แอนิต้า - ผู้มีประสบการณ์ตายแล้วฟื้น และหายป่วยจากมะเร็งระยะสุดท้ายเพียงแค่ข้ามวัน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 1 พฤศจิกายน 2010.

  1. PunnyHamp

    PunnyHamp Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +98
    เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่พิสูจณ์ว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนนั้นเป็นความจริงแท้

    ไม่จำกัดเชื้อชาติ หรือศาสนา:cool:
     
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอพักก่อนนะครับ
    ได้เวลาไปทำอย่างอื่นแล้วครับ

    เนื้อหาตอนนี้ยาวมากๆๆ
    ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่เลยนะเนี่ย

    .......................
     
  3. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    อย่านานน๊ะคุณ Chayutt......:'(
    อนุโมทนาสาธุ..ทั้งหมดทั้งมวลค่ะ
     
  4. ซีดีธรรมะ

    ซีดีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +821
    ขอบคุณครับ... จะติดตามต่อไปนะครับ

    ขอให้ก้าวหน้าในธรรมครับ
     
  5. ongsoffer

    ongsoffer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +484
    อ่านแล้วเหมือนได้ของขวัญเลย เมื่อวานก็ได้พุทธประวัติฉบับการ์ตูนในเซเว่นมาฉบับหนึ่งดีมากเลย ปีนี้เป็นปีที่มหัศจรรย์สำหรับสิ่งดีๆในชีวิตจริงๆ
     
  6. lolz

    lolz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +54
    ขอบคุณมากๆนะคับ

    ติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้คับ
     
  7. choo choo

    choo choo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +49
    ขออนุโมทนาสาธุขอรับ ผมรู้สึกดีมากๆกับเรื่องนี้ ขอบคุณครับ...
     
  8. ณัฐธัญพงษ์

    ณัฐธัญพงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +237
    ขออนุโมทนาด้วยครับ กับข้อความที่เอามาลงให้อ่าน
     
  9. โอ๊ตศ์

    โอ๊ตศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ขอคั่นจังหวะมาถาม ด้วยความอยากรู้จริงๆ นะขอรับ...

    แล้วหากโรคนั้นเป็นโรคที่เกิดจากกรรม...
    การที่เราคิดว่า...

    เราไม่เชื่อว่ามันมีอยู่จริง
    หรือ เราเลือกที่จะเชื่อว่ามันต้องหายไป...

    ระบบกรรมนั้น...จะหายด้วยหรือไม่ขอรับ

    อนุโมทนา...กับคุณชยุตที่เอามานำเสนอนะขอรับ
     
  10. shesun

    shesun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +1,327
    น่าคิดเหมือนกันนะ คนดีแม้ทำชั่วเพียงเล็กน้อย แต่มีความกังวลในความชั่วเล็กน้อยนั้นก็ต้องรับกรรมแม้เป็นเทพชั้นสูงแล้ว(พระนางอะไรน้า!!! จำไม่ได้แล้ว) แต่คนชั่วไม่เคยสำนึกว่าตนทำชั่ว จะลอยนวลไม่ต้องรับวิบากหรือเปล่า...แต่กฏแห่งกรรมต้องยุติธรรมไม่ใช่หรือ...น่าคิด...
     
  11. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขออนุญาติบอกบุญ(ด่วนมากๆ)

    แนะนำ ด่วนมาก..ช่วยเหลือวัดที่ถูกน้ำท่วม10วัด(อยุธยา)

    [​IMG]

    หลวงพ่อโตจมน้ำ หลังคันดินต้านกระแสน้ำเชี่ยวไม่ไหวทะลักเข้าวัดบ้านเลน พระนครศรีอยุธยา

    พระครูพิศาลปัญญาทร เจ้าอาวาสวัดบ้านเลนสระกระจับ ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ว่าทางวัดได้ทำคันดินล้อมวัด แต่กระแสน้ำเชี่ยวกราดไหลแรงทำให้คลื่นกระแทกคันดิน จนน้ำไหลเข้าท่วมบริเวณวัดสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้องค์หลวงพ่อโตที่สร้างอยู่หน้าศาลาการเปรียญ ถูกน้ำท่วมสร้างความสะเทือนใจต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก
     
  12. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    จิตย่อมนำพาโลกไป
    จิตเป็นอย่างไร โลกย่อมเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดกัน
    ดังนั้น
    จงอย่ากลัวอะไร เพราะว่า ความกลัวนั้นแหละคือการเข้าไปจดจ่อในสิ่งนั้น แล้วมันจะดูดสิ่งนั้นมาให้เสมอ
    จงอย่าเกลียดอะไร เพราะว่า ความเกลียดนั้นแหละคือการเข้าไปจดจ่อในสิ่งนั้น แล้วมันจะดูดสิ่งนั้นมาให้เสมอ
    จงมีแต่การรับรู้และรักตัวเอง และรักสิ่งรอบๆตัว มองทุกอย่างเป็นกลาง จะเห็นสภาวะที่เหนือกาลเวลา
    พลังแห่งสิ่งที่ยิ่งใหญ The Great Of Power
    1 Power Of Born . การเกิดคือสิ่งดี เมื่อตระหนักชัดถึงคุณแห่งการเกิด เมื่อนั้นเราจะมีความรักในสิ่งนั้น ให้อย่างไม่มีเงือนไข
    ( ถ้าเป็นเรื่อง The Top Secret คือการอธิษฐานขอ )
    2 Power Of Beleive . เชื่อในจิตตนเอง ศรัทธาในสิ่งที่เชื่อ 100%

    3 Power of Now คือการที่มีสติสัมปชัญญา จดจ่อในปัจจุบันให้มาก จดจอในสิ่งที่ศรัทธา ให้มาก จะเกิดสมาธิ ความตั้งมั่นเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้ได้สิ่งที่ร้องขอ
    4 Power of Mind
    ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้หมด ตามแต่จิตที่จดจ่ออย่างตั้งมั่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขาภาพ เงินทอง หรือการเหาะเหิน เดินอากาศ การหายตัว และอื่น ๆ เป็นไปได้หมด เมื่อเราอยากจะเป็น
    5 Power of Univer เชื่อในจักรวาล เราทั้งหลายเป็นหนึ่งเดียว เป็นสิ่งเดียวกัน ไม่แตกต่างกัน มีความรักให้กัน จักรวาลเรา หรือจักรวาลอื่น ล้วนเป็นจักราลเดียวกัน ไม่แบ่งแยก และส่งพลังแห่งความรักให้จักราล หรือภายในร่างกายเรา และส่งความรัก ไปให้ทุกดวงจิตรอบๆตัวเรา
    ( ความรัก หรือ ความ เมตตา+กรุณา+มุทิตา+อุเบกขา รวมเป็นหนึ่ง)

    ปีหน้า อาจจะมีหนังสือนี้ที่อธิบายสิ่งนี้ออกมานะครับ ไม่มาจากผมหรอกครับ มาจากอาจารย์ผมเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  13. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +455
    ขอขอบคุณสำหรับ เรื่องราวดีๆแบบนี้ครับ
    น่าจะเผยแพร่ให้กับ ผู้ป่วยมะเร็งทราบ ให้เยอะๆ เพราะว่าตอนนี้โรคนี้กำลังเป็นกันมาก
    เป็นการช่วยให้ผู้ป่วย ได้รับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของจิต รักษาได้ทุกโรค
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แอนิต้า - ผู้มีประสบการณ์ตายแล้วฟื้น และหายป่วยจากมะเร็งระยะสุดท้ายเพียงแค่ข้ามวัน

    ที่มา: Anita's Inspiring Near-Death Story

    ตอนที่ 8:

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม: ถ้าอย่างนั้น ถ้าชีวิตของใครบางคนดูไม่โสภาเอาซะเลย คุณจะแนะนำเขาว่าอย่างไร เพื่อที่จะให้เปลี่ยนแปลงมันได้?


    แอนิต้า:

    ฉันชอบคำถามนี้จังเลย เพราะมันทำให้ฉันได้มีโอกาสพูดถึงความสำคัญของการรักตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไข

    ฉันอยากจะแนะนำมากๆเลยว่า ให้ฝึกรักตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไข


    จำได้ไหมคะ ที่ฉันบอกว่าจักรวาลคือภาพสะท้อนของความเป็นฉันเอง
    ถ้าฉันกำลังท้อแท้สิ้นหวังกับชีวิตอยู่หละก็ มันก็ไร้ประโยชน์ที่จะไปคิดเปลี่ยนสิ่งภายนอกทั้งหลาย
    โดยไม่หันมามองดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับภายในของตนเองอยู่ก่อน

    พวกเราหลายคนมีทัศนคติในแง่ลบมากๆกับตัวเอง พวกเราคือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของตัวเราเอง


    สิ่งแรกที่ฉันอยากจะบอกก็คือว่า ไม่ว่าในตอนนี้ชีวิตของคุณ
    จะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่จงหยุดตัดสินตัวเองและหยุดทำร้ายตัวเองเสียที

    ถ้าฉันพบว่าฉันเอาแต่ไม่พอใจคนอื่นๆอยู่ตลอดเวลา และกำลังเที่ยวไปตัดสินใครต่อใครอยู่อยู่ตลอดเวลา
    นั่นมันเป็นเพราะว่า ภายในตัวฉันเองกำลังเป็นแบบเดียวกันกับผู้คนที่ฉันกำลังตัดสินอยู่นั้นตลอดเวลา


    นั่นหมายถึงฉันกำลังนำเอาความคิดที่ฉัน
    กำลังพูดกับตัวฉันเองอยู่ภายใน แสดงออกมาสู่ภายนอกเท่านั้นเอง


    แต่ถ้าฉันมีความรักกับตัวฉันเองแบบไม่มีเงื่อนไขมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งง่ายขึ้น
    ที่ฉันจะมองเห็นความสวยงามของโลกใบนี้ และของคนอื่นๆ


    ถ้าฉันสามารถรักตัวฉันเองได้ และเลิกตัดสินตัวเองได้ รวมถึงสามารถมองเห็นความสมบูรณ์แบบ
    ของตัวฉันเองได้แล้วหละก็ ฉันก็จะสามารถรักผู้อื่น และมองเห็นความสมบุรณ์แบบของผู้อื่นได้ด้วยโดยอัตโนมัติ

    และถ้าฉันยิ่งรักตัวฉันเองมากเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งรักคนอื่นๆได้มากเท่านั้นด้วย
    เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะรักคนอื่นๆได้มากกว่ารักตัวคุณเอง

    ในทางกลับกันผู้คนมักเชื่อว่ามันเป็นการเห็นแก่ตัวที่จะรักตัวเอง แต่นั่นมันไม่จริงเลย
    เพราะว่าเราไม่สามารถจะให้ในสิ่งที่เราไม่มีแก่ใครได้


    ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน มันก็เป็นแค่ผลลัพธ์สุดท้ายของความคิดและความเชื่อของคุณ ณ.จุดนั้นเท่านั้นเอง
    และคุณก็สามารถเปลี่ยนมันได้ อย่าลืมนะคะว่า ฉันเปลี่ยนโรคมะเร็งของฉันในชั่วโมงที่ 11
    (ตอนที่เธอไปถึงโรงพยาบาลแล้ว หมอบอกว่า เธอจะอยู่ได้อีกไม่เกิน 36 ชั่วโมง และพอชั่วโมงที่ 11
    เธอก็หายจากโรคมะเร็ง อะไรประมาณนั้นครับ – ผู้แปล)
    แม้ว่าหมอจะบอกว่ามันสายเกินไปแล้วก็ตาม
    แต่มันก็ยังไม่สายเกินไป


    ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ ต้องตระหนักรู้ว่า

    “มันไม่เคยมีคำว่าสายเกินไป ที่จะทำอะไรซักอย่าง หรือเปลี่ยนแปลงบางอย่าง”

    มันสำคัญมากที่จะต้องมองให้เห็นพลังอำนาจที่มีอยู่ในปัจจุบันขณะ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้

    ถ้าคุณเชื่อเรื่อง “อะไรที่เหมือนๆกัน มันจะดึงดูดซึ่งกันและกัน” หละก็

    ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ที่จะสามารถดึงดูดเอาสิ่งที่ดีที่สุด
    เข้ามาในชีวิตคุณได้ ก็คือการรักตัวคุณเอง ให้มากจนถึงจุดที่
    ตัวคุณเองเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก แล้วมันก็จะไปดึงดูด
    เอาเฉพาะสิ่งที่สอดคล้องกับความเชื่อที่คุณมีต่อตัวคุณเองเท่านั้น
    ให้เข้ามาสู่ชีวิตของคุณ


    มันง่ายมากๆอย่างนั้นจริงๆนะคะ จริงๆค่ะ


    ..........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แอนิต้า - ผู้มีประสบการณ์ตายแล้วฟื้น และหายป่วยจากมะเร็งระยะสุดท้ายเพียงแค่ข้ามวัน

    ที่มา: Anita's Inspiring Near-Death Story

    ตอนที่ 9:

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม: คุณจะบอกผมได้ไหมว่า เราจะกลายเป็นคนที่มีความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
    ในโลกที่ไม่ได้มีแต่ความรักแบบนี้ได้อย่างไร?


    แอนิต้า:

    อย่างแรกเลย จำได้ไหมคะที่ฉันบอกว่า ฉันรู้สึกว่าจักรวาลคือภาพสะท้อนของโลกภายในของฉันเอง
    ดังนั้น ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข จึงไม่ใช่การแผ่ขยายออกไปสู่โลกหรือจักรวาลภายนอก
    แต่ฉันแผ่มันกลับเข้าไปข้างในตัวฉันแทน ทุกวันๆ ฉันเรียนรู้ที่จะรักตัวฉันเองแบบไม่มีเงื่อนไข


    ฉันอยากอธิบายเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า มันมีความแตกต่างกันอยู่นะ ระหว่างคำว่า
    “การมอบความรัก”
    กับ “การเผื่อแผ่ความรัก”


    “การมอบความรัก” หมายถึงการมอบความรักของคุณให้แก่คนอื่นๆ ไม่ว่าคุณจะมอบให้กับตัวคุณเองด้วยหรือไม่ก็ตาม
    มันหมายถึงคุณกำลังให้ในสิ่งที่ตัวคุณเองอาจจะมีหรือไม่มีอยู่ก็ได้ ซึ่งการให้ความรักแบบนี้
    อาจจะทำให้คุณไม่เหลืออะไรเลยก็ได้ เพราะว่าพวกเราไม่ได้มีความรักอยู่อย่างไม่รู้หมด

    แล้วจากนั้น เมื่อเราหมดตัวแล้ว เราก็จะคอยมองหาความรักจากผู้อื่นแทน เพื่อมาเติมเต็มบ่อความรักของเรา
    และถ้าไม่ได้รับตอบแทนกลับมาบ้างเลย เราก็จะหยุดแสดงความรักไปเอง เพราะว่าเราหมดตัวแล้ว



    “การเผื่อแผ่ความรัก” หมายถึงการรักตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไข ดังนั้นความรักนั้น
    มันจึงท่วมท้นล้นออกมาจากตัวฉันเองอยู่เสมอ และผู้คนรอบข้างฉันทุกๆคน
    จึงได้รับการเผื่อแผ่ความรักจากฉันโดยอัตโนมัติเสมอๆ

    ยิ่งฉันรักตัวฉันมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งหลั่งไหลออกไปสู่คนอื่นๆมากขึ้นเท่านั้นด้วยเท่านั้น
    มันเกือบจะรู้สึกเหมือนกับว่า เราได้กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ให้ความรักไหลผ่านไปซะแล้วอย่างนั้นแหละ

    เมื่อฉันกำลังแผ่ความรักให้ตัวเองอยู่ ฉันจึงไม่จำเป็นต้องให้ใครมาทำอะไรให้ฉัน เพื่อที่ฉันจะได้รักพวกเขา
    เพราะว่าพวกเขาจะได้รับความรักจากฉันเองโดยอัตโนมัติ จากการที่ฉันแผ่ความรักให้กับตัวเองนี้

    ดังนั้น ถ้าจะให้ฉันหยุดแผ่ความรัก มันก็หมายความว่าให้ฉันหยุดรักตัวฉันเอง
    ดังนั้น ฉันจึงจะไม่หยุดเผื่อแผ่ความรัก เพราะว่ามีคนอื่นเป็นสาเหตุ
    ใดๆทั้งสิ้น


    .............................
     
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แอนิต้า - ผู้มีประสบการณ์ตายแล้วฟื้น และหายป่วยจากมะเร็งระยะสุดท้ายเพียงแค่ข้ามวัน

    ที่มา: Anita's Inspiring Near-Death Story

    ตอนที่ 10:

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม: คุณจะมีคำแนะนำอะไรอีกไหม เพื่อให้บางคนสามารถเพิ่มระดับพลังงานแห่งความรักของพวกเขาขึ้นมาได้


    แอนิต้า:

    ฉันรู้สึกว่า มันขึ้นอยู่กับตัวฉันเองมากกว่านะ ว่าจะทำให้พลังงานแห่งความรักที่ว่านั้น
    แผ่ออกมาสู่ภายนอกมากขึ้นหรือน้อยลง



    ตอนที่ความคิดภายในใจของฉันหันมาเล่นงานตัวฉันเอง และเมื่อนานวันเข้าๆ ฉันก็เริ่มหมดแรง
    นั่นจึงทำให้สภาวะภายนอกของฉันเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆด้วย

    ฉันเคยเป็นคนประเภทที่ภายนอกดูเบิกบาน สดใส และมีไมตรีมากๆ และเสมอมา
    แล้วอยู่มาวันหนึ่งโลกของฉันก็พังทลายลงต่อหน้าต่อตา แล้วฉันก็หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
    แล้วฉันก็เริ่มป่วยหนักขึ้นและหนักขึ้นเรื่อยๆ


    บางครั้ง เวลาที่เราเห็นใครบางคนที่ดูภายนอกว่าช่างเป็นคนคิดบวก สดใส และใจดีจริงๆ
    แต่แล้วเราก็ได้เห็นว่าชีวิตของเขาต้องพังทลายลงต่อหน้าต่อตา เราก็อาจจะคิดว่า
    “ดูสิ การคิดบวกมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”

    แต่ลองดูให้ดีๆซะก่อน ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เราไม่รู้ว่าความคิดภายในใจของคนผู้นั้นแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
    เราไม่รู้หรอกว่า เขาพูดกับตัวเองว่าอย่างไร เราไม่อาจรู้ความคิดที่อยู่ในหัวของเขา ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันได้


    แต่จำไว้นะคะว่า ดิฉันไม่สนับสนุน “การคิดเชิงบวก” ในแบบของ Pollyanna-ish
    เพราะว่าคำว่า “การคิดเชิงบวก” มันอาจจะทำให้เหนื่อยหน่ายได้ และสำหรับคนบางคน
    มันอาจจะหมายถึง “การห้าม” ไม่ให้ความคิดในแง่ลบเกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งผลสุดท้ายก็ยิ่งจะเหนื่อยล้ามากขึ้น



    ฉันกำลังพูดถึงความคิดของฉัน ที่มีต่อตัวฉันเองอยู่ สิ่งที่ฉันกำลังบอกตัวฉันเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก็คือ

    ฉันรู้สึกว่ามันสำคัญมากจริงๆ ที่จะไม่ไปตัดสิน
    และไม่ไปหวาดกลัวต่อความคิดที่ฉันมีต่อตัวฉันเอง

    เมื่อความคิดของเราเองกำลังบอกเราว่าเราปลอดภัย เราได้รับความรักแบบไม่มีเงื่อนไข และเราได้รับการยอมรับ
    เราก็จะแผ่พลังงานนี้กลับออกไปสู่ภายนอก และเปลี่ยนแปลงโลกภายนอกของเราตามไปด้วย


    และฉันก็คิดว่า มันสำคัญมากๆที่จะมองให้เห็นความสมบูรณ์แบบของชั่วขณะนี้
    ปัจจุบันขณะคือช่วงที่มีพลังอำนาจมาก แต่ละช่วงขณะล้วนมีความหวังบรรจุอยู่
    และทุกๆช่วงขณะก็สามารถกลายเป็น “จุดผกผัน” ของชีวิตคุณได้เลยทีเดียว


    มีคนเข้าใจฉันผิดอยู่บ่อยๆ เมื่อฉันบอกว่า “ทุกชั่วขณะล้วนสมบูรณ์แบบทั้งสิ้น”
    และเมื่อฉันพูดว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสมบูรณ์แบบทั้งสิ้น” ผู้คนมักจะกลัว
    ที่จะมองเห็นความสมบูรณ์แบบ ในสถานการณ์ที่พวกเขาไม่ชอบใจ พวกเขาจะคิดว่า
    การมองเห็นว่ามันสมบูรณ์แบบแล้ว นั่นแปลว่า จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรมันได้อีก

    แต่สำหรับฉันแล้ว การมองเห็นความสมบูรณ์แบบไม่ได้หมายความว่าจะคงมันเอาไว้แบบนั้นตลอดไป

    มันหมายความว่าการมองเห็นความสมบูรณ์แบบ ณ.จุดนั้นๆที่คุณกำลังอยู่ในขณะนั้น
    บนเส้นทางชีวิตของคุณ ไม่ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม

    มันหมายถึงการมองให้เห็นความสมบูรณ์แบบของวิถีชีวิตของคุณเอง,
    มองให้เห็นความสมบูรณ์แบบของสิ่งที่คุณเป็นอยู่,
    มองให้เห็นความสมบูรณ์แบบของคุณค่าของความผิดพลาดของคุณเอง,
    มองให้เห็นความสมบูรณ์แบบของปัจจุบันขณะนี้เสมอ ไม่ว่าปัจจุบันขณะนั้นๆ
    มันจะเป็นช่วงไหนของชีวิตคุณก็ตาม

    นั่นแหละคือการมองให้เห็นความสมบูรณ์แบบ



    (ปล.สรุปสั้นๆสำหรับคำตอบของคำถามนี้ สำหรับผู้อ่านที่อาจจะอ่านแล้วงงนะครับ..ก็คือ
    1). การไม่ตัดสินตัวเอง
    2).การไม่กลัวความคิดของตนเอง
    3). การคิดเชิงบวก และ
    4). การมองให้เห็นความสมบูรณ์แบบ – ผู้แปล)


    ...........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  17. pantham phuakph

    pantham phuakph เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +444
    พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ทุกสิ่งล้วนเกิดแต่เหตุ เมื่อดับเหตุได้ ผลก็ดับด้วย"

    เชิญพิสูจน์คำสอนของพระพุทธองค์ได้ที่ "บ้านสวนพีระมิด"


    http://www.baansuanpyramid.com/


    ที่บ้านสวนพีระมิดนี้ การหายจากโรคภัยมีให้เห็นอยู่เสมอ

    หากคุณมีทุกข์ใดๆ ที่นี้จะบำบัดให้

    เว้นแต่คุณจะไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธองค์ (ก็อย่าได้ไปเลยครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  18. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ทุกๆสิ่งต่างๆ เมื่อมีผลย่อมมีเหตุ และมีเหตุของการสิบต่อกันไป
    เหตุ 1 --> ผล 1(เหตุ2)--> ผล 2 (เหตุ 3)...> เหตุที่ N-->ผลที่ N(เหตุที่ N+1)--> ผลที่ N+1

    เมื่อมองท้ายสุด จะเห็นว่า เหตุที่ 1 เกิดจากการกำเนิดจากจิตที่ว่าง แล้วอธิฐานขอ จึงมีการสืบต่อเกิดเกิด จนกลายเป็นเหตุทีอนันต์และผลที่ อนันต์

    ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะหายจากการป่วย เมื่อเขาเลือกที่จะขอจากความว่าง แล้วหายป่วย เพราะนั้นคือกระบวนการต่างๆได้เริ่มฟื้นฟูตามที่จิตขอ

    กฎแห่งกรรม หรือ กฎแห่งการกระทำ นั้นมีจริง เมื่อมองที่ เหตุที่ N-->ผลที่ N
    กฎแห่งกรรมจะไม่มีจริง เมื่อคุณอยู่ที่ความว่าง ไปยังจุดตั้งตนของทุกสรรพสิ่ง แล้วกำลังสร้างหรือขอ เหตุ 1

    พระพุทธเจ้าท่านสอนให้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่จะกลับไปที่จุดตั้งตน คือ เรียนรู้ สังเกตุในปัจจับัน เห็นการสืบต่อ ปล่อยวาง แล้วเข้าไปสู่มิติที่ ปล่อยวางทุกสิ่ง กลับสู่ต้นกำเนิดที่มีความรัก และอบอุ่น หรือจุด 0 ของทุกสิ่งครับ คือไม่แบ่งแยก เมื่อไม่แบ่งแยกทุกสิ่งทุกอย่างรวมลงที่ตัวเลข 1 คือความเป็นหนึ่งเดียว Univer
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2010
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แอนิต้า - ผู้มีประสบการณ์ตายแล้วฟื้น และหายป่วยจากมะเร็งระยะสุดท้ายเพียงแค่ข้ามวัน

    ที่มา: Anita's Inspiring Near-Death Story

    ตอนที่ 11:

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> คำถาม: ก่อนหน้านี้คุณได้พูดถึงความรู้สึกของการเป็นหนึ่งเดียวกัน
    ความรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกันของทุกสรรพสิ่ง ที่เกิดขึ้นในขณะที่คุณกำลังอยู่ในสภาวะเฉียดตายในตอนนั้น
    คุณจะช่วยอธิบายเพิ่มเติมอีกสักหน่อยไดไหมครับ ว่ามันรู้สึกยังไง?


    แอนิต้า:

    ในระหว่างที่ฉันอยู่ในสภาวะเฉียดตายนั้น
    ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า ฉันเชื่อมโยงอยู่กับทุกสรรพสิ่ง
    ฉันคือทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสิ่งทุกอย่างก็คือฉัน

    มันเป็นอะไรที่อธิบายได้ยากมาก เพราะว่ามันไม่มีคำพูดที่จะเอามาใช้อธิบายความหมายให้ตรงจริงๆได้เลย

    มันรู้สึกราวกับว่ามันไม่มีความแบ่งแยกใดๆอยู่เลย
    จนกระทั่งเมื่อพวกเราเข้ามาอยู่ในชีวิตที่มีกายเนื้อนี้แล้ว
    พวกเราจึงมองเห็นโลกผ่านทางจิต (mind) อันที่จริงแล้ว
    มันรู้สึกเหมือนกับว่า “สิ่งที่แบ่งแยกนั้น ก็คือจิตเองนั่นแหละ



    ในสภาวะนั้น มันมีแต่ความแจ่มแจ้งและกระจ่างชัดไปซะหมด แต่อย่างไรก็ตาม
    มันไม่ได้รู้สึกว่า ความกระจ่างชัดนั้นมาจากจิต (mind) แต่อย่างใดเลย

    มันเหมือนกับว่ามีบางอย่าง ที่กำลังทำให้เกิดความเข้าใจที่กระจ่างชัดนั้นอยู่
    และบางอย่างที่ว่านั้น ก็สามารถรู้ด้วยว่าจิตมีการแบ่งแยกกันอยู่
    และก็รู้ด้วยว่าจิตคือสาเหตุของการแยกขาดจากกันของทุกสิ่งทุกอย่าง


    มันรู้สึกราวกับว่า “ความมีอัตตาตัวตน” (ego) และจิตคือสิ่งเดียวกัน ดังนั้น ในสภาวะเฉียดตายนั้น
    ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจของจิต มันจึงไม่มี ego และความยึดติดใดๆเหลืออยู่ และทุกสิ่งทุกอย่างก็คือหนึ่งเดียวกัน


    ฉันรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมต่อซึ่งกันและกันอยู่ ปราศจากการแบ่งแยก
    ปราศจากการตัดสินซึ่งกันและกันระหว่างสิ่งใดๆโดยสิ้นเชิง



    การก่ออาชญากรรมใดๆ หรือความเจ็บป่วยทางร่างกายใดๆ ล้วนมีสาเหตุมาจากสิ่งเดียวกันนี้ทั้งสิ้น
    นั่นก็คือมีสาเหตุมาจากความแบ่งแยกเราเขา และการป่วยทางจิต และยังมีสาเหตุมาจากว่า
    จิตจะแปลความหมายความแบ่งแยกนี้ไปในทิศทางใดด้วย



    ถ้าเราสามารถออกมาอยู่นอกจิตของเราได้ มันก็จะไม่มีปัญหา เราก็จะสมบูรณ์แบบ
    เพราะแม้แต่ “ความไม่สมบูรณ์แบบ” ก็ยังเป็นผลงานที่จิตนี้แหละเป็นคนปรุงแต่งขึ้น
    และเรื่องการตัดสินคนอื่นก็ด้วย สรุปแล้วก็คือทุกสิ่งทุกอย่างนั่นแหละ


    แต่เมื่อใดที่เราเข้ามาอยู่ใน “จิต” ของเราเองแล้ว เราจะรู้สึกว่าเรามีความจำเป็นต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
    และจำเป็นต้องมองเห็นความแบ่งแยก เพื่อที่เราจะได้เข้าใจมันได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้มีสาเหตุมาจากจิตทั้งนั้น

    “จิตของพวกเราไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา”


    แต่ว่าเมื่อตอนที่ฉันอยู่ในสภาวะเฉียดตายนั้น แม้ว่าฉันจะรู้สึกว่าเป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกสรรพสิ่งก็ตาม
    แต่ฉันก็ยังคงตระหนักรู้ถึงตัวตนของฉันเองอยู่ว่า เป็นตัวตนหนึ่งที่แบ่งแยกออกมาจากความเป็นหนึ่งเดียวทั้งหมด

    เหมือนกับว่าฉันก็ต้องมีวิวัฒนาการของฉันเองด้วย มันเหมือนกับว่าฉันมีจิตดวงนี้ ที่ไม่ใช่ตัวฉัน
    แต่ฉันคล้ายๆกับว่ามีภาระหน้าที่ ที่จะต้องพัฒนามันให้ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้
    แต่ตอนนั้นฉันอยู่นอกจิตของฉัน และกำลังมองดูมันอยู่



    แต่เมื่อใดที่เราอยู่ในร่างกายเนื้อของเราเองแล้ว เราจะเข้าไปอยู่ในจิตของเรา แล้วมองออกมาข้างนอกแทน
    แล้วเมื่อนั้นแหละความแบ่งแยกระหว่างทุกสิ่งทุกอย่างก็จะชัดเจน และแจ่มแจ้ง


    มันรู้สึกเหมือนกับว่า ปัญหาทุกๆอย่างในโลกล้วนมีสาเหตุมาจากการแสดงตัวมากเกินไปของจิต
    (too much mind identification) นั่นคือมายาการ (illusion)

    จิตคือมายาการ


    [​IMG]

    แต่ฉันเชื่อว่าพวกเรามีทางเลือกที่จะตื่นขึ้นมาจากมายาการนี้เสมอ ถ้าฉันสามารถตื่นขึ้นได้แล้ว
    และโดยการแผ่กระจายต่อๆไป ก็จะทำให้ผู้คนรอบข้างของฉันได้รับผลกระทบจากการตื่นนี้ไปด้วย

    พวกเราสามารถดำเนินชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ แต่จะต้องไม่เลือกที่อยู่ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้เงาแห่งมายาการนี้
    พวกเราสามารถเลือกที่จะมองให้ทะลุทะลวงผ่านมายาการนี้ก็ได้ แม้ว่าพวกเราจะยังมีตัวตนอยู่
    ในโลกทางกายภาพนี้อยู่ก็ตาม



    หลังจากประสบการณ์เฉียดตายของฉันครั้งนั้น มันรู้สึกเหมือนกับว่า มายาการอันนี้
    มันเป็นแค่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ใช้จิตสร้างกันขึ้นมา


    ..............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • illusion-2.jpg
      illusion-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.2 KB
      เปิดดู:
      1,724
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  20. rojanasak_m

    rojanasak_m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +125
    ผมอ่านดูแล้วเหมือนจะเป็นไปได้อยากมากน้อยรายครับที่เป็นไปได้ส่วนใหญ่คือพอป่วยแล้วหันมาสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิอาการป่วยก็ดีขึ้นแต่เคสนี้สุดยอดเลยครับคืนเดียวมะเร็งหายเกี้ยง

    ขออนุโมทนาบุญกับคคุณ แอนนิต้าด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...