เกณฑ์อภิญญา

​

ปี ๒๕๒๑ ที่ฝึกมโนมยิทธิท่านให้ลดกำลัง ท่านบอกว่า ​

"จากนี้ไปอีก ๒๐ ปี ( ๒๕๔๑ ) อภิญญาหกจะขึ้น"​

"เพื่อนหลวงพ่ออีก ๒ องค์ อยู่หรือเปล่าครับหลวงพ่อ?"<O
"อยู่...!"<O
"ยังมีชีวิตอยู่หรือครับ?"<O
"มี! แต่เขาอยู่ในป่า..<O"
"ไม่มาบ้านเลยหรือครับ?"
<O
"มาไม่ได้ เป็นคำสั่งของครูบาอาจารย์ <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>ตั้งแต่บวช
สั่งว่าอายุ ๑๐ พรรษา แล้วให้ออกป่าเข้าป่า ห้ามเข้าบ้านจนกว่าจะตาย.."<O
"ทีนี้ถ้าเขาอยู่จะทำประโยชน์อะไรได้ล่ะครับ?"<O
"มีประโยชน์มากเชียวล่ะ! คือ พระที่นิยมป่ามีอยู่"<O
"หลวงพ่อช่วยชี้แจงหน่อยเถอะครับ?"​

<O
​

มันมีอยู่ปีหนึ่ง พ.ศ. ๒๕๑๒
ปีนั้นโจรจะปล้นบ้านเขา บ้านใครก็ไม่ทราบ แต่บังเอิญแกมาหาฉันก่อน
ฉันก็ไม่รู้ว่าแกเป็นโจรมาก่อน เพราะวันนั้นมีคนอยู่
กำลังนั่งคุยกันอยู่ประมาณสัก ๓๐ คนเศษ เจ้าหมาของฉัน ๒ ตัวมันนอนอยู่เฉย ๆ
เจ้าสองคนนี้แต่งตัวดีมาก
พอเข้ามาหมาก็เตรียมจะกัดท่าเดียว ก็ต้องจับ บอก
"ไอ้หนู! หลบไปก่อน เข้าไปพักก่อน"
<O
พอแขก ๓๐ คนเขากลับ ก็ให้เอาหมาไปขัง แล้วเรียกไอ้สองคนมา
พอมานั่ง ก็ถามว่า<O
"ไอ้หนู! มีใครเขาชวนมึงไปปล้นที่ไหนบ้างหรือเปล่า!"<O
"ถ้าเปล่าก็ดีแล้ว วันนี้แกตาย .. ​

​

คืนนี้น่ะตาย ๓ คน ตายเพราะปืนตำรวจ แกสองคนคืนนี้ต้องตายด้วย .."
<O
หน้าซีดเลย มันนึกว่าเราเป็นหมอดู แต่ความจริงเราเป็นหมอเดา
หมาดูไว้ก่อน เดาตามหมา ลักษณะหมามันบอกว่าต้องเป็นคนร้าย
คนทั้ง ๓๐ คนมาหมามันนอนเฉย ไอ้นั่นเข้ามาแต่งตัวเรียบร้อย เขาก็มาดี
หมามันจะกัด ถ้าเราเลี้ยงหมาจริง ๆ เราจะรู้หมามีประโยชน์มาก
มีสัญชาติญาณพิเศษ และผลที่สุดแกก็ยอมรับ และแกก็ถามว่า
"ผมรับปากเขาแล้วนี่ จะทำอย่างไร"​

​

<O
ก็บอกว่า
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ไม่มีใครเขาเอาคนป่วยไปปล้น
เธอกลับไปนี่ไปซื้อยาธาตุน้ำแดงคนละขวด เอาไปจะกินหรือเทเสียคนละครึ่งก็ได้นะ
ถ้าไอ้พวกนั้นมันชวน บอกว่า วันนี้ปวดท้อง มันก็ไม่เอาไป"
<O
แกก็ไปทำตามนั้น พออีก ๒ - ๓ วัน แกกลับมาใหม่ แกบอกว่า
"คืนนั้นจริงครับ ตาย ๓ คนจริง ๆ แต่ผมไม่ได้ไป"<O
ก็บอกว่า "นั่นซิ! เอ็งไม่ได้ไป ถ้าเอ็งไปเอ็งตัวร้ายนี่เสร็จ!!..."<O
ได้ทีขี่หมาไล่ส่ง ไม่มีแพะใช่ไหม หาแพะไม่ได้ ว่าหมาก่อน มันวิ่งเร็วกว่า
และก็ถามว่า ​

​

"จะเลิกไหม?"<O
"อยากจะเลิกครับ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร?"<O
ก็บอกว่า
"บวชสิ!..."<O
แกบอกว่า
"ไม่มีทุน.."​

​

<O

แกก็ยอม และให้ไปเอา เจ้าคุณธรรมโสภิต มาเป็นอุปัชฌาย์
พอบวช แกอยู่ได้พรรษากว่า ๆ
พอเดือนที่สองก็ลากลับจังหวัดอุบลฯ พรรษานั้นแกเจริญกรรมฐานทุก ๆ คืน
รู้สึกว่าทำได้ดีมาก พอจะสองปีแกพาเพื่อนมาอีก
รวมทั้งหมดเป็น ๑๐ คนด้วยกัน ถามว่า
"มาทำไม?"<O
บอกว่า
"อยากจะศึกษาวิชาอยู่ในป่าครับ"<O
แกบอก
"พร้อมแล้วครับ"<O
ก็ให้เขาศึกษาวิชาที่อยู่ในป่า และก็ถามว่า
"ไอ้เพื่อนทั้งหมดที่มานี่ลายพาดกลอนเหมือนกันใช่ไหม?"
<O
เขาก็บอกว่า
"ใช่ครับ"​

​

<Oคำว่า "ลายพาดกลอน" หมายความว่าเป็นพวกโจร เป็นอันว่าจับโจรเป็นพระหมด
ในฐานะที่แกเคยเป็นมาก่อน ก็พูดให้ฟังไว้เลย
<O
พอเขาศึกษาไปแล้ว เขาก็หายไปเลยไม่กลับมา
เมื่อปี ๒๕๑๙ ไปสุโขทัยกับ ท่านหญิงวิภาวดี
ช่วงนั้นพื้นที่เป็นเกาะ มีภูเขาล้อมรอบ นอน ๆ อากาศมันหนาว
ทีนี้พอนอนไปคนเขาก็หลับกันหมด ประมาณว่า ๑ ทุ่ม คนก็หลับ
เขาหลับหรือไม่หลับไม่ทราบนะ เขาเงียบกันหมดเราก็เข้าใจว่าหลับ
และไอ้สองเสือเขาก็ย่องมา ( หลวงพ่อลิงเล็ก หลวงพ่อลิงขาว )
ไอ้สองเสือก็คือสององค์ ที่อยู่ในป่านั่นน่ะ เขาก็มา เขาเดินมาถึงเขาก็ถามว่า
"เฮ้ย! มึงหนาวไหม?"<O
บอกว่า ​

​

"กูไม่หนาวว่ะ! ขันธ์ ๕ มันหนาว"<O
ใช้ศัพท์ภาษาไทยแท้ เขาบอกว่า <O
"ความจริงมันหนาวมากกว่านี้นะ แต่กูใช้เตโชกสิณช่วยให้บรรเทาความหนาว"
ถามว่า
"แกมากี่คนล่ะ?"<O
เขาบอกว่า ที่มาทั้งหมดล้อมรอบเขามา ๘ องค์ รวมเขาอีก ๒ ด้วยนะ
นั่งคุยกันสักพักเขาบอกว่า<O
"ลูกศิษย์แกเก่งจริงว่ะ!"<O
ถามว่า
"ใคร?"​

<O
"ไอ้ลายพาดกลอน ๑๐ ตัวน่ะ!"
<O
แหม...มันอยู่ป่ามันรู้ว่าเราเรียกไอ้ลายพาดกลอนได้
ไอ้พวกนั้นไม่พูดสักคน เขาตัดสินใจออกป่าแน่นอน
พวกนี้เขาก็ไปสอน เลยได้อภิญญาหมด
ก็เลยเป็นพระไม่รู้จักเกิด ในป่าเขาก็มีอยู่เยอะ ไม่ใช่น้อยนะ พวกอรัญวาสีนะ
อรัญวาสีแท้ ๆ เขามีอยู่ ฉะนั้นพวกที่ได้อภิญญาเวลานี้ก็ไมเหมาะสมกับการอยู่บ้าน
เพราะอยู่บ้านเขาหาว่าพระบ้า เขาหาว่าพระเล่นกล
"ท่านจะมีอายุยืนมากกว่า ๗๐ หรือเปล่าครับ?"
<O
อายุมันก็ยืนมั่งนอนมั่ง ถ้ายืนเฉย ๆ มันก็เมื่อย อายุจะยาวหรือไม่ยาวไม่สำคัญ
แค่อายุขัยธรรมดา อายุนี่มันเกินไม่ได้หรอก
ถ้าจะเกินได้ก็ต้องมีกิจมีความจำเป็นอย่างหนึ่ง
และเวลานี้อาจจะจำเป็นก็ได้ เพราะความจำเป็นมีอยู่ ​

​

เนื่องจากว่าศาสนาก็กำลังรวมตัวเข้ามาใช่ไหม ถ้าพวกนี้รีบตายกันเสียหมด
ใครจะช่วยล่ะ คนที่ขึ้นมาใครจะทำเวลานี้
ความเข้มข้นของบารมีของคนหนักขึ้นทุกวัน
ที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า
<O
"หลังจากกึ่งพุทธกาลแล้ว พุทธศาสนาจะรุ่งเรืองอีกวาระหนึ่ง
และก็จะมีพระอริยเจ้ามากคล้ายสมัยพระองค์อยู่"
<O
ปี ๒๕๒๑ ที่ฝึก
"มโนมยิทธิ"
ท่านให้ลดกำลัง ท่านบอกว่า
"จากนี้ไปอีก ๒๐ ปี ( ๒๕๔๑ ) อภิญญาหกกำลังจะขึ้น .."
หมายความว่า อภิญญาหกจะเข้า จะบำเพ็ญอภิญญาหกกันได้<O
คำว่า "เข้า" หมายความว่า กำลังใจคนรับอภิญญาหกได้
ทีนี้ถ้าหากว่าพวกนี้รีบตายไปเสียก่อน ไปไม่ได้แล้ว
ถ้าหากท่านรีบตายไปเสียก่อนแล้ว จะมีใครใช่ไหม
คือว่า พวกที่จะได้อภิญญาหกขึ้นมา มันต้องมีครูที่ได้อภิญญาหกสอน
ไปเอาครูวิชชาสาม เอาไอ้คน ป.๓ มาสอน ม.๘ มันก็เสร็จล่ะ! ใช่ไหม...สวัสดี*​

​

<O[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1024091/[/MUSIC]​

 

ขอถามท่านผู้รู้ครับว่า ตอนนี้อภิญญาหกมีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ แล้วท่านใดคือผู้สอนครับ พบแล้วหรือยังครับ

 

ณ ตอนนี้รู้สึกว่าพระศาสนาจะเริ่มรุ่งเรืองอีกครั้งแล้วครับ หลายคนหันหน้าเข้าวัดมากขึ้นรวมทั้งผมด้วย ดีใจที่ได้เกิดมาในช่วงเวลานี้ ถึงจะไม่มีพระพุทธเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่แต่ว่ามีคำสอนและหมู่พระอริยเจ้าอยู่ผมก็ดีใจมากแล้ว^^`

 

อภิวาทวันทา
อนุโมทนา สาธุ...สาธุ...สาธุ...
อนุโมทามิ​

 

ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่า ติงไม่ใช่ผู้รู้
...แต่ขอโอกาสแสดงความคิดเห็นนะคะ...
อยากให้เชื่อหลวงพ่อค่ะ ส่วนผู้สอนนั้นต้องเป็นผู้ได้อภิญญาด้วยกันถึงสอนกันได้
และคนได้อภิญญานี้เขาจะเก็บตัวเงียบไม่เปิดเผยค่ะ
คิดว่าแล้วแต่กำลังบุญบารมีของเรานะคะ ถ้าเราจะได้ ก็จะพบเองโดยไม่ยาก

​

 

อนุโมทนาค่ะ แถวบ้านติงเด็กๆ ไปวัดกันเยอะมาก
เวลาเด็กหนีเรียน จะหนีไปวัด
^^

​

 

อ่านแล้วดีใจขอรับที่่จะมีผู้สำเร็จอภิญญาหกเยอะๆ.....

 

อนุโมทนา สาธุ ครับ
หลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว อภิญญาหก จะขึ้น สาธุ สาธุ สาธุ

 

คงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดนะคะ ^^
อย่างที่ยโสธร เดี๋ยวนี้เด็กๆที่หันมาสนใจพระพุทธศาสนามีจำนวนมากขึ้น เด็กๆเหล่านี้เป็นพลังสำคัญในอนาคตค่ะ

 

หากได้เจอท่านทั้งสอง คงถือเป็นบุญเป็นวาสนานะคะ

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญนะคะครูติง เด็กรุ่นใหม่หันมาใส่ใจพระพุทธศาสนามากขึ้น ดีใจที่ได้ทราบนะคะ ศาสนาพุทธจะกลับมารุ่งเรืองอย่างถึงที่สุดเพราะเยาวชนคนรุ่นใหม่ช่วยกันสืบสานให้ยิ่งๆขึ้นไป

 

ท่านอยู่ที่วัดท่าขนุน

ท่านเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ

 

อนุโมทนาค่ะคุณครู นึกถึงเด็กเสมอเลยนะคะ ภูมิใจแทนลูกศิษย์ด้วยค่ะ ^___^

 

ที่เลิงนกทา มีกลุ่มเยาวชนพุทธบุตรวังน้ำทิพย์ ที่รวมตัวกันทำประโยชน์เพื่อสังคมค่ะ
เด็กๆพุทธบุตรรุ่น ๑ เรียนจบปริญญาตรีกันทุกคนแล้ว และกำลังเรียนต่อปริญญาโทค่ะ (รุ่น ๑ มีจำนวน ๑๒ คน)
รุ่นที่ ๒ ก็จบปริญญาตรีแล้ว....
เด็กๆเหล่านี้ สร้างค่ายพัฒนาโรงเรียน เขียนโครงการเองตั้งแต่อยู่ชั้น ม.๖ ค่ะ
ขณะนี้กำลังขยายเครือข่ายไปที่สกลนคร อุบลราชธานี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ขอนแก่นค่ะ
เพราะเขามีศูนย์รวมจิตใจคือหลวงปู่ของเขา
พระอาจารย์ บุญชวน ธมมฺโฆสโก เจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำทิพย์เทพสถิตวนาราม อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธรค่ะ

 

น้อมอนุโมทนาสาธุการค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ติงเป็นที่ปรึกษาเด็กพุทธบุตรวังน้ำทิพย์ค่ะ
แล้วก็...ติงมีความเชื่อว่า...
หากเราส่งเสริมเด็กๆด้านคุณธรรม จริยธรรม ให้เป็นสมบัติอันมีค่าติดตัวเด็ก
เขาเหล่านั้นจะไม่มีทางตกต่ำไม่ว่าทางใดๆ เพราะคุณธรรมในตัวเขา จะอุ้มชูเขาค่ะ
พระอาจารย์ท่านสอนว่า คนเราจะเจริญในทางโลก ก็ต้องเจริญในทางธรรมควบคู่กันไปค่ะ

 

ขอนอบน้อม กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end --> กราบ กราบ กราบ