ให้พรก็ไม่ได้ เป็นกรรมนะ อะไรๆ ก็ไม่ได้ นิดเดียวก็ไม่ได้

เมื่อเทียนถูกจุด สว่างแล้ว ใยเราไม่สำนึกในคุณของไม้ขีดเล่า
ไม้ขีดก้านเดียว สามารถจุดเทียนติดได้หลายล้านเล่ม
ใยเห็นไม้ขีดเป็นของไร้ค่า เชียวหรือ

 

*** ชอบคำหวาน ต้องผจญกรรม ****

พูดไพเราะ พูดเอาใจ พูดเยินยอ...ผู้คนมักจะชอบ
แต่คำพูด อาจจะไม่ใช่ความจริง
พอคนชอบ ก็พอใจที่จะให้

พูดตรงๆ พูดความจริง
มีแต่เรื่อง นิสัยสันดานที่ทำมา กับกรรมที่กำลังมา....คนไม่ค่อยชอบ
พอไม่ชอบไม่ถูกใจ ก็ไม่มาอีกเลย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

แล้วกระทู้นี้จะเกี่ยวกับพระพุทธรูป..."ปางประทานพร"...หรือเปล่าคะ....สงสัยนะคะ....

แล้วพระพุทธเจ้าเคยให้พรหรือเปล่านะ.....

<TABLE cellPadding=5 width=510 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 align=center bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR vAlign=top><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" align=center background=../pics/blackbg.gif border=0><TBODY><TR><TD width=150 bgColor=#cccccc height=22>

๕๕.ปางประทานพร ( นั่ง )​

</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>พระพุทธรูปปางประทานพร ( นั่ง ) วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับ ( นั่ง ) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา ( ตัก ) แบฝ่าพระหัตถ์ขวายื่นออกไปวางที่พระชานุ ( เข่า )

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" align=center background=../pics/blackbg.gif border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=22>ความเป็นมาของปางประทานพร ( นั่ง )

</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อครั้งพระอานนท์ถูกสงฆ์เลือกให้ทำหน้าที่เป็นพระอุปัฏฐาก ท่านได้ขอพร ๘ ประการ จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร ๔ ข้อแรก ได้แก่ ไม่ประทานจีวรอันประณีตแก่ท่าน ไม่ประทานบิณฑบาตอันประณีตที่พระองค์ได้มาแก่ท่าน ไม่ประทานให้ท่านอยู่คันธกุฏิเดียวกับพระพุทธองค์ และไม่ทรงพาท่านไปในที่นิมนต์ ส่วน ๔ ข้อหลังได้แก่ ขอให้พระพุทธองค์ไปในที่นิมนต์ที่ท่านรับไว้ ถ้าท่านนำพุทธบริษัทมาจากแดนไกลขอให้ได้เข้าเฝ้าทันที ถ้าท่านมีความสงสัยขอให้ถามท่านได้ทันที และข้อสุดท้ายคือ ถ้าพระพุทธองค์ทรงไปแสดงพระธรรมที่ไหน ถ้าท่านไม่ได้ฟัง ขอให้แสดงแก่ท่านอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันคำครหาว่าท่านอุปัฏฐากแล้วไม่ได้รับความเอื้อเฟื้อจากพระพุทธองค์เลยพระพุทธองค์ได้ประทานพรทั้ง ๘ ประการ แก่พระอานนท์​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เมื่อเทียนถูกจุด สว่างแล้ว

ไม้ขีดก็ถูกวางไป ไม่ใช่หรือ?​

---------------------------------------------------------
อนุโมทนาครับ
แสงเทียน หมายถึงความสว่างแห่งจิต หรือ ปัญญาเห็นโลกตามความเป็นจริง
เทียนหมายถึงจิตเรา
ไม้ขีดเปรียบเสมือนธรรมทั้งหมายทั้งปวง

เมื่อเราใช้ธรรม ทำให้แสงสว่าง หรือ ดวงปัญญาเกิดขึ้นที่จิตเราแล้ว จิตประภัสสร แช่มชื่นเบิกบานแล้ว ย่อมไม่จำเป็นต้องใช้ธรรมอีกต่อไป
ไม้ขีด หรือ ธรรมนั้น เป็นแค่เพียงเครื่องมือในการจุดความสว่าง เมื่อสว่างแล้วไยต้องถือธรรมแล้วยึดธรรมอีกเล่า

ขออนุโมทนากับบทความสั้นๆ แต่กินใจครับ ท่านเจ้าของกระทู้ผู้มีเมตตา ปัญญาญาณ เพื่อนำสรรพสัตว์สู่การไม่แบ่งแยก

 

ท่านแสดงธรรมได้ไพเราะมากจริงๆ ขอคาระวะ แต่ผิดหมด

พระพุทธเจ้าออกพระวินัยว่า ภิกษุยืนแสดงธรรม ต้องอาบัติ อาบัติไม่ได้หมายถึงบาปเสมอไป แต่หมายถึงการกระทำที่ไม่ควร ท่านตีความหมายมาจากบทนี้ 100%

ถ้าผู้ำไม่มีคุณให้พรก็ไม่มีผล แสดงว่า ผู้ใหญ่ให้พรเด็ก พ่อแม่ให้พรเด็ก จนไปถึงการแผ่เมตตา(อย่ามาบอกนะว่าไม่เกี่ยว เพระการแผ่เมตตาเป็นการให้พรอย่างหนึ่ง) การทำผลีกตา ก็ไม่เป็นผลนะสิครับ ที่ทำมาทุกวันนี้ผิดหมดสิครับ ถ้าอย่างนั้น พระสูตร เมตตาพรหมวิหารภาวนา ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ในความหมายของคุณก็ผิดไปด้วย

บทท้ายของเมตตาพรหมวิหารภาวนา บอกว่า
"จิต ชื่อว่าเมตตาเพราะรัก ชื่อว่าเจโตเพราะคิดถึง ธรรมนั้นชื่อวิมุติ เพราะพ้นจากปริยุฏฐานกิเลสทั้งปวง จิตมีเมตตาด้วย เป็นเจโตวิมุติด้วย เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เมตตาเจโตวิมุติ"

ความหมายของประโยคนี้ หมายถึงการให้พร พระองค์ไม่ได้บอกว่าต้องมีคุณวิเศษอะไร เพราะการให้พรคน จะต้องมี รักและเมตตา พรนั้นก็สำเร็จครับ


อย่ามั่วครับ

 

ข้อมูลชัดเจนครับหักล้างได้ดี ผมเห็นด้วยกับคุณครับ

 

แล้วถ้า....ลมมันแรง...ไฟเทียนเกิดดับไปล่ะคะ....แล้วจะทำยังไง...อาจจะคิดถึงไม้ขึด ขึ้นมาก็ได้นะ....อิอิ

 

มาอ่านค่ะ.....................

 

ผู้คนเติบโตเพราะรับประทานอาหาร แก่เฒ่าก็เพราะอยู่มานาน

 

หากท่านเหล่าใด
ศึกษาในธรรมสิกขาว่าด้วยเรื่องเสขียวัตร
ธัมมเทสนาปฏิสังยุต
ก็จักเข้าใจโดยง่าย
สำหรับชาวพุทธบริษัททั้งหลาย
แล้วจักเถียงไปใยให้เศร้าหมอง
หากทางสว่างมิเดินไป
ก็สุดแล้วแต่ทางเลือกของผู้คนที่จักเลือกทางเดิน
วันใดพบว่าทางที่เดินกับมืดเลือน
เขาจักต้องหาหนทางเดินสู่แสงเอง
เพียงแต่ช้าหรือเร็วเท่านนั้น

 

หย่อนเกินไป ก็ไม่ดี ตึงจนสุดโต่ง ก็ไม่ดี
ทางสายกลาง นั่นแหละ ดีแท้ แน่เทียว

 

เดี๋ยวนี้มีมารศาสนาเยอะ บางนิกายห้ามคนทำสมาธิ แต่ปากบอกนับถือพระพุทธเจ้า เจอมาเเล้ว แถมเรี่ยไรเงินเยอะๆอีก ส่วนใหญ่เป็นเทพจีน

 

เพื่อความหลุดพ้นแล้ว..
ทั้งหลายนี้ สูญเปล่าเลย

 

สูญเปล่าในโลกุตตระ
แต่ไม่สูญเปล่าในโลกย์

คนปฏิเสธสมมุติ เขาจะแจ้งปรมัตถ์ได้จริงหรือ
ละชั่ว ทำดี ทำจิตให้บริสุทธิ์

อ้างอิง .. ให้พรก็ไม่ได้ เป็นกรรมนะ อะไรๆ ก็ไม่ได้ นิดเดียวก็ไม่ได้
ศาสนาพุทธ ไม่ได้ปฏิเสธโลก และไม่ทำให้โลกกลับตาลปัตร

 

มันสำคัญมากไหม?
ถ้าจะมีคนปฏิเสธโลก?

 

ก็อย่างที่เห็น
เอาปรมัตถ์ มามั่ว คนวิ่งตามก็มีอีกด้วย

สำคัญไหม

 

ข้าพเจ้ากับอีกหลายท่านไม่ได้แบก
"คนปฏิเสธโลก" เอาไว้ด้วยสิ
เลยไม่รู้จะให้ความสำคัญอะไรได้


แต่ถ้าท่านหนักก็ปลดระวางได้นะ

 

ศีลข้อสี่ เอาให้อยู่ก่อนเถอะ
ก่อนจะรู้ ว่าใครแบกใครไม่แบก

 

อ้าวแสดงว่าไม่ได้มีแต่คนปฏิเสธโลก
ยังมี "ศีล" เพิ่มน้ำหนักบนหลังด้วย