เกลียดพลังจิตของตัวเอง / อยากตาย ...

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย amu, 4 พฤศจิกายน 2006.

  1. amu

    amu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +149
    แปลกแฮะ

    อามูค้นพบ (จุดจุดจุด) ได้ ก็จริง

    และ ตอนที่ค้นพบนั้น ก็ อยู่กับ พระสังกัจจายนะ ด้วย เพียงแต่ ...

    เมื่อไหร่ที่ อามูรู้สึกว่า คนบาปนั้น ต้อง ชดใช้กรรมเมื่ออยู่ใกล้อามู

    แต่ .. คนใกล้ตัวอย่างที่สุดของอามู ก็มีกรรม

    แม้กระนั้น อามูไม่อยาก แม้จะคิดทำร้ายเขาสักเพียงนิด

    หาก บุคคลใกล้ตัวนั้น พยายามจะเปิดฉากเงื้อมีดใส่อามูก็ตาม อามูก็ไม่โต้ตอบ

    อามู สามารถชำระกรรม กระทั้ง คนใกล้ตัวขนาดนี้ได้

    มันใช่ เทวะ ? หรือ?

    อามูนั่งคิด จนตี 3 กว่าๆ (ก่อนโพสท์)

    ว่าอามู มี ทธิ์ของปีศาจ หรือ เทวดา กันแน่?

    ความคิดของอามูต่อคนหนึ่งคน บางครั้งจะออกมารุนแรง เมื่ออามูอยู่ในอารมณ์ไม่พอใจ

    คนคนนั้นอาจจะได้รับเคราะห์กรรม ต่อหน้าต่อตาอามูทันที

    เมื่ออามูสบัดหัวคิดสักนิดว่า เราควรอโหสิกรรมให้เขานะ

    มันก็เหมือน อามู

    กำลังต่อต้านตัวเอง

    ที่มาพิมพ์วันนี้ เพราะอามูทะเลาะกับ คนใกล้ตัว(ที่สุด)

    จนตอนนี้ เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่าง ที่ทุกคนไม่จำเป็นต้องทราบหรอกฮะ

    แต่หลังจากเมื่อเย็น ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับอามู เพียงสักคน

    ....

    เพียงแต่ว่า

    จิตของอามู ถ้าเอาหลักศาสนามาโยงเชื่อมกับวิทยาศาสตร์

    มันเหมือนพลังแปลกๆ ที่ ทำให้ผู้คนรอบตัวอามูต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาก่อขึ้นมาก่อนทุกที

    มันไม่ใช่ สิ่งที่อามูสามารถบังคับได้

    แต่มัน ไปด้วยตัวของมันเอง แต่อยู่ภายใต้อารมณ์ของอามู

    ปล.ตอนนี้ อามู อยากจะเล่นเกมส์อย่างเดียว ไม่ต้องคิดแค้นโกรธ โทษ โมโห รัก ชอบ เกลียด ใครอีกต่อไปแล้ว เพราะ เมื่อเกิด พาหะจิต ทีไร

    ต้องมี ใครสักคน สูญเสีย จิตตะ / ภาวะ / กายะ / ... ทุกที

    ยิ่งตอนอามูอารมณ์บ้าพลังขึ้นมา คำพูดของอามู ก็ดูเหมือนโลกทั้งโลก จะต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และ ถ้ามี คนกลุ่มหนึ่งพยายามจะทำร้าย หรือ ทำให้อามูกลัว

    พวกเขาดันเจ็บตัว/เจ็บใจ จากสิ่งที่พวกเขาลั่นออกมาทุกที

    ปล2. เศร้าจัง ... อยากตายจริงๆ ตายแบบที่อามูไม่ได้ฆ่าตัวตาย และหรือ ใครมาฆ่าอามูนะฮะ

    อามูอยากตายแบบอยู่ดีดี เครนหล่นใส่หัวแบบ อุบัติเหตุ อะไรแบบนี้ ไม่ก็ไฟฟ้าลัดวงจร ช๊อตตายแบบไม่รุ้ตัวไปเลย อยาก เสียชีวิตมนุษย์โลกจริงๆครับ

    สาธุ/เอเมน
     
  2. ziplord

    ziplord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +272
    มีอะไรก็ระบายสะ จะได้สงบลงได้บ้าง หยุดตอบโต้ และหนีได้หนี โมโหก็ลองแผ่เมตตาดู หรือไม่ก็สวดมนต์ตามศาสนาที่นับถืออยู่ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง หันเข้าหาอะไรที่ตัวเองทำแล้วรุ้สึกดีจะดีกว่า มานั่งคิดว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ เหตุมันเกิดไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไป อะไรที่แก้ไขได้แกสะและแก้ไขในทางที่ดี ต่อวาจาประทะคารมจนเกิดโทษะต่อกันจนแทบจะลงไม้ลงมือมันไม่ได้ช่วยอะไรคิดสะว่า มันมีเหตุเกิดจากกรรมเลยต้องมีอันต้องมีเรื่องถ้าเราหยุดแล้วหาอย่างอื่นมาดับทุกในทางที่ถูก เราจะไม่ต้องมานั่งอมทุกอีกต่อไป ที่บอกให้หาอย่างอื่นมาดับทุกเพราะว่า บางคนพอรู้ว่ามีเหตุที่ต้องทำให้จิตใจร้อนรน รุ้ว่ามันไม่ดีแต่ก็หยุดคิดไม่ได้ จะสวดมนต์หรือทำใจสงบก็ทำไม่ได้ เลยแนะนำว่าทำอะไรแล้วเพลินมีความสุขทำไปเถอะถ้าไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อนและตัวเองก็เป็นสุขกับมัน ไม่ต้องมานั่งกังวรหรือร้อนรนในสิ่งที่ผ่านมาเป็นพอ จะดูหนังฟังเพลงเล่นเกมก็ตามใจหรือเข้าไปหาอะไรในเวปหรือจะไปจีบใครในห้องchat ให้มันเพลินใจหรือไปบ่นๆที่chatห้องไหนๆก็ตามสบายดีกว่านั่งคลุ้นคิดแต่เรื่องทุกข์ใจ มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าไม่รู้ทำอะไร ก็เดินไปเซเว่นหาของกินถูกใจกินระบายอารมณ์ไปเถอะ อยู่ๆกับที่มันไม่ช่วยให้อารมณ์แจ่มใสขึ้นมาหลอกเห่อๆๆ
    เอาเป็นผมมาบ่นๆให้คิดแล้วกัน ช่วยได้แค่นี้แหละ กุ้มๆก็มาระบายในนี้แหละเก็บไว้มากเดี๋ยวคลั่ง ใครไม่ฟังเราฟัง(ไม่ใช่โฆษณานะแต่ยืมคำพูดเขามา)
     
  3. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ทำบาปโดนที่ไม่รู้ตัวก็..อืม.. คิดดีทำดีละกันครับ ระวังมารในตัวละกันครับ
    ไอ้เราก็เคยคิดอย่างนั้น
    เวลาที่คนดีอารมณ์เสีย อะไรๆก็ดูแย่ไปหมดแหละครับ
    จุดๆๆ เพิ่งเกิดละมั้งครับ ซัก๒-๓ปีเอง

    แต่จีบในห้องแชตนี่ไม่ดีแน่ๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤศจิกายน 2006
  4. okilu220

    okilu220 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +2,090
    แผ่เมตตาครับ ชัวส์สุดๆแล้วครับ ผมว่าเป็นการระบายอารมณ์ของคุณดีนะครับ
    คนอื่นเค้าจะได้เป็นสุข ไม่งั้นถ้าอยากจะให้คนอื่นโดนลงโทษจริงๆล่ะก็ นึกถึงโจรใต้ครับ ดีที่สุด ผมว่านะ - -
    แต่การที่คุณนึกอยากให้ใครที่ทำได้รับกรรม คนคนนั้นเค้าก็ได้รับจริงๆ
    เป็นเรื่องแปลกครับ ผมเพิ่งเคยได้ยิน แต่ผมคิดว่า ในทางกลับกัน
    ถ้าคุณเปลี่ยนแนวความคิด
    ให้กลายเป็นอยากให้คนดีได้บุญ อย่างนี้ผมว่าคนคนนั้นที่คุณคิด
    เค้าก็น่าจะได้รับบุญทันที(หรืออะไรทำนองนั้น)
    ลองดูนะครับเพราะว่าอาจจะดีกว่าการที่คุณคิดอยากให้คนอื่นได้รับกรรมก้อได้
     
  5. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    คนที่มีจิตเป็นสมาธิหรือได้ฌานมักจะต้องระมัดระวังคำพูดและความนึกคิดของตนเองให้ดีครับ เพราะบางทีเผลอพูดหรือไปคิดต่อว่าใครเข้าคนนั้นจะโชคร้าย ยิ่งถ้าคนที่นั่งสมาธิหรือเดินจงกรมทั้งวันทั้งคืนกำลังบำเพ็ญตบะอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ ช่วงนั้นจิตจะมีกำลังเป็นพิเศษเกิดเผลอไปด่าใครช่วงนั้นเข้าล่ะก็.......เหมือนบรรดาฤาษีทั้งหลายน่ะครับ

    แต่ในบางกรณีถ้าสมมติว่าเราไม่ได้มีอารมณ์โกรธหรือไปด่าไปคิดไม่ดีกับใคร แต่เผอิญเราเป็นผู้ทรงฌานหรือเข้าสมาธิอยู่แล้วมีคนมาคิดหรือพูดหรือทำไม่ดีกับเรา ผลกรรมก็จะเกิดขึ้นกับคนผู้นั้นเช่นกันเพราะมาทำไม่ดีกับผู้มีคุณ ยิ่งถ้าเข้าสมาธิได้ลึกเท่าไหร่ผลสะท้อนก็จะมากขึ้นไปตามลำดับ (เหมือนผู้ที่ทำบุญกับผู้ที่พึ่งออกจากฌานหรือออกจากนิโรธสมาบัติก็จะได้อานิสงส์มากเป็นพิเศษ)

    ปล.ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าเรามีจิตที่มีพลังหรือเป็นผู้ฝึกสมาธิ ก็ต้องระมัดระวังความคิดและคำพูดของเราให้ดี ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่ควรไปว่าใคร แต่อาจจะพูดในเชิงสั่งสอนหรือมีวิธีพูดอันแยบคายที่จะทำให้คนอื่นดีขึ้นได้ด้วยคำอธิษฐานที่ตั้งเงื่อนไขอะไรบางอย่างไว้ของเราได้ (เรียกว่าใช้พลังจิตไปในทางที่ถูกต้องและมีกุศโลบาย) เมื่อเราระมัดระวังตัวเราแล้วถ้ามีใครมาคิดไม่ดีกับเราอันนั้นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เป็นวิบากกรรมของคนอื่นเอง อันนี้เราก็ต้องทำใจแผ่เมตตาให้พวกเขามากๆเพื่อบรรเทาวิบากกรรมของพวกเขาให้เบาบางลงครับ
     
  6. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,780
    ค่าพลัง:
    +7,482
    เรียนคุณอามู ... แม้แต่ในสวรรค์ชั้นสูงสุดของกามาวจร นั่นคือชั้น " ปรนิมมิตวสวัตดีภูมิ " หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า " สวรรค์ชั้นที่หก " นั้น ผู้ที่เป็นใหญ่สุดมีสองพระองค์ และได้มีการแบ่งการปกครองออกเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน คือฝ่าย " เทพยดา " และ ฝ่าย " มารยักษ์ "

    ดังนั้น ในเรื่องของจิตถ้าคิดในเรื่องกุศลกรรมก็จะอยู่ในฝ่ายธรรมะ แต่ถ้าคิดในเรื่องของอกุศลกรรมก็อยู่ในฝ่ายอธรรม หากจิตที่ฝึกมาดีแล้ว ย่อมจะมีพลัง ทั้งในด้านที่เป็น บวก(+) หรือ ลบ(-) ได้ในทุกเมื่อเช่นกัน

    อุปมาดั่งเช่นในเรื่องของไสย์ศาสตร์ ย่อมมีทั้ง ไสย์ขาว และ ไสย์ดำ ดั่งนี้เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤศจิกายน 2006
  7. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นครับ อันเนื่องจากเปลี่ยนคอมฯใหม่ความคิดก็เป็นความคิดใหม่เช่นกัน(ฮา)
    ๑.ทำแบบ พระปิดตา,หู,ปาก ครับ เพราะเราห้ามปากคนอื่นไม่ได้
    เค้าเป็นสุขที่ได้พูดเพราะเค้าไม่สามารถที่จะเหนือกว่าคนอื่นได้ เพราะเค้ามีปมเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนหรือพ่อแม่
    เพราะบางทีเค้าอาจจะคิดว่าการพูดเป็นการเรียกร้องความสนใจของผู้พูด
     
  8. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +1,444
    เห็นด้วยครับ
     
  9. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +1,411
    เห็นใจกับคุณ อามู ครับ ยึดติดมากก็หลงมาก พระพุทธเจ้าให้ปล่อยวาง ถือไว้ก็หนักปล่าวๆครับ เอาที่อยู่ในใจของเรา วางลงให้หมดครับ จะได้ไม่ทุกข์
     
  10. Namwarn

    Namwarn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +27
    คือเห็นเค้าแนะนำกันงั้นก็แผ่เมตตานะคะ อย่าคิดมากนะคะ เราก้ไม่ใช่คนที่ฝึกมาขนาดรู้หรือเก่งทุกอย่างแค่อยากบอกว่าอย่าคิดมากน่ะค่ะคุณอามู
     
  11. kook1519

    kook1519 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +3,159
    เพิ่งสมัครสมาชิกมาได้ 2-3 วันแล้วค่ะอ่านกระทู้มาหลายกระทู้
    พออ่านจบแล้ว เรารู้สึกดีใจจังที่เราเป็นแค่พุทธศาสนิกชน คนธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิเศษ แตกต่างจากสามัญชนคนธรรมดา ไม่คิดหา คิดทำอะไรให้มันพิสดารแตกต่างออกจากหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    ไม่ต้องมานั่งห่วง นั่งกังวล จนไม่มีเวลาหาความสงบสุขในชีวิตจริงๆๆ
    ไม่มีฌานวิเศษล่วงรู้อดีตกาลหรืออนาคตกาลเบื้องหน้า สิ่งที่มีก็แค่สติ รู้แค่นาทีต่อนาทีที่เป็นอยู่ ดำเนินชีวิตไปตามหลักธรรมะของพระพุทธเจ้า ไม่ยึด ไม่ติด ไม่โลภ ไม่หลง
    เดินทางสายกลางใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข

    อ่านของคุณพ่อมดโลจิ แล้วก็รู้สึกกลัวค่ะ ถ้าเป็นจริงคุณก็คือคนยอดคน
    ส่วนคุณเทวดา ที่ใครๆ ก็วิพากษ์วิจารณ์กัน แท้จริงแล้วชีวิตจริงของคุณเป็นพุทธศาสนิกชนหรือป่าวก็ไม่รู้
    พ่อเราบอกว่าสิ่งเหล่านี้พระพุทธเจ้าไม่เคยสอน
    แต่พอเราเข้ามาอ่านแล้วก็ งง+เงงล่ะค่ะ
    แต่ก็ทึ่งจริงๆ น๊ะ ไม่คิดจะหลบลู่ ใครๆ รวมทั้งคุณอามู ด้วย

    ทั้งนี้ทั้งนั้น มนกิลด์ขอศึกษาต่อไปค่ะ แปลกดี สนุกด้วย ได้ความรู้อันอาจจะไม่มีประโยชน์แต่ก็ถือว่าได้ท่องโลกใบหใม่ล่ะค่ะ
    ....
     
  12. aonwit01

    aonwit01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +1,025
    เราว่าการที่เค้าเจ็บตัวน่ะ ไม่ได้เป็นเพราะอามูหรอก น่าจะเป็นเพราะกรรมของเค้าเองมากกว่า แต่อามูไปเร่งให้ผลกรรมเกิดในตอนที่ทะเลาะกันเพื่อป้องกันตัวต่างหาก เลยเหมือนว่าอามูทำร้ายเค้า

    อย่าทำกรรมเองก็แล้วกันน้า
     
  13. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ตอนนี้อามูตายรึยัง

    โห...อยากตายแบบให้เครนหล่นทับ

    หาเรื่องตายแบบที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนตามได้ไหมจ๊ะ บาปนา

    เพราะว่าหากเราอยากให้เครนทับตาย เกิดทับมาจริงๆ คนขับคนควบคุมเครนและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย

    เอาอย่างนี้นะจ๊ะอามู พลังเจ๋งนัก เก็บตัวคนเดียวในห้อง เดินพลังปลิดชีพตัวเองไปเลยนะจ๊ะ ไม่ก่อกรรมให้ผู้อื่นเดือดร้อนตาม

    และเขียนจดหมายบอกทุกคนด้วยถึงสาเหตุการเดินพลังปลิดชีพของเราหนีพลังที่เราควบคุมมันไม่อยู่น่ะจ๊ะ
     
  14. ninjabadboy

    ninjabadboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +517
    ตายเพื่ออะไร?
    ท่านไม่เกิดไหม่หรอ?
    ท่านเกิดไหม่เกิดเป็นอะไร?
    ถ้าไม่เกิดเป็นมนุษย์ละ?
    ลำบากกว่าเป็นมนุษย์ไหม?
    ใจเย็นๆงับพิจารณาเรื่อยๆ
    มีของดีอยู่ ที่ตัวทำไมไม่ทำให้มันมีค่า
    ทะเลาะกับ คนใกล้ตัวผมรู้ว่าทะเลาะกับใคร
    ลองพิจารณาดีๆ


    "ทุกปัญหามีทางแก้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ หลายๆคนหลายๆทาง ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ทุกปัญหาก็จะถูกขจัดจนหมดไป"

    พระบรมมราโชวาท รัชกาลที่9
     
  15. ninjabadboy

    ninjabadboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +517
    เมื่อใช้กรรมไว
    หมดกรรมไว
    มีบุญไว้
    นิพานไว
     
  16. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,589
    จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ทั้งกายเรากายเขาก็เหมือนกัน กรรมเกิดจากเจตนา ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่ร่วมมิตร ระวังวาจา หากใจไม่มีการกลั่นกรอง ปิยวาจาก็ไม่เกิด หรือหากเรารู้ไม่ทันวาจาของผู้อื่น(เจตนา) ปฏิกิริยาตอบโต้ตามสัญชาตญาณก็จะบังเกิดขึ้น กลายเป็นอารมณ์ และกลายเป็นเจตนา เป็นวาจา และเป็นการกระทำในที่สุด(กรรม) แต่หากรู้เท่าทัน สิ่งที่คิด พูด ทำ ก็จะถูกกลั่นกรองด้วยสติ สัมปะชัญญะ
    "การฝึกอบรมตนเอง ทั้งกาย วาจา และใจ เพื่อให้เป็นคนมีสติ-สัมปชัญญะ คือ ฝึกตนให้เป็นคนที่รู้จักยั้งคิด รู้สึกตัวเสมอ ว่าสิ่งใดควรทำและไม่ควรทำ ระวังมิให้ตนเองเป็น คนมัวเมาหรือประมาท ไม่มีอะไรเหนือไปกว่า สติ-สัมปชัญญะ ที่จะใช้ควบคุมดูแลกายวาจาและใจของเราทั้งสามอย่างนี้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ที่พวกเราควรจะศึกษาธรรมะข้อนี้ ควรที่จะประกอบธรรมะข้อนี้ให้เกิดให้มีขึ้นในตน ฝึกฝนอบรมสติ-สัมปชัญญะ ของตนให้แก่กล้า ตราบใดที่พวกเราขาดสติ-สัมปชัญญะ หรือมีสติ-สัมปชัญญะไม่สมบูรณ์อยู่นั้น ทำให้เกิดความเสียหายทั้งในปัจจุบันนี้และอนาคตไปข้างหน้า หรือแม้แต่อดีต ที่ผ่านมาดังที่เห็นกันอยู่แล้วนั้นก็ดี ความเสื่อมเสียหายของคนในโลกนี้ก็มีมาแต่อดีต มาจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ และอนาคตไปวันข้างหน้า ก็ดี ก็จะมีความเสียหายไปเรื่อยๆ เพราะขาดสติ-สัมปชัญญะ นั่นเอง คำว่า สติ คือความระลึกได้ สัมปชัญญะ คือ ความรู้ตัวอยู่เสมอ พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้บุคคลพากันฝึกสติ-สัมปชัญญะ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดมีแก่ตนและบุคคลอื่นอีกทั่วไปนั้นเอง"
    ----------------------------------------
    หนังสือ สติ-สัมปชัญญะ พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
    วัดอรัญญวิเวก (บ้านปง) ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    เจ้าภาพผู้พิมพ์ถวาย คุณศิริธัช-คุณสุพิน โรจนพฤกษ์ และบุตรธิดา พร้อมทั้งญาติพี่น้อง มิตรสหาย รวมทั้งบริวารทั้งหลาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...