ออกกรรม ตามแบบฉบับวัดเขาสมโภชน์ พระอาจารย์คง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญูชนจอมปลอม, 16 สิงหาคม 2010.

  1. วิญญูชนจอมปลอม

    วิญญูชนจอมปลอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +1,124
    23 ก.ย. 53 หยุดครับวันพระ แต่งดอาหารแทน กินแต่เครื่องดื่ม
    หลังจากอดมาวันนี้เป็นครั้ง 5 ต้องไปธุระกับเพื่อนอีกคน แถวนั้นหาเครื่องดื่มไม่ได้ เลยอดนาน
    เกิดหิวที่นี้เลยพิจารณา ดูว่าหิวเพราะ อยากกิน หรือ หรือหิวจริงๆ ไม่กินได้รึเปล่า ไม่กินจะตายเปล่า


    24 ก.ย. 53

    วันนี้ไม่ได้ออกกรรมอีกเช่นเคย นั่งแบบสติปัฏฐาน 4 พิจารณาเวทนา วันนี้ช่วงนั่งเหมือนตัวหายไปอีกแล้ว
    แต่ลมหายใจอยู่มีสติได้ยินเสียง พระอาจารย์บอกว่าดีแล้ว พยายามทำให้ได้แบบนี้ แบบต่อเนื่องให้ได้
    เดี๋ยวปัญญาเกิดขึ้นเอง และจะผ่านเวทนาไปได้ง่ายด้วย

    ส่วนเวทนา
    ยืนได้ 50 นาที
    นั่งได้ 40 นาที

    นั่งถาม ยืนถามไปเรื่อย ปวดทำไมถึงปวด? จิตเราก็ไม่ปวดนี่หว่าแต่กายเราปวด? เราโง่หรือว่ามันโง่?
    สรุปผมโง่ครับ T_T พระอาจารย์บอกว่านั่งทุกวันก็จะผ่านได้เอง ส่วนใหญ่คนจะมาแพ้เวทนาก่อน

    วันนี้ช่วงนึงคิด เรามาบ้าทำอะไรเลิกเถอะ(ตอนนั่ง) อดข้าว ยืนเอาเวทนา นั่งเอาเวทนา (ให้ผ่าน)มันไม่ผ่าน
    แค่เอาขาออก ก็หายเมื่อยแล้ว

    เสียงกระซิบที่หูเริ่มกลับมา แต่ยังสื่อไม่ได้ครับ มันวิ้งๆที่หูเหมือนมีคนมากระซิบ
    ข้อดีของการออกกรรมที่เห็นๆเลยจิตผมเป็นสมาธิไวมากๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ฝึกแนวสติปัฎฐาน 4
    แต่ได้น้อยมากๆ เพราะจิตต้องนิ่งจริงๆ เอาออกกกรรมเป็นทางผ่านไปสู่ สติปัฏฐาน 4 นี่ก็ดีเหมือนกันครับ
     
  2. ยอดยาหยี

    ยอดยาหยี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +2,697
    ว่าจะไปเดือนตุลาคมค่ะ พี่สาวชวนไป ไม่รุ้จะเป็นไงบ้าง
     
  3. mukamon

    mukamon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +596
    ข้อดีของการออกกรรมที่เห็นๆเลยจิตผมเป็นสมาธิไวมากๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ฝึกแนวสติปัฎฐาน 4
    แต่ได้น้อยมากๆ เพราะจิตต้องนิ่งจริงๆ เอาออกกกรรมเป็นทางผ่านไปสู่ สติปัฏฐาน 4 นี่ก็ดีเหมือนกันครับ[/QUOTE]


    อนุโมทนาสาธุด้วยนะคะที่ตั้งใจปฏิบัติอย่างจริงจัง ปฏิบัติต่อไปอย่างต่อเนื่อง จะรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตัวเองนะคะ การเจริญสติปัฏฐานสี่จะชัดเจนมากขึ้น ธรรมในธรรม จะเห็นเป็นปรมัติ อย่างแท้จริง
    ขอขอบพระคุณที่ช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาด้วยปฏิปทาในการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา
     
  4. วิญญูชนจอมปลอม

    วิญญูชนจอมปลอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +1,124
    สาธุครับ ขอให้ได้นะครับ ดึงลมหายใจเข้าออกตลอด อย่าหยุด ครับอาจารย์ที่ผมฝึกด้วย
    ท่านบอกว่าบางทีฝึกเป็น 4-5 ชม.เลยครัย


    อนุโมทนาสาธุครับ ที่ไม่ได้อัพเดตนาน

    เพราะผมยังไม่หายจากอาการปวดราวนมเลย พระอาจารย์ว่าเป็นกรรมค้างครับ นี่ก็ยังไม่หาย
    ไปหาพระอาจารย์เกือบทุกวันคุยธรรมะ เลยนั่งแบบสติปัฏฐานสี่ไปก่อน นั่งให้ผ่านเวทนา

    พิจารณากายก่อนครับ ไล่ไปกลับ เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ ไปกลับๆ
    พิจารณาอาหารที่ทานเข้าไป ไล่ย้อนกลับ จากสิ่งปฏิกูลย้อนกลับมาออกทางปาก
    พิจารณากายตั้งแต่เด็กในท้องแม่ ไล่ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ว่าที่ผ่านมาเรามีสุขมีทุกข์ยังไง เท่าที่จำได้

    เพิ่งผ่านวันเกิดผมมาครับไปบริจาคเลือด + ผ้าไตร + สังฆฑาน + บายศรี ทำครั้งแรก เพื่อนๆช่วย + ปัจจัย (ไม่มากไม่น้อย)
    ที่จริงไม่อยากให้ปัจจัย แต่พระสมัยนี้จำเป็นต้องใช้ปัจจัยจริงๆ ท่านอยู่จ.ขอนแก่น แต่ไปเรียน จ.เลย
    รถบขส.เค้าคงไม่ให้ท่านนั่งฟรีหรอกครับ เลยต้องให้ปัจจัยท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อนุโมทนากับ จขกท.ด้วยค่ะ

    การออกกรรม ด้วยธรรมะเปิดโลก หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์
    เป็นการเจริญกรรมฐานแบบสมถะวิปัสสนา

    โดยเน้นสมาธิเป็นบาทในตอนต้น
    คือ การหายใจเข้า(พอง)ออก(ยุบ)ยาวๆ จนสงบลงระดับนึง จึงกำหนดพองยุบให้ถี่ขึ้นๆ
    จนจิตแนบแน่นกับพองยุบ จนเข้าสมาธิ ที่สำคัญ ควรมีสติตัวรู้ตามตลอด
    ห้ามทิ้งองค์ภาวนา (คือการบริกรรมพองยุบตามอาการที่หายใจเข้าและออก)
    คนที่ฝึกสติยังไม่ดี ควรไปออกกรรมที่วัด ไม่ควรทำเองที่บ้าน
    นอกจากผู้ที่เจริญสติเป็นแล้ว มีสติตามรู้และสามารถควบคุมตัวเองได้

    เพราะสมาธิยิ่งสูงเท่าใด อาการของเวทนา หรือการรู้อดีตอนาคตจะปรากฏค่ะ
    โดยเฉพาะเรื่องกรรม จะแสดงเป็นสภาวธรรมก็ดี
    หรือเข้าไปรู้เห็นมากกว่านั้นก็ดี (อดีต)

    ส่วนผู้มีสติเป็นกำลัง สามารถพิจารณาสภาวธรรมและการเกิดดับ
    จนปล่อยวาง จะพัฒนาด้านวิปัสสนาปัญญาต่อไป

    กราบนมัสการ หลวงพ่อคง จตฺตมโล มา ณ ที่นี้


    อ้างอิง

    .....เมื่อใจสงบลงแล้ว อุณหภูมิของกายก็จะค่อยๆ ลดลง ขันธ์ต่างๆ ก็จะสงบลงระบบต่างๆ จะค่อยๆ จัดเรียงตัวกันใหม่ให้เป็นระเบียบ ช่วงนี้อาการเครียดอันแปลกปลอมอยู่ในร่างกายก็ดี ใจก็ดี จะเริ่มคลายออก ซึ่งอาจจะออกทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง ทางใจบ้าง

    ทางร่างกาย เช่น ชาตามมือตามเท้า เกร็งทั้งตัว สั่น แน่นหน้าอก รู้สึกเสียวไปทั่วสารพางค์กาย ปวดศีรษะ ปวดเอว เมื่อยหลัง ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากอำนาจผลกรรมของการฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์ ลักทรัพย์ ฉ้อโกง ประพฤติผิดในกาม และดื่มน้ำเมา เสพสิ่งเสพติด

    ทาง วาจา เช่น ร้องไห้ ร้องเพลง ส่งเสียงเอิ๊กอ๊าก ร้องด่าผู้อื่น โอดครวญคราง สารภาพผิด ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากอำนาจผลกรรมของการพูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ล้อเลียน

    ทางใจ เช่น รู้สึกอึดอัด มือตื้อ รู้สึกวาบหวิวเหมือนตกจากที่สูง ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากอำนาจผลกรรมทางใจที่โลภ โกรธ และหลงใหล งมงาย ขาดปัญญา

    เมื่อจิตเริ่มเป็นสมาธิ อาการเหล่านี้จะเริ่มคลายออกมา หากมีอาการใดเกิดขึ้น นักปฏิบัติไม่ต้องตกใจ ปล่อยให้มันเกิด ไม่ตาม ไม่ต้าน ทรงสติมั่นรู้อยู่ เข้าใจอยู่ว่านั่นสักแต่ว่าเป็นผลกรรม ไม่เป็นตน เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง เรารู้แล้วว่าทำชั่วได้ชั่วจริง ต่อไปนี้ชีวิตเราจะไม่ทำกรรมชั่วอีกแม้แต่น้อย ตั้งใจให้แน่วแน่เด็ดเดี่ยวแล้วอาการจะค่อยๆ หายไปเอง ที่สำคัญอย่าออกจากสมาธิในขณะที่มีอาการเพราะจะทำให้อาการนั้นค้างอยู่ใน ชีวิต ควรนั่งต่อไปจนอาการนั้นหายไปจึงค่อยออกจากสมาธิ.....


    วิธีฝึกกรรมฐานธรรมะเปิดโลก ฉบับวัดเขาสมโภชน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2010
  6. หลุย

    หลุย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +18
    อยากไปนะแต่กลัวช่วงสงกรานต์คนจะเยอะไหมนี่
     

แชร์หน้านี้

Loading...