ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ขุนประสาทสุขกิจ (อดีตนายอำเภอไชยโย) ซี่งเป็นผู้กำเนิดในท้องถิ่นแถววัดโปรดสัตว์นี้ ได้บอกเล่าไว้ว่า

    เมื่อ ร.ศ. ๑๓๐ ในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ ๖ มหาเสวกโท พระยาโบราณราชธานินทร์ (พระ เดชคุปต์) สมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยา ได้นำน้ำที่หน้าอุโบสถวัดโปรดสัตว์ ไปทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ที่พระพุทธบาท นำทูลเกล้าถวายในพิธี พระบรมราชาภิเษกเช่นเดียวกัน

    อีกครั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ ในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ ๗ มหาเสวกโท พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยา ได้นำน้ำที่หน้าโบสถ์วัดโปรดสัตว์ ไปทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ที่พระพุทธบาทและนำไปทูลเกล้าถวายในพิธีพระบรมราชาภิเษกเช่นเดียวกัน
     
  2. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    โบสถ์วัดโปรดสัตว์นี้สร้างขึ้นใหม่ โดยพระองค์เจ้าสนิทพงษ์พัฒนเดช รองเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ (พระองค์เจ้าตุ้ม พระโอรสในกรมหลวงวงศาธิราชสนิท) ให้ช่างเขียนแบบแปลนขึ้นใหม่แต่รักษารูปทรงเก่าไว้ ช่ายเขียนแบบแปลนคือ หลวงพิศาลศิลปกรรม

    ต่อมาสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เมื่อครั้งทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ได้เคยมาที่วัดโปรดสัตว์ ทรงรับสั่งว่าจะนำพระอัฐิเจ้าจอมมารดาในพระองค์มาบรรจุที่ฐานพระประธานวัดนี้ และจะทรงสร้างศาลาท่าน้ำแทนของเดิมที่พังไป แต่พระองค์ท่านทรงมาสิ้นพระชนม์เสียก่อน ได้ทรงรับสั่งไว้กับหม่อมเจ้า ปิยะรังสิต ภายหลังหม่อมเจ้า ปิยะรังสิตได้มาทรงปฎิสังขรณ์วัดไว้เป็นอันมาก ต่อมาบรรดาทายาทในราชสกุลสนิทวงศ์ ได้นำอัฐิบรรพบุรุษมาบรรจุในอุโบสถที่ฐานพระประธาน แล้วจึงได้มาช่วยกันบูรณะปฎิสังขรณ์เป็นลำดับ
     
  3. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ตำนานเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

    เรื่องมีอยุ่ว่า มีผู้เฒ่าผู้แก่เป็นหญิงชราอายุกว่า ๙๐ ปี มาที่วัดนี้เมื่อไม่นานมานี้ มาถึงโบสถ์ก็เห็นใต้โบสถ์เป็นห้อง มีท่อน้ำใหญ่ๆอยู่ใต้ดิน ขนาดคนเดินได้ไม่ติดศีรษะ หญิงชราผู้นั้นมาถามว่า จริงไหม ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงมาปฎิบัติธรรมที่ใต้โบสถ์แห่งนี้ เดิมมีทางลงโบสถ์อยู่ที่พื้น (หมายถึงโบสถ์เก่า)

    หลวงพี่ถวิลท่านเล่าให้ฟังว่า ไม่มีใครตอบหญิงชราท่านนั้นได้ เพราะสิ่งที่หญิงชราท่านนั้นรู้ก็เป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตน มันเป็นปัจจัตตัง

    ถามคุณรุ้งดูว่าสัมผัสได้ไหม คุณรุ้งบอกว่าเท่าที่ทราบสมเด็จพระนเรศวรทรงหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อปฎิบัติธรรมและเป็นสถานที่ลึกลับ ไปได้ยากโดยมักจะทรงเสด็จไปองค์เดียวเพื่อฝึกพระองค์เอง ก็น่าจะเป็นไปได้อยู่เพราะแถบนี้เขาเรียกทางลงบาดาล ถ้าต้องการสื่อกับพญานาคก็ต้องมาที่ปากทางบาดาลนั่งสมาธิสื่อถึงพญานาค

    พระองค์ท่านทรงเคยมาตั้งทัพใกล้วัดโปรดสัตว์ ทางสายธาตุคะเนว่า พระองค์ท่านน่าจะเคยทรงเข้ามาทำพระราชพิธีเช่นตัดไม้ข่มนาน สำหรับการศึกสงครามทางน้ำที่วัดนี้ หรือทรงมาสักการะพระประธานวัดโปรดสัตว์นี้เพื่อขอพร อันนี้มีความเป็นไปได้สูงค่ะ


    ป.ล. เมื่อวัดนี้ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับพิธีด้านน้ำ ตอนนี้น้ำในประเทศท่่วมเยอะมา รัฐน่าจะจัดพิธีไล่น้ำแบบโบราณที่วัดโปรดสัตว์นี้ดู กษัตริย์โบราณทรงทำพิธีไล่ให้น้ำลดเร็วๆที่นี่ ถ้าลองจัดดูอาจจะได้ผล แต่ก็เห็นว่า ถ้าคนไม่มีความศรัทธาเสียแล้ว พิธีกรรมก็คงไม่มีผลสำเร็จ จะทำให้สำเร็จได้ต้องอาศัยศรัทธา ทางสายธาตุเห็นน้ำท่วมประเทศแล้วสลดใจครั้งนี้ท่วมหนักเอาการค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2010
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    “อันมังกรนั้นจะทำให้ใหญ่แลน้อยเท่าใดก็ได้ ถ้าจะขึ้นไปบนอากาศ กระทำฤทธิ์ต่างๆ แล้ว อากาศนั้นยังแคบอยู่ไม่เสมอด้วยฤทธิ์ แม้จะลงในท้องมหาสมุทร กระทำฤทธิ์ให้กายนั้นน้อย เข้าแอบอยู่ในเงื้อมชะง่อนเขาก็ได้”

    เราได้เคยคุยกันเรื่องพญามังกรผงาดฟ้า และเซอร์ไพรส์ของพญามังกรกันไปแล้ว เมื่อกล่าวถึงพญามังกรก็ต้องกล่าวถึงพญาอินทรีย์กันบ้าง ทุกท่านคงต้องนึกถึงประเทศสหรัฐอเมริกาที่เราเปรียบเป็นพญาอินทรีย์พี่เบิ้มใหญ่ของโลกเสรี โดยธรรมชาติของพญาอินทรีย์นิยมที่จะบินสูงจนมีคำกล่าวกันว่าบินเหนือเมฆอะไรทำนองนั้น แต่เมื่อใดที่พญาอินทรีย์เกิดปีกหักก็ต้องตกลงมาสู่พื้นเหมือนกัน วันนี้จะขอนำเสนอเกี่ยวกับ"สงครามค่าเงินหยวนระหว่างสหรัฐฯกับจีน" ซึ่งเป็นเรื่องที่ทันสมัยน่าสนใจสำหรับโลกใบนี้ครับ เรื่องการแข็งค่าของเงินบาทในบ้านเรานั้นแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่กระทบกับเศรษฐกิจของไทยเราโดยตรง แต่เรื่องค่าเงินหยวนก็มีความสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อน เมื่อใดที่ช้างสารเกิดปะทะกัน หญ้าแพรกอย่างเรามีหรือจะไม่แหลกราญ
    ...ชาวอเมริกันกล่าวหาจีนว่า ค่าเงินหยวนจีนปัจจุบันต่ำกว่าความเป็นจริงประมาณ 25 - 40% ในแต่ละปี ทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ลดลง 200,000 ล้านดอลลาร์ และสินค้าจีนทำให้ชาวอเมริกันว่างงานประมาณ 1 ล้านคน ฯลฯ

    จีนโต้ตอบว่าข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ไม่เป็นความจริง จีนได้เพิ่มค่าเงินหยวนอย่างค่อยเป็นค่อยไปมาโดยตลอด การที่สหรัฐฯ เสียเปรียบดุลการค้ากับจีนอย่างมากมายเป็นเพราะสหรัฐฯ ไม่ยอมขายสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงให้จีน ไม่ใช่จีนทุ่มตลาดสหรัฐฯ ด้วยสินค้าราคาถูก และสินค้าจีนส่วนมากเป็นประเภทใช้แรงงานมาก ไม่แย่งตลาดของสหรัฐฯ ฯลฯ ...

    เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (สภาล่าง) ได้มีมติผ่านร่างกฎหมายให้อำนาจรัฐบาลในการตอบโต้ประเทศที่ส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯ บนพื้นฐานที่มีอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่ำผิดปกติ โดยการกำหนดอัตราภาษีขาเข้าได้สูงตามความเหมาะสม ถึงแม้จะไม่ระบุประเทศเป้าหมายว่าเป็นจีน แต่ก็เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้กำลังส่งสัญญาณให้จีนทราบถึงความรู้สึกของชาวอเมริกันที่เชื่อว่าจีนเป็นชาติที่ทำการค้ากับสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นธรรม คะแนนเสียงที่สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ก็มีมากอย่างท่วมท้น (348 ต่อ 79) อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมายหรือไม่ เพราะหมิ่นเหม่ต่อการถูกฟ้องต่อ WTO ในการทำผิดกฎการกีดกันทางการค้า....


    มีข้อสังเกตว่า ชาวอเมริกันส่วนมากยังมีอารมณ์ต่อต้านจีนคอมมิวนิสต์อยู่ นักการเมืองจึงนิยมหาคะแนนนิยมด้วยการทำอะไรที่เป็นการต่อต้านจีนในนามของการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน นักธุรกิจอเมริกันที่มีอิทธิพลไปลงทุนในจีนก็มีมาก พวกนี้ไม่อยากเห็นความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เสื่อมโทรมลง เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาเอง สำหรับคนจีนนั้น พวกที่ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจสหรัฐฯ ก็มีมาก แต่รัฐบาลทั้งสองเห็นความจำเป็นที่จะต้องควบคุมความบาดหมางให้อยู่ภายในกรอบ เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในด้านความมั่นคงและการเมืองมากกว่า เมื่อถูกสหรัฐฯ บีบถึงระดับหนึ่ง รัฐบาลจีนมักจะถอยให้โดยไม่ต้องกังวลถึงเสียงของประชาชนมากนัก ฉะนั้น สงครามเศรษฐกิจเรื่องค่าเงินหยวนตามที่มีคนจำนวนมากวิตกคงจะไม่ขยายตัวจนควบคุมไม่ได้

    ศูนย์โลกสัมพันธ์ไทย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้สนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน website: Thai World Affairs Center (Thai World)



    แหล่งที่มา: "สงครามค่าเงินหยวนระหว่างสหรัฐฯกับจีน" โดย เขียน ธีระวิทย์
    Daily News - Manager Online - ʧ���������Թ��ǹ�����ҧ���Ѱ� �Ѻ�չ
     
  5. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    บางทีที่ถูกเร่งรัดให้ไปวัดโปรดสัตว์ให้ได้ ก็อาจจะเพราะเรื่องน้ำกำลังจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับบ้านเมืองก็ได้ จึงต้องไปแบบถูกกำหนด ทั้งๆที่เคยตั้งใจว่าจะไปแต่ก็พลาดไปถึงสองหน สุดท้ายลืมของไว้ที่วัดวรเชษฐ์แล้วทำให้มีโอกาศจึงต้องรีบไปวัดโปรดสัตว์ค่ะ


    หมดเรื่องเล่าเกี่ยวกับวัดโปรดสัตว์แต่เพียงเท่านี้ค่ะ ที่จริงยังมีเรื่องอื่นๆอีกแต่อยากให้ไปเที่ยววัดโปรดสัตว์ ไปวักน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์หน้าวัดพรมตัว จะได้รับพรได้รับมงคลกันทุกคนนะคะ
     
  6. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ...ภายใต้แนวโน้มที่เม็ดเงินมันกำลังไหลท่วมโลก และไหลเข้าไปในจีนอยู่ในทุกวันนี้ ด้วยอำนาจอิทธิพลทางการเงินของจีน ย่อมสามารถที่จะปล่อย จะระบาย หรือบริหาร จัดการ เม็ดเงินเหล่านี้ ให้กลายเป็นประโยชน์ของจีนไปอีกจนได้ หรือเป็นไปดังที่นาย จอร์จ โซรอส ผู้ได้ชื่อฉายาว่า พ่อมดการเงิน กล่าวเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ว่า "การที่จีนได้เปรียบดุลการค้าต่อประเทศต่างๆ (โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา) อย่างต่อเนื่อง และทำให้จีนสามารถครอบครองเงินทุนสำรองของสกุลเงินต่างๆ อย่างมากมายมหาศาล จนมีสถานะเป็นเสมือนผู้กุมอำนาจระบบการเงินโลกไปแล้วนั้น อาจนำไปสู่ภาวะสงครามค่าเงินระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลกกับจีน หรือนำไปสู่ความล่มสลายของระบบเศรษฐกิจโลกในท้ายที่สุดอีกด้วยก็ได้..."
    -------------------------------------------------------
    เอาเป็นว่า...ไม่ว่าคำกล่าวของนาย จอร์จ โซรอส จะถูกหรือผิด จะเป็นมุมมองแบบมีอคติ หรือไม่มีอคติต่อจีน ก็แล้วแต่ แต่สถานการณ์ เงินท่วม ในช่วงระยะนี้ ดูๆ แล้วออกจะเป็นที่น่าหวาดหวั่น น่าวิตกกังวล ไม่น้อยไปกว่าสถานการณ์ น้ำท่วม กันซักเท่าไหร่นัก สำหรับประเทศเล็กๆ ที่แทบไม่ได้มีอำนาจต่อรองใดๆ ในเวทีการค้า และเวทีการเมืองโลกอย่างไทยแลนด์ แดนสยามของหมู่เฮา ซึ่งต้องเจอกับภาวะ น้ำท่วม และ เงินท่วม ถึง 2 เด้งด้วยกัน การตั้งรับกับปัญหา อุปสรรค เหล่านี้ด้วยความมีสติ ความมีเหตุมีผล และความพอเหมาะ พอดี จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จะประมาทไม่ได้ และจะกะพริบตาไม่ได้เป็นอันขาด...


    ขอขอบคุณ : น้ำและเงินจากเขื่อนจีน | ไทยโพสต์
     
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระราชพิธี ไล่เรือเพื่อไล่น้ำ

    ากย้อนไปสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงฤดูน้ำหลากจนเกิดน้ำท่วมเรือกสวนไร่นาจนไม่สามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้คนสมัยก่อนเขาก็จะมีประเพณีที่จะทำให้น้ำลดหรือให้น้ำไหลออกไปจากไร่นาเพื่อที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งเขาจะเรียกพิธีนี้ว่าการไล่เรือหรือไล่น้ำ ซึ่งนับว่าเป็นพิธีกรรมที่สำคัญอย่างมากเพราะผู้ที่ทำหน้าที่ดังกล่าวก็คือองค์พระมหากษัตริย์ โดยพระองค์จะเสด็จไปประกอบพิธีดังกล่าวด้วยพระองค์เอง


    ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับการประกอบพิธีกรรมดังกล่าวได้ปรากฏเอกสารโบราณเช่น ทวาทศมาส รวมทั้งบันทึกของชาวต่างชาติที่เดินทางเขามากรุงศรีอยุธยา ดังเช่นในบันทึกของนิโคลาส แชรเวส ระบุว่า สมเด็จพระนารายณ์ฯ เสด็จไปประกอบพระราชพิธีฟันน้ำเพื่อมิให้น้ำท่วมมากขึ้นแต่ในกฎมณเทียรบาลเรียกพิธีกรรมดังกล่าวว่า “ไล่เรือ”


    ในส่วนของขั้นตอนของการประกอบพิธีนั้นกล่าวกันว่า พระเจ้าแผ่นดินต้องประทับเรือพระที่นั่ง พร้อมด้วยพระอัครมเหสี ลูกเธอ หลานเธอ และขุนนางผู้ใหญ่ตามเสด็จเป็นขบวนใหญ่ โดยขบวนเสด็จพยุหยาตราชลมารคจากพระนครศรีอยุธยาแล้วล่องตามลำแม่น้ำลงไปทางทิศใต้ เมื่อล่องเรือไปถึงสถานที่ที่กำหนดก็ทำพิธีอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาก่อน เช่น ตั้งเครื่องบัดพลีทำพิธีเรียกขวัญสู่ขวัญแม่พระคงคา มีการร้องลำนำเห่กล่อม หลังจากนั้นพระเจ้าแผ่นดิน “เสด็จออกยืน” กลางเรือพระที่นั่ง แล้ว “ทรงพัชนี” ซึ่งก็คือการถือพัดศักดิ์สิทธิ์โบกไปมาเหนือน้ำ โดยจะโบกในลักษณะจากเหนือลงใต้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้พัดที่ทรงถือและโบกนั้นขอให้เกิดลมมาพัดกระแสน้ำให้ไหลลงเร็วๆ น้ำจะได้ลดลง

    นอกจากนี้แล้วในการประกอบพิธีก็อาจจะมีการใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ฟันสายน้ำให้ขาดเพื่อเร่งรัดให้น้ำลดลงอีกด้วย ดังที่ปรากฏอยู่ในคำให้การขุนหลวงหาวัดว่าพิธีไล่เรือหรือไล่น้ำแต่ก่อนนั้นพระเจ้าแผ่นดินเสด็จทรงเรือพระที่นั่งในเวลาน้ำขึ้น “รับสั่งให้น้ำลด แล้วทรงพระแสงฟันลงไป น้ำก็ลดตามพระราชประสงค์” ในส่วนของช่วงเวลาที่มีการประกอบพิธีดังกล่าวนั้นกล่าวกันว่าเป็นประเพณีที่ทำกันในช่วงเดือนอ้าย แต่ก็อาจจะไม่ได้ทำกันทุกปี คงจะทำกันเฉพาะปีที่เกิดน้ำท่วม แม้ว่าในปัจจุบันพิธีกรรมดังกล่าวก็ได้มีการยกเลิกไปแล้วแต่เราก็คงจะเห็นถึงความสำคัญของพิธีกรรมดังกล่าวนว่าเป็นพิธีกรรมที่สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก
     
  8. Tanunchapat

    Tanunchapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +3,191
    ถูกพม่าจับเจาะขาเพื่อร้อยหวาย เนื้อนิ่มๆที่อยู่เหนือส้นเท้า เจาะให้เป็นรู ให้เหลือเอ็นขาไว้ แล้วเอาหวายร้อยเข้าไป

    สงคราม สงคราม สงคราม
    อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ ทำไมโหดอย่างงี้
    แค่ให้เดินเท้าจากศรีอโยธยาราชธานี ไปหงสา ชีวิตก้อแทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว แล้วนี่มาโดนเจาะส้นเท้าอีก
    อืม . . . . แผลคงอักเสบ ระบม เท้าคงปวมเป่ง หากพวกท่านเดินไม่ไหว ปู่ย่าตาทวดของพวกเรา คงโดนเค้าโบย ตี . . . . . . . . .เยี่ยง สัตว์ . . . . . .จะมีชีวิตเหลือไปถึงพม่าสักเท่าไรหนอ
    ตอนนั้นเหล่าเชลยชาวไทย ท่านคงร้องขอให้ยมบาลมารับพวกท่านไว ๆ เพราะที่พวกท่านประสพอยู่มันก้อคงไม่ต่างจากนรก

    ขอดวงวิญญาณบรรพบุรุษของเราทุกดวง จงไปสู่สุขติ เทอญ .

     
  9. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    อยากให้คนไทยได้อ่านโพสของ คุณTanunchapat กันทุกคน

    ขออนุโมทนาครับ
     
  10. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เห่เรือ แข่งเรือ ไล่น้ำ ให้น้ำลด

    มติชนรายวัน ฉบับประจำวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553
    แข่งเรือ เดือน 11 ลอยกระทง เดือน 12 ไล่น้ำเดือน 1 (เดือนอ้าย) ล้วนเป็นพิธีกรรมเกี่ยวกับน้ำและดินของคนในอุษาคเนย์ยุคโบราณดึกดำบรรพ์พิธีกรรมบางอย่างยังทำสืบเนื่องมาถึงทุกวันนี้ แต่เปลี่ยนรูปแบบและเนื้อหาไปแล้ว เช่น แข่งเรือ, ลอยกระทง, ฯลฯ มีขึ้นเพื่อความสนุกสนานพนันขันต่อและ“ขาย”การท่องเที่ยว แข่งเรือ สมัยโบราณเพื่อเสี่ยงทายว่าอนาคตข้างหน้าจะดีหรือร้าย และผลผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหารจะได้หรือเสีย เพราะทำไร่ทำนาพึ่งพาธรรมชาติ แม้มีเทคโนโลยีก็ล้าหลัง

    ลอยกระทง สมัยโบราณเพื่อขอขมาน้ำและดินที่ให้ความอุดมสมบูรณ์ในพืชพันธุ์ธัญญาหารเลี้ยงชีวิตมาครบ 1 ปี แล้วขอให้เลี้ยงดูต่อไปอีก

    ไล่น้ำ สมัยโบราณเพื่อวิงวอนร้องขอแม่พระคงคาที่บันดาลน้ำท่วมท้องนาเจิ่งนองทั่วไปให้ไหลลงเร็วๆ จะได้เก็บเกี่ยวข้าวที่ออกรวงสุกหมดแล้วไล่น้ำเป็นพระราชพิธีมีในกฎมณเฑียรบาล ว่าพระเจ้าแผ่นดินเสด็จประทับเรือพระที่นั่งล่องลงไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงย่านชื่อบางขดาน มีน้ำวนถือเป็น“สะดือน้ำ” แล้วจอดเรือกลางแม่น้ำทำพิธีเห่กล่อมวิงวอนร้องขอแม่น้ำให้น้ำลด

    ตรงนี้เองเป็นเหตุให้มีประเพณีเรียกกันภายหลัง เห่เรือ (ขณะเรือจอดอยู่กับที่)
    ไล่น้ำอีกทางหนึ่งทำโดยชักว่าว กับโล้ชิงช้า เป็นเชิงสัญลักษณ์เพื่อขอลมพัดน้ำให้ลด กับพัดบ่มพืชพันธุ์ให้สุกจะได้เก็บเกี่ยว

    เห่เรือวิงวอนร้องขอเพื่อไล่น้ำแล้ว แต่น้ำยังไม่ลด ก็จำต้องใช้ความรุนแรง เรียกฟันน้ำ

    พระเจ้าแผ่นดินอยุธยาทรงพระแสงดาบประทับเรือพระที่นั่งล่องลงไปกลางแม่น้ำ แล้วยกพระแสงดาบฟันแม่น้ำเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้น้ำขาดจากกัน น้ำจะได้ไหลลด

    น้ำท่วมยุคนี้มาจากความโลภและมักง่ายหลายๆอย่างของมนุษย์ ส่งผลให้คนจำนวนมากเดือดร้อนแสนสาหัส

    แต่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่คงแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนไม่ได้ทุกอย่าง

    บางทีพิธีกรรมแบบโบราณอาจช่วยลดหย่อนผ่อนเบาได้บ้าง เช่น เห่เรือวิงวอนและขอขมาธรรมชาติ เป็นต้น

    [​IMG]

    มาแล้ว- ภาพถ่ายมุมสูงจากเครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศเหนือแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต จ. ปทุมธานี แสดงให้เห็นปริมาณน้ำกำลังเอ่อท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำ 2 ฝั่ง เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม และอีกไม่กี่วันจะเข้าถึงกรุงเทพฯ (ภาพและคำบรรยายจาก มติชน ฉบับวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2553 หน้า 14)

    หมวดหมู่: สยามประเทศไทย

    อ้างอิง เห่เรือ แข่งเรือ ไล่น้ำ ให้น้ำลด<!-- This entry was posted on at and is filed under . You can follow any responses to this entry through the feed. You can leave a response, or trackback from your own site. Responses are currently closed, but you can trackback from your own site. You can skip to the end and leave a response. Pinging is currently not allowed. Both comments and pings are currently closed.
    -->
     
  11. พี่ทิดศิษย์มีครู

    พี่ทิดศิษย์มีครู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +2,794
    ใครมีเรื่องราว ของตะแลงแกรง ที่ไกล้ๆพระราชวังจันทร์ คือที่วิทยาลัยครูเก่า จ.พิษณุโลกลองถ่ายทอดเป็น วิทยาทาน ธรรมทานบ้าง เพื่อคนที่สนใจและมีเรื่องราวได้ศึกษาเปรียบเทียบจ้ะ

    ธ.โชติกะ
     
  12. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
  13. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Tanunchapat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3957058", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    ยินดีต้อนรับคุณพี่สู่กระทู้ คุณพี่เป็นคนที่สามที่หนูคุยบางเรื่องเกี่ยวกับพระนางแล้วตรงกันนะคะ อื่มเป็นคนที่สี่ค่ะ คนแรกคือพระอาจารย์วัลลภ คนที่สองคุณรุ้ง คนที่สามพระอาจารย์มหาฯ คนที่สี่คือคุณพี่ เราห้าคนเห็นบางเรื่องราวตรงกัน แต่รายละเอียดปลีกย่อยก็อาจต่างกันไปบ้าง ตำหนักหลังนั้น คุณพี่เห็นได้กระจ่างเหมือนเคยอยู่รับใช้เจ้านายพร้อมๆหนูเลยพี่ นางเล็กๆของพระนาง
     
  14. Tanunchapat

    Tanunchapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +3,191
    [​IMG]

    สวัสดีค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวกะท่านเจ้าของกระทู้ และเพื่อน ๆ ญาติธรรมทุกท่านค่ะ

    [​IMG]
     
  15. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210

    ยินดีต้อนรับคุณTanunchapat และยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ^__^

    อนุโมทนา ค่ะ
     
  16. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466


    ก่อนอื่นขอต้อนรับคุณ Tanunchapat ด้วยความยินดียิ่งครับ คุณมาในจังหวะเวลาที่เหมาะสมในจังหวะเวลาที่ท่านผู้บัญชาการทหารบก ท่านกำลังเชิญชวน ..ประชาชนทุกคนร่วมมือกัน ในการเทิดทูนสถาบัน....

    วันนี้จะขอนำรายละเอียดคำต่อคำที่ท่านผู้บัญชาการทหารบกท่านนี้ได้ให้สัมภาษณ์ไว้มาเสนอเพื่อพวกเราจักได้เกิดความเข้าใจโดยถ่องแท้...


    พล.อ.ประยุทธ์ : วันนี้ก็เป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันสวรรคตครบ 100 ปี ในวันนี้ และพวกเราก็มาร่วมจิตอธิษฐาน แล้วก็บำเพ็ญกุศลถวาย แล้วก็คงจะร่วมจิตร่วมใจกันอธิษฐานให้พระบุญญาบารมีของพระองค์ท่านนั้นทรงปกป้องประเทศไทยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวง โดยเฉพาะน้ำที่กำลังท่วมมากที่สุดในเวลานี้ ในหลายสิบจังหวัด เกือบทั้งทุกภาคของประเทศไทย แล้วก็ขอให้ประเทศไทยนั้นมีความสงบสุข ร่มเย็น โดยเร็ววัน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ภายในประเทศ สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ ก็อุทิศส่วนกุศลทั้งหมดนั้นให้กับผู้ที่เสียชีวิตด้วย ก็ถือว่าเป็นการทำบุญร่วมกันระหว่างกองทัพบก ทุกหน่วยงาน วันนี้ก็เป็นการประกอบกิจกรรมร่วมกันทั้งหมดครับ

    นักข่าวถาม : เป็นวันที่หันกลับมารวมใจให้เป็นหนึ่งเดียว
    พล.อ.ประยุทธ์ : ก็อยากให้เป็นอย่างนั้นนะครับ อยากให้ใช้วันสำคัญ วันนี้ และก็วันอื่นๆ ซึ่งผมถือว่าสำคัญทุกวันสำหรับประชาชนชาวไทย วันนี้เป็นวันครบรอบ 100 ปี ของวันสวรรคต แล้วก็สำหรับวันอื่นๆ นั้นก็เป็นวันของคนไทย ซึ่งเป็นวันที่คนไทยจะมีโอกาสหันหน้าเข้ามาปรองดอง หันหน้าเข้ามาปรึกษาหารือกัน แล้วก็ช่วยกันรักษากฎหมาย กระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่ แล้วก็ปกป้องสถาบันทุกสถาบัน ซึ่งจะต้องช่วยกัน ช่วยเหลือดูแล แล้วอย่านำมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้นนะครับ สถาบันอันเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งปวง

    นักข่าวถาม : ในเรื่องของโครงการพระราชดำริ หรือโครงการต่างๆ เป็นไปได้ไหมจะมีการทำอะไรเพิ่มเติม หรือขยาย ...
    พล.อ.ประยุทธ์ : ในขณะนี้ตามที่เราได้มีนโยบายมาโดยตลอด คือกองทัพบกก็จะสนับสนุนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้อย่างเต็มสิริกำลัง แล้วเราก็พยายามที่จะนำสิ่งเหล่านี้ถ่ายทอดไปยังประชาชนในพื้นที่ ที่ผ่านมานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงจัดตั้งศูนย์ต่างๆ มากมาย ในอันที่จะเป็นตัวอย่าง ในอันที่จะเป็นศูนย์ในการวิจัยค้นคว้า แล้วประชาชนโดยรอบนั้นก็จะได้รับความรู้ในเรื่องของการพัฒนา ไม่ว่าจะทางเกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว์ อันนี้มีความจำเป็น เพราะประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม กสิกรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงทำในเรื่องนี้มากว่า 60 ปีแล้ว แล้วในวันนี้ทุกคนก็ช่วยกันแพร่กระจายความรู้ต่างๆ เหล่านั้น ซึ่งพระองค์ท่านได้ทรงศึกษาด้วยพระองค์เอง แล้วก็นโยบายกองทัพบกคือจะต้องเข้าไปช่วยเหลือในทุกโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประมาณ 3,000 กว่าโครงการ ก็ได้ให้ไปสำรวจถึงความต้องการที่จะให้กองทัพบกเข้าไปดำเนินการในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งก็ได้ดำเนินการไปหลายส่วนแล้ว ประเด็นสำคัญก็คือต้องการที่จะนำพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นั้นให้ไปถึงประชาชน พสกนิกรของท่านทุกคน

    ก็อยากจะกราบเรียนว่า ในวันนี้ถึงแม้ว่าคนรุ่นหลังๆ จะเกิดไม่ทันในช่วงที่ท่านทรงงานอยู่ ในช่วงที่มีความลำบาก ก็ขอให้นึกถึงว่าประเทศไทยที่มีวันนี้ได้ ไม่ว่จะเรื่องของการเกษตรกรรม การกสิกรรม การเลี้ยงสัตว์ต่างๆ นั้น สมัยก่อนยากลำบากกว่านี้เยอะ ถนนหนทางก็ไม่ดีเท่านี้ สมัยก่อนนั้นทั้งสองพระองค์นั้นได้ทรงงานอย่างหนักในการที่จะเข้าไปเยี่ยมประชาชนในทุกพื้นที่ ทั่วทั้งประเทศ ด้วยพระองค์เอง และก็ทรงศึกษาด้วยพระองค์เอง แล้วก็นำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาพัฒนาจนกระทั่งมาเป็นวันนี้ ถ้าเรา บางคนเด็กๆ อาจจะไม่เกิดพระองค์ท่านแต่ก็ขอให้รู้ว่าประเทศไทยที่มีอย่างนี้ มีวันนี้ สู่สันติสุขและความเจริญในเรื่องต่างๆ นั้น พระองค์ทรงเป็นผู้พระราชทานมาทั้งสิ้น โดยความร่วมมือของรัฐบาล ด้วยความร่วมมือของหน่วยราชการต่างๆ มาโดยตลอด

    ก็อยากจะกราบเรียนว่า สถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเป็นสถาบันที่อยู่คู่กับคนไทยมาโดยตลอด และพระองค์ท่านไม่เคยทำอะไรที่ไม่นึกถึงพสกนิกรของพระองค์ท่านเลย ทรงลำบากตรากตรำพระวรกายมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นสิ่งใดก็ตามที่จะไปล่วงล้ำ จะไปละเมิด ก็ขอให้ทุกคนได้หยุดได้แล้ว ผู้ที่กระทำอยู่ก็ต้องหยุดนะครับ ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ก็ตาม บางทีก็เอาไปเกี่ยวพันกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผมยืนยันนะครับ พระองค์ท่านไม่เคยไปเกี่ยวข้อง พระองค์ท่านไม่เคยลงมายุ่งในเรื่องพวกนี้เลย แล้วก็อยากจะบอกให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ผมใช้เกียรติยศของผมพูดตรงนี้ ว่าพระองค์ท่านไม่เคยลงมาเกี่ยวข้องในเรื่องใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเรื่องการเมือง หรือจะในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ว่ามีการกล่าวให้ร้าย ผมคงไม่ต้องพูดนะครับ ไม่มีความจำเป็นครับ ผมกราบเรียนว่าไม่มีความจำเป็นที่พระองค์จะต้องมายุ่งในเรื่องพวกนี้ แล้วก็ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่ไม่มีอะไรเลย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทรัพยากร มีอะไรหลายๆ อย่างสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว แล้วพระองค์ท่านก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะต้องไปหาอะไรมาเพิ่มเติม แล้วก็อยากจะกราบเรียนว่า มีแต่เพียงอย่างเดียว ท่านทรงระลึกอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรประชาชนของท่านจะมีความสุข แล้ววันนี้พวกเราก็สมควรจะให้ท่านทรงมีความสุข เพราะท่านทรงลำบากมาตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่านมา 80 กว่าปีแล้ว ทรงงานมา 60 กว่าปี ก็กราบเรียนไว้ว่า ผมต้องพูดเพราะว่า เรื่องเว็บไซต์ เรื่องใบปลิว เรื่องอะไรต่างๆ ทุกคนต้องช่วยกันขจัดคนต่างๆ เหล่านี้นะครับ ถ้าทุกคนย้อนกลับไปต้องนึกถึงว่า ถ้าไม่มีพระองค์ท่าน ประเทศไทยก็โอเคครับ ก็ยังอยู่ อาจจะอยู่ได้ แต่ก็ไม่ใช่แบบนี้

    นักข่าวถาม : ถึงเวลาแล้วใช้ไหมครับที่คนหลงผิด หลงทาง ควรกลับมาเทิดทูน
    พล.อ.ประยุทธ์ : ต้องกลับมาครับ คือ เราต้องทำให้สถาบันอยู่เหนือความขัดแย้งให้ได้ พระองค์ท่านไม่เคยลงมาทำให้เกิดความขัดแย้ง ในระยะเวลา ช่วงเวลาที่มีการแบ่งเป็นฝ่ายต่างๆ พระองค์ท่านทำไม่ได้หรอกครับที่จะลงมายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งโดยตรง ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่พวกเราจะต้องทำการถวายพระองค์ท่าน ประเทศไทยไม่เคยมีฝ่าย เพราะฉะนั้นก็อยากจะกราบเรียนว่า ถ้าจะมีฝ่ายก็มีได้ 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายคนทำความดี อันที่ 2 ฝ่ายทำความไม่ดี เพราะฉะนั้นทำความไม่ดีก็จะต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย หรือต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรมไป ถ้าหลักฐานพยานยืนยันว่าไม่มีความผิด ก็เป็นคนบริสุทธิ์ไป อันนี้ก็เป็นเรื่องของกฎหมายที่ทำอยู่แล้ว เป็นอำนาจตุลาการ ซึ่งระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ก็ขอให้มาต่อสู้กันทางกฎหมายครับ

    นักข่าวถาม : ที่ผ่านมาพระองค์ท่านก็ทรงเสียพระหฤทัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    พล.อ.ประยุทธ์ : อ๋อ! แน่นอนครับ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม จะน้ำท่วม จะฝนแล้ง จะทะเลาะเบาะแว้งกัน อะไรกัน พระองค์ท่านไม่เคยสบายพระทัยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ท่านทรงมีพระชนม์มาก แล้วก็พระประชวรด้วย เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทุกคนช่วยกันรวบรวมจิตใจ ทุกคนทำถวายท่าน ไม่ว่าจะพวกใดก็ตาม ใครที่ไม่เข้าใจ ใครที่เข้าใจผิด ใครที่ไม่เจตนา ขอให้เลิกเถอะครับ เรารู้หมดครับ เจ้าหน้าที่รู้หมด ก็คงเป็นด้วยพระเมตตาของพระองค์ท่าน ซึ่งท่านก็ไม่อยากที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมายอะไรกับใคร ท่านไม่มีโอกาสที่จะมาแถลงชี้แจงกับพวกเราอยู่แล้ว

    ที่ผมพูดวันนี้ผมจำเป็นต้องพูด เพราะว่าถือว่าเป็นหน้าที่ที่บอกไว้แล้วว่า กองทัพบกจะต้องปกป้องสถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ได้ ก็กราบเรียนทุกคนว่า คงต้องช่วยกันดูแล เจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวทำไม่ได้หรอกครับ แล้วลองไปนั่งนึกดูซิว่า ที่ทำเว็บไซต์เข้ามา ทำใบปลิวออกมา หรือเขียนป้ายออกมา สมควรไหมครับ มันสมควรที่ท่านจะทำไหม ไม่ว่าจะใครก็ตาม ถึงท่านจะมาเขียนว่าผมนี่ก็ไม่สมควรอยู่แล้ว ท่านต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ท่านคำนึงถึงเกียรติยศศักดิ์ศรี ไม่ต้องไปถึงสถาบัน เอาแค่พวกเรากันเอง แล้วไปเขียนในการที่จะทำร้ายกันในทางลับหลัง ถ้าแน่ ถ้าจะต้องการแสดงความคิดเห็น ก็ออกมาพูด ออกมาอธิบายกัน ออกมาถามว่าใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง ไม่งั้นประชาชนก็สับสน แล้วก็ใครก็ตามที่ว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ก็ต้องช่วยกันทำให้สิ่งต่างๆ เหล่านี้หมดไป

    เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่จะนำไปสู่การปรองดองได้ หรือนำไปสู่ความสามัคคีได้ ผมว่าเลิกยุ่งเกี่ยวกับสถาบันทั้งสิ้น ยกพระองค์ท่าน ยกสถาบันชาติ ศานา พระมหากษัตริย์ ไว้เหนือเส้นที่ผมเคยบอกไว้มันมีเส้นอยู่เส้นหนึ่ง แล้วจะต้องยกทุกอย่างขึ้นไว้เหนือเส้นนั้น ไม่อย่างนั้นถ้าเอาลงมาสู้กันข้างล่างแบบนี้ ก็สูญเสีย เสียหาย เสียหายอะไรครับ เสียหายประเทศชาติ เสียหายชื่อเสียง แล้วก็ความเป็นคนไทยมันหมดสิ้นไป ผมอยากให้วันเวลาเหล่านั้น สมัยที่ผมเป็นเด็กๆ แล้วก็เราเป็นเด็กๆ นั้นกลับคืนมา รอยยิ้มให้กัน แล้วก็ไม่ทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกัน ใครจะเป็นอะไร ใครจะอะไรกัน ก็ไปว่ากันทางกฎหมาย แล้วก็ไม่อยากให้ย้อนกลับไปคนโน้นคนนี้อีกแล้ว วันโน้นคนนี้ทำนี่ วันนี้ ไม่ต้องย้อน เอากฎหมายมาว่ากัน แล้วก็ต่อสู้กันทางกฎหมาย ทางกระบวนการยุติธรรม แล้วก็ทหาร ตำรวจ ทำงานหนักนะครับ พอทำงานหนักขึ้นมาแล้วก็ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของงานอื่นๆ ซึ่งมีความจำเป็น...

    ก็กราบเรียนจริงๆ ว่าไม่มีใครอยากทำหรอกครับ แต่ก็ต้องทำตามกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ที่มีอยู่ เสร็จแล้วเราก็มานั่งเสียใจกันว่าทำไมมีการบาดเจ็บ มีการสูญเสีย แล้วก็หาว่าใครกระทำ ซึ่งมันก็ต้องใช้กระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว แต่กราบเรียนด้วยใจจริงว่าทหารทุกคน ทุกหมวด ทุกพล หรือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่มีใครอยากให้ใครเจ็บ ให้ใครตาย แม้แต่คนเดียว เพราะฉะนั้นก็ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย

    วันนี้ก็มีประเด็นหลักๆ ก็คือวันนี้ที่เราทำกิจกรรมบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบรอบ 100 ปี แล้วประเด็นที่ 2 คือการรวมความรักความสามัคคีของคนไทยทุกคนในชาติ ผมก็ขอร้องทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัย ทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤตการณ์ไปได้ด้วยดี แล้วก็เทิดทูนสถาบันหลักของชาติไว้อยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมไว้ตลอดไป ผมจำเป็นต้องพูด ก็ขอทำความเข้าใจไว้ด้วยนะครับ สำหรับผู้ที่ทำความผิดอยู่ อะไรอยู่ เราก็ได้ติดตาม ได้เฝ้าระวังอยู่แล้ว แล้วก็หลายๆ อย่างเราทำไปในลักษณะที่ใช้กฎหมายด้วย ใช้ความเข้าใจด้วย ก็ดีขึ้นเยอะนะครับ แต่มันก็ยังมีบางคนอยู่ ซึ่งยังค่อนข้างที่จะไม่เข้าใจและก็ก้าวร้าวรุนแรง ซึ่งคนต่างๆ เหล่านี้มันต้องดำเนินคดี ก็ขอให้เข้าใจด้วยว่า ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่เหมือนประเทศอื่นๆ ประเทศไทยเรามีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีวัฒนธรรมมายาวนาน มีสถาบันพระมหากษัตริย์คู่กับประเทศไทยมาวันนี้ก็หลายร้อยปีแล้ว เพราะฉะนั้น ผมอยากให้คนไทยได้ช่วยกันลุกขึ้นมาแล้วก็ปกป้อง เทิดทูนสถาบัน อยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง นี่คือประเด็นสำคัญ แล้วสิ่งใดก็ตามที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ผมใช้เกียรติยศของผม กับทุกคนในกองทัพบก รับรองว่าท่านไม่เคยยุ่งเกี่ยว และสิ่งใดก็ตาม ที่ว่า ต้องไปอยู่กับสถาบัน ไปอยู่กับท่าน ไปอยู่กับ... ไม่มีครับ ผมยืนยันได้ เพราะตลอดเวลาที่ผมถวายงานมาผมทราบว่าไม่เคยมีเรื่องพวกนี้เข้ามา เพราะฉะนั้นก็ไปหากันว่ามันอยู่ที่ไหน อะไรยังไง ก็ไปช่วยกันดู

    …ไม่มีคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม นี่คือคนไม่ดี เพราะฉะนั้นคนไม่ดีมีโอกาสเป็นคนดีได้ ก็ด้วยจิตใจของตัวเอง ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ขึ้น ยอมรับในเรื่องกติกา กฎต่างๆ ถ้าประเทศไทยไม่รักษาสถาบัน ประเทศไทยไม่รักษากฎกติกา หรือกฎหมาย มันอยู่กันไม่ได้หรอกครับ มันก็เหมือนโจรอยู่ด้วยกัน ซึ่งมันอยู่ไม่ได้ และทหารกับเจ้าหน้าที่มันก็อยู่ไม่ได้ เพราะมันมีหน้าที่ต้องปกป้อง ต้องรักษาผืนแผ่นดินไทย ต้องป้องกันโจร เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกัน ช่วยกันทำอย่างที่ผมเรียนให้ทราบ ขอบพระคุณครับ...

    ผมเป็นห่วงอย่างที่ว่าก็คือกลัวมันจะไม่ทั่วถึง ถ้าทุกส่วน ศูนย์ราชการ ทุกส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ก็ช่วยกันทุกจังหวัด ทีนี้เราต้องไปบูรณาการให้ดีว่าจังหวัดไหน อำเภอไหน ตำบลไหน ถึงหรือยัง มีการจัดส่ง ติดต่อสื่อสารกันตรงได้หรือยัง แล้วประชาชนก็ต้องออกมาแจ้ง ที่อยู่ลึกๆ ก็ต้องออกมา จะออกมายังไงก็ต้องติดต่อกันให้ได้ วันนี้เราจะประสานงานทั้งหมดให้มันเกิดความเท่าเทียมกัน บางพื้นที่เห็นบอกยังไม่ได้รับ บางพื้นที่ได้รับมาก


    ขอขอบคุณ : ฟังชัดๆ คำต่อคำ “ผบ.ทบ.ประยุทธ์” กร้าว หยุดจาบจ้วง-ล่วงละเมิดสถาบันฯ Politics - Manager Online - �ѧ�Ѵ� �ӵ�ͤ� ���.��.����ط��� ����� ��ش�Һ��ǧ-��ǧ����ԴʶҺѹ�
     
  17. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เสียงธรรมที่พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เมตตาเทศน์โปรดสมาชิกเว็บพลังจิต

    โดยคุณ tamsak ได้นำสมาชิกเว็บพลังจิตร่วมทำบุญกฐินกับพระอาจารย์ด้วยครับ

    ก็ขอเชิญทุกท่านโมทนา รับพร และรับฟังธรรมจากพระอาจารย์เลยนะครับ




    http://palungjit.org/attachments/a.1197083/


    แหล่งที่มา : http://palungjit.org/threads/ประมวล...-เทศน์โปรดสมาชิกเว็บพลังจิต-๒๕-ต-ค-๕๓.263990/
    ขอขอบคุณ คุณ Komodo
     
  18. ไก่เหลืองหางขาว

    ไก่เหลืองหางขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +493
    ยินดีต้อนรับครับผม:cool:
     
  19. พี่ทิดศิษย์มีครู

    พี่ทิดศิษย์มีครู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +2,794
    อนุโมทนากับเสียงธรรมพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก อาตมาเคยได้ฟังธรรมของท่าน และอ่านผลงานหนังสือ เช่น โชคดี มีสุข และเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อชาที่ท่านได้นำธรรมมะมาถ่ายทอดให้เข้าใจได้ง่าย แบบไม่ยึดติดในพิธีรีตองต่างๆ อาตมาขอนำท่านเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติตน และการถ่ายทอดธรรมมะที่เข้าใจง่าย และเป็นตัวเองของท่าน

    ขออนุโมทนาสาธุการ

    ธ.โชติกะภิกขุ
     
  20. พระราชมนู

    พระราชมนู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +78
    ดวงธรรม

    พอดีมีภาพดวงธรรมเลยแบ่งปันให้ได้ชมกันครับ 2สถานที่ ต่างเวลา แต่เกี่ยวพันกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1800.JPG
      IMG_1800.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_1491.JPG
      IMG_1491.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      61

แชร์หน้านี้

Loading...