต้ของไต้หวัน (ภาพเอเอฟพี)

    http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000007079
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ธปท.ห่วงไทยติดกับดักเงินเฟ้อ แห่ตุนสินค้า

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    แบงก์ชาติห่วงไทยติดกับดักเงินเฟ้อ เหตุคาดราคาสินค้าสูงต่อเนื่อง ส่งผลประชาชนกักตุนสินค้า จนขาดแคลน ผนวกขึ้นค่าจ้าง กดดันเงินเฟ้อพุ่ง
    นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แรงกดดันต่อการเร่งตัวเงินเฟ้อเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2554 ซึ่งการควบคุมราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์เพื่อดูแลเรื่องความเป็นธรรมให้ปรับสอดคล้องกับต้นทุน ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด
    เนื่องจากเงินเฟ้อเป็นแรงกดดันของราคาในภาพรวม และเกรงว่าอาจจะก่อให้เกิดการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของราคามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในขณะนี้ เริ่มเห็นสัญญาณเงินเฟ้อมากดดันมากขึ้น ซึ่งหากประชาชนเริ่มรู้สึกว่าราคาสินค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะเกิดผลด้านจิตวิทยา มีการกักตุนสินค้า ตามด้วยปัญหาสินค้าขาดแคลน รวมถึงการขอขึ้นค่าจ้างแรงงาน เป็นวงจรไปเรื่อยๆ
    "แบงก์ชาติก็เริ่มเห็นสัญญาณแล้ว ดังนั้น ต้องทำให้คนคิดว่าแบงก์ชาติดูแลราคาเงินเฟ้ออย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ให้คิดว่าราคาจะขึ้นไปเรื่อยๆ ที่ซื้ออยู่ก็ให้หยุดซื้อ เพื่อกักตุนเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องควบคุมให้อยู่ ถ้าคนขาดความเชื่อมั่นแบบนั้นจะไม่เชื่อ ราคาก็จะไปต่อ แต่ปัญหา คือ การควบคุมดีมานด์ แต่ปัญหาการใช้ดอกเบี้ยอาจจะยังไปเพิ่มต้นทุนปัญหา ก็อาจวนกลับมาอีกหรือไม่" นายทรงธรรมกล่าว
    นายทรงธรรม กล่าวว่า ไทยยังมีแรงกดดันต่อการเร่งตัวอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญอีกด้าน ภายหลังสิ้นสุดการขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าจากกระทรวงพาณิชย์ นอกเหนือจากการเร่งตัวด้านราคาของสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่ขยายตัวตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันต้นทุนประกอบการและราคาสินค้าที่เร่งตัวสูงขึ้นอีกด้วย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ ธปท.ที่จะเข้าไปลดการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้ออย่างจริงจัง ในขณะที่ประเด็นการควบคุมราคาสินค้าเป็นหน้าที่การดูแลของกระทรวงพาณิชย์
    นายทรงธรรม กล่าวว่า ระดับการเติบโตเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะการส่งออกในปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตได้ในระดับ 11-14% และการท่องเที่ยวยังเติบโตต่อไปได้ ส่วนภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ดีกว่าที่คาดการณ์เป็นปัจจัยหนึ่งกดดันเงินเฟ้อ
    กกร.เคาะคุมไข่-คลังสินค้าเอกชน
    นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ว่าที่ประชุมมีมติให้นำสินค้าไข่ไก่และบริการรับฝากสินค้า (คลังสินค้าเอกชน) เป็นสินค้าและบริการควบคุมเพิ่มจากเดิม ที่มีสินค้าและบริการควบคุมรวม 39 รายการ ทำให้สินค้าและบริการควบคุมทั้งหมดรวมเป็น 41 รายการ
    ทั้งนี้ สินค้าไข่ไก่ที่ กกร.ออกมติเป็นสินค้าควบคุม เพื่อรองรับนโยบายประชาวิวัฒน์ ด้านการดูแลค่าครองชีพของประชาชน โดยยังไม่กำหนดมาตรการที่จะนำมาใช้ในขณะนี้
    ส่วนบริการคลังสินค้าเอกชน ยังไม่กำหนดมาตรการบังคับใช้เช่นกัน แต่จัดให้เป็นสินค้าควบคุมเพื่อป้องกัน การหลีกเลี่ยงการแจ้งปริมาณจัดเก็บสินค้าต่างๆ เพราะเดิมเจ้าของคลังเป็นเพียงผู้รับฝาก ขณะที่เจ้าของสินค้าอ้างไม่ได้มีสินค้าในครอบครอง จึงไม่แจ้งปริมาณจัดเก็บ ทำให้เป็นช่องว่างหากสินค้ารายการใดมีปัญหาขาดตลาด สามารถออกมาตรการที่เหมาะสมบังคับใช้ให้เจ้าของคลังสินค้าเอกชน ต้องแจ้งปริมาณจัดเก็บสินค้านั้นๆ ด้วย หากไม่ดำเนินการตามจะมีความผิดฐานกักตุนสินค้าเช่นเดียวกับเจ้าของ คือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท
    สั่งคุมน้ำมันปาล์มทั้งระบบ
    นางพรทิวา กล่าวว่า ในส่วนสินค้าน้ำมันปาล์ม ที่ประชุมมีมติให้เพิ่มมาตรการแจ้งเปลี่ยนแปลงราคาในทุกขนาดบรรจุ ต้องได้รับอนุญาต จากกรมการค้าภายในก่อนปรับขึ้นราคา จากเดิมที่น้ำมันปาล์มที่ไม่ได้บรรจุขวด สามารถปรับขึ้นลงราคาได้เพียงแจ้งให้กรมรับทราบ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้อนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันพืช ไปหารือเพื่อกำหนดราคาเพดานจำหน่ายน้ำมันพืชในทุกรูปแบบทั้งแบบปี๊บ ถุง ขวดขนาดครึ่งและอื่นๆ
    ส่วนการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อผลิตไบโอดีเซล ที่ประชุมมีมติให้ผู้ผลิตไบโอดีเซลต้องแจ้งปริมาณรับซื้อ ปริมาณคงเหลือ เป็นประจำทุกเดือน จากเดิมที่มีการแจ้งให้กระทรวงพลังงานทราบถึงปริมาณการใช้เท่านั้น ขณะเดียวกัน ผู้ที่ครอบครองน้ำมันปาล์มตั้งแต่ 2 พันลิตรขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณและสถานที่จัดเก็บทุกเดือน
    "ผลการประชุมวันนี้ (18 ม.ค.) จะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 ม.ค. รับทราบก่อนออกประกาศ เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติต่อไป สินค้าควบคุมทั้ง 2 รายการที่เพิ่มขึ้นมา ยังไม่กำหนดมาตรการมาใช้ดูแล เพราะต้องดูสถานการณ์ หากสินค้าใดมีปัญหาสามารถออกมาตรการบังคับใช้ได้ทันที ซึ่งจะช่วยดูแลสถานการณ์ได้ทันเวลา" นางพรทิวากล่าว
    เล็งขออนุมัตินำเข้าเพิ่มต้น ก.พ.
    ส่วนความคืบหน้านำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ ล่าสุดยอมรับว่า ต้นทุนการนำเข้ามีราคาสูงถึง กก.ละ 39.80 บาท หากรวมค่าบริหารจัดการผู้ผลิตอาจต้องขาดทุน แต่ได้หารือกับผู้ผลิตของให้จำหน่ายในราคาที่กำหนดไว้ คือ ขวด (1 ลิตร) ละ 47 บาทไปก่อน แม้ว่าในการกำหนดราคาจำหน่ายในขณะนั้น จะพิจารณาจากราคาวัตถุดิบ กก.ละ 36 บาทก็ตาม โดยกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ว่าการนำเข้าปริมาณเพียง 3 หมื่นตัน จากที่เสนอขอไปที่ 5 หมื่นตัน อาจไม่สามารถแก้ปัญหาความขาดแคลนได้ ซึ่งผลการหารือคณะกรรมการจะรอดูสถานการณ์หากไม่ดีขึ้น จะประชุมอีกครั้งต้น ก.พ. เพื่อพิจารณานำเข้าเพิ่ม
    วิลมาร์ชนะประมูลส่งน้ำมันปาล์มให้ไทย
    นายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการ อคส. กล่าวว่า บริษัทวิลมาร์ (WILMAR) ที่มีสำนักงานตั้งในสิงคโปร์และเป็นตัวแทนขายน้ำมันปาล์มมาเลเซีย ได้ชนะการประมูลขายน้ำมันปาล์มให้ไทย ทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นตัน กำหนดส่งมอบ 2 ครั้งให้แล้วเสร็จภายใน 29-31 ม.ค.นี้ โดยสมาคมโรงสกัดน้ำมันปาล์มจะเป็นผู้ดำเนินการรับมอบและผลิตเพื่อจำหน่าย ในห้างสรรพสินค้า ในราคากำหนดไม่เกินลิตรละ 47 บาท โดยรัฐบาลไม่ต้องชดเชยใดๆ
    ทั้งนี้ วิลมาร์เป็น 1 ใน 3 ราย ที่เสนอราคามาให้ อคส.พิจารณา แต่วิลมาร์เป็นรายที่เสนอราคาต่ำสุด ครั้งแรกเสนอตันละ 1,295 ดอลลาร์ หรือ กก.ละ 40 บาท หลังการเจรจาราคาลดลงเหลือตันละ 1,289 ดอลลาร์ หรือ กก.ละ 39.80 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...