เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Aunyasit, 26 สิงหาคม 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kitjang

    kitjang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2006
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +511
    ดีครับคุณอัญญาสิทธิ์ ที่นำรูปแผ่นการลังอักขระ มาลงให้ดู ถึงแม้จะเป็นส่วนหนึ่ง เล็กๆน้อยๆ นำมาประกาศให้ผู้ที่จะร่วมทำบุญทราบ นั่นก็แสดงถึงเจตนาบริสุทธิ์ของคุณแล้วครับ แบบนี้เห็นเป็นรูปธรรมดีครับ
     
  2. ไผ่สีทอง

    ไผ่สีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +120
    สวัสดีครับ ทุกท่าน
    ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ

    สมมุติว่าตอนนี้ขณะนี้มีกลุ่มคนแบ่งออกเป็น 3 ฝ่ายจริง
    คือเห็นด้วย เป็นกลาง และไม่เห็นด้วย
    ไม่เห็นด้วยเป็นเพราะสาเหตุใด มีอยู่หลายสาเหตุ ตามสภาวะกาล

    ถ้าท่าน Aunyasit ทำงานนี้สำเร็จลงด้วยดี จะด้วยเหตผลใดก็ตาม
    ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจะกลายเป็นมารไป และจะมีผลกรรมตามมา และกาลเวลา
    ที่จะทำบารมีใดๆ ก็จะยาวนานขึ้น

    เท่าที่อ่านมา ท่าน Aunyasit มีความศรัทธาเป็นอย่างสูง ตลอดเวลาที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงเป็นคนที่มีความทุ่มเท ทั้งแรงกายแรงใจ เดินทางไปมาทั่วประเทศ หลายหมื่น หลายแสนกิโล ดูจากเข็มไมล์รถยนต์

    ซึ่งท่านได้ทำจริง และมีความรู้ในทางธรรมสูง เรื่องที่คิดจะนำเงินแม้สตางค์เดียวที่คนนำมาบริจากไปใช้ส่วนตัวคงไม่กล้าแน่ เพราะเชื่อในกฎแห่งกรรม
    และมีความเข้าใจเรื่องบุญกุศล นรก และสวรรค์

    งานนี้เชื่อได้เลย ท่านมั่นใจว่าเสร็จแน่นอน

    ท่านที่มาลองกำลังใจ ก็คิดดูอีกที

    ขอให้ทุกท่าน มาร่วมมือ ร่วมใจกัน ร่วมสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้กันครับ

    ท่านผู้มีหน้าที่ทำอะไรทั้งหลาย ก็ให้ทำหน้าที่กันไปครับ จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ
    อย่างไรอยู่ที่ชะตาฟ้าครับ

    และขอให้ทุกท่าน บารมีเต็มเร็วๆ นะครับ

    สวัสดี
     
  3. ฐตธนวัฒฆ์

    ฐตธนวัฒฆ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +745
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2006
  4. koro

    koro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +181
    อนุโมทนา กับผู้มีจิตกุศลทุกท่านคับ ยังไงผมจะเก็บรวบรวมปัจจัยร่วมบุญกุศลนี้ด้วยคับ ถึงแม้จะน้อยนิด แต่ก็ด้วยใจบริสุทธิ์อะคับ
     
  5. ฐตธนวัฒฆ์

    ฐตธนวัฒฆ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +745
    กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ กรรมดีอันใด เป็นบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ด้วยกาย วาจา ใจ ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ขอให้ถึง แก่ท่านทั้งหลาย ที่มีภพมีภูมิ มีชาติเป็นแดนเกิด มีชรามรณะ มีจิต มีชีวิต มีวิญญาณ มีขันธสันดาน มีวิบากแห่งกรรม มีการกระทำ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าการบัญชี จตุโลกบาลทั้ง ๔ ยมบาล มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖ พรหม ๒๐ อบายภูมิทั้ง ๔ บัดนี้ข้าพเจ้า ได้สร้างกองการกุศล มีผลทานผลศีล ผลภาวนา ผลแผ่เมตตา ขอให้ถึง แก่ท่านทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้ล่วงเกิน ทำกรรมไว้ ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ต่อหน้ากันก็ดี ลับหลังกันก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลาย จงอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป อย่ามีเวรภัย เกิดชาติหนึ่งภพใด ขอให้ได้สร้าง แต่กรรมดี สร้างบารมีของตน ให้พ้นภัยพาล ลุล่วงบ่วงมาร ในอนาคตกาล อันใกล้นี้ ด้วยเทอญ

    ข้าพเจ้าคิดจะประกอบกิจการอันใด ที่ไม่ผิดทำนองคลองธรรม ขอให้สำเร็จสมปรารถนา เป็นอัศจรรย์ เหนือมนุษย์ทั้งปวง

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=56466
     
  6. vachiravute

    vachiravute Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +73
    อยากเรียนถามคุณศิวดล ครับ
    1.ไม่ทราบว่าหอมรณะ คืออะไร ใช่หอเดียวกับที่หอจักพรรดิ์ วัดป่าสีดาหรือเปล่า แล้วใครเป็นคนพูดครับ ผมงง!!
    2.คุณมีความแค้นอะไรเป็นส่วนตัวกับคณะผู้สร้างพระหรือเปล่า โดยเฉพาะ 2 ท่านที่คุณพาดพิงถึง
    3.ผมเห็นเหมือนคุณนะ เกี่ยวกับเรื่องการทำบุญ เพราะอาจารย์ผมก็กล่าวเช่นนั้น
    4.ผมสังเกตว่า คงมีปัญหาอะไรลึกๆ เกี่ยวกับคณะสร้างจริง เพราะสังเกตว่าคำตอบต่างๆไม่ค่อยตรงคำถามเท่าไหร่ แต่ก็จะเอาใจช่วยทุกๆท่านที่กำลังทำหน้าที่ของตัวเอง
    * ธรรมของโลกอุดร เหนือทุกสิ่งในโลกนี้ ผู้เข้าถึงได้ย่อมรับรู้สัมผัสได้ด้วยตนเอง มิอาจเล่าความรู้สึกนั้นให้คนอื่นเกิดเข้าใจเหมือนตนได้*
     
  7. KEN_BP

    KEN_BP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +544
    แค่เห็น เบอร์มือถือ ผู้พันก็หนาวแล้วครับ

    กระผมมีความเกี่ยวข้องกับโลกอุดร
    งานนี้ได้ไปร่วมสร้างบารมีกับผู้พันแน่ครับ

    นี้คงเป็นบททดสอบเล็กน้อยครับ
    น่าจะยังมีที่ใหญ่กว่านี้อีกครับ
    ผู้พันต้องผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ

    มารไม่มา บารมีไม่เกิด

    ขอโมทนากับผู้พันและคณะด้วยครับ
     
  8. eutayan

    eutayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +166
    อุตสาห์อ้อนปู่ใหญ่ให้ช่วยลูก- หลานนะเนี่ย อยากจะเหมาเองคนเดียวเลย 1 องค์ ซื้อ "136" ยกชุด ออก "137" ซะนี่
     
  9. พระกรรมฐานดอทคอม

    พระกรรมฐานดอทคอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    611
    ค่าพลัง:
    +2,242
    อย่าไปสนใจคำพูดใคร..ใครคิดไม่ดีทำไม่ดีจะแพ้ภัยตัวเองไปเอง..กาลนี้เป็นกาลสำคัญอย่าลังเลสงสัย..จงรีบทำ..ขออนุโมทนาสาธุ..ในการสร้างพระเจ้า5พระองค์ครั้งนี้ด้วย..ขอเป็นกำลังใจให้ผู้พันและคณะ..ครับ
     
  10. vachiravute

    vachiravute Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +73
    เรียนคุณอัญญาสิทธิ์ คณะผู้สร้าง และคุณศิวดล

    ช่วยตอบที่ผมถามไปด้วยครับ รวมถึงโพสที่แล้ว จะรอฟังอยู่

    **ขอกุศลจิตในธรรมของโลกอุดร จงเป็นเครื่องค้ำชู ศาสนานี้ด้วยเถอะ**
     
  11. Tewadhol

    Tewadhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +694

    คิริมานนทสูตร
    ในห้อง
    อภิญญา-กรรมฐาน

    จะวัดระดับจิตธรรมของท่านได้
     
  12. ฐตธนวัฒฆ์

    ฐตธนวัฒฆ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +745
    การซักถามเพื่อให้หายความสงสัยเป็นการดีครับ

    หลวงพ่อน้อยฯท่านปรารภสอนตอนเช้านี้ว่า บุคคลใดมีศรัทธาและต้องการสร้างบุญสร้างกุศลแล้วยังมีความลังเลสงสัยในการทำคุณงามความดี อย่าทำเลยดีกว่า เพราะทำไปก็ไม่เกิดอานิสงส์ใดๆ ทำไปก็สูญเปล่า ไม่มีประโยชน์ นั่งนิ่งๆยังดีกว่าเสียอีก ไม่ต้องเสียอะไร
    บุญกุศลภายนอกถึงเวลาทำก็ต้องทำเท่าที่มีโอกาสให้ทำ ส่วนบุญกุศลภายในนั้นควรทำไปตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะถึงโลกอุดร โลกุตรธรรม มันบอกไม่ได้หรอกจะถึงเมื่อไหร่ เหมือนคนเรากินข้าว เราบอกไม่ได้ว่า กินข้าวอีกกี่คำถึงจะอิ่ม คนเราก็ต้องทานไปเรื่อยๆจนอิ่มเอง การปฏิบัติธรรมก็ฉันนั้น ทำไปเรื่อยๆถึงจุดอิ่ม มันก็อิ่มเอง
    การปฏิบัตินั้น ท่านให้ใช้ปัญญาตนเองที่มีอยู่ในตนมาสอนตนเอง ไม่ต้องไปค้นคว้าจากที่อื่นเลย หรือจากหนังสือ ปัญญาที่มีอยู่ในตนมีอยู่แล้วนำมาใช้ให้เป็น ให้เกิดประโยชน์ เราเคารพครูบาอาจารย์ทำไม...เพราะท่านคือแบบอย่างที่ควรดำเนินตาม ปฏิบัติตาม...
    สร้างพระ...ให้สร้างทั้งภายนอกและภายในควบคู่กันไป มันถึงจะเป็นบุญกุศลอันแท้จริง...มันถึงจะได้แก้วสารพัดนึกกัน อธิษฐานอะไร...มันก็สำเร็จ...

    -----------------------------------------------------------------------

    คิริมานนทสูตร

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=56466
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2006
  13. ฐตธนวัฒฆ์

    ฐตธนวัฒฆ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +745
    <CENTER>ดับกิเลสทั้งห้า</CENTER> อานนฺท ดูกรอานนท์ บุคคลที่ปรารถนาซึ่งสวรรค์ และพระนิพพาน ก็จงรีบพากเพียรกระทำให้ได้ให้ถึงแต่ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เพราะมีอยู่ที่ใจของเราทุกอย่าง จะเป็น การลำบากมากอยู่ก็แต่พระนิพพาน ผู้ที่ปรารถนาความสุข ในพระนิพพาน จงทำตัวให้เหมือนแผ่นดินหรือเหมือน ดังคนตายแล้ว คือให้ปล่อยความสุขและความทุกข์เสีย ข้อสำคัญก็คือให้ดับกิเลส ๑,๕๐๐ นั้นเสีย กิเลส๑,๕๐๐ นั้น เมื่อย่นลงให้สั้นแล้วก็เหลืออยู่ ๕ เท่านั้น คือ โลภะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ๑ มานะ๑ ทิฏฐิ๑ โลภะนั้น คือ ความทะเยอทะยานมุ่งหวังอยากได้กิเลสกาม คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ๑ อยากได้วัตถุกาม คือสมบัติข้าวของ ซึ่งมีวิญญาณและหาวิญญาณมิได้๑ เหล่านี้ชื่อว่าโลภะ, โทสะนั้นได้แก่ความเคืองแค้น ประทุษร้ายเบียดเบียน ท่านผู้อื่น ชื่อว่าโทสะ, โมหะนั้นคือความหลงมีหลงรัก หลงชังหลงลาภหลงยศเป็นต้น ชื่อว่าโมหะ, มานะ, นั้นคือ ความถือตัวถือตน ดูถูกดูหมิ่นท่านผู้อื่น ชื่อว่ามานะทิฏฐินั้น คือความถือมั่นในลัทธิอันผิด เห็นเป็นอุจเฉททิฏฐิและ สัสสตทิฏฐิไป ปล่อยวางความเห็นผิดไม่ได้ชื่อว่าทิฏฐิ ถ้า ดับกิเลสทั้ง ๕ นี้ได้แล้ว ก็ชื่อว่าดับกิเลสได้สิ้นทั้ง ๑,๕๐๐ ถ้าดับกิเลสทั้ง ๕ นี้ไม่ได้ ก็ชื่อว่าดับกิเลสไม่ได้เลย ดูกร อานนท์ ปุถุชนคนหนาทั้งหลาย ที่ปรารถนาพระนิพพาน ได้ด้วยยากนั้น ก็เพราะเหตุที่ไม่รู้จักดับกิเลสตัณหา เข้าใจ เสียว่าทำบุญทำกุศลให้มากแล้ว บุญกุศลนั้นจักเลื่อนลอย มาจากอากาศเวหา นำตัวขึ้นไปสู่พระนิพพาน ส่วนว่า พระนิพพานนั้นจะอยู่แห่งหนตำบลใดก็หารู้ไม่ เป็นแต่ คาดคะเนเอาอย่างนั้น จึงได้พระนิพพานด้วยยาก แท้ที่จริง พระนิพพานนั้นไม่มีอยู่ในที่อื่นไกลเลย หากมีอยู่ที่จิตใจ นั้นเอง ครั้นดับ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ ได้ขาด แล้ว ก็ถึงพระนิพพานเท่านั้น ถ้าไม่รู้และดับกิเลสตัณหา ยังไม่ได้ เป็นแต่ปรารถนาว่า ขอให้ได้พระนิพพานๆ ดังนี้ แม้สิ้นหมื่นชาติแสนชาติก็ไม่ได้พบปะเลย เพราะกิเลส ตัณหาทั้งหลาย ย่อมมีอยู่ที่ตนตัวของเราทั้งสิ้น เมื่อตัว ไม่รู้จักระงับกิเลสตัณหาที่มีอยู่ให้หมดไปก็ไม่ถึงเท่านั้น จะคอยท่าให้บุญกุศลมาช่วยระงับดับกิเลสของตัวเช่นนี้ ไม่ใช่ฐานะที่จะพึงคิด บุญกุศลนั้นก็คือตัวเรานี้เอง เราแล จะเป็นผู้ระงับดับกิเลสให้สิ้นไปหมดไปจึงจะสำเร็จได้สม ประสงค์ ดูกรอานนท์ ปุถุชนคนเขลาทั้งหลายที่ได้ถึง พระนิพพานด้วยยากนั้น เพราะเขาปรารถนาเปล่าๆ จึง ไม่ได้ไม่ถึง เขาไม่รู้ว่าพระนิพพานอยู่ที่ในใจของเขา มีแต่ คิดในใจว่าจะไปเอาในชาติหน้า หารู้ไม่ว่า นรกและสวรรค์ และพระนิพพานมีอยู่ในตน เหตุฉะนั้นจึงพากันตกทุกข์ ได้ยากลำบากยิ่งนัก พากันเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏสงสาร นี้ ถือเอากำเนิดในภพน้อยภพใหญ่อยู่ไม่มีที่สิ้นที่สุด ข้าแต่ พระมหากัสสปะ พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาแก่ข้าฯ อานนท์ ด้วยประการดังนี้ แล้วจึงตรัสเทศนาต่อไปอีกว่า อานนฺท ดูกรอานนท์ บุคคลผู้มีปัญญาพึงคิดถึงตนแล้วปราบใจ ของตนให้พ้นจากทุกข์และความลำบาก และให้ออกจากบ่วง แห่งกิเลสมารให้ได้เถิด ถ้าไม่คิดอย่างนี้ แม้จะมีปัญญาก็มี เสียเปล่า ไม่นับเข้าในจำนวนที่มีปัญญา กิริยาที่พ้นทุกข์ และ พ้นออกจากบ่วงแห่งกิเลสมารได้ ก็คือพ้นจากกิเลสตัณหา ของเรา เมื่อพ้นจากกิเลสตัณหาได้เช่นนั้น ก็ได้ชื่อว่าพ้นจาก ความทุกข์ยากโดยสิ้นเชิง ถ้ายังไม่พ้น ก็ได้ชื่อว่ายังไม่พ้น จากความทุกข์ยาก เมื่อตนยังไม่หลุดไม่พ้น ก็ไม่ควรจะ สั่งสอนผู้อื่นเพราะตัวยังไม่พ้น จะสั่งสอนผู้อื่นให้พ้นได้ด้วย อาการอย่างไร เปรียบเหมือนบุคคลจะข้ามแม่น้ำ ถ้าตัว ของเราข้ามไปถึงฝั่งฟากโน้นแล้ว จึงร้องบอกให้ท่านผู้อื่น ข้ามมาตามตนเช่นนี้สมควรแท้ เมื่อเราร้องบอกเขาแล้ว เขาจะพอใจไปหรือหาไม่ก็แล้วแต่ใจเขาส่วนตัวของเราข้ามไป ได้สมประสงค์แล้ว ข้ออุปมานี้ฉันใด ผู้ที่จะเป็นครูเป็น อาจารย์สอนให้ผู้อื่นพ้นจากทุกข์ ก็ต้องทำตัวให้พ้นทุกข์ เสียก่อน จึงสมควรจะสอนคนอื่น มีอุปไมยเหมือนผู้ที่ จะพาข้ามแม่น้ำฉะนั้น บุคคลที่เปลื้องตัวให้พ้นออกจาก กองกิเลสยังไม่ได้ และจะไปเปลื้องปลดสัตว์ในป่าช้า ผี ทั้งหลายเขาจะหัวเราะเยาะเย้ยว่า อโห โอหนอ! ตัวของ ท่านก็ยังไม่พ้นทุกข์ แล้วจะมาพาเอาพวกข้าพเจ้าออกจาก ทุกข์ได้อย่างไร ตัวของท่านและพวกข้าพเจ้าก็ยังไม่พ้นนรก อยู่เหมือนกัน จะมาพาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากนรกได้ด้วย อาการอย่างไร ดูกรอานนท์ บุคคลจำพวกใด ที่ให้ผีในป่าช้า หัวเราะเยาะเย้ยเล่นเช่นนี้ บุคคลจำพวกนั้นถ้ามีขึ้นก็เป็นเหตุ ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บอันตรายต่างๆ หาความสุขความเจริญ มิได้ ดูกรอานนท์ คฤหัสถ์ก็ดี นักบวชก็ดี มากล่าวว่าตัวรู้ ตัวเห็นและได้พูดจากับด้วยผี ดังนี้ก็พึงให้รู้ว่าคนจำพวกนั้น ไม่ใช่ลูกศิษย์ของเราตถาคต เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิภายนอก พระศาสนา ไม่ควรเชื่อถือเอาเป็นครูเป็นอาจารย์ เพราะเขา เป็นคนเจ้าอุบายเจ้าเล่ห์เจ้ากลเท่านั้น ที่มีความรู้จริงเห็นจริง พูดจาสนทนากับผีได้ มีแต่พระพุทธเจ้ากับพระอรหันต์ เท่านั้น นอกนั้นไม่มีใครรู้จริงเห็นจริง เป็นคนอุตริทั้งนั้น ดูกรอานนท์ เราจะทำนายไว้ให้เห็นในอนาคตกาลเบื้องหน้า จะเกิดมีพวกมิจฉาทิฏฐิภายนอกศาสนาอวดอ้างว่าตัวรู้ ตัวเห็นผีได้พูดจากับด้วยผี ครั้นบุคคลจำพวกนั้นเกิดขึ้นแล้ว ก็จะเบียดเบียนพระศาสนาของเราให้เสื่อมถอยลงไปด้วย วาทะถ้อยคำเสียดสีต่างๆ พระสงฆ์สามเณรก็จะเกิดระส่ำ ระสายหาความสบายมิได้ เขาจะสอนทิฏฐิวัตร์อย่างเคร่งครัด ถืออรัญญิกธุดงค์อย่างพระเทวทัตต์ ภายหลังก็จะเกิด พระบ้านพระป่ากันขึ้นแล้วก็จะแตกกันออกเป็นพวกๆ ไม่สามัคคีกัน ต่างพวกก็ถือแต่ตัวดี ศาสนาของเราก็จะ เสื่อมถอยลงไปเพราะพวกมิจฉาทิฏฐิเห็นแก่ลาภและยศ หาความสุขมิได้ มรรคผลธรรมอันวิเศษก็จะไม่เกิดขึ้นแก่เขา เขาจะเรียนเอาแต่วิชาศีลธรรมอันพวกมิจฉาทิฏฐิสอนให้ รู้อะไรกันขึ้นเล็กน้อยก็อวดดีกันไป แท้ที่จริงความรู้เหล่านั้น ล้วนแต่รู้ดีสำหรับไปสู่นรก เขาจักไม่พ้นจตุราบายได้เลย ดูกรอานนท์ ในอนาคตกาลภายหน้าจะมีอย่างนี้ไม่ต้องสงสัย ถ้าผู้ใดรู้ลัทธิทิฏฐิอย่างนี้ไว้แล้ว เมื่อได้เห็นก็จงเพียรพยายาม ละเว้นก็จะได้ประสบความสุข การที่จะระงับดับกิเลส ก็ให้ ระงับบริโภค ๒ ประการ ให้เบาบางลง บริโภค ๒ นั้น คือจีวรปัจจัย และเสนาสนะปัจจัย ๒ อย่างนี้ ชื่อว่าบริโภค ภายนอกนับเป็น๑ บิณฑบาตปัจจัย และคิลานะปัจจัย ๒ อย่างนี้ชื่อว่าบริโภคภายในนับเป็นอย่าง๑ บริโภคทั้ง๒ นี้ เป็นตัวกิเลสตัวทุกข์ตัวสุขสิ้นทั้งนั้น ถ้าบริโภคทั้ง๒ นี้ มากขึ้นเท่าใด ทุกข์ก็มากขึ้นไปตามเท่านั้น ถ้าบริโภค ๒ นี้ น้อยลง ความสุขก็มากขึ้น คือว่าบาปน้อยลงเท่าใด บุญ กุศลก็มากขึ้นเท่านั้น อันบุญกุศลก็มีอยู่ที่ตัวบุคคลทั้งสิ้น ผู้ที่ละบริโภค ๒ นั้นได้แล้ว นรกก็พ้นสวรรค์และพระนิพพาน สิ่งใดๆก็ได้ในที่นั้น ดูกรอานนท์ บุคคลที่บวชเข้าแล้ว ไม่รู้จะระงับดับกิเลสคือบริโภค ๒ ให้เบาบาง เข้าใจว่า บวชรักษาศีลถือครองวัตรเอาบุญไม่หาอุบายระงับดับ กิเลสและบริโภค ๒ จะได้บุญได้ความสุขมาแต่ที่ไหน ถ้าคิดอย่างนั้น แม้จะรักษาศีลตลอดพระปาฏิโมกข์และ ธุดงควัตร ก็หากเป็นอันรักษาเปล่ารักษาให้เหนื่อยยาก ลำบากกายเปล่าไม่อาจเป็นบุญกุศลได้ พระปาฏิโมกข์ ธุดงควัตรทั้งหลายที่ทรงบัญญัติแต่ตั้งไว้นั้น ก็เพื่อให้เป็น เครื่องระงับดับกิเลสตัณหา คือบริโภคทั้ง ๒ ถ้าระงับไม่ได้ ก็ไม่เป็นบุญเป็นกุศล ผู้ที่ทำความเข้าใจว่า พระปาฏิโมกข์ และธุดงควัตรจะช่วยยกตัวให้ขึ้นไปสวรรค์และพระนิพพาน เช่นนี้เป็นความเห็นของคนที่โง่เขลาเบาปัญญา จะไม่พ้น ทุกข์เลย บริโภคทั้ง ๒ นั้นได้ชื่อว่าปลิโพธ ๒ ที่แปลว่า ความกังวล การรักษาพระปาฏิโมกข์และธุดงควัตรก็เพื่อจะ ตัดปลิโพธความกังวลให้เบาบางลงได้เท่าใดก็เป็นบุญเป็น กุศลเป็นสวรรค์และพระนิพพานขึ้นไปเท่านั้น พระพุทธเจ้า ย่นโอวาทคำสั่งสอนลงสู่ปลิโพธ ๒ ว่าเป็นที่สุดโดยสิ้นเชิง คือว่านรกสวรรค์และพระนิพพานมีอยู่ที่ปลิโพธ ๒ ครบ บริบูรณ์ ผู้ศึกษาเล่าเรียนจะรู้มากรู้น้อยเท่าไรไม่นิยม รู้มาก หรือรู้น้อยถ้าระงับปลิโพธนั้นได้ก็เป็นดี จะอยู่วัดบ้านหรือ วัดป่าประการใดก็ตาม ถ้าระงับปลิโพธ ๒ นั้นได้ ย่อมเป็น ความดีความชอบทั้งสิ้น ถ้าระงับปลิโพธ ๒ นั้นไม่ได้ แม้ จะรู้มากมายและอยู่วัดบ้านวัดป่าประการใด ย่อมไม่ดีทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาเป็นใจความอย่างนี้ อันดับนั้น จึงตรัสเทศนาต่อไปอีกว่า อานนฺท ดูกรอานนท์ ธรรมนี้ ชื่อว่าพระยาธรรมมิกราช เพราะเป็นใหญ่กว่าธรรมทั้งหลาย ข้อที่เราตถาคตได้ตรัสไว้แล้วในธรรมหมวดนี้ คือได้ชี้นรก สวรรค์และพระนิพพาน กิเลสตัณหาโดยจะแจ้งสิ้นเชิง เมื่อผู้ใดได้ฟังแล้วปรารถนาสุขทุกข์ประการใด ก็จงเลือก ประพฤติตามความปรารถนา เมื่อพระพุทธเจ้าตรัส ฉะนี้ แล้ว จึงซ้ำตรัสอนุญาตปัจฉิมบรรพชาไว้แก่ข้าฯ อานนท์ อานนฺท ดูกรอานนท์ แม้ในปัจฉิมกาลเมื่อหาพระสงฆ์ ครบคณะบรรพชาไม่ได้ โดยที่สุดแม้ภิกษุองค์เดียว เมื่อ กุลบุตรมีศรัทธาเลื่อมใสในคุณแห่งเราตถาคต อยากจะบวช เป็นภิกษุในสำนักแห่งภิกษุองค์เดียว ก็จงบวชเถิด โดยที่ สุดลงไปอีก แม้จะหาภิกษุสักองค์เดียวไม่ได้ กุลบุตรผู้มี ศรัทธาใคร่จะบวชสืบศาสนาแห่งเราตถาคต ก็ให้ศึกษา จตุตถปาราชิก และบริโภค ๒ นั้นให้เข้าใจ แล้วเข้าสู่เฉพาะ พระพุทธรูปหรือพระสถูปหรือพระเจดีย์ หรือแม้หาที่ควร เคารพเช่นนั้นไม่ได้ ก็ให้ระลึกถึงเราตถาคตแล้วบวชเป็น ภิกษุเถิด ให้ตั้งใจสมาทานว่า อิมํ ปพฺพชฺชํ สมาทิยามิ. ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ. อิมํ ปพฺพชฺชํ สมาทิยามิ. แล้ว ให้สมาทานจตุตถปาราชิก ว่า ปฐมํ ปาราชิกํ สมาทิยามิ ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถํ ปาราชิกํ สมาทิยามิ. แล้วบวชเป็น ภิกษุเถิด ถ้าหากพระสงฆ์ยังมีอยู่อย่างน้อยเพียงองค์เดียว แล้วจะบวชโดยลำพังไม่ได้ ถ้าขืนบวชชื่อว่าดูถูกดูหมิ่น พระศาสนา เป็นบาปยิ่งนักอย่าทำเลย เมื่อบวชโดยวิธีนี้ ผู้ใดคัดค้านว่าไม่ควร จะเป็นบาปเป็นกรรมยิ่งนัก เราอนุญาต ไว้สำหรับคราวอันตรธานต่างหาก ข้าแต่พระมหากัสสปะ พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาแก่ข้าฯ อานนท์ดังนี้ ขอพระ อริยสงฆ์ทั้งหลายจงทราบด้วยพลญาณของตน โดยนัยดัง ข้าพเจ้าอานนท์แสดงมานี้เทอญ แล้วพระองค์ก็หยุดไม่ทรง ตรัสเทศนาอีกต่อไป ข้าพเจ้ากราบถวายบังคมแล้ว ก็กลับ ไปสู่สำนักท่านคิริมานนท์ แสดงสัญญาทั้ง ๒ ประการ คือ รูปสัญญา นามสัญญา ให้พระผู้เป็นเจ้าฟังโดยพุทธบริหาร ทุกประการ ท่านคิริมานนท์กำหนดตามพระธรรมเทศนา ก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล ในขณะที่วางธุระในรูปในนาม โรคภัยของท่านที่เจ็บปวดเวทนา ก็อันตรธานหายในขณะนั้น ข้าแต่พระมหากัสสปะผู้มีอายุ พระสูตรนี้จะได้ชื่อว่าพระยา ธรรมมิกสูตร ตามรับสั่งนั้นก็จะเสียนิมิตไป เพราะอาศัย พระผู้เป็นเจ้าคิริมานนท์เป็นนิมิต
    พระสูตรนี้พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาที่วัดเชตวนาราม ปรารภ พระคิริมานนท์เกิดอาพาธให้เป็นเหตุ จึงได้ชื่อว่า คิริมานนทสูตร มีเนื้อความดังแสดงมานี้แล.
     
  14. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ขออนุโมทนาสาธุการ กับคุณพัดชา ที่โอนปัจจัยมาร่วมสร้างพระ 10,000 บาท
    และ ขออนุโมทนาสาธุการกับคุณกันตพงศ์(น.ศ.ABAC) ที่โอนปัจจัยมาร่วมสร้างพระ 5,000 บาท พร้อมทั้งโทรมาให้กำลังใจคณะผู้สร้างพระ ครับ

    ขอขอบคุณ คุณพรสีวลี ที่โทรมาให้กำลังใจในการดำเนินงานและให้ข้อแนะนำในการแผ่บุญกุศล ในรูปแบบต่างๆ ขออนุโมทนาในกุศลจิตครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2006
  15. วิปจิตัญญู

    วิปจิตัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +850
    การทำบุญนั้นใช้ ศรัทธานำ ในเมื่อยังไม่ ทราบผลกรรมหรือไม่รู้จริง ก็ให้ กฏแห่งกรรมตัดสิน วางตัวเป็นกลาง อย่าเข้าไปยุ่ง ผมเองก็ไม่ทราบอะไรมาก ปวดหัว อย่าไปผูกกรรมเพิ่ม เลย

    ถึงจะน่าปวดหัว แต่ ปวดหัวเพื่อพระศาสนาขอ ทำตามศรัทธา ใช้ปัญญาพิจารณาแล้ว ถ้าเพื่อ พระศาสนาผมขอไม่ลังเล
    เมื่อผมบอกบุญมิตรธรรม กัลยาณมิตรใกล้ชิด และศรัทธาสาธุชน ครบเมื่อไหร่จะโอนให้ครับ คุณ อัญญาสิทธิ์

    ว่าแต่ งวดต่อไปรางวัล ที่ หนึ่ง แจ๊กพ็อตเลยมั้ยครับ มี ตั้ง 3 บัญชี(bb-flower
    057-2-23813-7
    001-2-95038-3
    101-8-24887-0


    คุณอัญญาสิทธิ์มีเบอร์มั้ยครับ ผมหาไม่เจอ ตาลาย ไว้ว่างๆ จะโทรไปสนทนาธรรมครับผม
     
  16. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    หลวงปู่ลมัย จ.เพชรบูรณ์ เมตตาลงอักขระให้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • X5.JPG
      X5.JPG
      ขนาดไฟล์:
      25.8 KB
      เปิดดู:
      57
    • X4.JPG
      X4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      32.7 KB
      เปิดดู:
      45
    • X6.JPG
      X6.JPG
      ขนาดไฟล์:
      22.3 KB
      เปิดดู:
      45
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2006
  17. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ความบริสุทธิ์แห่งการสร้างบุญกุศล ลองวางจิตให้ได้แบบหนูน้อยคนนี้ ก็น่าจะดีนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • X1.JPG
      X1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      27.5 KB
      เปิดดู:
      33
    • X2.JPG
      X2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      26.7 KB
      เปิดดู:
      37
    • X3.JPG
      X3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      25.5 KB
      เปิดดู:
      40
  18. ~Maya~

    ~Maya~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +114
    ดิฉันชื่อพัดชาค่ะ คุณอัญญาสิทธิ์
    ขอประทานโทษที่อาจโทรบอกชื่อไว้ไม่ชัดเจน
     
  19. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    หลวงพ่อพระมหาถาวร วัดปทุมวนาราม เมตตาลงอักขระ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y2.JPG
      Y2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      33.5 KB
      เปิดดู:
      50
    • Y1.JPG
      Y1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      42
  20. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ขอบคุณครับคุณพัดชา ผมแก้ไขชื่อให้แล้วครับ อนุโมทนาในกุศลจิตครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...