สงสัยมานานแล้ว แล้วพวกที่ไม่ใช่พุทธล่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บาราคูดา, 9 สิงหาคม 2010.

  1. โลกุตตระ

    โลกุตตระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    448
    ค่าพลัง:
    +2,624
    ชาวพุทธส่วนใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพาน หรอก!

    แค่การทำนิพพานให้แจ้ง(เข้าใจนิพพาน)....ยังยากเย็นแสนเข็ญ เลย

    แล้วคนในศาสนาอื่นละ....จะเป็นอย่างไร ????
     
  2. นามิกา

    นามิกา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +52
    มองตน ไม่เพ่งมองผู้อื่น
     
  3. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ก็ถ้าไม่ใช่พุทธศาสนาแล้วจะให้เขามาเชื่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ยังไง
    ในสังโยชน์ แค่ 3 ข้อแรก แค่ข้อ 2 วิจิกิจฉา สงสัยในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์
    และการที่จะบรรลุมรรคผลได้ก็ต้องเคยเกิดในพุทธศาสนามานับชาติไม่ถ้วนไม่งั้นชาติเดียวไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้

    สรุปคือ ติดที่ "ศรัทธา"
     
  4. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    ศาสนาใดมีมรรคแปดองค์แปดย่อมสาราถไปนิพพานได้แต่ไม่มีศาสนาใดเลยที่มีมรรคแปดองค์แปดนอกจากศาสนาพุทธศาสนาอื่นนั้นไปได้แค่สวรรค์แต่ไม่ไปถึงนิพพานและไม่ถึงโสดาบันครับแต่หลักของทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วและผลของกรรมนั้นไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อไม่ว่าจะมีศาสนาหรือไม่มีมันก็เกิดขึ้นกับทุกคนครับเพราะมันคือธรรมธรรมชาติที่มีอยู่จริงแม้แต่นับถือพุทธแท้ๆแต่ทำชั่งก็ตกนรกครับตอบแบบนี้หวังว่าคงเข้าใจนะครับ
     
  5. ศิษย์โง่งม

    ศิษย์โง่งม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +23
    หลักศาสนาส่วนใหญ่คือลัทธิทางความเชื่อตามศาสดา พุทธเชื่อว่าทุกสิ่งเป็นไปของมันตามธรรมชาติเรียน
    เพื่อรู้ธรรมชาติ(โลก) แล้วหาทางละทิ้งธรรมชาติ ไม่กลับมาเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติอีก
    เพราะรู้แล้วเบื่อแล้วไม่ติดใจหรือสงสัยใคร่รู้อะไรอีกแล้วพอกันทีสำหรับโลกนี้
    แต่ถ้าติดใจนิดๆ(มีเชื้ออาสวะกิเลส) ก็ต้องลงมาเรียนรู้ปฎิบัติต่อ ถ้ารู้แล้วพอแล้วตัดอาสวะกิเลสเด็ดขาด
    ไม่ติดใจสังสัยอะไรอีกต่อไป ก็จะไปเหมือนพระพุทธเจ้าบรมครูและเหล่าครูน้อย ผู้ได้บารมี10
    สู่แดนนิพพานดับสูญ..
    ส่วนยิวคริตส์อิสลามมีความเชื่อว่า ธรรมชาติ(โลก)มีผู้สร้างมีคำนามว่าพระเจ้าหรือGodหรืออัลเลาะ
    แล้วแต่ภาษาแต่ความหมายเดียวกัน แต่ศาสดาทั้งสององค์มีแนวทางการสอนต่างกัน
    ศาสดานบีมุฮัมมัดเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียว สอนให้อยู่ด้วยกันอย่างมีสันติ มีเมตตา(การถือศีลอด)
    รู้จักแบ่งปัน(สะกาด) ยึดหลักจารีตประเพณีเคร่งครัดตามศาสดา(ซุนนะ)
    หากปฎิบัติดี จะได้รางวัลเป็นแดนสวรรค์ในโลกหลังความตาย..
    ศาสนาคริตสสอนให้เชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียวแต่มีสามสถานะ คือพระเจ้า พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ
    สอนให้มนุษย์อยู่อย่างสันติ มีความรักเมตตาต่อผู้อื่น รักผู้อื่นเหมือนรักตัวเราเอง
    สอนให้คนมีความสุขในการให้มากกว่าการรับ สอนให้อภัยผู้อื่นเหมือนพระเยซูนำมนุษย์ให้ได้รับการอภัย
    จากพระเจ้า เน้นว่ามนุษย์เกิดมาเพราะความหลงผิด คิดชั่วทรยศต่อพระเจ้า จึงถูกลงโทษให้มารับทุกข์
    แต่พระบุตร(พระเยซู)ถูกพระเจ้าส่งลงมาเพื่อยอมตายบนกางเขน เพื่อสละพระโลหิตและชีวิตไถ่บาป
    ให้มนุษย์ เพื่อคนที่เชื่อจะได้มีสิทธิได้ไปอยู่สวรรรค์ และมีความเชื่อเดียวกับอิสลามคือเมื่อตายแล้ว
    ดวงวิญญาณจะถูกเก็บกักไว้เพื่อรอวันพิพากษาที่จะมาถึงในเร็ววัน
    ใครจะไปสู่ดินแดนสวรรค์ใครจะถูกไล่ไปแดนนรก
    ความประพฤติในโลกจะเป็นตัวชี้ไม่เชื่อเรื่องการกลับมาเกิด ไม่เชื่อเรื่องนิพพาน.
    ส่วนใครจะเชื่ออย่างไร ศาสนาไหน เป็นหนทางที่แต่ละชีวิตจะเลือกเอง
    เพราะจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครที่ตายแล้ว กลับฟื้นมายืนยัน
    ทางไหนเป็นคำตอบสุดท้าย ผู้ตอบได้คือตัวท่านเอง
    ..ว2ว8.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 149.jpg
      149.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.4 KB
      เปิดดู:
      80
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2010
  6. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ท่านผู้เจริญ อย่าพึ่งด่วนสรุป
    ความหลุดพ้นมีอยู่ในความเชื่อของตนโดยถ่ายเดียว
    ไม่ว่าท่านจะนับถือศาสนาใดพระศาสดาองค์ใด
    ดีทั้งหมด ทำตามคำสั่งสอนของพระศาสดาของท่านไป
    ขอการทรงนำของพระศาสดาของท่านมาเป็นที่พึ่ง

    พูดในหลักสากล ศาสนาในโลกนี้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาทั้งสิ้น
    รวมกระทั่งศาสนาที่ตายแล้วด้วย

    ล้วนกำเนิดมาจากแหล่งเดียวกันทั้งสิ้น คือความว่างจากทั้งปวง
    นิพพาน ไม่สามารถอธิบายเป็นภาษาอะไรได้

    เต๋า ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการพูดถึง แต่เข้าถึงเพราะปฏิบัติในเต๋า

    เซน ไม่สามารถคุยได้รู้เรื่อง แม้พูดไปก็ไม่เข้าใจ
     
  7. สงกะสัย

    สงกะสัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +126

    เห็นด้วยกับSriaraya5 เตือนสติ คนเราหากยังไม่มีความรู้ในสิ่งนั้นจริง

    อย่าเพิ่งด่วนสรุปอย่าเอาภูมิรู้เท่าหางอึ่งของเราเป็นตัวตั้ง เลยกลายเป็น

    เรื่องความถูกใจ ไม่ใช่ถูกต้อง มีอวิชชาเป็นอาภรณ์ เดินอวดอย่างสง่า

    แต่หาทางออกไม่ได้ ติดแงกอยู่กับอัตตาแห่งตน จนยากจะถอยถอน

    ขอบคุณท่านศิษย์โง่งม ที่ช่วยให้หายโง่งม สั้น เข้าใจง่าย ตรงประเด็น.


     
  8. badjoize

    badjoize เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +293
    ความสงสัยนั้นเป็นเหตุแห่งทุกข์ จงอย่าได้สงสัย จงปฏิบัติดีเถิด แล้วเจ้าจะได้เห็นได้รู้มากกว่าผู้ใด...สาธุ
     
  9. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ...ตามหลักคำสอน(ศาสนา)

    ...พุทธศาสนา สอนให้..1.ทำความดี..2.ละความชั่ว..3.ทำใจให้ผ่องใส(ละกิเลส หลุดพ้นจาก วัฎสงสาร มุ่งสู่นิพพาน)...

    ...คริสต์ สอนให้...1.ทำความดี....ฯ

    ...อิสลาม สอนให้..1.ทำความดี...ฯ

    ...ศาสนา...? สอนให้ ..1.ทำความดี...2.บำเพ็ญตะบะ

    ....สอนให้ไปที่ใด ปลายทางก็ที่นั้น...ทำได้สุดแค่ไหน..ไปได้แค่นั้น (เป็นคติของแต่ละคำสอน)

    ...เส้นทางเริ่มต้น เหมือนกัน ...จุดหมายปลายทาง ไม่เสมอกัน ไม่เท่ากัน ....
     
  10. ศิษย์ธรรมเทพ

    ศิษย์ธรรมเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +786
    ศาสนานั้นก็เหมือนกับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษานั่นแหละ แต่ละที่มีหลักสูตร เมื่อสำเร็จการศึกษาทุกสถาบันย่อมมีศักดิ์ศรีของตัวเองทั้งสิ้น

    หากแต่การที่พูดว่าเกิดในพุทธศาสนามีบุญนั้น ด้วยเหตุว่าพุทธศาสนามีหลักสูตรสูงสุดถึงขั้นนิพพานเปรียบกับทางโลกก็คือจบถึงปริญญาเอก คือถือว่าจบสูงสุด หากแต่ศาสนาอื่นนั้นอาจจบแค่ระดับปริญญาตรีแค่สวรรค์ มิได้ไปถึงนิพพาน ดังนี้แล
    สาธุ
     
  11. kjkjkj

    kjkjkj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +139
    แก่นแท้ของพุทธศาสนา คือ ทุกข์ และ การดับทุกข์

    การเกิด แก่ เจ็บ ตาย คือของะรรมดา

    ทำกรรมดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้รับกรรมชั่ว

    ชาติหน้ามีจริง มิได้เกิดแล้วสูญ

    นรกมีจริง สวรรค์มีจริง

    ต้องปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธศาสนาจึงจะบรรลุอรหันต์ หลุดพ้นจากวัตถสงสารแห่งการเวียนว่ายตายเกิดได้
     
  12. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    ...............อืมมม...นิพพาน คือ สิ่งที่มีอยู่เดิมแล้ว เพียงแต่ใครจะค้นพบ แล้ว นำมาบอกต่อ .... เพื่อให้เข้าใจในสภาวะนั้น ... ถึงแม้ ในกัลป์ ที่ไม่มี พระพุทธเจ้า นิพพานก็ยังคงอยู่
    อย่างนั้น แต่ ไม่มีใคร เข้าใจ ถึงเข้าใจก็บอกใครไม่ได้...ถึงจะมีจริง ก็ยากจะอธิบายด้วย
    ภาษาใดๆ....เพราะนิพาน เกิน สมมุติ เหนือวิสัยที่จะรับรู้ได้ด้วยประสาททั้ง5โดยทั้งปวง
    ในแต่ละกัลป์ ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ภาษาย่อมแตกต่าง ในกัลป์ก่อนๆอาจจะมีศาสนา
    ที่ค้นพบนิพพาน แต่ คงไม่ใช่ภาษาที่เข้าใจกันในปัจุบัน หรือ ในกัลป์นี้ก็เป็นได้....นี้คือ
    สมมุติฐานเท่านั้น....
     
  13. ฉันทปาโล

    ฉันทปาโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +677
    สงสัย ๒ ประเภทคือสงสัยแท้(สงสัยในทางพ้นทุกข์อาจเสียสติได้) กับสงสัยเทียม(สงสัยไปงั้นไม่นำไปสู่ความพ้นทุกข์) เรื่องนี้เป็นสงสัยแท้นะครับ
    เชื่อเรื่องระลึกชาติไหมครับ ไม่เชื่อไม่เป็นไรครับ ต้องรู้เองแล้วจะเชื่อ
    บางคนลงมือปฏิบัติเองแล้วเห็นว่าเคยเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมิต่างๆ เฉพาะที่ได้เป็นคนก็นับถือศาสนาต่าง ๆ มาไม่ถ้วน
    บางคนไปเจริญกรรมฐานแผ่เมตตาที่ประเทศทางยุโรป มีสัมภเวสี เปรต และวิญญาณหลงทาง มารับส่วนกุศลมากมาย
    บางคนไปเที่ยวต่างประเทศ มีวิญญาณแม่ชีจากโบสถ์เก่าเกาะติดมาเพียบ เพราะจำได้ว่าเคยเป็นแม่ชีอยู่ด้วยกัน ทำไมจึงมีทางไปเกิดในดินแดนแห่งบุญกุศลได้
    บางคนไปทำงานทางตอ.กลาง ตอนเดินทางกลับนิมิตเห็นมือยักษ์มาโอบล้อมเอาไว้ ไม่ยอมให้กลับ เพราะอยากให้อยู่ปฏิบัติในดินแดนนั้นต่อ
    นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกก็หันมาศึกษาแนวทางนี้ เนื่องจากสามารถอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้
    คนข้างบ้านนับถือศาสนาxxx บอกว่าศาสนาอื่นเป็นศาสนาผีห่าซาตานดลบันดาลทั้งสิ้น มีเพียงสิ่งเหนือธรรมชาติหนึ่งเดียวเท่านั้นเป็นที่พึ่ง ทำให้ผมภูมิใจในพระพุทธศาสนายิ่งขึ้นที่ไม่สอนผมอย่างนั้น
    ยังมีอีกหลายเคสครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโชคดีที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...