มหัศจรรย์แห่งรัก จากกันกว่าครึ่งศตวรรษ ได้กลับมาครองคู่ยามไม้ใกล้ฝั่ง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Komodo, 3 พฤศจิกายน 2010.

  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,604
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มหัศจรรย์แห่งรัก จากกันกว่าครึ่งศตวรรษ ได้กลับมาครองคู่ยามไม้ใกล้ฝั่ง </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>3 พฤศจิกายน 2553 11:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000154511&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>




    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280><TBODY><TR><TD vAlign=top width=280 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หยวน ตี้เปา ในวัย 82 ปี และแดนนี่ หลี่ ในวัย 83 ปี กำลังนั่งอ่านจดหมายด้วยกัน และทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกันนานถึงมากกว่าครึ่งศตวรรษ(ภาพไชน่า เดลี่) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ไชน่า เดลี่ -เรื่องราวความรักของคนคู่หนึ่ง ที่ฝ่ามรสุมการเมืองและชีวิตส่วนตัว เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ กระทั่งได้มาพบกันอีกครั้ง ได้สมปรารถนาครองคู่ครองรักกันในยามไม้ใกล้ฝั่ง


    สาวลูกครึ่ง แดนนี่ หลี่ กับ นายหยวน ตี้เปา พบกันที่เมืองหังโจวในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2496 แต่โชคชะตาทำให้เขาทั้งสองพรากจากกันไปไกลถึงคนละซีกโลก นานถึง 54 ปี และปาฏิหาริย์แห่งรักก็เกิดขึ้น นำพาพวกเขามาพบกันอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองได้กลับมาครองรักแต่งงานกันในที่สุด ในวัยกว่า 80 ปี!



    เรื่องราวตำนานรักของทั้งสอง ได้กลายเป็นข่าวยอดนิยมในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์จีน นอกจากนี้ บรรดาชาวเน็ตจีน ต่างยกย่องความรักของคู่รักคู่นี้ว่าเป็น “ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก”



    แดนนี่ หลี่ กล่าวว่า “มันเหมือนความฝัน ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง”



    หลี่ เกิดในปี 2469 ณ กรุงปักกิ่ง มีแม่เป็นชาวฝรั่งเศส และพ่อเป็นชาวจีน เมื่อเธออายุ 24 ปี ก็ได้เป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง ในเมืองหังโจว และด้วยความเชี่ยวชาญถึง 4 ภาษา คือ ภาษาจีน อังกฤษ รัสเซีย และภาษาฝรั่งเศส จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก​



    หยวน ตี้เปา นักศึกษาปีหนึ่ง รูปหล่อ วัย 25 ปี ผู้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และเป็นนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชั้นเรียนภาษารัสเซียของหลี่ หยวนทั้งฉลาดและขยัน ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยการได้คะแนนสอบมากที่สุดในชั้นเรียน​



    “เขาเป็นคนดี ทั้งยังดีกับคนอื่นๆด้วย บรรดานักศึกษาและครูอาจารย์ล้วนชอบเขามาก” หลี่ รำลึกหยวนในช่วงวัยเรียน​



    ขณะที่ หลี่ เริ่มศึกษาถึงตัวตนของหยวน เธอก็พบว่า ทั้งหยวนกับเธอ มีสิ่งที่คล้ายกันอยู่มาก และความรู้สึกอันแสนอบอุ่นของหลี่ที่มีให้หยวน ก็ได้พัฒนาไปสู่ความรักอันแสนบริสุทธิ์ในที่สุด​



    ถึงแม้สังคมจะมองความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์เป็นเรื่องไม่ดีนัก ทั้งคู่ก็ยังสนิทสนมกัน โดยมีเพียงครอบครัวของหลี่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้



    ทุกๆครั้งที่หยวนไปขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนที่ห้องทำงานของหลี่ พวกเขาก็จะนัดกันต่อหลังเลิกเรียน​



    เมืองหังโจว ที่แห่งความรักอันแสนหวานปานน้ำผึ้ง



    ที่หังโจว หยวนมักเดินไปส่งหลี่ที่บ้าน และแวะบ้านของหลี่ครู่หนึ่งเสมอ ครอบครัวของหลี่ก็มิได้ขัดขวางแต่ประการใด กลับต้อนรับชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์และมีความสุภาพอ่อนโยนนี้อย่างดี​



    เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน หลี่มีความสุขหวานชื่น ขณะที่หยวน กลับสับสนว้าวุ่นอยู่ระหว่างความสุขและความรู้สึกผิด



    “ฉันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาเก็บงำไว้” หลี่ เล่า​



    ในตอนนั้น สิ่งที่หลี่ไม่รู้ ก็คือ หยวนได้แต่งงานมีภรรยาแล้ว​



    ครอบครัวของหยวนได้จัดการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวของเพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู้หลังอี้ว์ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ ในปี 2496​



    หยวนไม่ได้บอกหลี่ เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว​



    จนกระทั่งเมื่อปี 2497 ก่อนที่หยวนจะย้ายไปศึกษาต่อยังเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เขาจึงได้รวบรวมความกล้า และบอกกับหลี่ว่า​



    “ผมมีภรรยาแล้ว และจะต้องดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน”



    หัวใจของหลี่ร้าวรานเมื่อได้ยินคำสารภาพของหยวน และแม้ว่าจะรักหยวนมากเพียงใด แต่ทั้งคู่ก็จำต้องแยกจากกัน​



    “ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน” หลี่ ให้ความเห็น​



    หลังจากนั้น หลี่และหยวนก็ไม่ได้พบกันอีก​



    จากกันไกลถึงซีกโลก...



    ในปี 2499 หลี่ กับแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะออกจากประเทศจีน หลี่ได้เขียนจดหมายบอกลาหยวน​



    ทว่าไม่กี่วันต่อมา หยวนก็ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการส่งจดหมายอีกหลายฉบับ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อกันผ่านทางจดหมายมาตลอด​



    โดยจดหมายจากหลี่ จะส่งไปถึงที่ทำงานของหยวน ขณะเดียวกัน หยวนก็เก็บจดหมายทุกฉบับของหลี่ไว้ที่บ้านญาติ เพื่อไม่ให้ภรรยารู้​



    หลี่ ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ในสังคมที่เธอไม่คุ้นเคยในประเทศฝรั่งเศส ประกอบกับใบรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาของเธอก็ยังถูกปฏิเสธ อีกทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างจนทำให้เกิดความรู้สึกสับสน​



    หลี่ ได้เรียนรู้การเขียนชวเลข และการพิมพ์ดีด จนท้ายที่สุดก็ได้งานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทการค้าระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ขณะที่ หยวนก็สำเร็จการศึกษาและเริ่มทำงานในซย่าเหมิน​



    เนื้อความในจดหมายของทั้งสอง แทบจะไม่มีการระบายถึงความทุกข์ยากของแต่ละฝ่าย หยวนเล่าถึงความสุขที่ได้เป็นพ่อคน ขณะที่ หลี่ ก็ส่งนมผงสำหรับทารกและเสื้อผ้าเด็กมาให้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศจีนยังค่อนข้างขาดแคลนสินค้าดังกล่าว​







    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพหยวน ตี้เปา และแดนนี่ หลี่ ในช่วงปี 2493 (ภาพไชน่า เดลี่)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อถึงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (2509-2519) จดหมายของหลี่ก็เริ่มถูกตีกลับ และเธอได้หยุดเขียนจดหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหยวน แต่หลี่ ก็ไม่สามารถลืมหยวนได้


    “ฉันไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตฉันก็ตาม ฉันพบว่าความรักของหยวน เป็นรักแท้ และรู้สึกถึงความพิเศษที่ไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้” หลี่ เผยความใน​



    ในปี 2519 ทันทีที่หลี่มั่นใจว่าความวุ่นวายจากการปฏิวัตวัฒนธรรมในประเทศจีนได้สงบลง เธอก็เขียนจดหมายส่งไปยังที่ทำงานของหยวนเช่นเคย แต่จดหมายดังกล่าวถูกตีกลับ ในตอนนั้น เธอไม่รู้ว่า หยวนได้เปลี่ยนที่ทำงานแล้ว ซึ่งในปี 2516 หยวนได้เขียนจดหมายบอกหลี่ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง ทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีกครั้ง เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้เอง (2553) นานถึง 45 ปี ที่ทั้งสองพรากจากกันหลังจากได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย​



    แสงสว่างฉายโฉนบนเส้นทางรัก...



    ช่วงระหว่างเทศกาลตรุษจีน (ปลายเดือนก.พ.) โอวหยัง ลู่อิง ลูกสะใภ้คนที่สามของหยวน ได้ล่วงรู้จากญาติที่เป็นผู้ช่วยกุมความลับจดหมายของหลี่ไว้ ว่า พ่อสามีของเธอ ได้เคยตกหลุมรักกับครูต่างชาติสาวสวย เธอกล่าวว่า​



    “เมื่อได้ฟังเรื่องของพ่อสามีฉัน ก็สัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งในความรัก และเมื่อแม่สามีของฉันได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2537 ฉันจึงขอให้พ่อเขียนจดหมายอีกครั้ง”



    แม้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หยวนมักจะไปยังสถานที่ที่เขากับหลี่เคยมาด้วยกันเป็นประจำในเมืองหังโจว แต่หยวนก็ไม่เคยคาดคิดที่จะกลับไปติดต่อกับหลี่อีก​



    จนเมื่อลูกสะใภ้โอวหยังได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดจากก้นบึ้งในจิตใจ หยวนจึงมีกำลังใจและมีความหวังที่จะพบกับหลี่อีกครั้ง เขาใช้เวลาหลายวันในการเขียนจดหมายทั้งสิ้น 5 ฉบับ นอกจากจะเขียนเป็นภาษาจีนอวยพรให้หลี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หยวนยังเขียนถึงญาติของหลี่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเกรงว่าหลี่อาจเสียชีวิตแล้ว โดยเขียนว่า



    "ผมเป็นนักเรียนและเพื่อนของหลี่ และต้องการทราบถึงที่อยู่ของหลี่"



    ทุกๆ วันเว้นวัน หยวนได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ และหากไม่ได้รับจดหมายตอบกลับเลยสักฉบับ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจต้องยุติลงเพียงเท่านี้​



    ในที่สุดก็มีจดหมายส่งตรงจากฝรั่งเศส หยวนซึ่งบัดนี้อายุ 80 ปี ได้เปิดจดหมายฉบับนั้นด้วยมือที่สั่นเทา และได้เห็นลายมือที่คุ้นเคยอีกครั้ง หยวนเล่าถึงความรู้สึก ณ ขณะนั้น ว่า “ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่” ในซองจดหมายมีรูปของหลี่แนบมาพร้อมกับเนื้อความ 3 หน้ากระดาษ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอว่า...​



    "ในปี 2517 เป็นระยะเวลา 9 ปี หลังจากการติดต่อกันครั้งสุดท้าย ฉันจบการศึกษาภาษาจีนและได้รับคุณวุฒิเทียบเท่ามหาบัณฑิต จึงได้งานสอนภาษาจีนในมหาวิทยาลัยช็อง มูแลง - ลียง 3​



    ในปี 2535 ฉันเกษียณในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว และจากนั้นได้ทำงานเป็นรองประธานองค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยเหลือนักศึกษาชาวจีนในมหาวิทยาลัยนี้​



    เธอยังคงครองโสดและอยู่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตลง​



    ในวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลี่กลับมาถึงบ้านก็พบจดหมายของหยวนวางอยู่ที่พื้น เธอเล่าว่า “ฉันยังไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เพราะฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง”



    เธอนั่งมองจดหมายของหยวนที่สวนในบ้านตั้งแต่เที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืน กระทั่งเมื่อรุ่งอรุณเบิกฟ้าของวันถัดมา เธอก็ได้รับจดหมายของหยวนอีกฉบับ หลี่จึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่ความฝัน



    จากนั้นทั้งคู่ได้เริ่มส่งจดหมายหากันเหมือนแต่ก่อน และในบางครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของโอวหยัง ทำให้ทั้งหลี่ และหยวน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่นานก็กลับไปใช้การเขียนจดหมายเช่นเดิม เพราะหยวนมีปัญหาด้านการได้ยิน​



    ในการคุยโทรศัพท์ครั้งแรก หลี่ ได้เล่าว่า “โอวหยัง เรียกฉันว่าคุณแม่แดนนี่ ยังไม่เคยมีใครเรียกฉันว่าแม่มาก่อน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้ได้”



    หนึ่งเดือนต่อมา หยวนได้เชิญชวนให้หลี่มาที่ซย่าเหมิน และได้บอกกับหลี่ว่า “เธอต้องการมาอยู่กับฉันหรือแค่มาเยี่ยมก็ได้ แล้วแต่เธอจะตัดสินใจ”



    เมื่อหลี่ มาถึงซย่าเหมิน หยวนและครอบครัวก็ได้พบกับเธอที่สนามบิน และ ณ เวลานั้น หยวนได้ถือช่อกุหลาบอันสวยสด 55 ดอก เพื่อขอเธอแต่งงาน หลี่ได้ตอบรับคำขอของหยวน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา หนึ่งวันก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป้นช่วงเวลาที่ครอบครัวชาวจีนกลับมาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา



    ในวันที่ 26 ก.ย.2553 บุตรชายของหยวน ได้จัดงานแต่งงานให้กับพวกเขา จากนั้น ทั้งหลี่และหยวนก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านของบุตรชายคนที่ 3 และในทุกๆเช้า หยวนกับหลี่ ก็จะจับมือกันเดินตากลมทะเลริมชายหาดรับกลิ่นอายรุ่งอรุณของวันใหม่อันแสนอบอุ่น


    หลี่ กล่าวปิดท้ายตำนานรักสุดขอบฟ้าของเธอกับหยวน ว่า “สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้นฉันจึงเป็นหูให้กับเขา และเขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน












    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ที่มา : www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000154511
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2010
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,604
    ผมคิดว่า ข่าวเรื่องนี้ สอนอะไรหลาย ๆ อย่างนะครับ โดยเฉพาะศีล 5

    ลองอ่านและพิจารณาดูครับ

    โมทนา
     
  3. gasnaka

    gasnaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,811
    ค่าพลัง:
    +3,974
    สุดยอดเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่นำมาให้อ่าน
    ความรักแบบนี้หาได้ยากมากๆแล้วในโลก
    จุดที่เรามองในความรักของท่านสองคนนี้
    คือความรักแท้ๆที่ไม่หวังครอบครอง
    มุ่งหวังแต่ให้คนที่เรารักเป็นสุข
    ดีใจกับท่านทั้งสองด้วยในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันเสียที
     
  4. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    " ปูนนี้แล้ว เตรียมตัวตายอย่างมีความสุขดีกว่า " pig_cryy
     
  5. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    อ่านแล้วก็ธรรมดาไม่รู้สึกอะไรมากนัก สงสัยคงเป็นเพราะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องกามวิสัยจึงมองเรื่องรักๆเป็นเรื่องเรื้อรังและรั้งมรรคผล ไม่เอื้อประโยชน์ในด้านสมาธิภาวนาสักเท่าไหร่

    อีกอย่างเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ชอบหลอกใคร ถ้าจะให้วิจารณ์ก็คงไม่อยากให้ท่านอื่นๆเป็นอย่างคุณต่าท่านนี้เลย คือ เมื่อมีคู่อยู่แล้ว ก็อย่าได้ไปสร้างสัมพันธ์กับคนอื่นๆทำให้เขาต้องเสียใจเลย

    ถ้าจะวิเคราะห์ตามหลักของศีลห้า หากทั้งสองมีอะไรกันตอนที่คบกันอยู่ ศีลก็ขาดแล้วหละ แต่ถ้ายังไม่ถึงขั้นนั้นก็ถือว่าศีลด่างพล้อยแล้ว

    มีมลทินติดตัวติดใจแล้ว หากเป็นนักปฏิบัติย่อมไม่ก่อเรื่องอย่างนี้ให้เกิดขึ้นแน่นอน เพราะคนผู้มีศีลย่อมมีความละอายแก่ใจ ทั้งแรกเริ่ม ท่ามกลาง และที่สุด

    แต่อย่างไรก็ขอแสดงความยินดีกับคุณตาและคุณยายทั้งสองท่านนี้ด้วยความจริงใจ และขออนุโมทนากับการตัดสินใจบอกเรื่องการมีคู่ครองอยู่แล้วให้คุณยายรับทราบถึงแม้จะสายไปสักนิดก็ตาม ก็ยังดีกว่าไม่บอกอะไรเลย

    ขออนุโมทนาสาธุการด้วยความจริงใจ และหวังว่าท่านเจ้าของกระทู้คงไม่เห็นเม้นของผมเป็นเม้นที่ไร้สาระไปเสียหละครับ (คงไม่มองโลกในแง่ร้ายไปนะครับ) คำว่าไร้สาระเนี่ยบางครั้งมันอาจจะมาจากใจของคนอ่านเองก็ได้นะครับ คุณค่าอยู่ที่ไหน ใครคือผู้กำหนด นมผงย่อมเหมาะกับเด็ก ข้าวสวยอาหารที่ต้องเคี้ยวย่อมเหมาะกับผู้ใหญ่ที่ร่างกายพอที่จะย่อยได้แล้ว ผู้ใหญ่จะหาว่านมผงไร้สาระ ก็คงไม่ถูกนัก เด็กหากพูดโต้เถียงได้จะบอกว่าข้าวสายอาหารไร้สาระ ก็คงไม่ถูกอีกกระมัง

    ดังนั้นคำว่ามีสาระ และ ไร้สาระ ขอให้คนที่เขาอ่านพิจารณาเองดีกว่านะครับ อย่าไปตัดสินอะไรๆหรือตัดสินใครๆว่าไร้สาระด้วยความคิดของตัวเองเลยครับ

    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ สวัสดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2010
  6. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,210
    ค่าพลัง:
    +3,130
    จริงๆ ต้องเรียกว่าวิบากกรรมมากกว่า อีกไม่นานการพลัดพราก็เกิดขึ้นเป็นธรรมดา
    ของสังสารวัฐ ในความคิดของตัวเองนะอยู่คนเดียวดีกว่า เพราะว่า
    การจากกันอีกรอบคนข้างหลัง ก็ต้องทุกข์อีก หรือเขาจากไปก่อน เราก็ทุกข์อีก
    ถ้าคุณยาย คุณตามาปฏิบัติ ก็จะดีไม่น้อย ชวนกันอธิฐานสร้างบุญไป
    เรื่องบางเรื่องศีลก็เอาไม่อยู่ ต้องมีการภาวนาด้วย
     
  7. aoyleo

    aoyleo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +99
    ดีใจกับทั้งสองคนด้วยที่สุขสมหวัง(พูดถึงในทางโลกดค่ะ)เมื่อเรายังมีรัก โลภ โกรธ หลงอยู่ แต่ถ้าเค้าสองคนร่วมกันทำบุญสร้างกุศลสะสมบารมีนั่นจะยิ่งเป็นการดีสำหรับทั้งสองคน
    ความทุกข์คือประสบการณ์ที่ล้ำค่า มันสอนหลายสิ่งหลายอย่างให้เรารู้ว่านี่คือกฏธรรมดาของโลก
     
  8. little voice

    little voice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +351
    อ่านแล้วซึ้งดีค่ะ เหตุการณ์ต่างๆทำให้คนเราผ่านมรสุมของชีวิตมาได้ด้วยดี
    เป็นกำลังใจให้คนทั้งคู่อยู่กันให้นาน ถึงแแม้ว่าจะแก่ชรามากแล้วในวัย 80 ปี
    แต่ก้อเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ยั่งยืนนานมาจนถึงทุกวันนี้ ยินดีกับคนทั้งคู่ที่มีความรัก
    ความผูกพันธ์ดีๆที่มีให้แก่กันค่ะ
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,289
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    จุ๋มจิ๋มดีค่ะ

    อดีตคืออดีต ปัจจุบันคือเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ อนาคตยังมาไม่ถึง




    ;aa2
     
  10. D_pat

    D_pat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +499
    “สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้นฉันจึงเป็นหูให้กับเขา และเขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน

    ขอขอบพระคุณที่นำมาให้ได้อ่านค่ะ
    อย่างน้อยก็จะได้รู้่ว่า ความรักที่แท้จริงก็ยังมีอยู่ในโลกค่ะ
    ซึ้งมากๆๆ
     
  11. sundav

    sundav เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +115
    ซาบซึ้งมากๆ อยากเจอกับคนรักที่กันไปเกือบ 20 ปี แล้วเช่นกัน ทุกวันนี้ยังคิดถึง และยังอยู่คนเดียว อาจจะมีสักวันเช่นเดียวกับหลี่และหยวน
     
  12. น้ำตะวันภู

    น้ำตะวันภู มานั่งสมาธิกันนะครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +262
    เป็นเรื่องของกรรมเวรที่ยังตัดไม่ขาด ทั้งคู่ยังมีกิเลส และยังอยู่ในวังวนเวียนนี้ต่อไป
     
  13. odanhi

    odanhi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +398
    ประทับใจกับความรักของคนทั้งคู่คะ
     
  14. toyhonda

    toyhonda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +1,782
    "เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปได้"
    ความรักทำให้โลกมีความสุข ขนาดเราได้อ่านแล้วเรายังรู้สึกว่าเราเองก็มีความสุขไปกับคุณปู่คุณย่าคู่นี้ คนเราอย่าไปยึดในศีล5 ข้อ3 มากเลยค่ะควรแยกแยะให้ออกอะไรที่ไม่ประสบกับตัวเองมักจะคิดแบบ(ใจแคบ)
    ขอให้ท่านทั้งสองมีความสุขในบั้นปลายชีวิตค่ะ
     
  15. jeds22

    jeds22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +498
    โรแมนติคมาก เอี้ยก้วยกะเซียวเล่งนึ้งยังไงยังงั้น
     
  16. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +3,602
    "เธอไม่ใช่สายน้ำ
    แต่เธอเย็นฉ่ำชื่นหวาน
    เธอไม่ใช่ลำธาร
    แต่เธอไหลผ่านเนื้อหัวใจ
    ความรัก เสลาสลักสวยใส
    งามใดเล่า งามใด
    เทียบได้งดงาม ความรัก
    จรดลึกในความทรงจำ
    ลึกล้ำย้ำรอยสลัก
    นิรันดรนั้นนานนัก
    แต่รักนี้ นานกว่านั้น"

    "ขุนเขา ครวญคร่ำ ร่ำไห้
    ลมโชยชายไปทั่วถิ่น
    เมฆขาว เกลื่อนท้อง เมฆินทร์
    วังเวง ยลยิน เดียวดาย
    ตรงนี้ นั่งเหงา เฝ้าคอย
    เลื่อนลอย เพราะรู้ ลับหาย
    สุริยัน จันทร์กระจ่าง พลัดพร่างพราย
    แต่ดวงเนตร ผันผาย ไม่กลับคืน"

    "หนาวโศก วิโยค โศกหนาว
    ลำแสงทอง ราวทองฉาย
    บุปผา รอวัน พรรณราย
    ขวัญผ้าย ไกลสู่ อนันตกาล
    ดาวรุ้ง โรยร่วง แลลับ
    น้ำค้าง วิบวามมลาย ไหลรินผ่าน
    อิสินธร เดียวดาย เนิ่นนาน
    กี่กาล คืนกลับ คืนลับลอย"

    "หัวใจทรรศิกา ลาก่อน
    ฤดูร้อน จักพรั่งพรู ไสว
    หัวใจจริง จักห่อ น้ำแข็งไว้
    ให้สดใส อยู่ใน ความทรงจำ"

    "โอม
    ภูผา หินแกร่ง มั่นคง
    ดำรงนานชั่ว ฟ้าดินสลาย
    จิตจง มาดมั่น ฝังไว้
    ธาตุใด แกร่งเท่า ธาตุรัก"

    "หงส์...แม้ตกลงบ่วงบาศก์ อาจหาญ
    แม้ตกยาก จากถ้ำ เคยสำราญ
    หงส์กับห่าน ก็ยังแยก แผกต่างกัน"

    "หัวใจ... อยู่ ณ ที่ใดก็ตาม วันหนึ่งร่างกายย่อมจะเดิน มารวมกับหัวใจจนได้"

    [music]http://palungjit.org/attachments/a.1214733/[/music]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2010
  17. "Worakan"

    "Worakan" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +18
    คนดีจริงหรือเปล่า

    .มุมมองของความรัก ในเมื่อคุณไม่ชอบ คุณก็ไม่ควรวิจารณ์ ฟังแล้วเฉยๆไม่เห็นด้วยก็ทำใจ อุเบกขา การวางตนเฉย ไม่ยินดียินร้าย
    ดิฉันว่าพวกคุณปฎิบัติธรรมกันแต่ไม่พัตนาใจตนเองก็เท่านั้น
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ บัวมี4 เหล่า คุณคิดว่าคุณเป็นแบบไหน
    ปฎิบัติธรรมแต่ไม่ยกระดับจิตใจ เป็น มนุษย์ในจิตวิญญาณผีเปรต
     
  18. "Worakan"

    "Worakan" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +18
    อ่านแล้วรับไม่ได้


    ด้วยความหวังดีไปฝึกพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้นเพราะธรรมที่ปฎิบัติมาจะได้ไม่สูญเปล่า ไปอ่านพรมวิหาร4 ท่องให้ขึ้นใจจนกว่าจะมีเมตตาจิต อุเบกขาการวางเฉย ไม่ยินดียินร้าย จากผู้หวังดี
     
  19. "Worakan"

    "Worakan" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +18
    จากผู้หวังดี

    ขอแนะนำให้ไปยกระดับจิตใจเพราะธรรมมะที่ศึกษามาจะได้ไม่สูญเปล่า
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,604
    คิดเหมือนผมเลยครับ

    ความสัมพันธ์ "ศิษย์" กับ "อาจารย์"
    ฝ่ายหนึ่งมีคู่แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่รู้
    สุดท้ายฝ่่ายชายก็สารภาพว่า มีคู่แล้ว และบอกว่า คงต้องดูแลคู่ของตนจนกว่าจะตายจากกัน
    ส่วนฝ่ายหญิง ก็ตัดใจได้ว่า ไม่ควรมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น

    สุดท้ายทั้งคู่ ก็จากกัน แม้จะติดต่อกัน แต่ก็พยายามรักษาความสัมพันธ์ทางใจ คือ "มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่คนรัก" หรือ "ไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้"

    ถ้าเป็นตัวเราเอง เราจะตัดสินใจแบบทั้งคู่ได้หรือไม่ ถ้าศึกษาเรื่องคู่บารมีจะทราบดีครับว่า ถ้าคู่ลำดับสูง ๆ มาเจอกัน ขนาดพระเองยังหวั่นไหวเลยครับ

    ที่ผมชอบ คือ ฝ่ายหญิง ไม่รักใครเลย แม้จะมีคนมาชอบมากมาย โดยมั่นคงในความรักกับฝ่ายชายมาก ส่วนฝ่ายชายก็ดูแลภรรยาของตนจนตายจากกันจริง ๆ

    สุดท้าย ทั้งคู่มาเจอกันและแต่งงานกัน สุข สมหวังในที่สุด

    เรื่องนี้สอนใจหลายคนครับ เพราะมีทั้งตัวอย่างที่ดี และไม่ดี
    และมีการตัดสินใจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะความรักของคนสองคน ที่ไม่ทำร้ายคนที่สาม

    ก็อ่านและพิจารณาตามสะดวกครับ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...