การปลอมตัวเข้ามาบวชเพื่อทำลายพระพุทธศาสนา หรือไม่อย่างไร

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย kittikorn, 10 มีนาคม 2010.

  1. kittikorn

    kittikorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    2,232
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,846
    ขออนุญาตปิดกระทู้นี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2010
  2. แค่ร่างกาย

    แค่ร่างกาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +71
    สิ่งเดียวที่จะช่วยคุณได้ คือ

    ความศรัทธาที่แท้จริงที่มีต่อพระพุทธศาสนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2010
  3. ศรีทอง

    ศรีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +316
    คงตรวจสอบยากครับ เพราะดูแล้วน่าจะวางแผนการมาอย่างดี มุสลิมจะรักพวกพ้องกันมากไม่เหมือนคนพุทธจะต่างคนต่างอยู่ตัวใครตัวมัน
     
  4. Gilgalad

    Gilgalad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +112
    เรื่องดังกล่าวน่าเป็นห่วงอยู่ครับ

    อยากให้มองย้อนกลับไปที่คนพุทธด้วยกันเองบ้าง ว่ามีส่วนทำลายศาสนาไหม

    โจรที่อยู่ในคราบผ้าเหลือง มีเยอะมาก ทั้งนี้ไม่ได้พูดถึงคนต่างศาสนาเลย

    ลองมาดูครับ ในต่างประเทศ พระไทยนี่ล่ะตัวทำลายศาสนา ไม่ขอรวมถึงประที่เป็นตัวอย่างที่ดีในต่างประเทศนะครับ

    พระที่อินเดียที่ผมเจอ ส่วนมาก ไม่ได้ใส่จีวรแล้ว แต่ละคนมีตำแหน่งใหญ่โต ที่ประเทศไทย แจ้งเรื่องไปทางต้นสังกัด ก็ช่วยปกป้องกันเอง

    พอมาอินเดีย ไม่ใส่จีวร ไม่โกนหัว จีบสาวต่างชาติ คบสาวต่างชาติ ทั้งที่คนไทยก็ยังเรียกอาจารย์อยู่ ไม่มีความละอาย หากินกับผ้าเหลือง เงินที่ส่งมาเรียน ก็เงินญาติโยมทั้งนั้น

    เด็กที่นี่เห็นพระเป็นตัวอัปมงคลกันแล้ว เพื่อนๆต่างชาติของผม ยังเรียกว่า f...monk กันเลย

    แต่ต้องขอชมเชย พระไทยหลายๆรูป ที่ยังทรงสมณะสารูปไว้ได้ ได้ยินมาว่า ท่านเกรงใจโยม ที่ส่งเงินมาให้เรียนต่อ ยังไงก็ต้องรักษาไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่กล้าทำอะไรให้ญาติโยมเสียใจ และเสียศรัทธา
     
  5. lamb of god

    lamb of god เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +436
    ทำไมต้องทำขนาดนี้นะ...แย่มากเลย ฟาริสี จริงๆพวกนี้
     
  6. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    มูลเหตุที่ทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนเสื่อมสูญ

    ภิกษุทั้งหลาย ! มูลเหตุ ๔ ประการเหล่านี้ ที่ทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป. ๔ อย่างอะไรกันเล่า ? สี่อย่างคือ:- <O:p</O:p
    1. ภิกษุทั้งหลาย ! พวกภิกษุเล่าเรียนสูตร อันถือกันมาผิด ด้วยบทพยัญชนะที่ใช้กันผิด ; เมื่อบทและพยัญชนะใช้กันผิดแล้ว แม้ความหมายก็มีนัยอันคลาดเคลื่อน. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้ มูลกรณีที่หนึ่ง ซึ่งทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือน จนเสื่อมสูญไป <O:p</O:p
    2. ภิกษุทั้งหลาย ! อีกอย่างหนึ่ง, พวกภิกษุเป็นคนว่ายาก ประกอบด้วยเหตุที่ทำให้เป็นคนว่ายาก ไม่อดทน ไม่ยอมรับคำตักเตือนโดยความเคารพหนักแน่น. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้ มูลกรณีที่สอง ซึ่งทาให้พระสัทธรรมเลอะเลือน จนเสื่อมสูญไป. <O:p</O:p
    3. ภิกษุทั้งหลาย ! อีกอย่างหนึ่ง, พวกภิกษุเหล่าใด เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจนะ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท). ภิกษุเหล่านั้นไม่ได้เอาใจใส่บอกสอนใจความแห่งสูตรทั้งหลายแก่คนอื่น ๆ ; เมื่อท่านเหล่านั้นล่วงลับดับไป สูตรทั้งหลาย ก็เลยขาดผู้เป็นมูลราก (อาจารย์) ไม่มีที่อาศัยสืบไป. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้ มูลกรณีที่สาม ซึ่งทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือน จนเสื่อมสูญไป. <O:p</O:p
    4. ภิกษุทั้งหลาย ! อีกอย่างหนึ่ง พวกภิกษุชั้นเถระ ทำการสะสมบริกขารประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา มีจิตต่ำด้วยอำนาจแห่งนิวรณ์ ไม่เหลียวแลในกิจแห่งวิเวกธรรม ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งในสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง. ผู้บวชในภายหลังได้เห็นพวกเถระเหล่านั้นทำแบบแผนเช่นนั้นไว้ ก็ถือเอาไปเป็นแบบอย่าง จึงทำให้เป็นผู้ทำการสะสมบริกขารบ้าง ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา มีจิตต่ำด้วยอำนาจแห่งนิวรณ์ ไม่เหลียวแลในกิจแห่งวิเวกธรรม ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งในสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง,ตามกันสืบไป. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้ มูลกรณีที่สี่ ซึ่งทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ภิกษุทั้งหลาย ! มูลเหตุ ๔ ประการเหล่านี้แล ที่ทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป
    จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๙๗/๑๖๐. <O:p</O:p
    ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์น. ๑๐๘
     
  7. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    เป็นธรรมดาของโลก ใครเก่ง....ก็อยู่ได้
    ใครอ่อน เป็นอาหารไป .....ก็ถูกต้องแล้วนี่.....
    ของเราถ้าไม่ดีจริงก็ต้องยอม ......บทเรียนที่ผ่านมา คนอ่อนแอ ต้องถูกทำลาย
    ของเขาถ้าดีจริง เราก็ต้องยอม........จริงไหม ?

    ตัวทำลายศาสนา คือ ความผุกร่อนภายในตัวเอง ถ้าภายในดีแล้ว ...สนิมภายนอก ไม่มีทางทำอะไรได้หรอก ได้แต่พูด....คนที่รู้จริง ๆ มีการศึกษา มีวิสัยทัศน์ เขาไม่มาบวชอยู่หรอก .......รวยแล้วก็สึกไปมีเมียหมดแล้ว ที่อยู่ ๆ ไม่มีทางไป

    ธรรมะทำให้คนอ่อนแอ ....อะไรก็ผิด อาบัติหมด ......เหมือนคนไม่มีน้ำยา ทุกวันนี้เขาขับรถยนต์บิณฑบาตรกันแล้ว ค่ำก็ดูหนัง ทีวี วีดีโอ.....นอนห้องแอร์ อยู่ดีกว่าชาวบ้านอีก
    ไม่ต้องห่วงหรอก ปล่อยไปตามกรรมเถอะ.....พูดแล้วมีน้ำโห อินเดียต้นกำเนิดก็ล่มสลายไปแล้ว...........มันคิดหรือเปล่า

    ไอ้คนที่แต่งนิยายไปนรก สวรรค์ มันยังทำชั่วได้ ไม่เห็นมันกลัวเลย .....แสดงว่ามันมีไม่จริงหรอก ........หลอกให้เขาทำบุญทั้งนั้น สังคายนากันเสียที.. ก่อนที่จะสายไปกว่านี้

    ก่อนหายนะจะมาเยือน ไม่มีใครเขาทำลายเราได้หรอก.........นอกจาก ตัวเจ้าเอง นั่นแหละ..............สมีทั้งหลาย.
     
  8. kylethai

    kylethai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +168
    คำเดียวครับ "กัมมุนา วัตตติโลโก" สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม แล้วอีกอย่าง สงสารพวกเค้าเถอะครับ ชาตินี้จะได้เกิดเป็น "คน" ที่ไม่ได้ถึงความเป็น "มนุษย์" เป็นชาติสุดท้ายก็ได้ พุทธศาสนาคือศาสนาแห่งความเป็นจริงที่ไม่มีอะไรสามารถทำลายได้ และพระพุทธองค์คือผู้ที่ค้นพบแล้วสั่งสอน ใครคิดจะบิดเบือนคงได้ไปอยู่กับพระเทวทัตเป็นแน่หรือไม่แน่ก็อาจจะไปอยู่ที่โลกันตร์นรก ทุกสิ่งอย่างมีเกิดและดับ ศาสนาก็คือสิ่งหนึ่งที่ย่อมเป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์เหมือนกันครับ
     
  9. linake119

    linake119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +578
    ขอบคุณในการช่วยกันสอดส่องครับ
    ที่จริงแล้วพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า ผู้ที่ทำให้พระศาสนาเสื่อมหรือเจริญนั้น อยู่ที่พุทธบริษัท ๔ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของพุทธบุตรเช่นเราๆ ต้องรักษาสืบต่อคำสอน และการปฏิบัติที่พ่อเราวางไว้ ที่สำคัญคือ ณ ขณะนี้เราต้องสำรวจดูจิตใจของเราก่อนว่า เรายังมีความโลภ ความโกรธ ความหลง ในตัณหา ราคะ หรือไม่ ยังมีกิเลสต่างๆในใจหรือไม่ เราได้ศึกษามากพอแล้วหรือยัง สังโยชน์ ๑๐ ยังเต็มบริบูรณ์หรือไม่ หากว่ายังเต็มอยู่ การที่จะเรียกว่าเป็นผู้สืบต่อพระศาสนานั้น ก็คงไม่สามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำ

    พระพุทธองค์ทรงวางหลักของการปฏิบัติต่อกัน ไม่ว่าสถานะของฆราวาสต่อฆราวาส ฆราวาสกับภิกษุ ฆราวาสต่อนักบวชต่างศาสนา ภิกษุต่อภิกษุ ภิกษุต่อนักบวชต่างศาสนาไว้แล้ว (ดูในปาฏิโมกข์กถาก็ได้) ดังนั้นลักษณะใดที่ควรจะทำก็น่าจะรู้กันดีอยู่ ฆราวาสนั้นทื่จริงอาจเตือนพระได้เช่นกันครับ หากว่ากระทำการที่ไม่เหมาะสม ไม่ต้องกลัวว่าเป็นบาป หากว่ากลัวว่าเป็นบาปนั้นแล้วไม่กล้าเตือน อย่างง่ายๆ เห็นพระร้องเพลงนั้น แล้วก็ผ่านไป อย่างงี้เรากำลังเป็นผู้หนึ่งของการทำให้พระศาสนาของพระศาสดาเสื่อมแล้ว อย่างงี้จะเป็นบาปมากกว่า ดังนั้นการเตือนกันด้วยเมตตาจิตจะดีกว่าครับ

    ก็ขออนุโมทนาในการช่วยกันสอดส่องดูแลครับ
     
  10. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    คุณkyletพูดได้ถูกต้องแล้วครับ น่าสงสารคนพวกนี้นะครับเกิดมาก็หลงผิดคิดฆ่าคนเลย แบบนี้คงยากที่จะสำนึก ตายไปตกนรกไม่ได้มีความสุขหลอก
     
  11. เจตบุตร

    เจตบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +175
    อนิจจา ต้องช่วยกันเผยแพร่น่ะครับ ไม่งั้นปลาเน่าแค่ 2 ตัวจะทำเน่ากันทั้งไห
     
  12. wattanawong

    wattanawong สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    ถ้าในรูปเป็นพระจริงมันก็เลวทั้งคู่
     
  13. rnuir

    rnuir เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +218
    พระพุทธเจ้าบอกถึงทางเสื่อมของพุทธศาสนา
    แต่ไม่ได้บอกว่าพุทธศาสนาจะไม่เสื่อม

    เราต้องยอมรับความจริงของการเปลื่ยนแปลง ใช้ปัญญาพิจรณาทุกอย่างที่เข้ามาทางประสาทสัมผัส บางทีถึงจะไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่อาจจะช่วยให้เราไม่ทำอะไรที่ผิดในตอนที่จิตใจเราขาดปัญญา

    ทางแก้ต้องทำให้พุทธศาสนิกชนรู้ว่าพุทธแท้เป็นอย่างไรหลักการปฎิบัติของพุทธแท้ที่มุ่งเน้นในการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งหลาย ซึ่งจะทำให้เค้าสามารถแยกแยะพระหรือหลักปฎิบัติที่เป็นของแท้ออกจากของเทียมได้

    พระไม่สามารถบอกกะทุกคนได้ว่าคนนี้เป็นของแท้ หรือ ไม่แท้ พุทธศาสนิกชนเองต่างหากที่ต้องรู้ว่าอะไรคือของแท้

    เปรียบเสมือน เราซื้อมะม่วงที่คละพันธุ์กัน ถ้าเราไม่มีความรู้ว่าพันธุ์ไหนอร่อยแล้วมีลักณะอย่างไรเราก็ไม่สามารถเลือกซื้อพันธุ์ที่อร่อยได้ถูกต้องทั้งหมด ถ้ามีผู้รู้เลือกให้ก็จะเป็นการลำบากถ้าคนซื้อมีจำนวนมากๆและขาดความรู้ในการเลือก ถ้าเจอผู้รู้ที่หลอกขาย เราก็จะได้มะม่วงที่ไม่อร่อยหรือเจอ มะมุด ที่คล้ายมะม่วงไป และเราก็ไม่อยากกินมะม่วงอีกต่อไป

    แต่ถ้าเรามีความรู้เรื่องมะม่วงอย่างดี รู้ถึงลักษณะต่างๆของมะม่วงทั้งพันธุ์ที่อร่อยและไม่อร่อย เราก็จะเลือกซื้อมะม่วงได้แต่พันธุ์ที่อร่อยได้ทั้งหมด

    สิ่งเหล่านี้ก็อาจแก้ปัญหาเรื่องการเสื่อมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในระดับหนึ่ง
     
  14. primrose

    primrose เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +527
    สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นย่อมดับ เป็นธรรมดา
     
  15. Jjfreeman

    Jjfreeman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +130
    สำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน ลองเข้าไปอ่านในเว็ปนี้ดูครับ (คลิ๊ก) แล้วคุณจะรักและห่วงแหน พระพุทธศานากับประเทศไทย มากขึ้นกว่าที่คุณคิดไว้ครับครับ " ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ข่มขี่ "
     

แชร์หน้านี้

Loading...