ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

อนุโมทนาค่ะน้องอ๊อฟ สิ่งดีๆเกิดขึ้นที่นี่เพราะองค์เหนือหัวล้นเกล้าเผ่าไทยทุกๆพระองค์ ทางสายธาตุเชื่อในเรื่องพระราชภาระสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้แต่ละพระองค์อวตาร (ศัพท์เทคนิคคือ จุติสู่โลก) เพื่อรักษาไว้ซึ่งดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาแห่งนี้ ขุนพล ขุนศึก นักรบแห่งธรรม ก็ตามๆกันมาเกิดมิใช่น้อย หน้าที่สำคัญคือรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ให้ครบอายุพระศาสนาให้ได้

วันนี้ได้หนังสือใหม่ชีวิตและญานทัศนะของตรุงปะ คุรุบ้าผู้ปรีชาญาณ จับเล่มนี้ขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าต้องอ่าน ในเล่มนี้เซอเกียมตรุงปะผู้เขียนกล่าวถึงอาณาจักรซัมบาลาด้วยค่ะ พี่ดอกไม้เมืองบน เรียกหาพี่ดอกไม้เมืองบนด้วยจิตระลึกถึง

 

รับแซ่บเจ้าค่ะ ง้านก้อ วันนี้วันพระ ป่ะ...ไหว้พระกัน

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD id=profilepic_cell class="tborder alt2"></TD><TD id=username_box class=profilepic_adjacent vAlign=top width="100%">

weruwan ​

สมาชิก​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ได้รับ PM จากหนึ่งในนักรบองค์ดำ นามล็อคอิน weruwan ยังไม่ได้ชวนเข้ามาที่นี่ ค่ะเพียงแต่ได้สนทนากับท่าน weruwan ทาง PM จะส่งลิงค์กระทู้นี้ให้ท่าน weruwan ท่านนี้เป็นผู้จงรักภักดีและนับถือสมเด็จพ่อพระนเรศผู้เป็นเจ้าอย่างยิ่ง ยก PM ของท่าน weruwan มาบางส่วนดังนี้

เคยคุยกับคุณนายเจ๊โหน่งว่าสมเด็จพ่อคงจะโยงให้พวกเราได้รู้จักกัน นี่อาจเป็นพระราชประสงค์เพื่อกิจแห่งแผ่นดิน โดยต่างคนต่างมีหน้าที่แตกต่างกันออกไปแต่ทุกอย่างเพื่อจุดหมายใหญ่เดียวกัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์

 

ตำนานทัพองค์ดำ และเขาฉกรรจ์

ตำนานมีอยู่ว่าสมัยที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชครองกรุงศรีอยุธยา ได้มีสัมพันธไมตรีกับเขมร แต่เขมรไม่ซื่อตรง คราวใดที่ไทยติดศึกสงครามกับพม่า เขมรมักจะยกทัพเข้ามาริบทรัพย์ และกวาดต้อนชาวไทยไปเป็นเชลยเสมอ แต่เมื่อใดที่ไทยสุขสงบดี เขมรก็จะทำตัวเป็นมิตรที่ดี เมื่อเป็นเช่นนี้บ่อยเข้า สมเด็จพระนเรศวรก็ทรงไม่พอพระทัย ครั้นว่างจากศึกก็ยกกองทัพเล็กๆ ไปปราบเขมรให้สำนึก แต่เมื่อยกกองทัพถึงบริเวณชายแดนก็เห็นว่าเขมรมีกำลังอยู่มาก พระองค์จึงให้ทหารในกองทัพไปฝึกปรือชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆ ในบริเวณจังหวัดสระแก้ว ให้ใช้อาวุธปืนเพื่อจะได้เป็นกำลังไปรบกับเขมร และเป็นกำลังสำหรับสู้กับเขมรในภายหน้า เมื่อฝึกเสร็จในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เช้ารุ่งขึ้นให้แม่ทัพนายกองนำชาวบ้านที่ฝึกมาพบกันที่ภูเขารูปร่างประหลาด ส่วนพระองค์ประทับอยู่ที่เส้นทางระหว่างภูเขารูปร่างประหลาดกับชายแดนไทย-เขมร ซึ่งต่อมาภายหลังเรียกที่นั่นว่า "ทับองค์ดำ" ทหารที่มารวมกันอยู่ที่ลานนั้นล้วนเป็นชายหนุ่มที่อยู่ในวัยกำยำหรือวัยฉกรรจ์ จึงเรียกเขานั้นว่า "เขาฉกรรจ์" แต่นั้นมา (คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ, 2545:120)

ตำนานทัพองค์ดำและเขาฉกรรจ์ - Mahidol Cultural Mapping Project

 

เขาฉกรรจ์

​

เขาฉกรรจ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาฉกรรจ์ ติดกับวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ ห่างจากตัวอำเภอเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 317 (สระแก้ว-จันทบุรี) ระหว่างกิโลเมตรที่ 131-132 และแยกซ้ายไปอีกเล็กน้อย ตัวเขาเป็นเขาหินปูน สันเขาด้านยาวทำมุม 90 องศากับทิศเหนือและทิศใต้ จุดสูงสุดของยอดเขาสูงประมาณ 240 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางลักษณะเป็นเขา 3 ลูกเรียงกัน โดยมีเขาฉกรรจ์เป็นลูกใหญ่ที่สุดและอยู่ตรงกลาง มีภูเขามิ่งอยู่ด้านซ้าย และเขาฝาละมีตั้งอยู่ด้านขวา เขาทั้ง 3 ลูกได้จัดให้เป็น สวนรุกขชาติเขาฉกรรจ์ของกรมป่าไม้และเป็นที่อยู่ของลิงป่าและฝูงค้างคาวนับล้านๆ ตัว บินออกมาในตอนเย็นเป็นสายยาว ส่วนเชิงเขาเป็นที่ตั้งของวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ มีบันไดขึ้นไปถึงยอดเขา ในเขาฉกรรจ์มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอยู่ถึง 72 ถ้ำ เช่นถ้ำมืด ถ้ำหนุมาน ถ้ำเขาทะลุ ถ้ำมหาหิงส์ ถ้ำน้ำทิพย์ และถ้ำแก้วพลายชุมพล จุดที่น่าสนใจคือถ้ำเขาทะลุ มีรอยพระพุทธบาทจำลองและจุดชมวิวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล
​

 

พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

​

ประดิษฐานบริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ริมเส้นทางหลวงหมายเลข 33 ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอวัฒนานคร การจัดสร้างอนุสาวรีย์นี้ เนื่องมาจากในอดีตกาลอำเภอวัฒนานครเป็นพื้นที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ เคยเสด็จมาประทับในการสงครามแถบดินแดนบูรพา เมื่อปี พ.ศ. 2136 พระบรมรูปประทับยืน มีความสูง 280 เมตร ชูดาบเหนือศิรเศียร แสดงพระราชอำนาจในการปกครอง ปกป้องรักษาพสกนิกรของพระองค์"<!-- google_ad_section_end -->

 

ลืมบอกไปครับว่า วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ นี้ เป็นวันที่ตรงกับวันที่สมเด็จพระนเรศสวรรคต ครับ คือวันจันทร์

 

พี่ทางสายธาตุ อ็อฟขอข้อมูลวัดวรเชษฐ์ หน่อยครับ เพื่อนำมาลงเวปไซด์
ในปี ๒๕๕๔ นี้ พวกเราเหล่าลูกพระนเรศ อาจจะได้ทำสิ่งรอคอยแล้วนะครับ
และในปี๒๕๕๔นี้ ในวันที่ ๒๕ เมษายนตรงกับวันจันทร์เป็นวันเดียวกับวันที่พระราชสังขาร ขององค์พระนเรศ สวรรคตครับ ที่เขียนแบบนี้ ก็คือ สมเด็จพระนเรศทรงดับไปแค่เพียงร่างกาย แต่ดวงพระวิญญาณของพระองค์ยังคงอยู่กับพวกเรา ครับ

 

​

ใช่วัดวรเชษฐ์ที่อยุธยาหรือป่าวครับ คลิ๊กดูภาพซ่อนด้านในนะครับ
ไม่เป็นไรครับถ้า ข้อมูลไม่ตรงก็จะลบให้ เพราะชื่อวัดวรเชษฐ์อาจมีหลายวัด พอดีเข้ามาอ่านในกระทู้นี้ เห็นกำลังหาข้อมูลอยู่
ไม่ต้องค้านหัวชนพระปรางค์หรอกครับ​

 

เป็นวัดวรเชษฐารามที่อยุ่ในเกาะอยุธยาครับ แต่วัดวรเชษฐ์สำหรับพวกเราอยู่ที่นอกเกาะอยุธยาครับ จะข้ามสะพานไปยังฝั่งวัดกษัตราธิราช และขับตรงไปประมาณ 5 กม. ครับ

 

ตอบไปทีแล้วพอกดส่งก็หายไปค่ะลุงหมาน

เรื่องนี้เคยไม่เห็นด้วยว่าวัดวรเชษฐ์จะเป็นวัดที่พระเอกาทศรถสร้างได้อย่างไร ในเมื่อศิลปะสมัยนั้นจะต้องเป็นทรงระฆังคว่ำซิ สมัยพระเอกาทศรถท่านสร้างหน่ะต้องระฆังคว่ำ ไม่ใช่เป็นพระปรางค์ เรียกว่าค้านหัวชนพระปรางค์เลย แล้วก็หาข้อมูลทั้งด้านพงศาวดาร จิตรกรรม ปฎิมากรรม สถาปัตยกรรม เคหกรรม ทันตกรรม สองอย่างหลังไม่ได้หา เขียนเป็นสร้อยค่ะ ^^ พี่จงรักภักดียังบอกว่าท่านเชื่อที่พลตรีพิจิตรเขียน แต่อิชั้นไม่เชื่อ ดังนั้นเมื่ออิชั้นไม่เชื่อก็ต้องหาหลักฐานเอง ตอนนี้เชื่อว่าวัดวรเชษฐ์เป็นทั้งวัดป่าแก้วและเป็นวัดที่ฝังพระบรมอัฐิสมเด็จพระนเรศวร ให้ระดับความเชื่อมั่น 95% มีค่าเบี่ยงเบน 5% ตามหลักสถิติทีเรียนมา ถ้าบอกว่าเชื่อ 100% ก็ไม่ต้องมีข้อขัดแย้ง จะพูดได้ก็ต่อเมื่อกรมศิลปากรกล้ามาเปิดพิสูจน์สถาที่ให้เห็นกันไปเลย จะได้เลิกถกเถียงกันเสียทีค่ะ

 

วัดวรเชษฐ์(นอกเกาะ)

 

วัดวรเชษฐาราม(ในเกาะเมือง)

<TABLE cellPadding=6 width=500><TBODY><TR><TD align=middle>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ลุงหมานอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ หนูเป็นพวกนางบรรณรักษ์หรือที่คุณนายเจ๊โหน่งเรียก เอนไซโคบิเดียเกิร์ล ชอบหา ชอบค้น และปรึกษาหารือ จนกว่าจะได้ข้อสรุป ซึ่งมันก็เป็นนิสัยที่แปลกๆของหนูเอง ลุงหมานมาอ่านบ่อยๆจะเข้าใจหนูว่า มันชอบตั้งคำถามกับเรื่องต่างๆแล้วหาคำตอบ พอดีหนูเพิ่งไปวัดวรเชษฐ์มาเมื่อวันเสาร์ พระอาจารย์เผชิญหน้ากับปัญหาเดิมๆอยู่ ก็เลยออกแนวเข้มไปหน่อยนะลุงหมานนะ อภัยหนูนะ เมื่อกี้เอ็มคุยกับเจ๊โหน่งอยู่ เลยไม่ทันเข้ามาอ่าน เรื่องความเชื่อเป็นสิ่งทีอ่อนไหว มีคนบอกว่าถ้าหนูจะฝึกกสินนะ ให้ฝึกกสินไฟ หนูจะได้เร็วมากเพราะหนูพวกเลือดร้อน แต่อาศัยเวลา (คือความแก่นั่นเอง) ทำให้หนูใจเย็นลง ถ้าฝึกจะฝึกกสินน้ำจะได้ใจเย็น ครูบาอาจารย์บอกว่า ไม่ได้ถ้าฝึกต้องกสินไฟ หนามยอกให้เอาหนามบ่ง คนมีไฟอ่ะค่ะลุง หนูว่าลุงหมานก็คนมีไฟเหมือนกันนะ ตัวหนังสือแดงแป๊ดเลย

 

<TABLE cellPadding=6 width=500><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR><TR><TD align=left>823574</TD></TR><TR><TD class=smallfont align=left>Report Picture

Picture Added 09-10-2010 06:30 PM

Added by ลุงหมาน
</TD></TR></TBODY></TABLE>
หนูชอบภาพวัดไชยวัฒนารามค่ะลุง ลุงหมานถ่ายเองใช่ไหมคะ ยามเย็น ณ วัดไชยวัฒนาราม สวยซึ้ง

 

น้องอ๊อฟจะจัดพิธีสงฆ์ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในวันที่ 25 เมษายน 2554 ที่วัดวรเชษฐ์ค่ะ ขอร่วมประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าด้วยคนค่ะ

น้องอ๊อฟตั้งใจจะจัดสวดมหาสันติงหลวงแบบล้านนาค่ะ พี่จงรักภักดี ลุงหมาน เอ่ยสองท่านนี้ก่อนท่านเป็นท่านผู้ใหญ่ของกระทู้ พี่ศรัทธา คุณนายเจ๊โหน่ง น้องโมเย น้องไก่เหลือง น้องFort คุณพระราชมนู

ป.ล. โปรดสังเกตุว่าเรียงอายุเท่าที่รู้และเดาได้
ป.ล. ๒ ลืมชื่อใครไปบ้างโปรดให้อภัยและขอเรียนเชิญไปงานบุญกันค่ะ
ป.ล. ๓ ตัวหนังสือใหญ่เพราะรู้แล้วว่าอายุรวมของกระทู้เป็นพันปี ^^

เห็นชอบกันทุกคนไหมคะ น้องอ๊อฟบอกว่าจะจัดให้แต่งแบบเต็มยศ ถ้าเต็มยศสมัยโน่นผู้หญิงก็ห่มผ้าแถบกันมานะค๊า ส่วนผู้ชายนุ่งโจงมาอย่างเดียวเสื้อไม่ต้องสวม โชว์ซิกเพ็คคคคคค(เอคโค่) อิอิ



ฟังประวัติและบทสวดมหาสันติงหลวง โดยพระสงฆ์วัดราชผาติการาม กรุงเทพฯค่ะ

[MUSIC]http://mantra.at.co.th/chanting/ooppasanti/ooppatasanti.wma[/MUSIC]​

 

โมทนา สาธุ สาธุค่ะ

ยินดีร่วมแรง ร่วมใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ งั้นขอนุญาติเอางานไปประชาสัมพันธ์ในกระทู้เจ๊เลยนะคะ ที่ทู้เจ๊มีชาว*ยุดยาหลายท่าน ลุงหมานก้ออยู่ อ.ท่าเรือ
อ.อริยบุตร ท่านอยู่ อ.นครหลวง และมีอีกหลายท่านค่ะตอนนี้นึกไม่ออก

นี่ๆๆๆๆยัยคุนนายทางสายธาตุ คุนเรียงอายุสับสนผิดไปป่ะ อิช้านน่ะต้องคนปิดท้ายย่ะ
อุ๊บบส์สสสสส พูดจาผิดระเบียบรึป่าว อิอิอิ

 

คุณนายเจ๊อยากอยู่แถวหลัง แหมเพิ่งไปเที่ยวบ้านผีสิงที่พิพิธภัณฑ์ริบลี่ย์พัทยามา ให้เจ๊อยู่หลังสุดเลยดีไหม ผีจะได้จับตัวก่อน อิอิ




ลุงหมานยังอยู่ในวัยละอ่อนดูจากรูปแทนตัวก็รู้ ^^

อ.อริยบุตรอยู่ อ.นครหลวงหรือคะ รู้จักพระอาจารย์สุรินทร์วัดนครหลวงไหมคะ ไปเที่ยวกับนครหลวงมาเมื่อไม่นานนี้ค่ะ

 

คัมภีร์อุปปาตะสันติ

​

คัมภีร์อุปปาตะสันติ

​

อุปปาตะสันติ แปลว่า บทสวดสงบเคราะห์กรรม หรือบทสวดสงบอันตราย บทสวดสงบเหตุร้าย และบทสวดสงบสิ่งกระทบกระเทือน

คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณคดีบาลีลานนาไทย เป็นคัมภีร์ไทย แต่งที่เชียงใหม่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึง พ.ศ. ๒๓๑๐ ผู้แต่งคือพระสีลวังสะมหาเถระ


สมัยหนึ่งเชียงใหม่มีโจรผู้ร้ายและอันธพาลชุกชุมผิดปกติ มีเหตุร้ายอยู่เสมอ พระสีละวังสะมหาเถระจึงให้พระสงฆ์ สามเณร และประชาชน พากันสวดและฟังอุปปาตะสันติ เพื่อสงบเหตุร้ายให้กลายเป็นดี

ต่อมาต้นฉบับคัมภีร์อุปปาตะสันติได้หายจากเมืองไทยไปอยู่ที่พม่า ชาวพม่าเลื่อมใสคัมภีร์นี้ ถือว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ นิยมสวดกันมาก และในที่สุดได้มีการนำคัมภีร์เก่าแก่นี้กลับคืนมาเมืองไทย คนไทยจึงได้กลับมาสวดและฟังอุปปาตะสันติอีกครั้ง


เรื่องราวที่กล่าวถึงในคัมภีร์อุปปาตะสันติที่สำคัญมี ๓ ประการ คือ ๑. สันติ หรือ มหาสันติ (ความสงบ)๒. โสตถิ (ความสวัสดี ความปลอดภัย)๓. อาโรคะยะ (ความไม่มีโรค)

เชื่อกันว่า คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีความศักดิ์สิทธ์มาก ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมพบกับความสุขสงบ ปลอดภัย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ชนะเหตุร้ายทั้งปวง และสิ่งที่ร้ายจะกลับกลายเป็นดี


http://sweetjiab.multiply.com/reviews/item/101

 

โครงการสวดมหาสันติงหลวง ณ.วัดวรเชษฐ์ ในวันจันทร์ที่๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ จะมีการมอบของที่ระลึกให้กับผู้ร่วมสมทบทุน ดังนี้ครับ
พระกริ่งนเรศวร มอบให้กับ ผู้ร่วมบุญ 1,499 บาทขึ้นไป (ยังไม่เปิดรับจอง)
หลงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดขนาด3.2 ซม. รุ่น หลวงปู่เข้ากรุง
(ประวัติเป็นอย่างไรจะนำมากล่าวต่อไปนะครับ)มอบให้กับผู้ร่วมบุญ 299 บาท
มวลสารหลักในการจัดสร้างพระหลงปู่ทวด<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
// กทม.//
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดบวรนิเวศน์วรมหาวิหาร
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดสุทัศน์เทพวรารามวรมหาวิหาร
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดชนะสงคราม
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดอรุณราชวราราม
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดเชตุพนวิมลมังคลาราม
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล ศาลพระหลักเมืองกรุงเทพฯ
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล ภูเขาทอง วัดสระเกศ<o></o>
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล พระประธานวัดหนองแขม <o></o>
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล หลวงพ่อโต,หลวงพ่อพร,หลวงพ่อเพ็ง,หลวงพ่อถนอม วัดหนองแขม <o></o>
// นครปฐม.//<o></o>
- ผงธูปพระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดปฐมพระเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
- น้ำพระพุทธมนต์ องค์พระวัดปฐมพระเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
- ผงธูปบูชาหลวงพ่อวัดไร่ขิง
- น้ำพระพุทธมนต์และผงธูปในพระอุโบสถ วัดไร่ขิง<o></o>
//พระนครศรีอยุธยา//<o></o>
- ผงดินมวลสารมงคล วัดพระศรีสรรเพชญ์<o></o>
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดพระมงคลบพิตร
- ผงธูปดอกไม้บูชามวลสารมงคล วัดกษัตราธิราช
ฯลฯ
ทุกองค์มีใบรับประกันความแท้ ด้านหลังมีคำว่า"สมเด็จพระนเรศ๕๔" ทุกองค์มีเลขกำกับ และจัดสร้างตามจำนวนผู้สั่งจองเท่านั้น
ในวันงานจะมีการแจกพระผงจักรพรรดิ์ให้กับผู้ร่วมงานทุกท่านครับ
หากพี่ๆมีความเห็นอย่างไร ขอเชิญแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ จะได้นำไปปรับปรุงครับ ขอบคุณครับ