เวรกรรมของการพยากรณ์

หาก เรื่องที่พยากรณ์เป็นจริง ตัวอย่างเช่น อีก 3 วัน พายุจะถล่ม
ความเสียหายย่อมเิกิดขึ้นน่ะที่นั่น ใครที่พยากรณ์แม้นจะเกิดจริงหรือไม่ก็ตาม
ผู้นั้น ได้สร้างบาปไว้แล้ว คือ สร้างความวิตกกังวล นาๆประการแก่ผู้อ่าน
ฉะนั้นพึงสำรวมวาจาและการแสดงความคิดเห็นในการพยากรณ์...

 

แต่สำหรับผมแล้วคิดว่าเป็นการดีนะครับ อยู่ที่เจตนามากกว่านะครับ
และก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่รับฟังด้วย

 

ครับ ผมก็คิดเช่นนั้น....อาจจะมีบาปเกิดขึ้นบ้างเรื่องกังวล แต่บุญที่เกิดขึ้นมากกว่าครับ เช่นบอกว่าจะเกิดภัย แล้วคนที่ทราบตั้งใจกระทำดีเพื่อให้ผลบุญช่วยลดทอนภัย นี่ก็เป็นบุญครับ.....

 

นั่นนะสิไม่ค่อยเห็นด้วยเลยที่ว่าการพยากรณ์เตือนภัยเป็นบาป น่าจะเป็นผลดีมากกว่า อย่างน้อยเกิดมีเหตุการณืขึ้นจริงจะได้ป้องกันหรือหาทางเตรียมรับมือได้ทันท่วงที คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนสินามิที่เกิดที่เมืองไทยอีกนะค่ะ

 

ใช้สติพิจารณาให้มากขึ้นในทุกกรณีนะครับ
โลกเราเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างสังเกได้ชัดจริงๆ
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ บางอย่างก้แปลกไป
แต่เราก็ต้องพึงใช้สติครองชีวิต ดีที่สุดครับ
เพราะปัญหาที่ตามมา แทนที่จะหนักก็เบาลงได้บ้าง
พอให้หายใจได้

 

อนิจัง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

 

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่างเดียวที่ควรมีคือ "สติ" ไม่ควรประมาทในเรื่องของธรรมชาติหรือตื่นกลัวจนเกิดไป เพราะธรรมชาติเริ่มเอาคืนกับผู้ที่ทำร้ายธรรมชาติแล้ว

 

ทุกสิ่ง ย่อม เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่าได้ใส่ใจเลย

 

เตือนก็ดีเพราะคนไทยมักจะเชื่อไปหมด ไม่ค่อยมีสติ ขูดหวย หาเลขกันไป
ไม่ใช้วิจารณญาณว่าอันไหนจริงอันไหนไม่จริง

 

การพยากรณ์ ก็คือการคาดการณ์เท่านั้น ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด จึงควรรับฟังแบบมีสติ เลือกสรรค์เอาเอง

 

การแสดงเจตนาในเชิงเตือน ให้ระมัดระว้ง การเตรียมพร้อม หากเป็นบาป ก็คงเป็นบาปที่เห็นแก่ส่วนใหญ่ ให้เกิดการตื่นตัว มีการเตรียมพร้อม ระวังระไว มากกว่าสร้างความตื่นตระหนกแบบไม่มีเหตุผล เพราะเงื่อนไขในการเตือน เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ย่อมส่งผลบุญในชั้นหลัง อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัว เห็นด้วยหรือไม่คงไม่ว่าอะไร แต่เจตจำนงค์คงมีอยูสวนเดียวคือ ให้เตรียมพร้อม อยู่ด้วยความไม่ประมาท ดังที่พระพุทธองค์เคยสอนไว้ นะแหละครับ

 

การพยากรณ์คือพยากรณ์ คือคาดว่า.... ตราบใดที่ไม่มีเหตุผลอื่นอย่างโหรอยากดัง การพูดเพื่อเตือนสติให้มนุษย์ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท มีสติและเคารพธรรมชาติผู้ให้ โลกย่อมบังเกิดสันติสุข อย่างไรก็ดี คนไทยสบายใจได้ เมืองไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายพระองค์ดูแลอยู่ อะไรที่น่าจะเกิดน่าจะแย่ไปกว่านั้นก็ไม่เกิด เนื่องด้วยเมืองไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนา เทวดาในพระพุทธศาสนาทุกท่านช่วยกันเต็มที่ให้อยู่รอดปลอดภัย เสียหายย่อมมีแต่ไม่ใช่พินาศย่อยยับผู้คนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า อันนี้กายทิพย์ปู่ฤาษีท่านหนึ่งซึ่งทางบ้านของดิฉันให้ความนับถือท่านมากท่านมาบอก ท่านไม่อยากให้กังวลจนเกินไป อย่างกรุงเทพฯจมอยู่ใต้น้ำ เป็นเมืองบาดาลไปซะนั่น ก็จะไม่เป็นถึงขั้นนั้นตามที่หลายคนทำนายทั้งนักวิทยาศาสตร์และโหราจารย์ ลิขิตสวรรค์ตามบาปกรรมของมนุษย์ที่กระทำไว้ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ตราบใดมนุษย์ตั้งมั่นในธรรมและหมั่นทำบุญทำกุศล ธรรมจะตามรักษาท่าน