หยุดกินเนื้อวัวได้ เป็นกุศล เพราะวัวนั้นได้ทำหน้าที่แทนผู้เป็นแม่

​

วัวตัวหนึ่งร้องไห้น้ำตาไหลพราก เมื่อรู้ว่าจะต้องถูกฆ่าสังเวยงานบุญ
วัวตัวนี้ถูกผูกไว้ที่ใต้ถุนบ้าน คนที่เดินผ่านไปมาก็เล็งกันว่า <O
ฉันจะกินตับ ฉันจะกินไส้ ฉันจะกินเลือด ฉันจะกินเนื้อ<O​

วัวได้ยินเสียงปรารภของมนุษย์ จิตวิญญาณก็ห่อเหี่ยวเศร้าหมอง<O
เมื่อรู้ว่าไม่รอดแน่แล้ว ตกกลางคืนจิตจึงมุ่งไปหาท่านผู้ทรงศีล ที่มีภูมิธรรมสูง<O
ไปบอกท่านทางจิตว่า หากมีคนเอาเนื้อของตัวมาให้ท่านกิน ก็ช่วยกินเถิด<O
แล้วก็ช่วยแผ่เมตตาให้เขาได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมด้วยเถิด<O
อย่าได้เกิดมาเป็นสัตว์ให้เขาฆ่าแกงอีก
<O
หยุดกินเนื้อวัวได้ เป็นกุศลเพราะวัวนั้นได้ทำหน้าที่แทนผู้เป็นแม่<O​

ในบรรดาเนื้อสัตว์ที่ให้คุณมากที่สุด เนื้อวัวเป็นสัตว์ที่มนุษย์ควรยกเว้น
ไม่ว่าจะอยู่ในเชื้อชาติใด ศาสนาใด เพราะวัวนั้นได้ทำหน้าที่แทนผู้เป็นแม่ด้วยการผลิตนมให้ลูกกิน
นมวัวเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมนุษย์ สิ่งใดให้คุณต่อเรา เราย่อมสำนึกถึงคุณนั้น​

เราจึงต้องนึกถึงเสมอว่า วัวเป็นสัตว์มีบุญคุณ อย่าได้โหดร้ายถึงขนาดกินทั้งนมกินทั้งเนื้อ
กินทุกอย่างโดยขาดความเมตตาต่อเขา วัวเหมือนเป็นสัตว์เทพ ด้วยไม่มีสัญชาติญาณที่โหดร้าย
เพราะกินแต่หญ้า หากเราคิดว่าเหตุที่วัวกินหญ้านั้นเป็นธรรมชาติของมัน
นั่นก็แสดงว่าฐานะเดิมทางจิตของวัวนั้นเป็นจิตกุศล​

“เมนูเนื้อลูกวัวย่าง”<O​

เคยได้ยินเพื่อนสนทนากันเรื่องเมนูเลิศรสที่อร่อยนักหนา หนึ่งในเมนูรสเด็ดนั้นคือ เนื้อลูกวัวย่าง
ที่แสนอ่อนนุ่มและอร่อยเพราะเนื้อยังอ่อนนัก เกิดมาไม่ถึง ๒ ปีดีก็ถูกปิ้งเสียแล้ว
คำว่า “ลูก” ฟังเมื่อใดใจก็อ่อนโยนเมื่อนั้น พอลูกถูกไปอยู่ในเมนู ฟังแล้วก็สลดด้วยสงสาร
เมนูอาหารรสเด็ดสามารถสร้างดัชนีทดสอบความอ่อนโยนในจิตใจมนุษย์ได้
ไม่เชื่อก็ลองฝึกสังเกตอ่านเมนูให้ละเอียดแล้วจะรู้ว่า​

* เมนูเนื้อกระต่ายทอดกรอบหรือ เนื้อม้าอบซอสมะเขือเทศ “น่าอร่อยหรือน่าเวทนา”​

* การกินเนื้อกระต่ายและเนื้อม้า มีอยู่จริงในประเทศฝรั่งเศส



<O
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีท่านเทศน์ไว้ว่า<O
** ตัวเราของเราก็เป็นป่าช้าที่ฝังผีของสัตว์ต่างๆ มีหมู วัว เป็ด ไก่ เป็นต้น ซึ่งเราขนมาฝังอยู่ทุกๆ วัน<O
<O
การตายของสัตว์ที่ถูกฆ่ากินเป็นอาหาร เป็นการตายก่อนอายุขัย หมายถึงตายก่อนวัยอันควร เช่น
วัวมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ ๒๕ ปี เมื่อถูกฆ่าตายเสียก่อน จิตวิญญาณก็ไม่มีที่ไป ต้องวนเวียนอยูในสภาวะก่อนตาย
คือ วนเวียนอยู่กับคนที่ฆ่าและคนที่กินตัวเอง โดยเฉพาะหากปลงไม่ได้ที่ต้องกลายมาเป็นอาหารอันโอชะ
จิตก็จะเกิดเป็นแรงแค้น และส่งกระแสจิตที่คับแค้นมาแทรกกระแสจิตของคนที่เกี่ยวข้องทำให้เกิดเป็น
ความหม่นหมอง สับสน หดหู่ นอนไม่หลับ ร่างกายก็อึดอัดไม่สบาย กลายเป็นที่มาของการ
สะสมโรคภัย ต่างจากการบริโภคผักหรือสลัด ผู้บริโภคจะรู้สึกโปร่ง เบาสบายทั้งกายและใจ
เพราะไม่มีกระแสจิตมาแทรก

<O
ที่มา : หนังสือโอวาทจากดวงวิญญาณบริสุทธิ์ สมเด็จโต โอวาท ๔
ที่มา : หนังสืออ่านก่อนตาย ๒
ที่มา : หนังสือมีศีล…ก่อนจะสาย



<O

 

เลิกทานมาเกือบยี่สิบปีแล้วค่ะ

 

เลิกทานเนื้อวัวมาเก้าปีแล้วค่ะ
แต่เดิมเป็นคนที่ชอบทานมากเป็นชีวิตจิตใจ
แต่เลิกเพราะบางสาเหตุ ยิ่งพอได้รู้แบบนี้แล้วก็ดีใจที่ไม่ได้กินเนื้อวัว
อนุโมทนาค่ะ

 

เลิกกินมาประมาณ 1 ปีแล้วค่ะ
รู้สึกจิตใจแช่มชื่น เบิกบาน ขึ้นเรื่อยๆ สุขภาพก็ดีด้วยค่ะ
อยากชวนทุกคนเลิกกินเนื้อสัตว์ทุกชนิดได้ก็จะดีค่ะ
แต่ก็เริ่มที่สัตว์ใหญ่ก่อน แล้วค่อยเหลี่ยงเลี่ยงลดลงเรื่อย หากทำได้ก็ดี เป็นบุญกุศล

 

เลิกกินเนื้อวัวมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่ปี 28 หรือ 29
ก็ไม่รู้ทำไม ไม่อยากกิน ได้กลิ่นแล้วมันคาว
ตั้งแต่นั้นก็ไม่กินอีกเลย รวมทั้งลูกชิ้นเนื้อด้วยนะคะ
พานให้คนที่บ้านอดทุกคนไปโดยปริยาย

 

เลิกทานเหมือนกันครับ เพราะมีอยู่วันหนึ่งทานแล้วเหม็นมากครับ เลยไม่ทานเลย ปัจจบันก็ทานได้ครับ แต่เลือกที่จะไม่ทาน คิดอยู่ว่าจะค่อยๆลดเนื่อสัตว์ลงเรื่อยๆ ไม่รู้จะทำได้รึเปล่า