ความรุนแรงจากโลกไซเบอร์

​

เคยมีผู้กล่าวว่า...การค้นพบระบบอินเตอร์เน็ตของโลก เป็นทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ของมนุษย์ด้วย

คุณ อนันต์ ก็คือ วิถีแห่งโลกไซเบอร์ยุคใหม่ ทำให้การสื่อสารติดต่อกันระหว่างมนุษย์ เพียงลัดนิ้วมือเดียว มีความรู้ศาสตร์มากมายลอยครอบคลุมโลกอยู่

ทุกคนต่างมีสิทธิ์เด็ดสอย จากการท่อง เว็บ เพื่อนำความรู้ศาสตร์เหล่านั้นมาใช้สร้างประโยชน์ (ดังเช่นโครงการ ปลูกความรู้ ปลูกปัญญาของทรู วิชั่นส์)

ส่วนโทษมหันต์ก็คือ ประตูโลกกว้างที่ระบบอินเตอร์ได้เปิดออกมานั้น มันกว้างเสียจน ไม่สามารถกลั่นกรอง ยาพิษสังคม สิ่งเสพติด กามารมณ์

และอะไรที่ไม่ดี ที่ใช้ประตูกว้างเดียวกัน ออกไปจากระบบได้

สิ่งเหล่านี้ ทำให้คุณภาพของคนยุคใหม่ด้อยลงไปในทางมโนธรรม จริยธรรม ลงไปเรื่อยๆ

การขาดมโนธรรม จริยธรรม เป็นบ่อเกิดแห่งความหายนะในพื้นฐานของความเป็นคน

ดังในประเทศญี่ปุ่น ที่กำลังประสบปัญหาอย่างมาก กับคุณภาพประชากร คนรุ่นใหม่

ในสังคมญี่ปุ่นทุกวันนี้ มีกลุ่มคน born looser - คนขี้แพ้ทั้งชาติ เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกที

พวกนี้คือ พวกคนหนุ่มสาวที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยมีชื่อไม่ได้ แล้วปล่อยชีวิตลอยไปกับสายลม หางานทำไม่ได้

เกาะอาศัยพ่อแม่กินไปวันๆ, พวกที่มีปมด้อย หน้าตาไม่ดี เป็นไอ้อ้วน อีอ้วน โดนรังแกมาแต่เด็ก จึงมองโลกในแง่ร้าย

ไปจนถึงคนวัยกลางคนที่ชีวิตไม่มีอะไรเลย เป็นไอ้กระจอกในสังคม

คนพวกนี้ จะเก็บกด ริษยา หมั่นไส้ เกลียด คนที่มีดีกว่าตนเอง ไม่ว่าสถานภาพทางสังคม หน้าตาสวยหล่อ

กล่าวโทษ ที่ชีวิตกูไม่น่าอภิรมย์ของตน ก็เพราะ พวกมึงคนพวกเก่งดีหัวสูง มีงานทำมั่นคง หล่อสวย นี่แหละ

คนพวกนี้ ไม่มีตัวตนในสังคมโลกความจริง แต่จะสร้างอัตตา ความมีตัวตนของตนในโลกไซเบอร์ ทางอินเตอร์เน็ต

แต่เพียงแค่นั่งหน้าจอคอมพ์ คลิกเข้าสู่โลกไซเบอร์ เคาะคีย์แทป แค่นี้ก็ทำให้เขาทัดเทียมหรือดีกว่าใครได้ทั้งนั้น

เขาคือศูนย์กลางแห่งจักรวาล สามารถจะพิพากษาใครก็ได้ การลงโทษคือการโพสต์คำด่าชิงชังสู่ผู้เป็นเหยื่อ

แล้วเหยื่อนั้นก็จะโดนถล่มจากรายอื่นๆ ที่พึงใจกับการได้ทำร้ายใครสักคน ด้วยสัญชาตญาณอำมหิตนี้

มีอยู่ในสันดานของมนุษย์มานับแต่ยังเป็นมนุษย์ถ้ำ ที่ต้องรวมกลุ่มล่าเหยื่ออยู่แล้ว

ประเทศญี่ปุ่นนั้น ความรุนแรงของการรังแกคนที่อ่อนแอมีมานานแล้ว ทุกปีมีเด็กนักเรียนฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากการโดนรังแก

การรังแกกันทางอินเตอร์เน็ตก็ขยายวงอย่างรวดเร็ว บดขยี้เหยื่อด้วยข้อมูลเลวร้ายที่โพสต์ใส่กระจายในเน็ต แล้วก็มีคนอื่น

ร่วมผสมโรงกระทืบซ้ำ เพียงเพื่อสะใจ

มีกรณีศึกษา ผลพวงแห่งความเลวร้ายในวิถีนี้

ชายหนุ่มวัย 27 ทำงานแล้ว และเล่นเน็ตเหมือนทุกคนทั่วไป

วันหนึ่ง เขาทำความผิดพลาดในชีวิต คือโพสต์ความคิดเห็นของตนลงในเว็บ เพื่อแสดงความมีตัวตน

แต่กลายเป็นว่า เขาสร้าง ''ช่องว่าง'' ทำให้ตัวเองกลายเป็นเหยื่อ เมื่อมีผู้โพสต์กระทู้ เยาะเย้ยถากถางความคิดเห็นของเขา

แล้วคนในบอร์ดอินเตอร์เน็ตก็ตามถล่มเขาอย่างเมามัน ยัดใส่ข้อมูลเลยเถิด

ชายคนนี้เจ็บแค้น ยิ่งแก้ตัว ยิ่งแสดงความคิดที่ตรงไปตามมา ก็ดูเหมือนเขาจะยิ่งโดนหนักข้อ

ที่สุดกลายเป็นความเครียด เก็บกด เกลียดชังทุกอย่างรอบตัว

เขาคั่งแค้น จะชำระแค้นกับพวกที่บดขยี้ศักดิ์ศรีความเป็นคน ทางเน็ต ก็ไม่ได้ ด้วยไร้ตัวตน

เขาได้กลายเป็นคนบ้าคลั่ง เอามีดออกไปแทงเหยื่อไม่เลือกหน้า ที่ย่านอากิฮาบาระ แหล่งเครื่องไฟฟ้าที่ประชากรหนาแน่นมากในโตเกียว

เขากลายเป็นฆาตกร แทงคนตาย 7 คน บาดเจ็บอีกเป็นสิบ

นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2551 โดยที่คดีความได้ดำเนินการมา ถึงการตัดสินคดีเมื่อเร็ววันนี้

ชายคนนี้เป็นฆาตกรแน่นอน เพราะเขาแทงคนตาย 7คน ซึ่งในญี่ปุ่นยังมีโทษประหารชีวิต เขาอาจโดนตัดสินประหารได้

แต่กระบวนการศาลสถิตยุติธรรมไม่ได้จบที่ชายคนเดียว แต่สั่งการให้ตำรวจคดีไซเบอร์ ล้วงลงไปถึง

กลุ่มคนที่โพสต์ด่ากระหน่ำชายคนนั้น จนสติแตก นำไปสู่เรื่องโศกนาฏกรรม

ศาลชี้ว่า บรรดาพวก ''อีแอบ'' โพสต์ด่านั้น ตกอยู่ในฐานะ ผู้สมรู้ร่วมคิดกับฆาตกร

เพราะถ้าไม่มี ต้นเหตุ ทำให้เกิด ปลายเหตุ โศกนาฏกรรม 7 ศพก็ไม่เกิดขึ้น

ก็ เก็บมาเล่าให้ฟังว่า ญี่ปุ่นประเทศ เอาจริง กับ บรรดาอีแอบ ที่ชอบถล่มเอาสะใจตัวเองนั้น เพราะเป็นปมเริ่มต้นแห่งความรุนแรงในอินเตอร์เน็ต

เมืองไทย บ้านเราก็ร่ำๆ แล้ว คนกลุ่มหนึ่งคลั่งไปตามข่าวกระแสเน็ต ถึงขั้นตั้งศาลเตี้ยพิพากษา ตามไล่ล่าเด็กสาวคดีอุบัติเหตุสยอง 9 ศพ

จนพ่อแม่ก็พาหนีหลายโรงพยาบาล นี่คือ กรณีศึกษาที่น่าเป็นห่วงในอนาคตนะครับ


กามาจิณ

 

ร่วมไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากฆาตกรไซเบอร์

​

มีไม่บ่อย ที่ผมจะเจอข่าวกระแทกให้จุกอก .. ซึ่งข่าวนี้เป็นอย่างนั้น

แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริง เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่ง กำลังรายงานเหตุฆาตรกรรม
ที่ตัวเองกำลังจะไปก่อออนไลน์สดๆไปยังเว็บไซต์ และตัดสินใจกระทำการเหล่านั้นกับคนที่ไม่รู้จัก
ไม่เคียดแค้น .. ไม่ผูกพันใดๆ .. มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยจริงๆ ..

ได้แต่หวังว่า ความพัฒนาคงไม่ทำให้วิวัฒนาการของมนุษย์ต้องบิดเบี้ยวไปกว่านี้
ดูแลตัวเองและคนใกล้ชิดทั้งร่างกาย และจิตใจกันไว้ด้วยนะครับ ..

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


ภาพเหตุการณ์ชุลมุนที่อากิฮาบาระ เที่ยงวันที่ 8 มิถุนายน 2551

เลือดไหลรินบนถนน

ต่อไปนี้คือข้อความที่"มือฆ่าอากิฮาบาระ" รายงานวีรกรรมขับรถบรรทุกเข้าปะทะและกระหน่ำแทงฝูงที่เดินอยู่
ในย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น
และวีดีโอเกมขนาดใหญ่ในกรุงโตเกียวไว้ในกระทู้ออนไลน์ของเว็บไซต์ญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง


โทโมฮิโร คาโตะ มือแทงอากิฮาบาระ

05.21 น. เช้าวันอาทิตย์ "ผมกำลังไปที่อากิฮาบาระเพื่อฆ่าคน ถ้ารถของผมถูกทำลาย
ผมจะใช้มีดแทน ลาก่อนทุกคน" จากนั้นไม่กี่วินาทีถัดมาก็ปรากฏข้อความนี้ "ผมเหนื่อย"

06.31 น. "ได้เวลาแล้ว ผมกำลังไป"

09.48 น. "เริ่มเข้าเขตคานางาวะ (Kanagawa) แล้ว ผมกำลังพักผ่อน"

11:45 น. "ถึงอากิฮาบาระแล้ว วันนี้มันเป็นถนนคนเดิน คิดว่านะ"

12:10 น. "ได้เวลาแล้ว" เป็นข้อความสุดท้ายที่โทโมฮิโร คาโตะ มือแทงอากิฮาบาระรายงานแผนฆ่าหมู่อย่างโหดร้าย


ขณะตำรวจเข้าคุมสถานการณ์



ภาพการไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตในวันนี้

รายงานระบุว่า เวลา 12.30 น. คือช่วงที่รถบรรทุกสำหรับเช่าถูกขับเข้ามาปะทะฝูงชน
ที่ กำลังข้ามถนน ปกติย่านอากิฮาบาระที่ถูกปิดเป็นถนนคนเดินนั้นถือเป็นสวรรค์ของนักช้อป แต่สำหรับวันอาทิตย์ที่ผ่านมากลับเป็นนรกที่ไม่ว่าใครก็ต้องผวา โดยผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้
มีอายุตั้งแต่ 19-74 ปี เป็นชาย 6 คนและหญิง 1 คน ได้รับบาดเจ็บเกิน 10 คน

การโพสต์แผนฆ่าคนบนโลกออนไลน์ของฆาตกรโหดรายนี้บนกระทู้ ถือเป็นการแสดงอิทธิพล
มหาศาลของโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของชีวิตสำหรับคนตัวคนเดียวในอพาร์ตเมนท์
รูปแบบชีวิตที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยไม่มีการติดต่อกับเพื่อนบ้านหรือบุคคลอื่นนอกจากเรื่องงาน

จากการประเมิน พบว่าชาวญี่ปุ่นมากกว่า 1 ล้านจาก 128 ล้านคนที่ปิดตัวเองจากโลกภายนอก
อยู่ในห้องนอน ชาวญี่ปุ่นกลุ่มนี้โดยเฉพาะเด็กมักจะใช้ชีวิตออนไลน์ เล่นเกม และดูทีวีในห้อง
การออกจากห้องจะเกิดขึ้นกลางดึกเพื่อไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน

ญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วที่มีอาชญากรรมน้อยที่สุด ซึ่งมีอัตราฆาตกรรม
ประมาณการที่ 1.1 ต่อ 100,000 คน (ตัวเลขปี 2005) ต่ำกว่าตัวเลข 3.2 ของสหราชอาณาจักร,
2.9 ของเยอรมนี และ 5.6 ของสหรัฐอเมริกา โดยเหตุสลดใจที่เกิดขึ้นในย่านจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยี
ชื่อดัง ของญี่ปุ่นอย่างอากิฮาบาระ ทำให้เว็บไซต์เทคโนโลยีหลายแห่งของญี่ปุ่นร่วมลงข่าว
เพื่อไว้อาลัยต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ผมถือว่าการร่วมเสนอข่าวนี้ ก็เพื่อกระตุ้นเตือนอะไรบางอย่าง ในตัวเราๆ ที่ใช้อินเตอร์เน็ตกันครับ
และเชื่อว่า .. สาเหตุไมไ่ด้มาจากอินเตอร์เน็ตตามข่าวแน่นอน แต่ก็ถือเป็นความบกพร่องของสังคม
และครอบครัวด้วย จริงๆ ครับ

ผู้จัดการออนไลน์

 

สันโดษโพสกระทู้แบบนี้ ต้องการสื่ออะไรครับ

ช่วยบอกหน่อยได้มั้ยครับ
ว่าทำไมกระทู้นี้ถึงโผล่มาเวลานี้ครับ

ผมว่ามันต้องมีเหตุ และ ปัจจัย น่ะครับ

 

เทคนิคการพูดเชิงจูงใจคน

หัวข้อ

เนื้อหาสาระ + ความจริง(เรื่องใดเรื่องหนึ่ง) 1มุมมอง

ข้อคิดเห็น +ประเด็นที่จะสื่อ+ความคิดเห็นเชิงอำนาจ

​

อ้างอิง::ที่มา

​

ทฤษฏีสมคบคิด..ใครอย่าได้เข้าไปใกล้คนพวกนี้ก็แล้วกัน
เห็นด้วยมันก็เสมอตัว ไม่เห็นด้วยมันล่าจิกเลยนะโยนว่าเป็นคนอีกกลุ่ม

ส่วนอีกกลุ่มก็มุ่งแต่จะของเก่ากลับมาอีท่าเดียว + แนวคิดแบบซ้ายเก่า
​

 

ไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยได้มั้ยครับ งง

 

งงจ้า ตกลงแล้วตั้งใจจะสื่ออะไรกันแน่
เรื่องแรก คือความรุนแรงในโลกอินเตอร์เน็ต
เรื่องสองคือ ข่าวของคนที่ขับรถชนคนตายไปเก้าคน แล้วมีคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการใช้ระบบศาลเตี้ย
ช่วยตอบที

 

ผมก็งงเช่นกันครับ

แต่ที่ผมสังเกตุได้ก็มีอยู่ว่า

พอมีคนบอกว่า ให้มารวมกันช่วยโลก
แต่ในทันใดก็มีอีกคนโพส์
ข้อมูลเกี่ยวกับความรุนแรงจากโลกไซเบอร์
ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกหรืออย่างไร

เหมือนกันมาดักทางกันไว้
อยากให้เจ้าของกระทู้แปลกๆ วันนี้มาบอก ว่าทำไมครับ
มาอธิบายให้ฟังกันหน่อย ครับ

 

ไม่ได้..พูดมากกว่านี้ไม่ปลอดภัย มันเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ


ที่อธิบายน่ะ มันหมายถึงโครงสร้างไง เคยเรียนแบบ mind map ไหมล่ะ ?
คือการพูดจูงใจคนเนี่ย มันต้องมีหลักให้บุคคลและกลุ่มบุคคลยึดถือเพื่อให้เกิดศรัทธาไงหรือเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
มันธรรดาของคนหัวดีน่ะ เขาจะตั้งประเด็นหลอกๆหรือจริงๆก็แล้วแต่เขา
เขาจะเอามาเป็นจุดชูโลงก่อน เพื่อให้ใครๆที่อยู่ไกลๆเห็นว่านี่นะจุดยืนของกลุ่มมันเป็นอย่างนี้นะ พอสมาชิกเห็นด้วยก็จะแสดงความคิดเห็นทั้งสนับสนุนและต่อต้านอันนี้เป็นปรกติ
แต่ที่ไม่ปรกติก็คือเมื่อมีการไม่เห็นด้วยกับคนที่เปิดประเด็นก็จะถูกเขี่ยออกจากกลุ่มหรือไม่อาจจะร้ายกว่านั้นคือเกิดการชักจูงสมาชิกคนอื่นๆเข้ามาเปิดประเด็นโจมตีกันเอง

 

ง่ายๆอ่านอะไรแล้ว ปล่อยได้ก็ปล่อย มันแค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ไปโพสถกเถียงอะไรก็เสี่ยงที่จะเกิดเรื่องได้ง่ายๆ เล่นเพลย์ เซฟ ดีกว่า
แต่บางทีเสี่ยงไปก็คุ้มนะแต่ต้องมีลิมิตมีวิจารณญาณแต่ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้นมาก็ต้อง
ปล่อยว่างอะไรบ้าง

 

อือนะคนกลุ่มนี้
จากภายนอกเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง ลับหลังโพสด่าไปทั่วกะว่าจะสร้างความลำบากใจให้คนอื่นเต็มที่ ให้ในโลกที่ร่วมกันอุปโลกนั้นตัวเองดูยิ่งใหญ่ แต่แท้จริงแล้วก็เป็นคนที่ไม่เอาไหนคนนึงเท่านั้น

 

ดูหนัง+อ่านการ์ตูน ของ ญี่ปุ่น มาเยอะ ผมสรุปปัญหาของวัยรุ่น รังแกกัน ในประเทศนี้ได้ว่า

เป็นเพราะ กฎหมาย ของประเทศ ญี่ปุ่น ไม่ให้เอาผิดกับวัยรุ่นครับ

ดังนั้นวัยรุ่น ญี่ปุ่น จะทำอะไรก็ได้ แม้แต่ ฆ่าคนตาย ก็ตาม ไม่ผิดทั้งนั้น


การรังแกกันจึงเป็นเรื่องเล็กๆ ไปเลย และ ก็เลยนิยมทำกันมาก มันก็ส่งผลให้คนที่ถูกรังแก
มีอาการทางจิตไป ส่วนพวกที่รังแกคนอื่น ก็กลายเป็นคนเหลือขอ ไปถึงขั้นสารเลวเลย

ปัญหานี้มีเยอะ ทำไมนักการเมืองญี่ปุ่นไม่แก้ซะที จะสรรหาวัยรุ่นเลวๆ มาเข้าแก๊งยากูซ่าหรืองัยกัน

 

ใช้เทคนิคการโพสเดิมๆ เห็นมาหลายวันแล้วกับคนกลุ่มนี้^^ ปกติผมชอบเข้ามาอ่านบอร์ดนี้นะ หลังๆมันน่าเบื่อว่ะ บอกตรงๆ^^''

 

คนเราเกิดมาทั้งทีมีสติสัมปชัญญะสามารถเลือกอะไรก็ได้ ......ถ้าเลือกไม่เป็นเรียกว่า................

 

ผมว่าผมเข้าใจนะ..คิดว่าตัวเองคิดถูก ขอบคุณสันโดษที่เตือนสติ แต่หลายคนอาจไม่เข้าใจ เพราะว่า....

 

โดนเต็มๆ เพราะตรงกะชีวิตจริงผมเลยอะ เก็บกดเข้าไปไว้ชาติหน้าค่อยระบายละมั้ง โรคบ้าอะไรไม่รู้นักหนา