ขอคำปรึษาเรื่องเทวดาประจำตัวและเทวดาสร้างบารมีค่ะ

ขอคำปรึกษาเรื่องเทวดาประจำตัวและเทวดาสร้างบารมีค่ะ<O</O
ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ระลึกอยู่เสมอว่าตัวเองโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้มีโอกาสทำบุญ สร้างกุศล
จึงมักจะหาโอกาสทำบุญบ่อย ๆ รวมถึงการสวดมนต์ นั่งสมาธิด้วย จนกระทั่งวันหนึ่งขณะที่กำลัง
สวดมนต์บทแผ่เมตตาใหญ่ ก็ได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิมาร่วมสวดด้วย ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มาร่วมสวดและ
อนุโมทนาบุญด้วยเป็นประจำ<O</O
ดิฉันเองเมื่อมีโอกาสทำบุญก็มักจะอุทิศให้กับเทวดาผู้ปกปักรักษาคุ้มครองด้วยเสมอ ๆ
<O</O
ระยะหลังเมื่อดิฉันนั่งสมาธิก็มักได้ยินเสียงที่ฟังดูนุ่มนวลมาสั่งสอน ชี้แนะให้ด้วย แต่ด้วยความที่
ดิฉันเคยได้ยินผู้มีประสบการณ์ในนี้พูดว่า ให้ระวังเรื่องมาร หรือพวกสัมภเวสีให้มาก ๆ เพราะพวก
นี้สามารถอ้างตัวเป็นสิ่งศักด์สิทธิ์หลอกให้เราหลงตามได้ง่าย ๆ
<O</O
คราวนี้ดิฉันจึงตั้งจิตถามออกไปเวลาเข้าสมาธิ ซึ่งคำตอบที่ได้มีเพียงสั้น ๆ ก็คือ ‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่
เคยทำร้ายมนุษย์’และเสียงนั้นก็ยังบอกอีกด้วยว่า ‘สิ่งที่ดิฉันขาดก็คือปัญญา’
<O</O
ถึงตรงนี้แล้ว บอกตรง ๆ เลยค่ะว่าดิฉันก็ยังไม่กล้าเชื่ออยู่ดี<O</O
เหตุผลน่ะหรือคะ ก็เพราะสมัยก่อนดิฉันเคยถูกพวกสัมภเวสีหลอกมาก่อนนั่นเอง ก็เลยทำให้ไม่เชื่อ
อะไรง่าย ๆ
<O</O
ดังนั้นจึงขอเรียนถามผู้ที่มีปัญญา ช่วยดิฉันแยกแยะให้หน่อยว่า คำถามและคำตอบต่อไปนี้สามารถ
บ่งบอกได้หรือไม่ว่าสิ่งที่มาบอกเราเป็นสิ่งดี หรือไม่ดี
<O</O
ถาม ท่านที่ผ่านร่างข้าพเจ้าเวลาสวดมนต์นั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ <O</O
ตอบ เวลาสวดมนต์จะมีเทพ เทวดาลงมาปกปักรักษา ภูตผีปีศาจไม่มีทางเข้าใกล้หรือผ่านร่างได้
เป็นอันขาด แต่ถ้ายังสงสัยว่าเป็นใครหรือกลัวว่าตัวเองจะยึดติด ให้คิดเพียงว่า ‘เป็นสิ่งดี’ ก็พอแล้ว

<O</O
ถาม ทำไมเวลาที่มีสัมภเวสี ภูติ ผี ปีศาจ มาเข้าทรงแล้วอ้างตัวเป็นเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงไม่คิดลงโทษ<O</O
ตอบ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีจิตเมตตา ถึงจะรู้ว่าสิ่งนั้นคือสัมภเวสีหรือมารที่มาหลอกมนุษย์ ก็ไม่
คิดลงโทษปล่อยให้กรรมเป็นผู้กำหนด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ที่จัดการลงโทษภูตผีพวกนี้ เพราะเมื่อ
เวลานั้นมาถึงเมื่อไหร่ สุดท้ายปลายทางของพวกมันก็คือนรกอเวจีเท่านั้น <O</O

ถาม แสดงว่าที่ไม่ลงโทษก็เพราะไม่ใช่หน้าที่ หรืออีกนัยหนึ่งเพราะว่ามีคน(คาดว่าน่าจะเป็น
ยมทูต) ทำหน้าที่นี้อยู่แล้วใช่ไหม<O</O
ตอบ ใช่ ถ้าเปรียบกับโลกมนุษย์ก็เหมือนกับตำรวจนั่นแหละ หากกล่าวถึงเทพแล้วมีน้อยมากที่ลง
มาเปิดตำหนัก บอกใบ้ให้หวย ส่วนใหญ่มักจะลงมาเพื่อช่วยมนุษย์มากกว่าที่จะมานั่งรออยู่แต่ใน
ตำหนัก ส่วนพวกที่บอกใบ้ให้หวยนั่นมันผีทั้งนั้น ตัวเองลงนรกไม่พอยังพาร่างตกนรกตามไปด้วย<O</O

ถาม การที่ข้าพเจ้าสามารถสื่อกับท่านได้เป็นเพราะอะไร<O</O
ตอบ มนุษย์ทุกคนล้วนมีเทพคุ้มครอง ส่วนจะสื่อกันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับบุญสัมพันธ์เก่าก่อน การ
ผ่านร่างได้นั้นไม่ได้แปลว่าตัวเองวิเศษกว่าคนอื่น และควรระมัดระวังความคิดให้ดีอย่างหลงผิด
เป็นอันขาด ส่วนเทพองค์ที่อยู่สูง ๆ นั้น(เสด็จพ่อ ร.5 , เจ้าแม่กวนอิม, พระศิวะ ฯลฯ ) ท่านไม่ค่อย
ลงมาเกี่ยวข้องกับมนุษย์นักหรอก แต่ถึงจะมีร่างนั้นอย่างน้อยก็ต้องถือพรหมจรรย์ ถือศีลบริสุทธิ์
และมีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์เท่านั้น<O</O

ถาม การที่ข้าพเจ้าทำบุญและอุทิศไปให้แก่เทพ เทวดา ท่านได้รับหรือไม่<O</O
ตอบ ได้รับ การทำบุญนั้นเป็นสิ่งดี เป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่หากกล่าวตามความเป็นจริงแล้ว การ
ทำบุญในแต่ละครั้งควรนึกถึงบิดา มารดา และเจ้ากรรมนายเวรก่อนเป็นอันดับแรก เพราะพวกเขา
มีสิทธิ์ที่จะได้รับบุญกุศลจากเราเต็มที่ เพื่อที่จะได้ไม่มีบาปเวรต่อกัน ส่วนเทวดานั้นเอาไว้ทีหลังไม่
เป็นไร อีกทั้งเทวดาไม่สามารถเรียกร้องขอบุญกุศลจากมนุษย์ได้ เพราะเป็นความผิด

ความจริงยังมีอีกหลายเรื่อง แต่ดิฉันจำได้ไม่หมด แต่ที่จำได้แม่นมากอีกอย่างก็คือตอนท้าย ๆ ท่าน
พูดด้วยความโมโหว่าดิฉันโง่ดักดาน(คำนี้จริง ๆ) ขาดปัญญา แยกแยะไม่ออกว่าสัมภเวสีกับเทพ
นั้นต่างกันอย่างไร ผีมันหลอกว่าไม่ให้กราบไหว้พระก็เชื่อ บอกให้ทำอะไรก็เชื่อไปหมด แบบนี้
แหละที่เขาเรียกว่างมงายและไม่มีปัญญา(โง่กำลังสอง) แล้วยังย้ำด้วยว่าห้ามสำคัญตัวผิด
แต่ก็ยังอุตส่าห์ประชดด้วยว่า ดีเหมือนกัน ต่อไปจะได้รู้จักระมัดระวังตัว ไม่เชื่อใครง่าย ๆ อีก <O</O

เป็นไงบ้างคะ<O</O
แบบนี้ดิฉันพอจะเชื่อได้หรือยังว่าท่านคือเทวดาจริง ๆ ขออภัยจริง ๆ ค่ะ ดิฉันพวกไร้ปัญญาจริง ๆ
อีกทั้งยังไม่มีตาทิพย์ ใครที่รู้เรื่องนี้กรุณาแนะนำด้วยค่ะ <O</O
ขอบพระคุณค่ะ<O</O
<O

 

มนุษย์นั้นมากปัญหา โลเล ขี้สงสัย เป็นธรรมดาของผู้ไม่รู้ แต่ทุกคนเวลาไหว้พระสวดมนต์ จะมีเทวดามาร่วมบุญเสมอทุกครั้งเช่น เทวดาที่คุ้มครองทาน พระภูมิ เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าบ้าน เจ้าเรือน และวิญญาณ บริเวณนั้น การทำบุญทุกครั้ง ต้องแผ่เมตตา(บุญ)บ่อยๆๆ
ให้เทวดาที่เคารพ พระรัตนตรัย เทพเทวดาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้น ดิน มากนะ กว่าจะมาญาติทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่เขาว่าคุณนะคงจะจริงอยู่
เพราะความไม่มีหลักธรรมในใจ

 

เท่าที่อ่านกระทู้ของคุณที่เขียนมาเสียง...ที่ตอบคำถามของคุณ..เป็นคำตอบที่น่าเชื่อถือได้..ว่าท่านอาจจะเป็นเทวดาที่จะคอยมาคุ้มครองตัวคุณจขก.
-เช่นเวลาที่เราสวดมนต์จะไม่มีภูติผี ตนใดเข้าใกล้เราได้เลยเพราะบทสวดมนต์จะมีความศักดิ์สิทธิ์ จนมีคำพระท่านบอกว่าก่อนที่เราจะสวดมนต์ไหว้พระ ให้เราบอกกับเจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือนของเราก่อนว่าเราจะทำการสวดมนต์แล้วนะ ใครชอบฟังเสียงสวดมนต์ก็ขอให้เค้ามารวมฟังแล้วก็อนุโมทนาไปพร้อมกัน แต่ถ้าหากใครไม่ชอบฟังหรือได้รับฟังแล้วได้รับความทุกข์เวทนา ก็ขอให้หลีกหนีไปให้ไกลจากที่ตรงนี้ก่อนจนกว่าข้าจะสวดมนต์เสร็จแล้วค่อยกลับมา..เพราะบางทีบทสวดมนต์จะคล้ายๆกับเป็นการขับไล่เจ้าที่ที่เค้าอยู่มาก่อนเรา
-ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับตำหนักหรือร่างทรงอะไรทำนองนี้ก็เคยอ่านเจอมาเหมือนกันว่าทำไมเทพ เทวดาถึงไม่ทำอะไรกับเหล่าภูติผีทั้งหลายที่มาแอบอ้างเป็นเทพองค์นั้นองค์แล้วหวังเครื่องเซ่น ก็เพราะว่าพวกท่านไม่มีหน้าทีไปขับไล่หรือจับตัวมาลงโทษได้ จึงต้องปล่อยให้กรรมเป็นตัวกำหนด เมื่อถึงเวลาก็จะมียมทูตคอยมารับไปเปิดบัญชีบุญ-บาป เหมือนกัน
-ส่วนเรื่องเทพชั้นใหญ่ เช่น ร.5 เจ้าแม่กวนอิม พระศิวะ ท่านจะไม่ลงมาประทับร่างทรงอยู่แล้วจะมีก็อย่างกรณี ของคุณริชชี่ ให้คุณจขก.ลองไปค้นหาอ่านดูค่ะ..
แต่ที่ตอนท้ายท่านโมโหอาจจะเป็นเพราะคุณมีความสงสัยในตัวของท่านมากไปก็อาจเป็นได้เพราะเทวดา ก็มีความรู้สึกคล้ายๆกันกับมนุษย์ มี รัก โลภ โกรธ หลงเหมือนกัน..ไม่เช่นนั้นจะได้ยินคำว่าเทวดาหมดบุญเพราะความโกรธ หร่อกหรือ..โดยส่วนตัวก็ไม่ได้มีตาทิพย์ หรือว่าหูทิพย์ อะไรเหมือนกันค่ะ..แต่ก็จะสวดมนต์ไหว้พระอยู่เป็นประจำทุกคืนเหมือนกัน..แต่มีครั้งหนึ่งได้ไปดูหมอเค้าทักว่ามีองค์เทพมาอยู่ด้วย..แต่ก็ไม่ได้ให้รับขันธ์หรืออะไร เพียงแต่ให้หมั่นสวดมนต์ไหว้พระแล้วก็แผ่เมตตาประจำ ก็เลยลองเข้าไปอ่านกระทู้ที่เกี่ยวกับคนมีองค์หรือมีเทวดาประจำ..ว่ามีลักษณะอย่างไร..ที่สะดุดใจเลยคือจะปวดหัวไหล่ถ้าช่วงไหนขี้เกียจไม่สวดมนต์...ซึ่งเรื่องนี้เจอกับตัวเองเลย..ถ้าช่วงไหนไม่ยอมสวดมนต์ติดต่อกันเกิน 3 วัน..อาการออกเลยคือจะปวดเหมื่อยต้นคอมาก..ซึ่งเรื่องมีเทวดาประจำตัวนี้จะมีหรือไม่มี..ก็อย่าให้ไปยึดติดมาก..ให้เราหมั่นสวดมนต์ไหว้พระแผ่เมตตาให้เป็นประจำ ถ้าเค้าจะมาอยู่ก็ถือว่าเป็นศิริมงคลกับตัวเรา..ถือว่าสิ่งที่เราได้ทำอยู่นี้ถูกต้องแล้วดีแล้วให้หมั่นทำต่อไป...หากที่เขียนมาผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยค่ะ..
บุญรักษาค่ะ...อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ขอบคุณทุกท่านที่ชี้แนะค่ะ
แล้วก็น้อมรับคำตำหนิจากคุณทีมชุมพรเช่นกัน
ดิฉันยอมรับจริง ๆ ว่าความผิดพลาดในอดีตเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความระแวงมากเกินไป
เพราะเมื่อก่อนเอาแต่หลับหูหลับตาเชื่อ โดยขาดปัญญาและการไตร่ตรองจริง ๆ
(ยอมรับจริง ๆ ค่ะว่ามารพวกนี้ เลียนแบบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เหมือนมาก
กว่าจะรู้ตัวก็ไปนอนอยู่ในโรงพยาบาลตั้งหลายวัน)
เดี๋ยวนี้จึงขวนขวายหาความรู้ใส่ตัวมากขึ้น เพื่อที่จะไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออีก
ผลสุดท้ายจากความที่แสวงหาความรู้จากบทความที่หลากหลายมากเกินไป
จึงกลายเป็นการสร้างเกราะให้กับตัวเองไปซะอย่างนั้น
แต่มีคำชี้แนะหนึ่งที่ดิฉันอ่านแล้วชอบมาก ก็คือเวลาที่เราทำสมาธิแล้วเกิดเรื่องทำนองนี้
ก็ให้ปล่อยวางเสีย รู้ว่าเกิดขึ้นและดับไป ไม่ต้องไปยึดติด จึงพยายามทำมาตลอด
แต่ระยะหลังท่านแวะเวียนมาสั่งสอนบ่อยขึ้น ก็เลยเกิดอารมณ์กลัวภาพเก่า ๆ ซะอย่างนั้น
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำชี้แนะของทุกท่านมาค่ะ ต่อจากนี้ไปจะพยายามใช้ปัญญา
ให้มาก ๆ จะได้ไม่ถูกท่านตำหนิอีกค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุนะคะ

 

คำถามและคำตอบที่คุณนำมาลงไว้นั้น นับว่าน่ารับฟัง อนุโมทนาด้วยนะครับ และการที่ใครบางคนจะมีวาสนาได้สื่อสารกับเทวดา หรือมีเทวดามาแนะนำสั่งสอนนั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีวาสนามีความผูกพันกันมาก่อนหรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น สุดท้ายก็จะขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเองว่า "หลง" หรือไม่ ถ้านานๆไปเกิดความหลงขึ้นมาว่า เออ เราสื่อสารกับเทวดาได้อย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะเกิดความหลง คำว่า "หลง" เนี่ย ตัด "ห" ออก ก็กลายเป็น "ลง" เรียกว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

เรื่องเทวดาเนี่ย บางคนเค้าบอกว่า เค้านับถือศาสนาพุทธ สิ่งที่เค้านับถือมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เท่านั้น

แต่บางคนเค้าบอกว่า เทวดาเค้าก็เคารพ แต่เคารพในฐานะที่ต่ำกว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรียกว่า เรียงลำดับความสำคัญไว้ให้ถูกให้ควร ไม่ใช่นับถือเทวดามากกว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เทวดาที่ยังไม่ใช่วิสุทธิเทพ ก็ยังมีกิเลสอยู่บ้าง เมื่อท่านไม่นับถือเรา แล้วเราจะช่วยท่านทำไม นั่น มันเป็นอย่างนั้นแหละ

ที่คุณบอกว่าทำบุญแล้วอุทิศบุญให้กับเทวดาประจำตัวบ่อยๆนั้น ผมก็ขออนุโมทนาด้วยนะครับ แต่ถ้าจะให้ดี บุญที่เราทำ เปรียบเสมือนพลังงานที่เราสะสม เพราะฉะนั้น เราสามารถอุทิศผลบุญผลกุศลให้กับเทวดา (รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ญาติที่ล่วงลับ สรรพสัตว์ทั้งหลาย) ได้ทุกเมื่อเชื่อวัน ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ก็คือ ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญนั้น เพราะฉะนั้น ไม่ต้องรอให้ทำบุญก่อน แล้วค่อยอุทิศให้ เราสามารถให้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

 

อาบน้ำเสร็จ แล้วนึกขึ้นได้อย่างหนึ่ง ต้องรีบมาพิมพ์

อย่างที่เราเห็นที่บางคนเค้านำเรื่องบุญกุศลที่ตัวเองทำไว้ดีแล้ว แล้วก็มีคนมาอนุโมทนา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกด้วยการกดปุ่ม หรือไม่แสดงออกทางกายก็ดี ทั้งฝ่ายผู้นำมาโพสต์ และฝ่ายผู้ที่อนุโมทนาก็ได้รับผลบุญ
คนที่นำมาโพสต์ก็ได้รับผลบุญในแง่ที่ว่า เป็นปัตติทานมัย
ส่วนคนอนุโมทนาได้รับผลบุญในแง่ที่ว่า เป็นปัตตานุโมทนามัย

แต่ถ้าเราอุทิศส่วนกุศลด้วย แผ่ไปทั่วสากลโลก ทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุ ทำบ่อยๆ ย่อมได้รับผลบุญอย่างมากมายมหาศาล เพราะเราไม่ได้จำกัดแค่ที่อยู่ในเวบธรรมะ ไม่ได้จำกัดแค่กลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่ง

สิ่งที่น่าพิสดารอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ที่อยู่ในโลกทิพย์จะมีสัมผัสพิเศษที่ดีกว่ามนุษย์มนา เมื่อพบว่ามีใครที่ทำบุญมาก และชอบแผ่ผลบุญผลกุศลมาก ก็จะสื่อสารกับผู้นั้นให้รู้ว่า มีผู้มีกายทิพย์อยู่ตรงนั้นตรงนี้นะ

ซึ่งตรงนี้ถ้าเปรียบเทียบเหมือนอย่างเราจะไปขอเงินกับคนรวยนั่นแหละ

เราจะไปขอเงินกับคนรวยที่รวย และก็ทำบุญทำทานตามขนบธรรมเนียมประเพณี
หรือคนรวยที่ให้ทุกที่ ทุกครั้ง และทุกคนละ จริงมั้ย

 

มีวิธีพิสูจน์ครับ

ครูบาอาจารย์ท่านใช้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว คือ

ให้อธิฐานว่า ด้วยอำนาจของ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์โปรดช่วยลูกด้วย ถ้าท่านผู้ที่คุยกับเราอยู่นี้เป็นเทวดาจริง ขอให้ท่านเทวดาผู้นี้ .......

แต่ถ้าไม่ใช่เทวดาจริง ขอให้......(อาจจะขอให้ เงียบไปเลย หรือ อะไรก็ได้ที่เหมาะสม)


รับรองครับ ครูบาอาจารย์ที่สอนเกี่ยวกับมโนยิทธิ ท่านสอนมาครับ กันมารมาหลอก

ใช้มาได้ผลกันมากแล้ว ถ้าเค้าไม่ใช่เทวดาจริงรับรองครับ อยู่ไม่ได้หรอก

 

ขอบคุณคุณoamiamgod ที่แนะนำค่ะ
วิธีนี้เทวดาท่านเคยแนะนำดิฉันให้ทำเหมือนกัน
ซึ่งก่อนสวดมนต์ดิฉันก็ทำตามที่ท่านบอก
โดยจุดธูปอธิษฐานคล้าย ๆ กับที่คุณแนะนำ
ปรากฎว่าท่านก็ยังอยู่ปกติ เฉย ๆ ไม่มีอาการทุรนทุรายอะไรเลย
คราวนี้ไม่กล้าสงสัยมากอีกแล้วล่ะค่ะ

 

อวิชาคือ ความไม่รู้ นี่แหละสำคัญนักแต่เมื่อรู้แล้ว ก็ต้องรีบวาง อย่าไปยึด
เราต้องอยู่เหมือนหยดน้ำบนใบบอน ที่อยู่ได้ แต่ไม่ติด

 

ไม่มีใครมาหลอกเราหรอกครับ จิตเรานี้แหละที่หลอกตัวเอง ด้วยการปรุงแต่ง

 

อนุโมทนาครับ อนุโมทนาครับ อนุโมทนาครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

อนุโมทนาค่ะ ดิฉันก็เชื่อเรื่องเทวดาประจำตัวเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยเจอกับตัวสักที แต่เดี๋ยวนี้เวลาทำบุญ สวดมนต์ต่างๆ ก็จะอุทิศให้ บิดามารดา เพื่อนมิตร เจ้าที่เจ้าทาง เจ้ากรรมนายเวร สัมภเวสีทั้งหลาย รวมถึงเทวดาประจำตัวด้วยค่ะ แม้อาจจะเป็นบุญเล็กๆน้อยๆก็ตามค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุ สาธุ ค่ะ ขอให้ทำดีต่อไปเรื่อยๆนะคะ แล้วสิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับตัวคุณเองค่ะ

 

มีความเชื่อเรื่องเทวดาประจำตัวเช่นกัน ตอนนี้เวลาทำบุญก็จะอุทิศให้ท่านบ่อยๆ คะ

 

ได้อ่านแล้วคล้ายกับครอบครัวของพรรณนาเลย.....กลัวการแอบอ้างที่สุดทำอย่าง เจ้าของกระทู้ และแล้ว ก็สำเร็จครับ...รู้แล้วท่านแสดงให้เห็นอะไรหลายๆอย่าง กว่าจะเชื่อ ยังได้นับถือท่านจากนั้นเป็นต้นมา...ท่านมาเพื่อคุ้มครองครอบครัวและสร้างบุญบารมี...

ถ้าเราทำเราก็ได้.....ท่านก็ได้เช่นกัน

 

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ จะนำสิ่งที่ดีดีไปปฏิบัติให้มากขึ้นครับ

 

ครับขออนุโมทนาด้วยครับกับทั้งคำถามและทุกคำตอบได้รับความรู้ดีมากครับ

 

เชื่อเรื่องเทวดาที่รักษาตัวเราค่ะ เวลาทำบุญ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็ไม่ลืมที่จะอุทิศบุญให้ท่าน รวมทั้งเทพ พรหม เทวา ที่เกี่ยวพันกะตัวเราทุกภพทุกชาติด้วยค่ะ

 

เออคือว่า ผมเชื่อนะครับเรื่องนี้ แต่ผมก็อยากถามว่า เทวดาประจำตัว เนี่ย ท่านมีหน้าที่ปกป้องคุ้มกันภัย ลดภัยมากให้เป็นน้อย จริง ๆ ใช่ไหมครับ คือตั้งแต่เล็กจนโตมา เวลาผมเจออะไรที่ร้ายแรง อาจจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บ ผมมักจะเป็นน้อย หัวแตก กระดูกหักไม่เคยมี ล่าสุดโดนรถชน ก็ไม่เป็นอะไรแค่ถลอก แต่คนที่ชนผมนิ้วเขาขาด ขาเขาหัก อันนี้ใช่เทวดาประจำตัว ปกปักรักษาอยู่ใช่ไหมครับ อ่านกระทู้นี้แล้วทำให้คิดถึงเทวดาประจำตัว ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ขอบคุณครับที่ช่วยเตือนสติ

แล้วอีกอย่างผมมักเป็นบ่อย เวลาหลับ มักมีเสียงกระซิบบอกเรื่องต่าง ๆ ไม่ก็ร้องเพลงข้าง ๆ หู เรื่องเสียงกระซิบนี่ กระซิบหลายรอบแล้วครับ บอกเป็นหวยมั่ง แล้วก็ออกจิง ๆ แต่ไม่บ่อยครั้ง นาน ๆ ครั้งทีครับ