ภาพลักษณ์

++ ก.วัฒนธรรมจะทำอย่างไร?

ข่าวสังคมสัปดาห์ที่แล้ว ปรากฏทางหน้า 1 หนังสือพิมพ์หลายฉบับและต่อเนื่องมาอีก 2-3วัน คงหนีไม่พ้นเรื่องสาวโคโยตี้ ของบูธรถจักรยานยนต์บริษัทหนึ่งในจังหวัดหนองคาย เต้นในเทศกาลงานบุญบั้งไฟที่วัดไทย

สำนักราชเลขานุการ ทำหนังสือถึงกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ระบุว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทอดพระเนตรงานบุญบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดออกมาให้เห็นภาพหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อย แสดงท่าเต้นด้วยท่าทางยั่วยุทางเพศ

สมเด็จพระนางเจ้าฯ มีพระราชกระแสว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาโลก มีชาวต่างประเทศที่มีจิตศรัทธามาบวชในประเทศไทยมากมาย พระพุทธศาสนาในประเทศไทยก็มีมากว่า 800 ปีแล้ว หล่อหลอมให้คนไทยมีความสุภาพอ่อนโยน เมตตา กรุณา

วันสำคัญทางศาสนาก็เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนควรน้อมรำลึกถึงพระคุณของสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเคารพ การจัดการแสดงใดๆ ในวันเหล่านี้ จึงควรพิจารณาด้วยจิตสำนึกของความเป็นพุทธศาสนิกชน รู้กาลเทศะ ตลอดจนคำนึงถึงชื่อเสียงของประเทศไทยด้วย

จากนั้นหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ออกมาขานรับจัดระเบียบสาวโคโยตี้ รวมไปถึงสาวพริตตี้ด้วยเป็นการใหญ่ แต่ก็มีรัฐมนตรีอาวุโสบางท่านมองต่างมุมไม่เห็นด้วยกับการจัดระเบียบสาวโคโยตี้และพริตตี้อายุต่ำกว่า 20 ปี ถ้าการแต่งตัวไม่ส่อไปทางลามกอนาจาร

หากพูดถึงการขานรับแล้ว ย่อมไม่ใช่ปรากฏการณ์ขานรับครั้งแรก!!
ก่อนหน้านี้ก็มีการขานรับมาแล้ว เรื่องเสียงดังในเธคและผับ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสมาแล้ว ในวันที่ 5 ธันวาคม 2 ปีที่ผ่านมา

หน่วยงานรัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทำการกวดขันผับและเธค รวมไปถึงการกวดขันเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีห้ามเข้าไปใช้บริการ แต่การกวดขันและทำการรณรงค์ก็ดีทำได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ ก็เพลาลงหรือดูจะเงียบไป

เมื่อพิจารณาพระราชกระแสของทั้ง 2 พระองค์ เห็นได้ว่าพระองค์ทรงเป็นห่วงสภาพสังคมไทยซึ่งเป็นเมืองพุทธ และทรงห่วงคุณภาพชีวิตเยาวชนอย่างมาก

แล้วเราๆ ท่านๆ ล่ะ ที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งหลายเวลานี้ ไม่ห่วงเยาวชนเหมือนพระองค์ท่านบ้างเชียวหรือ?

โดยเฉพาะผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค ที่พยายามหามุมนำเสนอต่างๆ เพื่อหวังผลกำไรทางธุรกิจ ลืมนึกถึงคำว่าคุณภาพชีวิตที่ดีของเยาวชน

เมื่อพิจารณาสภาพสังคมไทยที่มันวุ่นวายอยู่เวลานี้ และดูเหมือนสับสนมากกว่าสมัยก่อน 20 ปีที่แล้ว ล้วนเกิดจากผู้ใหญ่ได้ก่อขึ้น เพียงชั่วดีของความสำนึกนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ท่านนั้นจะส่งเสริมสังคมในเชิงสร้างสรรค์ หรือเชิงกัดกร่อนสังคม

คุณภาพชีวิตของเยาวชนไทยวันนี้ ล้วนถูกมอมเมาด้วยน้ำมือผู้ใหญ่ทั้งสิ้น

อย่าไปโทษพฤติกรรมเด็กเลย ไม่ว่าการหาเงินในทางสุจริตทางใดทางหนึ่ง เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตนเองและเลี้ยงพ่อแม่ หรือการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยด้านต่างๆ หรือกระทั่งการแต่งกายตามแฟชั่นตะวันตกและญี่ปุ่น รวมไปถึงเที่ยวแหล่งบันเทิง ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้พวกเขาไม่ได้เป็นผู้ก่อ ตรงกันข้ามเยาวชนเป็นผู้รับการกระทำจากผู้ใหญ่ประเคนใส่ให้เขาเต็มๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้

แน่นอนทีเดียว ท่ามกลางเชียวกรากของธุรกิจที่มุ่งเน้นการแข่งขันเพื่อสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจขององค์กร งัดกลยุทธ์การขายต่างๆ ชูแคมเปญสารพัด ผลก็คือทำให้เยาวชนตกเป็น

 

ด้วยอัตราเร่งในความเสื่อมจากศีลธรรมของเด็กไทยน่ากลัวมากครับ

วันก่อนผมไปเที่ยวสวนสันติชัยปราการ มีน้องๆมหาลัย แห่งหนึ่ง มาจัดกิจกรรมเปิดรั้วมหาลัย มีบู้ท ของคณะเภสัช แจ้งออกลำโพงให้เด็กๆมัธยมมาเรียนวิธีใช้ยาคุมกำเนิด และแจ้งอีกว่า ด้านหลังภายในบู้ท(ซึ่งมีม่านสีดำกั้น) มีการสาธิตการใช้ถุงยางอนามัยด้วย แถมบอกลำโพงอีกว่าเป็นเรื่องน่ารู้น่าศึกษามากเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน เป็นเรื่องธรรมดา ผมก็ได้แต่ถอนใจ คิดถึงว่า ความสนใจ หมกหมุ่นและวิธีคิดของเด็กไทย หลายๆคน น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งครับ ทั้งในทัศนะของตัวน้องๆเขาเอง ทัศนะของพ่อแม่เขา และทัศนะของอนาคตของประเทศไทย เรียนเภสัชไปเพื่อคิดได้แค่นี้หรือ ยังมีคนป่วย คนทุกข์ยากในแผ่นดินอีกมากมายครับ ให้น้องๆได้คิดค้นวิจัยยาใหม่มาช่วยรักษาครับ


และก็ขอกราบชื่นชมในพระอัฉริยะภาพและสายพระเนตรอันกว้างไกลและลึกซึ้งของสมเด็จฯ ท่านครับ ในหลายสิ่งที่ท่านได้มีพระราชดำริในเรื่องชาติและพระพุทธศาสนามาตลอดโดยเฉพาะ การส่งเสริมคุณค่าทางศีลธรรม คุณธรรมในสังคมไทยครับ

 

ผมเห็นใจเด็กๆเหล่านั้น ต้องทำงานเพื่อปากเพื่อท้อง เขาลำบากจะมีใครช่วยเขาไหม ผมไม่เห็นด้วยกับงานแบบนี้ และห้ามแสดงในสถานที่ที่ไม่ควร เช่น วัด
โรงเรียน สถานที่ราชการ และขอให้น้องๆ พยายามหางานใหม่ที่ดีกว่านี้ต่อไป เพราะยังมีงานอื่นๆอีกหลายอย่าง เงินอาจน้อยกว่าแต่ดีกว่าการทำงานที่มีผลด้านลบต่อคนดู(ทำให้ยั่วยุกามารมย์)

 

ประเทศไทยอิสลามครองเมือง ศาสนาพุทธจะถูกกลืน
การปฏิวัติครั้งนี้มีแต่เรื่องที่น่าสงสัยและเต็มไปด้วยคำถาม ผมก็คือคนไทยที่เป็นลูกหลานของท่านคนหนึ่งเช่นกัน เหตุที่ผมเขียนบทความนี้ มันมีผลมาจากความพิกลพิการในการกระทำของท่านและพวกพ้องครับ ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในความคิดของผมนั้น มันมีแต่คำถาม และเมื่อผมพยายามค้นหาคำตอบ มันจึงเป็นที่มาว่า ผมสงสารท่านจริงๆและจากใจครับ<O
<O
ท่านครับ ไม่ว่าจะอย่างไร ผมอยากขอให้ท่านนั่งลงแล้วคิดอย่างระเอียดถี่ถ้วน ในทุกเรื่องที่ท่านทำลงไป มันไม่สะดวกเหมือนที่ท่านคิดเลยใช่ไหมครับ แตะไปตรงไหนก็มีแต่ความผิดปกติ อย่างเรื่องที่ท่านแต่งตั้งนักวิชาการด้านศาสนา ในสภานิติบัญญัติแห่งชาตินั้น จริงๆแล้วนักวิชาการด้านศาสนามีทั้งหมดรวม 11 คน ท่านก็ตั้งตัวแทนจากศาสนาคริสต์ 1 คน ตัวแทนจากศาสนาพุทธ 2 คน แต่พอมาถึงตัวแทนจากศาสนาอิสลาม ท่านแต่งตั้งมันทีเดียว 8 คน <O</O
<O
คริสต์<O</O
1. นายกีรติ บุญเจือ

พุทธ<O
1. นายเสฐียรพงษ์ วรรณปก<O

2. นายวรเดช อมรวรพิพัฒน์<O
<O
อิสลาม <O
1.นายวินัย สะมะอุน<O
2. นายแว ดือ ราแม มะมิงจิ<O
3. นายแวมา ฮาดี แวดาโอะ<O
4. นายดำรง สุมาลยศักดิ์<O
5. นายอับดุล รอซัค อาลี<O
6. นายอับดุลเราะแม เจะแซล<O
7. นายอิสมาแอ อาลี<O
8. นายอิสมาแอลลุทฟิ จะปะกียา<O
<O
ท่านครับศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทย ท่านจะไปอธิบายกับคนไทยทั้งชาติว่าอย่างไรครับ<O
<O
เรื่องที่เป็นคำถามคาใจมันยังมีอีกนะครับ จริงๆแล้วผมอยากจะถามใจของท่านอย่างตรงไปตรงมาว่า ใครคือผู้มีอำนาจจริงๆกันแน่ ในการปฏวัติครั้งนี้ ท่านไม่ต้องตอบผม เพราะมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ เหตุที่ต้องถามเพื่อว่าท่านจะได้ประเมิน ว่าอะไรกันแน่ที่กำลังจะเกิด ท่านต้องประเมินให้ได้ว่าจะยืนตรงไหน ถ้าคิดว่าท่านมีกำลังที่จะต่อกร ท่านก็คิดของท่านไป เหตุที่ผมจุดประกายให้ท่านคิด ก็เนื่องจากว่า ทำไมคุณหญิงพจมาน ถึงต้องเลือกที่จะเข้าพบ พลเอกเปรม ทำไมไม่เป็นท่านพลเอกสนธิที่เป็นที่รักของผม และการที่ท่านพลเอกสนธิของผม ออกมาให้ข่าวเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมว่า <O
<O
"ทาง คมช.ไม่ทราบมาก่อน ไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าจะมีการนำคุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรม ไม่น่าจะมีอะไรลึกๆอย่างที่สื่อมวลชนเข้าใจกัน น่าจะเป็นความปรารถนาดีมากกว่า อย่างไรก็ตาม การที่คุณหญิงพจมานเข้าพบ พล.อ.เปรม ไม่ได้กระทบต่อการทำงานของ คมช. เป็นเพียงแค่ความรู้สึกของคนไทยที่อาจจะไม่สบายใจกับการเข้าพบ พล.อ.เปรม"<O
<O
ท่านพลเอกสนธิครับ สู้หรือถอยท่านเท่านั้นที่รู้ และท่านต้องรู้ว่าท่านกำลังสู้อยู่กับใครบ้าง ผมคิดแทนให้ท่านแบบง่ายๆที่สุดเลยนะครับ (ไม่ต้องพูดถึงประชาชนนะ เพราะว่าประชาชนสู้เมื่อไหร่ ท่านก็จะแพ้ทันที ไม่มีทางที่จะเป็นอื่น ท่านมีแต่แพ้กับแพ้ ร่วมด้วยแพ้ พร้อมด้วยแพ้ และสุดท้าย เต็มไปด้วยแพ้ เท่านี้จริงๆครับ
<O
ท่านต้องสู้กับทหารรุ่นหนุ่มในกองทัพของท่านเอง ยังมีที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของท่าน ไม่น้อยไม่มาก แต่ตึงมือ<O
<O
ท่านต้องสู้กับทหารเรือเกือบจะทั้งหมด เหตุที่ยอมเงียบไว้ เขายังไม่อยากฆ่ากันเอง แต่ไม่ใช่ว่าเห็นด้วยและยินดี ท่านประเมินดูเองเลยครับ ว่าคำพูดนี้จริงหรือไม่<O
<O</O
ท่านต้องสู้กับตำรวจ ข้อนี้คงไม่ต้องอธิบาย<O</O
<O</O
ท่านต้องสู้กับคนที่ท่านเคยสัญญาว่าจะให้ ผ่านไป 1 เดือน ท่านไม่มีอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือ ท่านให้อะไรเขาได้บ้าง เขากำลังทุรนทุราย รอวันระเบิด ไม่มีใครมองท่านว่า เป็นผู้ที่น่าเคารพและยำเกรงสักกะคน<O</O
<O</O
ท่านต้องสู้กับผู้มากบารมี เหตุที่ต้องสู้กันนั้น ก็เพื่อเขาต้องการตัดช่องน้อยแต่พอตัว เพื่อโยนความผิดต่างๆให้กับท่าน พลเอกสนธิครับ ท่านลองนั่งคิดทบทวนเองละกัน ว่าอะไรบ้างที่มันส่อไปในทางที่ผมว่ามา ตอนนี้ทุกคนที่ร่วมหัวและแนะนำแผน กำลังตีตัวออกห่าง มีความพยายามเพื่อลอยตัว เพื่อกำจัดคราบสกปรกให้ตนเองพ้นมลทิน <O</O
<O</O
หลังจากที่ไม่มีเสียงตอบรับที่ดี จากประชาชนคนไทย มันไม่เหมือนกับรัฐบาลคุณอานันท์ในคราวก่อน คราวนี้มีแต่ความว่างเปล่า มองไปทางไหนมีแต่ความเฉยชา ท่านผู้ใหญ่ท่านมองเกมออก ตอนนี้ท่านผู้ยิ่งใหญ่ต้องการขึ้นสู่ผิวน้ำให้เร็วที่สุด กำลังออกมาสร้างภาพของความไม่เกี่ยวข้อง พลเอกสนธิครับ พูดอะไรมากไปก็ไม่ดี ท่านลองดูจ๋าบ๊องคาร์บอมบ์ แล้วคิดเองเลยครับ พอเกมพลิก จ่าบ๊องก็อย่างที่เห็นๆละครับโดดเดี่ยวผู้น่ารัก ท่านจะยอมรับได้หรือ<O</O
<O
ท่านพลเอกสนธิครับ มันยาวเกินไปท่านก็ไม่สนใจอ่านอยู่ดี ผมก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ ผมขอฝากท่านก่อนจบข้อเขียนนี้ก็คือว่า ท่านต้องตัดสินใจแล้วครับ มีคำหนึ่งน่าสนใจ " The sooner the better " บางครั้งลูกทำผิดพลาดไป หันหน้าเข้าไปหาพ่อแล้วยอมรับผิด พ่อก็ยังคงมีทางที่ดีเพื่อลูกและคนในครอบครัวเสมอๆ ทำไมโลกเราถึงมียางลบไว้บนหัวของดินสอละครับ เพราะว่าคนเรามันผิดพลาดได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเราที่เป็นคนไทยที่ดี ไม่ควรใช้ยางลบบ่อยจนเกินไป จนเหลือแต่ดินสอ ส่วนยางลบหมดไปก่อนหน้าแล้ว อย่างนี้ถือว่าสมควรตาย<O

 

หัวหน้า คปค. อิสลาม
มหาดไทย อิสลาม

อิสลามจะกลืนเมืองพุทธ โดย กลุ่มคนเหล่านี้
ดูได้จากนโยบาย ยกเลิก โรงเรียนวิถีพุทธ
ยกเลิก เปลี่ยนแปลง วิธีการเรียนการสอนธรรมะ แบบพุทธ โดยให้ใช้ หลักธรรมที่เป็นกลาง
และถอดวิชา ศาสนาพุทธให้เป็น วิชาทางเลือก ไม่ใช่วิชาหลัก หรือวิชาบังคับ
ใครจะเลือกเรียน พุทธ คริส อิสลาม ก็ได้

อย่าว่าผมเอาเรื่องการเมืองเข้ามายุ่งในบอร์ดนี้เลยครับ
แต่การเมืองกำลัง คุกคาม ไปแล้วทุกวงการ

เมื่อเช้ามีข่าว ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ การสั่งปลดพระ

 

แผ่นดินนี้พระเจ้าตากทรงกอบกู้ไว้เป็นพุทธบูชา เพื่อเป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนา แต่ตอนนี้ บังครองเมือง ตอนปฏิวัติแหมไอ้พวกเกลียดทักษิณระริกระรี้เชียว
....คนที่เขย่งเท้าเพื่อให้สูงกว่าคนอื่นย่อมยืนได้ไม่นาน

 

ทั้งคุณ CRAZYBMW AND BUMRUNG ต่างมีเหตุผลดีด้วยกันทั้งสองท่าน ขออนุโมทนา.....สาธุ

วันนี้สงครามใหญ่ยังเพิ่งเริ่ม อย่าเพิ่งดีใจว่าเหตุการณ์จะสงบ
วันหน้าจะต้องเจอคลื่นใต้น้ำที่แรงกว่าที่คาดคิดไว้
ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็คอยรับกรรมนั้นให้ดีๆ เพราะ

"ไม่มีใคร ใหญ่เกินกรรม"

 

กระบวนการทำความสะอาดโลกครั้งใหญ่ได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เองแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะชัดเจนและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามกระแสแห่งวิบากกรรมของมนุษย์บนโลก ในราวปลายปีพ.ศ. 2551 ถึงจะสงบลงแล้วค่อยมาเริ่มฟื้นฟูกันใหม่ แล้วจะได้เห็นพระพุทธศาสนาเพียงศาสนาเดียวครับที่คงทนขอให้มีขันติกันไว้ให้มากๆอย่าสร้างกรรมไม่ดีเพิ่มเป็นใช้ได้ครับ ดูแลความปลอดภัยของตัวเองให้รอดจากการชำระล้างครั้งใหญ่นี้ให้ได้ทุกคนครับ

 

ประเทศเราจะมีสักกี่ศาสนากี่ลัทธิ ก็ไม่แปลก ถึงแม้ความเชื่อความศรัทธาต่างกัน แต่อย่างน้อยทุกศาสนาล้วนแต่สอนให้คนทำความดี ผมว่าเราทุกคนอยู่ร่วมกันได้นะ อย่าพยายามหาอะไรมาแบ่งแยก ให้คนแยกออกจากคนเลยครับ

 

ชาวไทยพุทธกว่าร้อยคนจากอ.บันนังสตา-ธารโตลี้ภัยเข้าเมือง

8 พ.ย.49 19:43 น. ชาวบ้านไทยพุทธ ใน อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต จ.ยะลา ประมาณ 23 ครอบครัว จำนวนกว่า 100 คน อพยพออกจากหมู่บ้านสันติ 1 และ 2 ย้ายไปอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองยะลา เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้

\"จะไม่ขอกลับไปอีกแล้ว เพราะรู้สึกหวาดกลัว และไม่อยากอยู่ในพื้นที่นี้ ผมตสูญเสียทั้งพ่อตาและภรรยา...วัดไม่ใช่ที่อยู่ของคนตาย ขอเอาวัดเป็นที่พึ่ง\" ชาวบ้านรายหนึ่ง ในอ.บันนังสตา ซึ่งเพิ่งสูญเสียพ่อตาและภรรยา เนื่องจากถูกคนร้ายยิงและเผาบ้าน เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.บันนังสตาเกิดเหตุขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้านี้ ผู้ก่อความไม่สงบ 2 ราย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่มีทหารเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 1 นาย หลังเกิดเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ 43

กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ก่อเหตุยิงครู ,เผาโรงเรียน 4-5 แห่ง และ ลอบวางระเบิดทำร้ายเจ้าหน้าที่ ใน อ.บันนังสตา ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อนต่อเนื่องมาถึงวันนี้ รวมทั้งหน่วยตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ต้องถอนกำลังจากพื้นที่บาเจาะ ที่บันนังสตา ตามการเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านราว 300 คน แม้เจ้าหน้าที่ชี้แจงเหตุผลที่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองครูและชาวบ้าน

เนชั่น <!--MsgFile=7-->

 

เฮ้อ โลกหนอโลก อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างสงบจังคับ

 

ได้รับข่าวด่วนมาว่า เรื่องวัดที่จ.ยะลามื่อสักครู่นี้คือข่าวไทยมุสลิมขับไล่ไทยพุทธไปรวมกันในวัด
วัดนี้อยู่ในเขตอำเภอเมืองยะลา ซึ่ง ชาวบ้านไปร่วมงานศพทหารที่ถูกยิงตายที่นี่เมื่อเช้า
ตอนนี้ถูกปิดล้อมไว้กลับบ้านไม่ได้

และตอนนี้มีอีกวัดหนึ่งครับ ชาวไทยพุทธโดนไล่เข้าไปอยู่ที่วัดนี้และขู่จะเผาด้วย
วัดชื่อ \\\\\\\\\\\\\\\"วัดวิโรจน์สังฆาราม หมู่ ๖ ตำบลแม่หวาก อ.ธารโต จ.ยะลา\\\\\\\\\\\\\\\"
ี้ชาวบ้านไทยพุทธกำลังหวาดกลัวมาก และเช่นเคยไม่ยอมส่งทหารไปช่วยครับ


ทหารได้รับคำสั่งตรงจาก พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน ไม่ให้เคลื่อนกำลังไปช่วยเหลือ
อ้างว่าอาจถูกซุ่มโจมตีจากขบวนการก่อการร้าย

มีการปิดข่าวโดยไม่ยอมให้วิทยุทีวีรายงานข่าวโดยรัฐบาลและนายธีรภัทร เสรีรังสรรค์
อ้างว่าจะก่อให้เกิดความตระหนกตกใจ

ท่านใดอยู่ในพื้นที่โปรดยืนยันข่าวด้วยครับ