อยากถามผู้รู้คับ เรื่องพระปาราชิก

ผม สงสัย อยู่ เกี่ยวกับเรื่องของศีลของพระภิกษุ
ถ้าพระจูบ ปากสตรี จะอาบัติอะไร
ถ้าพระใช้ปากสัมผัสกับอวัยวะเพศหญิง จะปาราชิกไหมครับ ซึ่งเคยอ่านพระวินัยบ้าง แต่ก็ไม่ชัดไม่เข้าใจครับ รบกวนด้วยนะคับ ขอบคุณครับ

 

ถ้าสัมผัสตัวสตรีเฉยๆไม่มีความยินดีในกาม ไม่มีเจตนา ไม่ผิด ไม่ต้องอาบัต
ถ้าสัมผัสตัวสตรีในทางเกี้ยวพาราศรี ยินดีในกาม
สัมผัสในทางมีอารมณ์ทางเพศ ต้องอาบัตทุกกฏ
แต่ถ้าเอาปากไปสัมผัสอวัยวะเพศสตรี แล้วไม่มีเจตนา
ไม่มีอารมณ์ยินดีทางกาม ไม่ต้องอาบัตปราชิก
แต่ถ้าจงใจยินดีมีอารมณ์ทางเพศเอาปากไปแตะต้องอวัยวะเพศสตรี
ต้องอาบัตปราชิก ขาดจากความเป็นพระตลอดชีวิต

 

-ภิกษุจับต้องหญิง มีแม่ ธิดา พี่สาว น้องสาว ปรับอาบัติทุกกฎ
แม้แต่ผ้านุ่งก็ไม่สมควร จับตุ๊กตาไม้รูปผู้หญิงก็ปรับทุกกฎ
-ภิกษุมีความกำหนัดยินดีในการเสพกามในใจ ไปลูบคลำกายหญิง
แม้เพิ่งเกิอวันนั้นปรับอาบัติสังฆาทิเสส
-สัตว์ตัวเมีย ไปจับคลำแล้วปรับอาบัติทุกกฎ
-จับกายหญิงที่ตาย ถุลสัจจัย
-สรรเสริญอวัยวะเพศหญิง ถุลสัจจัย
-จะนั่งม้ายาวกับกระเทย หญิงไม่ควร

 

ในกรณีที่เป็นอาบัติปาราชิก ของการเสพเมถุนนั้น
คือ การร่วมประเวณีคือมีเพศสัมพันธ์กับสตรี บุรุษ กระเทย
อมนุษย์ หรือแม้กระทั่งกับสัตว์เดรัจฉาน ผ่านทางทวารหนัก
ทวารเบา หรือแม้ช่องปากที่ทำแล้วสามารถให้สำเร็จกามกิจได้
แม้การสามารถแหย่องคืกำเนิดเข้าไปได้แม้ชั่วเมล็ดงาหนึ่ง สามารถ
ให้สำเร็จกามกิจได้ ล้วนเป็นอาบัติปาราชิกทั้งนั้น

 

samroang69
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ต้องใช้องค์ชาติมิใช่หรือครับถึงจะเป็นปาราชิก การใช้ลิ้นที่อวัยวะเพศหญิงไม่หน้าเป็นนะ
ใครพอจะมีความรู้เรื่องนี้บ้างตอบด้วยด่วนเลยนะครับ อยากรู้มากๆ เพราะในพระไตรปิฎกก็มีแต่ว่าองค์ชาติเท่านั้นครับ

อาบัติปาราชิก เป็นอาบัติที่ภิกษุต้องเข้าแล้ว ต้องขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที

มีอยู่ ๔ ข้อ ด้วยกัน คือ เสพเมถุน ๑ ลักทรัพย์ ๑ ฆ่ามนุษย์ ๑ และ อวดอุตตริ

มนุสสธรรม ที่ไม่มีในตน ๑

ควรที่จะได้พิจารณาว่า ผู้ที่มีอัธยาศัยน้อมไปในการบวชเป็นบรรพชิตซึ่งเป็นเพศที่

สูงกว่าคฤหัสถ์จะต้องมีความจริงใจในการที่จะศึกษาพระธรรมวินัย เพื่อขัดเกลากิเลส

ของตนเองจริง ๆ ซึ่งถ้าไม่ประพฤติตามพระธรรมวินัยแล้ว ก็เป็นโทษเป็นภัยกับ

ตนเองโดยส่วนเดียว เพราะความเป็นบรรพชิตถ้ารักษาไม่ดี มีแต่จะคร่าไปในอบายภูมิ

อย่างเดียว

จากประเด็นคำถาม ทั้ง ๒ ประการนั้น เป็นความประพฤติที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่าง

ยิ่ง ถึงแม้ว่าจะยังไม่เป็นอาบัติปาราชิก (แต่ก็ล่อแหลมต่อการต้องอาบัติปาราชิก มาก)

เป็นอาบัติสังฆาทิเสส เพราะมีจิตกำหนัดจับต้องกายหญิง ยังไม่ขาดจากความเป็น

พระภิกษุ แต่ก็ไม่สมควรกับความเป็นบรรพชิต อาบัติสังฆาทิเสส มีโทษหนักรอง

ลงมาจากปาราชิก เมื่อต้องเข้าแล้ว (ไม่ว่าจะเป็นอาบัติชนิดใด) ถ้าไม่มีการแก้ไข

ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ก็ย่อมเป็นเครื่องกั้นสวรรค์ กั้นการบรรลุมรรคผล ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุก ๆ ท่านครับ...