วิญญาณเฮี้ยน โจ๊กไผ่เขียว อยากกลับบ้าน

วิญญาณเฮี้ยน โจ๊กไผ่เขียว อยากกลับบ้าน


ตำรวจวังน้อย จ.อยุธยาฯ บุกค้นเครือข่าย “ จิ๊บ ไผ่เขียว ” เพิ่ม รวบนักเสพอื้อ ด้านวิญญาณ โจ๊ก ไผ่เขียวเฮี้ยน เข้าฝันแม่บอกอยากกลับบ้าน ครอบครัว ต้องนิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีจุดเสียชีวิต...

เมื่อ เวลา 06.00 น.วันนี้ 18 ธันวาคม 53 พ.ต.ท.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ รองผกก.ปป.สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.อภิชาติ ทองแพ สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 1 ร่วมประชุมวางแผนเข้าตรวจค้นเครือข่ายโจ๊กและจิ๊บไผ่เขียวที่ห้องประชุม สภ.วังน้อย จึงพร้อมกำลังกว่า 50 นายเข้าตรวจค้นชุมชนหลังวัดทองจันทร์ ต.พยอม อ.วังน้อยโดยแบ่งกำลังเป็น 3 จุดพร้อมหมายศาล

จุดแรก ที่บ้านเลขที่ 25 /15 ม.3 ต.พยอม อ.วังน้อย พบเพียงอาวุธปืน 3 กระบอก ซึ่งมีทะเบียน ของนายยอดชาย ลี้สุวรรณ บิดานายขณิตสร ลี้สุวรรณ อายุ 21 ปี หรือเอ็ม บุคคลที่ตำรวจวังน้อยต้องการตัวมากที่สุด เนื่องจากขณิตสรฯ เป็นผู้เสพยาเสพติด และรู้จักกับเครือข่าย “โจ๊ก - จิ๊บ ไผ่เขียว” และจากการตรวจค้นในบ้านหลังดังกล่าวไม่พบตัวนายขณิตสรฯ แต่อย่างใด


จุดที่ 2 คือบ้านเลขที่ 25/14 ม.3 ต.พยอม อ.วังน้อย พบนายสัญญา ทรงเคารพ อายุ 32 ปี กำลังนอนอยู่ในบ้าน ทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ปปส. นายสัญญาฯ ถึงกับตกใจ ตำรวจจึงควบคุมตัวมาค้นในรถแท็กซี่สีชมพู ที่จอดอยู่ภายในบ้านพบถุงบรรจุยาไอ๊ซ์ และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง ตำรวจจึงควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะ และทำประวัติ

จุดที่ 3 อยู่ที่ ม.5 ต.พยอม อ.วังน้อย จุดนี้พบกลุ่มวัยรุ่นชาย - หญิง 6 ราย กำลังนอนอยู่ ตำรวจจึงควบคุมตัวมาตรวจปัสสาวะ และสอบปากคำเพิ่มเติม นายสัญญา ทรงเคารพ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ซื้อยาไอ๊ซ์ มาจากชุมชนแก้วนิมิต หรือชุมชนแขก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ครั้งละ 300 - 500 บาท ซึ่งกลุ่มผู้ค้าจะขายกันอยู่ริมถนนในซอยของชุมชนตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยไม่สนใจตำรวจ นอกจากนี้แล้วยาบ้าก็ยังมีจำหน่ายที่นั่นด้วย ซึ่งชุมชนดังกล่าวติดกับชุมชนไผ่เขียว เขตเทศบาลพระอินทร์ราชา จึงทำให้การค้าขายยาเสพติดทั้ง 2 แห่ง มีมากขึ้น

สำหรับการเข้าตรวจ ค้นทั้ง 3 จุด ในครั้งนี้ ต่อมาเวลา 08.00 น. บริเวณปากทางเข้าสบายแมนชั่น ริมถนนโรจนะ-วังน้อย ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ตรงจุดที่ตำรวจวิสามัญ นายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือโจ๊ก ไผ่เขียว บริเวณป่ากกในลำคลอง นางประยงค์ ประสงค์ศิล ซึ่งเป็นมารดา พร้อมด้วยญาติสนิท ได้นิมนต์พระจากวัดคุณหญิงส้มจีน มาทำพิธีสวดเรียกดวงวิญญาณนายโจ๊ก ไผ่เขียว จากจุดที่เสียชีวิตกลับบ้าน โดยพิธีทำอย่างเรียบง่าย โดยการนำภาพของผู้ตาย มาพร้อมกับเครื่องเซ่นไหว้เจ้าที่และวิญญาณ จากนั้นมีการเรียกวิญญาณเข้าหุ่นที่ทำจากเนื้อเทียน และรีบเดินทางกลับบ้านที่ชุมชนไผ่เขียวทันที

นางประยงค์ ประสงค์ศิล บอกว่าถือว่าได้ทำพิธีเกี่ยวกับคนตายครบแล้ว คือจัดงานเผาศพ ทำบุญกระดูกและเรียกดวงวิญญาณจากจุดที่ตายกลับบ้าน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา นางนวล โกษะ อายุ 88 ปี แม่ของตนเองและเป็นยายของโจ๊ก ซึ่งเลี้ยงโจ๊กมาแต่เล็ก ๆ บอกว่าเมื่อคืนวิญญาณของโจ๊กมาหายาย โดยขณะที่นางนวล ครึ่งหลับครั้งตื่นนั้น วิญญาณของโจ๊กได้มาเปิดมุ้งและเอามือเอื้อมเข้ามาในมุ้งเพื่อจับสัมผัสตัว ยาย และบอกว่าอยากกลับบ้าน พร้อมกับพยายามจะนำเงินเป็นธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 1 ใบมอบให้ยาย แต่ยายตื่นเสียก่อน จากนั้นยายก็ร้องไห้คิดถึงหลาน



ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวภูมิภาค
• 18 ธันวาคม 2553, 14:00 น.

Thairath Mobile Site

 

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะค่ะ

 

ก็น่าสงสารนะคะ

แต่เค้าก็ได้รับกรรมที่เค้าได้ก่อไว้แล้ว

:z16​

 

วิญญาณมันไม่มีเวลาเฮี้ยนหรอก

ตายไปก็นรก ทันทีแหละ

 

ได้ยินว่าทางครอบครัวของ โจ๊ก กำลังจะมีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ฐานกระทำเกินกว่าเหตุ....แต่การที่น้องโตมี่ตาย...เพราะถูกกระทำโดยไม่มีสาเหตุ.........แล้วจะร้องเรียนใคร???

 

โตมี่ก็คน โจ๊กก็คน ต่างกัน แค่ดีกับไม่ดีแค่นั้นเอง

 

กรรมสนองกรรม กรรมติดจรวด ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

 

คณะกรรมการสิทธิฯของโจรก็เหมือนกัน ตั้งใจทำงานน่าเพิ่มเงินเดือน

 

บ้านเมืองนี้ คนดีๆ โดนโจรฆ่าตาย พวกนักสิทธิฯ กลับเงียบปากก็บอกว่าเป็นเรื่องของ
ตำรวจแต่พอตำรวจ วิสามัญโจรตายสักคน ออกมาโวยวายว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ
คนดีๆ คนบริสุทธิ์ตายไม่เป็นไร โจรชั่วๆตายสักคนจะเป็นจะตาย บ้านเมืองนี้มันวิปริตไปแล้วจริงๆ

 

กรรมการสิทธิฯ ออกมาเต้นเรื่องนี้ (เรื่องคนร้ายคดียาเสพติด) บ่อยมากๆๆๆๆๆ เลย บ่อยจนน่าสงสัย อยากถามกลับไปว่าแล้วคนดีๆ ที่ต้องมาเดือดร้อน ถูกทำร้าย ถูกจับเป็นตัวประกันเวลาคุ้มคลั่ง หรือถูกฆ่าแบบไม่มีสาเหตุ เค้าไม่มีสิทธิหรือไง หรือว่าสิทธิของคนดีๆ ที่จะได้อยู่อย่างสงบสุขและปลอดภัยมันไม่สำคัญเท่าสิทธิของผู้ค้ายา

 

แต่ยังไงก็อย่า in มากเกินไปกับเรื่องนี้นะคะ เพราะถ้ามองในเรื่องของกรรม การฆ่าคือบาปเหมือนกัน คนร้ายฆ่าคนดีก็บาป ตำรวจฆ่าคนร้ายก็บาป ถ้าเสพข่าวแล้ว in เกินไป เผลอไปสะใจ (ประมาณว่า ตายตกไปตามกัน ) อาจกลายเป็นอนุโมทนาบาปก็ได้นะคะ มองกลางๆ ให้เป็นเรื่องของกรรมดีกว่า

 

ถ้ามองเป็นเรื่องกรรม คือ เค้าทำกันมานะ (ไม่รู้ว่ากี่ภพกี่ชาติกันแล้ว) โจ๊กอยากกลับบ้านทางบ้านก็มาตามกลับไปแล้ว จิ๊บก็อยากกลับบ้านแต่ท่าน ผบ.ไม่อนุญาติ(น่ะสิ):z16

 

น่าจะตกนรกไปซะ.................

 

นรกมหาอเวจีเท่านั้นที่เหมาะกับ......

 

สิทธิมนุษยชนหน้าที่เขาเป็นอย่างนั้นเพราะถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้นก็จะไม่มีเรื่องไปขอเงินสนับสนุนองค์กรเขาบางทีก็ไม่คิดว่าถูกผิดบางทีทำเป็นเรื่องราวใหญ่โตแต่พอได้ตังค์เรื่องก็เงียบอย่าไปเชื่ออะไรพวกนี้ให้มาก กรรมไม่ต้องรอชาติหน้า ตายแล้วยังไปทุกข์ทรมานในนรกอีก

 

คณะกรรมการสิทธิฯน่าจะดูให้ดีก่อนว่าคนดีกับคนไม่ดีควรเข้าข้างคนดีที่ถูกกระทำมากกว่าไหมคะคนถูกกระทำโดยไม่มีความผิดเขาเจ็บปวดมากว่านะคะ

 

ตำรวจฆ่าคนร้ายไม่บาปหรอก โจกย์ที่ไหนจะไปฟ้องยมพบาลว่า อีตาตำรวจคนนี้ฆ่าผม ตอนผมกำลังทำชั่วปล้นฆ่าคนอื่นอยู่ ผมจะเอาคืน คงไม่มึ่ง...ยังจะมาสาธยายความชั่วประจานตัวเอง เพื่อให้กรรมหนักว่าเก่า คงไม่มี

 

ไม่รู้จะสงสารใคร

 

การฆ่าเป็นอกุศลเป็นบาปทั้งสิ้นไม่ว่าจะอยู่ในฐานันดรใดๆ.......กรรมจะเป็นเผ่าพันธ์ติดตามตัวไปทุกภพทุกชาติ.....จนกว่าจะใช้หมด...แล้วมาอุบัติในดินแดนที่มีพุทธศาสนาถ฿งจะพบพระนิพพานได้.........สาธุ...

 

เวร กรรม แท้ๆ