การขออโหสิกรรมกับพ่อแม่ช่วยให้เจริญสมาธิง่ายขึ้น

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย อภิราม, 13 สิงหาคม 2010.

  1. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใคร ช่วยส่งรักกลับมา
    ถ้าแม่ฟังอยู่คิดถึงหนูหน่อยหนา หนูขอสัญญาว่า หนูจะเป็นเด็กดี

    ดังเนื้อเพลงที่กล่าวไว้ข้างต้น สะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีว่า ชีวิตเด็กกำพร้านั้น
    น่าสงสารเพียงใด ในโลกนี้นั้น ไม่รู้ว่ามีเด็กกำพร้าอยู่กี่ล้านคน
    อยากจะได้ความรักจากท่านก็ทำไม่ได้ อยากจะให้ความรักแก่ท่านก็ทำไม่ได้

    เพราะฉะนั้น คนที่มีพ่อมีแม่ อยู่กับพ่อแม่ จงรู้ไว้ว่าตัวเรานั้น โชคดีที่สุด
    ที่ได้เกิดมาบนโลกนี้แล้วยังมีพ่อแม่อยู่ และมีโอกาสได้ทดแทนพระคุณท่าน

    สำหรับผู้ที่ฝึกปฎิบัติสมาธินั้น การขออโหสิกรรมแก่พ่อและแม่
    จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในการบวชนาค ก็จะมีพิธีการขออโหสิกรรมกับพ่อแม่นี้ด้วย
    แต่สำหรับผู้หญิงที่ไม่สามารถบวชได้ หรือผู้ชายที่ไม่มีโอกาสได้บวช แต่สนใจฝึกหรือกำลังปฎิบัติสมาธิอยู่
    จึงควรอย่างยิ่งที่จะกราบขออโหสิกรรมกับท่าน
    เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้การฝึกสมาธิดีขึ้น แต่จะทำให้ชีวิตท่านเจริญรุ่งเรืองขึ้นด้วย

    การขออโหสิกรรมพ่อแม่นั้น วิธีการปฎิบัติคือ
    ให้ท่านนั่งบนเก้าอี้พร้อมกัน นำขันน้ำหรือเหยือกน้ำก็ได้ใส่น้ำมาค่อนใบ
    ใส่ดอกมะลิลงใปในขันพอประมาณ จากนั้นก้มลงกราบท่านก่อน และกราบที่เท้าท่าน แล้วตั้งใจพูดว่า

    กรรมใดที่ลูกได้เคยล่วงเกินคุณพ่อคุณแม่ไว้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

    ขอคุณพ่อคุณแม่โปรดอโหสิกรรมให้แก่ลูกด้วยเถิด

    แล้วนำน้ำในขันหรือเหยือก รดลงไปที่มือท่านพร้อมกับล้างทำความสะอาดมือท่านไปด้วย
    แล้วจึงรดลงไปที่เท้าท่าน พร้อมกับขัดถูเท้าท่านไปด้วย
    เสร็จแล้วก็ก้มลงกราบที่เท้าท่าน3ครั้ง แล้วค้างไว้ที่เท้าท่าน
    รอท่านกล่าวอโหสิกรรมให้แก่เรา รอท่านกล่าวให้พรเรา

    เพียงเท่านี้ก็เป็นการล้างกรรมที่เคยทำกับท่านไว้
    เพียงแค่เราหยิกท่านหรือพลักท่านเบาๆตอนที่เราหยอกท่าน
    ก็ถือว่าเป็นบาปที่เราได้ทำกับท่านแล้ว

    และยังมีอีกหลายอย่างที่เราอาจทำบาปไว้กับท่าน โดยที่เราไม่รู้หรือไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉะนั้น
    กราบขออโหสิกรรมกับพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณกันเถอะครับ

    ทำทุกปีก็ได้ ปีละ1ครั้งก็ดี นอกจากจะเป็นการนำความสุขความเจริญมาสู่ตัวเราแล้ว
    ยังเป็นการนำความปลื้มปิติแก่บิดามารดาและผู้มีพระคุณอีกด้วย : )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  2. kabukiman

    kabukiman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +566
    ขอบพระคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ
     
  3. samusunn

    samusunn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    517
    ค่าพลัง:
    +878
    เคยขอขมากับท่านแล้วค่ะ แต่ว่าท่านไ่ม่ได้กล่าวคำว่า อโหสิกรรม แสดงว่าต้องขอขมาใหม่ใช่ไหมคะ
     
  4. krathin

    krathin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +203
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    จะกลับไปทำตามคำแนะนำค่ะ

    (kiss)(kiss)(kiss)
     
  5. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005


    เพียงใจท่านคิดอโหสิกรรม ก็ใช้ได้แล้วครับ
    ถึงท่านจะกล่าวอโหสิกรรม แต่ใจท่านไม่อโหสิให้ ก็ถือว่าท่านไม่ได้อโหสิกรรมให้เรา

    สำคัญที่ใจครับ แต่คงไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอก ที่จะไม่ยกโทษให้ลูก ไม่ให้อภัยลูก
    แต่ถึงท่านจะอโหสิกรรมให้เราแล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
    ถ้าเรายังอยู่กับท่าน ยังได้ปรนนิบัติดูแลท่าน เราก็มีโอกาสทำสิ่งไม่ควรโดยไม่ได้ตั้งใจอีก
    ผมแนะนำว่าควรขออโหสิกรรมกับท่าน ตรงกับวันเกิดเราทุกๆปีครับ
    เพราะเป็นวันที่ท่านเสี่ยงชีวิตมากที่สุด เป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา

    คราวหน้าถ้าจะขออโหสิกรรมกับท่านอีก บอกกับท่านก่อนว่า
    กล่าวอโหสิกรรมและโปรดให้พรแก่ลูกด้วยเถิด เพราะพรจากพ่อแม่นั้น
    เป็นพรอันประเสริฐที่สุดที่เราจะหาได้ในโลกนี้แล้ว

    แต่สิ่งสำคัญที่สุดของการขออโหสิกรรมจากพ่อแม่
    ไม่ใช่การทำให้เราหลุดพ้นหรือลบล้างกรรมที่เราได้ทำไว้
    แต่เป็นการนำความปลาบปลื้มปิติมาสู่จิตใจของท่านมากกว่า
    ทำไว้เถอะครับ ขณะที่เรายังมีโอกาสได้ทำ จะได้ไม่ต้องเสียใจในภายหลัง

    _____________________________________________________

    ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปฎิบัติธรรมทุกท่าน ผ่านพ้นทุกๆปัญหาและอุปสรรคต่างๆ
    ทั้งทางโลกและทางธรรม ตั้งแต่ปัจจุบันนี้ ตราบจนทุกท่านเข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด สาธุ : )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2010
  6. teedej

    teedej Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +61
    ขอร่วมโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยครับ
    จากความรุ้สึก จริงๆ ที่จิตใต้สำนึกของลูกคนหนึ่ง
     
  7. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    ปล่อยวางละความยึดมั่นในสิ่งที่เคยทำมาในอดีตให้หมด จนเหลือแต่ความว่างในจิตใจ.....สมาธิก็เกิดได้ ถ้าทำถูกต้อง.
     
  8. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    การที่เราล่วงเกินพระสงฆ์องค์เจ้า ไม่ว่าด้วยเจตนา
    หรือไม่เจตนา เรายังละอายแก่ใจ ยังเกรงกลัวต่อบาป

    ในเมื่อเราทุกคน ย่อมเคยล่วงเกินบิดามารดาผู้มีพระคุณอยู่แล้ว
    ก็สมควรที่จะละอายแก่ใจ และเกรงกลัวต่อบาป
    มากกว่าการล่วงเกินใดๆทั้งสิ้น

    สำหรับผู้ที่เคยปฎิบัติแล้วก็ดี
    แต่ผู้ที่ยังไม่เคยปฎิบัติ ก็ปฎิบัติเถอะครับ
    เพราะจะเป็นมงคลชีวิตแก่ตัวท่านเอง

    __________________________
    ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปฎิบัติธรรมทุกท่าน ผ่านพ้นทุกๆปัญหาและอุปสรรคต่างๆ
    ทั้งทางโลกและทางธรรม ตั้งแต่ปัจจุบันนี้ ตราบจนทุกท่านเข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด สาธุ : )<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. øØøØVivaceØøØø

    øØøØVivaceØøØø เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +114
    ผมทำบาปกับแม่ไว้เยอะเลยครับ กลัวว่าตายไปจะกลายเป็นเปรต มีครั้งหนึ่งผมได้เถียงท่านไว้มากเลย

    หลังจากวันนั้นผมนั่งสมาธิไม่เหมือนเดิมเลยครับ มันร้อนที่ใจ นั่งไม่ได้เลยครับ

    แล้วผมเดินไปหาท่านเพื่อขอขมา โดยการล้างเท้าและกล่าวคำขอขมา ท่านก็อโหสิให้

    แล้วอาการนั้นก็หายไป แต่สมาธิของผมก็ไม่เป็นเหมือนเดิม มันเข้าไม่ลึกเหมือนเดิมครับ

    ผมก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่ากรรมที่ผมทำมาทั้งหมดนั้นนั้น

    มันจะล้างได้100เปอร์เซนต์รึเปล่าครับ กลัวว่าตายไปจะกลายเป็นเปรตอะครับ

    อิกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะถามก็คือ พ่อของผมซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว

    หากผมจะขอขมาท่านจะสามารถทำได้โดยวิธีใดครับ



    ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
     
  10. nippitarnit

    nippitarnit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +182
    อ่านแล้วน้ำตาจะไหล...ขอบพระคุณกับคำแนะนำดีๆ โมทนาสาธุ...



    สัพเพ สังขารา อะนิจจา สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง
     
  11. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    ขอบพระคุณในธรรมทานครับ

    sun dog ระลึกถึงคำพูดอาจารย์ ที่บอกว่าให้ล้างเท้าบิดามารดาเมื่อมีโอกาส
    การขอขมาบิดามารดา ให้ผลมากทีเดียว ในการบำเพ็ญบารมี

    ความรู้สึกขอบคุณ และสำนึกผิด ในสิ่งที่เราเคยล่วงเกินผู้มีพระคุณ ความจริงแล้วเป็นความรู้สึกที่พร้อมจะให้ หากทำได้จริงๆ ใจเราจะอ่อนโยน และเปิดกว้าง เหมาะแก่การใช้งาน การสำนึกผิด จากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่เคยตอกย้ำให้เราหม่นหมอง มีแต่เสริมสร้างกำลังใจ ที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมเสียสละ เพื่อชดใช้ในสิ่งที่ล่วงเลย และทดแทนพระคุณ

    หากเราสำนึกผิดแล้ว ขอขมาแล้ว แต่ยังรู้สึกผิดอยู่ร่ำไป แสดงว่าในเบื้องลึกของเรา มีปมบางอย่าง ที่ยังไม่ได้คลาย และเรา ก็ยังไม่รู้จักปมนั้นดีพอ เราย่อมได้รู้จักปมนั้นในที่สุด เมื่อหมั่นพิจารณาตน ครับ
     
  12. ต้นมะขาม

    ต้นมะขาม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +3
    มันอยู่ที่จิตใจข้างในของท่าน ถ้าในใจท่านอโหสิกรรม มันก็โอแล้วแหละคับ ไม่จำเป็นต้องกล่าวออกมาให้เป็นคำพูดเสมอไป

    แต่ส่วนใหญ่ พ่อแม่มักจะอโหสิกรรมให้กับลูกอยู่แล้วอ่ะนะคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...