หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โหขนาดนั้นเลยรึครับพี่ แบบนี้ต้องแอบไปสอบถามขอความรู้จากท่านเจ้าของกระทู้ชะแล้วละครับหุหุหุ
     
  2. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับทั้งขาไปและขากลับครับ
     
  3. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    องค์เดียวเที่ยวทั่วโลกครับ (คุ้นๆป่ะ คำนี้)
     
  4. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ

    แล้วพบกันคราบๆๆ
     
  5. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, IT Man </TD></TR></TBODY></TABLE>

    กลับบ้านก่อนนะท่าน

    พรุ่งนี้คุยกันใหม่ ครับ
     
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    อ่า...งั้นเห็นด้วย เหตุผลดี แบบนี้ได้เลยครับ หุหุ :cool:

    คนส่วนใหญ่มักมององค์พระพิมพ์ที่มูลค่า ปริมาณ ความหายาก เป็นนัยยะสำคัญ ... ไม่ได้ทองไปถึงผู้ให้สร้าง(เจ้า) ผู้สร้าง(ช่าง) ผู้เมตตาเสก,ผู้เมตตาอธิษฐานจิตให้ (...) และเทวดาประจำองค์พระพิมพ์ เลย ว่าท่านมีเจตนาอย่างไรในการสร้าง

    เป็นที่ทราบในกลุ่มดีว่า หากเจตนาดี ทำเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา เพื่อชาติ เพื่อพระมหากษัตริย์ - พระพรหม เทพเทวาทั้งหลาย แม้กระทั่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านย่อมมีพระเมตตา โมทนาสาธุด้วยเป็นแน่แท้

    หากเจตนาในการสร้าง เพื่อลาภ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะคิดกันต่อไปได้
     
  7. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    อันนั้นก็ว่าไปตามโลกธรรม เพื่อการเสริมบารมีของบรรดาท่านๆผู้มีทรัพย์มากทั้งหลาย

    แต่ทางธรรม พระกริ่งปวเรศ หรือแม้กระทั่งพระสมเด็จ The TOP , พระสมเด็จกลักไม้ขีด แม้มูลค่าท่านจะมากมายมหาศาล เรากลับถวายพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หรือมอบให้ผู้มีคุณธรรมที่พอจะรักษาพระไว้ได้ออกเยอะแยะไปครับ หุหุ
     
  8. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    ขอบคุณครับ การไปหาดใหญ่ครานี้
    ผมจักอัญเชิญพระบรมฯองค์ปัจจุบัน , พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระธาตุนิมิตคณะหลวงปู่ฯ ไปประดิษฐานไว้ที่ภาคใต้ (สงขลา,สตูล) ด้วยครับ J
     
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    โชคดีที่เบอร์หนึ่งในองค์กรที่ผมทำงานอยู่นี้ อนุญาตให้พนักงานที่ไม่มีงานด่วน สามารถกลับบ้านในตอนพักเที่ยงนี้ได้
    งั้น บ่ายสอง ล้อหมุนเข้า กทม. ครับ :cool:

    ขอบคุณมากครับนาย ขอให้องค์การระหว่างประเทศนี้ มีส่วนในบุญกุศลที่ผมจักได้ทำในวาระนี้ด้วย โมทนาสาธุ
     
  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]


    [​IMG]


    วันนี้ตอนเช้า ผมได้ไปร่วมทำบุญกับทางทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธฯมา

    ไปพบกับคุณnongnooo ,คุณPinkcivil และคุณMEA

    หลังจากที่ทำบุญกับทางทุนนิธิฯแล้ว ผมกับคุณPinkcivil ได้ไปซื้อรังนก(ไม่มีน้ำตาล) ไปถวายหลวงปู่พระเทพกวีฯ

    หลวงปู่พระเทพกวีฯ ท่านอาพาธอยู่ ผมเห็นท่าน แล้วก็นึกไปถึงเรื่องของสังขาร สังขารไม่เที่ยง มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย เป็นธรรมดา และ เมื่อสมัยก่อนตอนที่ท่านสุขภาพยังดี อยู่ที่วัดระฆัง ก็มีแต่คนไปหา ตอนท่านอาพาธ ผมไปกราบท่านครั้งไหน ไม่เคยเห็นมีใครมาเยี่ยมท่านเลย ชื่อเสียงเกียรติยศ มีได้ ก็ เสื่อมได้ เป็นธรรมดาจริงๆ


    มาโมทนาบุญร่วมกัน



    ต่อจากนั้น ผมเดินทางไปที่วัดเบญจมบพิตร ไปกราบพระพุทธชินราช , รัชกาลที่ 5 เดินภายในวัด รู้สึกว่าเป็นสุขใจดีจัง

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ไปทำบุญครานี้ เสมือนว่าหลวงปู่..แม้ท่านจะอาพาธ ท่านก็ได้สอนธรรมะให้เข้าใจมากยิ่งขี้นทางอ้อม ทั้งอนิจจํ ทุกขํ ,ทั้งโลกธรรม8 ,ทำบุญเสร็จจิตใจอิ่มเอิบ มีปีติ นับว่าสมบูรณ์ดีแท้...

    โมทนาสาธุด้วยครับ

    กราบนมัสการหลวงพ่อพระพุทธชินราช องค์จำลอง
    กราบพ่อปู่ชีวกโกมารภัจ<!-- google_ad_section_end -->
     
  11. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ somlatri [​IMG]
    กราบเรียน พี่หนุ่ม พี่สิทธิพร พี่ Nongnoo พี่เพชร พี่ Psombat และพี่ พันวฤทธิ์ ครับ
    ผมกราบขอความคิดเห็นของพี่ๆ เกี่ยวกับเรื่องการห้อยพระหลายๆ องค์ครับ คือว่าถ้าผมห้อยพระหลายองค์แต่พระพิมพ์ทุกองค์เป็นพระที่เสกโดยท่านผู้เสกองค์เดียวกันก็น่าจะดีใช่ไหมครับ (หมายถึงว่าพระพิมพ์ได้ถูกตรวจอิทธิคุณแล้วว่าท่านใดเสกให้)
    กราบขอบคุณในความคิดเห็นและวิทยาทานทุกท่านครับ
    คงภัค


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    มารอท่านกูรูตอบครับ

    ทั้ง กูรูsittiporn.s , กูรูnongnooo , กูรู:::เพชร::: , กูรูpsombat


    :cool::cool::cool::cool::cool:

    .


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ดูก็รู้ว่าขอความเห็นพี่หนุ่มตอบก่อน...โยนเผือกร้อนกันเห็นๆ หุหุ ... งั้นผมขอตอบแทนพี่หนุ่มละกันว่า เชื่ออาจารย์ปู่จะดีกว่า...ข้ามาคนเดียว เดี่ยวกันไปเลยทีละองค์ จะเห็นผลมากกว่า...
    ผมมี short note สั้นๆ ตามนี้ ตามหาเองว่าใครเป็นคนพิมพ์ไว้ หุหุ
    "พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า ,วังหลวง หรือวังหลังนั้น และเริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2400 โดยเริ่มต้นขึ้นที่วังหน้า ในช่วงต่อมาทางวังหลวงและวังหลังจึงเริ่มมีการสร้างพระพิมพ์ขึ้น โดยมีการแยกกันชัดเจนในปีพ.ศ.2415 อันเป็นปีที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านทิวงคตแล้ว โดยมีการใช้ตราครุฑ ประทับด้านหลังพระพิมพ์ เพราะฉะนั้น พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นจากวังหน้า ที่สร้างก่อนปี พ.ศ.2415 โดยส่วนใหญ่แล้วสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านจะเมตตามาเสกให้
    การที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านเสกพระพิมพ์และวัตถุมงคลให้นั้น หากทันท่านที่ยังมีขันธ์อยู่ พลังอิทธิคุณก็จะแตกต่างจากที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีทิวงคตแล้ว
    ส่วนพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2400 ถึง ปีพ.ศ.2428 อันเป็นปีที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ท่านทิวงคตนั้น คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) 4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) หลวงปู่จะเมตตามาเสกพระพิมพ์ให้ เพียงแต่ว่า เป็นองค์ไหนมาเสกเท่านั้นเอง โดยปกติแล้ว หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ท่านจะเป็นผู้ที่เสกพระพิมพ์และวัตถุมงคลเป็นส่วนใหญ่ (ในความคิดเห็นส่วนตัวผมไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยละ 95 ถ้าเป็นหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าเสกนั้น ประมาณร้อยละ 3 ถ้าเป็นหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ประมาณร้อยละ 1 ถ้าหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์เสกนั้น ไม่เกินร้อยละ 1)

    เรื่องของพระปัญจศิรินั้น หากท่านใดที่มีหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่านั้น จะพอทราบเป็นเบื้องต้นว่า พระปัญจศิรินั้น ลักษณะเนื้อหา , สี นั้นในยุคแรกๆ (ที่ทันสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสียังมีชีวิตอยู่) จะมีลักษณะเป็นอย่างไร แต่หากสร้างพระปัญจศิริหลังที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทิวงคตแล้ว จะมีการเชิญสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี โดยท่านเป็นอทิสมันกาย มาเสกให้ในบางพิธีเหมือนกัน แต่พลังอิทธิคุณที่อยู่ในองค์พระพิมพ์หรือวัตถุมงคลจะแตกต่างกัน"

    เพราะฉะนั้นลองตามหาพระพิมพ์ที่ทันหลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จฯโต และร่วมเสกโดยหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร อย่างน้อยสามองค์เสก ไว้อาราธนาขึ้นคอ จะเบาคอดีกว่านะครับ เช่น พระพิมพ์...รุ่นบางๆ แรกๆ,พระสมเด็จกลักไม้ขีด...,พระผงยา..., พระพิมพ์ที่บุ..., พระพิมพ์พิเศษ...2 พิมพ์ เป็นต้น

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ somlatri [​IMG]
    ขอบพระคุณในวิทยาทานครับ ตอนผมไปกราบปู่ประถมครั้งที่สาม ท่านก็ทักผมว่า "ทำไมใช้พระเยอะจัง หลาน" แล้วท่านก็ให้อาจิ๋วหยิบพระที่ท่านห้อยอยู่องค์เดียวให้ผมชม แล้วท่านก็เล่าประวัติพระองค์นั้นให้ผมฟัง ถึงอย่างนั้นแล้วปัจจุบันผมก็ยังห้อยพระหลายองค์อยู่ดีครับ (กิเลสล้วนๆ)
    ส่วนพระพิมพ์...รุ่นบางๆ แรกๆ คุณปู่ประถมก็หยิบให้ชมเป็นบุญตาแล้วครับ จำติดหูติดตา และยังตามหาอยู่ครับ เพิ่งจะพบบ้างแล้วครับ ได้อัญเชิญมาไว้ที่บ้านและติดตัวบูชาเหมือนกันครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เดิมทีผมก็เหมือนคุณคงภัคหรือพี่ๆหลายคนในที่นี้นะครับ คือห้อยพระราว 3 องค์ขึ้นไป บางทีมีองค์เทพฯด้วยก็อาจจะมีอีกเส้น รู้สึกรำคาญอยู่ในตอนแรกๆ ทั้งเสียง ทั้งน้ำหนัก ทั้งจะต้องจัดกลุ่มองค์พระให้ไปด้วยกันได้ ทั้งตั้งจิตสมาธิให้รวมศูนย์ แต่ภายหลังได้ทดลองอาราธนาอย่างเข้มข้น จึงได้ข้อสรุปออกมาอย่างอาจารย์ปู่ท่านเมตตาสอนสั่ง คือเดี่ยวโลด

    มาหาดใหญ่ครานี้ ผมห้อยพระกริ่งปวเรศก้นทองคำ ข้างหลังใส่พิมพ์พิเศษองค์บาง ก็ดีในทุกๆเรื่องนะครับ แต่หนักไปทางเมตตา แท้พลังท่านจะไม่รุนแรงเท่า TOP4 เพราะท่านออกไปทางมหาอำนาจมากไปหน่อย ผมจึงจะห้อยเฉพาะเวลาเดินทางไปทำบุญ ประกอบพิธีทางศาสนาหรือนั่งสมาธิ,พระสมเด็จกลักไม้ขีดลงรักปิดทอง ผมจะอาราธนาช่วงที่เกิดปัญการเงินไม่คล่องตัว เพราะท่านดีเลิศทางโภคทรัพย์,พระองค์บางรุ่นแรกๆ/เนื้อผงยาปัญจสิริ แก้ไขเรื่องดวง และออกไปทางเมตตา มหานิยม เป็นต้น

    ผมมีสร้อยอยู่ 7 เส้น ใช้บ่อยๆจริงๆอยู่เพียง 3 เส้น (1.กลักไม้ขีด,2.พระวัชรสัตว์(องค์จตุคาม),3.พระกริ่ง+3 โลก,4.ปัญจสิริองค์บาง รุ่นแรกๆ,5.TOP4 ประกบผงยาปัญจสิริ,6.TOP4 ที่เป็นพระโลหิตธาตุองค์ปัจจุบัน+พระราหุล,7.พระกริ่งปวเรศอีก 2 พิมพ์)

    สรุป:
    1. พระที่หลวงปู่แต่ละองค์เสกให้นั้นครอบจักรวาลอยู่แล้ว เว้นแต่ว่า บางพิมพ์นั้นจะให้พิเศษสุดไปทางเรื่องใด
    2. การห้อยพระวังหน้า ควรห้อยเดี่ยวตามวาระโอกาสต่างๆที่อยากจะอัญเชิญท่านตามบูรพาจารย์สอนสั่ง จะได้ผลดี ถือว่าเป็นการเชื่อฟังครูบาอาจารย์ด้วย
    3. ห้อยพระตามความชอบ จริต ประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
    4. พระบางพิมพ์แม้จะเป็นพิมพ์,เนื้อเดียวกัน พลังอิทธิคุณอาจแตกต่างกันก็มีมาก
    5. สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมา ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของพระพิมพ์วังหน้าครับ

    โมทนาสาธุครับ ...
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2010
  12. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔
    Happy New Year 2011

    ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยกับหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร โปรดอวยพรชัยให้ทุกท่าน จงประสบแต่ความสุข ความสงบ ความสดชื่น ความเบิกบาน ความสำราญในทุกๆสถาน ในทุกๆวาระโอกาส ตลอดปี ๒๕๕๔ นี้ด้วยเทอญ

    Mr.IT Man
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  13. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔
    Happy New Year 2011

    ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยกับหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร โปรดอวยพรชัยให้ทุกท่าน จงประสบแต่ความสุข ความสงบ ความสดชื่น ความเบิกบาน ความสำราญในทุกๆสถาน ในทุกๆวาระโอกาส ตลอดปี ๒๕๕๔ นี้ด้วยเทอญ

    Mr.IT Man
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->__________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->:::. พ ร ะ วั ง ห น้ า กั บ บุ ญ วิ ถี แ ห่ ง ข้ า พ เ จ้ า .:::<!-- google_ad_section_end -->

    โมทนาสาธุ ทุกประการครับ

    และสิ่งดีๆ เหล่านี้ จงบังเกิดแก่ท่านด้วยครับ
     
  14. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ณ วัดถ้ำพวง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ในประเทศไทย

    สังเวชนียสถานแห่งที่ ๑ สถานที่ประสูติ

    [​IMG]

    ประมาณปี 2541 เป็นต้นมา ทางวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม-ถ้ำพวง และคณะกรรมการ ญาติโยม ลูกหลานทั้งที่อยู่ใกล้ไกลได้รวมกำลังสมัครสมานสามัคคีร่วมแรงร่วมใจลงมือ ก่อสร้างสังเวชนียสาถน คือ สถานที่ประสูติซึ่งได้ออกแบบเป็นเจดีย์สถูปทรงกลม มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2541 โดยคุณไพศาล ปันทวังกูร และได้ทำการก่อสร้างมาเรื่อย ๆ โดยโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ความกว้างของฐานเส้นผ่าศูนย์กลาง 13 เมตร ความกว้างของตัวเจดีย์เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร ความสูง 17 เมตร ภายในเป็นห้องโถงใหญ่มีรูปหล่อพระนางสิริมหามายาเทวีประดิษฐาน ปางยืนประสูติพระโพธิสัตว์ราชโอรส หล่อด้วยทองเหลืองเท่าองค์จริง พระหัตถ์ขาวเหนี่ยวกิ่งสาระ มีความเด่นสง่าพิสดารสวยงามมาก ผนังทางด้านหลังรูปหล่อเขียนเป็นภาพวิวทิวทัศน์ภูเขาด้วยสีน้ำมองดูแล้วสวย งามมาก บนฝ้าเพดานจะปั้นเป็นรูปพระธรรมจักรขนาดใหญ่มีลายไทยล้อมรอบทาด้วยสีทอง เหลืออร่าม ส่วนบนยอดเจดีย์บรรลุพระบรมสารีริกธาตุหลายพันองค์
    โดยมีพระสุธรรมคณาจารย์(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธานเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2542 ทางด้านหน้าของเจดีย์มีเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชจำลองเท่าของจริงมีความเด่น เป็นสง่ามีตัวหนังสือจารึกบ่งบอกว่าสถานที่นี้คือสถานที่ประสูติพระ โพธิสัตว์ราชกุมารบริเวณรอบเจดีย์ปลูกไม้สาระเป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่า ตอนที่พระนางประสูติอยู่ที่สวนลุมพินีวันนั้นก็คือป่าไม้สาระในระหว่างกึ่ง กลางของ เมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะนครด้วยเหตุดังนั้น ไม้สาระจึงเป็นส่วนประกอบอย่างสำคัญซึ่งจะขาดเสียไม่ได้ตั้งแต่สมัยครั้ง พุทธกาลตลอดถึงยุคปัจจุบัน ก็คงถือว่าไม้สาระเป็นไม้มงคล เป็นไม้ที่มีความหมายสำหรับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราแต่ไม้สาระ อินเดียและไม้สาระเนปาลมีความหมายแตกต่างกันพระเจดีย์สิริมหามายาใช้เวลาใน การก่อสร้างประมาณ 1 ปีเศษ
    สิ้นงบประมาณในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ 1,300,000 บาท (หนึ่งล้านสามแสนบาทถ้วน)

    สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ สถานที่ตรัสรู้
    ภาพถ่ายพระ เจดีย์ศรีมหาโพธิ์จำลอง ณ วัดถ้ำพวง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์จำลอง
    เมื่อพระเจดีย์สิริมหามายาเสร็จสิ้นไปแล้วก็ได้ลงมือก่อสร้างเจดีย์ศรีมหา โพธิ์จำลองต่อไป เริ่มต้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2542 เป็นต้นมาโดยลงมือเทพื้นฐานรากของตัวเจดีย์ เมื่อเสร็จแล้วได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์วันที่ 27 เมษายน 2542
    โดยมีพระเดช พระคุณ พระเทพวราภรณ์ วัดโสมัสวิหาร กรุงเทพฯ และพระเดชพระคุณ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธานสงฆ์ จากนั้นก็ลงมือก่อสร้างมาเรื่อย ๆ โดยย่อส่วนจากของจริงที่ประเทศอินเดียลงครึ่งหนึ่ง คือกว้าง 12 เมตรจตุรัส สูง 29 เมตร โดยโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นล่างเป็นห้องโถงใหญ่มีพระประธาน 5 องค์ เรียงลำดับตั้งแต่ปางเสวยวิมุติสุขจากการตรัสรู้ไปถึงปางนาคปรก ด้านหลังพระประธานจะเขียนด้วยสีน้ำมันเป็นรูปพระศรีมหาโพธิ์และประกอบด้วย วิวทิวทัศน์ป่าไม้ภูเขาเขียวชะอุ่มเย็นตา ทัศนียภาพที่กว้างไกลออกไปจะเห็นภูเขาหิมาลัยขาวโพลนไปด้วยหิมะด้านหน้าศรี มหาโพธิ์จะมีลักษณะเป็นลำน้ำ คงหมายถึงแม่น้ำเนรัญชรา ดูตามรูปพุทธประวัติแล้ว พระองค์คงอธิษฐานลอยถาดแล้วจึงได้ไปนั่งตั้งสัจจาธิษฐาน ที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ก่อนจะตัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ชั้นบนมีพระประธานองค์ใหญ่ปางยืนสูงประมาณ 3 เมตร รอบนอกจะมีระเบียงและมีเจดีย์องค์เล็กอยู่ตามมุมทั้ง 4 ภายในเจดีย์เล็กจะมีพระพุทธรูปปางยืนทุกองค์ เว้นบันไดทางขึ้น

    ด้านนอกของเจดีย์จะมีพระพุทธรูปองค์เล็กองค์ใหญ่เรียงรายอยู่ตามผนัง จนถึงโคนยอดประมาณ 200 กว่าองค์ตามแบบของจริงที่อินเดีย นอกจากนั้นฐานล่างรอบนอกจะเต็มไปด้วยลวดลายต่าง ๆ ทั้งลายไทยและลายแขกผสมผสานกันไป ทั้งนี้ล้วนแต่ทำตามแบบของจริงทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ส่วนใต้ฐานยอดเจดีย์ทำเป็นห้องโถง 4X4 เมตร พื้นปูด้วยหินแกรนิต ฝ้าผนังบุด้วยกระเบื้องคอตโต้ เป็นห้องบรรจุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พื้นชั้นล่างปูด้วยไม้มะค่าโมงแผ่นใหญ่เคลือบด้วยยูรีเทน บี 52 ตลอดถึงประตูใหญ่อีกด้วย ซึ่งหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว บริเวณรอบนอกพระเจดีย์เทคอนกรีตเสริมเหล็ก ด้านหน้าและด้านหลังปลูกต้นศรีมหาโพธิ์สายพันธุ์จากประเทศอินเดีย ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รอบพระเจดีย์ทั้งสามด้านมีรั้วเหมือนกับที่อินเดีย เว้นด้านทิศตะวันออกซึ่งติดกับเขา เสาเอกทางเข้าประตูใหญ่ได้มาตรฐาน บนเยอดเสาเป็นลวดลายกาบบัวงามวิจิตรพิศดารเป็นเอกลักษณ์ของอินเดียทุกประการ ใช้เวลาในการก่อสร้าง 2ปีเศษสิ้นงบประมาณในการก่อสร้าง 5,400,000 บาท (ห้าล้านสี่แสนบาทถ้วน)

    สังเวชนียสถาน แห่งที่ ๓ สถานที่แสดงปฐมเทศนา
    ธัมเมกขสถูป (ที่แสดงปฐมเทศนา) จำลอง
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2544 โดยมีพระเดชพระคุณ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธานสงฆ์ จากนั้นได้ทำการก่อสร้างมาเรื่อย ๆ
    ความกว้าง ของฐาน 23 เมตร ความกว้างของตัวสถูปเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 เมตร สูง 15 เมตร เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
    ภายในตัวสถูปเป็นห้องโถงใหญ่ มีพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ทัง 5 หน้าตักกว้าง 60 นิ้ว หล่อด้วยทองเหลือง
    รอบผนังจะเป็นซุ้มประกอบลวดลายสวยงามประดิษฐานด้วย พระอสีติมหาสาวก 14 องค์หล่อด้วยทองเหลืองเท่าองค์จริง
    บนฝ้าเพดาน ปั้นเป็นรูปธรรมจักรขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยลวดลายไทย ทาด้วยสีทองเหลืองอร่ามเป็นที่งดงามยิ่งนัก
    บริเวณรอบนอกถัดจากระเบียง ลูกกรงออกไปราว 6 เมตรจะเป็นรูปปั้นธรรมจักรขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.50 เมตร และกวางใหญ่คู่หนึ่งพร้อมด้วยหัวเสาของพระเจ้าอโศก คือหัวสิงห์ 4 หัวแกะสลักจากหินทรายภูเขาเหล่านี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ส่วนประกอบในบริเวณ ธัมเมกขสถูป ถ้าดูตามตำนานแล้วป่าอิสิปตนมฤคทายวันนั้นแปลว่า เป็นที่ให้ชีวิตหรือให้อาหารแห่งกวาง
    แม้แต่ในอดีตที่ผ่านมา สมัยที่พระองค์เป็นโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นหัวหน้าแห่งฝูงกวางทั้งหลายและ ยังได้อาศัยบริเวณพื้นที่แห่งนี้ และที่สำคญอีกประการหนึ่งก็คือเป็นสถานที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเป็นครั้ง แรกในโลก อันมีผลก่อให้เกิดพระสงฆ์เป็นองค์แรกในโลกเช่นเดียวกัน และพระพุทธองค์ทรงจำพรรษา ณ ที่แห่งนี้เป็นพรรษาแรกเช่นเดียวกันหลังจากแสดงธรรมโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ต่อมาก็กลายเป็นพระอารามใหญ่โตรโหฐาน จะเห็นจากตำนานและซากปรักหักพังจากอิฐทั้งหลายที่ระเกะระกะอยู่ทั่วบริเวณ ปัจจุบันทางรัฐบาลอินเดียยังรักษาสภาพพื้นที่เอาไว้เพื่อเป็นสิ่งแจ้ง ประจักษ์ว่าสถานที่ยังพอมีร่องรอยให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน และเป็นการรำลึกถึงพระพุทธองค์และพระอริยสงฆ์ในยุคนั้น
    เจดีย์ธัมเมกขสถูปใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 ปีเศษ งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 3,327,146 บาท (สามล้านสามแสนสองหมื่นเจ็ดพันหนึ่งร้อยสี่สิบหกบาทถ้วน)

    สังเวชนียสถานแห่งที่ ๔ สถานที่ดับขันธปรินิพพาน

    ภาพ ถ่าย เจดีย์วิหารปรินิพพานจำลอง
    [​IMG]

    พระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐสถานอยู่ภายในอาคาร ดับขันธปรินิพพาน ซึ่งน้อยครั้งที่จะเปิดให้เข้าชม
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ก่อสร้างตามแบบเดิมทุกประการเพียงแต่ย่อส่วนให้เล็กลงตามความเหมาะสมเท่า นั้น ส่วนพระพุทธรูปปางปรินิพพานคงไว้ขนาดเดิม คือยาวประมาณ 7 เมตร ส่วนตัวพระวิหารและองค์เจดีย์ด้านหลังนั้นย่อส่วนเข้าให้กะทัดรัด คือกว้าง 18 เมตร ยาว 24 เมตร ความสูงขององค์พระเจดีย์ 13 เมตร พื้นล่างยกสูง 3 เมตร เท่าของจริงที่อินเดีย แต่ของเขาปิดเอาไว้ ส่วนของเราเป็นฐานโล่งสามารถอำนวยประโยชน์ในการใช้สอยได้ตามอเนกประสงค์ ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โดยมี
    พระเดชพระคุณ พระเทพญาณวิศิษฐ์ เจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กรุงเทพฯ เป็นประธานสงฆ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2545
    มีคุณเสริม เหวียนระวี พร้อมครอบครัวเป็นเจ้าภาพในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ สิ้นงบประมาณในการก่อสร้าง 6,414,157 บาท (หกล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นสี่พันหนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ดบาทถ้วน)

    ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี
    สังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบลได้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยของเราซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่หาโอกาสได้ไม่ ง่ายนักเราพิจารณาดูก็คงรู้ว่ามีไม่กี่แห่งในเมืองไทย แต่ที่แน่ ๆ ของเราก็คือการเน้นรูปลักษณ์ลวดลายและทรวดทรง คือถ้าหากไม่จำเป็นจริง ๆ ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะปัจจุบันมีคนไปกราบนมัสการที่ดินแดนประเทศอินเดียเป็นจำนวนมาก ถ้าหากจำลองไม่เหมือนของจริงแล้วก็จะทำให้เสียความรู้สึก และไม่สร้างศรัทะาให้แก่ท่านผู้ที่มาพบเห็น แต่สำหรับท่านที่ไม่เคยเห็นของจริงนั้นอย่างไรก็ได้ ฉะนั้น ทางคณะกรรมการจึงพยายามพิถีพิถันในการก่อสร้างอยู่ไม่น้อยและทำให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ ดังนั้น ทางวัดจึงใคร่ขอขอบใจอนุโมทนาทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อสร้าง สังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงความสำเร็จทุกประการ ถือว่าพวกเราทุกท่านทุกคนได้มีส่วนร่วมผลงามอันโดดเด่นเป็นสง่าสร้างบารมี อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นมงคลและเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ไพศาล เป็นประโยชน์ในทางพระพุทธศาสนา เป็นเนื้อนาบุญของท่านผู้แสวงหาบุญทั้งหลาย เป็นศูนย์รวมกราบไหว้บูชา
    คงเป็นผลานิสงฆ์ไม่น้อยกว่าไปกราบในแผ่นดิน พุทธภูมิแห่งประเทศอินเดีย และยังเป็นหลักฐานมั่นคงในทางพระพุทธศาสนา
    สืบ ทอดไปถึงลูกหลานตราบนานเท่านานจนหาประมาณมิได้

    หมายเหตุ รวมค่าก่อสร้างสังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบล เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 16,041,900 บาท (สิบหกล้านสี่หมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยบาทถ้วน


    วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม หรือวัดถ้ำพวง และพิพิธภัณฑ์อาจารย์วัน อุตตโม

    พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารอาจารย์วัน อุตฺตโม
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระมงคลมุจลินท์ในวิหารถ้ำพวง
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประวัติการก่อ ตั้งวัดถ้ำพวงโดยสังเขป

    เดิมทีราว พ.ศ. 2504 พระอาจารย์วัน อุตฺตโม ได้เริ่มก่อตั้งวัดถ้ำอภัยดำรงธรรมและจำพรรษาอยู่ ณ วัดแห่งนี้ จนมีพระภิกษุสามเณรเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
    ในปี พ.ศ. 2514 ท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ได้นำคณะศิษยานุศิษย์ร่วมกันสร้าง
    ถนน ขึ้นสู่ยอดเขาภูผาเหล็กซึ่งมีถ้ำอีกแห่งหนึ่งมีชื่อว่า "ถ้ำพวง" ด้วยความสามัคคีพร้อมเพรียง
    แห่งแรงศรัทธา ได้ร่วมกันสร้างถนนจนเสร็จเรียบร้อยเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น 5 กิโลเมตร พร้อม
    ทั้งได้สร้างวัดขึ้นด้วยคือ "วัดถ้ำพวง" บนยอดเขาภูผาเหล็ก (เป็นส่วนหนึ่งของวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม)
    แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปมักชอบเรียก ว่า "วัดถ้ำพวง" จากนั้นได้สร้างอาคารเสนาสนะ และได้สร้าง
    พระพุทธรูปปาง นาคปรกหน้าตักกว้าง 5 เมตร ไว้ ณ ถ้ำพวง นามว่า "พระมงคลมุจลินท์"
    พร้อม ทั้งได้สร้างวิหารครอบองค์พระพุทธรูปเป็นที่เรียบร้อยในเวลาต่อมา
    เมื่อท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2523
    ด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ตำบลคลองหลวง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะจังหวัด
    สกลนคร (ธ) ได้แต่งตั้ง พระอธิการหลอ นาถกโร เป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สืบแทน
    ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2523 เป็นต้นมาจนได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระครูอุดมญาณโสภณ"
    จน ถึงปัจจุบัน ท่านได้ทำนุบำรุงและพัฒนาวัดถ้ำพวงจนเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป


    การเดินทาง
    ใช้เส้นทางสาย สกลนคร-อุดรธานี เส้นทางหลวงหมายเลข 22 ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอสว่างแดนดิน เลี้ยวซ้ายผ่านอำเภอส่องดาวไปถึงวงเวียนอนุสาวรีย์พระเวสสันดรระยะทางอีก ประมาณ 27 กิโลเมตร จากอนุสาวรีย์หากแยกขวาจะไปวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม ตรงไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงพิพิธภัณฑ์ พระอุดม สังวรวิสุทธิ สร้างเป็นรูปทรงจตุรมุข 2 ชั้น ประดับด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ชั้นล่าง ตกแต่งเป็นห้องแสดงภาพวาดเกี่ยวกับประวัติของพระอาจารย์ตั้งแต่เกิด ส่วน ชั้นบน มีรูปปั้นของท่านในท่านั่งขัดสมาธิ พร้อมเครื่องสักการะบูชาที่ตกแต่งสวยงาม และตู้กระจกแสดงเครื่องอัฐบริขารของท่าน บริเวณใกล้เคียงกันมีถ้ำพวงซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระมุจรินทร์องค์ใหญ่ และยังมีสังเวชนียสถาน 4 ตำบลขนาดใหญ่อยู่ด้วย


    ที่มา: <!-- google_ad_section_end -->

    ***************************************

    ได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ พระธาตุนิมิต ฯลฯ
    ณ วันที่ 1 ม.ค. 2554 เวลาประมาณบ่าย-ค่ำ แด่ท่านเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้แล้ว

    โมทนาสาธุ สาธุ
     
  15. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    สวัสดีครับท่าน

    วันนี้คงเริ่มงานแล้ว

    เคยเข้ามาอ่านเวปนี้บ้างไหมครับ ผมคิดไป คิดมา จะเป็นจริงอย่างพวกเราพูดกันนะครับ

    กริ่งปวเรศ รุ่นแรกที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงสร้างขึ้น

    ต่อไปผมว่าจะมีคนพูดถึงกันอยู่ที่ไม่เกิน 2 พิมพ์

    1. พระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 พ.ศ. 2416 วาระที่1 ร.5 ทรงผนวช องค์อยู่ในเก๋งจีน (เพราะว่ามีองค์ต้นแบบที่ชัดเจน)
    2. พระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 พ.ศ. 2434 ที่กำลัง ดังระเบิด ในวงการขณะนี้ (เพราะมีการศึกษาค้นคว้าและวิเคราะห์จากหลายๆแหล่ง และที่สำคัญได้ยินจากปากข้าราชการบำนาญระดับสูงท่านหนึ่ง (ตอนนี้อายุ ประมาณ 60 ปี ) พูดว่า พิมพ์นี้เมื่อ 10 ปีก่อน เคยมีการจัดทำหนังสือการสร้างพระกริ่งรุ่นนี้โดยเฉพาะ และที่สำคัญกริ่งปวเรศหน้าผากทองคำ ก้นทองคำนั้นทำขึ้นน้อยมากๆๆ เพราะทำขึ้นสำหรับพระมหากษัตริย์และเชื้อพระราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น และที่สำคัญเขาบอกว่าส่วนใหญ่จะเก็บอยู่ในพระราชวัง
    เขาเคยเห็นเจ้าผู้ใหญ่ท่านหนึ่งห้อยอยู่ ท่านถามเช่าบูชา หลักล้าน (หลานล้านครับ) แต่เขาไม่ยอม

    ส่วนพิมพ์อื่นๆ ที่อยู่ในมือเซียนและผู้มีอันจะกินทั้งหลาย ผมว่าอีกซักหน่อยจะไม่มีใครกล้าว่าเป็นกริ่งปวเรศรุ่นแรกแน่นอนเลยครับ


    พระกริ่งปวเรศ - วิกิพีเดีย
     
  16. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768



    โมทนาสาธุ ครับ

    สวยงามทั้งนั้นเลย
     
  17. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    แก้ไขคำผิด

    ลองเปิดดูเวป Link นี้นะครับ ==> พระกริ่งปวเรศ - วิกิพีเดีย
     
  18. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    รางของขลัง พระขุนแผน กุมารทอง วัตถุมงคล เว็บบอร์ด มหามงคล เว็บบอร์ด เว็บบอร์ดซื้อขาย-พระเครื่อง amulet-board
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]<EMBED height=100 type=application/x-shockwave-flash width=200 src="http://www.bookmark-dofollow.in.th/modules/upload/attachments/banner_web1_png_ENC.swf " wmode="transparent"></EMBED> <EMBED height=100 type=application/x-shockwave-flash width=200 src=http://www.bookmark-dofollow.in.th/modules/upload/attachments/banner_web2_ENC.swf wmode="transparent"></EMBED> <EMBED height=100 type=application/x-shockwave-flash width=200 src="http://www.bookmark-dofollow.in.th/modules/upload/attachments/banner_web3_ENC.swf " wmode="transparent"></EMBED> <EMBED height=100 type=application/x-shockwave-flash width=200 src=http://www.bookmark-dofollow.in.th/modules/upload/attachments/banner_web4_ENC.swf wmode="transparent"></EMBED> <EMBED height=100 type=application/x-shockwave-flash width=200 src=http://www.bookmark-dofollow.in.th/modules/upload/attachments/banner_web5_ENC.swf wmode="transparent"></EMBED>

    TAG ยอดนิยม
    พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก หลวงพ่อโกย หลวงปู่สอน หลวงพ่อสม หลวงปู่ดี หลวงปู่ชื่น หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อโสธร วัตถุมงคล หลวงพ่อกอย กุมารทอง หลวงปู่เนียม หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม พระใหม่ยอดนิยม พระอาจารย์จิ หลวงพ่อสม หลวงปู่ทวด พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง พระผงสุพรรณ วัดพระศรีมหาธาตุ บทความพระเครื่อง สมเด็จโต หลวงพ่อเต๋ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค บทความพระเครื่อง ข่าวพระเครื่อง หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย พระพุทธรูป พระเครื่องประจำราศีเกิด พระเครื่องประจำวันเกิด พระเครื่องประจำปีเกิด ข่าวพระเครื่อง ท้าวเวสสุวัณ พระใหม่ พระอาจารย์ปราโมทย์ พระอาจารย์ปุ้ม พระขุนแผน หลวงพ่อไสว เครื่องราง หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว หลวงพ่อเดิม เครื่องรางมหาเสน่ห์ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทองมหาเสน่ห์ โฆษณาเว็บ โปรโมทเว็บ bookmark dofollow
    [COLOR=#f0000]อาจารย์โอม ผู้สำเร็จมหาเสน่ห์ชั้นสูง ตะลึ่ง เสกตะกรุดสาลิกาลอยน้ำได้อย่างอัศจรรย์!!! ประสบการณ์ทางมหาเสน่ห์ เนินนานมากกว่า 10 ปี ดีจริง แรงจริง เข้มขลังจริง [/COLOR]
    [COLOR=#f0000]เครื่องรางของขลัง : รวบรวมเครื่องรางของขลังให้บูชา หลากหลายชนิด เครื่องรางของขลังเป็นของแท้ทั้งหมดได้รับได้ปลุกเสกมาอย่างดียิ่งแล้ว [/COLOR]
    [COLOR=#f0000]วัตถุมงคลด้านโชคลาภ วัตถุมงคลด้านค้าขาย วัตถุมงคลทางโภคทรัพย์ [/COLOR]
    [COLOR=#f0000]พระเครื่อง พระเครื่อง :รวบรวม พระเครื่อง พระเครื่องทั้งหมด เป็นพระเครื่องแท้ ได้รับการปลุกเสกมาอย่างดีแล้ว [/COLOR]เว็บ พระเครื่อง ธรรมะ บอร์ด พุทธศาสนา แหล่งซื้อขายพระเครื่อง ความรู้พระเครื่อง เปิดใหม่ใหญ่กว่าเดิม คลิกมาเลยครับ



    <TABLE class=line01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD class=row01 height=20><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=F12T><TABLE class=line01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR class=row01><TD class=F14T height=25 width="75%">[​IMG] วัตถุมงคล บอร์ด:ซื้อขายวัตถุมงคล ออนไลน์ | www.itti-patihan.com </TD><TD class=F14T width="25%" align=middle>มีผู้เข้าชม 10 ครั้ง มีผู้ตอบกระทู้ 0 คำตอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=line01 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=row03 vAlign=top width="19%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR class=F10T><TD vAlign=top width=20 align=middle>[​IMG]</TD><TD class=F12T width=117>ผู้พันแดง
    ID :: 99
    </TD><TD width=19><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR class=F10T><TD vAlign=top width=20></TD><TD>2 มกราคม 2554
    เวลา : 05:36
    </TD><TD width=19></TD></TR><TR class=F10T><TD vAlign=top align=middle></TD><TD colSpan=2></TD></TR><TR class=F10T><TD vAlign=top colSpan=3><CENTER>[​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD class=row02 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=F11T>
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    พระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ.2434 หน้าผากหมุดทองคำ ก้นทองคำ

    พระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ.2434 หน้าผากหมุดทองคำ แผ่นประสานปิดก้นทองแดงและปิดซ้อนทับด้วยแผ่นปิดก้นฐานทองคำลงยันต์ หมุดที่หน้าผากเกิดขึ้น พระกริ่งปวเรศรุ่นนี้มีเนื้อโลหะที่แปลกพิศดารหากผู้ครอบครองห้อยพระเป็นประจำทุกวันได้รับกลิ่นตัวและไอเหงือสีผิวของพระจะเปลี่ยนสีดำอมน้ำตาลเข้ม สร้างจำนวนน้อยแจกเฉพาะพระมหากษัตริย์และราชนิกุลชั้นสูงเท่านั้น
    ติดต่อได้ที่ ผู้พันแดง 081-802-5479

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เป็นงัยครับ ดังไม่เลิกจริงๆ ครับ
     
  19. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    โอ้โฮ อึ้งครับ !
    แต่ก็เป็นไปแล้ว ใครจะกล้าฉุดท่านไว้หล่ะครับเนี่ยย! หุหุ
     
  20. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    สวัสดีปีใหม่ครับ ท่านพ่อเลี้ยง
    สบายดีนะครับ ตามมาจ๊ะเอ๋ที่กระทู้นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...