เมื่อพญานาครักษาพระสุกใต้แม่น้ำโขงอยากอัญเชิญพระสุกให้ภพมนุษย์ได้สักการะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย พระยาเดโชชัยมือศึก, 20 พฤศจิกายน 2010.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    เมื่อเวลาเหมาะสม เจอบุคคลที่เหมาะสม ก็สามารถอัญเชิญขึ้นมาได้ค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ ปล. แต่จากใจจริง อยากให้ท่าน อยู่อย่างนั้น ให้ชาวบาดาล รุ่นลูก รุ่นหลาน ได้บูชากันสืบต่อไปค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2010
  2. beermaruko

    beermaruko สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +24
    หากมีบุญวาสนาจริง ขอร่วมอนุโมทนาด้วยคนค่ะ

    ขอให้อัญเชิญขึ้นมาได้นะค่ะ ^___^
     
  3. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    โมทนา สาธุ
    ขอให้การอัญเชิญพระสุกสำเร็จลุล่วงด้วยดีค่ะ
     
  4. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    ขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของท่าน
     
  5. คุณกระดาษ

    คุณกระดาษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +112
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
    ขอให้อัญเชิญขึ้นมาได้สำเร็จสมความปราถนาในเร็ววัน
     
  6. dansa

    dansa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +490
    เอาใจช่วยครับขอให้การอัญเชิญสำเร็จลุล่วงด้วยดี อนุโมทนาครับ:cool:
     
  7. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    มาดันกระทู้ค่ะ เดี๋ยวผู้ที่เจ้าของกระทู้ประกาศหาเขาจะหากระทู้ไม่เจอ
     
  8. nalum_1

    nalum_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +269
    ไม่รู้ว่าระหว่างการนำองค์พระสุกท่านขึ้นมา กับ ให้องค์พระอยู่เพื่อให้ลูกหลานพญานาคได้สักการะ แบบไหนจะดีกว่าน้อ

    แต่อย่างไร เมื่อถึงวาระ เวลา และพร้อมสำหรับทุกๆอย่าง คงมีคำตอบของเรื่องนี้

    อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  9. supraditfang

    supraditfang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +43
    ขอให้อัญเชิญพระสุกได้สำเร็จนะครับ
     
  10. piak_piak

    piak_piak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +6,484
    ขอร่วมใจอัญเชิญพระสุก มาร่วมสร้างบารมี ถึงกาลถึงวาระแล้ว นิพพานะปัจจะโยโหตุ
     
  11. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ปัจจุบันพระสุก ยังไม่ถึงวาระที่จะขึ้นมาครับ ถ้าจะขึ้นมาได้ก็ตอนที่ไทยกับลาวรวมกันเป็นประเทศเดียวกัน นั่นก็หมายความว่ากาลเวลานั้น ธิดาสุก หมดกรรม แล้วได้ขึ้นมาจุติบนโลกมนุษย์ ปัจจุบันพวกพญานาคเขาสักการะพระสุก ธิดาสุก เขาก็ได้รับกุศลเช่นกัน แต่พญานาคเขามีอายุยืนยาว ธิดาสุก จึงต้องเป็นเป็นพญานาคอีกนาน

    ในปลายยุคสมัยพระไชยเชษฐานั้น ธิดาเสริม ได้มาเป็นมเหสีของพระเอกาทศรถ แห่งอโยธยา ปัจจุบันธิดาเสริมมาเกิดอยู่ฝั่งไทย อายุมากแล้ว

    พระไชยเชษฐานั้นท่านเป็นมหาโพธิสัตว์ ยุคนี้ท่านมาเกิดเป็นพระสงฆ์ ปัจจุบันท่านละสังขารไปแล้ว ร่างกายไม่เน่าเปื่อย

    อย่างที่หาดทรายฟอง หนองคำแสน เขตเวียงจันทร์ ในยุคสมัยโบราณเป็นจุดกำเนิดของพญานาคนาโค พญาศรีสัตตนาค และนาคใหญ่อีกหลายตนปัจจุบันยังไม่ได้ขึ้นมาเกิดเป็นมนุษย์ จนถึงยุคพระศรีฯพวกเขาจึงจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนั้น

    แม้กระทั่งพญานาค ที่วัดไท อ. โพนพิสัย ก็ได้มีการทำพิธีเพื่ออัญเชิญขึ้นมา แต่ผมลองส่องดูแล้วก็เห็นว่ายังขึ้นมาไม่ได้อันเนื่องมาจากกฏแห่งกรรมที่ยังไม่ถึงวาระ
     
  12. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ทุกอย่างเป็นไปตามวาระ
     
  13. นาคะวงศ์

    นาคะวงศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +166
    "คนกินไม่ได้อยาก แต่คนอยากไม่ได้กิน" ทุกอย่างเป็นไปตามวาระแห่งกรรมเมื่อถึงเวลาทุกอย่างจะปรากฏตามความเป็นจริง
     
  14. AeyMarnie

    AeyMarnie สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    สันนิษฐานว่าข้าพเจ้าจะมีความเกี่ยวพันกับเจ้านางสุก

    จากการอ่านเรื่องราวข้างต้น ข้าพเจ้าเล่าเรื่องราวให้ฟังก่อนว่า เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้เดินทางไปที่เวียงจันทร์กับคณะอีก 3 คน ซึ่งในคืนที่ข้าพเจ้าพักที่โรงแรมในเวียงจันทร์นั้น 1 คนในคณะที่ร่วมเดินทางไปกับข้าพเจ้านั้นประกอบอาชีพเป็นหมอดู และก็เอาทรัพย์ที่ได้จากการรับดูดวงส่วนมากนั้นไปทำบุญบ้าง ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาบ้าง ช่วยเหลือคนบ้าง ขอเรียกหมอดูท่านนั้นว่าพี่ ป. ในความคิดของข้าพเจ้าพี่ ป. เป็นหมอดูที่แม่นมาก จากที่ทราบมาคือพี่ ป.นั้นมีครูบาอาจารย์ในรูปแบบที่ไม่สามารถจับต้องได้อยู่หลายพระองค์ ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวที่เวียงจันทร์นั้น ก็ได้ถามครูบาอาจารย์ที่อยู่กับพี่ ป. ว่า ไปลาวไปไหนบ้างดี เพราะไม่อยากให้เป็นการไปเที่ยวอย่างเดียวมีทริปธรรมะให้พี่ ป.ด้วยท่าจะดีกว่า ท่านก็ตอบว่าให้ไปนมัสการหลวงพ่อพระสุก หลวงพ่อพระเสริม และหลวงพ่อพระใส ณ ตอนนั้นในปี 2554 นี่เอง ข้าพเจ้าขอบอกด้วยความสัตย์จริงว่า ข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักพระพุทธรูปทั้ง 3 เลย ข้าพเจ้าเรียนอยู่ต่างประเทศหลายปี เข้าวัดเข้าวาบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจทางนี้มากมาย
    จากนั้นก็ได้ถามไถ่จากผู้อื่นว่าพระพุทธรูปทั้ง 3 นั้นประดิษฐานที่วัดไหนบ้าง จะได้ไปนมัสการ โดยที่ไม่เคยค้นหาในอินเตอร์เน็ตเลย ก็ได้รับคำตอบจากคนรู้จักท่านหนึ่งว่าพระพุทธรูปนั้นอยู่ในประเทศไทย 2 องค์ คือหลวงพ่อพระเสริมและหลวงพ่อพระใส บอกสถานที่ประดิษฐานเสร็จสรรพ ส่วนหลวงพ่อพระสุกนั้น จมอยู่ในแม่น้ำโขง ข้าพเจ้าได้ฟังก็งงๆ สงสัยว่าเสด็จปู่จะให้ไปนมัสการพระพุทธรูปองค์เดียวกันนี่รึป่าว แต่ก็คิดว่าช่างเถอะ ถ้าหาไม่เจอก็ไปไหว้พระอื่นๆวัดอื่นก็ได้แล้วในคืนนั้นเอง หนึ่งคืนที่พวกข้าพเจ้าพักในเวียงจันทร์ได้มีพระญาณของเสด็จย่าซึ่งข้าพเจ้ามัวแต่ตื่นเต้นและตั้งใจฟังได้มาประทับทรงที่ร่างพี่ ป. ท่านได้ตรัสถึงพระพุทธรูป 3 องค์ มีองค์นึงนั้นได้อัญเชิญจากประเทศลาวมายังประเทศไทยโดยแพไม้ไผ่ ท่านตรัสว่าตาเนื้อนั้นจะเห็นว่าเป็นแพไม้ไผ่ แต่ถ้ามองด้วยตาในจะเห็นเป็นเรืออนันตนาคราชซึ่งงดงามมาก ขณะที่แพล่องมาตามแม่น้ำ พอถึงปากน้ำพ้นจากแม่น้ำที่มาจากประเทศลาวเข้ามายังแม่น้ำโขง ก็มีพายุฝนทำให้แพไม้ไผ่แตก ฐานพระพุทธรูปนั้นจมน้ำลงไปก่อนตรงแถวๆบริเวณปากแม่น้ำ แล้วพระพุทธรูปนั้นจมลงทีหลัง ณ อีกจุดนึง แล้วท่านก็หันหน้ามาทางข้าพเจ้าตรัสว่า "เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นกรรมของมนุษย์ ภายในสิบปีนี้จะเกิดภัยพิบัติ น้ำจะท่วมอย่างมหาศาล มนุษย์จะเดือดร้อนเป็นทุกข์อย่างมาก จะขาดที่พึ่งทางใจอย่างมาก ลูกต้องอัญเชิญพระพุทธที่จมนั้นขึ้นมาให้ได้ แล้วกรรมของมนุษย์นั้นจะจบลง เหตุร้ายต่างๆก็จะคลาย ลูกต้องหาที่ที่จมให้เจอและอัญเชิญท่านขึ้นมาให้ได้นะเป็นผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นั้น" ด้วยบารมีของพระญานของเสด็จย่า ท่านประทับทรงอยู่ในร่างพี่ ป.นานไม่ได้ เพราะกายสังขารของร่างนั้นรับบารมีของท่านไม่ไหว แล้วพี่ ป. ก็เพลียสลบไสลไปเลยค่ะ จากการที่บังเอิญได้ยินเรื่องราวของพระพุทธรูปที่จมอยู่ใต้น้ำก่อนที่จะเดินทางมาที่เวียงจันทร์นั้น ข้าพเจ้าก็ปักใจเชื่อนะตอนนั้นเลยว่า ท่านหมายถึงพระพุทธรูปหลวงพ่อพระสุกแน่นอน พอกลับมาถึงด่านก็รีบโทรหาเพื่อนอีกคน ที่อยู่ในแวดวงธรรมะด้วยกัน เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง และเพื่อนคนนั้นก็หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตให้ได้เรื่องราวที่ใกล้เคียงกันมาก
    ข้อความข้างต้นคือเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอด้วยตัวข้าพเจ้าเอง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่พิสูจน์ไม่ได้ แม้แต่ตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้หยั่งรู้ด้วยตัวเอง ก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ข้าพเจ้าก็ตั้งใจไว้ว่า ถ้าหากข้าพเจ้าเป็นตัวแทนของเจ้านางสุกกลับชาติมาเกิด หรือมีส่วนเกี่ยวพันใดๆก็ตาม และหากข้าพเจ้าจะเป็นผู้นั้นที่สามารถอัญเชิญหลวงพ่อพระสุกขึ้นมาได้ ข้าพเจ้าขอบอกเลยว่าข้าพเจ้าหนักใจมากค่ะ ในการที่จะอัญเชิญองค์พระพุทธรูปหลวงพ่อพระสุกขึ้นมาจากวังบาดาลนั้น ในขณะที่พญานาคได้เป็นผู้ที่ทำให้แพแตก เพื่อที่จะนำพระพุทธรูปหลวงพ่อพระสุกนั้นลงไปกราบไหว้บูชาที่เมืองบาดาลนั้น จะขอคืนมาได้อย่างไร งานนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ระดับ 3 โลกเลยนะคะ คนธรรมดาอย่างข้าพเจ้าจะทำได้อย่างไร เพียงแค่นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมธรรมดาได้เท่านั้นเอง ไม่สามารถหยั่งรู้อดีตหรืออนาคตได้เลยด้วยซ้ำ
    ข้าพเจ้าคิดว่าผู้รู้ทั้งหลาย ผู้มีญานทิพย์ ผู้ที่มีสัมผัสพิเศษจะสามารถบอกได้ว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าได้บอกกล่าวนั้นใช่ความจริงหรือไม่อย่างไร ตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้แน่แท้ 100% ว่าเป็นความจริง ยังไม่สามารถพิสูจน์ให้ตัวข้าพเจ้าเองเชื่อได้ด้วยซ้ำ
    แต่สิ่งหนึ่งที่รับรู้มานั้น เจ้านางสุกแท้ที่จริงแล้วเป็นพี่สาวคนโต เจ้านางเสริมนั้นเป็นคนกลาง ส่วนพระนางใสนั้นเป็นน้องสาวคนเล็กนะคะ การที่ต้องเสียสละพระพุทธรูปที่ตนสร้างขึ้นมานั้นเพื่อให้พญานาคนำไปบูชาก็เพราะว่าความเป็นพี่คนโตแหละค่ะ และความเป็นจริงเจ้านางทั้ง 3 นั้น ไม่ใช่ลูกสาวของพระเจ้าไชยเชษฐารารชาธิราชนะคะ ลองทบทวบเรื่องราวประวัติศาสตร์ ไล่เรียงอายุดีๆค่ะ เจ้านางทั้ง 3 เป็นน้องสาวของกษัตริย์นะคะ เรื่องอย่างนี้คงมีเพียงแต่ผู้ที่หยั่งรู้เท่านั้นนะคะ ที่จะพิจารณาและมาบอกกล่าวยืนยันได้ค่ะ
    ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ข้าพเจ้าก็อยากจะสามารถติดต่อกับผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันได้ ข้าพเจ้าก็อยากรู้เรื่องราวความจริงและอยากจะพิสูจน์ความจริงด้วยเช่นนั้น หากข้าพเจ้าเป็นผู้นั้น ผู้ที่จะสามารถอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาได้จริง ข้าพเจ้าก็ยินดีและหาหนทางอัญเชิญขึ้นมาค่ะ หากจะช่วยเหลือมวลมนุษย์ได้ แต่งานใหญ่ขนาดนี้ ด้วยความสัตย์จริงค่ะ ข้าพเจ้าไม่สามารถกระทำคนเดียวได้แน่ๆค่ะ
    อยากให้ท่านผู้หยั่งรู้ทั้งหลายติดต่อหาข้าพเจ้าเพื่อที่จะพิสูจน์ ช่วยเหลือกัน ให้ข้อมูล ร่วมแรงร่วมใจกัน ยังไงก็ได้ค่ะ ตอนนี้จากการถามไถ่ปรึกษาครูบาอาจารย์ในสายญานพญานาคนั้น ได้รับคำตอบมาว่าการที่จะอัญเชิญองค์พระพุทธรูปองค์จริงขึ้นมาจากวังบาดาลนั้น เป็นเรื่องที่ยากมากถึงขั้นที่น่าจะเป็นไปไม่ได้เลยล่ะค่ะ อัญเชิญได้เพียงบารมีของท่านขึ้นมาแล้วนำไปประดิษฐานในองค์จำลอง ข้าพเจ้าก็ได้ถามไปว่า ได้มีคนอัญเชิญบารมีแล้วนี้คะ องค์จำลองก็อยู่ที่วัดหลวง อ.โพนพิสัยน่ะค่ะ ท่านตอบว่าไม่ใช่เจ้าตัวคนที่เคยสร้างอัญเชิญก็เท่านั้น เจ้าตัวต้องทำเองด้วย กรรมถึงจะคลาย
    ตอนนี้ข้าพเจ้าก็เลยตั้งใจที่จะสร้างองค์จำลองพระพุทธรูปพระสุก แล้วก็อัญเชิญบารมีท่านมาประดิษฐานในองค์จำลองนั้น โดยองค์จำลองนั้นข้าพเจ้ามีความตั้งใจว่าจะประดิษฐานตรงที่เวินสุกเลย เพราะตอนที่ข้าพเจ้าไปจุดธูปบอกกล่าวว่าจะสร้างพระพุทธรูป ณ จุดที่จมนั้น มีความรู้สึกผุดขึ้นมาในจิตของข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าอยากจะประดิษฐาน ณ ที่ตรงนั้น แต่ที่ตรงนั้นไม่ใช่วัด เป็นท่าทรายด้วยซ้ำ
    ยังไงขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ
     
  15. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    จิตบริสุทธิ์ ที่เปียมด้วยพลังศรัทธา จะทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ
    หากถึงวาระที่ท่านจะขึ้นมาโปรดสัตว์ ก็คงจะได้ชมบารมีกันนะคะ
    ยังไงก็ขอร่วมอนุโมทนาสาธุ ขอให้การอัญเชิญท่านในครั้งนี้ จงสำเร็จตามความประสงค์ค่ะ
     
  16. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    เรื่องนี้ ก็ได้รับเมตตาจากหลวงปู่ทวดพอสมควร ท่านก็เล่าให้ฟังหลายเรื่องแล้ว เช่น พระเจ้าไชยเชษฐา มันมีเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่อง ไว้จะทยอยเล่านะ
    หลวงปู่ทวดก็คือพระเจ้าตากสิน พระเจ้าตากสิน คือผู้ที่ทำให้ลาวต้องยอมรับไทย ทรงสามารถครองลาวทั้งสามส่วนได้หมด และตอนนี้ คนเล่าก็ปฎิบัติธรรมตามแนวทางหลวงปู่ทวดอยู่ อิอิ
    ล่าสุดก็กำลังมีหน้าที่เกี่ยวกับพระบางอยู่นะ คือ รู้ว่าพระเจ้าฟ้างุ้ม กับพระเจ้าไชยเชษฐามีดวงจิตเดียวกัน และก็ไปเกี่ยวกับพระบาง ส่วนพระใส พระสุก พระเสริม ก็ได้ไปพบท่านที่เกี่ยวเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ถามท่านโดยตรงนะ เพราะท่านก็ไม่ค่อยให้ไปยึดอดีต แต่ท่านก็เอ็นดูและเมตตา เพราะเป็นความรักเหมือนพ่อลูกปู่ย่าตายายที่เกี่ยวข้องกันมา ที่ได้ไปมาแล้ว คือ วัดปทุมวนาราม ก็มีเรื่องเล่าที่น่าดีใจ จริงๆไปช่วงซ่อมแซมวัด เขาปิดแต่พอจะเข้าไป ก็มีหลวงพี่ พาผู้ที่จะบชเข้าไปในโบสถ์ก็เลยได้เข้าไปเห็นพระโบราณ ก็จำไม่ได้แล้วว่าพระใสหรือพระเสริม อิอิ และก็ฝากกระแสไว้ที่นาคราชหน้าโบสถ์ ได้เข้าไปกราบและเจอท่านเจ้าอาวาสด้วย ที่วัดปทุมวนารามมีความเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ประมาณว่า อัญเชิญพระมาไว้ที่นี่
    และที่ได้รู้ข้อมูลคือ พระเจ้าไชยเชษฐาปราถนาอะไร คือพระโพธิญาณ และก็ได้สร้างพระปางเปิดโลกไว้มาก ดูจากหลักฐานพระเก่าในถ้ำแห่งหนึ่งที่ลาว ที่เขาว่า คนหยิบไปแล้วก็มาก แต่ก็ยังพอเหลืออยู่บ้าง
    และก็กระแสทาง พระนางสองนาง ที่ขอนแก่นก็เข้ามาพอดี พยายามจะถามบางคนก็ยังไม่ได้รับคำตอบ คือ นอกจากพระนางสามองค์แล้วยังมีเจ้าแม่สองนางอีก แต่ก็เป็นไปได้นะ เพราะว่า พระเจ้าไชยเชษฐาเคยมาที่สระบุรี แต่เรื่องพระนางสามองค์เป็นน้องหรือเป็นลูกนั้น ยังไม่ได้คำตอบว่าเป็นน้องหรือลูก แต่เกี่ยวพันธ์กันแน่
    ส่วนที่หนองบัวลำภูนั้น ก็เี่กี่ยวพันนะ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าคนละชาติกัน หรืออาจะเป็นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาจริงๆ
    เพราะพยายามจะไม่ยึดอดีต แต่คือ หากมันจะรู้ หรือวาระมันจะนำมาให้รู้ ก็จะฟังไว้ และยินดี ที่จะเจอผู้เกี่ยวข้อง เพราะในใจ ก็รักทุกคน อยากให้ทุกคนที่เกี่ยวเนื่องมีความสุข ช่วยอะไรได้จะช่วย ยังทรงเจตนาเดิม คือ พาครอบครัวผู้เกี่ยวเนื่องข้ามพ้นทุกข์ให้ได้ ตอนนี้ก็เพียรสร้างกุศลเพื่อพระโพธิญาณ
     
  17. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    จากสื่อแรกที่หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟัง เพราะมันเป็นเรื่องทางสายพญานาค คือเมื่อได้รับรู้เกี่ยวพันกับพญานาคจากปานที่แขนหรือพระที่พ่อไปสร้างกับหลวงปู่คำพันธ์จึงได้เหรียญมา ปรากฎว่าเหรียญด้านหลังที่เป็นนาคราชมันคล้ายรูปปานที่แขนมาก แล้วก็ได้ไปเรียนที่สกลนครมาด้วยสามปีกว่า เจอเรื่องแปลกๆที่เกี่ยวกับพญานาคมากมาย แบบว่าก่อนจะกลับมา เขามาแสดงให้เห็นในรูปลักษณ์งูเขียวที่ไม่กลัวคน แล้วยังเข้ามาในห้อง หงายท้องให้ดูอีกต่างหาก ก่อนที่เขาจะมาก็ฝันว่า มีพญานาคขึ้นมาที่หอมาจากใต้ดินที่อเป็นร้อยตัวเลย แล้ว วันรุ่งขึ้นก่อนจะกลับกรุงเทพก็ได้เจองูตัวนี้จริงๆ เลยรู้ว่าเป็นพญานาค เลยเชิญเขาเข้าในห้อง เขาก็เลื้อยเข้ามาแบบไม่กลัวอะไร บอกเล่นๆว่าไหนจะมาส่งแล้วใบ้หวยให้สักตัวแล้วกัน ก็เลยหงายท้องเป็นเลขแปด งูเขียวหงายท้อง อิอิ สมัยที่เรียนก็มีเพื่อนอยู่บ้านดุงเพื่อนชวนไปบ้านไปไหว้ศาลเจ้าพ่อศรีสุทโธ แถวบ้านเพื่อน ก็เพ่ิงมารู้ตอนหลังว่า เคยเป็นลูกเป็นน้องของท่านมา ท่านแม่ศรีปทุมก็สื่อเล่าให้ฟัง ว่า สมัยก่อนมีเมืองที่เขาเรียกว่า หนองกระแส แล้วมันมีจริงๆ พอไปสืบค้น พอดีกับหลวงปู่บอกเรื่องสมัยน่านเจ้า มีชื่อโก๊ะล่อฝง ลูกขุนบรม โก๊ะล่อฝง หรือชื่อไทยคือขุนลอ ปฐมวงศ์แห่งลาว และที่น่าสนใจคือ เมืองแถน ซึ่งเป็นอีกชื่อของหนองกระแส อะไรมันจะตรงและบังเอิญขนาดนั้น อิอิ ตอนที่ถามหลวงปู่ว่าเคยเป็นนาคชื่ออะไร ท่านก็บอกประมาณ สัตตนาคราช ดันมีอีก ชื่อเต็มๆคือพญาศรีสัตตนาคราช ดันไปได้สื่อมาว่า เคยเป็นน้องชายท่านศรีสุทโธ ก็ตรงอีก ก็เป็นเรื่องเล่าปรัมปราใหฟังสนุกๆ ในเส้นทางโพธิญาณของดวงจิตดวงหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องลาวๆ อิอิ
     
  18. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ล่าสุดพญานาคที่ผิวสีแทน ที่มีผู้เล่าไว้ ในสายพระวัดพระธรรมกายก็ดี ปัจจุบัน อายุราวๆ ขวบสีเดือน เชื่อกันว่าพระโพธิสัตว์ มีชีวิต หรือ อายุทิพย์ไม่นานหนัก เพราะมักจะมาเกิดเพื่อสร้างสมบารมีกันต่อไป นั่นเอง
     
  19. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ดังนั้น ท่านที่เกี่ยวเนื่อง ก็ลองปฎิบัติธรรม สวดมนต์พระจักรพรรดิ เพื่อเพิ่มกำลัง และสร้างกระแสบุญเชื่อมโยงผู้เกี่ยวเนื่อง แล้วสิ่งที่อยากรู้ ก็จะได้รู้อย่างแน่นอน หลวงปู่ท่านไม่ปล่อยให้สงสัยนาน อิอิ
    ใครๆก็สามารถบอกว่าเป็นคนโน้นคนนี่ได้ มันก็ไม่แปลกอะไร เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว หากมีบุญบารมีสร้างสมมา มันจะสะเทือนถึงกันเอง แล้ววาระที่ควรจะเป็นก็จะทำให้ต้องได้มาทำบุญร่วมกัน
     
  20. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    การรู้อดีต ก็ไม่ใช่เรื่องงมงาย หรือไร้สาระนะคะ ถือซะว่า เป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง แต่ที่ยากสุดคือ การสืบค้นหาหลักฐานเพื่อยืนยันและอ้างอิง (ฝ่ายวิทยาศาสตร์) จะว่าไป มันก็เป็นความท้าทายประการหนึ่ง ^.^
     

แชร์หน้านี้

Loading...