ล้อเล่น.. เลยเจอดี

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ผมก็มีเรื่องราวอันตื่นเต้นต่าง ๆ จะมาเล่าให้ท่านใด้ใคร่ควรกัน ชีวิตผมนั้นเหมือนจะผูกพันกับเรื่องพวกนี้ประจำ หนียังไงก็ไม่พ้น เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ มันเป็นเหตุการณ์สมัยเมื่อครั้งยังเยาว์วัย แม้มันจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่มันก็ยังฝังจิตฝังใจมาจนทุกวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่า...
สมัยตอนเด็ก ๆ นั้นผมอยู่กับยายที่บ้านนอก เป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นล่างเป็นปูน รอบ ๆ บ้านจะปลูกต้นไม้ไว้ พออาทิตย์ลับขอบฟ้าก็จะได้เวลาหลับนอน ผมกับพี่สาวมักจะชอบเอาเสื่อมาปูนอนหลับข้าง ๆ ยาย ไม่มีใครกล้าขึ้นไปนอนบนชั้นสอง ไม่รู้เพราะเหตุใด ทุกครั้งที่ยายใช้ให้ขึ้นไปหยิบของที่ชั้นสอง ผมมักรีบวิ่งขึ้นไป แล้วรีบวิ่งลงมา บรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ อธิบายไม่ถูก
ผมมีน้าชายอยู่คนหนึ่งแก้เป็นคนขยัน แกชอบออกไปหาหนู แมลง กบ เขียดตามประสาของแก ในตอนกลางคืน และจะกลับมาราว ๆ ตี 1 พอน้ามาถึงก็จะมาเคาะประตูหน้าต่างที่อยู่ติดกับเตียงนอนของยาย และยายจะเป็นผู้ไปเปิดประตูให้ทุกครั้ง ชีวิตดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้อย่างเรียบง่าย และแล้วเหตุการณ์อันน่าตื่นตระหนกก็เกิดขึ้น มันเป็นช่วงบ่ายอันร้อนระอุอ้าวไปด้วยไอแดด มีขบวนอะไรไม่ทราบในตอนนั้น แห่ผ่านหน้าผมไป ด้วยความไร้เดียงสา ผมก็ล้อเลียนเป็นที่สนุกสนาน โดยกางแขนกางมือ และตบท้ายด้วยการโก่งตูดแล้วตบใส่ พอผมมองอีกที เห็นชายหน้าเขียวที่เดิมอยู่กับบวนนั้นเหลียวหน้ามาจ้องมองผม มันทำให้ผมรู้สึกขนลุก ตาเขาแดงมาก เขาเป็นใครมาแต่งตัวแปลก ๆ ร่วมแห่ขบวนเอากับเขาได้ เขาจ้องมองผมจนกระทั่งขบวนนั้นลับเหลี่ยมกับชายป่าไป ผมรู้สึกกลัวเอามาก ๆ จนกระทั่งอาทิตย์ลับขอบฟ้า ได้เวลานอนแล้ว คืนนั้นไม่รู้เป็นยังไง รู้สึกว่าอากาศมันจะหนาวเหลือเกิน ผมห่มผ้าคุมโปงหลับไปอย่างรวดเร็ว ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงเคาะหน้าต่างดังขึ้น "สงสัยน้ากลับมาแล้วสินะ" ผมงุมงำอยู่ในลำคอ ก๊อก ๆ ๆ ผมงัวเงียตื่นขึ้นแล้วเรียกยาย
"ยายน้ากลับมาแล้วไป เปิดประตูให้น้าหน่อยครับ" เงียบ..... ก๊อก ๆ ๆ ๆ "ยาย" ผมเรียกเสียงดังขึ้น แล้วลุกคลานไปใกล้ ๆ ยายเพื่อจะเขย่าปลุก ยังไม่ทันจะถึงเตียง หน้าต่างก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว
"เฮยยยยย"
ชายรูปร่างเขียวไปทั้งตัว ปากแดงตาแดง ๆ อยู่ที่หน้าต่างนั่น พร้อมกับแลบลิ้นปิ้นตามาที่ผม
" ยา. ย ย ย " ผมร้องออกมาสุดเสียง แต่มันดังอยู่ในใจ ไม่มีเสียงเปร่งออกจากปาก กายสั่นเทิ้ม ผมพยายามสะกิดพี่สาวที่นอนใกล้ ๆ หยิกก็แล้ว ทุบก็แล้ว แต่พี่จะรู้สักนิดก็หาไม่ มันยืนมือมา จะถึงผมอยู่แล้ว
ผมกรี๊ดออกมาสุดเสียง และความรู้สึกก็ดับวูบไป

 

อ่ะนะ ลองดี จนเจอดีจนได้

 

คราวหลังก็รู้จักคับ
ว่าที่ไหนควนทำอันไหนไม่ควรทำ

 

น่ากลัวจังครับ เป็นผมเจอแบบนั้น สงสัยได้ช็อคกลับบ้านเก่าไปแระ อิอิ

 

เหอะๆๆๆ - -"ทำกับเขาเช่นไรก็ได้เช่นนั้น อนุโมทนาที่ให้ข้อคิด

______________________________

สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี

 

เขามาเอาคืนงัย

 

5555555555555555555555 มันเป็นเรื่องที่ตลกมากจริงๆค่ะ (เราก้อเป็นคนหนึ่งที่ชอบลองของจนเจอดี ..ว่าแต่นี่คือเรื่องจริงใช่ไหมคะ ขำมากอะ

 

อย่าลองเลยครับ บาปทั้งเค้า บาปทั้งเรา

 

จำไว้นะคราวหลังอย่าทำ

 

ถ้าจริงก็ตื่นเต้นดีนะครับ...เป็นบทเรียนที่ดีครับ

 

ไม่เป็นไรครับ ลองไปเถอะ ผมลองมาแล้วหลายกรณี เจอบ้างไม่เจอบ้าง เป็นประสพการณ์เสียวๆ สนุก และตื่นเต้นดี

 

หลังจากนั้นล่ะ ค้างคาอ่ะ

 

คราวหลังอย่าลองอีกนะคะ

 

มีตอนต่อหรือเปล่าคับ เหมือนยังไม่จบนะ..

 

จบหรือยังค่ะ เหมือนยังค้างๆน่ะ

 

นั่นสินครับจบยังอ่ะครับ
แล้วตกลงเป็นขบวนอะไรหรอครับผมไม่รู้อ่ะครับ

 

พอรุ่งอรุณเริ่มสาดแสงรอดหน้าต่างเข้ามา เด็กน้อยในสภาพนอนคุมโปงโงหัวขึ้นด้วยความงงงวย แต่ก็เย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ ขนตามแขนขายังลุกซันตรงแหน่ว แม้ว่าฟ้าจะกระจ่างแจ้งแล้ว แต่ในจิตใจของผมยังมืดมน ความกลัวที่ฝังแน่นผลักดันให้ผมต้องพึ่งพา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สู่เส้นทางของความอาถรรพ์ลี้ลับในคำว่า "ไสยศาสตร์"

 

ก็อย่างว่าละครับ เด็กน้อยเพิ่งรู้ความ ไม่รู้ประสีปะสา เห็นอะไรเป็นที่สนุกไปหมด ขบวนแห่นั้น ผมพึ่งมารู้ทีหลังเมื่อตอนหนุ่ม ว่าเป็นขบวนแห่ศพ เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นผมไม่ได้บอกใครอย่างละเอียดนัก บอกแต่ยายว่าเมื่อคืนโดนผีหลอก ยายก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมาก พาผมไปหาทวด ซึ่งเป็นผู้มีอาคมอันแก่กล้า ผมเห็นแก่บ่นอะไรงึมงำ สักพักก็ดื่มน้ำในขันแล้วพ่นใส่ผมชะเต็มหน้า ถามว่ารู้สึกยังไง คำตอบก็คือเย็นดี พอได้ไปสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ความน่ากลัวทั้งหลายก็พลันเหือดหายไป

 

ก็เด็กนี่เนอะ แต่ช่างแก่นแก้วจนน่ากลัวดีจริงๆ เลยค่ะ
เห็นด้วยค่ะว่าสำนวนบางที่คล้ายๆพวกนวนิยายลึกลับ
ขอบคุณค่ะที่มีเรื่องมาเล่าให้ฟังกัน