ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ดีเอสไอพบแก๊งล้มเจ้ายังคงเคลื่อนไหว กระทำผิดหมิ่นเหม่ต่อสถาบันอย่างต่อเนื่อง แถมระบาดหนักในรูปแบบเฟซบุ๊ก และสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น เตรียมหาหลักฐานเอาผิด

วันนี้ (9 พ.ย.) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้าการประชุมคดีมุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า พนักงานสอบสวนที่ได้แบ่งชุดไปนั้น ได้รายงานความคืบหน้าในส่วนที่ได้รับผิดชอบในส่วนต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวพฤติกรรมของเครือข่ายต่างๆ ที่มีลักษณะการกระทำผิดที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบัน ซึ่งได้พบการเคลื่อนไหวรูปแบบของสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น เช่น สื่อเฟซบุ๊ก โดยมีกลุ่มบุคคลทำการสวมรอยเข้าไปในไอดีของคนอื่น และทำการส่งข้อความ หรือภาพที่มีลักษณะไม่สมควรไปสู่คนอื่น โดยที่เจ้าของไอดีไม่ทราบ จึงไม่อยากให้ประชาชนโดยทั่วไปอย่าหลงเชื่อ เพราะกลุ่มบุคคลดังกล่าวจะอาศัยช่องทางใช้การตอบโต้กันไปมา เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่อีกทางหนึ่ง.....


www.manager.co.th

 

คำสอนหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เรื่องโทษของการไม่ฝึกจิต

http://palungjit.org/attachments/a.1210501/​

ขออาราธนาคำสอนหลวงปู่เหรียญ วรลาโภมาสอนจิตตนเองค่ะ​

จิตใจคนเราชอบคิดไป คิดวิตกวิจารณ์เรื่องต่างๆมากเกินไป​

ตั้งสติให้จิตยุติการคิด เอาสติสัมปัชชัญญะควบคุมจิตให้ได้เลย​

ใจไม่ตั้งมั่น การงานอะไรสำเร็จไม่ได้เลย​

จิตใจที่เลื่อนลอยเหมือนอย่างลิงที่กระโดดโลดเล่นไปกลางป่า​

จิตใจมันหิวความสุข มันหิวความพอ คือมันไม่พอ มันไม่อิ่ม​

แต่คนเรานั้นสามารถควบคุมจิตตนเองได้ เมื่อฟังคำสอนพระพุทธเจ้าแล้ว ​

ได้รู้ได้เห็นโทษของการปล่อยจิตปล่อยใจ​

จิตที่คิดไปทางอกุศล หากเมื่อความตายมาตัดรอนชีวิตขณะที่จิตคิดอกุศล ตายไปต้องตกไปอบายภูมิทั้ง ๔ ​

เมื่อเตือนตนได้อย่างนี้ว่าความตายมันใกล้เข้ามา ก็จะได้รีบตั้งมั่นในบุญในกุศล ฝึกจิตของตนให้ไปในทางกุศล​

จิตดวงเดียวของเรานี้ฝึกได้​

 

การแข่งขันระหว่างเด็กไทยกับเชค (CZE) เพิ่งจบสด ๆ ร้อน ๆ
เด็กไทยทำได้ดีค่ะ ชนะ 3 : 1 เซ็ทแรกแพ้ 3 เซ็ทหลัง ชนะรวด
ตอนนั่งดูเซ็ทแรก ยังคิดในใจ ถึง match นี้ในสนามจะแพ้ แต่นอกสนามลูก ๆ จะชนะใจคนเชียร์

ขอให้สาว ๆ นักตบเลือดไทย จงเป็น Dream team , Idol team ให้กับคนไทยทุก ๆ คน

 

​

ได้สอบถามผู้รู้มาแล้ว ลูกศิษย์แม่จันทาฤกษ์ยาม บอกว่าพระฤาษีในรูปชื่อ พระฤาษีจุลมณี ถ่ายรูปนี้ได้ที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดอุบลราชธานี​

ทางสายธาตุจึงหาดูประวัติพระฤาษีจุลมณี แต่ไปพบรูปหลวงปู่ คำคะนิง จุลมณี แห่งวัดถ้ำคูหาสวรรค์ จังหวัดอุบลราชธานี ดิฉันเห็นรูปหลวงปู่แล้วประหลาดใจในด้านสรีระของหลวงปู่ช่างใกล้เคียงกับปู่ฤาษีจุลมณีในรูปโดยแท้ สาธุ ถ้าทางสายธาตุมีความเห็นผิดพลาดไปประการใด กราบขอขมาหลวงปู่ขอโปรดให้อภัยกับความไม่รู้ของหนูด้วยค่ะ​

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top noWrap align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top><HR>

​

ประวัติและปฏิปทา

หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ​

วัดถ้ำคูหาสวรรค์

ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ​

๏ นามเดิม ​

คำคะนิง จุลมณี ​

๏ สถานที่เกิด ​

บ้านหนองบัว แขวงคำม่วน ประเทศลาว เมื่อวันพุธ เดือน ๔ ปีกุน พ.ศ. ๒๔๓๗ ​

๏ โยมบิดา-โยมมารดา ​

นายคินทะโนราช และนางนุ่น จุลมณี ​

๏ การบรรพชา ​

(หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ก่อนจะบวชเป็นพระภิกษุ ท่านเคยเป็นฤาษีชีไพรมาก่อน ๑๕ ปี ) ท่านบรรพชาเมื่ออายุได้ ๑๘ ปี บวชได้ ๙ วัน เพื่อทดแทนคุณบิดามารดาที่ตายไป หลังจากนั้นพบครบก็ต้องลาสึก แม้ว่าอยากจะบวชต่อเพียงไรแต่เพราะมีหน้าที่ความจำเป็นต้องเลี้ยงดูครอบครัว (ท่านแต่งงานเมื่ออายุ ๑๘ ปี มีบุตร ๒ คน ) แต่ท่านก็ยังยึดมั่นในการปฏิบัติธรรมโดยการทำงานหาเงินให้เมียกับลูกตอนกลางวัน พอกลางคืนท่านก็ไปนอนที่วัด ถือศีลปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเพียรภาวนาไม่กลับไปอยู่ที่บ้าน เพียงดูแลลูกและเมียไม่ให้อดอยาก ทำเช่นนี้จนภรรยาทนไม่ได้ที่เห็นสามีปฏิบัติตัวแบบนี้ จึงอนุญาตให้ท่านบวชได้ตามใจปรารถนา ​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top noWrap align=right>

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8772​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองไม่น้อยกับการที่กองทัพอากาศได้ส่งตัวแทนเจ้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายทหารอากาศยศนาวาอากาศตรีนายหนึ่งฐานโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กในลักษณะโจมตีสถาบันเบื้องสูง พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและสั่งให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีผลสรุปทางคดีออกมา....



ที่ว่าน่าจับตาก็เป็นเพราะนี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของกองทัพ ที่คราวนี้บังเอิญว่ามีการแถลงข่าวเปิดเผยมาจาก โฆษกกองทัพอากาศทำให้ได้ทราบเรื่องดังกล่าว...

จากการแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวถือว่า น่าตกใจไม่น้อย เพราะเป็นกำลังพลในกองทัพซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักคือพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต และน่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ นายทหารที่ถูกดำเนินคดีดังกล่าวเป็นนายทหารรุ่นหนุ่มมียศแค่นาวาอากาศตรี ซึ่งมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

อย่างไรก็ดีปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นหากพิจารณาอีกมุมหนึ่งย่อมแสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของกองทัพในการเก็บกวาดสะสางปัญหาภายในที่สะสมมานาน....
ขณะเดียวกันยังมีการเร่งปิดและบล็อกเว็บไซต์ที่จาบจ้วงสถาบันตามมาอีกนับร้อยนับพันเว็บในเวลาไล่เลี่ยกันสะท้อนให้เห็นถึงการตื่นตัวอย่างเห็นได้ชัด

ปรากฎการณ์ดังกล่าวในภาพรวมถือว่ากลไกของรัฐกำลังทำงานในการบังคับใช้กฎหมายอย่างได้ผลมากขึ้นเรื่อยๆ...

Politics - Manager Online - ��ЪѺ��鹷���ӨѴ �����ᵧ��� ��ǹ����������㹡ͧ�Ѿ !!

 

คติสอนใจจากคุณเปลว สีเงิน

...อะไรที่เรียกว่าสะอาดทั้งหมด ล้วนมาจากของไม่สะอาดทั้งนั้น เช่น ผ้าขาวสะอาด ผ้านั้นก็มาจากต้นพืชที่เกิดอยู่ในธุลีดินอันไม่สะอาด ผักสะอาด ผักนั้นก็มาจากร่องผักหนักทั้งปุ๋ยหมัก-ปุ๋ยเคมี
ฉะนั้น ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เราจะเลือกเอาได้อย่างเดียว โดยไม่มีอีกอย่างติดปนอยู่ด้วย ดีก็อยู่ในชั่ว, ชั่วก็อยู่ในดี, สุขก็อยู่ในทุกข์ และทุกข์ก็อยู่ในสุข, มืดก็อยู่ในสว่าง-สว่างก็อยู่ในมืด, ตายก็มาจากเกิด-เกิดก็มาจากตาย ด้วยความจริงที่ว่า สรรพสิ่งล้วนเกื้อและทำลายกัน และผสมรวมอยู่ด้วยกัน
ดังนั้น ธรรมชาติเมื่อให้ชีวิตแล้ว จึงให้เครื่อง "คัดแยกชีวิต" ติดตัวมาในแต่ละคนด้วย
นั่นคือ "สติ และสัมปชัญญะ"
เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว เราจะอยู่ใน "สังคมรวม" ได้อย่างเป็นสุข และไม่ฝืนกับความจริงที่เป็นอยู่ของโลกมนุษย์ที่ต้องอยู่ร่วมและอยู่รวมกันทุกประเภท ทุกเผ่าพันธุ์ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เราจะรู้จักความดี ก็ต้องอาศัยความไม่ดีของคนอื่นนั่นแหละเป็นครู...
...เพียงแต่เรารู้จักใช้เครื่องมือ "กรองคน-คัดแยกชีวิต" ที่ธรรมชาติมอบติดตัวมาให้ ด้วยตัวสติ-สัมปชัญญะนั้น จะทำให้เราอยู่ร่วมกับคนทั้งโลกตามเหลี่ยม-มุมของมัน โดยไม่ต้องขัดแย้ง และไม่ต้องยอมตาม ซึ่งทั้งเขา ทั้งเรา และทั้งโลก ก็จะอยู่ร่วม ทำงานร่วมกันได้ โดยไม่มีใคร "เสียประโยชน์" ฝ่ายตน...


http://www.thaipost.net/news/121110/30035

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วิสัยทัศน์และจุดยืนทหาร ณ สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ว.ร. ฤทธาคนี</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 พฤศจิกายน 2553 16:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>คนไทยได้รับรู้จุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนด้วยจิตวิญญาณ ท่านประกาศอย่างจริงใจว่า จะไม่ยอมให้ใครทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ กองทัพบกจะต้องปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้ได้ และพูดอย่างตรงๆ ถึงพวกขบวนการล้มเจ้าว่า กองทัพบกพร้อมที่จะจัดการกับผู้ที่ล่วงละเมิด จ้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ใครที่ทำอยู่ก็ขอให้หยุดเสีย ใครไม่เชื่อก็อย่ามาโอดครวญภายหลัง เพราะถือว่าได้เตือนแล้ว จนเกิดอาการลักษณะวัวสันหลังหวะกันทั่วหน้าในหมู่นิยมอนาธิปไตยต่อต้านสถาบันชาติ

เรื่องขบวนการล้มเจ้าในปัจจุบันจะใช้มิติเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นกลไกทำลายสถาบัน ซึ่งทุกเหล่าทัพดำเนินการต่อต้านอย่างฉับพลันอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นศึกจากเนื้อในชาติที่มุ่งร้ายต่อสถาบัน ถึงแม้ว่าจะยากแต่ต้องปฏิบัติการอย่างเฉียบขาด

นโยบายผู้บังคับบัญชานี้ ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารทุกระดับชั้นจะต้องยึดถือ และนำมาขยายความให้เป็นคำสั่งและข้อปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชา และถ่ายทอดลงไปถึงทหารปลายแถวคนสุดท้าย

ดังนั้น สาธารณชนราชภักดี จงมีความเชื่อมั่นว่าการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารทุกเหล่าทัพ โดยเฉพาะในกองทัพบกยุค พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ทุกคนต้องรับรู้ว่าเกณฑ์การพิจารณาหลักในอาชีพทหารแล้ว คือ การแสดงตัวจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์อย่างเคร่งครัดจริงใจ

เกณฑ์การพิจารณานี้ทหารไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะทุกคนต้องกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงไชยเฉลิมพล อันเป็นพิธีที่สำคัญยิ่งของทหาร ถือว่าได้มอบกายถวายชีวิตแก่ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นการกระทำต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะบนยอดธงไชยเฉลิมพล มีพระยอดธงอันศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ ทั้งยังบรรจุพระเกศาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นการกระทำที่ทรงเกียรติยศ หมายถึงคุณงามความดีภายนอกของบุคคลที่ต้องรักษาไว้ ได้แก่เครื่องเชิดชูตนเองมีเครื่องแบบ ยศทหาร และเหรียญตราต่างๆ และเกียรติคุณหรือเกียรติศักดิ์ของบุคคลที่อยู่ภายในจิตใจของผู้นั้น

นอกจากนี้แล้วนักเรียนทหารและทหารที่สังกัดกรมทหารรักษาพระองค์ทุกเหล่าทัพ ยังต้องเข้าร่วมการสวนสนามปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กิจกรรมอันประเสริฐทั้งสองนี้ เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของทหาร เป็นเรื่องสำคัญยิ่งของวินัย เพราะวินัยเป็นกฎที่ทหารต้องยึดปฏิบัติอย่างจริงใจ เป็นอุดมการณ์ เป็นความจริงใจ และเป็นพฤติกรรมของทหาร และการไม่รักษาสัจวาจา ย่อมผิดหลักคุณธรรมอยู่แล้ว เพราะตระบัดสัตย์

อุดมการณ์ของกองทัพบกคือเป็นกำลังพลที่ดีที่สุด โดยมีความจงรักภักดี มีความยึดมั่นในเกียรติและศักดิ์ศรีของทหาร มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และมีความเสียสละ ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันทางการเมือง กองทัพบกยึดเรื่องการที่จะพิทักษ์และเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มขีดความสามารถ โดยจะมิยอมให้ผู้ใดกระทำการพาดพิงหรือก้าวล่วงเกินเป็นอันขาด รวมทั้งสถาบันองคมนตรี ซึ่งอยู่ในพระราชอำนาจและพระราชวินิจฉัยของพระมหากษัตริย์ และประกาศิตนี้ทหารบกต้องยึดมั่น

ในส่วนกองทัพอากาศนั้น ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้ซึ่งแสดงจุดยืนชัดเจนในเรื่องของความจงรักภักดีและผ่านการท้าทายมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

ผู้บัญชาการทหารอากาศ ประกาศพัฒนากองทัพอากาศให้เป็นกองทัพอากาศ Digital ทั้งยังแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนที่จะปลดแอกจากการควบคุมของสหรัฐฯ ในเรื่องยุทโธปกรณ์ทางอากาศ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ มักจะวางกรอบแนวทางการพัฒนาทางอากาศของกองทัพอากาศไทยไม่ให้เกินกำหนดซึ่งเห็นชัดเจนในยุค พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ เป็นผบ.ทอ. และต้องการพัฒนากำลังทางอากาศสู่ยุคคอมพิวเตอร์ และวางเจตจำนงที่จะซื้อเครื่องบิน F-16 เครื่องยนต์ F-100-PW-200 แต่สหรัฐฯ กลับจะขายเครื่องบิน F-16 / F-100-PW-100 ซึ่งใช้เครื่องยนต์เก่าเก็บ และมีปัญหามาก พล.อ.อ.ประพันธ์ เลยแสดงความสนใจที่จะซื้อเครื่องบิน Chengdu F-7 ของจีนแทน ทำให้สหรัฐฯ ร้อนตัวและยอมขาย F-16/ F-100-PW-200 ที่ทันสมัยในยุคนั้นให้กับกองทัพอากาศ

กองทัพอากาศไทยในยุคของ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก จนถึง พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ จึงปฏิวัติปลดแอกสหรัฐฯ ด้วยการซื้อเครื่องบินรบเอนกประสงค์แบบกริพเพน เครื่องบินรบแนวหน้าของสวีเดน ซึ่งรัฐบาลสวีเดนแสดงความจริงใจด้วยการสนับสนุนให้ ทอ.ไทยเป็นกองทัพอากาศ Digital ด้วยการขายเครื่องบินแจ้งเตือน 2 ลำราคาถูก ลำหนึ่งติดตั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ระบบแจ้งเตือนอย่างครบครัน และลำที่ 2 เตรียมไว้ติดตั้งอุปกรณ์ตามสมัยในอนาคต ทำให้ในปี พ.ศ. 2555 ทอ.ไทยจะเป็นกองทัพอากาศ Digital ไม่แพ้กองทัพอากาศใดๆ ในภูมิภาคอาเซียนอันเป็นการดำรงเกียรติ ทอ.ที่มีมาช้านาน

ด้านความจงรักภักดีนั้น ท่านได้สั่งการด้วยตนเองให้จัดการกับนายทหารที่แสดงตัวต่อต้านสถาบันอย่างเด็ดขาด จริงจัง และใช้กลไกทางสงครามสารสนเทศตรวจสอบพฤติกรรมของนายทหารที่อ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทาง Cyber Space และท่านกำกับดูแลพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันด้วยตัวท่านเอง

ทราบว่าเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารร่วมรุ่น 36 ของ น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง ซึ่งเป็นตัวแทนรุ่นและเป็นนายทหารเรือ ได้แจ้งความเอาผิดเพื่อนคนนี้แล้ว นับว่าเป็นมิติที่ดีเมื่อทุกเหล่าทัพร่วมมือกันปกป้องสถาบัน

nidd.riddhagni@gmail.com




Daily News - Manager Online - ����·�ȹ���Шش�׹���� � ʶҹ��ó�������ͧ�Ѩ�غѹ



ร่วมมือกันปกป้องสถาบัน ด้วยความจงรักภักดี

ขออนุโมทนา สาธุ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แสงส่องไทย : พระเมตตาในวันแผ่นดินทุกข์

​

ทรงสด็จออก ณ ท่าน้ำศิริราช ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีแจ๊ส ของวง Preservation Hall Jazz
ที่ได้ร่วมบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลช่วยน้ำท่วม เย็นวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓​

​

Ben Jaffe ผู้อำนวยการวง ได้รับประทานพระราชวโรกาสเข้าเฝ้าถวายปัจจัยหลังเสร็จสิ้นการแสดงดนตรีบนเรือ​

ดุจดังฟ้าประทานแสงทองส่องไทย​

พระบารมีแผ่ไกลคุ้มดวงชีวา​

ชี้ทางใหม่เมื่อหมดหวัง​

ชุบพลังเมื่ออ่อนล้า​

แสงประกายจุดปัญญาไทยถึงฟ้าใหม่ ​

​

ทรงพระราชทานถุงยังชีพ ณ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ นครรราชสีมา เมื่อ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๓​

... จะตามรอยองค์ภูมินทร์ใต้แสงทองพานำ ​

สืบสานคุณธรรมพากเพียรไว้​

รู้รักสามัคคี สร้างเสริมความดีเรื่อยไป​

ดั่งแสงส่องใจไทยนิรันดร์ ​

​

สมเด็จพระเทพฯ ทรงเสด็จทอดพระเนตรความทุกข์ยาก บนเส้นทางไปยังอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ​

​

เกือบเดือนที่ผ่านมา ชีวิตประจำวันของเราต้องดำเนินไปท่ามกลางความทุกข์แสนสาหัส
ของพี่น้อง ร่วมชาติที่ประสบเคราะห์กรรมจากน้ำท่วม หากน้ำท่วมเป็นสงครามและ
โรคร้ายที่กำลังทำลายร้างประเทศไทยของเรา กรุงเทพฯ ก็ไม่ต่างจากสรมรภูมิและดิน
ผืนสุดท้ายที่ต้องรักษาไว้เพื่อบัญชาการรบ ศัตรูที่เรารบด้วย ไม่ใช่ใครที่ไหน . .
คือผู้คุ้นเคยที่เราได้อาศัยพึ่งพามาตั้งแต่เกิด โดยไม่สำเหนียกในบุญคุณ คุณค่า
อีกสำคัญผิด คิดว่าเราเก่งกว่าเขา เราทำลายล้างและเพียรพยายามที่จะเอาชนะพวก
เขาทั้งทางตรงและทางอ้อม

​

หาดใหญ่​

​

ปักธงขัย​

​

จอหอ







นับล้านชีวิตถูกธรรมชาติขังเอาไว้ในบ้าน บางครอบครัวอยู่ได้แต่ชั้นบน เพราะชั้นล่าง
น้ำท่วมหมด ต้องทนทุกข์ทรมานยิ่งกว่านักโทษในเรือนจำ .. ไม่มีทั้งข้าวกิน น้ำดื่ม
การดำรงชีวิตประจำวันเป็นที่น่าเวทนายิ่ง ตกกลางคืนก็ไม่มีไฟฟ้าใช เพราะกระแสไฟ
ถูกตัดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ น้ำอาจท่วมอยู่ ๒ - ๓ วัน แต่ทุกข์แสนสาหัสที่เกิดแก่
ชีวิตคนไทยนั้นยากเกินบรรยาย ผู้ไม่ได้เผชิญเคราะห์กรรม ต่อสู้กับธรรมชาติเพื่อ
ความอยู่รอดของชีวิตด้วยตนเอง จะไม่มีทางรับรู้ความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ได้เลยว่ามากมายเพียงไร ..

​

​

​

ท่ามกลางทุกขเวทนา ภาพน่าปิติที่ยากจะได้เห็น คนไทยแสดงต่อคนไทยด้วยกันอย่าง
ล้นเหลือและพร้อมเพรียงกัน ไม่รู้เหน็ดเหนื่อยในการกอบกู้ ช่วยชีวิต หนีจากอุทกภัย
หรือส่งปัจจัยยังชีพ มีให้เห็นตลอดวันในภาพข่าว ไม่มีวันสิ้นสุด

​

​

​

​

​

เป็นเวลานับหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุ โทรทัศน์ ได้ร่วมพลัง
เผยแพร่ภาพความวิบากของผู้รายงานข่าว อาสาสมัคร องค์กรภาคเอกชน ทหารและ
เจ้าหน้าที่รัฐ มุ่งมั่นเข้าไปยังหมู่บ้านไกล ๆ ที่เวิ้งน้ำแผ่ขยายไปทั่วผืนนา ท้องไร่
ถนนจมมิดใต้น้ำ ไม่รู้ว่าที่ใดเป็นถนน ที่ใดเป็นไร่นา เลือกสวน แม้รถความเร็วนับ
ร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะเข้าถึงพื้นที่ในยามปกติ ภาพเพื่อน
คนไทยด้วยกันพยายามนำส่งปัจจัยบริจาค เครื่องยังชีพ มอบให้จนถึงมือผู้ประสบภัย
บางรายแทบจะเรียกได้ว่าว่ายน้ำเอาไปส่ง หรือหย่อนลงจาเฮลิคอปเตอร์เลยทีเดียว

​

เมืองหาดใหญ่​

​

จักรราช โคราช​

​

ท่าน พล ต.อ, วสิษฐ เดชกุญชร ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งในบทความ ว่า



“ .. และที่คนไทยทั้งประเทศ ทั้งที่ประสบภัยและไม่ประสบภัยคงรู้สึกซาบซึ้ง อนุโมทนา
และมีกำลังใจที่จะเผชิญกับเคราะห์กรรมและช่วยเหลือกันต่อไป ก็คือพระมหกรุณาธิคุณ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถทรงพระ
กรุณาพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว รวมถึง
ปัจจุบันเป็นเงิน ๒๗ ล้านบาท ในขณะเดียวกันพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ก็
โดยเสด็จพระราชกุศลพระราชทานความช่วยเหลือในรูปต่าง ๆ แก่ผู้ประสบภัยด้วย

​

​

​

พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นเพื่อนทุกข์ของประชาชนคนไทยมา
โดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องน้ำนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัย
มาตั้งแต่เริ่มรัชกาล และได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการใช้น้ำเพื่อความสุขของ
ประชาชนเอาไว้หลายร้อยโครงการ


น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ลดลงได้เร็ว ก็เพราะเจ้าหน้าที่สามารถผันน้ำลงคลองขุดหลายสาย
ที่สร้างขึ้นตามพระราชดำริ ลงทะเลไปได้โดยรวดเร็ว






งานของรัฐบาลหลังน้ำท่วมนั้น ใคร ๆ ก็คงจะอนุมานได้ว่า เป็นงานหนักที่สุดชิ้นหนึ่ง
ซึ่งจะต้องใช้ทั้งแรงเงิน แรงกาย และกำลังสติปัญญา นอกจากเรื่องการฟื้นฟูทางวัตถุ
แล้ว ยังจะมีปัญหาทางใจของผู้ประสบภัย และการชดเชยให้แก่ผู้ที่ทรัพย์สินต้องถูกน้ำ
ทำลายไปด้วย

ความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมเมืองไทยครั้งนี้ ​

ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความเสียหายที่เกิดจากมหาสงครามครั้งใดเลย ​

ต่างกันก็ตรงที่ครั้งนี้ ข้าศึกคือธรรมชาติ ซึ่งจู่เข้าโจมตีโดยไม่มีการประกาศสงคราม ก่อน ​

​

ฉะนั้น เมื่อสงครามสงบลง สิ่งหนึ่งที่คนไทยทั้งประเทศ ทั้งรัฐและเอกชนจะต้องทำ ก็คือ
เ ต รี ย ม เ ผ ชิ ญ กั บ ส ง ค ร า ม ค รั้ ง ต่ อ ไ ป ​

ในการนี้ เราจะต้องยอมรับว่า น้ำท่วมและดินถล่มเป็นแต่เพียงปลายเหตุ
ต้นเหตุนั้น คือความละเลยไม่เอาใจใส่และไม่เห็นคุณค่าของธรรมชาติอัน
อุดมสมบูรณ์ของเมืองไทย

..

ผสมกับความโลภและความเห็นแก่ตัวของคนไทยที่มีพฤติการณ์ เสมือนหนึ่งร่วมกัน
ข่มขืน กระทำชำเราแม่ของตัวเอง โค่นต้นไม้ลงดงแล้วดงเล่า จนกระทั่งเมืองไทย
ทั้งประเทศเกือบจะเหลือแต่ดินเปล่า ๆ ขณะที่รัฐบาลชุดแล้วชุดเล่ามีแต่นโยบาย
สวย ๆ และนอกจากจะละเลย ไม่อนุวัตและบังคับใช้กฎหมายแล้ว คนใหญ่ ๆ
บางคนในรัฐบาลบางชุด ยังร่วมข่มขืนด้วยการเอาไม้ที่ถูกโค่นมาปลูกคฤหาสน์บนเขา
อวดความเลว ของตนอย่างสง่าผ่าเผยเสียด้วย

​

ชาวประมงอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี​

​

​

ถ้าเรายังไม่ตื่นตัว ทบทวนตัวเอง ยอมรับในบาปที่เราก่อเอาไว้
และเตรียมตัวรับสงคราม ครั้งต่อไป น้ำท่วมคราวหน้า
ความเสียหายที่จะเกิดแก่เมืองไทยอาจจะมหาศาลไม่น้อยกว่าคราวนี้
และสักวันหนึ่งอาจจะกลาย เป็นความวินาศที่ไม่มีใครสามรถจะแก้ได้ ​

เคราะห์กรรมที่เราจะได้รับอาจเป็นความหายนะครั้งสุดท้ายของเมืองไทย…” ​

​

​

ขอขอบคุณ athenaz blog และท่านที่เกี่ยวข้องทุกๆท่าน

 

๐ วัฏฏะอันน่าสงสาร...๐


เวียนวนแหวกว่ายเวิ้ง วังวน
เวียนเกิดเวียนตายจน เหนื่อยล้า
พอทีโลกร้อนรน แรงกิเลส
ดับภพดับชาติหน้า แน่วโน้ม นิพพาน

เวียนวนและแหวกว่าย
อยู่ในสายกิเลสา
เวียนวนและเหว่ว้า
ทั้งวุ่นวายหลายครั้งคราว

เป็นสัตว์เดรัจฉาน
ก็เนิ่นนานเจ็บระนาว
ทุกข์ยากก็ยืดยาว
มิรู้แจ้งซึ่งความจริง

เป็นคนก็หลายครา
ได้เกิดมาเป็นชายหญิง
เคยใหญ่ยืนยงยิ่ง
เคยต่ำต้อยน้อยบารมี

เคยชั่วเคยฉ้อฉล
เคยเป็นคนที่แสนดี
เคยรวยเป็นเศรษฐี
ทั้งยาจกก็เคยเป็น

เวียนวนและแหวกว่าย
มิผ่อนคลายแสนลำเค็ญ
น้ำตาไหลกระเซ็น
รวมกี่สายกระแสธาร

เหนื่อยล้ามาพอแล้ว
ถึงคราวแผ้วผ่องนิพพาน
ลาโลกที่ลนลาน
สู่แดนทิพย์ อมตะธรรม

ท่านจันทร์



www.manager.co.th

 

ขออนุญาติท่านจงรักฯ copy โคลงบทนี้ไว้นะคะ
เพราะเพิ่งสนทนาธรรมกับ พระอาจารย์ของดิฉัน เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เรื่องที่ปรากฎ อยู่ในโคลงบทนี้ทั้งสิ้น

 

สวัสดีค่ะคุณเจ้าจันทร์

เพิ่งสนทนาธรรมกับพี่แขก ญาติธรรมจากสุรินทร์ เดี๋ยวนี้พี่แขกมีญาติธรรมเป็นเด็กวัยรุ่นใฝ่หาพระธรรมซึ่งเป็นศิษย์ของท่านจันทร์ด้วยค่ะ เดินทางทอดกฐินร่วมกันหลายวัดทั่วอีสาน ดีใจพระศาสนาเจริญรุ่งเรืองเพราะมีผู้สืบทอดพระศาสนาไม่ขาดสาย ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

๐ วัฏฏะอันน่าสงสาร...๐


เวียนวนแหวกว่ายเวิ้ง วังวน
เวียนเกิดเวียนตายจน เหนื่อยล้า
พอทีโลกร้อนรน แรงกิเลส
ดับภพดับชาติหน้า แน่วโน้ม นิพพาน

เวียนวนและแหวกว่าย
อยู่ในสายกิเลสา
เวียนวนและเหว่ว้า
ทั้งวุ่นวายหลายครั้งคราว

เป็นสัตว์เดรัจฉาน
ก็เนิ่นนานเจ็บระนาว
ทุกข์ยากก็ยืดยาว
มิรู้แจ้งซึ่งความจริง

เป็นคนก็หลายครา
ได้เกิดมาเป็นชายหญิง
เคยใหญ่ยืนยงยิ่ง
เคยต่ำต้อยน้อยบารมี

เคยชั่วเคยฉ้อฉล
เคยเป็นคนที่แสนดี
เคยรวยเป็นเศรษฐี
ทั้งยาจกก็เคยเป็น

เวียนวนและแหวกว่าย
มิผ่อนคลายแสนลำเค็ญ
น้ำตาไหลกระเซ็น
รวมกี่สายกระแสธาร

เหนื่อยล้ามาพอแล้ว
ถึงคราวแผ้วผ่องนิพพาน
ลาโลกที่ลนลาน
สู่แดนทิพย์ อมตะธรรม

ท่านจันทร์



ขออนุญาติเปลี่ยนสีหน่อยนะคะ แสบตาหลายเด้อ

ถ้าใครสามารถปฎิบัติธรรมจนสามารถระลึกชาติได้ยิ่งระลึกได้หลายชาติ คงจะยิ่งเบื่อการวนเวียนเกิดตาย แต่ถ้ายังไม่เข้าใจวงจร ปฎิจจสมุปบาท และตัดปัจจัยแห่งการเกิดตายได้ ก็เวียนกันอยู่นั้นแหละ ไม่ไปไหน ศัพท์ยากนี้ทางสายธาตุตั้งใจจำมาเขียน รอเดี๋ยวคุณนายจะต้องเข้ามาถามว่า ปฎิจจสมุปบาท แปลว่าอะไร รอคุณนายเจ๊โหน่งมาถามก่อน แล้วจะตอบด้วยจารึกแผ่นทองแดงวัดไชยวัฒนาราม อย่างขลังเลยเพราะจารึกไว้ในแผ่นทองแดงแล้วผังไว้ที่ท้ายทอยพระพุทธรูปที่อยู่ในซุ้มทิศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๑๙๒

 

สวัสดีค่ะคุณทางสายธาตุ

ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ขอประวัติท่านจันทร์ด้วยได้ไหมคะ พอดี ดิฉันเพิ่งจะสำนึกได้ว่าเป็นพุทธเมื่อไม่นานมานี่เอง ยังไงต้องรบกวน Encyclopaedia girl ชี้แนะด้วยนะคะ

 

April 1st, 2007 Posted by: - White -
ผมคิดจะเขียนเรื่องนี้มาหลายที
คราวที่อ่านหนังสือเยอะ ๆ ช่วงก่อนก็อยากเขียน
คราวที่ไปอยุธยา ไปวัดใหญ่ ก็อยากเขียน
แต่ก็ไม่ได้เขียนซะที... วันนี้มีโอกาสดี มีเวลาก็เลยตั้งต้น
เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่ชี้ชะตาชาติเลยทีเดียวครับ
ผมเคยสงสัยว่า หนังสือเรียน และแบบเรียนของพวกเรา
เท่าที่เรียนกันมาตั้งแต่เล็กจนโต มีความถูกต้องแค่ไหน?

เรื่องนึงที่ผมคาใจมานาน เรื่องของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ที่ทรงพลัดหลงเข้าไปกลางทัพใหญ่ของพม่ากับสมเด็จพระอนุชา
จนเกิดยุทธหัตถี และกลายเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของชาวสยาม
ผมเคยสงสัยว่า ทำไมแม่ทัพใหญ่ของไทย ไม่มีใครตามไปช่วย
ไม่มีใครเลยซักคนเดียว......

ต้องขออนุญาต ท่านเจ้าของบทความและท่านเจ้าของเว็บไซต์ AnneFriday.com ที่ได้คัดลอกข้อความข้างต้นมาจั่วนำเสนอท่านผู้อ่านไว้ด้วยตัวอักษรสีแดง ในกระทู้ "ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" กระทู้นี้มีเจตจำนงที่แน่วแน่ในความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านและสถาบัน มีการนำเสนอบทความและข้อความที่มีเนื้อหาสาระที่เทิดทูนและเฉลิมพระเกียรติและพระวีรกรรมของพระองค์ท่านและของสถาบันอยู่เป็นเนืองๆ จากบทความ "ประวัติศาสตร์ที่เชื่อถือได้ ? "ในเว็บไซต์ ที่ได้กล่าวถึงแล้วมีเนื้อหาสาระที่มีนัยเป็นการเทิดพระเกียรติเป็นที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถทั้งในความเป็นผู้นำและความสามารถทางด้านการรบและการศึกสงคราม

.............................................................
ท่านผู้ใดอยากทราบคำตอบและรายละเอียดของเรื่องนี้ ขอเชิญติดตามได้ที่ AnneFriday � ประวัติศาสตร์ที่เชื่อถือได้?

แล้วท่านจะได้คำตอบที่ท่านอาจไม่เคยได้คิดมาก่อนก็เป็นได้ !!!
​

 

อ่ะ . . . ขอมา ก้อจัดหั้ย ปฎิจจสมุปบาท แปลว่า อิหยังก๊ะ

อิช้าน มันจำพวกพวกบุคคลตัวอย่าง จับฉลากได้มาเป็นพุทธ :VO ขอแม่นางชี้แนะ เจ้าค่ะ

 

สวัสดีคุณนาย ตืนเช้าจังค่ะ

อ่านเรื่องราวตอนสงครามยุทธหัตถี ที่พี่จงรักภักดีนำมาให้อ่านแล้ว รู้สึกว่เขาวิเคราะห์ได้น่าสนใจ เคยสังเกตุๆเหมือนกันค่ะว่าทหารคนสนิทของสมเด็จพระนเรศวร จะเป็นคนจากหัวเมืองรอบๆเมืองพิษณุโลกและพวกทหารต่างชาติที่เข้ามาอาศัยใต้ร่มพระบารมี ทั้งชาติมอญ ไทใหญ่ แขกมัวร์ ญี่ปุ่น จีน จาม ก็รู้สึกว่าสอดคล้องไปในทำนองเดียวกับบทความ และที่หนูเคยอ่านเกร็ดพงศาวดาร ก็พูดถึงพวกขุนนางในอยุธยาทูลกับพระมหาธรรมราชาว่า ให้ส่งตัวสมเด็จพระนเรศวรกลับไปให้หงสาวดีเพราะไม่อยากมีเรื่องกับพม่า

 

แปลกนะคะ สมัยอยุธยาชอบใช้ภาษาขอมในการเขียนจารึกต่างๆ ครั้งที่แล้วก็จารึกผู้สร้างวัดอัมพวัน สิงห์บุรี ก็จารึกคาถาหัวใจเจ้าสัวเป็นภาษาขอมโบราณ มีคนบอกว่าภาษาขอมโบราณดัดแปลงมาจากภาษาเทพ คนที่สื่อสารกับญานเทพได้เป็นผู้ถ่ายทอดไว้ต่อมาๆก็แปลงเป็นภาษาขอม แล้วพ่อขุมรามก็ทรงดัดแปลงภาษาขอมโบราณนั้นเป็นภาษาไทย

 

อย่างจารึกแผ่นทองแดงวัดไชยวัฒนารามก็จารึกเป็นภาษาขอมอยุธยา สงสัยมีการรับภาษาขอมโบราณมาใช้ในสมัยนั้นแล้วแปลงเป็นขอมอยุธยาละมั้งคะ แต่ไม่มีความรู้เรื่องภาษาและการเขียน ได้แต่สันนิษฐานเอาว่าภาษาขอมอยุธยาคงดัดแปลงมาจากภาษาขอมโบราณ

จารึกแผ่นทองแดงวัดไชยวัฒนาราม​

<TABLE style="FONT-FAMILY: Microsoft Sans Serif; FONT-SIZE: 10pt" border=0 cellSpacing=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>อักษรที่มีในจารึก</TD><TD>ขอมอยุธยา</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>ศักราช</TD><TD>พุทธศักราช ๒๑๙๒</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>ภาษา</TD><TD>บาลี, ไทย</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>ด้าน/บรรทัด</TD><TD>จำนวนด้าน ๑ ด้าน มี ๖ บรรทัด</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>วัตถุจารึก</TD><TD>แผ่นทองแดง</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>ลักษณะวัตถุ</TD><TD>รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>ขนาดวัตถุ</TD><TD>กว้าง ๑๒ ซม. ยาว ๔๘ ซม.</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>บัญชี/ทะเบียนวัตถุ</TD><TD>๑) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น "อย. ๗๖ - ๘๐"
๒) ในวารสาร ศิลปากร ปีที่ ๓๕ ฉบับที่ ๖ (๒๕๓๕) กำหนดเป็น "จารึกแผ่นทองแดงวัดไชยวัฒนาราม"</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>พบเมื่อ</TD><TD>วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>สถานที่พบ</TD><TD>บริเวณท้ายทอยพระพุทธรูปทรงเครื่อง องค์ที่ ๗ วัดชัยวัฒนาราม ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>ผู้พบ</TD><TD>นายประทีป เพ็งตะโก</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อักษรขอมโบราณ มีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๘ ในที่นี้จะรวมถึงอักษรขอมสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ซึ่งเป็นต้นแบบของอักษรพ่อขุนรามคำแหงด้วย มีลักษณะตามตารางดังนี้ครับ (ให้มา ๔ สมัยเลยครับ)






วิวัฒนาการอักษรโบราณในดินแดนสุวรรณภูมิ

 

จารึกแผ่นทองแดงวัดไชยวัฒนาราม

<TABLE style="FONT-FAMILY: Microsoft Sans Serif; FONT-SIZE: 10pt" border=0 cellSpacing=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>ปัจจุบันอยู่ที่</TD><TD>บริเวณท้ายทอยพระพุทธรูปทรงเครื่อง องค์ที่ ๗ วัดไชยวัฒนาราม ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>พิมพ์เผยแพร่</TD><TD>วารสารศิลปากร ปีที่ ๓๕ ฉบับที่ ๖ (๒๕๓๕) : ๑๐๓ - ๑๐๘.</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>ประวัติ</TD><TD>เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ นายประทีป เพ็งตะโก นักโบราณคดี ๕ และ นายถนอมศักดิ์ แจ่มวิมล นักวิชาการช่างศิลป์ ๕ เจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พบจารึกขณะทำการสำรวจและศึกษาลวดลายปูนปั้นประดับพระพุทธรูปทรงเครื่อง ประดิษฐานที่เมรุทิศ เมรุรายรอบพระปรางค์ วัดไชยวัฒนาราม แผ่นจารึกอยู่ในลักษณะม้วนแบบตะกรุด บรรจุอยู่ตรงพระอุระด้านพระปฤษฎางค์ ซึ่งใกล้กับท้ายทอย มีลายปูนปั้นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนช่วงที่เป็นกรองศอปิดทับอยู่ ตัวจารึกบรรจุอยู่ในลักษณะแปะติดกับแกนพระพุทธรูปซึ่งทำด้วยไม้ มีปูนหุ้มภายนอก พบครั้งแรกจำนวน ๒ ชิ้น เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ คือ พระพุทธรูปหมายเลข ๒ และหมายเลข ๑๑ ซึ่งตำแหน่งที่พบตรงกัน คือ บริเวณท้ายทอยและจารึกม้วนอยู่ในภาพเดียวกันด้วย เมื่อตรวจสอบลักษณะสภาพของพระพุทธรูปทรงเครื่ององค์อื่นๆ ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่เมรุทิศ เมรุราย โดยรอบปรางค์ประธานแล้ว เชื่อว่าน่าจะยังมีจารึกหลงเหลือจากการถูกทำลายอีก หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จึงดำเนินการขออนุมัติไห้ดำเนินการได้ โดยมอบหมายให้ นายณรงค์ โคกสันเที้ยะ นายช่างศิลปกรรม ๖ เป็นผู้ดำเนินการ จึงได้พบจารึกเพิ่มอีก ๓ ชิ้น ที่พระพุทธรูปหมายเลข ๔, ๗ และ ๙ เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๓๕ จำนวนจารึกที่พบทั้งหมด ๕ แผ่น จารึก ๓ ชิ้น ที่พบคราวหลังนี้ มีอยู่ ๑ ชิ้น คลี่ออกแล้วและอ่านได้ความว่า เป็นคำจารึกที่จารึกด้วยอักษรขอม ภาษาบาลีและภาษาไทย ขึ้นต้นด้วย พระธรรมบท สมฺพุทฺเธ จำนวน ๑ บรรทัด ต่อด้วยบท ปฏิจฺจสมุปฺปาท อีก ๔ บรรทัด ส่วนบรรทัดสุดท้ายบอกวัน เดือน ปี แรกสร้าง เมื่อ วันพุธ เดือน ๔ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีจอ พุทธศักราช ๒๑๙๒ ซึ่งตรงกับวันทางสุริยคติ วันที่ ๑๖ มีนาคม</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=120 align=left>เนื้อหาโดยสังเขป</TD><TD>เนื้อหาในจารึกแสดงหลักธรรมที่สำคัญที่สุดของพุทธศาสนา คือ ปฏิจจสมุปบาท ซึ่งว่าด้วยกฎธรรมชาติของชีวิต ส่วนประกอบของปฏิจจสมุปบาท ได้แก่ อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ และชรามรณะ</TD></TR></TBODY></TABLE>