999 ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ 999

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ดู๋ดี๋, 27 มิถุนายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ปะจะขะ

    ปะจะขะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +4,409
    ขอแสดงความยินดีกับคุณตั๊มเด็กเชียงใหม่ด้วยนะครับ ที่วันนี้เป็นวันเด็กแห่งชาติ ได้รางวัลและของขวัญเป็นลูกสาวตัวน้อยๆ ที่ คลอดลืมตาออกมาดูโลกแล้วครับในวันนี้ เอาอาๆลุงๆ ป้าๆ เข้ามาร่วมแสดงความยินดีหน่อยเร็ว เพราะคุณพ่อมือใหม่เห่อมากๆๆๆๆๆ ขอบอก
     
  2. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    ยินดีด้วยครับคุณตั้ม กับตำแหน่งคุณพ่อมือใหม่ ขอให้หลานคนนี้มีสุขภาพแข็งแรงครับ

    ว่างๆส่งรูปให้ดูบ้างนะครับ


    ฤกษ์วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2554

    สุริยคติกาล วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554 ค.ศ. 2011 จันทรคติกาล ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 2 ปีขาล โทศก จุลศักราช 1372 อาทิตย์อุทัย เวลา 06.44 น. เที่ยงจริง เวลา 12.25 น. อาทิตย์ตก เวลา 18.05 น. จันทร์ตก เวลา 21.34 น.

    วันนี้ เวลา 00.00-08.18 น. ดาวจันทร์ (2) เสวยธนิษฐนักษัตรฤกษ์ที่ 23 ประกอบด้วยเทศาตรีแห่งฤกษ์หรือเวสิโยแห่งฤกษ์ เทศาตรี แปลว่า ข้ามถิ่น หมายถึงฤกษ์พ่อค้าข้ามถิ่น เวลา 08.19-24.00 น. ดาวจันทร์ (2) เสวยศตภิสัชนักษัตรฤกษ์ที่ 24 ประกอบด้วยเทวีแห่งฤกษ์ เทวี แปลว่า นางพญา หมายถึง สตรีผู้มีฐานะและตำแหน่งสูง เป็นฤกษ์เพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีเกียรติยศชื่อเสียง สวยงาม หรูหรา อ่อนหวาน ร่มเย็น เป็นเสน่ห์ในกายตน วันเสาร์ (7) เป็นวันโลกาวินาศตามกาลโยค เวลา 00.00-24.00 น.ห้ามทำการมงคล ฤกษ์ล่างเสีย ทิศที่เป็นมงคล คือ ทิศอุดร (เหนือ) ทิศอัปมงคล คือ ทิศทักษิณ (ใต้) สีประจำวัน คือ สีดำ สีสิริมงคล คือ สีฟ้า น้ำเงิน สีอัปมงคล คือ สีเขียวสด ราศีที่ดาวศรีสถิต คือ ราศีพิจิก ราศีที่ดาวกาลีสถิต คือ ราศีธนู

    เกิดวันนี้ เด็กชาย เมื่อเด็กเลี้ยงยาก เติบโตจะบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน ฐานะการเงินดี เป็นคนเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาความคิดอ่านว่องไว ตรงไปตรงมา ไม่ก้มหัวให้ใคร พูดจากินใจคน มีลางสังหรณ์ ความจำดี คาดการณ์ได้แม่นยำ รอบคอบ มีความรู้ดี ชอบต่อสู้ กล้าหาญ หากเป็นเด็กหญิง จะเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นครูบาอาจารย์ ชอบอยู่เบื้องหลังและเก็บเนื้อเก็บตัว ชอบพึ่งตนเอง มีจิตใจเข้มแข็ง กล้าคิด กล้าทำ ชอบศึกษาเล่าเรียน เรียนดี มีจิตใจหนักแน่น มีคุณธรรม จริงใจ มีเหตุผล ละเอียดลออ มัธยัสถ์ มีความรับผิดชอบสูง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2011
  3. radien

    radien เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2010
    โพสต์:
    902
    ค่าพลัง:
    +1,057
    นั่นสิครับผมก็เคยได้ยินว่าทำอย่างนี้ได้ ก็ต้องขอความกรุณากับพี่ๆแล้วหละครับเพราะส่วนตัวแล้วก็เป็นสุดยอดปรารถนาเหมือนกันแต่คงเอื้อมไม่ถึงเพราะทุนน้อยครับ อาจจะทำแล้วให้ร่วมบริจาคเข้ากองทุนดูแลสุขภาพหลวงปู่ก็ดีนะครับ เป็นการหาเงินเข้ากองทุนอีกทางด้วย รบกวนพี่ๆพิจารณาด้วยนะครับ
     
  4. พี่รัช

    พี่รัช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +145
    ขอคั่นเวลาสักนิดน่ะครับ พี่ๆน้องๆเพื่อนๆศิษย์หลวงปู่ทุกท่าน
    พระรูปเหมือนซุ้มกอผงธาตุขันธ์หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญรุ่นฉลองชัย นี่ก็บูชามาตั้งแต่ปี42 นี่ก็ใช่ว่าจะหาง่าย ดีทั้งเนื้อในและพิธีกรรมปลุกเสก เนื่องจากเป็นรุ่นที่สามต่อจากรุ่นขุดสระและกริ่งแซยิดครับ ตอนนั้นหลวงปู่ท่านยังไม่มีคนรู้จักเหมือนปัจจุบัน การทำพิธีกรรมก็ทำกันจริงจังและแบบโบราณ ตั้งพิธีบวงสรวงที่สุสาน สมัยโน้นผมไปร่วมพิธีคือไปพักที่สุสานเ(ค้างคืนกันที่สุสาน)เพื่อเข้าร่วมในพิธี กลางคืนเงียบมาก และมืดมาก มีแสงไฟเฉพาะกุฏิหลวงปู่ กับ บริเวณพิธีบวงสรวง วัดดอนกลางคืนเงียบยังไงยังงั้น ที่แปลกมากคือ ปกติในป่ามักมีแมลง, ยุง ชุกชุมนัก แต่บริเวณสุสานไม่มีเลย นอนไม่ต้องกางมุ้ง ปูเสื่อผืนหมอนใบนอนได้แล้ว (แต่ผมไม่ค่อยหลับ กลัวเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็หลับ) รุ่นนี้หลวงปู่ปลุกเสกประมาณ 19.19 - 23.00 กว่าๆ (รอบสอง) กว่าจะเก็บประรำพิธีก็ยิ่งมืด, เงียบ, เย็น ไม่เหมือนปัจจุบันนี้ สะดวกเกือบทุกอย่าง ปัจจุบันพิธีบวงสรวงดีขึ้นมากและคนมาก ทำให้เราเองปลื้มใจที่หลวงปู่มีลูกศิษย์ลูกหาเพิ่มมากขึ้นเยอะ คนดีมากมายร่วมแรงร่วมใจกันหาปัจจัยมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ ดีจริงๆครับ
    ผมโชคดีที่ได้ร่วมเป็นศิษย์รุ่นแรกๆที่ได้ไปกราบและเห็นจริยาวัตรของหลวงปู๋ ประทับใจหลวงปู่ตั้งแต่นั้นมาครับ พระผงชุดนี้อาจารย์ยุทธนันท์สมัยนั้นทำเองผสมเองโดยให้หลวงปู๋ปลุกเสกมวลสารก่อนแล้วมาผสมทำกันไม่จ้างคนนอกมาทำ มีส่วนผสมมากมายและเป็นรุ่นแรกของหลวงปู่ที่หลวงปู่อนุญาตให้นำเกศา, จีวร, เล็บ,ชานหมากมาผสมด้วย มีผงพระกรุขุนแผนผสมด้วย,ผงงาช้าง, ปิดตาหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์แท้ๆที่อาจารย์เก็บสะสมไว้สมัยคุณพ่อท่านอาจารย์โน้น และหลายอย่างจำไม่ค่อยจะได้
    รุุ่นนี้พอปลุกเสกเสร็จ เอามาบูชากัน เกศางอกก็มี, เล็บด้านหลังใสเหมือนแก้วก็มี เกศากลายเป็นสีทอง บางองค์เกศาทะลุเม็ดปฐวีธาตุชี้ขึ้นมาก็มี แปลกมากๆๆ ผมมีอยู่อีกองค์พระธาตุขึ้น แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้
    พระผงธาตุขันธ์รุ่นนี้ผมเห็นอยู่ในเวปโชว์กันอยู่นับได้ไม่ถึงห้าองค์ (ตั้งแต่ปี 41-53)
    คนที่มีเก็บไว้ให้ดีน่ะครับ อย่าแบ่งให้ใครไปหมด บูชาดูเองจะรู้ว่า ที่เราพูดคำว่าสุดยอดเป็นอย่างไร เคยใส่ถาดพระหลายอย่างหลายรุ่นไปให้หลวงปู๋(พร้อมพานครูขันธ์ห้า) หลวงปู่ชี้รุ่นนี้รุ่นเดียว บอกว่า "นี่เก่ง"
    . . จบ(ตอน)
    ปล. โชว์พระอย่างเดียว ไม่มีเจตนาร้ายใดๆ หากล่วงเกินอะไรไป ขออภัยใหญ่กันดัวยน่ะ ผมเพิ่งเข้ามาใหม่ไม่ค่อยรู้จักใครในนี้เลย ยังไงศิษย์ทุกคนรักหลวงปู่เราช่วยกันทำให้หลวงปู่ โดยยึดเป็นที่ตั้ง ขอให้กำลังใจคณะผู้เสียสละทำเหรียญมงคล93 ให้ราบรื่นตลอดไปน่ะครับ เอาใจช่วยอีกแรง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  5. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    ตอนนี้ว่างเลย แอบมาเล่นnet
    ขอขอบคุณ พี่วุธ และพี่แชม พี่สุวัฒน์ พี่สมเกียรติ เสกสรรค์ และคุณปะจะขะ ที่มีไมตรีจิต ที่ดีต่อกัน (คุณปะจะขะ รู้ได้อย่างไร รู้จากน้องเสกแน่ๆเลย)

    เด็กคลอดออกมา เพศหญิง น้ำหนัก 2870 กรัม เกิดวัน อาทิตย์ที่ 9 มกราคม2554 เวลา 03.17น. ห้องเบอร์ 393
    ใจหายใจคว่ำ ทั้งแม่และพ่อ ท่องแต่นะเมติ ไม่รู้ท่องไปกี่รอบ เพราะเจ็บท้องตั้งแต่ 5.00น วันที่ 8/1/53
    แต่ไม่คลอดเสียที จึงรีบไปจุดธูป บอกกล่าวหลวงปู่หงษ์ พระแม่ธรณี กลัวสุดๆๆ ตอนอยู่ในห้องคลอด กลัวลูกจะเจ็บ เกิดมาไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้เลย ต้องเรียกว่าที่สุดของความกลัว ตอนกลัวที่สุดนึกแต่หลวงปู่หงษ์ ผมห้อยพระของหลวงปู่ประมาณ 10องค์น่าจะได้ ของแฟนผม ไม่ต้องพูดถึง เต็มพิกัด
    และบนไว้ว่า ถ้าลูกปลอดภัย จะให้ไว้ผมยาวเหมือนองค์ พระแม่ธรณี ตามที่หลวงปู่เคยบอกไว้ เพื่อเป็นการแก้บน
    เล่าแค่นี้ก่อนนะครับ วันหลังจะเล่าให้ฟังใหม่ กลับไปดูลูกก่อน
    เอาเป็นว่า ผู้ที่จะเป็นลูกเขย ในอนาคต ถ้าไม่ถือศีล5 อย่าแหยม จะถูกถีบเอาง่ายๆ 55555

    เด็กคลอดออกมา เพศหญิง น้ำหนัก 2870 กรัม เกิดวัน อาทิตย์ที่ 9 มกราคม2554 เวลา 03.17น.
    วันอาทิตย์ ที่ 09 มกราคม 2554 เวลา 0:00 น

    สุริยคติกาล วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554 ค.ศ. 2011 จันทรคติกาลตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 2 ปีขาล โทศก จุลศักราช 1372 อาทิตย์อุทัย เวลา 06.44 น. เที่ยงจริง เวลา 12.25 น. อาทิตย์ตก เวลา 18.06 น. จันทร์ตก เวลา 22.18 น.

    วันนี้ เวลา 00.00-10.18 น. ดาวจันทร์ (2) เสวยศตภิสัชนักษัตรฤกษ์ที่ 24 ประกอบด้วยเทวีแห่งฤกษ์ เทวี แปลว่า นางพญา หมายถึง สตรีผู้มีฐานะและตำแหน่งสูง เป็นฤกษ์เพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีเกียรติยศชื่อเสียง สวยงาม หรูหรา อ่อนหวาน ร่มเย็น เป็นเสน่ห์ในกายตน

    เด็กเกิดวันนี้ เด็กชาย เป็นคนเปิดเผยซื่อสัตย์ รักเกียรติรักศักดิ์ศรี มีชื่อเสียง ชีวิตรุ่งโรจน์ ไม่ไว้วางใจใคร มีความก้าวหน้าทางสังคม มีมิตรสหายมาก มีการศึกษาดี รับผิดชอบสูง รักษาคำพูด คารมคมคาย เจรจาเป็นเลิศ ผู้ใหญ่ช่วยเหลือ มักจากถิ่น สร้างหลักฐานได้เร็ว
    หากเป็นเด็กหญิง เป็นคนใจบุญสุนทาน มีความมานะ เฉลียวฉลาดในการทำมาหาเลี้ยงชีพ เจ้าระเบียบ พูดจริงทำจริง จิตใจสูง มีผู้อุปถัมภ์ รักศิลปะการตก แต่ง วัยเด็กจะต่อสู้แต่อนาคตจะดี มีความรับผิดชอบสูง ชอบการสมาคม ติดต่อเจรจาทางการค้าดี คู่ครองช่วยเสริมเรื่องฐานะความเป็นอยู่
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2011
  6. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ขอแสดงความยินดีด้วยครับ จำง่ายดีเกิดวันเด็ก ผมว่าในยามที่คุณมีลูก คุณจะรักแม่ของคุณมากขึ้นอีกเป็นกองเลย
     
  7. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    ไม่ใช่ วันเด็กค่ะ ลุงแซม5555
     
  8. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    บางตำราว่าหากยังไม่เลย 6 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น ถือว่าเกิดวันเสาร์ที่ 8 (ถ้าจำไม่ผิดก็ตำราของพระสงฆ์) ลองศึกษาดู
     
  9. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    นี่แหละชีวิตการทำงาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    We ourselves fell that what we are
    doing is just a drop in the ocean.
    But the ocean would be less
    be cause of that missing drop.
    ถ้าเรารู้สึกว่าสิ่งที่ทำลงไปเป็น
    เหมือนกับเพียงน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทร
    แต่มหาสมุทร คงจะมีน้ำน้อยลง
    ถ้าขาดหยดนั้นไป… [​IMG]

     
  11. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ชั่วในดี

    * ส่วนที่ชั่ว มีกลั้ว อยู่ในดี
    คือดีมี เลศยั่ว ให้มัวหลง
    ไม่ค่อยสอน ไม่ค่อยเตือน อาจเฟือนลง
    สอนไม่ลึก สอนไม่ตรง จึ่งหลงดี
    * ยั่วให้หลง ในดี-ดี เป็นผีบ้า
    ไม่นานหนอ ต่อมา ก็สิ้นศรี
    ดีมันสอน ไม่ค่อยจะ ถูกวิธี
    ยึดมั่น "ดี" แล้วยิ่งยาก จะจากวาง
    * ยิ่งมีดี ก็ยิ่งมี คนรบกวน
    หลายกระบวน หลายวิธี ไม่มีสร่าง
    พวกริษยา ก็หาช่อง จ้องจิตล้าง
    มองดูบ้าง ชั่วในดี มีอยู่เน้อ ฯ
     
  12. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    มนุษย์สัมพันธ์สำคัญไฉน
    มนุษย์สัมพันธ์ สร้างได้ ใช่ยากนัก
    ถ้ารู้จัก การให้ มักได้ผล
    ให้อภัย ให้ความรัก ให้เกียรติคน
    อย่ายกตน ข่มใคร มักไม่ดี
    ไม่กล่าวโทษ ผู้ใด ให้หมองศรี
    รู้คุณคน แทนคุณท่าน ในทันที
    อย่าย่ำยี เหยียดหยาม ประนามคน
    เริ่มด้วยเรา จริงใจ ให้เขาก่อน
    ผลสะท้อน ก็จะมี ทวีผล
    ยิ่งตัวเรา เอาใจเขา ใส่ใจตน
    จะเกิดผล มากมิตร สนิทนาน
     
  13. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    กำลังใจของคนเรานั้น มีความสำคัญเช่นไร
    เมื่อมีร้อน ก็มีเย็น เป็นเครื่อแก้ มืดมิดแท้ แล้วก็มี เวลาสว่าง
    ถึงครื้มฟ้า มัวฝน ทุกทิศทาง เมื่อเมฆจาง ก็จะกลับ เห็นแสงจันทร์
    เชื่อว่าเรา ทุกๆคน เคยทุกข์ยาก แม้นลำบาก สักเท่าไหร่ เราไม่หวั่น
    มีกำลังใจ ไว้ให้ดี อย่าหนีมัน ร่วมฟาดพัน อุปสรรค ให้สิ้นไป
     
  14. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ใจดีมีแต่ให้ ใจไร้ชึงการให้คือใจยักใจมาร

    * ตั้งใจสูงเกินไป มักทำให้ใจเราท้อแท้

    * ความเข้าใจ คือหัวใจของการกระทำต่างๆ

    * อยากสร้างความดี จะต้องมีขันติ ยอมรับคำติได้ ด้วยใจที่สงบได้ จะพบทางออกที่ดีๆ

    * ดูชะตาชีวิตในวันหน้า ให้ดูความนึกคิดในวันนี้ทำดีแล้วหรือ

    * คนเช่นไรก็มักคิดมักพูดไปในทางนั้น

    * ดีไม่กลัว กลัวแต่ไม่ดี มีดีแต่ไม่กลัว กลัวแต่ไม่มีดีอะไรสักอย่าง

    * เรียนที่โรงเรียนไหน ก็ไม่เท่าเรียนที่จิตใจของตน

    * ยึดไว้ไม่วาง จ้างใครก็ช่วยไม่ได้ (นอกจากตน)

    * รู้แล้วกับไม่ทำ รู้จำกับไม่ปฏิบัติ ก็ได้แต่ปริยัติ ไม่เกิดผล

    * สิ่งดีควรใช้ สิ่งที่ไร้ควรหลีก

    * เที่ยวไปทั่ว ยังไม่รู้ทั่วถึงความคิดของตนเอง

    * ไฟนั้นมันเผาตน แต่ยังกังวลที่จะไปดับที่ไหนกันเล่า

    * ต้นไม้นั้นให้ชีวิต แต่คนยังคิดที่จะทำลาย

    * เดินช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม
    เดินอย่างงาม เดินตามแบบธรรมชาติตรง
    เดินอย่างคนทะนง คงต้องเชิดหน้า
    เดินอย่างมีปัญหา หน้ายุ่งให้เห็นกัน
    เดินอย่างเห็นทุกวัน คือแทบพันกันเข้าด้วยขาทั้งสอง


    * คิดได้แต่ไม่ดี ก็ยังดีได้แต่ไม่เคยคิด (แก้ไข)

    * ผิดถูกนั้นสำคัญไฉน แม้ไม่นำไปปฏิบัติให้เกิดผล

    * รู้ทำรู้คิดแต่สิ่งที่ดี ชีวีก็มีสุขได้
    * รู้เท่าทันจิต ความคิดไม่วุ่นวาย รู้ถึงความตาย ย่อมคลายจากความยึดมั่น
    อย่ามัวหวังแต่คอยกำลังใจจากใคร เมื่อไม่ได้ย่อมจะเสียใจ และสิ้นกำลังที่จะเดินต่อ
    * อยากรู้ให้ถาม อยากงามให้แต่ง อย่าแข็งไปด้วยมานะ ย่อมจะได้รับในสิ่งที่ดีๆ
    * ยิ่งตามก็ยิ่งไกล ยิ่งเอาใจก็ยิ่งเสีย
    * มีน้ำใจใครๆก็รัก ใจที่หนักย่อมรักษาบุญไว้ได้
    * คิดผิดคิดใหม่ คิดให้จะได้บุญ
    * คิดทำเพื่อผู้อื่นวันคืนก็มีแต่สุข คิดทำเพื่อตนทุกข์นั้นจะล้นออกมาให้เห็น
    * ให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะมารทั้งปวง (โดยเฉพาะมารที่อยู่ในจิตใจ)
    * ศึกษาธรรมะชนะการศึกษาทั้งปวง
    * คิดแต่ข้อดีของเค้า เราจะต้องหม่นหมอง ตรองตรม
    * อยากสอนคนอื่นให้สอนตนก่อน อยากให้คนอี่นรู้ และเข้าใจตนต้องรู้ก่อน
    * พึงตนก็พ้นพัย พึงใจก็พ้นทุกข์
    * พึงคนอื่นสุขก่อนผ่อนทุกข์ที่หลัง พึงตนทุกข์ก่อนสุขตามมาทีหลัง
    * มีเงินน้อยก็ทุกข์ มีเงินมากก็ทุกข์ แล้วสุขนั้นอยู่ไหน (อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอยู่ในจิตใจดวงนี้ไงครับ)
    * ได้ของขลังชีวิตพังมาก็มาก อยากได้ลาภจนลืมตัวกระทำผิด
    * ของดีแท้นั้นย่อมเบาสบาย ของที่พาจิบหายนั้นย่อมที่จะหนักมาก (หนักทั้งกายหนักทั้งใจ)
    * พูดดี คิดดี ทำดี ย่อมจะบังเกิดสิ่งดีขึ้น
    * โชคอยู่ที่เรา อย่ามัวไปเฝ้าจากที่ไหนให้เหนื่อยเปล่า
    * บวชด้วยปากพูดมันง่าย แต่บวชด้วยใจนั้นมันยากยิ่ง
    พูดย่อมง่ายกว่ากระทำ รู้ธรรมนำชีวิตให้สดใส

    * หากไม่รู้คิด ชีวิตต้องหมองม่น
    * รู้เลือกรู้ทำ ย่อมทำให้ชีวิตนั้นสดใส
    * เวลามีน้อย อย่ามัวเฝ้าหาแต่สิ่งที่ไร้สาระเลย
    * จิตยังไม่แน่วแน่ ระวังจะแพ้กิเกสเอาง่ายๆ
    * ได้มาแปล็บเดียวก็เบื่อ ไม่เชื่อก็ลองดูเถิด
    * ฉลาดเพิ่มกิเลส ปัญญาลดกิเลส ฉลาดเพิ่มทุกข์ ปัญญาเพิ่มสุข


    * ของดีนั้นหายาก เพราะลำบากมัวหากันแต่ภายนอก

    * สิ่งดีมีแต่นำสุขมาให้ สิ่งจังไรนำแต่ภัยมาถึงตัว

    * ยกเงินไว้ที่สูง เพื่อนฝูงแตกกระเจริง ยิ่งคิดว่าเงินเป็นที่พึง จึงละพึงชึงพระธรรมคำสอน

    * คนหลงเงิน ไม่ใช่เงินหลงคน คนไม่ดี ไม่ใช่เงินไม่ดี

    * เงินจะดี เพราะรู้จักใช้ เงินจะบั่นไร เพราะใช้ไม่เป็น
    * เขียนอยากให้เข้าใจ มิใช่เขียนไปเพื่อความเพลิดเพลิน
    * หนทางตรงกับไม่เดิน แต่กับชอบเดินทางที่เพิดเพลินกันหนักหนา
    * ผู้อิ่มย่อมรู้จักให้ ผู้ที่รู้จักจิตใจย่อมเข้าใจในความทุกข์ของผู้อื่น
    * ให้ธรรมะเป็นทาน ไม่ควรคิดประมาณในผลบุญนั้นมีเท่าไหร่
    * ด้วยใจที่สงบย่อมจะพบกับทางสว่าง หนทางคงยังยาวไกล หากไม่ใส่ใจในการปฏิบัติ
    * สุขเพราะไม่ยึด เพราะยึดนั้นจึงทุกข์
    * รู้หนักให้ปล่อยวาง รู้ทางให้รีบเดิน อย่ามัวแต่เมินเฉย เวลาเลยจะไม่ทัน

    * พูดเพราะเป็นหวง ไม่รักไม่หวง ไม่เอาบ่วงมาแขวนคอหรอกครับ

    * ยิ่งใช้ก็ยิ่งกว้าง ยิ่งกว้างก็ยิ่งสงบ
    * บัณฑิตไม่คิดถือสา คนมีปัญญารู้จักพิจาระณาดีชั่ว


    * เรื่องไม่ดีนั้นเชื่อง่าย

    * ส่วนเรื่องดีนั้นเชื่อได้ยาก อยากลอง อยากพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ
    * เรื่องเพียงน้อยนิด เก็บไปคิดเป็นเรื่องใหญ่
    * การมีธรรม และปฏิบัติ ย่อมที่จะขจัดความทุกข์ให้สิ้นไปได้
    * อกุศลกรรมไม่ควรก่อ ที่ความก่อคืออุศลกรรมจะนำชีวิตให้เป็นสุข


    * อยากให้เค้าเป็น ตนเป็นก่อน
    อยากให้เค้าดี ตนดีก่อน
    อยากให้เค้าสุข ตนสุขก่อน
    อยากให้เค้าทุกข์ ตนทุกข์ก่อน

    * ทุกข์น้อยเพราะสละมาก ทุกข์มากเพราะสละน้อ

    * ฝึกตนพ้นพัย ฝึกจิตใจพ้นทุกข์
    * ทุกข์อยู่ที่ตัวเรา อย่าไปมัวเมาเฝ้าเพ่งแต่ผู้อื่น
    * ทุกข์อยู่ที่ตน ตนเท่านั้นที่แก้ได้
    * อย่าแพ้ในสิ่งที่ยังไม่ทำ อย่าจำแต่เรื่องที่ไร้สาระ อกุศลให้ละ อยากเป็นพระจะต้องใจดีๆ
    * รักษาตัวพ้นจากโรคพัย รักษาใจพ้นจากทุกข์ ทุกข์นั้นอยู่ข้างใน ใช่ใครที่มัวหากันแต่ภายนอก
    * ทำตัวดี ย่อมจะมีประโยชน์ หากมัวคิดแต่จะโกรธ โทษนั้นจะยิ่งมีมาก
    * ทุกความเห็นย่อมมีความหมาย หากได้พินิพิจารณาให้ถี่ถ้วน
    * บัณฑิตไม่คิดก่อเวรกรรม ย่อมกระทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์
    * บัณฑิตมักแสวงหา คนมีปัญญามักนำพาไปหาแต่สิ่งที่ดีงาม
    * บัณฑิตไม่คิดงก จะมิสร้างนรกให้เกิดขึ้นในดวงจิต
    * รู้คิดรู้ฝัน รู้ลงมือทำถึงจะสำเร็จ

    * สุดยอดของเงินทอง คือวิชชาความรู้ สุดยอดของสัตตรูคือตัวเราเอง

    * พูดเพราะเป็นหวง ไม่รักไม่หวง ไม่เอาบ้วงมาแขวนคอหรอกครับ

    * ยิ่งใช้ก็ยิ่งกว้าง ยิ่งกว้างก็ยิ่งสงบ
    * บัณฑิตไม่คิดถือสา คนมีปัญญารู้จักพิจาระณาดีชั่ว
    * เรื่องไม่ดีนั้นเชื่อง่าย ยิ่งเป็นเรื่องการตายยิ่งเชื่อกันใหญ่
    * ส่วนเรื่องดีนั้นเชื่อได้อยาก อยากลอง อยากพิสูตก่อนจึงจะเชื่อ
    * เรื่องเพียงน้อยนิด เก็บไปคิดเป็นเรื่องใหญ่
    * การมีธรรม และปฏิบัติ ย่อมที่จะขจัดความทุกข์ให้สิ้นไปได้
    * อกุศลกรรมไม่ควรก่อ ที่ความก่อคืออุศลกรรมจะนำชีวิตให้เป็นสุข
    * ใจดีย่อมยิ้มได้ง่าย ใจง่ายมักจะเจอทุกข์ภายหลัง

    * อยากให้เค้าเป็น ตนเป็นก่อน
    อยากให้เค้าดี ตนดีก่อน
    อยากให้เค้าสุข ตนสุขก่อน
    อยากให้เค้าทุกข์ ตนทุกข์ก่อน


    * ทุกข์น้อยเพราะสละมาก ทุกข์มากเพราะสละน้อย
    * ฝึกตนพ้นพัย ฝึกจิตใจพ้นทุกข์
    * ทุกข์อยู่ที่ตัวเรา อย่าไปมัวเมาเฝ้าเพ่งแต่ผู้อื่น
    * ทุกข์อยู่ที่ตน ตนเท่านั้นที่แก้ได้
    * อย่าแพ้ในสิ่งที่ยังไม่ทำ อย่าจำแต่เรื่องที่ไร้สาระ อกุศลให้ละ อยากเป็นพระจะต้องใจดีๆ
    * รักษาตัวพ้นจากโรคพัย รักษาใจพ้นจากทุกข์ ทุกข์นั้นอยู่ข้างใน ใช่ใครที่มัวหากันแต่ภายนอก
    * ทำตัวดี ย่อมจะมีประโยชน์ หากมัวคิดแต่จะโกรธ โทษนั้นจะยิ่งมีมาก
    * ทุกความเห็นย่อมมีความหมาย หากได้พินิพิจารณาให้ถี่ถ้วน
    * บัณฑิตไม่คิดก่อเวรกรรม ย่อมกระทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์
    * บัณฑิตมักแสวงหา คนมีปัญญามักนำพาไปหาแต่สิ่งที่ดีงาม
    * บัณฑิตไม่คิดงก จะมิสร้างนรกให้เกิดขึ้นในดวงจิต
    * รู้คิดรู้ฝัน รู้ลงมือทำถึงจะสำเร็จ
    * ใจง่ายเสียตัว ใจกลัวๆทำอะไรมักไม่ถูก
    * สิ่งที่เห็นอาจไม่จริง สิ่งที่คิดอาจไม่ใช่ ต้องใช้วิจารนะยานครับ
    * พบ พราก จาก ลา เป็นทำมะดาของโลกครับ
    * ยิ่งงามก็ยิ่งเผ็ด แต่ว่ายิ่งเผ็ดก็ยิ่งชอบ ออแปลกดี
    * ดูให้ดีๆ อย่าให้ความหลงบังตาจนมองไม่เห็น
    * เมตตาพาให้เรียนรู้
    เมตตาพาให้ตนได้ฝึกฝน
    เมตตาพาให้เกิดสันติสุข
    เมตตาพาให้ใจสงบ
    เมตตาพาให้เกิดปัญญา
    เมตตาพาให้เกิดวิริยะ
    เมตตาพาให้เกิดขันติ
    เมตตาพาสัทจะ
    เมตตาพาให้เกิดอธิฐาน
    เมตตาพาให้ใจเป็นสุข
    เมตตาพาให้เกิดอุเบกขา
    เมตตาพาให้พ้นทุกข์

    * ผู้เก่งธรรมย่อมนำความสุขมาสู่ประชา และอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ
    ผู้เก่งทางโลก มักอวดองทนงตัว ยกตนข่มท่าน

    * สิ่งดีนั้นควรเก็บไว้ สิ่งจั่งไรให้วางเสีย
    * ชีวิตเปรียบเหมือนเดินอยู่บนเส้นด้าย จะต้องค่อยๆยับย้ายไปอย่างระมัดระวังที่สุด
    * ความสุขคือการปล่อยวาง
    ความสุขคือการชนะความอยาก
    ความสุขคือความสงบ
    ความสุขคือความโล่งโปร่งเบาสบาย
    ความสุขเกิดจากการได้เรียนรู้ธรรมชาติว่าเป็นอย่างไร
    ความสุขคือการให้
    ความสุขคือการได้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น
    ความสุขคือการละชั่ว กระทำแต่ความดี
    ความสุขคือการไม่ยึดมั่นถือมั่น
    ความสุขคือการได้ให้อภัย
    ความสุขคือการไม่โกรธ เกลียด ชิงชัง อิจฉาริษยา จองเวร
    ความสุขคือการไม่โลภ อยากได้สิ่งของที่เป็นของคนอื่น
    ความสุขคือการมีสันธ ความพอใจในสิ่งที่ตนเองมี

    * จิตสงบย่อมพบกับสิ่งที่สดใส จิตที่เหลวใหลไพนั้นย่อมเกิดมี
    สิ่งที่ดีนั้นจะไม่ไกลพ้น หากเดินตามทางสายกลางที่พระพุทธเจ้ามอบให้


    * รู้ตัวพ้นทุกข์ ไม่รู้ตัวทุกข์ล้น
    * สละสิ่งที่ไม่สำคัญ เพื่อสิ่งที่สำคัญกว่า สละสิ่งที่สำคัญน้อย เพื่อสิ่งที่สำคัญมาก
    * ของดีอยู่ในตัว อย่ามัวแต่ไปหาภายนอกเลย
    * คิดก่อนทำ ย้ำก่อนตัดสินใจ
    * ใช้ชีวิตแบบไร้สาระ แล้วจะละความชั่วได้อย่างไร
    * สุขได้เพราะตน พ้นได้เพราะรู้ และปฎิบัติ
    * ทำดีมักสงสัยจัง ทีทำชั่วไม่ยักกะสงสัยอย่างนี้บ้างหนอ
    * ทำดีนั้นมัวแต่คิดอาย ทำชั่วไม่เห็นจะอายมั้งล่ะ
    * ความสุขแค่น้อยนิด อย่าได้คิดทำกรรมชั่ว
    * สิ่งดีๆมักไม่ยึด มักยึดแต่สิ่งที่ไม่ดีชีวีต้องหมองหม่น
    * เวลาจะมีมาก ถ้าไม่อยากในสิ่งที่ไร้สาระ
    เวลาจะมีมาก ถ้ารู้อยากในสิ่งที่เป็นประโยชน์
    เวลาจะมีค่า ถ้าว่าสิ่งไหนดี และเลือกทำ

    * จิตที่สงบย่อมเป็นสุข จิตที่มักสนุกย่อมพบกับความวุ้นวาย
    * มองให้เป็น เห็นประโยชน์ทั้งสองอย่าง
    มองอย่างผู้รู้ คือรู้ทั้งดี และชั่วเอาไว้เป็นแบบ พร้อมเตือนตน

    * มองเป็นเห็นประโยชน์ มองไม่เป็นเห็นแต่โทษ
    มองเป็นย่อมยั่งมิตรให้ยืน ขืนมองแต่สิ่งที่ไม่ดี ไมตรีก็จางหาย
    มองให้เห็นหลายแง่ ถึงจะแก้ความวิตกกังวลได้
    หันกับมามองกายกับใจเรา เฝ้าระวังไม่ให้เกิดอกุศลแล้วหรือ

    * รู้จิตรู้ใจเค้า ยังไม่เท่ากับรู้ใจตนเอง
    * เมื่อรู้เรา เค้านั้นก็เช่นเดียวกัน
    * จิตใจดีย่อมมีเมตตา จิตใจริษยาพาให้เกิดทุกข์
    * สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมักมองไม่เห็น มักจะเห็นแต่สิ่งที่ไกลตัวมากกว่า
    * อยากได้ให้ไป อยากเข้าใจให้ถาม
    * สิ่งดีๆยังมีอีกมาก หากไม่ให้ตัวมานะมีเป็นตัวกลั้น
    * รู้มากเค้าไม่ว่าดี แต่มั่งมีเค้ามักว่าดีเสมอ
    * ยอมรับความผิด จึงคิดเปลี่ยนแปลงตน
    * ถ้ารู้ทำไมทำไม่ได้ แต่เมื่อเอาให้ทำเหมือนรู้
    * สิ่งที่คิดว่าง่ายมันยากก็มี สิ่งที่คิดว่ายากมันง่ายก็มี
    * สิ่งที่ได้มาง่ายมักไม่ยั้งยืน สิ่งที่ยั้งยืนมักจะเสียแรงเสียเหงื่อมาก
    * ไม่ลองก็ไม่รู้ ไม่ดูก็ไม่เห็น ไม่ทำหรือจะเป็น รู้เห็นเป็นเช่นไรเล่า ต้องให้เจ้าพิสูธดู
    * วันนี้วันพระ แล้วท่านได้ละสิ่งที่ไม่ดีออกจากใจแล้วหรือยัง
    * ใจที่สงบย่อมจะพบกับความสุข ใจที่มักสนุกย่อมพบกับความวุ้นวาย
    * แต่งความดีกันวันละนิด ชีวิตจะได้ชืนบาน
    * จ่ายให้น้อยหน่อย ชีวิตจะไม่ลำบาก
    * ดีไม่กลัว กลัวแต่ไม่ดี
    * มีน้อยก็ใช้น้อย มีมากก็ใช้มาก ไม่มีแล้วจะเอาที่ไหนมาใช้เล่า
    * ดีนั้นชอบช่วยเหลือ ใจเสือนั้นชอบขูดรีด

    * อยากให้แต่พ่อแม่เห็นใจ แล้วเราเคยเห็นใจท่านมั้ย
    * ชีวิตจะเป็นพิษ เพราะความคิดไม่เป็นประโยชน์
    * รู้ดีไม่เท่าทำดี ทำดีไม่เท่าใจดี ใจดีไม่เท่าใจที่สงบ และมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    * ทางดีไม่ชอบเดิน ทางที่เพิดเพลินชอบเดินดีๆ
    * จะจนหรือรวย สุดท้ายต้องม้วยมรณาเหมือนกันนั้นแหละ
    * มีสองดีกว่ามีหนึ่ง ถ้ามีสองไม่สามัคคีมีหนึ่งดีกว่าแน่
    * โลกร้อนเพราะใจคนมันร้อน โลกจะสงบเย็นได้ ใจคนจะต้องเย็นสงบ
    * ต้นไม้เป็นบ่อเกิดของอาหาร และยา ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นบ่อเกิดของปัญญา และความสงบสุข

    * ต้นไม้ไม่มีคนมีชีวิตอยู่ได้ แต่คนไม่มีต้นไม้จะมีชีวิตอยู่ได้มั้ย
    ต้นไม้คือผู้ให้ชีวิตแก่คน แต่คนกับตอบแทนด้วยการตัดไม้ทำลายป่าหนอ

    * เป็นลูกไม่ควรผลาญพ่อแม่ เป็นเฒ่าแก่ไม่ควรข่มเหงลูกน้อง
    * รู้เลือกรู้คิด จิตก็เบิกบาน รู้จักให้ทาน ความเบิกบานยิ่งเพิ่มล้น

    * ชีวิตมีแต่รับก็นับว่าเสื่อมมาก
    ชีวิตมีแต่ให้ก็ไร้ชึงความสมดุล
    ชีวิดเจริญจะต้องไม่เพิดเพินทั้งการให้ และการรับ


    * เวลาอยู่ที่ใจ ถ้าอยากจะต้องมีแน่
    * สิ่งดีๆยังมีอีกเยอะ อย่าได้เอาสิ่งเยอะเพียงนิดเดียวมาปิดกั้นไว้
    * หัวใจจะเป็นธรรม เพราะไม่กระทำโดยความลำเอียง
    * ชีวิตมีน้อยนิด อย่าได้คิดสร้างกรรมชั่วเลย
    * ได้ดีอย่าลึมตน ได้เกิดเป็นคนอย่าลืมทำความดี
    * ความไม่เคยเกิดจากไม่ทำ ความไม่จำเกิดจากไม่ท่อง และทำให้เป็นนิสัย
    * คนที่อ่อนน้อม ย่อมพร้อมที่จะเป็นฝ่ายรับที่ดีได้เสมอ
    * มองโลกในสองแง่ ความจริงแท้ก็จะบังเกิด
    * คิดอยากแต่มั่งมี ความดีก็เริ่มหาย คิดอยากแต่สบาย ร่างกายก็เริ่มอ่อนแอ
    * อารมณ์อยู่เหนือจิต มีแต่ทุกข์
    จิตอยู่เหนืออารมณ์ จึงมีสุบได้

    * บัณฑิตไม่คิดทำร้าย ถึงจะถูกให้ร้ายก็ไม่หมายจะเอาคืน
    * สิ่งใดไม่เรียนรู้จริง ก็ยากอยู่ที่จะละได้
    สิ่งใดไม่เรียนรู้จริง ก็ยากยิ่งที่จะเข้าใจ
    สิ่งใดไม่ได้สัมผัส ก็ยากยิ่งที่จะรู้สึกได้


    รู้ตัวไม่หลงตัวเอง
    รู้ตัวไม่ข่มเหงคนอื่น
    รู้จักฝืนใจตน ให้พ้นจากอำนาจกิเลส


    * ไม่ว่าอะไร เมื่อไม่สนใจย่อมจะคิดว่าไม่มีเวลา


    *รู้ให้รู้รับ ถึงนับว่าเป็นบัณฑิตบัณฑิตควรคิดการณ์ไกล คนจังไรคิดแค่ใกล้นิดเดียว
    *สิ่งที่ไม่รู้บางทีอยู่แค่เอื้อม ถ้าไม่เสื่อมจากทางสายกลาง

    * สิ่งที่ไม่เข้าใจยังมีอีกมาก สิ่งที่อยากรู้ยังมีอีกเยอะครับ
    แต่ในสิ่งที่มากและเยอะนั้น แต่หาสิ่งที่มีคุณค่านั้นมีน้อยนัก

    * รู้ต้องรู้แจ้ง แทงตลอด
    รู้ต้องรู้แน่ ใช่แต่ว่าท่าทีเหลว
    รู้ต้องเผื่อแผ่ ใช่แต่ แพ้ความตะหนี่
    รู้ๆดีแต่ไม่ทำ ต้องช้ำใจในภายหลัง

    * งามนอกดูดี แต่มีค่าน้อย งามในไม่ค่อยดู แต่อยู่คู่กันได้นาน
    * ไม่ให้ก็ไม่รู้ ไม่ลองอยู่กับสัตว์ก็ไม่เห็น อยากเป็นคนมีเมตตา จะต้องค้นหา และปฏิบัติธรรม
    * รู้ดีรู้ชั่ว รู้ตัวรู้ตื่น วันคืนล่วงไปๆ ใครจะช่วยเจ้าได้หนอ
    *เหตุ และผล คงต้องค้นคิดพิจาราณาด้วยปัญญาทุกปัญหามีทางแก้ ถ้าไม่แพ้คิดถอยก่อน คงได้ดี
    * รู้แล้วเปลี่ยน เรียนแล้วนำไปใช้ ฝึกหัดให้ได้ ใช้ให้เป็นก็จะเห็นผล

    * สอนตนให้รู้ฝืนใจ
    สอนตนให้ทำสิ่งที่เป็นกุศล
    สอนตนให้พ้นจากอบาย
    สอนตนให้คลายจากความยึดมั้นถือมั่นในตัวตน
    สอนตนเพื่อความหลุดพ้นแห่งวัฏสงสาร

    * สอนตนรู้ผลของกรรมดี สอนตนอย่าได้มีจิตริษษา
    * ปัญหา ก็คือ ปัญญา ปัญญา คู่มา กับปัญหา
    * ยิ้มได้เพราะใจผ่องใส คนมักใหญ่ใจนั้น จะขุ่นมัว

    *ชีวิตจะมืดมิดอยู่ ถ้าไม่รู้ว่าหลงตัว ชีวิตจะเมามัว เพราะตัวหลงครอบคลุมอยู่

    * รู้ตัวนั้นแหละดี รู้ว่า ไม่ดีจึงแก้ไขตัว ไม่ให้คิดชั่วทำชั่ว แล้วตัวก็จะสดใสเอง
    * เริ่มวันนี้ได้วันนี้ เริ่มพรุ่งนี้ก็ได้พรุ่งนี้ เมื่อมีโอกาส อย่าได้ประมาท เพราะเป็นหนทางแห่งความตาย
    *หากท่านไม่พูดแล้วใครจะรู้ได้ คนที่รู้ได้นั้นก็คือผู้ที่ถึงที่สุดแห่งธรรมแล้ว
    *เพราะความมักได้เพียงน้อยนิด ชีวิตเลยต้องอัปเฉา
    เพราะความมักได้ของฟรี ก็เลยต้องมีแต่เรื่องทุกข์
    เพราะคิดว่าเป็นทางสุข ทุกข์นั้นจึงประจักให้เห็น

    *อิจฉาตาร้อน เร้าร้อนไปทั้งตัว
    เพราะเหตุกลัว กลัวเขาได้เขาดีไปกว่าตน
    เพราะความร้อนรน เฝ้าเผาตนต้องดิ้นรนจะเบียดเบียน
    ใช้คำพูดคำด่าเพื่อติเตียน เพียรเพื่อชนะคนอื่นก็เป็นพอ


    * สิ่งที่ดีๆนั้นควรจำ แล้วนำไปปฏิบัติให้เกิดผล
    อย่ามัวแต่เฝ้าจับผิดแต่คน ทางหลุดพ้นคือความดี
    แสงสีสวยนั้นขาวดี เป็นแสงนำทางสู่ทางสว่าง สะอาด สงบ

    * ความดีใยเราเจ้าต้องกลัว สิ่งที่ควรกลัวนั้นก็คือ ใจตัวคิดทำบาปมากกว่า
    * ฝึนตนพ้นภัย ฝึนใจพ้นทุกข์ เมื่อเจอทุกข์ ย่อมจะซุกหาที่เพิ่ง
    *ทำดีนั้นมันยาก มักมากนั้นมันง่าย จะทำให้กิเลสสลาย จะต้องฝึกทั้งกายฝึกทั้งใจ
    คอยจ้องแต่จับผิด คิดแต่เรื่องชั่ว มั่วแต่สิ่งที่ไม่ดี ชีวีก็มีแต่ทุกข์

    *กินเพื่ออยู่ ตน และผู้อื่นไม่เดือดร้อน อยู่เพื่อกิน ชีวิตตน และผู้อื่นต้องร้อนยิ่ง
    * ใช้อย่างผู้รู้คิด ชีวิตมีความหมาย ชีวิตจะอันตราย ก็หญิงชาย รู้แต่ใช้
    *ความรู้อยู่ที่ปาก ถ้าอยาก ก็ใช้ปากเป็นทางเพื่อรู้
    *จงดูให้เห็นเป็นเช่นกับครู แล้วเฝ้าดูให้เห็นเปลี่ยนให้เป็นประโยชน์
    แล้วคุณก็จะไม่เกิดความโกรธ แล้วหลงไปโทษแต่ตัวเขาครับ

    *พูดมากก็ย่อมที่จะผิดมาก มักมากก็ย่อมที่จะทุกข์มากครับ
    * รู้จักเลือกรู้จักคิด จะนำพาชีวิตให้สดใส
    * ชีวิตอยู่ได้ด้วยความเปลี่ยนแปลง หากไร้ชึงการเปลี่ยนแปลงแล้วจะอยู่ไม่ได้
    * อยากได้ลูกดี ตนเองต้องดีก่อน อยากให้คนอื่นดี เราก็ต้องดีก่อน
    * ความอยากนั้นไม่มีวันจบ หากไม่รบกับกิเลสให้ดับกันไปข้างหนึ่ง
    * ได้มาเดียวก็เบื่อ ไม่เชื่อก็ตรองดูอดีต มีอะไรทำให้พอใจได้นานไหม
    * ใจคับ โลกมันแคบ ใจไม่แคบโลกมันกว้าง
    * กำไว้มันเหนื่อย เมื่อยนักก็ปล่อยวางเสียบ้างจะได้รู้สึกดี
    * คิดว่าเค้าเป็นครู สอนทั้งดีชั่วให้รู้จัก
    * ยามกินยังรู้จักเลือก ยามเห็นทำไมไม่รู้จักเลือกหนอ
    * สิ่งที่ล้ำค่าอีกสิ่งหนึ่ง นั้นก็คือบทเรียของชีวิต
    * ทุกข์เกิดจากตัวเรา ให้เข้าไปดู และแก้ไขไพนั้นก็จะลด และหมดลงในที่สุด
    * ชีวิตไม่สดุด หรือตำความทุกข์เข้าอย่างจั่ง ชีวิตก็ยังหลงระเริงอยู่เป็นแน่แท้
    * เชื่อไม่ควรเฉย ไม่เชื่อไม่ควรละเลย และกล่าวหา
    * คำว่าไม่เคย เพราะไม่ทำจะเคยได้อย่างไร
    คำว่าไม่เป็น เพราะไม่ทำได้อย่างไร
    คำว่าไม่เห็น เพราะไม่ทำ ไม่ปฏิบัติจริงจัง และถึงทีจะเห็นได้อย่างไร
    ทุกคำที่กล่าวๆเพราะไม่รู้ เป็นเพียงแค่คำแก้ตัวเพื่อหลบหลีกปัญหา

    * ย้ำทำย้ำคิด ทำสิ่งที่เป็นกศล ผลบุญจะได้เต็มไวๆ
    * อยากรู้ควรตามไปดู ไม่ควรอยู่ และนิงเฉย เวลาจะนั้นย่อมล่วง และไม่เคยคิดคอยใคร
    * ไปทางตรงใช่ว่าลัด ไปทางอ้อมใช่เหลวไหลชะเมื่อไหร่
    * มีน้อยก็ว่าไม่มี มีมีมากก็ว่าไม่มี แล้วคุณคิดว่ามีเท่าไหร่นั้นถึงจะพอ
    * ความท้อแท้ ทำให้แพ้เอาง่ายๆ
    * เดินสายกลาง เป็นทางสายเอก
    * คิดไม่ตก อย่าเก็บรกไว้ในใจ มีอะไร ค่อยๆเปิดใจปรึกษากัน
    * ความคิดเป็นบ่อเกิดของการกระทำ ความคิดนำการกระทำจึงเกิด ความคิดประเสริฐย่อมเกิดความสุขตามมา
    ร้ายเพราะความโลภ
    ร้ายเพราะอวิชชา
    ร้ายเพราะหว่ง
    ร้ายเพราะหลง
    ร้ายเพราะหึง
    ร้ายเพราะเกลียดชัง
    ร้ายเพราะอิจฉา ริษยา
    ร้ายเพราะอยากได้ อยากครอบครอง
    ร้ายเพราะรัก
     
  15. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    การให้เกียรติผู้อื่น <SUP></SUP>


    เกียรติคือการให้ความยอมรับ
    เช้าวันนี้ผมมีคิวต้องอบรมนักเรียนในหอประชุมในหัวข้อ "การให้เกียรติผู้อื่น" ผมเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย จึงขอนำมาฝากเพื่อนๆ ด้วยครับ

    การให้เกียรติผู้อื่น

    ทุกๆ เช้าอาจารย์ได้ยินเด็กๆ เดินแถวด้วยความพร้อมเพียงตามเสียงร้องว่า "ชาติ - เกียรติ - วินัย - กล้าหาญ - อดทน...." ก็ต้องถามว่านักเรียนทราบหรือไม่ว่าเกียรตินั้นคืออะไร

    เกียรติ คือการให้ความยอมรับ การนับถือ การไม่ดูถูก ความภาคภูมิใจในชื่อเสียงในทางที่ดี เมื่อรู้แล้วว่าเกียรติคืออะไร ก็ต้องถามต่อว่าพวกเรานักเรียนที่นั่งอยู่ที่นี่มีเกียรติกันหรือเปล่า

    ดังนั้น ก่อนที่เราจะรู้จักให้เกียรติผู้อื่นนั้น เราต้องรู้จักให้เกียรติตนเองเสียก่อน ซึ่งได้แก่การที่เรามีความภาคภูมิใจในพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และวงศ์ตระกูลของเรา นอกจากนี้ ก็ต้องภูมิใจในความเป็นนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย

    เมื่อเราทุกคนในที่นี้ต่างก็มีเกียรติด้วยกันทั้งนั้น เราก็ต้องรู้จักที่จะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตามลำดับฐานะ เช่น นักเรียนต้องให้เกียรติต่อผู้บังคับการ ผู้กำกับคณะ ครูบาอาจารย์ พ่อแม่ หัวหน้านักเรียน เพื่อนๆ และแม้แต่นักเรียนรุ่นน้อง คู่ต่อสู้ในการแข่งขันกีฬา หรือคนที่อยู่ในฐานะต่ำกว่าเราก็ควรได้รับเกียรติตามสมควรด้วย

    การให้เกียรติกันนั้นทำได้ทั้งทางกาย วาจา และใจ ได้แก่ การกระทำ เช่นการทำความเคารพผู้ใหญ่ การเชื่อฟังครู การไม่พูดแทรกขึ้นในระหว่างที่ผู้อื่นกำลังพูด การไหว้ และการรับไหว้ การแสดงความยินดี หรือแสดงความเสียใจ ทั้งนี้ ผู้ที่รู้จักให้เกียรติผู้อื่น ย่อมได้รับความนิยมชมชอบว่าเป็นผู้มีมารยาทงามและเป็นคนน่ารัก

    นอกจากนี้ นักเรียนยังต้องรู้จักให้เกียรติสถานที่ด้วย เช่น ในโรงเรียนนี้ซึ่งถือว่าเป็นเขตพระราชฐานนั้น นักเรียนต้องแต่งกายให้เหมาะสม ไม่ปล่อยให้เสื้อหลุดออกมานอกกางเกง ให้เกียรติหอประชุม ห้องเรียน หรือแม้แต่เวลาไปสถานที่ราชการ หรือการไปบ้านผู้อื่น เราที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีเกียรติต้องรู้จักการให้เกียรติสถานที่ด้วย

    โดยสรุปแล้วก็คือ เราต้องรู้จักให้เกียรติต่อตัวเราเอง เชื่อและภาคภูมิใจในเกียรติของเรา แล้วก็รู้จักที่จะให้เกียรติผู้อื่นที่อยู่ร่วมในสังคมของเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่พี่น้อง ครูบาอาจารย์ และบุคคลอื่นๆ ถ้าเราทุกคนทำได้ สังคมที่เราอยู่ก็จะเป็นที่ที่น่าอยู่ แต่ในทางตรงกันข้าม สังคมที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกันก็จะเป็นสังคมที่เสื่อมโทรม แล้วใครละที่อยากจะอยู่ในสังคมที่คนไม่ให้เกียรติกัน

    -------------------------​
     
  16. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    จะสูงจะตําอยุ่ที่เราทําตัว จะดีจะชั่วอยุ่ที่ตัวเราทํา


    คนทําดีไม่จําเป็นต้องให้ใครเห็น แต่มันอยุ่ที่ใจเราต่างหากที่เห็นมัน
     
  17. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    สิ่งที่อยู่ใกล้ มักไม่มีคุณค่า

    สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดมักเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญที่สุด
    สิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกวัน
    เราก้อคิดอยู่ว่าเราก้อต้องเห็นอยู่แบบนั้นต่อไป
    ไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้มันสำคัญ ไม่เคยเห็นแม้แต่ค่า
    เหมือนกับการที่เราเห็นหน้าใครอยู่ทุกวัน
    คนๆนั้นวิ่งตามเราอยู่ทุกวัน ใส่ใจเราอยู่ทุกวัน
    เราก้อมักจะเห็นแค่ว่าใครคนนึงกำลังทำอะไรที่ดูงี่เง่า น่ารำคาญ
    จนวันนึงถ้าเราสูญเสียไป เราก้ออาจจะรู้สึกเสียใจบ้าง
    เราอาจจะต้องการเรียกร้องให้มาเหมือนเดิม
    หรือบางทีเราก้ออาจจะรู้สึกว่าดีใจที่ได้มีชีวิตที่ปราศจากความรำคาญ
    แต่จะมีใครที่เคยรู้สึกถึง ความรู้สึกของคนที่ให้อยู่บ้าง
    บางทีสิ่งที่เขาทำอยู่อาจไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณรำคาญ
    แต่เขาทำไปเพราะเขารักคุณจริงๆ
    เหมือนความรักของพ่อแม่ เหมือนความรักของเพื่อนสนิทของคุณ
    เหมือนความรักของใครอีกหลายคนที่ให้คุณด้วยความจริงใจ
    คุณเคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้สำคัญบ้างไหม
    คุณเคยคิดว่าคุณดูแลพวกเขาดีพอรึยัง
    คุณให้ความสำคัญกับคนถูกหรือเปล่า
    คุณให้ความสำคัญกับคนที่ให้วัตถุคุณมากกว่าความรู้สึกที่ดีหรือเปล่า
    สิ่งที่สำคัญมักมองไม่เห็นด้วยตา
    แต่ต้องมองด้วยหัวใจ
    แต่เรามักไม่มีเวลาพอที่จะใช้หัวใจมอง
    เรามองอะไรแค่ฉาบฉวยแล้วก็ตัดสิน
    เรามองดูความรวยความจนของคนที่สิ่งของที่เขาใช้
    เรามองความดีของคนตรงที่เขาแสดงให้เราเห็น
    เรามองอะไรหลายอย่างด้วยตา
    แล้วเราก้อตัดสินคนเพียงแค่เวลาไม่เกิน 5 นาที
    เราต้องสูญเสียมิตรที่ดีไปเพียงเพราะเราอ้างว่าไม่มีเวลา
    เราไม่มีเวลาก็ต่อเมื่อเราไม่สนใจ
    เราไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งนั้น ต่อคนๆนั้น
    แต่ถ้าลองมองย้อนดู
    ทำไมเราถึงมีเวลาทำอะไรมากมายหลายอย่างในแต่ละวัน
    เพราะเราให้ความสนใจ ให้ความสำคัญ
    ทำไมคุณไม่ลองให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณลืมไป
    กับคนที่หวังดีกับคุณแต่คุณไม่เคยมอง
    อย่าปล่อยให้มิตรภาพดีๆต้องมีรอยร้าว
    เพราะเมื่อวันนึงถ้าต่างคนต่างไป
    เราจะได้จากกันด้วยความรู้สึกที่ดี
    เราจะได้ไม่รู้สึกผิดว่า
    เรายังทำดีกับเขาไม่เพียงพอ
     
  18. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    ฝากให้ทีมงาน93
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=-_t2suvlAi0"]YouTube - ?????-?????? Live Concert Sen Yai - ?????????.mp4[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=xwCTyo9JVaI"]YouTube - ???????????? - ?????? ??????[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2011
  19. พิราบดำ

    พิราบดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    438
    ค่าพลัง:
    +288
    น่ารักจังครับ น้องออมสิน ของผมก็จะคลอดเดือนนี้เหมือนกันครับ ดีใจด้วยครับ ขอหลวงปู่คุ้มครอง นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
  20. thelaw

    thelaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +103
    เป็นกำลังใจเสมอนะครับ...........เหนื่อย.....ท้อ......ก็พัก......เพื่อมีแรงลุกขึ้นใหม่....ไม่มีมาร........บารมีไม่เกิดใจคนเราไม่เหมือนกันครับ.....ลูกพ่อเดียวกันยังทะเลาะกันเลย.....ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ด้วยดีด้วยเทอญ.....
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...